ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Secret ความรักของผม คือความลับของคุณ [YAOI]

    ลำดับตอนที่ #4 : The Secret 4 [100%]

    • อัปเดตล่าสุด 17 ต.ค. 56


    4

     

     

     

              “เออๆ กูขอโทษ ถามแค่นี้แม่งทำโกรธ กูก็นึกว่ารู้จักกันว่าจะถามสักหน่อยว่าแฟนไอ้ฝุ่นที่คบที่นู่นเป็นใคร กูละไม่อยากจะเชื่อว่ามึงจะคบกับใครได้ คนนี่มึงต้องรักชิบหายไม่งั้นมึงไม่ยอมใช้คำว่าแฟนหรอก ใช่ป่ะวะ?”

     

              !!!!!

     

              ร่างบางชะงักทันทีที่เพื่อนสนิทพูดจบ มือบางกำเข้าหากันแน่นใต้โต๊ะ สายตาเย็นที่มองหน้าเพื่อนสนิทที่ยังคงไม่รู้เรื่องรู้ราว ร่างสูงหันมามองคนข้างๆทันทีที่ภูมิพูดจบ

     

              “กูคิดว่าตอนนั้นกูคงโง่ รักแม่งโดยไม่สนใจอะไรเลยสักอย่าง กูขอตัวนะ”ร่างบางลุกขึ้นทันทีที่พูดจบก่อนจะเดินออกจากร้านไปทันที ทำเอาเพื่อนทั้งสองคนหันมามองหน้ากันทันที ร่างสูงลุกขึ้นก่อนจะวิ่งตามร่างบางไป คินมองซ้ายมองขวาแต่ยังหาร่างบางที่เขาตามมาไม่เจอ แต่แล้วปลายเท้าทั้งสองข้างก็หยุดลงกับร่างบางที่กำลังยืนคุยกับผู้ชายอีกคนนึงอยู่ ร่างสูงเดินเข้าไปหาร่างบางเงียบๆ

     

              “ฝุ่น...”

     

              “พี่ลุคคับผมว่าเราไปกันดีกว่าคับ”มือบางจับข้อมือหนาก่อนจะกระตุกเล็กน้อย ร่างสูงก้มมองตามมือบาง ฝุ่นหันไปมองรุ่นพี่อย่างไม่สนใจ

     

              “เดี๋ยวสิ..”คินคว้าข้อมือของฝุ่นเอาไว้ก่อนที่ร่างบางจะเดินออกไป

     

              “พี่ว่าเราเคลียร์ก่อนดีกว่า เดี๋ยวพี่ไปรอที่ร้านกาแฟตรงนั้นละกัน”ร่างสูงว่าก่อนจะแกะมือบางออกแล้วเป็นฝ่ายเดินออกไปเอง ร่างสูงมองหน้าร่างบางนิ่ง ฝุ่นที่มองไปทางอื่นเหมือนไม่สนใจแต่ไม่ได้เดินหนีไปไหน

     

              “นายเป็นอะไร?”

     

              “กูก็เป็นของกูแบบนี้ ไม่รู้รึไง?”ฝุ่นยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย “ไม่เคยคิดละสิ ว่าไอ้ฝุ่นที่มันแสนดีของมึงจะเป็นแบบนี้ กูบอกมึงไว้ตรงนี้เลย กูแม่งก็เป็นคนแบบนี้ คนดีเขาไม่ทิ้งมึงหรอก เสียเวลาวะคิน มึงไปหาคนใหม่เถอะ กูเบื่อขี้หน้ามึงเต็มทน ยิ่งเห็นกูยิ่งคิด...”

     

              “....”

     

              คิดว่ากูรักมึงไปได้ยังไง

     

              !!!!!

     

              น้ำเสียงเย็นๆกับใบหน้าร้ายๆของฝุ่นยังดังก้องอยู่ในหัวเขา ร่างบางหันหลังเดินกลับไปแล้ว เหลือแค่เขาที่ยังยืนอยู่ที่เดิม มือหนากำเข้าหากันแน่น มองตรงไปที่ร่างบางที่ไม่แม้จะหันกลับมามองเขาสักครั้งเดียว เขาไม่เคยคิดว่าฝุ่นที่เขารู้จักจะเป็นคนแบบนี้ และยังไงเขาก็ยังไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เขาเห็นและได้ยินสักนิด

     

              ตราบใดที่กูยังไม่รู้คำตอบ...กูจะไม่มีวันปล่อยมึงไปไหนแน่

     

     

     

     

     

     

     

              ออด ออด

     

              เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น ร่างสูงที่เพิ่งเดินลงมาจากบนบ้านด้วยชุดสบายๆก็มองไปที่หน้าต่างที่ถูกเปิดผ้าม่านเอาไว้ก่อนจะเห็นร่างเล็กที่ยืนมองแผนที่ในมือของตัวเอง ข้างกายมีกระเป๋าหลายใบอยู่พอควร ร่างสูงยกยิ้มขึ้นก่อนจะเปิดไปประตูและเดินตรงไปที่ประตูไม้ที่ถูกเปิดด้วยระบบอัตโนมัต ร่างเล็กที่ก้มลงหยิบข้าวของทันทีที่ได้ยินเสียงประตูเปิดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของบ้านที่ยืนหน้านิ่งอยู่ตรงหน้า

     

              “นาย!!!

