ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าหญิงเมืองหิมะ [ฟิคบารามอส]

    ลำดับตอนที่ #2 : เจ้าหญิง........หรือ.....องค์หญิง

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ย. 48


    บทที่ 1



                  “โร เล่นหมากรุกกัน” คำชวนที่ไม่น่าหลุดออกมาจากโอษฐ์เจ้าหญิงจากเดมอสทำเอาหนึ่งในสี่ขุนพลแห่งป้อมอัสวินต้องละสายตาจากหนังสือเล่มหนาพร้อมหันมองอย่างไม่เชื่อหู

                  กว่าเขาจะชวนมันเล่นด้วยกระดานหนึ่งยากแทบตาย แล้ววันนี้อยู่ดีๆมันมาชวนเขาเล่น

                  สรุปได้คำเดียวว่าแปลก

                  เจ้าหญิงไม่สมตำแหน่งไม่รอคำตอบ กางกระดานหมากรุกที่ถือมา วางเรียงตัวหมากด้วยอารมณ์หงุดหงิด

                  โว้ย ไอ้คาโลบ้า พรุ่งนี้จะเปิดเทอมอยู่แล้วนะ ทำไมยังไม่มาสักทีว่ะ



                   ระหว่างทางกลับเอดินเบิก ขบวนรถม้าป้อมอัศวินแวะผ่านประเทศคาโนวาลอย่างจำเป็น ในระหว่างนั้นเองทหารเอกของสำนักราชวังมาทูลเชิญเจ้าหญิงเรนอนและเจ้าชายคาโลให้เสด็จกลับวังด่วน

                  มันไม่บอกว่าไปทำไม  ไม่บอกแม้กระทั้งจะกลับมาโรงเรียนพระราชาอีกเมื่อไร

                  เธอรู้แค่ว่าสีหน้าของเรนอนซีดลงอย่างเห็นได้ชัดขณะบอกลาเพื่อน ส่วนเจ้าชายนักเก็บอาการก็ยังคงเก็นอารมณ์ตามาด

    หงุดหงิดโว้ย



                  พระราชวังสีขาวตั้งตระหง่ารับแสงที่สาดส่องมาจากดวงตะวันซึ่งกำลังจะจรจากขอบนภา  เกราตี วาเนบลี เดอะ ควีน ออฟ คาโนวาล หันพระพักตร์ไปยังทิศเหนือของภูมิประเทศ เส้นผมยาวสีเงินประกายสยายไปตามกระแสลมอุ่น

                 “เสด็จน้า หม่อมฉันมาแล้ว” สุรเสียงของเจ้าหญิงเรนอนตรัสบอกสตรีที่กำลังมองออกไปทางหน้าต่างที่ถูกเปิดออก

                   จอมภูตแห่งสโนว์แลนด์หันตามเสียงก่อนเอ๋ย“อย่าเรียกหม่อมฉันสูงส่งเช่นนั้นเลย พระองค์ หากเทียบตามสักย์ พระองค์ทรงเป็นถึงธิดาศัก…..”

                “อย่าเกราตี”  ดำรัสเรียบแต่แฝงไปด้วยพระอารมณ์ของเจ้าหญิงตรัสสั่งราชินี“อย่าเอ่ยถึงสิ่งที่เคยเกิดขึ้นนั้นอีก หากท่านเคารพเรา แม้ว่าในยามใดก็ตามโปรดให้เราเรียกท่านว่า เสด็จน้า และ…..\" น้ำเสียงสั่นราวสะกดกลั่นความหมองพระทัย“โปรดให้เราเป็นเสมือนหลานแท้ๆของท่าน มิใช่ แสดงเป็นอย่างที่ผ่านๆมาเลย”

                   “แต่ พระองค์ทรง…..”

