ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : เหม่อลอย
แสงแดดยามบ่ายสาดส่องข้ามขอบหน้าต่างสัมผัสกับพื้นโต๊ะเรียนสีน้ำตาลแดง  เด็กหญิงวัย 15 ปีหน้าตาปกติไม่ขี้ริ้วขี่เหล่ ผมดำยาวแต่รวบเป็นหางม้าไว้แล้วผูกด้วยโบว์สีกรมท่าเพื่อความเรียบร้อยมองออกไปนอกหน้าต่างด้วยนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มอย่างเหม่อลอย มือขวาของเธอกำลังขีดเขียนประโยคยืดยาวประโยคหนึ่งซึ่งมีความหมายของข้อความแตกต่างจากสิ่งที่อาจารย์ประสงค์บอกให้จดบันทึกโดยสิ้นเชิง  ถ้าไม่เป็นเพราะเสียงดนตรีที่ดังออกมาจากห้องดนตรีสากลแล้วละก็ จิตใจของเธอคงไม่ล่องลอยออกไปขนาดนี้
“พี่คนหล่อ” คำพูดเหม่อๆพร้อมเสียงถอนหายใจลากยาวลอยออกมาจากปากคนช่างฝัน มีผลทำให้คนรอบข้างแอบหัวเราะ คิกๆ
“อัจฉรันยา  พิทักษ์เทพ” เสียงเรียกคนช่างเหม่อดังขึ้นด้วยน้ำเสียงชวนสยิวกิ้ว  เหมือนลางบอกเหตุร้ายอะไรซะอย่าง
“ค้  .  า” เสียงตอบรับของคนที่พึ่งตื่นจากฝัน  ลุกจากโต๊ะพรวดเดียวทำเอาเก้าอี้ที่เคยนั่งล้มตึงจนเกิดเสียงดัง
แล้วในวินาทีถัดมาทั้งห้องก็แปลเปลี่ยนอารมณ์เด็กเรียนห้องคิงไปเป็นอารมณ์ชวนปวดหัว
อีกครั้งหนึ่งในชีวิดที่เด็กหญิงผู้นี้สามารถเรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบข้างได้  แม้ว่าตัวเธอเองจะมิได้ตั้งใจเลยก็ตาม
อาจารย์หญิงประจำวิชาใช่มือนวดขมับลดอาการชวนปวดหัว โดยแอบเผยรอยยิ้มอย่างที่หาได้ยากนัก ปกปิดไว้ภายใต้ฝามือ
“ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจบทเรียนนี้ดีแล้วนะ ไหนตอบมาสิ  ค่าของฟังก์ชัน F จากคำตอบข้อเก้าคูนด้วยฟังก์ชัน G จากคำตอบข้อสิบ ยกกำลังสอง แล้วคูนด้วยค่า  (3.14) เท่ากับเท่าไร” อาจารย์ป้อนคำถาม  พร้อมประโยคเพิ่มความยากส์ “กรุณาตอบภายใน30วินาที”
คนถูกถามเหงื่อออกซิก ไอ้คำตอบข้อเก้าข้อสิบอะไรนั้นควรจะอยู่ในสมุดการบ้านของเธอตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ถ้าไม่เป็นเพราะเจ้าคุณเธอลืมทำการบ้าน
“เออ ” คนถูกตั้งคำถามคิดค้นเลขเด็ดในหัวสมอง “ห้า จุด  เออ .หก หนึ่งหนึ่งค่ะ”  เด็กหญิงตอบสีหน้ายังคงปั้นยิ้มด้วยความเกรงกลัวกับผลที่กำลังออกมา  เพราะคำตอบที่บอกไปนั้นได้จากการเดาสุ่มด้วยหัวสมองอันติงต๊องประจำห้องของเธอ
