ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Love twists รักพลิกล็อกของยัยคุณหนู

    ลำดับตอนที่ #5 : ความสุขที่ค้นเจอ

    • อัปเดตล่าสุด 30 ม.ค. 59


    -5

    ความสุขที่ค้นเจอ

    หลังจากหมดคาบเรียนในวันนี้  ฉันก็รีบบึ่งรถไปที่ โอมิต้า  พลาซ่า แหล่งช็อปปิ้ง และสถานที่เที่ยวกลางคืนของเกาะนี้  ที่ฉันต้องรีบมาที่นี่ทั้งที่นี่มันก็ หกโมงเย็นแล้ว เพราะพรุ่งนี้เป็นวันครบรอบ 6 เดือนของฉันกับแม็กก้า ฉันเลยต้องรีบมาซื้อของขวัญ เพราะกว่าฉันจะเลือกได้ก็คงต้องใช้เวลาหลายชั่วโมงอยู่เพราะฉันไม่เคยซื้อ ของขวัญให้ใคร และวันนี้ฉันก็ไม่ได้มาคนเดียวด้วยฉันลากยัยคริส เพื่อนตัวดีที่ทิ้งฉันไปทัวยุโรป และเพิ่งจะกลับมาช่วงเดือนก่อน  ชื่อเต็มๆของยัยนี่คือ คริสเตน   เอกส์เคอร์  เพื่อนสนิทคนเดียวที่ฉันมี เราคบกันตั้งแต่อายุ 7 ขวบ ฉันไว้ใจและรักยัยนี่มาก โฮะๆ เพราะหล่อนแสนดีและเข้าใจฉันตลอด หลังจากที่เจ้าหล่อนกลับมาก็โวยวายเอะอะยกใหญ่เมื่อรู้ว่าอัลเตอร์บอกเลิกฉันอย่างไม่ใยดี แต่เมื่อรู้ว่าฉันมีหนุ่มคนใหม่มาดามใจอย่างรวดเร็วก็หาว่าฉันมีอะไรไม่เคยบอกหล่อนเลยแหม!!เหมือนว่าหล่อนจะอยู่ให้ฉันปรึกษาสะนี่ (-_-^)

    “แกคิดไว้หรือยังว่าจะ ซื้ออะไร”

    คริสถามฉันทันทีเมื่อเรามาถึง ฉันได้แต่ส่ายหน้าให้หล่อน ยัยนี่ก็ถามแปลกๆเนอะถ้าฉันคิดไว้แล้วจะลากหล่อนมาทำไมให้หนักรถ

    “ฉันไม่รู้หรอก ถึงให้แกมาช่วยเลือกไง เห็นแก เชียวชาญทางด้านผู้ชาย”

    “แกหลอกด่าฉันอยู่หรือเปล่า”

    “บ้าหรอ!!  ฉันชมแกอยู่ต่างหาก แกอ่ะคิดมาก”

    คริสมองหน้าฉันอย่างเอาเรื่องก่อนจะเปิดประตูลงจากรถไปอย่างเชิดๆ ฉันเห็นอย่างนั้นจึงได้แต่ขำนิดๆก่อนจะเดินตามยัยคริสไป ระหว่างทางมีผู้ชายหลายคนส่งสายตาหวานเยิ้มให้ยัยคริส มันเป็นเรื่องปกติไปแล้วสำหรับยัยนี่  คริสเป็นคนสวย หล่อนเป็นสาวมั่นทันสมัย แถมลุกหล่อนที่ดูเซ็กซี่ไม่เบานั้นอีก ผู้ชายคนไหนเห็นก็ต้องมองกันอยู่แล้ว ใช่ว่าฉันจะไม่มีนะ ฉันก็สวยและฮอตไม่เบาแต่เนื่องจากทุกคนในเกาะนี้รู้ดีว่าฉันมีเจ้าของแล้วและดูเหมือนว่าจะของฉันจะหึงโหดไม่เบาเวลาไปไหนด้วยกันถ้ามีผู้ชายหันมามองฉันแม็กก้าก็จะส่งสายตาเฉือดเฉือนไปให้ผู้ชายคนนั้นจนตอนนี้ฉันเรตติ่งตกรุ่งริ่งไปหมดแล้วหล่ะ แต่ก็ดีเหมือนกัน บางครั้งฉันก็ไม่ชอบสายตาแทะโลมของผู้ชายหรอกนะ

    “นั่นมัน อัลเตอร์นิ  แต่เค้ามากับใครอ่ะ”

    คริสสะกิดฉันให้หันไปดูอัลเตอร์ กับผู้หญิงที่ควงเขามาซึ่งมันไม่ใช่คนเดียวกับยัยนางแบบโนเนมที่ฉันเคยเห็นเขาควง  หลังจากที่ฉันตกลงที่จะเริ่มต้นใหม่กับแม็กก้าฉันก็ไม่ได้สนใจอัลเตอร์อีกเลย อาจจะมีเห็นกันบ้างบางครั้งในมหาลัย แต่ก็แค่เห็นแปปเดียว

