คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : แค่ฝันใช่ไหม
-2
แค่ฝันใช่ไหม
ฉันเดินลงมาอย่างสง่าดั่งนางพญาหงส์ ซึ่งฉันก็ไม่เคยเห็นเหมือนกันว่านางพญาหงส์เป็นยังไง ฮิฮิ นับวันนี้ฉันชักจะไร้สาระมากขึ้นแล้วสิฉัน เมดคนหนึ่งกำลังถูขอบบันไดข้างล่างอยู่ดีหล่ะฉันจะได้ถามหาคุณพ่อกับคุณแม่หน่อยเพราะฉันไม่เห็นท่านเลยทั้งอาทิตย์ที่ผ่านมาเห็นก็แค่แวบไปแวบมายังกับว่าไม่ได้อยู่บ้านหลังเดียวกันฉันก็พอเข้าใจหรอกนะว่าพ่อก็ต้องทำงานไหนจะที่บริษัทไหนจะเกาะไหนจะกิจการที่ต่างประเทศท่านจึงคอยไปต่างประเทศอยู่บ่อยๆส่วนแม่ไหนจะสมาคมต่างๆเนื่องจากท่านเป็นถึงภรรยาของเจ้าของเกาะนี้จึงทำให้ท่านได้เป็นประทานสามาคมต่างๆทำให้ต้องออกงานสังคมอยู่บ่อยๆ เฮอ! นี่แหล่ะชีวิตครอบครัวฉัน
“ป้าค่ะเห็นคุณพ่อกับคุณแม่บ้างไหม”
ฉันหันไปมองเมดที่กำลังถูพื้นอย่างถนุถนอมจะไม่ให้ถนุถนอมได้ไงขอบบันไดบ้านฉันเป็นทองคำแท้ตั้งแต่ข้างบนชั้นสามหยันชั้นโถงนะค่ะ
“คุณผู้ชายกำลังนั่งคุยกับแขกของคุณหนูในห้องรับแขกค่ะ ส่วนคุณผู้หญิงออกไปงานเปิดห้างสรรพสินค้าค่ะ”
“แขกของฉันหรอ ใครกัน”
“ไม่ทราบค่ะ” เมดคนนั้นส่ายหน้าช้าๆก่อนจะกลับไปทำงานของตัวเองต่อฉันเลือกที่จะเดินไปห้องรับแขกก่อนเพื่อจะเดินไปหาคุณพ่อถึงแม้ว่าท้องฉันจะร้องว่าหิวแค่ไหนแต่เนื่องจากความอยากรู้ของฉันจึงเลือกที่จะอดทนแขกที่ว่าคงไม่ได้หมายถึงนายนั่นหรอกนะคนอะไรจะหน้าด้านหน้าทนนั่งรอฉันได้เป็นสองชั่วโมงคงไม่ใช่เขาแน่ๆ
“นี่นายยังอยู่อีกหรอ”
แต่แล้วฉันต้องผิดหวังเมื่อคนที่อยู่กับพ่อก็คือนายแม็กก้าจริงๆ
“เบริต้าร์ทำไมพูดจาอย่างนั้นหล่ะลูกนี่แฟนลูกนะ”
โอ๊ะฉันลืมไปว่าฉันกับแม็กก้ากำลังคบกันอยู่แล้วคุณพ่อก็คิดว่าเราก็รักกันจริงๆ แล้วฉันจะแก้ตัวยังไงหล่ะทีเนี่ย=()=
“คือเราทะเลาะกันนิดหน่อยครับคุณพ่อ เบริต้าร์เธอโกรธผมมากเลยอ่ะครับ (_ _)”
ชิคุณพ่อ พ่อฉันย่ะไม่ใช่พ่อนายด้านมากนะ กลบเกลื่อนความจริงเก่งนักนะโธ่ ทำมาเป็นหน้าหง่อยกะเรียกคะแนนสงสารจากพ่อฉันหรอไม่มีทางสะหรอกพ่อฉันไม่มีวันหลงเชื่อคำพูดนายแน่
“งั้นปรับความเข้าใจกันนะลูกพ่อจะออกไปข้างนอกแล้ว”
“พ่อ =O=”
นี่ไม่น่าเชื่อว่าพ่อฉันจะหลงเชื่อคำพูดของนายนี่ไอ้บ้านี่มันต้องเป็นพวกพ่อมดหมอผีแน่ๆมันต้องทำของใส่พ่อฉันชัว
