คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : ตอนที่ 1 : แรกพบ
ณ.สวนสาธารณะในยามเช้าที่แดดอุ่นๆกำลังสาดส่อง ชายหนุ่มเดินมานั่งรอหญิงสาวที่เขานัดไว้ด้วยสีหน้ายิ้มแย้มสดใส ในมือของเขามีดอกกุหลาบสีแดงสดที่เธอชอบติดมือมาด้วยอย่างเคย เขามองหาร่างบางของเธอผลัดกับมองดอกไม้ในมือ เขาล้วงไปหยิบแหวนเพชรวงเล็กออกมาจากกระเป๋าเสื้อ วันนี้เขาตั้งใจที่จะขอหญิงสาวแต่งงานหลังจากคบกันมากว่า 4 ปี เวลาผ่านไปชั่วครู่ร่างบางที่เขารอคอยก็มาถึง ชายหนุ่มเผยยิ้มสดใสออกมาก่อนจะเดินเข้าไปหาเธอ
“รอนานไหม” หญิงสาวถาม
“นานแค่ไหนเค้าก็รอตัวเองได้” ชายหนุ่มยิ้มอย่างจริงใจ เขาซ่อนดอกกุหลาบที่ผูกแหวนที่ไว้ด้านหลัง “คือว่า...”
“เราเลิกกันเถอะ” คำพูดของหญิงสาวทำให้เขาต้องชะงัก
“ทะ...ทำไมล่ะ” เสียงของเขาสั่นเครืออย่างเห็นได้ชัด
“ขอโทษนะ” อีกฝ่ายเลี่ยงที่จะตอบคำถามของเขาและเดินจากเขาไปโดยไม่หันกลับมามองเขาอีก
น้ำตาของลูกผู้ชายค่อยๆไหลรินลงมาอาบหน้า เขาก้มหน้าลงมองดอกกุหลาบในมือแล้วกำมันแน่นจนหนามที่ยังหลงเหลืออยู่เล็กน้อยตำมือของเขาเลือด เลือดของเขาค่อยๆไหลมาอาบแหวนเพชรวงสวย ชายหนุ่มปล่อยดอกกุหลาบในมือทิ้ง เขาปาดน้ำตาเล็กน้อยก่อนจะเดินเหยียบดอกกุหลาบดอกนั้นไป...
.
.
.
“คุณคะ...คุณ...” เสียงของใครบางคนปลุกเขาในตื่นจากฝันร้าย ชายหนุ่มค่อยๆกระพริบตาถี่เพื่อปรับภาพตรงหน้าให้ชัด ที่แท้ก็เป็นแอร์โฮสเตสนี่เองที่ปลุกเขาให้ตื่น “ถึงสนามบินแล้วนะคะ” ชายหนุ่มมองไปรอบๆก็ไม่เห็นใครบนเครื่องแล้วนอกจากเขา
“ขอโทษด้วยครับ” เขาเอ่ยขอโทษกับแอร์โฮสเตสก่อนจะรีบลุกไปหยิบสัมภาระ แต่ผ้าเช็ดหน้าที่วางอยู่บนตักเขาก็หล่นลงเสียก่อน เขาก้มลงไปหยิบมาดู “เอ่อ...ขอโทษนะครับ” เขาเรียกแอร์โฮสเตสที่กำลังจะเดินจากไปไว้
“คะ...”
“พอจะทราบไหมครับว่านี่ผ้าเช็ดหน้าของใคร” เขายื่นผ้าเช็ดหน้าในมือให้แอร์โฮสเตสดู แอร์โฮสเตสรับไปพลิกดูเล็กน้อยก่อนจะยื่นคือเขา
“น่าจะเป็นของคุณผู้หญิงที่นั่งข้างคุณนะคะ ดิฉันเห็นเขาหยิบมาเช็ดหน้าให้คุณ เหมือนว่าจะชื่อรินลณีนะคะ เห็นที่ผ้าปักไว้แบบนั้น”
“ขอบคุณมากครับ” เขาเอ่ยขอบคุณแอร์โฮสเตสก่อนจะหยิบสัมภาระแล้วเดินลงจากเครื่อง
ชายหนุ่มเดินออกมาจากเกต เขามองไปรอบๆ นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้กลับมาประเทศไทย ทุกๆอย่างเปลี่ยนไปจนเขาแทบจำไม่ได้ ทั้งสถานที่และผู้คนเปลี่ยนไปหมดจริงๆ ‘จะมีคนสักกี่คนที่จะสละผ้าเช็ดหน้าตัวเองมาเช็ดให้คนที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน’ เขาคิดแล้วก้มมองผ้าเช็ดหน้าในมือก่อนจะเก็บมันใส่กระเป๋าเสื้อ เขาเผยยิ้มออกมาเล็กน้อยแล้วเดินตรงไปยังร้านกาแฟ เขาสั่งกาแฟค่าเวลารอรถมารับ
“ฮัลโหล...ครับ...เดี๋ยวผมจะรีบออกไปเดี๋ยวนี้” ไม่นานนักรถที่เขารอก็มารับ เขารีบจัดหยิบสัมภาระทุกอย่างและกาแฟที่พึ่งจะได้มาแล้ววิ่งไปที่นัดหมายทันที เพราะเขาอยากจะกลับไปเจอคนสำคัญของเขาไวๆ
