ลำดับตอนที่ #1
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : เรรีอัลเน่ ดอกหญ้าดอกนั้นคุณรู้จักไหม
          เคยมีตำนานเล่าถึง
อาทิตย์ที่ไม่เคยดับในดินแดนน้ำแข็ง ท่ามกลางอากาศที่หนาวจัดก็ยังมีดอกเกล็ดหิมะขึ้นงามได้
              แล้วท่ามกลางผืนดินซึ่งร้อนละอุ ดอกไม้นั้นก็ยังคงผลิกลีบงาม ส่งผ่านทุกความหอมหวญตามกระแสลม
            แต่ดอกไม้นั้นกลับไม่เคยมีใครมองเห็นคุณค่า อาจเพราะ ไม่ได้โดดเด่นอะไร หรืออดทน ..แข็งแกร่งมากเกินไปกระมัง
   
          เรรีอัลเน่ ดอกหญ้าดอกนั้นคุณรู้จักไหม
ภาพคนทั้งสองสัมผัสริมฝีปากกันเบื้องหน้า ตราตรึงความรู้สึกส่วนลึกของเดอะ ปริ้นเซส ออฟ คาโนวาล ยิ่งนัก
แต่ภาพหญิงสาวสีหน้าเหม่อลอยอย่างมิเคยเป็น บุรุษหนุ่มนักฆ่าจากซาเรดผู้เคยเลือดเย็น ถึงกลับต้องเกาหัวแกระๆ
“ดูอะไรอยู่หรอ เรนอน ” คำทักจากคิล ฟีลิมัส เพื่อนร่วมป้อมนิสัยแปลกๆ องค์หญิงหันมองก่อนโกหกคำโตด้วยความตกใจ 
“เออ ..ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คุณคิล” 
เธอไม่สบสายตาเขา คิลจึงชะโงกหน้าหันมองจากจุดๆเดียวกับเธอ
“อ่าว นั้น  มันคาโลกับเฟรินนี้นา” คำพูดโพล่งขึ้นจากชานคนเดิม “อ๋อ รู้แล้วๆ  เรนอนชอบคาโลนี้เอง”
เจ้าหญิงแห่งคาโนวาลมองสำรวจเดอะ คิลเลอร์ ออฟ ซาเรด  ก่อนเอยประโยคไม่สบอารมน์กับบทสรุปของคนตรงหน้า “คุณคิล  ชอบพูดอะไรแปลกๆนะค่ะ” แล้วเดินหนีจากมาด้วยอารมณโกรธาไม่จางหาย
บุรุษคนเดิมเกาหัวแกระๆ
ไม่เข้าใจเลย ว่าองหญิงเป็นแบบนี้กันทุกคนรึเปล่า
ท้องฟ้าที่ชาเริ่มสว่างไสว แต่ขบวนรถม้าของป้อมอัศวินปีสามยังคงหยุดพัก เนื่องด้วยเหล่าบรรดาชาวป้อมกำลังทิ้งดิงสู่ห้วงแห่งนิทรา
บุรุษนักฆ่าผู้เดียวลุกตื่นขึ้น ย่องเบาลงมาจากเกวียนรถ พบนกส่งสารจากครอบครัวตัวหนึ่งเกาะอยู่ที่กิ่งไม้ไม่ห่างไกล
“ขอบใจมาก เซต ” เด็กชายฟิลิมัสกล่าว ก่อนส่งสัตว์ตัวเดิมบินขึ้นสู่ขอบฟ้า
ทันใดคิลเปิดสาร อ่านงานใหม่ที่ตนพึ่งได้รับ
“แกรก!! ”เสียงกิ่งไม้หักเนื่องจากถูกน้ำหนักกดทบดังมาไม่ใกล้  แต่ด้วยสัชาติณายนักฆ่า วูบเดียวร่างของคิลก็หายวับ  แล้วไปปรากฎอยู่เบื้องหลังผู้บุกรุก พร้อมมีดเล่มเล็กจ่อต้นคอพร้อมคำขู่
“ไม่อยากตาย ก็บอกมาซะว่ามาทำอะไร”
เสียงคิลดังแผ่วเบาท่ามกลางบรรยากาศก่อนรุ่งสาง ทั่วทั้งบริเวณถึงกับต้องเงียบกริบไปอึดใจกับกลิ่นไอแห่งความตาย
“คุณคิล” น้ำเสียงหวานไม่แสดงอาการหวาดกลัว
“เรนอน?”
