ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไอ้หมอนี่...เป็นเนื้อร้าย เฮ้ย!!เนื้อคู่ผม

    ลำดับตอนที่ #12 : เปิดตัว หรือเปิดใจ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 644
      22
      11 พ.ค. 64

    คณะนิเทศ

    กลุ่มพวกผมขอจบการนำเสนอเพียงเท่านี้ครับ”

    เสียงตบมือภายในห้องดังขึ้นเมื่อกลุ่มของกันต์พรีเซนต์จบ อาจารย์ประจำวิชาได้ให้คำชื่นชมพวกเขา ที่สามารถรายงานได้เห็นภาพชัดเจนไร้ที่ติ

    กูคิดว่าไม่รอดแล้วนะเนี่ย” กันต์ถึงกลับถอดหายใจด้วยความโล่งใจ เมื่อการพรีเซนต์ผ่านไปได้ด้วยดี โดยมีบาสและคิมเป็นคนทำสคลิปในการพูดครั้งนี้

    เป็นไง พวกกูเก่งไหมละ ที่เรียบเรียงหาข้อมูลมาให้มึงพรีเซนต์จนอาจารย์ชมขนาดนี้” บาสพูดขึ้นสีหน้ายิ้มแย้มอย่างภูมิใจ

    เออ...มึงเก่ง แล้วนี่กี่โมงแล้ววะ” กันต์หันไปถามคิมที่กำลังยืนกดโทรศัพท์คุยกับสาวๆ ในสต๊อกท่าทียิ้มน้อยยิ้มใหญ่

    เที่ยงละ” คิมหันมาตอบกลับ ก่อนสนใจโทรศัพท์ตรงหน้าต่อ

    เที่ยงหรอวะ ทำไมเหมือนกูลืมอะไรไปเลย” กันต์พยายามนึกถึงสิ่งที่ตนลืมไป เหมือนว่าเขาต้องทำอะไรสักอย่าง ยังไม่ทันที่เขาจะนึกออก เวลานั้นเองได้มีมือหนาๆ ของบาสตบลงบนหัวเขาอย่างจัง จนหัวกันต์เกือบกระแทกโดนขอบโต๊ะ

    โอ๊ย!! ทำไรวะ ไอ้บาส เจ็บนะโว้ย” กันต์ยกมือขึ้นมาลูบหัวด้วยความเจ็บปวด สีหน้าเกรี้ยวโกรธมองตาขวาง เมื่อจู่ๆ บาสมาตบหัวเขาแบบนี้

    เจ็บอ่ะดีแล้ว จะได้จำ มึงลืมอะไรหรือเปล่าว่าวันนี้มึงต้องซื้อข้าวไปให้ไอ้ตุลย์กิน”

    เออวะ” กันต์ร้องอุทานออกมาเสียงดัง พร้อมลุกยืนขึ้นจนคนภายในห้องหันมามองเป็นตาเดียว นั่งมองดูพฤติกรรมของเขาอยู่ห่างๆ “กูรีบไปก่อนนะ” เมื่อเขานึกขึ้นได้จึงรีบวิ่งออกจากห้องไปทันที

    เห้ย!! ....ไอ้กันต์”

    บาสตะโกนไล่ตามหลังกันต์ไปไม่ห่าง แต่ไม่มีท่าทีที่กันต์จะหันมา ร่างบางวิ่งหายตัวไปอย่างเร็วไว บาสก้มมองกระเป๋าสะพายของเจ้าของที่พึ่งวิ่งออกไปเมื่อครู่ ก่อนเงยหน้ามองคิมแสดงสีหน้าเหนื่อยใจกับเพื่อนคนนี้ เพราะนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่ลืมกระเป๋าไว้กับพวกตน

    มึงว่าป่านนี้มันจะรู้ตัวหรือยังวะ”

    กูว่ายังหรอก ต้องรอมันไปถึงโรงอาหารก่อน”

    บาสและคิมต่างส่ายหัว ก่อนคว้ากระเป๋าสะพายของกันต์ขึ้นมาแล้วเดินออกจากห้องตามกันต์ไป

