คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : [SF] YunJae ความในใจจากเพื่อนสนิท 80%
1
“โอฮาโย โกไซอิมัสส!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!”
“เอาไอ้เด็กนั่นไปเก็บที!!”
“ญาตินาย แกก็เอาไปเก็บสิวะ!!”
“นับจากวินาทีที่มันแหกปากชั้นเลิกนับญาติกับมันแล้ว !!”
“ไอ้หมีเอาไปเก็บ !!!”ทุกอย่างกำลังอยู่ในสถานการณ์สงบสุขแล้วนะ หลังผมกับแจจุงเถียงกันอยู่นานสองนานว่าใครจะเก็บไอ้เด็กญี่ปุ่นที่เข้ามากวนผมแต่เช้า ตอนนี้เราสองคนอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น จริงๆไม่ได้ตั้งใจจะมาด้วยซ้ำ แต่เพราะไอ้เพื่อนเวร จองตั๋วเครื่องบินผิดแล้วพวกมันก็หายหัวไปอยู่ไหนกันก็ไม่รู้ตอนนี้ ให้ตายเถอะ !
“ไอ้เตี้ย จะทำไรให้ชั้นกับเพื่อนกิน?”ผมหันไปถามญาติของผมที่อยู่ที่นี้ มันอายุแค่ 13 เองเป็นเด็กผู้ชายตัวเตี้ย เป็นไอ้เด็กเตี้ยที่ไปปลุกผมกับแจจุงแต่เช้านั่นแหละครับ
“ผมไม่เตี้ยนะยุนโฮ!!”
“แกเตี้ยกว่าชั้น อย่าเถียงแล้วไปหาอะไรมาชั้นกินเร็วๆเลย”
“คุยไรกันน่ะ?”แจจุงหันมาทำหน้างงๆใส่ ก็ผมกับไอ้เตี้ยคุยกันเป็นภาษาญี่ปุ่น จริงๆไอ้เด็กนั้นมันพูดภาษาเกาหลีได้ แต่มันเคยบอกกับผมเอาไว้ว่า ‘ ผมอยู่ประเทศอะไรผมก็จะพูดภาษานั้น อย่าแม้แต่จะอ้าปากด่า ผมพอใจของผม ’ ดูเด็กมันกวนตีน
“ชั้นไล่มันไปหาไรให้กิน”
“เออดี”นึกว่าจะเกรงใจกัน แจจุงหากสนิทกับใครแล้วไม่เคยมีคำว่าเกรงใจสักนิด ใบหน้าหวานๆนั้นหากสนิทจะถูกลบด้วยคำพูดที่แสนกวนคนอื่นและหยาบจนไม่คิดว่า หน้าอย่างคิมแจจุงจะพูดออกมาได้ เพราะอย่างนี้ละมั้งเลยทำให้ผมชอบแจจุงมาได้ตั้งนาน
“มองไร ไอ้หมีอ้วน ไปช่วยเด็กมันเลย”แหนะ ดูมันไม่มีเกรงใจเจ้าของบ้านแล้วยังไล่ผมให้ออกไปทำอะไรกินอีก “ด่าอะไรชั้นในใจอีก เร็วอย่าช้า!”ดูมันทำ - - หลังที่ไล่ผมแจจุงก็นั่งไขว่ห้างหยิบหนังสือนิตยาสารของน้าผมขึ้นมาเปิดดู
“หน้าโง่ๆอ่านออกหรอนั่น”พูดจบผมก็รีบวิ่งหนีเข้าห้องครัวไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะได้ยินเสียงด่าไล่หลังตามมาติดๆ พอผมเดินเข้าห้องครัวก็เห็นไอ้เตี้ยมันกำลังหั่นมันฝรั่งกับแครอทอยู่ ผมดูอุปกรณ์ที่ไอ้เตี้ยมันเตรียมก่อนจะไปช่วยมัน “มองหน้าทำไมไอ้เตี้ย ไม่เคยเห็นคนหล่อรึไง”
“มองก็เพราะสงสัยว่าทำไมไม่หล่ออย่างปากพูดไง”ดูมันพูด สงสัยเหลือเกินว่ามันได้ใครมา- -??