“นี่นายทำของใส่พ่อฉันใช่ไหม”
ฉันเปิดประเด็นทันทีหลังจากที่พ่อเดินออกไปข้างนอกแล้ว
“ไร้สาระน่า ^^”
นายแม็กก้าบอกกับฉันก่อนจะยิ้มแบบขันๆ น่าตลกตรงไหนย่ะ ความคิดฉันออกจะจินตนาการไปไกลออกจะเป็นความคิดที่สร้างสรรค์ถึงแม้จะไม่ใช่ในทางที่ดี :<
“เธอไม่หิวข้าวบ้างหรือไงตั้งแต่เช้าจนบ่ายสองเธอยังไม่ได้กินไรเลยไม่ใช่หรอ”
“ฉันไม่หิว >:”
จ๊อกกก จ๊อกกก ไอ้ท้องทรยศมาร้องอะไรตอนนี้ เสียฟรอมฉันหมดเลย โอ้ยหิวข้าว
“อ๋อหรอ เธอไม่หิวจริงๆสินะท้องร้องเสียงดังเลย ^_<”
“เรื่องของฉัน”
ฉันเดินหันหลังสะบัดก้นใส่นายแม็กก้าทันทีตอนนี้ฉันต้องรีบไปหาอะไรกินไม่งั้นไส้ฉันต้องกิ๊วแน่ๆเลยทำไมตอนนั้นไม่หิวอย่างนี้นะ ไอ้ท้องบ้าคิดอยากจะร้องตอนไหนก็ร้องหัดปรึกษาฉันบ้างสิ ทำไมวันนี้ฉันดูพาลๆแบบนี้นะต้องเป็นเพราะตื่นมาฉันเจอนายแม็กก้าเป็นคนแรกเลยมันเลยทำให้วันนี้ฉันหงุดหงิดกับทุกอย่างที่ขวางหน้า เดินมาตั้งนานแหล่ะยังไม่ถึงสักทีห้องทานข้าวนี่ บางครั้งฉันก็ไม่ค่อยชอบให้บ้านหลังใหญ่สักเท่าไหร่หรอกนะเพราะมันเหนื่อยกับการเดินมันยิ่งทำให้ฉันเสียพลังงานมากและหิวขึ้นมากด้วย :<
“มีอะไรกินบ้างอ่ะ”
ฉันถามเมดที่กำลังทำความสะอาดในห้องทานอาหารอยู่รู้สึกว่าบ้านฉันเนี่ยจะเดินไปทางไหนก็เจอแต่เมดทำความสะอาดอยู่ทุกที่เลยนะ
“เอ่อ คือว่าอาหารมื้อเที่ยงสำหรับวันนี้หมดแล้วค่ะแต่ถ้าคุณหนูต้องการอะไรบอกดิฉันได้นะค่ะดิฉันจะไปทำมาให้”
“งั้นอะไรก็ได้รีบๆเร็วๆด่วนเลยนะฉันหิว”
“ค่ะ”
“ไม่ต้องไปทำหรอกครับเพราะว่าคุณหนูของป้าจะออกไปทานข้าวกับผม”
“ฉันไปบอกนายตอนไหนย่ะ!!!!”
ฉันทำหน้าเหวี่ยงใส่นายแม็กก้าที่ไม่รู้ว่ามาโผล่ที่นี่ได้ยังไงและไม่รู้ว่ามาโผล่ตั้งแต่ตอนไหน คนยิ่งหิวๆอยู่ด้วยเดี๋ยวฉันจะเหวี่ยงให้บ้านแตกเลยคอยดู
“เธอไม่ได้บอกแต่ฉันบอกเอง ป้าครับมีอะไรทำก็รีบไปทำเถอะครับเดี๋ยวทางนี้ผมจัดการเอง”
“ค่ะ”
“เฮ!! แล้วอาหารฉันหล่ะ”
ป้านั่นไม่สนใจเสียงของฉันรีบเดินออกไปจากห้องนี้อย่างรีบๆตกลงใครเป็นเจ้านายใครเป็นแขกกันแน่ฉันชักจะสับสนขึ้นมาแล้วนะ
“ก็บอกแล้วไงว่าฉันจะพาไปกิน”
“ไม่ฉันไม่มีทางไปกินข้าวกับนายแน่นอน”
“งั้นเธอก็คงต้องทนหิวหน่อยนะ”
“ฉันไม่ได้หิว!!!!”