    เออไอ้บาส มึงไปหาไอ้กันต์ก่อนนะ พอดีกูมีธุระต้องไปกินข้าวกับน้องน้ำค้างต่อวะ” คิมตบไหล่บาสเบาๆ ก่อนเดินหนีบาสไปอีกคน

    บาสถอดหายในเฮือกใหญ่ เขาเริ่มจะชินมันแล้วละที่มักถูกคิมทิ้งไปหาสาวๆ ตามเคย บาสเดินไปเรื่อยๆ ท่ามกลางผู้คนมากหน้าหลายตา มันไม่ทำให้เขาสนใจเลยสักนิด แต่เพราะอะไรเขากลับหันมาสนใจผู้ชายคนที่กำลังนั่งอ่านหนังสือตรงม้าหินอ่อนหน้าตึกรัฐศาสตร์ตัวนั้นเพียงคนเดียว

    เขาจึงไม่ลังเลจะเดินเข้าไปหาแม้แต่น้อย เพราะเนื่องจากผู้ชายคนนี้คือกวินเพื่อนที่เคยเรียนคณะเดียวกันกับเขา

    ทำอะไรอยู่วะกวิน”

    เสียงทักทายเอ่ยขึ้น พร้อมใบหน้ายิ้มแย้มอย่างเป็นมิตร เพื่อให้อีกฝ่ายไม่รู้สึกอึดอัด กวินละสายตาจากหน้าหนังสือเงยหน้าขึ้นสีหน้าเรียบเฉย ก่อนก้มลงอ่านหนังสือต่อโดยไม่สนใจบาส

    บาสเริ่มหน้าถอดสี เมื่อเห็นอีกฝ่ายทำตัวเหมือนเขาเป็นอากาศ

    อ่านหนังสืออยู่หรอ ดูสิว่าอ่านอะไร” บาสนั่งลงตรงข้ามกวิน ก่อนเอื้อมมือไปคว้าหนังสือเล่มหนาตรงหน้ากวินมาเปิดอ่านดู “การเมืองการปกครอง นี่มึงหมดอ่านหมดนี้เลยหรอวะ” กวินเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง พร้อมชักสีหน้าไม่พอใจ ก่อนแย่งหนังสือเล่มนั้นกลับมา แล้วรีบใส่ในกระเป๋าสะพาย เขาไม่พูดพร่ำทำเพลงใดๆ ลุกขึ้นพรวดเตรียมตัวจะเดินออกจากโต๊ะในทันที บาสที่เห็นท่าไม่ดีจึงรีบเดินมาดักหน้ากวินเอาไว้

    มึงเป็นไรเนี่ย” บาสถามขึ้นด้วยความเป็นห่วง เขาเริ่มรู้สึกไม่ดีเมื่อเห็นอีกฝ่ายทำตัวเหมือนเขาเป็นคนแปลกหน้า

    ช่วยเรื่องเลิกยุ่งกับกูสักทีเถอะ” กวิน พูดด้วยน้ำเสียงดุดันสายตาแข็งกร้าว ก่อนเดินกระแทกซนไหล่บาสออกไปอย่างท่าทีไม่พอใจ บาสได้แต่ยืนมองตามหลังกวินไป เขาพยายามครุ่นคิดว่าทำอะไรผิด เจ้าตัวถึงมีท่าทีรังเกียจเขาแบบนี้

     

    โรงอาหารคณะวิศวะ

    ก่อนหน้านี้เหตุผลที่กันต์ไม่ยอมซื้ออาหารมาจากคณะนิเทศคือ ณ เวลานี้คนรอต่อแถวเยอะ จึงเกรงว่าไม่ทันเวลาจึงรีบเดินมายังโรงอาหารคณะวิศวะแทน กันต์ยืนมองดูร้านค้าในโรงอาหารวิศวะที่เขาไม่เคยย่างก้าวเข้ามาสักครั้ง มันดูแปลกตามองไปทานไหนเห็นมีแต่เด็กคณะวิศวะใส่เสื้อช้อป เดินสวนผ่านหน้าเขาไป บางคนหันมาจ้องมองอย่างกับเขาเป็นตัวประหลาด คงไม่แปลกที่เขาจะเป็นจุดสนใจมากขนาดนี้ เนื่องจากทั้งโรงอาหารมีเขาผูกเนกไทสีน้ำเงินเพียงคนเดียว นอกนั้นพูดผูกเนกไทสีดำไม่ก็สวมเสื้อช็อปกันหมด เมื่อเขาเข้ามาในถ้ำเสือแล้วมีหรือเขาจะยอมแพ้ง่ายๆ

