คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ตอนที่ 3 : สาเหตุของความขัดแย้ง : ความแตกต่างทางด้านอุดมการณ์ทางเศรษฐกิจ
ผู้นำของรัฐบาลที่ดีจะต้องรักษาความมั่นคงให้เกิดขึ้นในรัฐ และทำให้ประชาชนของตนได้อยู่ดีกินดี
โดยทั่วไปแล้วประเทศต่างๆย่อมมีความอุดมสมบูรณ์และมีทรัพยากรที่ส่งเสริมเศรษฐกิจไม่เท่าเทียมกัน
จึงทำให้มีการใช้กำลังเข้าบุกรุก ขับไล่ และละเมิดอธิปไตยของประเทศอื่น
เพื่อตนจะได้เข้าครอบครองความอุดมสมบูรณ์นั้น
ระบบเศรษฐกิจอาจจัดจำแนกเป็นประเภทใหญ่ๆได้ 3 ระบบ คือ
1. ระบบเศรษฐกิจแบบเสรีนิยม( Free enterprise economic system)
ได้แก่ ระบบเศรษฐกิจทุนนิยม (capitalism) และระบบเศรษฐกิจแบบการตลาด
(market economic system) ผู้บริโภค ผู้ผลิตมีอิสระในการเลือกอย่างเต็มที่
รัฐบาลจะมีบทบาทจำกัดเฉพาะส่วนของการทำหน้าที่ให้บริการทางสังคม
เช่น การออกกฎหมาย การป้องกันประเทศ การสร้างโรงเรียน การสร้างถนน
การสร้างระบบสาธารณูปโภคต่างๆ การรักษาความสงบเรียบร้อย
และการสร้างความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน
2. ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม( socialistic economic system )
หรือการวางแผนจากส่วนกลาง หมายถึง ระบบเศรษฐกิจที่รัฐบาลมีกรรมสิทธิ์หรือเป็นเจ้าของ
ปัจจัยการผลิตที่มีอยู่ในระบบเศรษฐกิจ รายได้จากการที่รัฐเข้าดำเนินกิจการเหล่านี้จะนำไปใช้
ช่วยเหลือบุคคลที่มีรายได้น้อยโดยผ่านการจัดสวัสดิการเพื่อส่วนรวม
ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมอาจมีได้หลายรูปแบบพิจารณาได้จากลักษณะของการที่รัฐบาล
เข้าถือกรรมสิทธิ์ในทรัพยากรของชาติ ถ้าเป็นสังคมนิยมอย่างเข้มหรือระบบคอมมิวนิสต์
รัฐบาลอาจเข้าถือกรรมสิทธิ์ในทรัพยากรทั้งหมด แต่ถ้าเป็นสังคมนิยมอย่างอ่อน
รัฐบาลอาจเข้าถือครองกรรมสิทธิ์ในทรัพยากรและปัจจัยการผลิตบางชนิดได้
ปัจจุบันไม่มีประเทศใดใช้ระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยม
3. ระบบเศรษฐกิจแบบผสม( Mixed economy system) หมายถึง ระบบเศรษฐกิจที่มีลักษณะ
ส่วนหนึ่งเป็นแบบเสรีนิยมและอีกส่วนหนึ่งเป็นแบบสังคมนิยม ในส่วนที่เป็นแบบทุนนิยมเอกชนมีกรรมสิทธิ์
ในทรัพย์สิน ธุรกิจบางอย่างที่เอกชน เป็นผู้ประกอบการก็มีลักษณะแบบเสรีนิยม โดยทั่วไปกลไกการทำงาน
เป็นระบบการตลาดหรือราคา ส่วนที่เป็นแบบสังคมนิยมนั้น รัฐบาลจะควบคุมหรือดำเนินกิจการ
ในธุรกิจบางอย่างที่มีความสำคัญต่อความเป็นอยู่ของประชาชน เช่น สาธารณูปโภค อุตสาหกรรมหลัก
หรืออุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่ต้องลงทุนเป็นจำนวนมาก ซึ่งรัฐบาลจำเป็นต้องเข้าดำเนินการเอง เนื่องจาก
หาเอกชนลงทุนเองได้ยาก เสี่ยงต่อการขาดทุน แต่จำเป็นต้องมี เพราะเป็นปัจจัยพื้นฐานต่อการดำรงชีพ
เหตุที่รัฐบาลเข้ามาเกี่ยวข้องกับกับธุรกิจเอกชนก็เพื่อต้องการขจัดปัญหาการผูกขาด นอกจากนี้อุดมการณ์
ทางเศรษฐกิจที่ผูกผันกับด้านการเมืองของสองอภิมหาอำนาจยังมีผลทำให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศ
ขึ้นได้ กล่าวคือ ฝ่ายคอมมิวนิสต์ยึดระบบเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมมีอุดมการณ์ที่จะขจัดและทำลายล้างระบบ
และสถาบันเก่าและต้องการเปลี่ยนแปลงสัญญาและข้อตกลงระหว่างประเทศที่เคยทำไว้ ในอดีตที่คิดว่าตน
ไม่ได้รับความยุติธรรม จึงพยายามสร้างความขัดแย้งและเงื่อนไขสงคราม จนกระทั่งสามารถชนะอุปสรรค
ทั้งหลายได้ ส่วนฝ่ายเสรีประชาธิปไตยยึดระบบเศรษฐกิจแบบทุนนิยม มีอุดมการณ์ว่า รัฐบาลของทุกประเทศ
จะต้องมีศีลธรรมและมีเหตุผลในการรักษาผลประโยชน์ของมนุษยชาติร่วมกัน
จึงได้ร่วมมือกันสร้างความยุติธรรม เพื่อให้เกิดสันติภาพขึ้น จากอุดมการณ์ที่แตกต่างกันนี้จึงทำให้เกิด
ความตึงเครียดและความขัดแย้งระหว่างประเทศขึ้น
ในปัจจุบัน การแข่งขันทางเศรษฐกิจในสังคมโลกมีความรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งทางด้านการค้า
ประเทศต่างๆพยายามขยายรายได้จากการส่งออกและการลงทุน แต่ขณะเดียวกันก็กีดกันการนำเข้าสินค้า
จากต่างประเทศในรูปแบบต่างๆ ตลอดจนการขยายอิทธิพลทางเศรษฐกิจไปยังประเทศอื่นๆ
จนนำไปสู่ความขัดแย้งทางเศรษฐกิจระหว่างประเทศ
ความคิดเห็น