จ๊อกกก จ๊อกกกก วันนี้ฉันขายหน้าเพราะท้องร้องกี่รอบแล้วเนี่ย นายแม็กก้ามองหน้าฉันก่อนจะห้วเราะออกมาเบาๆ โอเค ฉันยอมแพ้ก็ได้ไปก็ไปชิ
“จะพาฉันไปใช่ไหมงั้นก็รีบๆสิ”
ในที่สุดฉันก็ได้กินข้าวสักทีอาหารวันนี้ที่นายแม็กก้าพามากินก็ไม่ได้หน้าเกลียดเท่าไหร่หรอกนะเขาพาฉันมากินอาหารไทยที่ร้านตั้งอยู่ใจกลางเมืองซึ้งฉันไม่เคยกินมาก่อนนี่เป็นครั้งแรกที่ฉันได้ลองชิมแล้วก็พบว่ามันอร่อยมาก ทีหลังฉันจะชวนเพื่อนมาชิมที่ร้านนี้บ่อยๆแล้วหล่ะ จริงสิพอคิดถึงเรื่องเพื่อนฉันเกือบลืมไปแล้วนะเนี่ยว่าฉันมีเพื่อนคบเหมือนกันแต่ช่วงนี้ยัยนั่นมัวแต่ไปทัวยุโรปทำให้ฉันขาดการติดต่อกับมันแต่อีกไม่นานมันก็คงจะกลับมาแล้วหล่ะฉันคิดว่างั้นนะเพราะว่ายัยนั่นไปตั้งแต่ต้นเดือนที่แล้วจนกลางเดือนนี้มันยังไม่โผล่หน้ามาเลย
“เดี๋ยวก็ทำหน้ายุ่งเดี๋ยวก็ทำคิ้วขมวด เธอกำลังคิดอะไรอยู่”
“แล้วทำไมนายต้องอยากรู้ทุกเรื่องที่ฉันคิดด้วยย่ะ”
“ก็เพราะว่าบางทีเธออาจกำลังคิดเกี่ยวกับเรื่องของฉันอยู่ก็ได้ฉันเลยอยากรู้เป็นธรรมดา”
“งั้นนายก็ต้องผิดหวังแล้วแหล่ะเพราะฉันไม่ได้คิดเรื่องของนาย ^____^”
แม็กก้าทำหน้ายุ่งใส่ฉันก่อนจะเรียกพนักงานมาเก็บเงิน ดีเหมือนกันที่ออกมากินข้าวครั้งนี้อิ่มจังแถมตังค์ยังอยู่ครบอีกต่างหาก อิอิ นี่ฉันกลายเป็นยัยขี้งกอย่างนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
“เธอประสาทกลับหรือเปล่าเดี๋ยวคิ้วขมวดเดี๋ยวยิ้มบ้าหรือเปล่า”
“ยุ่งน่า!!!!”