อาจารย์ยังไม่ทันให้ผลของคำตอบว่าถูกหรือผิด เสียงออดหมดคาบก็ดังขึ้นตามด้วยเสียงประกาศเรียกอาจารย์เข้าประชุม สำหรับเด็กหญิงช่างฝันแล้วเสียงนี้ไม่ต่างอะไรจากเสียงสวรรค์ กังสดารบัลลือก้องเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม อาจารย์ก็ได้มอบหมายการบ้านเลขคำนวณกองพะเนินกลับไปทำทิ้งท้ายก่อนออกจากห้อง 
เสียงบ่นเรื่องการบ้านสำหรับวันนี้เริ่มดังออกมาเป็นช่วงๆอย่างได้ใจความ โดยสร้างความอึดอัดใจให้กับคนช่างฝันที่มีความรู้สึกผิดเต็มหัวอก เพราะเป็นเหตุให้เพื่อนๆได้รับการบ้านเพิ่มหลายเท่าตัว
“ขอโทษนะ” คนช่างฝันกล่าวขอโทษเพื่อนๆที่นั่งอยู่ข้างเคียงอย่างสำนึกผิด
“สำหรับเรื่องอะไรล่ะ” เพื่อนหญิงที่นั่งอยู่ข้างเคียงหันมาถาม
คนช่างฝันมองหน้าคนหันมาถามอยางใจลอย แต่ในใจกลับคิดอิจฉาเพื่อนคนนี้อยู่ไม่น้อย  เพื่อนเธอคนนี้มีอะไรดีอยู่ในตัวหลายๆอย่าง เป็นทั้งหัวหน้าห้อง  ว่าที่ประธานนักเรียน นักเรียนตัวอย่าง แถมยังฉลาด  หัวทางด้านการเจรจายังเป็นเอก  ช่างมีอะไรๆแตกต่างจากคนช่างฝัน(เฟื่อง)โดยสิ้นเชิง ที่มีแค่หัวสมองธรรมดาแบบที่ขี้เลื่อยยังไม่อยากอยู่ แล้วเผลอฟลุกมาอยู่ห้องคิงได้อย่างน่าอัศจรรย์
“ก็ที่ฉันตอบคำตอบผิดทำให้พวกเธอ ต้องมีการบ้านเพิ่มไง” คนช่างฝันกล่าวให้เหตุผล
“อันๆ เลขข้อนั้นน่ะเธอไม่ได้ตอบผิดหรอก” เพื่อนคนเดิมกล่าว “ใช่ไหม  กาล” เพื่อนคนเดิมหันไปคุยกันเพื่อนชายใส่แว่นที่นั่งอยู่ข้างหลังคนช่างฝัน
“อือ” หนึ่ง พยางค์สำหรับคำตอบจากเพื่อนของช่างฝันอีกคนหนึ่งที่เราเรียกกันในห้องว่ากาล มาดเข้มขี้เก๊กเหมือนเด็กเก่งเรียนของกาลในตอนนี้แตกต่างจากเวลาปรกติที่กาลเป็นอยู่อย่างมาก เพราะโดยตามปกติแล้ว นายนี้จะหน้าหม้อขี้หลี บ้าเกมส์คอม ขึ้นสมอง แต่ก็อย่างว่าแหละไอ้เรื่องอัจฉริยะคิดเลขเร็วก็ต้องยกให้หมอนี้เช่นกัน
คนช่างฝันเซื่องซึมสายตายังคงมองสิ่งที่อยู่ข้างหน้าอย่างเหม่อๆ
“เอาน่า อันๆอย่าเศร้าไปหน่อยเลย วันนี้วันสำคัญของเธอนะ วันประกาศผลสอบชิงทุน P.E.N. ไง ยิ้มหน่อยสิ ทำหน้าบูดอย่างงี้ เดี๋ยวกรรมการมาเห็นก็ตัดสิทธิ์เอาหรอก” เพื่อนหญิงปลอบ
“ตัดสิทธิ์เหรอ ตัดสิทธิ์อะไร” คนช่างฝันหน้าบูดถามเพื่อน
“ก็สิทธิ์ในการได้รับทุนจากโครงการ P.E.N. ไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นช่วงเวลาหนึ่งปีเต็มๆ ไง”
เพื่อนสาวคนเดิมกล่าวชื่อทุนซะเต็มยศ
