คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตอนที่ 1
ณ.บ้านตระกูลนิชิคิโนะ โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น
ภายนอกบ้านที่กว้างใหญ่ดูเงียบสงบกว่าทุกๆวัน เพราะทุกคนต่างมารวมกันดูการประลองเคนโด้กันเสียหมด เสียงดาบไม้กระทบกันอย่างดุเดือน ทั้งสองฝ่ายพลัดกันรุกผลัดกันรับอย่างไม่มีใครยอมใคร จนหมดเวลาในที่สุด ทั้งสองฝ่ายทำความเคารพกันก่อนที่กรรมการจะตัดสิน ฝ่ายที่ชนะที่ฝ่ายสีดำ ทั้งคู่ถอดหมวกออกก่อนจะเดินเข้าไปพูดคุยกัน
“เก่งมากน้องชาย ฉันไม่เคยชนะนายสักที” ปริญพูดพลางปรบบ่าน้องชายตัวเองเบาๆ
“ไม่ขนาดนั้นหรอก ถ้าเป็นยูโดเล็กคนสู้พี่ไม่ได้แน่ๆ” ธีรเดชถ่อมตัวเล็กน้อย แต่เพราะสิ่งที่เขาพูดคือเรื่องจริง ใครๆก็รู้ว่าพี่ชายต่างมารดาคนนี้ของเขานั้นเก่งยูโดมากแค่ไหน ไม่มีใครสามารถล้มพี่ชายเขาได้สักคน ส่วนเคนโด้นั้นผู้เป็นพ่อบังคับให้เขาทั้งคู่เรียน แต่พี่ชายตัวดีดันชอบแอบไปฝึกซ้อมยูโดอยู่เสมอ จึงไม่แปลกอะไรที่เขาจะเก่งเคนโด้กว่าปริญ
“คุณหนูคะ โซเรียวให้มาตามไปพบค่ะ” สาวใช้เดินเข้ามาตามคำสั่งของโซเรียวหรือผู้เป็นพ่อของธีรเดชและปริญ ทั้งคู่พนักหน้าก่อนจะแยกย้ายกันไปล้างเนื้อล้างตัวเพื่อเข้าไปพบผู้เป็นพ่อ
ณ.ห้องทำงานของนิชิคิโนะโซเรียว
ชายสูงอายุกำลังนั่งดูรูปเด็กชายวัย10ขวบทั้งสองแต่กายในชุดยูกาตะ ก่อนที่จะมองรูปถัดมารูปของโอคามิซังและโอะคุซังในชุดกิโมโนที่อยู่ขนาบข้างกายของเขา รอยยิ้มของทั้งคู่เป็นรอยยิ้มที่สวยมาก เขายังจำรอยยิ้มนี้ได้ดี ถึงแม้ตอนนี้เขาจะไม่ได้อยู่กับเธอผู้เป็นที่รักทั้งสองแล้ว เนื่องจากเหตุการณ์รอบทำร้ายเมื่อ15ปีก่อน ทำให้เขาตัดสินใจให้ภรรยาทั้งสองและลูกชายทั้งสองหลบไปอยู่ประเทศไทย โดยประกาศออกไปในคนรู้ทั่วกันว่าทั้ง4ตายแล้วหลังจากอุบัติเหตุรถคว่ำ
เสียงประตูถูกเลื่อนออกอย่าช้าๆ "โซเรียวคะ คุณหนูมาแล้วค่ะ" สาวใช้หน้าประตูบอก เขาละสายตาจากรูปภาพ "ให้เข้ามาได้เลย"
ธีรเดชและปริญเดินเข้ามาในห้องก่อนที่ประตูจะถูกเลื่อนให้ปิดลง
“คุณพ่อเรียกพวกเราสองคนมามีอะไรสำคัญหรือเปล่าครับ” คนพี่อย่างปริญเอ่ยถามผู้เป็นพ่อ
“พรุ่งนี้พวกแกก็จะกลับเมืองไทยกันแล้วใช่ไหม” ธีรเดชและปริญพยักหน้าเบาๆ “ตอนนี้ฉันก็อายุมากแล้ว ต่อไปก็คงดูแลพวกลูกน้องในตระกูลไม่ไหว ฉันเลยเรียกว่าแกมาเพื่อจะบอกว่าใครคือผู้สืบทอดตระกูลต่อจากฉัน...”
