คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #8 : สัตว์เลี้ยง( พร้อมชื่อใหม่ที่ไม่เหมือนใคร)
คอนโดหรูแห่งหนึ่ง....
ลิฟต์ประตูชั้น 14 ถูกเปิดออก กันต์ก้าวขาออกมาจากในลิฟต์ ก่อนหยุดยืนนิ่งอยู่ชั่วครู่ ภายในมือถือถุงพลาสติกใส ใส่น้ำซึ่งมีปลาทองสีส้มปลายหางสีขาวยาวสลวย ตัวอ้วนกลม อยู่1ตัว ที่เขาพึ่งไปซื้อจากร้านขายปลาข้างคอนโดมา
“ไอ้กันต์ มึงจะยืนตรงนั้นอีกนานไหม” เขาเงยหน้ามองเพื่อนทั้งสอง ณ เวลานี้ยืนอยู่หน้าห้อง1423 ซึ่งเป็นห้องพักของเขา เพื่อมาดูให้เห็นกับตาตัวเองว่าสิ่งที่กันต์พูดเป็นเรื่องจริง
“เฮ้อ!!” กันต์ถอดใจหายเฮือกใหญ่ เดินคอตกมาหาเพื่อนทั้งสอง พยายามทำใจอยู่หน้าประตูสักพักก่อนจะแต่คีย์การ์ดเปิดห้องเข้าไป กลิ่นหอมอ่อนๆ ของดอกกุหลาบแตะปลายจมูก พอได้สูดดมเข้าไปกลับทำให้รู้สึกผ่อนคลายอย่างน่าหลงใหล
แสงแดดจากริมระเบียงส่องเข้ามากระทบยังแว่นใส กันต์พยายามลี่ตามองชายตรงหน้า ผมสีดำเงางาม ที่เขารู้สึกไม่คุ้นเคย กำลั่งนั่งหันหลังลูบหัวแมวอยู่ในห้องครัว
“ขอโทษครับ เข้าห้องผิด” กันต์รีบกล่าวคำขอโทษ ก่อนเดินถอยหลังกลับไปยังหน้าประตู ในขณะที่บาสกับคิมกำลังเดินเข้ามาในห้อง เขารีบผลักเพื่อนทั้งสองให้ออกไป ก่อนจะดึงประตูปิดลง
“เป็นไรวะไอ้กันต์ ออกมาทำไม” บาสถามด้วยความสงสัย ท่าทางของกันต์ตอนนี้ค่อนข้างดูสับสน ยืนมองเลขหน้าห้องซ้ำไปซ้ำมา หันซ้ายหันขาวเพื่อดูให้มั่นใจว่าห้องนี้คือห้องของตนเองจริงๆ
“นี่มันห้องกูนี้หว่า”
“เออดิ ห้องมึงไง”
“แล้วไอ้นั่นใครวะ ที่อยู่ในห้องกู”
“อยากรู้ก็เข้าไปดูสิวะ” บาสผลักกันต์ให้เข้าห้องตัวเองไป
ประตูถูกเปิดออกอีกครั้ง ชายปริศนาคนดังกล่าวได้เงยหน้า ทั้งสองต่างสบตากันเข้าอย่างจัง กันต์ยืนนิ่งมองดวงตาคู่สวยที่เขาไม่เคยเห็นมันชัดเจนขนาดนี้มาก่อน ทรงผมสีดำบวกใบหน้าที่ดูมีออร่าส่องแสงประกายขึ้น ส่งผลให้หัวใจของเขาเต้นถี่ขึ้น เขาไม่อาจละสายตาจากมันไปไหนได้ เหมือนดังต้องมนต์สะกด
“หล่อละสิ” เสียงกระซิบข้างๆ หู เผยให้เขาบอกความรู้สึกที่แท้จริงออกมา
“เออ....ใช่ เฮ้ย!!! ไอ้บาสมึงพูดอะไรเนี่ย กูไม่เห็นมันจะหล่อตรงไหนเลย” เมื่อกันต์ได้สติขึ้น เขาจึงพูดโวยวายออกมา พยายามทำตัวให้เหมือนเป็นปกติ
“อืมๆ” บาสพยักหน้างึกๆ แสดงสีหน้าไม่เชื่อเพื่อนแม้แต่น้อย
“อ้าวไอ้ตุลย์ มึงอยู่ห้องไอ้กันต์จริงหรอวะเนี่ย” คิมเห็นท่าไม่ดี จึงพูดขึ้น ก่อนเดินเข้าไปหาตุลย์ ที่นั่งอยู่ในห้องครัว ด้วยท่าทางที่สนิทสนมตามประสาคนหล่อประจำมหาลัย
“อืม นี่มึงเป็นเพื่อนกับไอ้แว่นมันด้วยหรอ” ตุลย์ ถามขึ้นก่อนจะจ้องมองไปหากันต์อย่างไม่เชื่อสายตาว่าพวกเขาสองคนเป็นเพื่อนกันจริงๆ