ฉันตวาดใส่นายนั่นอย่างรำคาญถึงแม้ฉันจะเหมือนคนบ้าจริงๆก็ตาม แต่เห้ย! แล้วฉันจะมาว่าตัวเองทำไมเนี่ยไร้สาระกันไปใหญ่แล้ว
“แล้วเธออยากไปไหนต่อหรือเปล่า”
“ไม่อ่ะฉันไม่ได้ถือเงินมา”
“ไม่เป็นไรฉันเลี้ยง”
“นายไม่ต้องมาเลี้ยงฉันหรอกฉันรวยน่า”
“แต่เธอก็ไม่ได้ถือเงินมาไม่ใช่หรอ”
“ก็ช่างฉันได้ป่ะนายแค่ขับรถไปส่งฉันที่บ้านก็พอ”
“งั้นก็ตามใจเธอ”
ฉันเพิ่งสังเกตเห็นว่าเริ่มมีคนมามุงดูฉันกับแม็กก้าเถียงกันอย่างคนอยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่นโดยเฉพาะเรื่องของเราสองคนแล้วด้วยยิ่งมีคนอยากรู้มากขึ้นก็ฉันสองคนเป็นคนดังนี่ค่ะเรื่องมีคนรู้จักเป็นธรรมดา ฉันหันไปยิ้มให้คนพวกนั้นอย่างเฝื่อนๆพร้อมกับรีบกระโดดขึ้นไปนั่งเป็นตุ๊กตาหน้ารถของแม็กก้าอย่างสงบเรียบร้อยจนนายนั่นหันมาหัวเราะน่าทางการกระทำของฉันมันน่าขำตรงไหนเชื่อเลยตอนเย็นถ้าฉันเปิดดูข่าวในอินเตอร์ต้องมีเรื่องเมาท์ซุบซิบเกี่ยวกับเรื่องของฉันกับแม็กก้าแน่นอน เบริต้าร์ฟันเฟิร์ม ทำไมบรรยากาศในรถมันถึงได้ดูเงียบๆวังเวงยังไงชอบกลแต่เงียบแบบนี้แหล่ะดีแล้วเพราะฉันก็ขี้เกียจมาต่อล้อต่อเถียงกับอีตานี่เหมือนกันผู้ชายอะไรเถียงเก่งกว่าผู้หญิงบางคนซะอีก
“มันไม่ใช่ทางกลับบ้านนี่”
ฉันโพล่งขึ้นทันทีที่เห็นว่าแม็กก้าเลี้ยวรถไปคนละทางกับทางกลับบ้านฉัน
“ฉันไม่ได้บอกว่าจะพาเธอกลับบ้านนี่คิดเองเออเอง”
“แต่ก่อนจะขึ้นรถนายบอกว่าตามใจฉันแล้วไม่ใช่หรอ”
“ก็ฉันยังไม่อยากกลับนี่นาเอาน่าไหนๆก็ออกมาแล้วเธอจะทำตัวอุดอู้อยู่แต่ในบ้านทำไม ^__^”
“-,.-“
ฉันเลิกเถียงนายแม็กก้าอย่างจำยอมมันก็จริงที่ว่าฉันทำตัวอุดอู้อยู่แต่ในบ้าน ก็ฉันไม่รู้ว่าจะไปไหนและไปกับใครเพื่อนฉันก็ไม่อยู่แฟนฉันก็ไม่มีฉันเลยเลือกที่จะอยู่ที่บ้านดีกว่ามันน่าสบายใจกว่ากันเยอะเลย สถานที่ที่นายแม็กก้าพาฉันมาคือสวนองุ่น นายนั่นพาฉันมาทำไมที่สวนองุ่นนี่ฉันไม่ได้อยากกินองุ่นฉันเกลียดองุ่นที่สุดเป็นอันดับสองรองจากการเกลียดนายแม็กก้าเลยก็ว่าได้
“นายพาฉันมาที่นี่ทำไม L”
“ฉันเคยได้ยินว่าเธอกลัวองุ่นมากฉันแค่อยากพิสูจน์ว่าเรื่องที่ฉันได้ยินมามันเป็นความจริงหรือเธอแค่แกล้งกลัวตามกระแสกลัวอะไรแปลกหรือเปล่า”
ไอ้บ้าเอ่ยจะมาอยากพิสูจน์ทำไมฉันไม่กระแดะขนาดจะแกล้งกลัวองุ่นแค่นี้หรอกนะถ้าฉันไม่ได้กลัวจริงๆ โธ่คิดมาได้ไงว่าฉันแค่แกล้งกลัวนายเอาเล็บขบเน่าๆคิดหรือไงว่ะแม่จ้าช่วยหนูด้วย ฮือๆ ไอ้บ้านี่มันจะต้องวางแผนฆ่าหนูทางอ้อมแน่ๆเลย T_T^
“ลงมาสิ”
“(- _- )( -_-)(-_- )( -_-) ไม่มีทางฉันไม่ลงแน่นอน”
ฉันดิ้นสุดชีวิตเมื่อนายแม็กก้าเดินอ้อมมาเปิดประตูรถทางฉันก่อนจะลากฉันลงมาจากรถฉันไม่ยอมฉันไม่มีทางไปแน่ๆ อ๊ากกก องุ่นองุ่นสดๆบนต้นเลย กรี๊ดดดดดดดดดด!!!!!!!