    เอาวะ รีบซื้อ รีบเอาไปให้ไอ้ชานมจะได้รีบกลับ” กันต์เดินไปหยุดอยู่หน้าร้านข้าวแกงแห่งหนึ่งซึ่งมีคนต่อคิวไม่ยาวมากนัก ก่อนยืนเลือกดูเมนูอาหาร ที่คิดว่าตุลย์น่าจะชอบกิน

    เอาอะไรคะ พ่อหนุ่มแว่น” เสียงแม่ค้าสาวสองคนสวยประจำคณะวิศวะ เอ่ยขึ้น พร้อมจ้องมาที่กันต์ตาเยิ้ม กะพริบตาปริบๆ ยืนยิ้มชอบอกชอบใจเมื่อเห็นหนุ่มต่างคณะมาที่นี่

    เอาพะแนงกล่องหนึ่งครับ” กันต์ที่ไม่รู้ว่าตุลย์ชอบกินอะไรจึงเลือกส่งๆ ไป

    ได้จร้า”

    เมื่อได้รับออเดอร์ เธอจึงรีบเดินไปตักข้าวเปล่าที่อยู่ในหม้อหุงข้าวขึ้นมา 2ทัพที จนพูนกล่อง แล้วเดินไปหยิบถุงพลาสติกขึ้นมาตักแกงพะแนงจนเต็มถุง ก่อนจะใส่ถุงยื่นส่งมาให้กลับกันต์

    นี่จร้า” กันต์มองตาโต ตกใจกับปริมาณที่ได้มา เขาพึ่งเคยได้ข้าวเยอะขนาดนี้

    ไม่เยอะไปหรอครับ”

    ไม่เยอะหรอกจร้า สำหรับน้องแล้วเจ้ให้หมดร้านนี้ก็ยังได้เลย” แม่ค้าสาวสองพูดทีเล่นทีจริง จนทำให้กันต์เริ่มรู้สึกกลัว

    หรอจร้า เจ้”

    สิ้นเสียงประโยคนั้น ได้มีมือใครบางคนง้างขึ้นพร้อมถือกะละมังสเตนเลสเคาะไปที่หัวแม่ค้าสาวสองเสียงดังลั่นจนคนในโรงอาหารหันมามองพร้อมเพรียงกันหัวเราะออกมาอย่างชอบใจ

    โอ๊ยแม่เจ็บนะ”

    เมื่อไรแกจะเลิกพูดหยอกคนนู้นคนนี้สักทีฮะ ฉันละเหนื่อยกับแกแล้วนะ รีบๆ เก็บเงินซะ แล้วมาช่วยแม่ล้างจาน”

    จร้าแม่” กันต์เห็นเช่นนั้นจึงแอบอดขำไม่ได้ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเห็นอะไรแบบนี้

    เท่าไรครับ”

    ทั้งหมด พี่คิดแค่ 60 พอจร้า”

    “60 นะครับ”

    กันต์รีบหยิบเงินเพื่อนำมาจ่าย มองดูสำรวจร่างกายของตนเองก็พบว่าลืมกระเป๋าสะพายไว้อยู่ห้องพรีเซนต์งาน ซึ่งในนั้นมีกระเป๋าตังค์อยู่ เขาจึงฉุกคิดขึ้นมาได้ทันทีว่าทำไมบาสถึงตะโกนเรียกชื่อเขาก่อนที่จะออกจากห้องมา

    มีอะไรหรือเปล่าจร้า”

    เปล่าครับ แป๊บนะครับ” กันต์พยายามล้วงเศษเงินที่ติดอยู่ในกระเป๋ากางเกงออกมาจนหมด จนไปเจอแบงก์ 20 อยู่ หนึ่งใบ “คือว่า ผมขอติดไว้ก่อนได้ไหมครับ พอดีผมลืมเอากระเป๋าตังค์มา” แม่ค้าสาวสองยืนเงียบไปชั่วครู่ เธอพยายามแอบเหล่ตามองแม่ที่กำลังล้างจานอยู่ข้างหลังโดยไม่สนใจเธอ