“คุณพ่อไม่เห็นต้องเสียเวลาเรียกผมมาเลยนี่ครับ เพราะยังไงผู้สืบทอดของตระกูลก็จะต้องเป็นลูกชายคนโตอยู่แล้ว” ธีรเดชเอ่ย
“ใช่” ผู้เป็นพ่อตอบ ธีรเดชยิ้มเยาะไปทางพี่ชายตัวเอง เขาไม่ชอบเรื่องธุรกิจอยู่แล้วจึงดีใจมาก “แต่ฉันอยากให้แกเป็นคนสืบทอดมากกว่า” เมื่อได้ยินเช่นนั้นธีรเดชถึงกับหันมองมาผู้เป็นพ่อด้วยความสงสัย เขาไม่ใช่ลูกรักของพ่อ ไม่ว่าพ่อจะสั่งอะไรเขาทำตรงข้ามทุกอย่างมาเสมอ แล้วทำไมวันนี้นาทีนี้พ่อของเขาถึงพูดแบบนี้
“ทำไม...”
“แกไม่ต้องสงสัย ฉันคิดมาดีแล้ว แกนั่นแหละเหมาะสมที่สุด แกหัวแข็งไม่ยอมใครง่ายๆ แถมแกจะเก่งการต่อสู้แทบทุกอย่าง ฉันเชื่อว่าแกต้องดูแลตระกูลของเราต่อไปได้” ผู้เป็นพ่อเอ่ยการที่เขาจะตั้งคำถาม แน่นอนมันไม่ใช่คำตอบที่เขาต้องการ เพราะเขาไม่อยากปวดหัวและใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวงแบบผู้เป็นพ่อ เขาจึงรีบปฏิเสธทันทีก่อนจะตัดสินใจหันหลังเดินออกจากห้อง
“เดี๋ยวก่อนเล็ก” ปริญเรียกไว้ “พี่รู้ว่านายไม่ชอบที่พ่อตัดสินใจแบบนี้ งั้นเรามาแข่งกัน” ธีรเดชหันหลังกลับมาฟังข้อเสนอของพี่ชายตัวเอง “การเป็นโซเรียวที่ดีไม่ใช่แค่ต้องดูแลลูกน้องได้ดี แต่ยังจะต้องเลือกคู่ครองที่ดีและเหมาะสมอีกด้วย จึงต้องใช้เวลานานพอสมควรกว่าจะเลือกคู่ครองได้ ใช่ไหมครับพ่อ” ผู้เป็นพ่อพยักหน้าเล็กน้อย “งั้นเรามาแข่งกัน ใครที่แต่งงานก่อนคนนั้นชนะ นายตกลงไหม”
ธีรเดชชั่งใจอยู่สักครู่ เขามองผู้เป็นพ่อสลับกับพี่ชาย ก่อนจะยิ้มที่มุมปากนิดๆ เกมส์นี้เขาต้องชนะแน่ๆ เพราะพี่ชายของเขาอายุก็เกือบจะ30แล้ว แต่ก็ไม่เห็นมีแฟนหรือสาวมาพัวพันสักที
“ได้ ผมชนะพี่แน่ พี่หมาก” เขายิ้มอย่างสบายใจก่อนจะเดินออกจากห้องไป โดยไม่ได้รู้เลยว่ามีอีกสองรอยยิ้มที่กำลังยิ้มเยาะในความซื่อของเขาอยู่
ณ.คอนโดหรูใจกลางกรุงเทพมหานคร
หญิงสาวแสนสวยกำลังแช่น้ำอยู่ในอ่างของเธอ เธอรู้สึกผ่อนคลายและสบายทุกครั้งที่ได้นอนแช่น้ำนมอยู่ในอ่างนี้ เพราะนี่คือวิธีเดียวที่เธอรู้สึกผ่อนคลายมากที่สุดครั้งจากทำงานเหน็ดเหนื่อยมาทั้งวัน เธอดำดิ่งอยู่ในภวังค์แห่งความสุข
