ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    นางร้ายที่(น่า)รัก

    ลำดับตอนที่ #10 : ตอนที่ 9

    • อัปเดตล่าสุด 19 ก.พ. 58


    คอนเซปตามที่บรีฟมาก็มีเท่านี้แหละค่ะบก.เสียงหัวหน้าทีมครีเอทีฟเอ่ยขึ้น รินลณีพยักหน้าเห็นด้วย

    ส่วนทางด้านนายแบบไม่มีปัญหาค่ะเลขาสาวของเธอเอ่ย ส่วนนางแบบ...

    ขอโทษครับทุกคนมองไปตามต้นเสียงที่พึ่งย่างเท้าเข้าห้องประชุม

    ทำไมมาเอาป่านนี้ห้ะพีท นายเป็นผู้ช่วยฉันนะรินลณีโหยผู้ช่วยตัวดีของเธอ พีรภัทรหรือพีท ผู้ช่วยที่รู้ใจที่สุดของเธอได้แต่ทำหน้าแหยๆแล้วรีบเดินไปนั่งข้างๆเธอทันที รินลณีส่ายหน้าเบาๆก่อนจะหันมาสนใจการประชุมต่อ สรุปเรื่องนางแบบว่ายังไง

    คือ...เลขาสาวของเธออ้ำอึ้ง ทุกคนในห้องประชุมก็มีท่าทีไม่ต่างกัน

    อะไร ทำไมเงียบกันหมดรินลณีปลายตามองทุกคน ตอบ!” ทุกคนยังไม่ทันตอบอะไรเธอ เสียงโทรศัพท์ส่วนตัวของพีรภัทรก็ดังขึ้น เขารีบกดรับสายทันทีเมื่อเห็นว่าคนที่โทรเข้ามาคือบอสของเขานั่นเอง

    ครับบอส...อ๋อ...ได้ครับๆผมจะบอกบก.ให้ครับเขากดวางสายก่อนจะหันไปสบตากับคนที่ถูกเอ่ยชื่อถึง บอสโทรมาบอกครับว่าอยากให้บก.เป็นนางแบบของปกนี้เองรินลณีทำหน้าสงสัยเล็กน้อยแต่ก็ต้องทำตามอย่างปฏิเสธไม่ได้

    การประชุมจบลงโดยใช้เวลาไม่นาน เนื่องจากพนักงานทุกคนทำงานเป็นทีมเวิร์คที่ดีและคิดแบบแผนงานอย่างละเอียดรอบคอบ เพราะไม่อยากจะถูกรินลณีสั่งแก้งานใหม่หลายๆรอบ การที่โดนรินลณีสั่งแก้งานเหมือนการตกนรกทั้งเป็นเพราะในสายตาของพนักงานเจ้านายสาวคนนี้ทั้งเนียบและเฮียบเกินอะไรดี เธอจะบ่นพวกเขาจนหูชาจนกว่าจะแก้งานออกมาได้ตรงตามใจของเธอ

    รินลณีเดินออกจากห้องประชุมพร้อมๆกับพีรภัทรผู้ช่วยของเธอ เขากำลังก้มหน้าก้มตาอ่านตารางงานของเธอทั้งหมดที่จะต้องทำในอาทิตย์นี้ เธอเดินฟังมาเรื่อยๆจนเกือบถึงห้องทำงาน แต่ก็ต้องหยุดชะงักเพราะพนักงานทั้งหลายมายืนมุงดูอะไรก็ไม่รู้ขวางทางเธอ รินลณีมองนาฬิกาข้อมือของตัวเองพบว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลาพักแล้วทำไมพนักงานของเธอถึงไม่ตั้งใจทำงาน สีหน้าของเธอดูไม่พอใจเป็นอย่างมากจนพีรภัทรรีบเข้าไปจัดการเหล่าพนักงานทั้งหลาย

    ท่ามกลางเหล่าพนักงานทั้งหลายที่กำลังแยกตัวออกมาทำหน้าเจื่อนๆ เพราะเห็นสายตาของบก.สาวที่ดูจะเอาเรื่องอยู่ไม่ใช่น้อย แต่สายตานั้นก็ต้องเปลี่ยนไป เพราะชายหนุ่มที่ยืนอยู่กลางวงนั้นส่งยิ้มมาให้เธอ