    ได้สิจร้า สำหรับคนหล่อๆ อย่างน้องแล้ว มีเมื่อไรค่อยเอามาคืนก็ได้จร้า”

    จริงหรอครับพี่”

    จร้า”

    แม่ค้าสาวสองยืนถุงกับข้าวมาให้อีกครั้ง ในขณะนั้นเอง กันต์ก็เอื้อมมือไปหยิบถุงกับข้าวนั้นเช่นนั้นแต่ก็ไม่วายถูกมือของอีกฝ่ายจับเอาไว้แน่น “เอ่อ....ขอบคุณนะครับ ไว้เดี๋ยวผมไปขอตังจากเพื่อนผมแล้วเอามาคืนนะครับ” กันต์พยายามแกะมือให้หลุด จนเขาสามารถหลุดออกมาได้ ก่อนจะก้มหน้า แล้วรีบเดินออกจากร้านนี้ไปทันที

    แม่ของสาวสองยืนมองลูกชายของตัวเองสีหน้าเอือมระอา ก่อนจะเดินมาดึงหูของอีกฝ่ายด้วยความโมโห “เพราะแบบนี้ไง ฉันถึงไม่รวยกับเขาสักที มีลูกอย่างแกเนี่ย ให้คนอื่นไปฟรีๆ จนร้านจะเจ๊งหมดแล้ว”

    ก็น้องเขาหล่ออ่ะแม่”

    หรา..นังลูกตัวดี ถ้าวันนี้ฉันขาดทุนแกตายแน่”

     

    คณะวิศวะ

    ในที่สุดกันต์ก็มาถึงคณะวิศวะ ในมือถือถุงข้าวพร้อมกับน้ำชาเย็นที่เขาซื้อมันจากแบงก์ 20 ที่มีเหลืออยู่ เขากวาดสายตามองไปยังหอประชุมที่ค่อนข้างกว้างขวางภายในนี้มีนักศึกษาชั้น ปี1 นั่งเรียงแถวกันอยู่ ประมาณ 200 คน กำลังทำกิจกรรมรับน้องกันอยู่อย่างพร้อมเพรียง โดยมีพี่ปี 3 ยืนอยู่ข้างหน้าออกคำสั่ง

    น้องๆ ครับ ถ้าร้องไม่ดังกว่านี้พี่จะไม่ให้กินข้าวนะครับ” พี่ว๊าว ตะโกนไปทั่วหอประชุม สีหน้าพร้อมกับแววตา ที่ดุดัน ทำให้น้องๆ ชั้นปี ที่1 ต่างหวาดกลัวไม่มีใครกล้าไม่ทำตาม

    กันต์ยืนมองอยู่ด้านหน้าหอประชุม ไม่แม้แต่กล้าจะเฉียดเดินเข้าไป เนื่องจากเขาได้ยินชื่อเสียงความโหดของคณะนี้มาพอสมควร กันต์ยืนมองอยู่อย่างนั้นพยายามมองหาตุลย์แต่ก็ไม่พบ จนเวลาผ่านไปเพียงไม่นาน ได้มีคนมายืนมองเขาอยู่ด้านหลังพอดี

    มาหาใครหรอ” กันต์หันไปมองคู่สนทนา ที่สวมเสื้อช็อปคณะวิศวะ ชายคนนี้ตัวสูงพอๆ กลับเขา หน้าตาจัดอยู่ในเกณฑ์ดี ตัวเล็ก ผิวขาว ลักษณะท่าทางไม่มีพิษไม่ภัยใดๆ

    อ่อมาหาไอ้ชา...เออไอ้ตุลย์อ่ะ มันอยู่ไหนหรอ”

    อยู่ด้านไหนอ่ะ ตามมาสิ”