คิล ฟีลิมัส ชั่งใจเพียงชั่วครู่ก่อนชักมีดออกจากเหยื่อ แล้วเดินไปประจันหน้าตรงๆ
“คุณคิลมาทำอะไรที่นี่ค่ะ  นี่มันยังไม่เช้า”
เธอถามเขามาซะอย่างนั้น เธอต่างหากที่ควรเป็นฝ่ายตอบเขามากกว่าว่า เธอลงมาจากเกวียนคนเดียวตอนนี้ทำไม รู้ไหมว่ามันอันตราย
“รับงานใหม่ ” คิลตอบเรียบ “แล้วเรนอนล่ะ” นักฆ่ายังไม่เลิกสงสัยเจ้าหญิง
“ฉัน .เออ .ฉันมาส่งจดมายให้ ..เออ ให้ท่านแม่ ” ใบหน้านวดยามแดงเรืองนี้น่าแกล้งเล่นใช่ย่อย
“ท่านแม่ ?”  คำสั้นๆที่น่าจะหมายถึงคำถาม
“ตั้งแต่เปิดเทอมตอนขึ้นปีสองมา ฉันก็ไม่ได้เจอท่านแม่อีกเลย ฉันแค่มาส่งจดหมายถึงท่านก็เท่านั้น” เรนอนอธิบาย รู้สึกสงสัยไม่น้อยว่าอีตานักฆ่าคนนี้จะอยากรู้ไปเพื่ออะไร
“งั้น เออ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวไปจัดการเรื่องอาหารเช้าก่อนนะค่ะ ” เธอกล่าวตัดบทก่อนเดินหันหลังให้
“เดี่ยว” คำห้ามจากเดอะ คิลเลอร์ ออฟ ซาเรส “ขอฉันถามอะไรเธอบางอย่างได้ไหม”
“ค่ะ” เรนอนหันมอง “ถ้าฉันตอบได้ ฉันจะตอบ”
คิลนิ่งชั่วครู่  ก่อนเอ่ยคำถาม
“ระหว่างหน้าที่กับความรัก เรนอน ถ้าเป็นเธอ เธอจะเลือกอะไร ”
เดอะ ปริ้นเซส ออฟ คาโนวาลเงียบให้กลับคำถาม ครุ่นคิดเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นภายในใจ  แล้วให้คำตอบ
“ฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ  ว่าอะไรคือคำตอบที่เหมาะสมอย่างแท้จริง แต่มีนักรบคนหนึ่งซึ่งฉันเทิดทูลมาก เคยกล่าวว่า หน้าที่ ..ต้องซื่อสัตย์กับใจ ”
เพียงชั่ววินาทีที่เจ้าหญิงเดินจากไป  ทิ้งไว้เพียงแค่ประโยคสั้น และประโยคนั้นยังคงดังก้องกังวาลอยู่ในใจลูกชายหัวแก้วหัวแหวนจากตระกูลนักฆ่าที่มีชื่อเสียงแห่งซาเรต
มือหยาบที่เคยเปรอะด้วยเลือดของคนนับร้อย บัดนี้กำรายชื่อเหยื่อรายต่อไปแน่นอย่างน่าใจหาย
เรนอน ธีนอส
หน้าที่ต้องซื่อสัตย์กับใจ  บางทีประโยคนี้ จนชั่วชีวิตนักฆ่าอย่างเขาคงมิอาจเข้าใจมันได้
..................................................