    มาทำไมรินลณีโผงถามออกไปด้วยความสงสัยจนลืมไปว่ามีคนอื่นจับจ้องอยู่

    มารับแฟนไปทานข้าวไงครับธีรเดชเดินเข้ามาประจันหน้าเธอ คิดถึงชายหนุ่มยิ้มให้เธอ บรรดาพนักงานทั้งหลายต่างโห่ร้องแซวทั้งคู่ รินลณีที่ยืนหน้าร้อนผ่าวอยู่ถึงกับทำอะไรไม่ถูก แต่ชั่ววูบสติของเธอก็กลับมา

    ไม่มีการมีงานทำกันหรือไงฮะ หรืออยากถูกไล่ออก...เธอปลายตามอง ไปทำงาน!” สิ้นเสียงของเธอ พนักงานทั้งหลายต่างแยกย้ายไปทำงาน เธอหันมามองคนตรงหน้าก่อนจะรีบลากเขาเข้าห้องทำงานของเธอไป

    ร้านอาหารญี่ปุ่นหรูใจกลางเมืองซึ่งอยู่ไม่ไกลนักจากออฟฟิตของรินลณี หญิงสาวนั่งหน้ามุ้ยเพราะถูกธีรเดชบังคับให้ออกมาทานอาหารกินเขา ซึ่งเขาที่ดูจะมีความสุขซะเหลือเกินกับการสั่งโน่นสั่งนี่โดยไม่ได้สนใจเลยว่าเธอนั้นจะชอบหรือเปล่า

    จอยยยยยยยเสียงเรียกที่คุ้นหูดังเข้ามาในโสตประสาทของเธอ รินลณีหันไปมองก่อนจะเห็นร่างของสุนิสาที่เดินเคียงข้างมากับชาตโยดม เธอรีบโบกมือให้ทันที สุนิสาเดินมานั่งข้างๆรินลณี แหม...ทำไมวันนี้ออกมากินข้าวข้างนอกได้ล่ะ ทีกี้ชวนนะไม่เคยมา

    นั่นน่ะซิ เวลานี้น้องสาวพี่จะต้องนั่งอยู่ที่ออฟฟิตไม่ใช่หรอชาตโยดมเสริม

    ก็น้องชายสุดที่รักของพี่ชายไปลากตัวจอยมาเนี่ย จอยยังทำงานไม่เสร็จแล้วด้วยซ้ำเธอทำหน้าไม่พอใจ

    ไม่นานนักอาหารทั้งหลายก็ยกมาเสิร์ฟ ทั้ง4กินไปหัวเราะไปอย่างมีความสุข จะว่ามีความสุขทั้งหมดก็คงไม่ใช่ เพราะรินลณีนั้นไม่มีความสุขเอาเสียเลยที่อีก3คนรุมกันแกล้งเธอไม่หยุด เมื่อทานอาหารเสร็จทั้งหมดก็ต่างพากันแยกย้าย ธีรเดชและรินลณีเดินเคียงคู่กันไปเรื่อยๆจนเกือบถึงที่จอดรถ สักพักเสียงโทรศัพท์ของฝ่ายชายก็ดังขึ้น เขากดรับและพูดคุยสั้นๆจนคนข้างๆสงสัย

    เอ่อ...พอดีผมมีธุระด่วนต้องรีบไปทำ คงขับรถไปส่งคุณไม่ได้แล้วเขายื่นกุญแจรถคืนเธอ คุณขับกลับเองได้ใช่มั้ย

    ได้ นายรีบไม่ใช่หรอ ไปเถอะทั้งคู่บอกลากัน ธีรเดชรีบกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปทันที รินลณีมองตามเขาสักพักก่อนจะยกนาฬิกาข้อมือดู ตอนนี้เป็นเวลาบ่ายกว่าแล้ว เธอตัดสินใจกดโทรศัพท์โทรหาเลขาของเธอ ฮัลโหลบ่ายนี้ฉันไม่เข้าออฟฟิตแล้วนะ ถ้ามีงานอะไรสำคัญก็ให้พีทจัดการไปเลยเธอกดวางสาย ไปซื้อของเลยดีกว่าเธอเดินกลับเข้าไปในห้างอีกครั้ง