    กันต์เดินถามชายคนดังกล่าวไป ท่าทีเก้ๆ กังๆ เขาเอาแต่เดินหลบหน้าไม่กล้าหันมองไปนักศึกษาที่นั่งทำกิจกรรมกันอยู่เพราะไม่อยากให้เป็นจุดสนใจ วินที่นั่งอยู่ภายในแถวจำได้ทันทีเลยว่าเป็นใคร เขามองตามกันต์เดินเข้าห้องพักรุ่นพี่ว๊าวไปจนประตูห้องปิดลงเขายังคงมองอยู่อย่างนั้น

    มองใครวะมึง” นาย หันมองตามเพื่อนไป

    กูมองคนรู้จักวะ”

     

    ห้องพักคณะวิศวะ

    ชายหนุ่มเดินเปิดประตูห้องให้กันต์เข้าไปด้านใน กันต์มองเข้าไปยังภายในห้องที่มีเด็กคณะวิศวะนั่งรวมตัวกันกินข้าวกันอยู่ตรงมุมห้องอีกฝั่ง พวกเขาทั้งหมดวางช้อนลงต่างหันมามองหน้าประตูเป็นตาเดียว โดยปกติแล้วไม่เคยมีเด็กต่างคณะกล้ามาเยือนถึงถิ่นพวกเขาซะเท่าไร

    ไอ้ปาล์มมึงพาเด็กใหม่หรอ” เพื่อนในกลุ่มคนหนึ่ง พูดแซวปาล์มที่กล้าเอาเด็กของตนมาในห้องนี้ พร้อมเดินเข้ามากันต์ เดินวนรอบๆ สำรวจด้วยความอยากรู้อยากเห็น

    เด็กใหม่กูที่ไหน มันมาหาไอ้ตุลย์”

    ฮะ!! กูฟังไม่ผิดใช่ป่ะ” ปาล์มพยักหน้ารับ ก่อนเดินเข้ามาเรียกตุลย์ ที่กำลังนั่งหันหลังสวมหูฟัง ฟังเพลงอยู่เพียงลำพัง

    ไอ้ตุลย์ มีคนมาหา”

    ปาล์มสกิตไปที่ไหล่ตุลย์ เจ้าตัวเงยหน้าขึ้นพร้อมถอดดูฟังลงก่อนจะหันไปมองหน้าประตูอมยิ้มขึ้นเล็กน้อย ต่อจากนั้นเปลี่ยนกลับเป็นมาใบหน้าเรียบเฉย ลุกขึ้นเดินมาหากันต์ที่ยืนรอเขาอยู่หน้าประตู

    เอานี่ข้าว แล้วก็น้ำ”

    กันต์รีบยื่นข้าวและน้ำส่งให้ตุลย์ทันทีเมื่อเห็นหน้าเจ้าตัว เพื่อที่เขาจะได้ออกไปจากที่นี้สักที ขณะเดียวกันนั้นเองเพื่อนๆ ภายในห้องต่างหันมองพวกเขาทั้ง2คนด้วยความอยากรู้อยากเห็น ซึ่งถือว่านี้เป็นครั้งแรกที่ตุลย์รองประธานคณะมีคนเอาข้าวกับน้ำมาให้ถึงในนี้

    เออๆ ขอบใจ” ตุลย์รับนั้นข้าวกับน้ำมา เหลือบสายตาเพื่อนตัวดีของเขาที่กำลังจ้องเขาอยู่

    ไอ้ตุลย์ใครวะ” ต่อที่พึ่งทำกิจกรรมรับน้องเสร็จจึงเดินเข้ามาถามด้วยความสงสัย เขามองกันต์ตั้งแต่หัวจรดเท้า เพราะไม่เคยเห็นกันต์มาก่อน

    อ่อ นี่ไอ้ปลา...เอ่อ มันชื่อกันต์ แฟนกูเองแหละ” ตุลย์ตอบกลับ ก่อนเดินเข้าอ้อมไปกอดไหล่กันต์เอาไว้ให้เสมือนเป็นคู่รัก

    ฮะ!! แฟน” จนเพื่อนๆ ในห้องต่างร้องอุทานออกมาเป็นเสียงเดียวกัน สีหน้าต่างตกใจไม่คิดว่าหนุ่มหล่ออย่างตุลย์มีแฟนเป็นผู้ชาย

