ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Secret ความรักของผม คือความลับของคุณ [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #5 : The Secret 5 [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 24 ต.ค. 56


    5

     

     

     

              “บ้านมึงมีผ้าที่ไม่ใช่แล้วบ้างป่ะ?”เสียงวิ่งพร้อมกับร่างเล็กที่อยู่ภายใต้เสื้อกล้ามตัวใหญ่สีดำตัดกับสีผิวและกางเกงสามส่วนสีเหลืองจนแสบตาคนหันไปมอง จนคนมองต้องหรี่ตาลงเล็กน้อย ผมด้านหน้าของร่างเล็กถูกมัดเอาไว้เหมือนน้องหมาแถวบ้านเขา ใบหน้าที่แดงขึ้นเพราะความร้อนและเหงื่อที่เต็มหน้าไปหมดทำให้คนมอง มองสำรวจอยู่แบบนั้นหลายครั้ง จนตอนแรกที่มาถามอารมณ์ดีๆต้องเท้าสะเอว “ปากๆ มีไหมวะ มีก็ตอบๆ ไม่ได้ขอให้ช่วย แค่ถามยังช้าอีก”

     

              “บ้านผมไม่มีหรอก แต่บ้านข้างๆเป็นร้านตัดเสื้อผ้า ถ้าลองไปขอ...”คำตอบที่ยังตอบไม่ได้ดี แต่คนถามดันวิ่งออกจากบ้านทันทีที่ได้ยินคำตอบ ร่างเล็กวิ่งไปบ้านข้างๆและเพิ่งสังเกตว่ามีป้ายแขวนเอาไว้ว่ารับตัดเสื้อผ้า และเพราะประตูบ้านถูกเปิดเอาไว้ ร่างเล็กเลยเดินเข้าไปอย่างถือวิสาสะ

     

              “ขอโทษนะคับ มีใครอยู่ไหมคับ”ร่างเล็กชะโงกหน้าเข้าไปตัวบ้านเล็กน้อย แต่ก็ไม่เห็นใครสักคน ก่อนจะส่งเสียงเรียกอีกครั้ง

     

              “พอดีแม่ไม่อยู่น่ะครับ มีอะไรฝากผมไว้ก่อนก็ได้ครับ”ร่างเล็กหันไปตามเสียงทุ้มที่ดังมาจากด้านหลัง ก่อนจะพบร่างสูงที่อยู่ในชุดนักศึกษา ใบหน้าคมคายภายใต้แว่นดำเดินก้าวเข้ามาใกล้กัสมากขึ้น

     

              “พอดีผมอยู่บ้านข้างๆนี่น่ะคับ”

     

              “บ้านขอบคุณสินะครับ”

     

              “อ่าคับ...พอดีผมเห็นว่าเป็นร้านตัดเสื้อ เลยจะมาถามว่ามีเศษผ้าที่ไม่ใช้เหลือบ้างไหมน่ะคับ”

     

              “ครับ ตามมาทางนี้เลยครับ”ร่างเล็กเดินตามร่างสูงไปในห้องหนึ่งที่มีผ้าเต็มไปหมดและเครื่องจักรด้วย ก่อนที่ร่างสูงจะก้มลงไปหยิบผ้าที่ไม่ได้ใช้มารวมๆกันก่อนจะส่งให้ร่างเล็ก

     

              “คือจะเป็นไรไหมคับ ถ้าผมจะยืมใช้เจ้านี้”ร่างเล็กชี้ไปที่เครื่องจักรเย็บ ร่างสูงมองตามก่อนจะแสดงสีหน้างงๆก่อนจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มและพยักหน้ารับ “ขอบคุณคับ”ร่างเล็กหยิบผ้าทั้งหมดก่อนจะเปิดเครื่องจักรเย็บผ้าและลงมือนำผ้าหลายๆผืนมาต่อกัน เขาว่าจะทำผ้าม่านใหม่เพราะของเดิมถูกส่งซักและอีกอย่างเขาชอบสีสันมากกว่าสีมืดๆเหมือนไอ้ขอบคุณมัน