     

              “สวัสดีครับ”

     

              “ทำไมมึงมาอยู่ที่นี้”

     

              “บ้านผม ผมก็ต้องอยู่ที่นี้สิครับ”ร่างเล็กกางแผนที่อีกครั้งก่อนจะตรวจสอบบ้านเลขที่อีกครั้ง ก่อนที่คิ้วบางจะขมวดเข้าหากันทันทีที่มองตัวบ้านชัดๆ บ้านไอ้คุณนี่หว่า ร่างเล็กคิดในใจ เขาเคยมาบ้านเพื่อนสนิทอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้วตอนมายืมใช้ห้องซ้อม แต่คราวนั้นไม่ได้เจอไอ้เด็กนี่หรอก พอร่างเล็กระลึกชาติได้ก็หยิบโทรศัพท์ตัวเองก่อนจะต่อสายหาเพื่อนทันที

     

              “ไอ้เชี่ยคุณ มึงให้กูมาอยู่ที่ไหนของมึง!!!!

     

              (บ้านกูไง ไม่ไกลจากมหาลัยด้วย มีไอ้ไนท์อยู่เป็นเพื่อนจะได้ไม่เหงาไงเพื่อน)

     

              “กูยอมเหงาสัส! ไม่เอากูไม่อยากอยู่กับไอ้เด็กเวรนี่!!

     

              (เฮ้ยๆ เด็กเวรของมึงคือน้องกูวะ ด่ามันเท่ากับด่ากูนะเว้ยเพื่อนรัก)

     

              “ก็กูด่ามึงอยู่ไงไอ้ควาย!!!!!!

     

              (ฮ่าๆๆๆ อยู่ๆไปเถอะมึง ช่วงนี้จะไปหาที่พักที่ไหนได้วะ แค่สามเดือนเองไม่ใช่หรอไง ไอ้ไนท์มันไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเขาเหมือนมึง เอ้ย เออๆมึงอยู่ไปแหละแค่นี้นะ บาย ตู๊ดๆๆๆ)ร่างเล็กหยิบโทรศัพท์มองหน้าจอที่สายถูกตัดไปแล้วก่อนจะกำโทรศัพท์ในมือแน่น ไอ้เพื่อนเวร อย่าให้กูเจอ

     

              “จะเข้าไม่เข้า? ไม่งั้นผมจะปิดประตูบ้าน”ร่างสูงเลิกคิ้วถาม

     

              “เออ รบกวนด้วย”

     

              “รู้ว่ารบกวนก็ดีครับ”ร่างสูงยิ้มก่อนจะเดินหันหลังเข้าบ้านทันที ร่างเล็กแยกเขี้ยวอยากจะกระโดดไปกัดคนตัวสูงแทบตายถ้าไม่ติดสัมภาระที่พกมาด้วย ไหล่ข้างหนึ่งแบกเบสเอาไว้ ยังไม่พอยังมีเบสอีกสองตัวที่ถือมาด้วย กระเป๋าเสื้อผ้าอีกสามใบ

     

              “มารยาทดีจังนะมึง”ร่างเล็กสบถก่อนจะค่อยๆแบกของที่ละชิ้นเข้ามาในตัวบ้าน และเดินกลับออกมาแบกไปมาอยู่อย่างนั้นหลายครั้ง ร่างสูงที่มองอยู่ก็ยกยิ้มขึ้นก่อนจะเทนมใส่แก้วอย่างไม่ได้สนใจ จนสุดท้ายข้าวของทั้งหมดก็ถูกกองวางอยู่ที่ห้องรับแขกทั้งหมด “ห้องไหน?”

     

              “ห้องนอนของคุณ”

     

              “เออ ขอบใจ”ร่างเล็กว่าแล้วกำลังจะเดินขึ้นบันไดและแบกของบางส่วนขึ้นไปด้วย จะได้ขึ้นไปจัดข้าวของให้เรียบร้อย แต่แล้วปลายเท้าก็ต้องชะงักกับเสียงเรียกของร่างสูงด้านหลังซะก่อน

     

              “ของทิ้งไว้นี่แหละ ขึ้นไปดูสภาพของก่อนจะดีกว่า”ร่างสูงว่า คิ้วร่างเล็กขมวดเข้าหากันทันทีก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปที่ห้องนอนเพื่อนที่เขาจำทางได้ลางๆ เขาจำลูกบิดก่อนจะเปิดประตูออก

     

              แม่เจ้า บอกกูทีว่ามึงไม่ได้ทำความสะอาดมากี่ปี?