    เห้ย!! มึงพูดไรเนี่ย” กันต์ถึงกลับชอตเมื่อสถานการณ์มันเลวร้ายยิ่งไปกว่าเดิม ตอนแรกเขาคิดว่าเอาข้าวกับน้ำมาให้ตุลย์เพียงเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้มันไม่ใช่อย่างนั้นซะแล้ว

    ก็กูบอกแล้วไงให้มึงแกล้งเป็นแฟนกู เพื่อนกูต้องรู้ด้วยสิ”

    แต่มึงไม่ได้บอกกูก่อนไง” ทั้งกันต์และตุลย์ต่างยืนเถียงกันต่อหน้าคนในห้อง เพื่อนๆ ต่างมองหน้ากัน โดยมีณัฐนั่งแอบมองปาล์มอยู่ห่างๆ

    พวกมึงเป็นอะไรหรือเปล่า” ต่อเดินเข้ามาถาม ทั้งสองคน

    เปล่านิ พอดีแฟนกูมันขี้อายอ่ะ” ตุลย์ยื่นหน้าไปกระซิบหูฟังเบาๆ “ถ้ามึงไม่ตอบตกลง วันนี้กูจะให้สายไหมไปนอนด้วยทั้งคืนเลยดีไหม” กันต์ตาโตขึ้นมาทันที เมื่อถูกตุลย์พูดข่มขู่อย่างไม่มีหนทางสู้

    ช...ใช่ กูเป็นแฟนมันเองแหละ” กันต์ตอบเสียงสั่นด้วยความจำยอม ทั้งที่ภายในใจเขาอย่างจะปฎิเสธและอยากหนีออกไปจากที่นี้เต็มที

    แล้วนี่มึงไปเป็นแฟนกันตอนไหนวะ”

    เรื่องมันยาววะ เดี๋ยวเอาไว้ว่างๆ กูเล่าให้มึงฟังนะไอ้ต่อ”

    เออ กูขอตัวก่อนนะ พอดีมีเรียนต่อ” กันต์รีบหาข้ออ้างเพื่อให้ออกไปจากตรงนี้

    อ้าวหรอ คิดว่ามึงจะมากินข้าวกับกูซะอีก ดูสิซื้อข้าวมาให้กูตั้งเยอะแน่ะ กูกินคนเดียวคงไม่หมดหรอก” กันต์มองตาขวางใส่ตุลย์ทันที เมื่อพูดเช่นนี้ สีหน้าและแววตานั้นบ่งบอกว่าตุลย์กำลังแกล้งเขาอยู่

    ไม่ดีกว่ามึง คือกูมีเรียนต่อจริงๆ เอาไว้เดี๋ยวกลับห้องไปกินด้วยกันนะ” กันต์เบี่ยงหน้าหนีทันทีเมื่อพูดประโยคนี้เสร็จ เขาพยายามควบคุมสติของตัวเองไม่ให้หลุดด่าตุลย์ออกไป

    นี้พวกมึงอยู่ห้องเดียวกันหรอวะ” ตุลย์พยักหน้ารับ “เห้ย!! งั้นดีเลย พวกมึงวันนี้เราไปเลี้ยงฉลองห้องไอ้ตุลย์กันเถอะ ที่มันมีแฟนแล้ว”

    ไปๆ กูไปด้วย” เสียงตอบตกลงดังไปสนั่นห้อง

    ไม่เอา” กันต์ลืมตัวจึงตะโกนออกมาเสียงดัง จนคนในห้องเงียบลงแล้วต่างหันมามองหน้าเขา

    มึงพูดว่าอะไรนะไอ้กันต์”

    อ่อแฟนกูมันจะบอกว่า ได้ตามสบายเลย ใช่ไหมมึง”

    เอ่อ..ช..ใช่” กันต์พูดเสียงอ่อย พร้อมยกมืออ้อมไปข้างหลังหยิกไปที่เอวของตุลย์ด้วยความโมโห ตุลย์ถึงแม้จะเจ็บปวดก็ตามแต่เขาพยายามเกรงหน้ายิ้มตลอดเวลา “อย่าให้ถึงที่กูบ้างนะมึง”