     

              “ชื่ออะไรหรอครับ?”ร่างเล็กชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะมองหน้าร่างสูงที่กำลังมองมาทางเขาอยู่ด้วยรอยยิ้มเอ็นดู เขาก็ยิ้มตอบตามประสาคนมนุษย์สัมพันธ์ดี

     

              “กัสคับ อยู่ปีสอง”

     

              “ผมชื่อธันวา อยู่ปีสาม”

     

              “งั้นก็เป็นพี่สินะคับ ขอโทษทีมารบกวนนะคับ พอดีผมมาอยู่บ้านขอบคุณชั่วคราว”

     

              “ไม่เป็นไรหรอกครับ ปกติขอบคุณชอบมาเล่นที่นี้บ่อยๆ ถ้ากัสว่างๆก็มาที่นี้ได้เสมอนะ”ร่างเล็กยิ้มกว้างกับคนใจดีตรงหน้าก่อนจะก้มลงมือทำงานในมือต่อให้เสร็จ ไม่นานผ้าก็ถูกเย็บเข้าด้วยกันออกมาดูดีจนลูกชายเจ้าของบ้านยังอดจะแปลกใจไม่น้อย

     

              “แปลกใจสินะคับที่ผมทำแบบนี้เป็น”

     

              “กัสเรียนพวกออกแบบอะไรแบบนี้หรอ”

     

              “เปล่าคับ ฮ่าๆ ผมเรียนดนตรีน่ะคับ แต่แม่ผมบอกอยากได้ลูกสาว เลยเลี้ยงผมมาซะเหมือนผู้หญิง งานบงงานบ้านผมทำเป็นหมดทุกอย่างเลยนะคับ”ร่างเล็กก็ไม่ได้อยากจะอวดอะไรหรอกนะ และเขาไม่ได้เห็นว่าสิ่งที่เขาสามารถทำได้เป็นเรื่องน่าอายหรืออะไร

     

              “น้องกัสก็เหมือนผู้หญิงนะครับ”

     

              “โธ่ พี่ธันวาอย่าพูดแบบนั้นสิคับ ผมน่ะแมนเกินร้อยนะคับ”ร่างเล็กเบ้หน้าลงเล็กน้อยก่อนจะกลับมายิ้มเหมือนเดิมและขอตัวกลับไปบ้านใหม่ของเขาอีกครั้ง ร่างเล็กเดินเข้ามาข้างในก่อนจะเห็นร่างสูงของกู๊ดไนท์ยังอยู่ท่าเดิมไม่ขยับไปไหน แถมหันมามองหน้าเขาเล็กน้อยและหันกลับไปเหมือนไม่ได้สนใจอะไรมากมาย

     

              “ทำอาหารให้ผมด้วยนะครับ”เท้าที่กำลังจะเดินขึ้นบันไดชะงักลงก่อนจะหันไปมองร่างสูงที่ไม่ได้มองเขาอยู่แต่สนใจทีวีตรงหน้า

     

              “ฉันเป็นขี้ข้านายตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่ทราบ”

     

              “ไม่เคยได้ยินหรอครับ...อยู่บ้านท่านอย่างนิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น”

     

              “เหอะ กูไม่เคยได้ยิน เคยได้ยินแต่ อยู่บ้านท่านอย่างนิ่งดูดาย มีแต่วัว มีแต่ควาย กวนตีนกูเล่น”ผมยักคิ้วอย่างกวนๆมันที่หันมองหน้าผมแทบจะทันทีก่อนคิ้วจะขมวดเข้าหากันทันที ก่อนที่ผมจะเดินสะบัดขึ้นมาด้านบน และเอาผ้าที่เย็บมาแขวนไว้ให้เรียบร้อย ก่อนจะกระแทกก้นนั่งลงบนเตียงอย่างหงุดหงิดเล็กน้อย

     

              นี่กูมาอยู่ในเด็กมันถอนขนรึไงวะเนี่ย!!!!!