     

              ร่างเล็กส่ายหัวเล็กน้อย สภาพแบบนี้แสดงว่าครั้งสุดท้ายที่เขามาคงจะเป็นการทำความสะอาดครั้งสุดท้าย ไม่งั้นคงไม่ทั้งรกและฝุ่นหนาขนาดนี้ ร่างเล็กกุมขมับตัวเอง อยากจะอ้าปากด่าไอ้เพื่อนเวรที่ไม่รู้จักทำความสะอาดกับเขาบ้าง แต่ทำอะไรไม่ได้ก็มาขอเขาอยู่นิ

     

              “ลำบากหน่อยนะครับ”ร่างสูงที่มายืนซ้อนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่เขาเองก็ไม่อาจทราบได้ ทำให้ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองหน้าร่างสูงเล็กน้อย

     

              “กูลำบากตั้งเจอหน้ามึงละ”ร่างเล็กเดินเข้าไปในห้องก่อนจะเปิดผ้าม่านสีมืดออกเป็นอันดับแรกก่อนจะเปิดหน้าตาห้องออกด้วยเพื่อระบายลม ร่างเล็กก้มเก็บชีทที่วางอยู่ข้างเตียงที่รกไปหมดเข้ารวมกัน เมื่อหยิบเสร็จเรียบร้อยก็เดินไปเปิดผ้าคลุมกลองชุดของเพื่อนออกเพื่อไปทำความสะอาด ก่อนร่างเล็กจะชะงักและหันไปมองหน้าห้องที่ยังมีร่างสูงยืนมองนิ่งๆอยู่ที่เดิม “ถ้าไม่คิดจะช่วยก็ออกไปป่ะ”

     

              “ผมจะยืนให้กำลังใจละกันนะครับ”

     

              “กวนประสาท”ร่างเล็กบ่นก่อนจะโยนผ้าคลุมกลองไปไว้ด้านนึง ร่างเล็กหยิบผ้าเช็ดหน้าของตัวเองออกมาก่อนจะพันๆและมัดปิดจมูกปิดปากตัวเองทันที เขาไม่ใช่คนแพ้ฝุ่น แต่เจอในปริมาณมากๆแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ร่างเล็กจัดการถอดผ้าทุกชิ้นในห้องออกให้หมดไม่ว่าจะผ้าปูที่นอน ผ้าม่าน สารพัดผ้าถูกโยนไว้มุมนึงของห้อง “เอาไปไหน?”

     

              ร่างสูงที่อยู่ๆก็เดินเข้ามาในห้องเดินตรงไปหยิบกองผ้าขึ้นมา ทำให้ร่างเล็กหันไปมองทันที ก็เดี๋ยวมันแกล้งอะไรเขาอีกแล้วเขาก็หนีอีกรอบสิ

     

              “ซัก”พูดจบร่างสูงก็เดินหยิบผ้าทั้งหมดลงบันไดไป จะบอกว่าเขาทนเห็นคนตัวเล็กๆทำนู่นทำนี้คนเดียวไม่ไหวละมั้ง ดูแขนที่มันเปราะบางแบบนั้นเดี๋ยวคนอื่นมาเจอจะหาว่าเขาแกล้งเด็ก(?)

     

              ร่างเล็กวิ่งตามคนตัวสูงลงมา ก่อนจะชะโงกหน้าไปมองร่างสูงที่กำลังกดเครื่องซักผ้าอยู่อย่างชำนาญ กัสยิ้มออกมาเล็กน้อย ถึงมันจะกวนแต่ก็มีข้อดีแหละ ผู้ชายเดี๋ยวนี้หาทำงานบ้านเป็นที่ไหน

     

              “ไม้กวาด ไม้ถูพื้นและถังน้ำอยู่ไหนวะ?”

     

              “เดี๋ยวผมถือขึ้นไปให้พี่ขึ้นไปทำความสะอาดต่อเถอะ”

     

              “นี่กูได้ยินอะไรผิดไปป่ะวะ ฮ่าๆๆๆ”ร่างเล็กหัวเราะเสียงดังทำเอาร่างสูงกลับมาทำหน้าเรียบตามเดิม “ไม่แกล้งละๆ”ร่างเล็กตบบ่าน้องชายเพื่อนไปทีก่อนจะวิ่งขึ้นห้องไป ร่างสูงมองตามร่างเล็กก่อนจะส่ายหัวเล็กน้อย

     