“อืม กูเป็นเพื่อนสนิมมันมาตั้งแต่ประถมละ”
“งั้นหรอ” ตุลย์ตอบเพียงสั้นๆ ก่อนหันไปส่งใจแมวต่อ
“มึงดูมันมองหน้ากูสิไอ้บาส”
“เอาน่า ใจเย็นๆ มึง” บาสรีบพูดห้ามกันต์ ก่อนจะลากตัวมานั่งยังโซฟาให้เพื่อให้เขารู้สึกใจเย็นขึ้นมาบ้าง
“เออนี่ ก็จะมืดละ งั้นพวกกูสองคนขอกลับกันก่อนนะ” บาส ส่งซิกไปให้กับคิม
“เออวะ กูมีธุระต่อด้วย งั้นกูไปแล้วนะไอ้ตุลย์ ไว้เจอกันมึง” ตุลย์พยักหน้ารับ ก่อนที่บาสและคิมพากันรีบเดิมออกไปจากประตูห้อง โดยที่กันต์ไม่รู้ตัว
“มืดอะไรวะ นี่พึ่ง 5โมงเองพวก.....มึง” กันต์ก้มมองดูเวลาที่ข้อมือ ก่อนจะหันหน้ามาคุยกับเพื่อนทั้งสอง ก็พบว่าทั้งสองไม่อยู่แล้ว “ไอ้เพื่อนเวร อยู่เป็นเพื่อนกูหน่อยก็ไม่ได้” กันต์ลุกขึ้น ก่อนจะเดินเอาปลาทองตัวใหม่ไปปล่อยในตู้ปลา สายตาสะดุดเข้ากับวัสดุสีดำกลมๆ กำลังเคลื่อนที่อยู่ในน้ำ เขาเพ่งเล็งก้มลงไปมองใกล้ๆ พบว่าสิ่งนั้นคือปลาทองตัวสีดำ กำลังกว่ายน้ำอยู่อย่างโดดเดี่ยว
“เดี๋ยวนะ นี่มึงซื้อปลาทองมาใส่ตู้ปลากูได้ไง” การปะทะฝีปากเริ่มต้นขึ้น
“ก็กูเห็นตู้ปลามันว่างๆ ก็เลยซื้อมาใส่” ตุลย์ตอบกลับน่านิ่งเฉย
“แต่มึงไม่มีสิทธิ์เอาปลาทองมาใส่ตู้ปลาทองกู กูเลี้ยงได้คนเดียวโว้ย”
“งั้นกูเอาไปทิ้งก็ได้” ตุลซีรีส์ลุกขึ้นเดินมาหยุดอยู่ที่ตู้ปลา ก่อนพยายามจะล้วงมือเข้าไปในน้ำเพื่อช้อนปลาตัวสีดำที่เขาพึ่งไปซื้อมา ขึ้นจากน้ำ
กันต์ยืนมองดูพฤติกรรมคนตรงหน้า สลับมองดูปลาทองตัวอ้วนสีดำ ที่แววตาดูน่าสงสารกำลังถูกคนใจร้ายนำไปทิ้ง เขาไม่อาจให้มันเป็นเช่นนั้นได้ ถึงแม้ว่าจะไม่ชอบคนซื้อมาก็ตาม แต่เขาจะเลือกทำในสิ่งที่ถูกต้อง
“เดี๋ยวก่อน กูให้มึงเลี้ยงก็ได้ อย่าเอามันไปทิ้งเลย สงสารมัน” กันต์พูดเสียงอ่อย ด้วยความใจอ่อนของตัวเองที่มีต่อสัตว์ ประเภทปลา
“ไข่มุกได้บ้านใหม่แล้วนะ” ตุลย์ยืนยิ้มมองไปยังปลาทองด้วยสีหน้าที่ดีใจ
“เดี๋ยวนะ มึงตั้งชื่อปลาทองว่าอะไรนั้นนะ”
“ไข่มุกไง”
“ตลกซะมัด คิดได้ไงชื่อไข่มุก สู้น้อง ปลาดาวกูก็ไม่ได้” กันต์ ผลักร่างให้ตุลย์ออกไปอีกผ่าน ก่อนจะแกะถุงปลาทองตัวใหม่ลงไปในน้ำ เขามองมันอย่างหลงใหล ปลาทองตัวใหม่นี้อาจช่วยทำให้เขาหายคิดถึงน้องม้าน้ำที่พึ่งตายไป ไม่มากก็น้อย
“ชอบปลาหรอไอ้แว่น”
“อืมใช่ เฮ้อ!! นี่ไอ้ผมเทามึงจะเรียกกูว่าแว่นอีกนานป้ะ กูชื่อกันต์ กรุณาเรียกชื่อให้มันถูกๆ หน่อย” กันต์ยืนประจันหน้าสบตาอีกฝ่ายอย่างผู้กล้า
“ทีมึงละ เรียกกูผมเทา ตอนนี้กูผมดำแล้วเข้าใจป้ะ” ตุลย์ ชี้นิ้วไปยังเส้นผมสีดำ ที่เขาพึ่งไปย้อมสีเสร็จมาได้ไม่นาน
“แล้วไงวะ จะผมดำหรือผมเทา กูจะเรียกอะไรมันก็เรื่องของกู เพราะเราไม่ได้สนิทกันจำไว้” ตุลย์แสยะยิ้มขึ้นอีกครั้ง ด้วยความปากเก่งของอีกฝ่าย