    Hi คริส ไม่ได้เจอกันนานเลยนะ”

    อัลเตอร์ทักทายยัยคริสตามประสาคนรู้จัก แล้วก็เบือนสายตามามองฉันก่อนจะยิ้มให้ มันเป็นยิ้มเหมือนทุกครั้งที่ฉันเคยเห็นและเคยได้รับจากเขาแต่หลังจากวันนั้นฉันก็ไม่ได้เห็นอีก และนั่นมันก็นานมาแล้ว

    “หวัดดี  ริต้าร์ ยังสวยเหมือนเดิมนะ”

    มีแค่เขาคนเดียวที่เรียกฉันว่า ริต้าร์ เพราะทุกคนต่างเรียกฉันว่าเบริต้าร์กันทั้งนั้น เขาเคยให้เหตุผลกับฉันว่าขี้เกียจเรียกชื่อเต็มและเรียกแบบนี้ก็ไม่เหมือนใครดี

    “อ้าว หวัดดี อัลเตอร์ ฉันนึกว่านายลงหลุมไปแล้วซะอีก ยังอยู่อีกหรอเนี่ย”

    “คริส” ฉันกระตุกแขนยัยคริสเบาๆ เมื่อเห็นว่าคำที่หล่อนพูดไปนั้นข่อนข้างจะแรงเกินไป  ฉันก็เข้าใจนะว่ายัยคริสอาจจะเจ็บแค้นแทนฉันและฉันเองก็ยอมรับว่าแอบพอใจนิดหน่อยที่ยัยคริสพูดอย่างนั้น

    “ไม่เป็นไรหรอก ริต้าร์ฉันไม่ถือสา ฉันจะคิดสะว่าเป็นคำทักทายเล่นๆจากเพื่อนแล้วกัน”

    “อ๋อหรอ แต่เผอิญ ฉันไม่ชอบเล่นๆสะด้วยฉันชอบอะไรที่จริงจังน่ะ”

    “นายมีอะไรก็รีบพูดมาเถอะ อัลเตอร์พวกฉันรีบน่ะ ไม่มีเวลามากหรอกนะ”

    ฉันรีบพูดตัดหน้าก่อนที่อัลเตอร์กับยัยคริสจะเปิดศึกกันตรงนี้ซึ่งมันไม่เป็นผลดีแน่ๆ เพราะมันจะทำให้ฉันเสียเวลาทิ้งไปโดยเปล่าประโยชน์

    “อัลเตอร์ไปกันเถอะค่ะ อย่ามาเสียเวลากับยัยพวกนี้เลย ไร้สาระเปล่าๆ”

    แหม!! หล่อนมีสาระนักสิย่ะ ฉันเริ่มหมั่นไส้ยัยหน้าวอกที่ควงมากับอัลเตอร์จริงๆ ไม่รู้ว่าสวยตรงไหน เดี๋ยวนี้นายนี่มีรสนิยมแบบนี้แล้วหรอ หน้าโอบแป้งยังกับไก่ที่ชุบแป้งเตรียมทอด แต่งหน้าหนาโบะอย่างกับจะไปเล่นงิ้ว โอ้ย!! ฉันละอยากจะเอาเท้ายันยอดหน้าเสียจริงๆถ้าไม่ติดว่าฉันเป็น นางเอก อ่ะนะ

    “หล่อนว่าใครไร้สาระย่ะ ยัยงิ้วหลงโรง ทีตัวเองควงผู้ชายระริกระหรีมีสาระมากเลยนะ คิดว่าสวยเริ่ดมาจากไหนย่ะ”

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!! นี่แกเป็นใครกล้าดียังไงมาว่าฉัน”

    “หยุด!!  มาร์กี้ คุณไม่ควรทำตัวอย่างนี้กับเพื่อนผมนะ”

    ยัยหน้าขาวสาวเท้าเข้ามาเงื้อมือจะตบยัยคริส โชคยังดีที่อัลเตอร์เอื้อมมือไปขว้าไว้ได้ก่อนและกระชากยัยนั่นออกไปจากตรงนี้ ชิ สมน้ำหน้า

    “ไปแล้วไปลับ อย่าได้กลับมาเป็นเสนียดชีวิตของพวกฉันอีกนะย่ะ”

    “พอได้แล้วยัยคริส ฉันอายคน ดูสิคนหันมองเต็มไปหมดแล้ว”