                  “เกราตี!!! ”สุรเสียงปรามเย็นเยียบอย่างมิเคยเป็น ชนิดที่จอมภูตมิกล้าที่จะชี้แจงความจริงใดๆไปมากกว่านี้

                   เจ้าหญิงเรนอนถอนหายใจก่อนดำรัสถาม “ที่นั้นเป็นอย่างไรบ้าง พระชนนี ยังเหมือนเดิมใช่ไหม”

                    คนถูกถามเงียบไปชั่วขณะก่อนแจ้งสารที่ได้รับเป็นคำตอบ “ทุกสิ่งทุกอย่างยังคงดำเนินไปตามปรกติเพค่ะ พระราชินีทรงปลอดภัย…..แต่ว่า พระอาการของเจ้าฟ้ามงกุฎอยู่ขีดอันตราย จนหมอหลวงที่ตรวจพระอาการอาจไม่สามารถรับรองอะไรได้อีกแล้ว”

                  นัยน์ตาของเรนอนแฝงความเศร้า ด้วยเพราะหวญคิดถึงความทรงจำเก่า ที่แม้อยากจะหลงลืม

                  อยากกลับไปเหลือเกิน…….

                 “แล้วคณะเสนาบดีล่ะ”

                  คำถามที่เธอวิงวอนเบื้องบนโดยหวังไม่ให้เจ้าหญิงถาม  คำตอบที่ได้อาจทำให้พระองค์หม่องพระทัยไปมากกว่านี้

                 “เหมือนเดิมเพค่ะ”เกราตีกว่าหากแต่ไม่สบสายตาอย่างเคย

                 “เสด็จน้าโกหกไม่เก่ง”คำกล่าวจากเจ้าหญิงราวกับสามารถมองทะลุไปถึงความคิดของคนตรงหน้า

                พระมาดาของเจ้าชายคาโลถอนสายบัวเป็นการขออภัยโทษหนึ่งครั้งแล้วยอมกล่าวความจริง “ถ้ามองโดยผิวเผิน คณะเสนาบดีทำงานเต็มกำลังเพื่อบริหารประเทศ แต่เบื้องหลังตามที่สายสืบรางงานมา พวกเขาทั้งหมดกำลังวางแผนก่อการไม่สงบและตามหาของบางสิ่งในเอเดน”

               เจ้าหญิงได้รับฟังคำว่า ‘ไม่สงบ’ แล้วพระพักตร์ฉายแววเครียด แต่ไม่กี่วินาทีถัดมาก็ปรากฎรอยยิ้มเมื่อตั้งคำถามอีกหนึ่งคำถาม

                “แล้วสิ่งของนั้นจะช่วยสโนว์แลนได้ไหม”

                 “หลายคนเชื่อว่าสามารถช่วยได้”

                 “มันคืออะไร”

                   “เร…. “ เกราตีเกือบหลุดปากแต่ก็ตั้งสติได้ว่าเด็กสาวตรงหน้ากำลังใช่เวทย์สะกด “เจ้าหญิงเรนอนเพค่ะ คณะเสนาบดี กำลังวางแผนก่อความไม่สงบนะเพค่ะ พระองค์จะทรงช่วยพวกเขาหรือ”

                 “ถ้าความไม่สงบที่เกิดขึ้นนี้ทำให้แผ่นดินเมืองหิมะสุขสบายได้  มันก็สมควรที่เราจะช่วยพวกเขา”เจ้าหญิงตรัสแจงอย่างเรียบง่าย

               “สิ่งที่คณะเสนาบดีกำลังจะทำไม่ได้ช่วยสร้างความสงบสุขหรอกเพค่ะ เพราะพวกเขา กำลังวางแผนการปกครอง…….”