    กูจะรอนะ” ตุลย์แสยะยิ้มก่อนเดินไปหาเพื่อนๆ พูดคุยกับปารตี้เลี้ยงฉลองสำหรับคืนนี้

    ไอ้ปาล์มไปเปล่า ไอ้ณัฐด้วยไปไหม”

    ไปดิวะ มึงมีแฟนทั้งทีไม่ไปได้ไง” ปาล์มตอบตกลง ก่อนหันหน้าไปทางอื่น ส่วนณัฐเป็นคนตามใจเพื่อนอยู่แล้ว เขาจึงยอมไปด้วยอย่างไม่ปฏิเสธ

    กันต์ยืนมองเพื่อนๆ ตุลย์ยืนจับกลุ่มพูดคุยกันซึ่งปล่อยให้เขายืนทำหน้าเอ๋ออยู่คนเดียว โดยไม่มีคนอื่นมาสนใจ

    เอองั้นกูขอตัวไปเรียนก่อนนะ”

    เอาไว้วันนี้ เดี๋ยวกูไปรับมึงที่ตึกนะ”

    เออตามใจ”

    กันต์ตอบตกลงไปอย่างง่ายดาย เพราะเขารู้ดีว่าถึงตอบปฏิเสธกลับไปตุลย์ก็ไม่ยอมอยู่ดี กันต์เดินร่างอันไร้วิญญาณออกมาจากห้องสถานการณ์เมื่อครู่มันเกินขึ้นเร็วมากจนเขาแทบไม่ได้ตั้งตัว ก่อนฉุกคิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นมาได้บ้างอย่าง เขาจึงรีบเปิดประตูห้องเข้าไปข้างในอีกครั้ง ด้วยสีหน้าที่จริงใจ

    ไอ้ตุลย์” ตุลย์หันมามองกันต์หน้าประตูอีกครั้ง ก่อนเข้ามาหาอีกฝ่าย

    มีไรวะ”

    เอ่อ...คือกู...กูจะขอยืมเงินมึงสัก60 ได้ไหมวะ พอดีกูยังไม่จ่ายค่าข้าว” ทุกคนภายในห้องหันมามองกันต์อีกครั้ง ตุลย์เดินเข้ามาหากันต์อย่าง งงๆ เพระเขาไม่คิดว่าเจ้าตัวจะเข้ามาด้วยเหตุผลนี้

    เออ...เออได้ดิ”

    ตุลย์หยิบแบงก์ร้อยขึ้นมา 1 ใบก่อนส่งมอบให้กันต์ เมื่อกันต์เห็นดังนั้นจึงรีบหยิบนั้นมายืนยิ้มดีใจก่อนจะเปิดประตูห้องแล้วเดินออกไป ตุลย์ยืนมองกันต์ด้วยสีหน้าที่สงสัย เมื่อครู่เจ้าตัวแทบอยากจะฆ่าแต่ตอนนี้กลับดูเปลี่ยนเป็นอีกคน

    แฟนมึงเนี่ยน่ารักดีนะ เสียดายทำไมกูไม่เจอก่อนมึงวะ” ต่อพูดทีเล่นทีจริง

    หึ!! อยากตายไหม” ตุลยพูดน้ำเสียงดุดันมองตาขวางใส่ต่อ ที่กำลังหน้าซีด ยิ้มแหยๆ ยืนสงบปากสงบคำอยู่ข้างๆ ต่อรู้ได้เลยทันทีเลยว่าสีหน้าแบบนี้บ่งบอกให้รู้ว่าตุลย์จะทำจริง

    อุ๊ย! กูแค่พูดเล่นเอง กูไม่แย่งแฟนเพื่อนหรอน่า งั้นกูว่าเรามาคุยเรื่องคืนนี้กันเถอะวะ” ต่อเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุย

    อืม”

    ตุลย์เริ่มหน้าถอดสีเมื่อต่อหันหน้าไปคุยกับกลุ่มเพื่อน เขาหวังเพียงว่าต่อจะเชื่อในสิ่งที่เขาพูด ที่เขาทำแบบนี้มีเหตุผลบางอย่างซ่อนเอาไว้อยู่โดยยังบอกใครตอนนี้ไม่ได้

     

     

    (การพูดโกหกในบางเรื่อง อาจทำให้เรารับรู้อะไรมากขึ้น)

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×