              “พูดดีด้วยก็กวนกูจัง”ร่างสูงบ่นก่อนจะหยิบของที่ร่างเล็กต้องการและเดินขึ้นไปด้านบน ร่างเล็กที่นั่งหอบอยู่กลางห้อง ใบหน้าที่มีเหงื่อเริ่มผุดขึ้นเต็มใบหน้า ทำให้เท้าของร่างสูงหยุดลง มองภาพตรงหน้านิ่งๆ นี่เขาแกล้งมากเกินไปงั้นหรอ? ร่างสูงคิดในใจ

     

              “เฮ้ย เร็วดิวะ”ร่างสูงได้สติอีกครั้งหลังจากร่างเล็กที่หันมาเจอเขาเข้า เขาเดินไปวางของตรงหน้าร่างเล็กก่อนจะถอยหลังออกมา “มึงมีเครื่องดูดฝุ่นป่ะ? กูว่าห้องไอ้คุณไม่ธรรมดาแหละ โคตรของโคตรสกปรก”ร่างเล็กมองรอบห้องอย่างพิจารณาทำให้ร่างสูงที่กำลังมองหน้าร่างเล็กอยู่ยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย

     

              น่ารัก...

     

              “เฮ้ย ไอ้ฝันดี สรุปมีไม่มี?”

     

              “???”กู๊ดไนท์หันมามองหน้าร่างเล็กก่อนจะย่นคิ้วเข้าหากัน คนตัวเล็กก็ได้แต่แหกปากหัวเราะออกมาเล็กน้อยกับท่าทางเอ๋อแดกของร่างสูง

     

              “มึงไง ไอ้ฝันดี กู๊ดไนท์ หึหึ”

     

              “ไม่ต้องมาแปลชื่อผม - -”

     

              “ไหนเครื่องดูดฝุ่นอะ?”และไม่มีซะหรอกที่คนอย่างไอ้กัสจะเชื่อฟัง ร่างเล็กยิ้มขำก่อนจะมองหาเครื่องดูดฝุ่นทันที ร่างสูงถอนหายใจออกมา ไอ้แผนที่จะช่วยทำความสะอาดเก็บไปได้เลย กวนตีนขนาดนี้ยังมีแรงทำอีกเยอะ ร่างสูงไปหาเครื่องดูดฝุ่นที่ร่างเล็กต้องการและนำกลับมาวางไว้ และตัวเขาก็เดินลงมานั่งดูทีวีข้างล่างแทน

     

              ทำความสะอาดไปคนเดียวละกันนะครับ...

     

      

              ออด ออด

     

              เสียงออดหน้าบ้านดังขึ้น ร่างสูงที่เพิ่งเดินลงมาจากบนบ้านด้วยชุดสบายๆก็มองไปที่หน้าต่างที่ถูกเปิดผ้าม่านเอาไว้ก่อนจะเห็นร่างเล็กที่ยืนมองแผนที่ในมือของตัวเอง ข้างกายมีกระเป๋าหลายใบอยู่พอควร ร่างสูงยกยิ้มขึ้นก่อนจะเปิดไปประตูและเดินตรงไปที่ประตูไม้ที่ถูกเปิดด้วยระบบอัตโนมัต ร่างเล็กที่ก้มลงหยิบข้าวของทันทีที่ได้ยินเสียงประตูเปิดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองเจ้าของบ้านที่ยืนหน้านิ่งอยู่ตรงหน้า

     

              “นาย!!!

     

              “สวัสดีครับ”

     

              “ทำไมมึงมาอยู่ที่นี้”

     

              “บ้านผม ผมก็ต้องอยู่ที่นี้สิครับ”ร่างเล็กกางแผนที่อีกครั้งก่อนจะตรวจสอบบ้านเลขที่อีกครั้ง ก่อนที่คิ้วบางจะขมวดเข้าหากันทันทีที่มองตัวบ้านชัดๆ บ้านไอ้คุณนี่หว่า ร่างเล็กคิดในใจ เขาเคยมาบ้านเพื่อนสนิทอยู่ครั้งหนึ่งเมื่อปีที่แล้วตอนมายืมใช้ห้องซ้อม แต่คราวนั้นไม่ได้เจอไอ้เด็กนี่หรอก พอร่างเล็กระลึกชาติได้ก็หยิบโทรศัพท์ตัวเองก่อนจะต่อสายหาเพื่อนทันที

     

              “ไอ้เชี่ยคุณ มึงให้กูมาอยู่ที่ไหนของมึง!!!!

     

              (บ้านกูไง ไม่ไกลจากมหาลัยด้วย มีไอ้ไนท์อยู่เป็นเพื่อนจะได้ไม่เหงาไงเพื่อน)

     

              “กูยอมเหงาสัส! ไม่เอากูไม่อยากอยู่กับไอ้เด็กเวรนี่!!