“ยุนโฮ เฮ้ ทำผิดแล้วไปไกลๆผมทำเองดีกว่า”
“ไอ้เตี้ย- -”
“เรียกชื่อผมดีๆ ก่อนที่จะโยนไปให้หมากินแทน”
“ไอ้ยูโตะ ทำให้มันดีๆเลย”ผมชี้หน้ามันก่อนจะหยิบแครอทที่มันหั่นไว้แล้วขึ้นมากิน ยูโตะญาติของผมหรือลูกพี่ลูกน้องนั่นแหละ ผมสนิทกับมันพอควรก็เจอกันบ่อยๆ พอรู้ว่าได้ตั๋วมาผิดก็รู้ที่ๆต้องมาพักพิงทันที
“ยุนโฮ แฟนพี่หรอ?”ผมแทบจะสำลักแครอทที่กำลังกินอยู่ทันที ยูโตะวิ่งไปหยิบน้ำมาให้ผมก่อนจะหัวเราะออกมาเล็กน้อย “เรื่องจริงสินะ”
“บ้านแกสิวะ”
“เอ้า แล้วเป็นไรกัน??”
“เพื่อนสนิทเว้ย ไม่อยู่ด้วยดีกว่าพูดไรไม่รู้เรื่อง”ผมกำลังจะเดินออกจากห้องครัว “ชั้นกลับเย็นนี้นะ ขอโทษที่มารบกวน”
“รู้ตัวด้วย ฮะๆๆ”ยูโตะหัวเราะเล็กน้อยก่อนที่ผมจะส่ายหน้าแล้วเดินหายออกจากห้องครัวมา เห็นแจจุงยังคงอ่านนิตยาสารเหมือนเดิม ใจจดใจจ่อมากเลยนะ กำลังดูอะไรอยู่กันแน่ ผมเดินไปด้านหลังแจจุงก่อนจะชะโงกหน้าไปดูรูปผู้ชายโชว์ซิกแพคทั้งนั่นเลย
“จ้องไม่กระพริบ ไม่เคยเห็นหรือไง”
“ตกใจหมด มาไม่ให้สุ่มไม่ให้เสียง”
“ทำอย่างกับทำความผิดอย่างงั้นละ”
“ป่าวสักหน่อย -^-”หงุดหงิดแหะ ผมเดินหายเข้าไปที่ห้องนอนเก็บข้าวของเสื้อผ้าใส่กระเป๋าให้เรียบร้อยจะได้ไม่ยุ่งยากเวลาใกล้ถึงเวลา
หลังจากนั่นพวกเราก็กินข้าวลาไอ้เตี้ยเสร็จก็เดินทางออกจากบ้านไอ้เตี้ยมาที่สนามบิน วันนี้คนก็ไม่เยอะอย่างที่คิด ที่แปลกที่ผมได้ยินเสียงเอะอะโวยวายของคนเกาหลีจำนวนมากอยู่แถวนี้ พอหันไปก็เจอเด็กวัยรุ่นเกาหลีคาดว่าเด็กว่าผมทั้งนั่น
“เฮ้ย นั่นซีวอนป่ะวะ”แจจุงถาม
“เออวะ”ผมกับแจจุงเดินเข้าไปทักไอ้สิงโตที่หน้ามันดูจืดๆชอบกล อกหักหรือไงนะ “ไง ไอ้สิงโต หน้าบูดเป็นตูดสิงโตเลยนะมึง”
“บ้านพ่อแกดิไอ้เชี่ยยุน”
“แล้วนายมาทำอะไรที่นี้หรอซีวอน”แจจุงถาม เป็นไงละ กับคนไม่ค่อยสนิทพูดจาเพราะเชียวนะ กับผมนี่ใส่ไม่ยั้ง
“แคมป์กับโรงเรียนเก่าวะ”
“แล้วทำไมทำหน้างั้นวะ อกหักรึไง”เหมือนจะถามตรงประเด็นมันเลยหน้าบูดยิ่งกว่าเก่าเลยทีเดียว ตอนแรกกะจะไม่รู้สึกผิด แต่เพราะโดนแจจุงฟาดเข้าให้กลางหลังต่อมความรู้สึกผิดเลยเกิดขึ้นมานิดเดียว สาบานว่านิดเดียว “ใครทำเจ้าป่าอกหักวะ”เสียงผมค่อนข้างดังทำให้เด็กพวกนั้นหันมามองกันเป็นแถว ก่อนจะมีหนุ่มน้อยร่างบางเดินเข้ามาหาผม
“มีปัญหาป่ะฮะ”
O_O อึ้งสิครับ ไปต่อไม่ถูกเลยทีเดียว
“ฮะๆๆ ผมล้อเล่นน่ะฮะ”รอยยิ้มปรากฏบนหน้าหวานทันทีที่บอกว่าล้อเล่น ไม่ติดว่ามียีราฟเดินคุมจะจับดีดกะโหลกสักที “พี่เป็นเพื่อนพี่คิบอมด้วยสินะฮะ”
“น้องคิบอมมันน่ะ”ซีวอนบอก
โอ๊ะ!!