คนช่างฝันที่เคยหน้าบูดขนาดนี้เกิดอาการตาโตขึ้นมาด้วยความตกใจ “หมายความว่าไง ล่อเล่นรึเปล่า มาย อย่ามาแกล้งให้ฉันดีใจนะ” คนช่างฝันขู่เพื่อน ที่บังอาจเอาความหวังสุดเริดของเธอมาบอกให้แอบหลงดีใจ
“ก็ใช่นะสิ เธอได้ทุน” เพื่อนคนเดิมยืนยันคำตอบ
“แล้วเธอรู้ได้ยังไงอ่ะ ผลสอบชิงทุนมันประกาศเอาตอนสี่โมงเย็นของวันนี่นะ” คนช่างฝันพูดแล้วก้มดูนาฬิกาขอมือสีดำของตน “เหลือเวลาอีกตั้ง ครึ่งชั้วโมงแหนะ กว่าจะถึงเวลานั้น”
มายยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ คนช่างฝันจึงนึกสรรพคุณของเพื่อนคนนี้อีกข้อนึ่งออก  รองประธานชมรมหนังสือพิมพ์โรงเรียน ฉายยา ยัยตาสับปะรด รู้ทุกอย่าง จึงได้แต่พยักหน้ารับแล้วพยามเชื่อผลสอบที่เพื่อนบอก  ซึ่งถ้าเป็นจริงแล้วละก็คงจะเหมือนฝันเลยทีเดียว
มายยังคงส่งรอยยิ้มมาให้ แสดงความจริงที่เต็มเปลี่ยมล้นในสายตา
“งั้น ไปดูผลสอบชิงทุนเป็นเพื่อนหน่อยสิ นะ นะ” คนช่างฝันชวนเพื่อน
“ไม่ได้หรอก” มายตอบ “เดี่ยวฉันมีประชุมคณะกรรมการนักเรียนต่อ”
“อืม เหรอ” คนช่างฝันคราง  เธอเข้าใจในกิจของเหล่าบรรดาว่าที่หรือพวกคณะกรรมการนักเรียนดี  เพราะพี่สาวคนสวยของเธอเองมีหน้าที่ในการเป็นกรรมการนักเรียนคนหนึ่งในปีนี้
“อันๆ เราฝากเอาของที่ล็อกเกอร์ด้วยได้ไหม” มายขอความช่วยเหลือ
“เอาสิ รหัสอะไรล่ะ” คนช่างฝันถาม
“ก็รหัสเดิมนั้นแหละ” มายให้คำตอบ
คนช่างฝันพยักหน้าอย่างเข้าใจในเลขหมาย “แล้วมายจะให้ฉันเอาไปให้ที่ไหนล่ะ พรุ่งนี้วันเสาร์นะ”
“อย่าลืมล่ะ” เพื่อนคนเดิมตอบไม่ตรงคำถามแล้วรีบจำอ้าวออกจากห้องเรียนอย่างไม่จำเป็น
“พี่คนหล่อ” คำพูดเหม่อๆพร้อมเสียงถอนหายใจลากยาวลอยออกมาจากปากคนช่างฝัน มีผลทำให้คนรอบข้างแอบหัวเราะ คิกๆ
“อัจฉรันยา  พิทักษ์เทพ” เสียงเรียกคนช่างเหม่อดังขึ้นด้วยน้ำเสียงชวนสยิวกิ้ว  เหมือนลางบอกเหตุร้ายอะไรซะอย่าง
“ค้  .  า” เสียงตอบรับของคนที่พึ่งตื่นจากฝัน  ลุกจากโต๊ะพรวดเดียวทำเอาเก้าอี้ที่เคยนั่งล้มตึงจนเกิดเสียงดัง
แล้วในวินาทีถัดมาทั้งห้องก็แปลเปลี่ยนอารมณ์เด็กเรียนห้องคิงไปเป็นอารมณ์ชวนปวดหัว
อีกครั้งหนึ่งในชีวิดที่เด็กหญิงผู้นี้สามารถเรียกเสียงหัวเราะจากคนรอบข้างได้  แม้ว่าตัวเธอเองจะมิได้ตั้งใจเลยก็ตาม
อาจารย์หญิงประจำวิชาใช่มือนวดขมับลดอาการชวนปวดหัว โดยแอบเผยรอยยิ้มอย่างที่หาได้ยากนัก ปกปิดไว้ภายใต้ฝามือ