     

              (เฮ้ยๆ เด็กเวรของมึงคือน้องกูวะ ด่ามันเท่ากับด่ากูนะเว้ยเพื่อนรัก)

     

              “ก็กูด่ามึงอยู่ไงไอ้ควาย!!!!!!

     

              (ฮ่าๆๆๆ อยู่ๆไปเถอะมึง ช่วงนี้จะไปหาที่พักที่ไหนได้วะ แค่สามเดือนเองไม่ใช่หรอไง ไอ้ไนท์มันไม่ชอบยุ่งเรื่องชาวบ้านเขาเหมือนมึง เอ้ย เออๆมึงอยู่ไปแหละแค่นี้นะ บาย ตู๊ดๆๆๆ)ร่างเล็กหยิบโทรศัพท์มองหน้าจอที่สายถูกตัดไปแล้วก่อนจะกำโทรศัพท์ในมือแน่น ไอ้เพื่อนเวร อย่าให้กูเจอ

     

              “จะเข้าไม่เข้า? ไม่งั้นผมจะปิดประตูบ้าน”ร่างสูงเลิกคิ้วถาม

     

              “เออ รบกวนด้วย”

     

              “รู้ว่ารบกวนก็ดีครับ”ร่างสูงยิ้มก่อนจะเดินหันหลังเข้าบ้านทันที ร่างเล็กแยกเขี้ยวอยากจะกระโดดไปกัดคนตัวสูงแทบตายถ้าไม่ติดสัมภาระที่พกมาด้วย ไหล่ข้างหนึ่งแบกเบสเอาไว้ ยังไม่พอยังมีเบสอีกสองตัวที่ถือมาด้วย กระเป๋าเสื้อผ้าอีกสามใบ

     

              “มารยาทดีจังนะมึง”ร่างเล็กสบถก่อนจะค่อยๆแบกของที่ละชิ้นเข้ามาในตัวบ้าน และเดินกลับออกมาแบกไปมาอยู่อย่างนั้นหลายครั้ง ร่างสูงที่มองอยู่ก็ยกยิ้มขึ้นก่อนจะเทนมใส่แก้วอย่างไม่ได้สนใจ จนสุดท้ายข้าวของทั้งหมดก็ถูกกองวางอยู่ที่ห้องรับแขกทั้งหมด “ห้องไหน?”

     

              “ห้องนอนของคุณ”

     

              “เออ ขอบใจ”ร่างเล็กว่าแล้วกำลังจะเดินขึ้นบันไดและแบกของบางส่วนขึ้นไปด้วย จะได้ขึ้นไปจัดข้าวของให้เรียบร้อย แต่แล้วปลายเท้าก็ต้องชะงักกับเสียงเรียกของร่างสูงด้านหลังซะก่อน

     

              “ของทิ้งไว้นี่แหละ ขึ้นไปดูสภาพของก่อนจะดีกว่า”ร่างสูงว่า คิ้วร่างเล็กขมวดเข้าหากันทันทีก่อนจะเดินขึ้นบันไดไปที่ห้องนอนเพื่อนที่เขาจำทางได้ลางๆ เขาจำลูกบิดก่อนจะเปิดประตูออก

     

              แม่เจ้า บอกกูทีว่ามึงไม่ได้ทำความสะอาดมากี่ปี?

     

              ร่างเล็กส่ายหัวเล็กน้อย สภาพแบบนี้แสดงว่าครั้งสุดท้ายที่เขามาคงจะเป็นการทำความสะอาดครั้งสุดท้าย ไม่งั้นคงไม่ทั้งรกและฝุ่นหนาขนาดนี้ ร่างเล็กกุมขมับตัวเอง อยากจะอ้าปากด่าไอ้เพื่อนเวรที่ไม่รู้จักทำความสะอาดกับเขาบ้าง แต่ทำอะไรไม่ได้ก็มาขอเขาอยู่นิ

     

              “ลำบากหน่อยนะครับ”ร่างสูงที่มายืนซ้อนอยู่ข้างหลังตั้งแต่เมื่อไหร่เขาเองก็ไม่อาจทราบได้ ทำให้ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อยก่อนจะหันไปมองหน้าร่างสูงเล็กน้อย

     

              “กูลำบากตั้งเจอหน้ามึงละ”ร่างเล็กเดินเข้าไปในห้องก่อนจะเปิดผ้าม่านสีมืดออกเป็นอันดับแรกก่อนจะเปิดหน้าตาห้องออกด้วยเพื่อระบายลม ร่างเล็กก้มเก็บชีทที่วางอยู่ข้างเตียงที่รกไปหมดเข้ารวมกัน เมื่อหยิบเสร็จเรียบร้อยก็เดินไปเปิดผ้าคลุมกลองชุดของเพื่อนออกเพื่อไปทำความสะอาด ก่อนร่างเล็กจะชะงักและหันไปมองหน้าห้องที่ยังมีร่างสูงยืนมองนิ่งๆอยู่ที่เดิม “ถ้าไม่คิดจะช่วยก็ออกไปป่ะ”