เขาวิ่งอย่างรวดเร็วผ่านตรงโน่นตรงนี้อย่างเรียบง่าย เขาวิ่งแทรกตรงโน่นโดดข้ามตรงนี้อย่างน่าทึ่งจนคนโดยรอบพากันปรบมือให้ เขาหันไปยิ้มให้กับวีรกรรมของตัวเองจนลืมมองด้านหน้าจึงทำให้เขาจนเข้ากับหญิงสาวข้างหน้าอย่างจัง ร่างของเขาและหญิงสาวลงไปกองที่พื้นทั้งคู่ แถมกาแฟในมือเขาก็หกรดเธอเสียหมดแก้ว
“เอ่อ...ขอโทษนะครับคุณ” เขาลุกขึ้นเอ่ยคำขอโทษและยื่นมือไปให้อีกฝ่ายที่ก้มหน้าอยู่จับ
“แว่น...แว่นอยู่ไหนเนี่ย” หญิงสาวบ่นพึมพำและใช้มือควานหาของไปรอบๆ
“คุณครับ...คุณ…” เขาเรียกเธอดังขึ้น ทำให้อีกฝ่ายชะงักและหันมาประจันหน้าเขา เมื่อได้สบตากับเธอทำให้โลกทั้งโลกของเขาหยุดเคลื่อนไหว เขารีบสะบัดความคิดแปลกๆออกจากสมองอย่างเร็ว “คุณหาอะไรของคุณ”
“แว่นฉัน ฉันมองไม่เห็น” เธอพยายามมองหาโดยรอบ แต่สายตาที่สั้นมากทำให้เธอมองทุกอย่างเบลอไปหมด ชายหนุ่มที่สายตาดีกว่ามองไปเห็นแว่นที่กระเด็นออกไปไกลพอสมควรจึงเดินไปหยิบมา
“นี่คุณ...” เขาเรียกเธออีกครั้ง หญิงสาวหันมามองหน้าเขา เขาจ้องหน้าเธอเล็กน้อยก่อนจะสวมแว่นนั้นให้เธอ ไม่รู้อะไรดลใจเขาให้ทำอย่างนี้ แต่เหมือนเขาจะหยุดไม่ได้เสียแล้ว “ที่นี่ชัดขึ้นแล้วนะคุณ ลุกขึ้นมาซิ” เขายื่นมือไปให้เธอจับ เธอชั่งใจเล็กน้อยก่อนจะจับมือเขาและลุกขึ้นมา เขามองหญิงตรงหน้าตั้งแต่หัวจรดเท้า ‘ผู้หญิงอะไรเชยชะมัด’ เขาแอบยิ้ม
“ขอโทษด้วยนะคะที่ฉันเดินชนคุณ กาแฟคุณหกหมดเลย”
“เอ่อ...ผมต่างหากที่ผิด คุณ...” เขาหยุดคิดเล็กน้อยก่อนจะยิ้มมุมปากแล้วล้วงไปหยิบกระเป๋าสตางค์ออกมา เขาหยิบนามบัตรแล้วยื่นให้เธอ “เสื้อคุณเปื้อนเพราะผม แต่วันนี้ผมไม่มีเวลา นี่นามบัตรผมเอง คุณโทรมาเรียกค่าเสียหายได้เลยนะ” หญิงสาวตรงหน้าเขาทำหน้างงเล็กน้อย
“เอ่อ...คือ...ฉันว่า...”
“ผมขอตัวก่อน หวังว่าเราคงจะได้เจอกันอีกนะ” เขายิ้มก่อนจะเดินจากมา ใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นใบหน้าเจ้าเล่ห์ทันที “เราต้องได้เจอกันอีกแน่ๆ เพราะไม่มีผู้หญิงคนไหนปฏิเสธฉันสักคน และเธอต้องเป็นหนึ่งในนั้นที่เป็นของเล่นสำหรับฉัน” เขายกยิ้มร้าย
ด้านหญิงสาวที่ยังงงกับเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นเมื่อครู่ก็เรียกสติตัวเองกลับมา ก่อนจะควานหาของในกระเป๋าสะพายใบโปรดอยู่นานสองนาน
“อ้าว...โถ่เอ้ย...เราให้ผู้เช็ดหน้ากับผู้ชายคนนั้นไปนี่นา” เธอนึกถึงเหตุการณ์บนเครื่องบินที่อยู่ๆผู้ชายนี่นั่งข้างเธอก็ละเมอและร้องไห้ออกมา เธอจึงใช้ผ้าเช็ดหน้าของเธอเช็ดให้เขาและวางทิ้งไว้ให้เขาบนตักก่อนจะลงจากเครื่องมา “ให้ตายซิเวลาจำเป็นกลับไม่ได้ใช้ เฮ้อ...ผู้ชายคนนั้นหน้าคุ้นๆจัง” เธอก้มมองนามบัตรในมือ “...ธีรเดช เมธาวรายุทธ นามสกุลคุ้นๆแฮะ” เธอยืนครุ่นคิดอยู่นาน “ไม่น่าจะรู้จักหรอก คิดมากอีกแล้วจอยเอ้ยจอย” เธอไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกจากหัวและเก็บนามบัตรใส่กระเป๋าสะพายก่อนจะไปหยิบกระเป๋าเดินทางลากออกไป
ความคิดเห็น