    ตกเย็นรถคันสวยของรินลณีเลื่อนมาจอดที่คอนโดของเธอ เธอหันมาหยิบข้าวของมากมายที่พึ่งจะไปเลือกซื้อมาก่อนหน้านี้ หญิงสาวใช้แรงทั้งหมดในการหิ้วของพลุงพลังเข้าคอนโดไป หากใครมาเห็นเธอตอนนี้คงคิดว่าเธอพึ่งย้ายเข้ามาแหงๆ เธอขึ้นลิฟต์ไปยังชั้นของห้องตัวเอง และรีบเดินไปยังห้อง...ห้องที่ถัดจากเธอไป ใช่...ห้องของธีรเดช วันนี้ไม่รู้ทำไมเธอถึงไปเลือกซื้อของที่จะมาทำอาหารให้เขาเอง เธอกดกริ่งที่หน้าประตูห้องของธีรเดชและยืนรอ แต่เมื่อยืนรออยู่นานมากก็ไม่มีคนมาเปิด หญิงสาวมองนาฬิกาก็พบว่าเลยเวลานัดมาพอสมควรแล้ว เธอจึงวางข้าวของทุกอย่างลงและหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ห้องจอแจ้งเตือนสายที่ไม่ได้รับจากธีรเดชและไลน์จากเขา เธอรีบกดเข้าไปดูทันที

    เย็นนี้ผมคงกลับไปกินข้าวฝีมือคุณไม่ทัน ขอโทษด้วยนะข้อความจาดเขาเมื่อชั่วโมงก่อนหน้านี้

    อะไรเนี่ยเธอบ่นกับข้อความนั้นเล็กน้อยก่อนจะเดินกลับไปหยิบดอกกุหลาบที่หน้าห้องตัวเองแล้วเดินเข้าห้องไป โดยทิ้งข้าวของทั้งหมดไว้หน้าห้องชายหนุ่ม

    หลังจากส่งเมลหารินลณี ชายหนุ่มรีบขับรถตรงดิ่งกลับมายังคอนโด วันนี้จู่ๆก็มีงานเข้าเขาจนตั้งตัวไม่ทันตั้ง2งานติด กว่าจะเคลียร์เสร็จก็ค่ำมืดเสียแล้ว และที่เขาหงุดหงิดใจคือไม่สามารถติดต่อรินลณีได้เลย รู้แต่เพียงเธอได้อ่านข้อความที่เขาส่งให้แล้วเท่านั้น เขารีบตรงดิ่งไปยังห้องของเธอแต่ก็ไม่กล้าที่จะกดกริ่ง เขาจึงเดินเลยไปยังห้องตัวเอง ตรึ้งงง เสียงแจ้งเตือนเมลบุรุษนิรนามดังขึ้น เขารีบเปิดอ่านข้อความทันที เขาเดินอ่านมาเรื่อยๆจนมาสะดุดกับข้าวของที่วางเต็มหน้าห้อง เขาก้มมองก็พบว่าคืออุปกรณ์ทำอาหาร เขาละสายตามาอ่านเมลต่อ

    ...วันนี้รู้สึกเหนื่อยฟรีกับการเดินซื้อของหลายๆชั่วโมง สุดท้ายก็ต้องทิ้งปล่อย เมื้อยก็แสนจะเมื้อย ขอให้หลับฝันดีนะคะ

    รินลณี

    ธีรเดชมองย้อนกลับไปยังทางที่เดินผ่านมา เขารู้สึกผิดกับการผิดนัดเธอวันนี้ เขาอยากจะขอโทษแต่ก็ทำได้เพียงพูดในใจ เขาก้มลงหยิบข้าวของทั้งหมดก่อนจะเดินเข้าห้องไป

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×