     

              “ผมจะยืนให้กำลังใจละกันนะครับ”

     

              “กวนประสาท”ร่างเล็กบ่นก่อนจะโยนผ้าคลุมกลองไปไว้ด้านนึง ร่างเล็กหยิบผ้าเช็ดหน้าของตัวเองออกมาก่อนจะพันๆและมัดปิดจมูกปิดปากตัวเองทันที เขาไม่ใช่คนแพ้ฝุ่น แต่เจอในปริมาณมากๆแบบนี้ก็ไม่ไหวเหมือนกัน ร่างเล็กจัดการถอดผ้าทุกชิ้นในห้องออกให้หมดไม่ว่าจะผ้าปูที่นอน ผ้าม่าน สารพัดผ้าถูกโยนไว้มุมนึงของห้อง “เอาไปไหน?”

     

              ร่างสูงที่อยู่ๆก็เดินเข้ามาในห้องเดินตรงไปหยิบกองผ้าขึ้นมา ทำให้ร่างเล็กหันไปมองทันที ก็เดี๋ยวมันแกล้งอะไรเขาอีกแล้วเขาก็หนีอีกรอบสิ

     

              “ซัก”พูดจบร่างสูงก็เดินหยิบผ้าทั้งหมดลงบันไดไป จะบอกว่าเขาทนเห็นคนตัวเล็กๆทำนู่นทำนี้คนเดียวไม่ไหวละมั้ง ดูแขนที่มันเปราะบางแบบนั้นเดี๋ยวคนอื่นมาเจอจะหาว่าเขาแกล้งเด็ก(?)

     

              ร่างเล็กวิ่งตามคนตัวสูงลงมา ก่อนจะชะโงกหน้าไปมองร่างสูงที่กำลังกดเครื่องซักผ้าอยู่อย่างชำนาญ กัสยิ้มออกมาเล็กน้อย ถึงมันจะกวนแต่ก็มีข้อดีแหละ ผู้ชายเดี๋ยวนี้หาทำงานบ้านเป็นที่ไหน

     

              “ไม้กวาด ไม้ถูพื้นและถังน้ำอยู่ไหนวะ?”

     

              “เดี๋ยวผมถือขึ้นไปให้พี่ขึ้นไปทำความสะอาดต่อเถอะ”

     

              “นี่กูได้ยินอะไรผิดไปป่ะวะ ฮ่าๆๆๆ”ร่างเล็กหัวเราะเสียงดังทำเอาร่างสูงกลับมาทำหน้าเรียบตามเดิม “ไม่แกล้งละๆ”ร่างเล็กตบบ่าน้องชายเพื่อนไปทีก่อนจะวิ่งขึ้นห้องไป ร่างสูงมองตามร่างเล็กก่อนจะส่ายหัวเล็กน้อย

     

              “พูดดีด้วยก็กวนกูจัง”ร่างสูงบ่นก่อนจะหยิบของที่ร่างเล็กต้องการและเดินขึ้นไปด้านบน ร่างเล็กที่นั่งหอบอยู่กลางห้อง ใบหน้าที่มีเหงื่อเริ่มผุดขึ้นเต็มใบหน้า ทำให้เท้าของร่างสูงหยุดลง มองภาพตรงหน้านิ่งๆ นี่เขาแกล้งมากเกินไปงั้นหรอ? ร่างสูงคิดในใจ

     

              “เฮ้ย เร็วดิวะ”ร่างสูงได้สติอีกครั้งหลังจากร่างเล็กที่หันมาเจอเขาเข้า เขาเดินไปวางของตรงหน้าร่างเล็กก่อนจะถอยหลังออกมา “มึงมีเครื่องดูดฝุ่นป่ะ? กูว่าห้องไอ้คุณไม่ธรรมดาแหละ โคตรของโคตรสกปรก”ร่างเล็กมองรอบห้องอย่างพิจารณาทำให้ร่างสูงที่กำลังมองหน้าร่างเล็กอยู่ยกยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย

     

              น่ารัก...

     

              “เฮ้ย ไอ้ฝันดี สรุปมีไม่มี?”