    ยัยคริสหันไปมองตามที่ฉันบอก หล่อนจึงหันไปยิ้มเจื่อนๆให้กับคนพวกนั้น  ฉันได้แต่ก้มหน้างุดๆเดินออกจากตรงนั้นมาเพราะกลัวว่าจะมีใครจำฉันได้ถ้าเรื่องนี้ถึงหูแม็กก้าแน่นอนฉันอาจต้องโดนสอบสวนยกใหญ่ซึ่งนั่นมันไม่ใช่เรื่องดี แน่ๆ YoY

    “เห้ย!!  รอฉันหน่อยสิแก”

    เสียงยัยคริสยังคง ร้องโวยวายตามหลังฉันมา ฉันหล่ะเหนื่อยจริงๆเวลาที่ไปไหนมาไหนกับยัยนี่แม้ว่าฉันจะชินแล้วแต่ฉันก็ยังอายอยู่นะโว้ย หน้าฉันไม่ได้ฉาบด้วยซีเมนต์หรือโบกด้วยครอกรีตหนานะย่ะ

    “พอแล้ว จะเสียงดังอะไรนักหนา “

    ฉันวิ่งไปกระชากแขนยัยคริส แล้ววิ่งหนีออกจากตรงนั้น  ฉันก้มดูนาฬิกา ดิจิตอล ฝังเพชรที่พ่อซื้อให้เป็นของขวัญวันเกิดเมื่อปีที่แล้วเห็นบอกราคาก็ประมาณ เลขเจ็ดหลักอ่ะนะ  ความจริงก็ไม่ได้ต้องการจะอวดใครหรอกนะว่าฉันรวยมากกกกกกกก!! (นี่ขนาดไม่อยากอวดนะย่ะ)ก็แค่ก้มมองดูเวลาเท่านั้นแหล่ะ  โอ้!! แค่แปปเดียวนี่มันหนึ่งทุ่มกว่าแร้วหรอนี่ ไม่ได้การแล้วฉันยังไม่ได้ซื้ออะไรเป็นชิ้นเป็นอันสักอย่างเลย

    “นี่แกช่วยฉันคิดสักทีสิ ว่าฉันจะซื้ออะไรให้แม็กก้าดี”

    “นาฬิกาเป็นไง ง่ายและดูดี ออก”

    “ไม่ฉันเห็นแม็กก้าเขามีหลายเรือนแล้ว”

    “งั้นสร้อยคออ่ะ โอเปล่า”

    “จะบ้าหรอแก เขาเป็นผู้ชายนะจะมาซื้อของจุกจิกอย่างผู้หญิงได้ยังไง”

    “ไอ้นั่นก็ไม่ดีไอ้นี่ก็ไม่เอาแล้วแกจะเอาอะไร” ยัยคริสเริ่มเท้าเอวมองฉันด้วยความรำคาญ ก็มันไม่ใช่อ่ะจะให้ฉันซื้อได้ไง รู้สึกแปลกๆออก - -*

    “ถ้าฉันรู้ฉันจะลากแกมาทำไม”

    “เออ เออ! ฉันผิดเองที่ถามอะไรไม่รู้จักคิด”

    (==^)

    “งั้นเอางี้สิ ของขวัญของแกก็ไม่ต้องเอาเป็นข้าวของแต่เอาเป็นเวลาที่แกมี พรุ่งนี้แกก็ใช้เวลาคลุกอยู่กับเขาทั้งวันไปเลย”

    “คลุก เคลิก อะไรพูดจาน่าเกลียด แต่ฉันว่าความคิดแกเข้าท่าดีแฮะฉันชอบว่ะ แต่ติดอยู่อย่างเดียวคือพรุ่งนี้ฉันมีเรียนนะแกอย่าลืมสิ”

    “เออ จริงด้วย งั้นเอางี้เดี๋ยวฉันจะลาให้โอเคเปล่า เอาแบบแกไม่ว่างต้องไปทำธุระอะไรอย่างงี้ ลูกสาวเจ้าของเกาะอย่างแกไม่น่าจะมีปัญหาไรหรอกมั้ง”

    “แต่ฉันไม่ชอบใช้เส้นนะ”

    “แต่แกก็ใช้อยู่บ่อยๆนิ” นั่นสิแค่วันเดียวจะเป็นไรไปอีกอย่างพรุ่งนี้คุณพ่อกับคุณแม่ก็ต้องเดินทางไปประเทศไทยแล้วฉันจะมาคอยอยู่บ้านคนเดียวให้เปล่าเปลี่ยวฤทัยไปเพื่ออะไร โฮะๆๆ  ^^

    ฉันไปส่งยัยคริสที่บ้านก่อนจะขับรถกลับคนเดียว  นี่ก็เกือบจะสามทุ่มแล้ว แม็กก้าโทรหาฉันจนสายแทบไหม้ ขอโทษนะที่รักบางครั้งคนเรามันก็ต้องมีความลับกันบ้าง 

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×