              แล้วท่ามกลางผืนดินซึ่งร้อนละอุ ดอกไม้นั้นก็ยังคงผลิกลีบงาม ส่งผ่านทุกความหอมหวญตามกระแสลม
            แต่ดอกไม้นั้นกลับไม่เคยมีใครมองเห็นคุณค่า อาจเพราะ ไม่ได้โดดเด่นอะไร หรืออดทน ..แข็งแกร่งมากเกินไปกระมัง
   
          เรรีอัลเน่ ดอกหญ้าดอกนั้นคุณรู้จักไหม
ภาพคนทั้งสองสัมผัสริมฝีปากกันเบื้องหน้า ตราตรึงความรู้สึกส่วนลึกของเดอะ ปริ้นเซส ออฟ คาโนวาล ยิ่งนัก
แต่ภาพหญิงสาวสีหน้าเหม่อลอยอย่างมิเคยเป็น บุรุษหนุ่มนักฆ่าจากซาเรดผู้เคยเลือดเย็น ถึงกลับต้องเกาหัวแกระๆ
“ดูอะไรอยู่หรอ เรนอน ” คำทักจากคิล ฟีลิมัส เพื่อนร่วมป้อมนิสัยแปลกๆ องค์หญิงหันมองก่อนโกหกคำโตด้วยความตกใจ 
“เออ ..ไม่มีอะไรหรอกค่ะ คุณคิล” 
เธอไม่สบสายตาเขา คิลจึงชะโงกหน้าหันมองจากจุดๆเดียวกับเธอ
“อ่าว นั้น  มันคาโลกับเฟรินนี้นา” คำพูดโพล่งขึ้นจากชานคนเดิม “อ๋อ รู้แล้วๆ  เรนอนชอบคาโลนี้เอง”
เจ้าหญิงแห่งคาโนวาลมองสำรวจเดอะ คิลเลอร์ ออฟ ซาเรด  ก่อนเอยประโยคไม่สบอารมน์กับบทสรุปของคนตรงหน้า “คุณคิล  ชอบพูดอะไรแปลกๆนะค่ะ” แล้วเดินหนีจากมาด้วยอารมณโกรธาไม่จางหาย
บุรุษคนเดิมเกาหัวแกระๆ
ไม่เข้าใจเลย ว่าองหญิงเป็นแบบนี้กันทุกคนรึเปล่า
ท้องฟ้าที่ชาเริ่มสว่างไสว แต่ขบวนรถม้าของป้อมอัศวินปีสามยังคงหยุดพัก เนื่องด้วยเหล่าบรรดาชาวป้อมกำลังทิ้งดิงสู่ห้วงแห่งนิทรา
บุรุษนักฆ่าผู้เดียวลุกตื่นขึ้น ย่องเบาลงมาจากเกวียนรถ พบนกส่งสารจากครอบครัวตัวหนึ่งเกาะอยู่ที่กิ่งไม้ไม่ห่างไกล
“ขอบใจมาก เซต ” เด็กชายฟิลิมัสกล่าว ก่อนส่งสัตว์ตัวเดิมบินขึ้นสู่ขอบฟ้า
ทันใดคิลเปิดสาร อ่านงานใหม่ที่ตนพึ่งได้รับ
“แกรก!! ”เสียงกิ่งไม้หักเนื่องจากถูกน้ำหนักกดทบดังมาไม่ใกล้  แต่ด้วยสัชาติณายนักฆ่า วูบเดียวร่างของคิลก็หายวับ  แล้วไปปรากฎอยู่เบื้องหลังผู้บุกรุก พร้อมมีดเล่มเล็กจ่อต้นคอพร้อมคำขู่
“ไม่อยากตาย ก็บอกมาซะว่ามาทำอะไร”
เสียงคิลดังแผ่วเบาท่ามกลางบรรยากาศก่อนรุ่งสาง ทั่วทั้งบริเวณถึงกับต้องเงียบกริบไปอึดใจกับกลิ่นไอแห่งความตาย
“คุณคิล” น้ำเสียงหวานไม่แสดงอาการหวาดกลัว
“เรนอน?”