     

              “???”กู๊ดไนท์หันมามองหน้าร่างเล็กก่อนจะย่นคิ้วเข้าหากัน คนตัวเล็กก็ได้แต่แหกปากหัวเราะออกมาเล็กน้อยกับท่าทางเอ๋อแดกของร่างสูง

     

              “มึงไง ไอ้ฝันดี กู๊ดไนท์ หึหึ”

     

              “ไม่ต้องมาแปลชื่อผม - -”

     

              “ไหนเครื่องดูดฝุ่นอะ?”และไม่มีซะหรอกที่คนอย่างไอ้กัสจะเชื่อฟัง ร่างเล็กยิ้มขำก่อนจะมองหาเครื่องดูดฝุ่นทันที ร่างสูงถอนหายใจออกมา ไอ้แผนที่จะช่วยทำความสะอาดเก็บไปได้เลย กวนตีนขนาดนี้ยังมีแรงทำอีกเยอะ ร่างสูงไปหาเครื่องดูดฝุ่นที่ร่างเล็กต้องการและนำกลับมาวางไว้ และตัวเขาก็เดินลงมานั่งดูทีวีข้างล่างแทน

     

              ทำความสะอาดไปคนเดียวละกันนะครับ...

     

     

     

     

     

     

              หลังจากที่เพื่อนร่างบางเดินหายไปพร้อมกับเพื่อนใหม่ทำให้ตอนนี้เหลือเพียงแค่ภูมิและข้าวตังที่ยังนั่งอยู่ที่เดิม ทั้งสองคนหันมามองหน้ากันเล็กน้อยก่อนจะก้มหน้ากินข้าวต่อเหมือนไม่ได้ติดใจอะไรกับการหายไปของเพื่อน หลังจากกินข้าวเสร็จทั้งสองคนก็พากันเดินเล่นไปเรื่อยเพราะยังไม่รู้ว่าจะไปสิงอยู่ที่ไหนต่อ

     

              “เดี๋ยวกูไปดูการ์ตูนออกใหม่ก่อนนะ”ข้าวตังหันมาพูดกับร่างสูงที่พยักหน้ารับ แต่สุดท้ายก็เดินเข้ามาด้วยกันอยู่ดี ด้วยเหตุผลที่ว่าเขาเองก็ไม่รู้จะไปเดินที่ไหนเหมือนกัน “เฮียคับ การ์ตูนคราวก่อนที่ผมมาถามออกยังคับ?”ข้าวตังถามเฮียเจ้าของร้านอย่างสนิทสนม

     

              “ออกแล้ว อยู่ซอยสองเอ็งไปหยิบได้เลย”

     

              “ขอบคุณคับเฮีย”ร่างเล็กเดินไปตามทางอย่างชำนาญคนตัวสูงก็เดินตามไปอย่างไม่คิดอะไร ตาก็มองไปรอบๆร้านเผื่อมีเล่มไหนที่เขาอยากได้จะได้ซื้อกลับไปอ่านดูบ้าง ก่อนที่ร่างสูงจะหันกลับไปมองเพื่อนสนิทก่อนจะชะงักลงไปเล็กน้อยกับใบหน้ายิ้มกว้างที่กำลังมองหนังสือในมือเหมือนถูกใจของชิ้นนั้น ทั้งๆที่เขาก็รู้อยู่แล้วว่าเพื่อนเขาเป็นคนร่าเริงแต่คราวนี้มันถึงทำให้เขาอดมองไม่ได้

     

              “มึงดู กูรอนานมากกว่าจะออก ในที่สุดกูก็ได้มันมาจนได้”ข้าวตังหันมาฉีกยิ้มให้เพื่อนก่อนจะชี้เข้าเล่มเหมือนภูมิใจนำเสนอร่างสูงสุดๆ ร่างสูงยื่นมือไปยีหัวเพื่อนสนิทเล็กน้อยก่อนจะกอดคอพาไอ้เพื่อนที่หายไปกับหนังสือการ์ตูนเดินไปจ่ายตัง

     

              “เออๆ จ่ายตังก่อนเถอะ แล้วมึงจะเอาไปนอนกอดจะไม่มีใครว่าเลย”

     

              หลังจากนั้นทั้งสองก็พากันเดินออกมา บริเวณเสื้อผ้าร่างสูงหยิบเสื้อตัวนู่นตัวนี้ขึ้นมาก่อนจะถามเพื่อนสนิทว่ามันโอเคไหม ถ้าร่างเล็กตอบโอเคเขาก็โยนมันลงกระเป๋าที่แจกให้ใส่ของก่อนคิดเงิน ทำอยู่แบบนี้หลายตัวจนคนตัวเล็กต้องเบรกเพื่อนสนิทก่อนที่มันจะเยอะไปกว่านี้

     

              “ประทานโทษเถอะ กูรู้ว่ามึงรวยนะ แต่กลัวจะแบกกลับไม่หมดวะ”

     

              “มึงมีตั้งสองมือสองแขน กูอีกสองมือสองแขน ทีนี้รวมเป็นสี่ละจะกลัวไร”ร่างสูงยกยิ้มก่อนจะเดินเอาของทั้งหมดไปจ่ายตัง ร่างเล็กที่มองตามหลังร่างสูงได้แต่ส่ายหัวแต่สุดท้ายก็เผลอยิ้มออกมาเล็กน้อย เขาชอบมันเพราะเป็นแบบนี้แหละ ไอ้ภูมิเป็นคนขี้เล่น เวลาที่เขาอยู่ใกล้กับร่างสูงเขาจะรู้สึกดีทุกครั้ง

     

              เขาถึงอยากจะรักษาช่วงเวลาแบบนี้เอาไว้ก่อนที่จะไม่มีโอกาส...