     

     

     

      

     

              “เฮ้ย ไอ้กู๊ดมึงทำเลขมายังวะ เอามาลอกหน่อย”

     

              “รองประธานนักเรียนลอกการบ้านเนี่ยนะ?”ถึงจะพูดอย่างนั้นแต่เขาก็ส่งสมุดการบ้านให้เพื่อนอยู่ดี ร่างบางที่รับสมุดก็รีบก้มหน้าก้มตาลอกในช่วงเวลาพักก่อนที่คาบต่อไปจะเริ่ม ช่วงพักแบบนี้พวกเขาเลือกที่จะอยู่ในห้องมากกว่าลงไปข้างล่าง เอาไว้ช่วงพักเที่ยงค่อยลงไปหาอะไรกินทีเดียว ตอนนี้ถ้าหิวก็ขนมในกระเป๋าข้าวตังแอบๆกินก็พอประทังชีวิตได้อยู่

     

              “ไนท์ แล้วเพื่อนพี่ขอบคุณเป็นยังไงวะ?”ร่างเล็กหันหน้ามาถาม เขาว่าจะถามตั้งแต่ตอนเช้าแล้ว แต่ไอ้เพื่อนเขาดันมาสายซะเนี่ยเลยไม่ได้ถามสักที กู๊ดไนท์ที่กำลังควงปากกาเล่นก็กระตุกมุมปากขึ้นมาเล็กน้อย ภาพที่ทำให้คนที่กำลังลอกการบ้านอยู่ต้องหยุดและหันมาฟังด้วยอีกคน

     

              “คนแก่ขี้โวยวายแต่ก็...น่ารักดี”คำตอบที่ทำเอาภูมิที่กำลังคุยกับเพื่อนโต๊ะอื่นอยู่ต้องหันมาร่วมวงด้วยอีกคน และคำตอบที่ทำให้เพื่อนทั้งสามเบิกตากว้างออกมาเล็กน้อย น่ารักดี งั้นหรอเกิดมาพวกเขาไม่เคยได้ยินกู๊ดไนท์มันจะชมใครที่ไหนว่าน่ารัก “ทำไม?”

     

              “กูไม่เคยเห็นมึงชมใครนะ”ฝุ่นยักไหล่แล้วก้มหน้าลอกการบ้านต่อ

     

              “แล้วยิ่งผู้ชายด้วยแล้ว ยังไงเนี่ยๆๆๆ”ข้าวตังเอ่ยแซว ร่างสูงที่กำลังคิดถึงเพื่อนพี่ชายที่เพิ่งว่าเขาเป็นควายไปเมื่อวันก่อนและอดจะขำออกมา ก็เขาว่ามันเหมือนพวกลูกเสือกำลังทำตัวเป็นพ่อเสือ มันไม่ได้น่ากลัวแต่ดูน่ารักซะมากกว่า กู๊ดไนท์เลือกที่จะไม่ตอบอะไรและหยิบหนังสือเรียนวิชาต่อไปขึ้นมาเป็นการตัดบท

     

              “ไอ้คินไม่มาโรงเรียนหรอวะ?”

     

              “กูยังไม่เห็นนะ”คำถามของร่างสูงที่ข้าวตังหันมาตอบแทน เพราะไม่รู้ว่าทำไมทุกครั้งที่เขาพูดถึงคินที่ไหร่เพื่อนข้างๆเขาไม่เคยจะตอบหรือบางทีก็ทำเป็นไม่สนใจทุกที กู๊ดไนท์หันไปมองโต๊ะว่างๆแล้วหันกลับมาที่เดิม จะว่าไปเขาเองก็ไม่เห็นมาตั้งแต่เช้าแล้วเหมือนกัน แต่เหมือนคำตอบของพวกเขาจะกระจ่างเพราะประตูห้องเรียนที่ถูกเปิดออกมาพร้อมกับร่างสูงของคนที่พวกเขาเพิ่งจะพูดถึง คินเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับกระเป๋านักเรียน ใบหน้าที่ฟกช้ำเล็กน้อย