‘ตรึ้ง...’ เสียงแจ้งเตือนอีเมลเข้าทำให้หญิงสาวหลุดจากภวังค์ หญิงสาวรีบลุกไปสวมชุดคลุมก่อนจะตรงดิ่งไปยังหน้าจอ mac book ที่วางอยู่บนเตียงนอน ‘บุรุษนิรนาม’ เธอแทบไม่ต้องสงสัยเลยว่าเป็นเมลจากใคร แน่นอนเพราะเวลานี้สามทุ่มเศษของทุกๆวัน บุรุษนิรนามจะส่งเมลมาหาเธอเป็นประจำ
หากย้อนกลับไปเมื่อเกือบสามปีที่แล้ว วันนั้นเป็นวันที่เธอเหนื่อยมาก เพราะจะต้องไปถ่ายรายการในช่วงเช้า ตอนบ่ายต้องเข้าออฟฟิตไปประชุมเรื่องปกต่อไปจะนำเสนอเรื่องอะไร แถมช่วงเย็นจะต้องไปเดินแบบอีก วันนี้ทั้งวันเธอยังไม่ได้พักด้วยซ้ำ แต่แล้วก็มีเมลฉบับหนึ่งจากบุรุษนิรนามเข้ามาครั้งแรก
‘สวัสดีครับคุณรินลณี ผมรู้ว่าคุณจะต้องสงสัยเป็นอย่างมากว่าผมคือใคร คุณไม่ต้องรู้หลอกว่าผมคือใคร ผมแค่เป็นคนที่สนใจในความเป็นไปของคุณก็เท่านั้นเอง ไม่ต้องกลัวผมนะครับ ผมไม่ใช่พวกแฟนคลับโรคจิตแน่นอน ผมแค่อยากคุยกับคุณ ให้คำปรึกษาและให้กำลังใจคุณ วันนี้คุณคงเหนื่อยมามากแล้ว ชาร้อนหน้าห้องจะช่วยให้คุณผ่อนคลายและหลับสบายขึ้นนะครับ
บุรุษนิรนาม’
หญิงสาวอ่านแล้วรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก แน่นอนว่านางร้ายอย่างเธอไม่ค่อยจะมีแฟนคลับสักเท่าไหร่และยิ่งวัยสามสิบกว่าแล้วด้วยยิ่งแทบจะหาตัวแฟนคลับไม่เจอ ถึงแม้เธอจะเป็นนาร้ายแถวหน้าก็ตาม แต่ใครล่ะจะชอบนางร้ายอย่างเธอ หญิงสาวเดินไปเปิดประตูหน้าห้องก็พบกับถ้วยชา1ถ้วยวางอยู่บนรถเข็นเสิร์ฟอาหารของทางคอนโดพร้อมดอกกุหลาบขาว1ดอกอยู่ข้างๆ เธอกล้าๆกลัวๆมองรอบๆเจอกระดาษโน้ตอยู่แผ่นหนึ่ง ‘ไม่ต้องกลัวครับ ผมไม่วางยาคุณหลอก ดอกกุหลาบขาวบริสุทธิ์แทนมิตรภาพของเราครับ ฝันดีครับ ...บุรุษนิรนาม’ เมื่อเห็นเช่นนี้เธอจึงตัดสินใจหยิบชาถ้วยนั้นพร้อมดอกกุหลาบเข้าห้องไป และหลังจากวันนั้นทุกๆเธอจะได้รับอีเมลจากบุรุษนิรนามวันละ2ฉบับ คือตอนเช้าก่อนไปทำงานและสามทุ่มเศษๆแบบนี้ แถมทุกครั้งก่อนที่เธอจะเข้าห้องจะมีดอกกุหลาบสีขาวมาห้องไว้ที่ประตูเสมอ