“เธอจะกรี๊ดทำซากอะไรห่ะ”
“ToT แม็กก้าฉันขอร้องหล่ะพาฉันไปจากที่นี่เถอะนะฉันไหว้หล่ะ ฮือๆๆ”
ฉันยกมือไหว้แม็กก้า นายนั่นเหมือนจะอึ้งๆที่เห็นฉันร้องไห้แล้วยกมือไหว้เขาแบบนี้ ตอนนี้ฉันไม่สนเรื่องศักดิ์ศรีอะไรทั้งนั้นขอแค่ฉันได้ไปจากตรงนี้ที่ตรงนี้พอ
“ยัยบ้าเอ้ย เรื่องแค่นี้ถึงกับร้องไห้เลยหรอ”
นายนั่นรีบปล่อยแขนของฉันทันที ฉันอาศัยจังหวะนี้วิ่งหนีออกจากที่ตรงนั้นถึงแม้ฉันจะไม่รู้ว่าต้องวิ่งไปที่ไหน แต่ดูเหมือนว่าแถวนี้จะมีแต่ไร่องุ่นเพราะฉันยิ่งวิ่งมากเท่าไหร่ยิ่งเจอมากเท่านั้นตอนนี้ฉันทั้งกลัวทั้งร้องไห้เหมือนคนบ้าฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมฉันถึงได้กลัวอะไรแบบนี้แต่ฉันคงตอบคำถามนี้ไม่ได้เพราะตั้งแต่จำความได้ฉันก็เกลียดและกลัวสิ่งนี้แล้ว
“นี่เธอจะบ้าหรือเปล่า วิ่งออกมาทั้งๆที่ไม่รู้จะไปไหนเนี่ยนะ”
“ฉันไม่รู้ ฮือๆๆๆ”
“ขึ้นรถ ฉันจะพาเธอกลับเอง”
ฉันไม่แม้แต่จะเถียงอะไรแม็กก้าเลยเพราะตอนนี้ฉันอยากออกไปจากที่นี่เป็นอย่างแรกส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง แม็กก้าพาฉันออกมาจากไร่องุ่นบ้าบอคอพอกนั่น
“นี่เธอยังไม่เลิกร้องไห้อีกหรอ”
“นายไม่มาลองเป็นฉันบ้างหล่ะ ฮึๆๆฮือๆ”
“ก็ได้ๆฉันเชื่อแล้วว่าเธอกลัวจริงๆ”
“นายมันบ้า เฮงซวยที่สุดฉันไม่น่ามาเจอกับนายเลย T,.T”
แม็กก้าเงียบไปทันทีที่ได้ฟังสิ่งที่ฉันพูดฉันก็ไม่รู้หรอกนะว่าตอนนี้เขากำลังคิดเรื่องอะไรอยู่แต่สิ่งที่ฉันพูดไปทั้งหมดมันมาจากก้นบึ้งของใจฉันล้วนๆ มันคงเป็นความซวยของฉันเองที่ได้มารู้จักกับเขา
“นี่นายจะพาฉันไปไหนอีก”
แม็กก้าไม่ได้พาฉันกลับบ้านอย่างที่ฉันตั้งใจเขาไม่ยอมตอบอะไรกับสิ่งที่ฉันถามเขาเอาแต่เงียบจนมันทำให้ฉันรู้สึกอึดอัดจนอยากจะกรี๊ดร้องออกมาให้สุดๆให้สะใจไปเลยแต่ฉันก็คงทำได้แค่คิดเพราะฉันไม่อยากทำเรื่องขายหน้าเป็นรอบที่สามของวันนี้ แม็กก้าพาฉันมาที่บ้านหลังหนึ่งซึ่งฉันก็ไม่รู้ว่ามันเป็นบ้านของใครแต่ที่แน่ๆมันไม่ใช่บ้านของฉันอย่างแน่นอนถึงแม้ว่าบ้านหลังนี้จะมีขนาดใหญ่พอๆกับบ้านฉันที่มีแต่คนเรียกว่าคฤหาสน์
“นี่บ้านฉันเอง”