     

              “หน้าไปโดนไรมาวะ ไปมีเรื่องกับใครมารึไง?”คำถามของข้าวตังที่ทำให้คนที่ลอกการบ้านอยู่หยุดชะงักและเงยหน้าขึ้นไปมองร่างสูงที่เดินนิ่งๆเข้ามาวางกระเป๋าโต๊ะตัวถัดไปจากเขา

     

              “นิดหน่อย ไม่มีอะไรหรอก”

     

              “มาสายหรอมึง?”

     

              “เปล่า โดนปกครองเรียกน่ะ”ร่างสูงตอบอย่างไม่ได้คิดอะไร ก็เขามีเรื่องแถมหน้ามีแต่รอยช้ำ ครูคนไหนดูไม่ออกก็คงแปลก พอเข้ามาในโรงเรียนเขาเลยเชิญไปห้องปกครองก่อนมาที่ห้องเรียน แถมกินเวลาไปเกือบสามชั่วโมงกว่าจะได้ออกมา ก็เลยมาช้าอย่างที่เห็นนั่นแหละ

     

              “ใครกล้ามีเรื่องกับเพื่อนกูวะ เดี๋ยวกูไปไฝว้”

     

              “เอาตัวเองให้รอดเถอะมึง”ภูมิหันมาตบหน้าเพื่อนข้างๆที ข้าวตังจับหัวตรงที่โดนตบก่อนจะแยกเขี้ยวให้ไอ้เพื่อนที่ทำให้เขาเสียฟอร์ม คินส่ายหัวขำๆของเพื่อนทั้งสองก่อนจะหยิบการบ้านของเมื่อวานที่ยังไม่ได้แตะสักนิดขึ้นมา ก่อนจะถอนหายใจออกมาเล็กน้อย คำพูดของอาจารย์เมื่อวานที่บอกว่าถ้าใครไม่ทำมาจะโดนให้ออกไปอยู่นอกห้อง ทำให้คนที่เพิ่งจะได้เข้าห้องเรียนมาอดหัวเสียไม่ได้

     

              “ไนท์ กูยืมลอกการบ้านหน่อยดิ”

     

              “ไอ้ฝุ่นลอก...”คำตอบที่ยังไม่ทันจะจบดี แต่สมุดก็ถูกเลื่อนมาทางโต๊ะกู๊ดไนท์แทน ร่างสูงหันไปมองเพื่อนสนิทก่อนจะขมวดคิ้วเล็กน้อย

     

              “ลอกเสร็จแล้วหรอมึง?”

     

              “เอาไปเถอะ กูทำเองได้”ฝุ่นตอบนิ่งๆก่อนจะหันมาสนใจการบ้านต่อ จริงๆเขายืมเพื่อนมาเพราะอยากทำให้เสร็จเร็วๆจริงทำเองก็ได้ แต่มันเสียเวลา และเขารู้ดีว่าคินน่ะไม่เก่งเลขขืนให้ทำเองไม่วายโดนไปอยู่นอกห้องตามคำขู่ของอาจารย์ จะว่าเขาเกลียดร่างสูงก็ได้ แต่มันยังมีความเป็นห่วงเล็กๆของคนเคยรักติดอยู่เสมอ

     

              เหมือนเวลาที่เรารู้ดีว่าคนนี้ชอบไม่ชอบ ถนัดหรือไม่ถนัดอะไร เคยไปไหนด้วยกัน เคยทำอะไรด้วยกัน เคยมีความรู้สึกดีๆหรือมีความสุขทุกครั้งที่อยู่ด้วยกัน มันก็ยากต่อการลืม เขาพยายามเป็นคนใจร้าย แต่สุดท้ายก็ทำไม่ได้ อาจเพราะเคยรักมากและมันอาจยากที่จะตัดใจ แต่ถ้าให้กลับไปตอนนี้เขาคงบอกได้อย่างเดียวว่าเขาไม่พร้อมจริงๆ