เธอนึกแล้วอดยิ้มไม่ได้ เพราะนอกจากครอบครัวและพี่น้องที่สนิทในวงการนั้นก็มีบุรุษนิรนามเนี่ยแหละที่คอยให้กำลังใจเธอมาเสมอ เธอกดอ่านเมลนั้นทันที
‘กุหลาบดอกที่909 สวัสดีค่ำคืนที่แสนอบอุ่น ผมถ่ายรูปดอกซากุระที่กำลังผลิบานมาฝากคุณด้วย ผมอยากให้คุณมาเห็นกับตาจริงๆเวลาที่มันเริ่มผลิดอกนั้นสวยงามจริงๆ วันนี้อากาศที่นี่กำลังดี ถ้าคุณมาญี่ปุ่นช่วงนี้คงจะต้องมีความสุขแน่ๆ พรุ่งนี้ผมจะเดินทางกลับไทยแล้ว เสียดายที่ถ่ายรูปมาฝากคุณได้เพียงนิดเดียว แล้วคุณเป็นยังไงบ้างครับ ฝันดีครับ
บุรุษนิรนาม’
เธออดยิ้มเล็กน้อยกับการที่เขาชอบถ่ายรูปตามสถานที่ต่างๆที่เขาไปมาให้เธอดูและเขาชอบไปญี่ปุ่นเสียเหลือเกิน จนเธอไม่ต้องไปก็สามารถตอบได้หมดว่าญี่ปุ่นในช่วงนี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ก่อนจะตอบเมลเขากลับไป มันเหมือนเป็นกิจวัตรประจำวันของเธอไปเสียแล้วที่จะต้องคอยมานั่งตอบเมลบุรุษนิรนามทุกๆวัน เธอเล่าทั้งเรื่องที่ท้อใจ ไม่สบายใจ มีความสุขให้เขาฟัง โดยที่ไม่ตะขิดตะขวนในเลยแม้แต่นิดเดียว
“คุณเป็นใครกันแน่นะ บุรุษนิรนาม” เธอตั้งคำถามนี้กับตัวเองซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนจะเปิด mac book เครื่องสวยลง
อีกด้านหนึ่ง บุรุษนิรนามกำลังอ่านเมลของหญิงสาวที่ตอบกลับมาด้วยรอยยิ้มที่สุขหัวใจ
‘มิตรภาพที่909 สวัสดีค่ะคุณบุรุษนิรนาม มาตรงเวลาเหมือนเดิมทุกวันไม่เปลี่ยนเลยนะคะ ดอกซากุระสวยมากเลย ฉันตั้งใจว่าปีหน้าจะพาครอบครัวไปเที่ยวญี่ปุ่นให้ได้ ตอนนั้นฉันจะมาขอคำแนะนำจากคุณนะคะ วันนี้ไปถ่ายรายการมาสนุกมากค่ะ พี่ๆทีมงามทุกคนดูแลดีเหมือนเดิม อาหารก็อร่อยมากเลยค่ะ น่าเสียดายที่มันอร่อยมากจนฉันไม่มีเวลาจะถ่ายมาให้คุณดู เพราะต้องรีบแย่งเต๋อกิน555 ขอให้เดินทางปลอดภัยนะคะ ฝันดีค่ะ
รินลณี’
บุรุษนิรนามยิ้มแล้วปิดแท็บเลตลง เขามองทอดออกไปทางนอกหน้าต่างอย่างมีความสุข พลางนึกถึงหน้าของหญิงสาวที่เขาพึ่งจะอ่านเมลไปเมื่อครู่ ‘รินลณี...นางร้ายที่รักของผม’ เขานึกในใจ
ความคิดเห็น