แม็กก้าหันมาบอกฉันเหมือนกับรู้ว่าฉันกำลังคิดอะไรอยู่อันที่จริงเขาก็เคยบอกฉันแล้ว ว่าสีหน้าของฉันมันบ่งบอกทุกอย่างแต่ก็ไม่คิดว่ามันจะทุกเรื่องขนาดนี้ แต่เขาพาฉันมาที่นี่ทำไมกันฉันไม่อยากรู้จักบ้านเขาสักหน่อย
“ฉันมีเรื่องจะสารภาพกับเธอ”
“แล้วทำไมต้องมาที่บ้านนายด้วย =_=^”
“ลงมาเถอะแล้วฉันจะบอกกับเธอทุกเรื่อง”
ฉันเลือกที่จะเดินตามแม็กก้าไปเงียบๆเพราะฉันก็เริ่มลุ้นแล้วเหมือนกันว่าเขาปิดบังอะไรฉันกันแน่แม็กก้าพาฉันขึ้นไปในห้องนอนของเขานี่เขาคิดจะทำอะไรฉันหรือเปล่าเขาต้องหลอกฉันมาข่มขื่นแน่ๆ =()=
“ไม่ต้องทำหน้าอย่างนั้นฉันจะไม่ทำอะไรเธอ ถ้าเธอไม่เต็มใจให้ฉันทำ”
“ไม่มีวันที่ฉันจะเต็มใจแน่นอน”
“เธออยากรู้ใช่ไหมว่าอะไรที่ฉันจะสารภาพกับเธอ”
คิดจะเปลี่ยนเรื่องก็เปลี่ยนกันดื้อๆอย่างนี้เลยหรอฉันตามอารมณ์นายไม่ทันแล้วนะ :< แม็กก้าเดินไปเปิดตู้เสื้อผ้าและสิ่งที่ฉันได้เห็นในตู้นั้นมันทำให้ฉันช็อกมากและเริ่มจินตนาการไปต่างๆเพราะสิ่งที่อยู่ในตู้นั่นมันคือรูปถ่ายของฉันมันมีทุกอิริยาบถแต่ไม่มีรูปที่ฉันร้องไห้นี่เขาเก็บรูปฉันไว้ทำไมกันมันไม่ใช่รูปที่ฉันถ่ายเองแต่มันเป็นรูปที่ฉันถูกแอบถ่ายนี่เขาชอบฉันหรือเขาเกลียดฉันมากกันแน่นี่มันเรื่องบ้าอะไรกัน
“เธอเคยสงสัยบ้างไหมว่าทำไมฉันกับไอ้อัลเตอร์ที่เคยเป็นเพื่อนรักกันกับทะเลาะกันจนกลายเป็นศัตรูกันเพราะอะไร”
แม็กก้าเริ่มเล่าทุกอย่างความจริงฉันไม่เคยคิดสงสัยเลยนะ แต่ตอนนี้ฉันเริ่มจะสงสัยและสนใจแล้วหล่ะ
“ฉันแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งเข้าทั้งๆที่เพิ่งเจอหน้ากันครั้งแรก ผู้หญิงคนนั้นเขาไม่เคยจะสนใจฉันเลยด้วยซ้ำว่าฉันเป็นใครทั้งๆที่ฉันเป็นถึงหนุ่มฮอต แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันชอบผู้หญิงคนนั้นได้ยังไงแต่ฉันกับรู้สึกดีทุกครั้งที่ได้แอบมองเขาฉันแอบตามถ่ายรูปเขาทุกอิริยาบถยกเว้นตอนที่เขาร้องไห้เพราะฉันไม่อยากเห็นคนที่ฉันชอบเสียน้ำตา จากที่ฉันแค่ชอบเขาฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าความรู้สึกมันเปลี่ยนไปตั้งแต่ตอนไหนมันกลายเป็นฉันหลงรักผู้หญิงคนนั้นทั้งใจ ฉันคอยปรึกษาไอ้อัลเตอร์เสมอว่าฉันควรจะสารภาพรักกับเขาดีไหม แต่เธอรู้ไหมว่าไอ้อัลเตอร์มันบอกว่าไง”