“งั้นก็...”พูดไม่เป็นภาษานิ้วชี้ระหว่างเด็กนี้กับซีวอนไปมา จำได้ว่ามันเคยเล่าว่ามันชอบรุ่นน้องที่โรงเรียนเก่าคนหนึ่งเป็นน้องของไอ้คิบอม มาเจอตัวจริงแล้วไม่แปลกใจจริงๆว่าใครกันที่กุมหัวใจของสิงโตคนนี้มาได้ตั้ง 5 ปี
“มีปัญหาเรื่องการพูดป่ะครับ”
“ปากดีเดี๋ยวตบคอสั้นเลยนะไอ้มินโฮ”ผมหันไปเหน็บไอ้น้องชายซีวอนที่มันเอามาบ่นให้เพื่อนๆฟังบ่อยๆว่าโดนน้องชายตัวเองเอาเค้าไปครอง “น้องคือคีย์สินะ”
“ฮะ”
“ไม่ได้เลิกกับมินโฮไปแล้วหรอวะ”
“พี่อยากรู้วิธีเอามินโฮมาคืนไหมละฮะ”
“ผม/ชั้นเตือนว่าพี่/แกอย่าอยากรู้เด็ดขาด”ซีวอนกับมินโฮพูดออกมาพร้อม แจจุงที่ยืนอยู่ข้างๆกระตุกแขนผมจนเซ ย้ำว่ากระตุก แต่ที่เซนี่ด้วยแรงมหาศาลของแจจุง
“ชั้นว่าแก อย่าเสือกเรื่องชาวบ้านแล้วไปได้แล้ว”ซีวอนอึ้งไปเล็กน้อยก็ไม่เคยเห็นแจจุงเป็นอย่างนี้สิท่า ไม่แปลกหรอกที่ไอ้วอนมันไม่เคยเจอแจจุงแบบนี้เพราะปกติวอนมันไม่สนใจเพื่อนรอบข้างมันด้วยซ้ำ เข้ากลุ่มก็น้อย วันๆเอาแต่เพ้อถึงน้องคีย์ เฮ้ออ
“ทำตามที่แจจุงบอกจะดีมาก”
“ชั้นบอกไว้หน่อยนะเว้ย หัดมองรอบตัวแกบ้าง ชั้นสงสารฮีชอลจริงๆวะที่ต้องคอยรับมือเวลาแกเมาเละแล้วต้องให้มันคอยดูแล”ผมพูด ซีวอนค้างไปเล็กน้อยก่อนที่จะเงียบไม่พูดอะไรเลย แล้วเดินหนีหายไปเลย
“ทำไมหรอฮะ”เด็กน้อยขี้สงสัยถาม
“ชอลลี่มันชอบซีวอนน่ะ”ผมไม่ได้ตอบนะ ผมหันไปมองตามเสียงที่พูดก่อนจะเห็นไอ้หน้าหล่อคิมคิบอมเป็นคนบอกน้องชายของตัวเอง ส่วนน้องมันก็หน้าขึ้นเครื่องหมายคำถามคิบอมเลยต้องพูดต่อ “มันกับชอลลี่เป็นเพื่อนด้วยกันมาตั้งแต่เด็กๆเพราะบ้านอยู่ข้างกันเลยทำให้ได้เจอและเล่นกันอยู่บ่อยๆ”คีย์พยักหน้าเป็นการรับรู้
“บอกคนอื่นถามซีวอนยัง ไอ้หมาดำ”แจจุงตอกอีกดอก
“เดี๋ยวชั้นจะแบ่งตะกร้อไว้ครอบปากนายอีกคนนะแจจุง”คิบอมตอกกลับไม่ยอมแพ้
“พูดว่าอะไรนะ พอดีฟังแปลภาษาหมาไม่ได้วะ”
“ฟังได้แต่ภาษาหมีสินะ”
“คิมคิบอม!!”