     

              ไม่นานอาจารย์ก็เขามาในห้อง ทั้งห้องเงียบลงเมื่ออาจารย์มหาโหดเข้ามา ถึงจะไม่ได้ดูอายุเยอะอะไรมากมายแต่เขาเป็นอาจารย์ที่นักเรียนเก้าสิบเปอร์เซ็นต์บอกว่าโหดที่สุดในห้อง ร่างสูงชะงักมือที่กำลังลอกก่อนจะแอบปิดสมุดเงียบๆและส่งสมุดของกู๊ดไนท์คืน

     

              “หัวหน้าห้องเก็บสมุดการบ้านเพื่อนทุกคน เช็คให้ครบว่าใครยังไม่ได้ทำมา ครูให้เวลาห้านาที”ฝุ่นลุกขึ้นจากโต๊ะก่อนจะเดินตามโต๊ะเพื่อนแต่ละคนก่อนจะรวบรวมสมุดกองโตมาวางไว้ที่โต๊ะอาจารย์ อาจารย์ประจำวิชาที่กำลังจดหัวข้อเรื่องต่อไปอยู่บนกระดานระหว่างรอ หัวหน้าห้องอย่างฝุ่นก็เปิดสมุดของเพื่อนแต่ละคนจนมาถึงเล่มสุดท้ายที่เหลืออีกสองข้อ ร่างบางหยิบดินสอขึ้นมาก่อนจะเขียนคำตอบอย่างรีบร้อนและปิดสมุดลงในขณะที่ไม่มีใครเห็น

     

              “ครบครับอาจารย์”ร่างบางเดินกลับมาที่โต๊ะของตัวเองโดยมีสายตาคู่หนึ่งกำลังมองมาที่เขา เขารับรู้ได้ว่าร่างสูงกำลังมองเขาอยู่ แต่เขาทำเป็นเหมือนไม่เห็นอะไร พอไม่มีคนต้องออกไปนอกห้องอาจารย์หน้าห้องก็เริ่มสอน และตลอดระยะเวลาเรียนร่างบางก็รู้สึกได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่คอยมองมาทางเขาบ่อยๆ จนกระทั่งหมดคาบเรียน คินโดนเรียกออกไปพร้อมอาจารย์ประจำวิชา

     

              “เดี๋ยวผมถือให้ครับ”ร่างสูงว่าก่อนจะยกสมุดทุกเล่มมาถือและเดินตามอาจารย์เข้าห้องพักครู คินเปิดสมุดของตัวเองระหว่างเดิน ลายมือหวัดๆที่ถูกเขียนไว้ในข้อที่เขายังไม่ทำ ถ้าคนอื่นมองผ่านๆอาจจะเห็นว่าเป็นลายมือเขานั่นแหละ แต่เป็นเพราะเจ้าตัวรู้ตัวเองดีว่าเขาไม่ได้เขียนแน่ๆ

     

              มึงมันโง่เลขยิ่งกว่าอะไร ดีแค่ไหนที่กูปลอมลายมือมึงได้

     

              คร้าบๆ คนเก่ง ไหนๆก็ช่วยกูทำการบ้านแล้ว กูจะตอบแทนมึงแล้วกันนะที่รัก ฟอดด ฮ่าๆๆ”

     

              เชี่ยคินน!!!