                 ประโยคทีถูกกล่าวชวนให้เรนนอนคิดถึงวันเวลาเมื่อสิบปีก่อน

                   ลานหิมะขาวที่จูกย้อมด้วยสีเลือด

                “….สายรายงานว่านามของพระองค์ถูกเอ่ยกล่าวถึงในแผนการของพวกเสนาบดีด้วย เพราะฉะนั้นเพื่อความปลอดภัย  เชิญเจ้าหญิงโปรดอย่าเสด็จกลับไปโรงเรียนพระราชาอีก โปรดประทับที่นี้ กองทัพคาโนวาลจะรวมพลังกันปกป้องพระองค์เอง”

    “หม่อมฉันคิดว่า เสด็จน้าทรงพระกังวลมากเกินไป”ตรัสแล้วเจ้าหญิงคาโนวานสรวนเบากับตนเอง “อันที่จริงชีวิตหม่อมฉันไม่สำคัญมากพอที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรต่อมิอะไร“ ถ้อยจากพระโอษฐ์ราบเรียบเฉยราวกับชินชาถึงความเงียบเหงา แต่ก็มิเท่าอีกพระดำรัสที่ทำเอาเกราต้องกะสดกลั่นความสงสารที่ตนมิอาจช่วยเหลือ “…….และไร้ค่าไม่สมควรได้รับการบรรณาการ….”

                  “แต่เจ้าหญิง…….”

        “เสด็จน้า….. ชีวิตของหม่อมฉันติดหนี้บุญคุณคาโนวาลจนยากเกินกว่าจะชดใช้ได้หมด ดังนั้นจึงไม่สมควรเลยที่จะให้ทหารเลวแม้สักคนหนึ่งต้องเสียชีวิตเพื่อหม่อมฉัน  ”

                    “หากพวกเสนาบดีต้องการชีวิตของหม่อมฉันจริง และหากชีวิตของหม่อมฉันสามารถช่วยชาวสโนว์แลน์ได้ หม่อมฉันก็ยอมจากโลกนี้ไปโดยยินดี เพราะหม่อมฉันไม่เคยหวงชีวิตตนเอง

                      หากหม่อมช่วยให้ใครสักคนมีความสุขได้ก็ถือเป็นเกียรติของหม่อมฉันอย่างสูง ไม่ใช่ในฐานะที่หม่อมฉันเคยเป็น แต่ด้วยฐานะที่หม่อมฉันอยากเป็น…..”สุรเสียงดำรัสชัดถึงพระดำริ เพียงแต่ไม่เอ๋ยประโยคสุดท้าย

                                     …..อยากเป็นแค่ภูตธรรมดาๆในสโนว์แลต์ตนหนึ่งที่หวังให้บ้านเกิดมีความสุข



                  เธอมิอาจกล่าวโน้มน้าวหทัยเจ้าหญิงคนสำคัญของดินแดนเมืองหนาวได้อีก ดำรัสนั้นยังคงตราตรึงความรู้สึกส่วนลึกของผู้เดี่ยวที่ได้รับฟัง

                  เด็ดเดี่ยวแม้ต้องโดดเดี่ยว……

                    อ่อนโยนแม้นอ่อนแอ….

                พระราชบุตรยืนประทับอยู่หน้า นัยน์ตาสีฟ้าแต่ไม่เยือกเย็นมองพระมารดาด้วยความนอบน้อม

                 “คาโล” พระมารดาเอ๋ยชื่อเขาหมือนเดิมๆทุกครั้ง “แม่เข้าใจดีถึงความสัมพันธุ์ระหว่างลูกกับเจ้าหญิงเฟลิโอน่า  แต่แม่ขอร้องลูก  แม่ฝากลูกปกป้องเจ้าหญิงเรนอนด้วย  อย่าให้ใครทำร้ายพระองค์ได้ โดยเฉพาะจากเจ้าชายยูเรสิต ”





    +=+++++==================================================================







    ประการแรก P ต้องขอโทดด้วยนา...........



    ที่หมักกับดองมานานนนนนนนนนนนนนนนนนนนนมมมมมมมมมมม



    จะพยายามปั่นค่ะ...........





    ตัวอย่างตอนต่อไป



    “เธอทำให้ฉันตกใจ” คำกล่าวโทษคงจะฟังขึ้นกว่านี้ หากคนกล่าวไม่ได้เป็นถึงบุตรชายฟีลิมัสซึ่งเป็นตระกูลนักฆ่าลือชื่อที่สุดในเอเดน





    .............



    “เฟรินแกน่าจะตายๆไปซะ”



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×