“คิมแจจุง!!”ทำไมตอนนี้ผมเหมือนดูหมาสองตัวกำลังขู่กันอยู่
“ไม่หยุดชั้นเอาน้ำร้อนมาสาดพวกแกสองคนแน่!”ทั้งสองคนเงียบก่อนจะหันมามองหน้าผมอย่างอาฆาตแค้น ก่อนที่ทุกอย่างจะแย่ไปกว่านี้ผมก็ดึงแจจุงออกจากตรงนั้นมาทันที “เจอกันที่โซลเพื่อน”ผมลา ก่อนจะตรงไปขึ้นเครื่อง แต่ยังได้ยินเสียงคิบอมไล่หลังมา
“เก็บเมียแกไปไกลๆเลย”เหตุผลที่แจจุงกับคิบอมต่อปากต่อคำกันแบบนั้นก็เพราะไอ้สองตัวนี้มันเป็นญาติห่างๆกัน เคยเจอกันตอนเด็กๆตั้งแต่คีย์ยังไม่เกิดเลย อยู่กันจนเอียนแล้วก็ต้องจากกัน เป็นเหตุผลที่แจจุงไม่เคยเห็นหน้าคีย์มาก่อน และสองคนนี้มาเจอกันอีกทีก็ตอนเข้ามหาลัยเนี่ยแหละ จำได้ว่าวันแรกวันวุ่นวายแค่ไหนกว่าจะแยกมันสองคนออกจากกันได้ แจจุงเป็นคนไม่ยอมแพ้ เหมือนกับคิบอมไม่มีผิด แต่เห็นมันเป็นแบบนั้น คนเดียวที่มันยอมแพ้คงมีอยู่แค่คนเดียว...
“คิดไรอยู่ยุนโฮ”
“ป่าวหรอก”
“สองคนนั้นหน้าสงสารนะ ฮีชอลก็ด้วย”
“อืม”คิบอมถึงเหมือนไม่มีอะไรให้กลุ้มใจเหมือนคนอื่น แต่พวกผมก็รู้ดีทั้งนั้นว่ามันพยายามซ่อนความรู้สึกของตัวเองขนาดไหน
“บางทีชั้นคิดว่าชั้นอาจทำมากเกินไปที่พูดจาแรงๆกับคิบอม”
“นายทำถูกแล้วละ...บางทีทำให้มันหยุดคิดไปสักพักก็คงดีเหมือนกัน”ผมบอกแจจุงพยักหน้าหงึกหงัก ส่วนซีวอนผมรู้ว่ามันชอบน้องคีย์นั่นมากแค่ไหน ความรู้สึกที่แอบชอบเค้าก็คงเหมือนผม แต่ต่างกันตรงที่คีย์มีแฟนแล้ว แต่แจจุงไม่มีใคร ส่วนฮีชอลนั่นเรียกว่าคนที่น่าสงสารที่สุดก็ว่าได้ รักเค้าข้างเดียวมาตั้งแต่เด็ก รักทั้งๆที่เค้ารักคนอื่นอยู่ แล้วคนอื่นนั่นดันมีแฟนอยู่แล้วด้วย
พอเห็นแบบนี้ผมก็รู้สึกว่าตัวเองโชคดีกว่าพวกนี้มากมายขนาดไหน แจจุงไม่มีใคร ผมได้อยู่ข้างกายเค้าตลอดเวลา ได้มีเค้าคุย ชวนทะเลาะ ปรึกษา และอีกมากมายที่ผมทำได้ แต่พวกนั้นทำไม่ได้ นั่นสินะ ผมโชคดีขนาดนี้แล้วทำไมยังไม่ยอมบอกชอบแจจุงอีกนะ...
“ถ้าวันนี้คือวันแรกที่เรารู้จักกัน...ชั้นอยากจะบอกนายว่า ชั้นชอบนาย และถ้าวันนี้คือวันสุดท้ายที่เรารู้จักกัน ถ้ามันไม่เว่อร์เกินไป ชั้นจะบอกนายว่า...ชั้นรักนายคิมแจจุง”ผมหันไปมองหน้าแจจุงที่กำลังนอนหัวซบไปอีกข้าง ผมยกมือขึ้นมาเกี่ยผมที่ปิดตาของแจจุงออก “ได้ยินชั้นใช่ไหม??”
...ต่อให้มีคนเป็นพันล้าน ชั้นสัญญาว่าชั้นพร้อมจะเป็นเพียงคนเดียวที่มีเพียงเธอในใจ...
ความคิดเห็น