“ดูเหมือนว่าเธอจะเข้าใจบทเรียนนี้ดีแล้วนะ ไหนตอบมาสิ  ค่าของฟังก์ชัน F จากคำตอบข้อเก้าคูนด้วยฟังก์ชัน G จากคำตอบข้อสิบ ยกกำลังสอง แล้วคูนด้วยค่า  (3.14) เท่ากับเท่าไร” อาจารย์ป้อนคำถาม  พร้อมประโยคเพิ่มความยากส์ “กรุณาตอบภายใน30วินาที”
คนถูกถามเหงื่อออกซิก ไอ้คำตอบข้อเก้าข้อสิบอะไรนั้นควรจะอยู่ในสมุดการบ้านของเธอตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ถ้าไม่เป็นเพราะเจ้าคุณเธอลืมทำการบ้าน
“เออ ” คนถูกตั้งคำถามคิดค้นเลขเด็ดในหัวสมอง “ห้า จุด  เออ .หก หนึ่งหนึ่งค่ะ”  เด็กหญิงตอบสีหน้ายังคงปั้นยิ้มด้วยความเกรงกลัวกับผลที่กำลังออกมา  เพราะคำตอบที่บอกไปนั้นได้จากการเดาสุ่มด้วยหัวสมองอันติงต๊องประจำห้องของเธอ
อาจารย์ยังไม่ทันให้ผลของคำตอบว่าถูกหรือผิด เสียงออดหมดคาบก็ดังขึ้นตามด้วยเสียงประกาศเรียกอาจารย์เข้าประชุม สำหรับเด็กหญิงช่างฝันแล้วเสียงนี้ไม่ต่างอะไรจากเสียงสวรรค์ กังสดารบัลลือก้องเลยทีเดียว
อย่างไรก็ตาม อาจารย์ก็ได้มอบหมายการบ้านเลขคำนวณกองพะเนินกลับไปทำทิ้งท้ายก่อนออกจากห้อง 
เสียงบ่นเรื่องการบ้านสำหรับวันนี้เริ่มดังออกมาเป็นช่วงๆอย่างได้ใจความ โดยสร้างความอึดอัดใจให้กับคนช่างฝันที่มีความรู้สึกผิดเต็มหัวอก เพราะเป็นเหตุให้เพื่อนๆได้รับการบ้านเพิ่มหลายเท่าตัว
“ขอโทษนะ” คนช่างฝันกล่าวขอโทษเพื่อนๆที่นั่งอยู่ข้างเคียงอย่างสำนึกผิด
“สำหรับเรื่องอะไรล่ะ” เพื่อนหญิงที่นั่งอยู่ข้างเคียงหันมาถาม
คนช่างฝันมองหน้าคนหันมาถามอยางใจลอย แต่ในใจกลับคิดอิจฉาเพื่อนคนนี้อยู่ไม่น้อย  เพื่อนเธอคนนี้มีอะไรดีอยู่ในตัวหลายๆอย่าง เป็นทั้งหัวหน้าห้อง  ว่าที่ประธานนักเรียน นักเรียนตัวอย่าง แถมยังฉลาด  หัวทางด้านการเจรจายังเป็นเอก  ช่างมีอะไรๆแตกต่างจากคนช่างฝัน(เฟื่อง)โดยสิ้นเชิง ที่มีแค่หัวสมองธรรมดาแบบที่ขี้เลื่อยยังไม่อยากอยู่ แล้วเผลอฟลุกมาอยู่ห้องคิงได้อย่างน่าอัศจรรย์
“ก็ที่ฉันตอบคำตอบผิดทำให้พวกเธอ ต้องมีการบ้านเพิ่มไง” คนช่างฝันกล่าวให้เหตุผล
“อันๆ เลขข้อนั้นน่ะเธอไม่ได้ตอบผิดหรอก” เพื่อนคนเดิมกล่าว “ใช่ไหม  กาล” เพื่อนคนเดิมหันไปคุยกันเพื่อนชายใส่แว่นที่นั่งอยู่ข้างหลังคนช่างฝัน
“อือ” หนึ่ง พยางค์สำหรับคำตอบจากเพื่อนของช่างฝันอีกคนหนึ่งที่เราเรียกกันในห้องว่ากาล มาดเข้มขี้เก๊กเหมือนเด็กเก่งเรียนของกาลในตอนนี้แตกต่างจากเวลาปรกติที่กาลเป็นอยู่อย่างมาก เพราะโดยตามปกติแล้ว นายนี้จะหน้าหม้อขี้หลี บ้าเกมส์คอม ขึ้นสมอง แต่ก็อย่างว่าแหละไอ้เรื่องอัจฉริยะคิดเลขเร็วก็ต้องยกให้หมอนี้เช่นกัน