     

              ร่างสูงหยุดคิดเรื่องก่อนๆขึ้นมา เขากับฝุ่นไม่ได้เรียนอยู่โรงเรียนเดียวกัน แต่บางครั้งเขาสองคนก็ช่วยกันทำการบ้านบ้าง จนจำลายมือของกันและกันได้ และก็ไม่เคยมีครั้งไหนที่อาจารย์จะจับได้เลยสักครั้ง ร่างสูงปิดสมุดก่อนจะเดินไปวางสมุดกองโตที่โต๊ะก่อนจะเดินไปหาครูฝ่ายปกครอง

     

              “นายภาคิน นายน่ะอยู่มัธยมห้าแล้วนะ อีกปีเดียวก็จะเป็นปีสุดท้ายแล้ว หัดทำตัวให้เป็นรุ่นพี่ที่ดีให้น้องๆเขาบ้างสิ ไปมีเรื่องแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหน”

     

              “ขอโทษครับอาจารย์”ร่างสูงก้มหน้ารับผิด จริงๆเรื่องเมื่อคืนมันเกิดขึ้นเพราะมีกลุ่มนักเรียนกลุ่มหนึ่งที่เดินเข้ามาหาเรื่องเขาก่อน เขาตั้งแต่กลับมาที่ไทยก็ไม่เคยรู้จักใครที่ไหน แต่เพราะชื่อที่อีกฝ่ายพูดขึ้น เลยทำให้เขาพอรู้สาเหตุของการหาเรื่องครั้งนี้

     

              มึงอย่ามายุ่งกับฝุ่นอีก ถ้ามึงยังยุ่งกับฝุ่นอย่าหาว่ากูไม่เตือน!’

     

              จริงๆคนที่ไม่มีสิทธิ์คือพวกมันต่างหากพอคิดได้อย่างนั้น เขาก็เลยถูกรุมจนมีสภาพอย่างที่เขาเห็นนั่นแหละ ร่างสูงหลุดจากความคิดก่อนจะหันไปมองคนข้างๆที่มายืนข้างเขาตั้งแต่เมื่อไหร่เขาก็ไม่ทันรู้ตัวเหมือนกัน แต่เพราะบทสนทนาของทั้งสองคนทำได้เขาต้องหันไปฟัง

     

              “ภาคินเขาเพิ่งเป็นนักเรียนใหม่เขาอยู่ต่างประเทศมา อีกอย่างเพิ่งเป็นความผิดครั้งแรก ผมว่าแค่ทำความสะอาดโรงยิมหนึ่งสามวันก็พอแล้วละคับ”ร่างบางว่า ฝุ่นที่ถูกเรียกมาในฐานะรองประธานนักเรียนและเพราะอยู่ชั้นเดียวกัน อาจารย์เลยให้มาช่วยคิดหาวิธีทำโทษ ซึ่งคำแนะนำของร่างบางดูจะถูกใจอาจารย์ไม่น้อย

     

              “ยังไงอาจารย์ฝากนายดูแลด้วยละกัน”เมื่อจบเรื่องทั้งสองก็พากันเดินออกมา ทางเดินที่มีคนเดินเต็มไปหมดแต่ในความรู้สึกของพวกเขาสองคนเหมือนกำลังเดินกันอยู่สองคน ทั้งความอึดอัดและระยะทางที่มันดูไม่สิ้นสุดสักที ร่างสูงก้าวเท้าเร็วขึ้นก่อนจะคว้าข้อมือบางให้คนที่พยายามเดินเร็วหยุด และมันก็เป็นผลเมื่อมือหนาจับข้อมือของเขา เท้าทั้งสองข้างก็ชะงักลงทันที

     

              “นายช่วยฉันทำไม?”

     

              “ฉันไม่ได้ช่วยนาย แค่ไม่อยากให้เพื่อนให้ห้องเดือดร้อนฟังอาจารย์บ่นมันน่าเบื่อ...ส่วนเรื่องเมื่อกี้ ฉันแค่ตัดสินในฐานะรองประธานนักเรียนคนหนึ่ง...”

     

              “...”

     

              “อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย...เพราะนายไม่ได้มีความหมายอะไรกับฉันสักนิด”

     

            


     

    ---------------------------- The Secret 5 [100%] ----------------------------




     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×