แม็กก้าเว้นช่วงเวลาให้ฉันลุ้นระทึกเพราะฉันเองยอมรับเลยว่าตกใจมากที่ได้ยินเรื่องนี้แต่ฉันก็ไม่รู้ว่าควรจะบอกให้เขาหยุดพูดดีไหมแต่ฉันกับอยากฟังต่อ ฉันอยากรู้ว่ามันจะเป็นยังไงอ่ะ
“มันบอกฉันว่าอย่าเพิ่งบอกเขาเลยเดี๋ยวฉันจะเสียใจเปล่าๆ ฉันโง่มากที่ยอมเชื่อในสิ่งที่มันบอกและฉันก็มาตาสว่างอีกครั้งเมื่อรู้ว่ามันไปสารภาพรักกับผู้หญิงคนนั้นและเขาก็ยอมรับรักมันอย่างง่ายดายตอนนั้นฉันทั้งโกรธทั้งเสียใจฉันกลายเป็นคนบ้าเสียสติและฉันก็ตัดขาดความเป็นเพื่อนกับมันตั้งแต่วันนั้นฉันได้แต่ภาวนาให้มันเลิกกับผู้หญิงคนนั้นเร็วๆแต่เมื่อวันนั้นมาถึงจริงๆฉันกับภาวนาให้มันกลับมาคบกับผู้หญิงคนนั้นอีกไม่ว่าฉันจะต้องทำยังไงก็ตามเพราะฉันไม่อยากเห็นน้ำตาของคนที่ฉันรัก วันที่มันบอกเลิกเขาฉันอยากจะวิ่งไปกระทืบมันให้จมดินให้มันตายซะตอนนั้นไปเลยแต่ฉันก็กลัวกลัวว่าเธอคนนั้นจะเกลียดฉันฉันเลยทำได้แค่ยืนมองแล้วเจ็บปวดไปพร้อมๆกับเขา”
พอมาถึงตอนนี้น้ำตาของฉันที่มันเหือดแห้งไปแล้วในตอนแรกเริ่มที่จะไหลออกมาอีก ฉันอดไม่ได้จริงๆที่จะร้องไห้เพราะฉันสงสารเขาเหมือนว่าเขาจะรับกรรมเพราะผู้ชายคนที่ฉันรักมากมายขนาดนี้
“ฉันก็เลยอยากจะแก้แค้นให้เขาแต่ในใจลึกๆก็หวังว่าเขาอาจจะชอบฉันขึ้นมาบ้างถึงแม้ว่ามันจะไม่มีทางเป็นไปได้เลยก็ตาม เธอรู้ใช่ไหมว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”
ฉันได้แต่ส่ายหน้าไม่ใช่ฉันไม่รู้ว่าเขาหมายถึงฉันแต่ฉันแค่ไม่อยากรับรู้เรื่องราวทั้งหมดในตอนนี้ใจฉันยังไม่เข้มแข็งพอ ที่จะรับรู้ว่ามีคนที่ชอบฉันและนี่มันเป็นสิ่งที่ฉันไม่คาดคิดเขาไม่เคยแสดงออกเลยว่าชอบฉันเขาต้องแกล้งฉันแน่ๆมันไม่ใช่ความจริงหรอก ถึงแม้ว่าฉันจะพยายามคิดอย่างนั้นแต่เมื่อฉันเห็นสายตาที่จริงจังของนายนั่นมันทำให้น้ำตาของฉันไหลลงมากขึ้นเรื่อยๆฉันไม่อาจจะรับความรู้สึกนี้ได้หรอกนะในเมื่อฉันไม่ได้รักหรือชอบเขาเลย และฉันก็ยังไม่พร้อมที่จะมีใครในตอนนี้ด้วย
“อย่าร้องไห้ ฉันบอกว่าอย่าร้องไงหล่ะ!!!”