คนช่างฝันเซื่องซึมสายตายังคงมองสิ่งที่อยู่ข้างหน้าอย่างเหม่อๆ
“เอาน่า อันๆอย่าเศร้าไปหน่อยเลย วันนี้วันสำคัญของเธอนะ วันประกาศผลสอบชิงทุน P.E.N. ไง ยิ้มหน่อยสิ ทำหน้าบูดอย่างงี้ เดี๋ยวกรรมการมาเห็นก็ตัดสิทธิ์เอาหรอก” เพื่อนหญิงปลอบ
“ตัดสิทธิ์เหรอ ตัดสิทธิ์อะไร” คนช่างฝันหน้าบูดถามเพื่อน
“ก็สิทธิ์ในการได้รับทุนจากโครงการ P.E.N. ไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่นเป็นช่วงเวลาหนึ่งปีเต็มๆ ไง”
เพื่อนสาวคนเดิมกล่าวชื่อทุนซะเต็มยศ
คนช่างฝันที่เคยหน้าบูดขนาดนี้เกิดอาการตาโตขึ้นมาด้วยความตกใจ “หมายความว่าไง ล่อเล่นรึเปล่า มาย อย่ามาแกล้งให้ฉันดีใจนะ” คนช่างฝันขู่เพื่อน ที่บังอาจเอาความหวังสุดเริดของเธอมาบอกให้แอบหลงดีใจ
“ก็ใช่นะสิ เธอได้ทุน” เพื่อนคนเดิมยืนยันคำตอบ
“แล้วเธอรู้ได้ยังไงอ่ะ ผลสอบชิงทุนมันประกาศเอาตอนสี่โมงเย็นของวันนี่นะ” คนช่างฝันพูดแล้วก้มดูนาฬิกาขอมือสีดำของตน “เหลือเวลาอีกตั้ง ครึ่งชั้วโมงแหนะ กว่าจะถึงเวลานั้น”
มายยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ คนช่างฝันจึงนึกสรรพคุณของเพื่อนคนนี้อีกข้อนึ่งออก  รองประธานชมรมหนังสือพิมพ์โรงเรียน ฉายยา ยัยตาสับปะรด รู้ทุกอย่าง จึงได้แต่พยักหน้ารับแล้วพยามเชื่อผลสอบที่เพื่อนบอก  ซึ่งถ้าเป็นจริงแล้วละก็คงจะเหมือนฝันเลยทีเดียว
มายยังคงส่งรอยยิ้มมาให้ แสดงความจริงที่เต็มเปลี่ยมล้นในสายตา
“งั้น ไปดูผลสอบชิงทุนเป็นเพื่อนหน่อยสิ นะ นะ” คนช่างฝันชวนเพื่อน
“ไม่ได้หรอก” มายตอบ “เดี่ยวฉันมีประชุมคณะกรรมการนักเรียนต่อ”
“อืม เหรอ” คนช่างฝันคราง  เธอเข้าใจในกิจของเหล่าบรรดาว่าที่หรือพวกคณะกรรมการนักเรียนดี  เพราะพี่สาวคนสวยของเธอเองมีหน้าที่ในการเป็นกรรมการนักเรียนคนหนึ่งในปีนี้
“อันๆ เราฝากเอาของที่ล็อกเกอร์ด้วยได้ไหม” มายขอความช่วยเหลือ
“เอาสิ รหัสอะไรล่ะ” คนช่างฝันถาม
“ก็รหัสเดิมนั้นแหละ” มายให้คำตอบ
คนช่างฝันพยักหน้าอย่างเข้าใจในเลขหมาย “แล้วมายจะให้ฉันเอาไปให้ที่ไหนล่ะ พรุ่งนี้วันเสาร์นะ”
“อย่าลืมล่ะ” เพื่อนคนเดิมตอบไม่ตรงคำถามแล้วรีบจำอ้าวออกจากห้องเรียนอย่างไม่จำเป็น
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น