     

              “ไป จะไปไหนต่อดีวะ? เดี๋ยวกูเอาของไปให้คนรถก่อนดีกว่าวะ”ร่างสูงมองถุงที่ตัวเองถือและอีกสองใบที่อยู่ที่คนตัวเล็กก่อนจะส่ายหัวออกมาเล็กน้อย ก็มันเยอะจริงอย่างที่คนตัวเล็กบอกนั่นแหละ - -

     

              “จะไปไหนก็ไปไอ้คุณชาย”

     

              “เอาถุงมาเดี๋ยวกูไปแล้วกลับมาแปป”ภูมิถือถุงทั้งหมดก่อนจะเดินหายไป ร่างเล็กเลยเดินดูอะไรแถวนี้ไปเรื่อย ก่อนปลายเท้าจะหยุดลงมองภาพตรงหน้า ร่างเล็กของผู้ชายหน้าตาน่ารักติดจะเรียบร้อยกำลังเดินมากับผู้ชายตัวสูงหน้าตาคมคายหล่อจนเขายังอดชมไม่ได้

     

              “อ่าว ข้าวตัง”ร่างเล็กทักขึ้นพร้อมรอยยิ้ม คนข้างๆเขาก็ส่งยิ้มเป็นมิตรให้กับเขาด้วย เป็นคนที่ยิ้มแล้วมีเสน่ห์จริงๆนะเขาเห็นแล้วอดอิจฉาไม่ได้

     

              “สวัสดีคับพี่พู่กัน”

     

              “มาคนเดียวหรอ?”

     

              “มากับภูมิน่ะคับ”

     

              “อ๋อ นี่เพื่อนพี่ชื่อฌาน เป็นเพื่อนที่เรียนพิเศษน่ะ ส่วนนี่น้องข้าวตังเรียนอยู่ที่เรียนเดียวกับพวกเราน่ะฌาน”พู่กันแนะนำคนข้างๆก่อนจะหน้าแดงขึ้น ข้าวตังมองปฏิกิริยาของคนตัวเล็กแล้วนิ่งไปเล็กน้อย พี่พู่กันชอบผู้ชายคนนี้หรอ?

     

              “ยินดีที่ได้รู้จักครับ”

     

              “คับ”

     

              “พี่ฝากบอกภูมิด้วยสิ ว่าหลังจากนี้พี่คงเปลี่ยนวันและเวลาเรียนแล้ว คงได้เจอแค่บางครั้ง”

     

              “ได้คับ”ข้าวตังตอบรับ ก่อนทั้งสองคนจะพากันเจอหายไป และไม่นานภูมิก็เดินกลับมาหาเขา ร่างเล็กเหม่อๆเล็กน้อยจนคนที่เดินอยู่ข้างๆอดสงสัยไม่ได้

     

              “มีไรป่ะวะ?”

     

              “เออ ไอ้ภูมิเมื่อกี้กูเจอ...”ร่างสูงเลิกคิ้วมองหน้าร่างเล็กเหมือนรอฟัง แต่แล้วไอ้ที่จะบอกว่าเจอพู่กันก็ลบความคิดนั้นทิ้งไปทันที เขาไม่อยากให้ภูมิไปเจอพู่กันอยู่กับผู้ชายคนอื่น “กูเจอตุ๊กตาตัวนึง แม่ง โคตรน่ารักวะ”

     

              “ฮ่ะๆ กูก็นึกว่าอะไร....ตัวไหนวะ กูซื้อไปให้พู่กันดีป่ะวะ?”ร่างสูงถามด้วยสีหน้าจริงจัง ใบหน้ายังคงแต้มไปด้วยรอยยิ้ม ร่างเล็กชะงักไปเล็กน้อยก่อนจะเผยยิ้มออกมาเหมือนเดิม

     

              “...อืม เหมาะกับพี่เขาดี”

     

              “จริงป่ะ? พากูไปดูดิ”ร่างสูงจับข้อมือร่างเล็กก่อนจะเป็นฝ่ายเดินนำออกไป ข้าวตังได้แต่มองข้อมือที่ถูกจับเอาไว้แบบนั้น ขาก็เดินตามร่างสูงไปเรื่อยๆ

     

              ขนาดอยู่กับกู มึงยังคิดถึงแต่เขาเลย...

     

              แล้วคนอย่างกูจะมีหวังบ้างไหมวะ ?

     

     

     

     

     

    ----------------------------- The Secret [100%] ----------------------------






     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×