คิล ฟีลิมัส ชั่งใจเพียงชั่วครู่ก่อนชักมีดออกจากเหยื่อ แล้วเดินไปประจันหน้าตรงๆ
“คุณคิลมาทำอะไรที่นี่ค่ะ  นี่มันยังไม่เช้า”
เธอถามเขามาซะอย่างนั้น เธอต่างหากที่ควรเป็นฝ่ายตอบเขามากกว่าว่า เธอลงมาจากเกวียนคนเดียวตอนนี้ทำไม รู้ไหมว่ามันอันตราย
“รับงานใหม่ ” คิลตอบเรียบ “แล้วเรนอนล่ะ” นักฆ่ายังไม่เลิกสงสัยเจ้าหญิง
“ฉัน .เออ .ฉันมาส่งจดมายให้ ..เออ ให้ท่านแม่ ” ใบหน้านวดยามแดงเรืองนี้น่าแกล้งเล่นใช่ย่อย
“ท่านแม่ ?”  คำสั้นๆที่น่าจะหมายถึงคำถาม
“ตั้งแต่เปิดเทอมตอนขึ้นปีสองมา ฉันก็ไม่ได้เจอท่านแม่อีกเลย ฉันแค่มาส่งจดหมายถึงท่านก็เท่านั้น” เรนอนอธิบาย รู้สึกสงสัยไม่น้อยว่าอีตานักฆ่าคนนี้จะอยากรู้ไปเพื่ออะไร
“งั้น เออ ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันขอตัวไปจัดการเรื่องอาหารเช้าก่อนนะค่ะ ” เธอกล่าวตัดบทก่อนเดินหันหลังให้
“เดี่ยว” คำห้ามจากเดอะ คิลเลอร์ ออฟ ซาเรส “ขอฉันถามอะไรเธอบางอย่างได้ไหม”
“ค่ะ” เรนอนหันมอง “ถ้าฉันตอบได้ ฉันจะตอบ”
คิลนิ่งชั่วครู่  ก่อนเอ่ยคำถาม
“ระหว่างหน้าที่กับความรัก เรนอน ถ้าเป็นเธอ เธอจะเลือกอะไร ”
เดอะ ปริ้นเซส ออฟ คาโนวาลเงียบให้กลับคำถาม ครุ่นคิดเกี่ยวกับปัญหาที่เกิดขึ้นภายในใจ  แล้วให้คำตอบ
“ฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันค่ะ  ว่าอะไรคือคำตอบที่เหมาะสมอย่างแท้จริง แต่มีนักรบคนหนึ่งซึ่งฉันเทิดทูลมาก เคยกล่าวว่า หน้าที่ ..ต้องซื่อสัตย์กับใจ ”
เพียงชั่ววินาทีที่เจ้าหญิงเดินจากไป  ทิ้งไว้เพียงแค่ประโยคสั้น และประโยคนั้นยังคงดังก้องกังวาลอยู่ในใจลูกชายหัวแก้วหัวแหวนจากตระกูลนักฆ่าที่มีชื่อเสียงแห่งซาเรต
มือหยาบที่เคยเปรอะด้วยเลือดของคนนับร้อย บัดนี้กำรายชื่อเหยื่อรายต่อไปแน่นอย่างน่าใจหาย
เรนอน ธีนอส
หน้าที่ต้องซื่อสัตย์กับใจ  บางทีประโยคนี้ จนชั่วชีวิตนักฆ่าอย่างเขาคงมิอาจเข้าใจมันได้
..................................................
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น