แม็กก้าตะคอกเสียงใส่ฉัน มันยิ่งทำให้น้ำตาของฉันไหลมากขึ้นอีกแทนที่ฉันควรจะหยุดร้องตามที่เขาบอกแม็กก้าดึงฉันเข้าไปกอด เป็นครั้งแรกที่ฉันได้กอดเขาฉันรู้สึกอบอุ่นอย่างบอกไม่ถูก ฉันอยากจะปฏิเสธอ้อมกอดนี้แต่ฉันกับรู้สึกเสียดายเลยได้แต่ยืนให้เขากอดเฉยๆ
“ผู้หญิงคนนั้นคือเธอเบริต้าร์ ฉันเกลียดทุกคนที่ทำให้เธอร้องไห้เธออย่าทำให้ฉันเกลียดตัวเองไปมากกว่านี้เลยนะ ฉันขอร้อง (_ _)”
ฉันพยายามเช็ดคราบน้ำตาที่เปื้อนอยู่ที่หน้าฉันก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพอเขาพูดอะไรแบบนี้ฉันถึงได้ยอมหยุดร้องง่ายๆ ฉันอาจจะกำลังสงสารเขาแน่ๆใช่ฉันต้องสงสารเขาอยู่สินะฉันถึงได้เป็นแบบนี้
แม็กก้าพาฉันมาส่งที่บ้านเขาไม่ยอมพูดอะไรเลยสักคำมันยิ่งทำให้ฉันสับสนฉันนึกถึงเหตุการณ์นั้นแล้วก็ได้แต่งงฉันสงสัยว่าเพราะอะไรเขาถึงได้คิดจะสารภาพกับฉันรึเพราะเขาทำฉันร้องไห้ที่ไร่องุ่นแล้วเขามาบอกกับฉันแบบนี้เราจะมองหน้ากันติดได้ยังไงเพราะฉันเองไม่ได้มีความรู้สึกให้เขาเหมือนที่เขาให้ฉันสักหน่อยแต่ยังไงแผนการแก้แค้นก็คงจะต้องดำเนินต่อไปอยู่ดี ตี๊ดด ตี๊ดด
เสียงข้อความโทรศัพท์เข้ามันทำให้ฉันตกใจนิดหน่อยก่อนจะหยิบมันขึ้นมาอ่านต้องเป็นข้อความที่ส่งมาบอกให้ฉันกรุณาเติมเงินบ้าบอคอแตกนั่นแน่ๆ แต่อะนี่มันเบอร์ของแม็กก้านี่นา
‘ฉันรู้ว่าเธอไม่ได้รักฉันและมันคงยากที่เธอจะเปิดใจให้ฉันเพราะเธออาจจะยังลืมไอ้อัลเตอร์ไม่ได้ฉันเข้าใจดีและฉันก็รอได้ฉันจะรอจนกว่าเธอจะรักฉัน ขอแค่เธออย่าเพิ่งทำหน้าแปลกๆใส่ฉันเมื่อเราต้องเจอกันอีก ฉันจะทำทุกอย่างให้เธอลืมมันเองและขอโอกาสให้ฉันได้พิสูจน์สักครั้งว่าฉันรักเธอมากแค่ไหนมันมากกว่าไอ้ผู้ชายเห็นแก่ตัวคนนั้นแน่นอน’
‘แม็กก้า’
ในเมื่อนายกล้าขอขนาดนี้ฉันคงต้องให้นายแล้วหล่ะ ฉันเองก็อยากจะลืมเขาฉันหวังว่านายจะทำได้อย่างที่พูดนะเพราะฉันก็คาดหวังแบบนั้นเหมือนกัน แล้วทำไมฉันต้องมาคาดหวังในตัวนายนั่นด้วยหรือฉันจะแอบมีใจให้เขาไม่จริงแน่ๆฉันรู้ตัวฉันดีเสมอฉันยังไม่ได้ชอบเขาแน่นอน มั้ง (U_U)
ความคิดเห็น