“อืม....ได้ งั้นกูจะไม่เรียกมึงว่าแว่นละกัน กูจะเรียกมึงว่าปลาทองแทนดีไหม”
“ปลาทองอะไรของมึงวะ” กันต์ขมวดคิ้วถามกลับอย่างสงสัย
“ก็มึงขี้ลืมไง”
“ขี้ลืมตรงไหน กูความจำดีจะตาย” กันต์ยังเถียงต่อย่างไม่ยอมแพ้
“หรอ...แล้วรองเท้าที่มึงใส่เข้ามาในห้อง กับประตูที่ไม่ได้ปิดตอนนี้ อ่อแล้วอีกอย่างมึงลืมไปหรือไงว่าเมื่อเช้ามึงโกรธกูอยู่”
กันต์ทำกับพูดไม่ออก เมื่อถูกอีกฝ่ายพูดต่อว่าไม่หยุด ทั้งรองเท้าคัทชูที่ใส่เดินไปทั่วห้อง กับประตูที่ลืมปิด และเรื่องสำคัญตอนเช้า ที่เขาลืมมันไปทั้งหมด
“เชี่ย!!! ลืมได้ไงวะเนี่ย”
“แสดงว่ามึงหายโกรธกูแล้วสินะ”
“หายโกรธอะไรวะ กูยังโกรธมึงอยู่โว้ย” กันต์ผลักตุลย์ให้ออกห่างตัว ก่อนจะรีบเดินไปถอดรองเท้าไว้หน้าห้อง พร้อมกลับปิดประตูห้องลงไป แล้วจ้ำอ้าวเดินเข้าไปในห้องนอนตัวเองทันที
ตุลย์ส่ายหัวไปมาเบาๆ ก่อนจะเดินไปนั่งที่เดิมต่อ พร้อมกับเทอาหารแมวใส่ถ้วยให้สายไหมกิน
“โถ่เว้ย!!” กันต์เดินไปหยิบหมอนขึ้นมาก่อนทุบมันลงไปบนที่นอนด้วยความโมโห เพื่อระบายอารมณ์ความโกรธที่ตนเองมีทั้งหมดจนเริ่มรู้สึกดีขึ้น เขาจึงโน้นตัวลงนอนราบไปยังบนที่นอน “นี่ถ้าไม่ใช่เนื้อคู่เรานะ แม่งจะฆ่าให้ตายไปเลย” กันต์ยังคงสองจิตสองใจ ในเรื่องเนื้อคู่ เขามิอาจเชื่อได้ว่าตุลย์คือเนื้อคู่ของเขาจริงๆ ตราบใดที่เขาไม่เห็นปานครึ่งเสียวนั้น ไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด
เวลา 20.00 น.
ซู๊ด!! เสียงซดมาม่ารสต้มยำกุ้งน้ำข้นดังขึ้นด้วยความหิวโหย ท่ามกลางแสงไฟสลัว มีเพียงไฟดวงเดียวกลางห้องรับแขกที่ถูกเปิดทิ้งไว้ ณ เวลานี้ ทีวีกำลังฉายซีรีส์เกาหลี รักโรแมนติกอยู่เรื่องหนึ่ง ซึ่งฉากนี้นางเอกพยายามทำให้พระเอกจำเธอให้ได้ โดยการพาเขาไปยังสถานที่ ที่เจอกันครั้งแรก พร้อมเล่าเรื่องราวระหว่างเธอกับเขาให้ฟังจนหมดสิ้น ทั้งเขาและเธอต่างสบตากันใต้ต้นซากุระ ที่ถูกปกคลุมด้วยหิมะหนาในยามอากาศหนาวช่วงกลางคืน ในขณะที่นางเอกคิดจะยอมแพ้ เขากลับดึงเธอเข้ามากอดไว้แน่น พร้อมเอ่ยประโยคที่เธอไม่คาดคิด “ยุนอา ขอบคุณนะที่อดทนเพื่อฉันถึงขนาดนี้” หลังจากนั้นก็จบด้วยความซาบซึ่งตรึงใจ
“เฮ้อ รักแบบนี้คงมีแต่ในซีรีส์สินะ ใครจะบ้าอดทนได้นานถึงขนาดนั้น” กันต์กดเปลี่ยนช่อง ก่อนจะเดินไปเปิดตู้เย็นเพื่อกินน้ำ
ประตูห้องตุลย์ได้ถูกเปิดออก ร่างสูงเดินออกมา ด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาวบวกกับกางเกงยีนสีดำที่ดูเข้ากันเป็นพิเศษ ผมสีดำถูกเช็ตขึ้นจัดทรงเขาที่ให้เหมาะสมกับรูปใบหน้าอันหล่อเหลาคมเข้ม กันต์ยืนมองตาละห้อยตกตะลึงในความดูดีของอีกฝ่าย
“เออ ปลาทอง อย่าพึ่งนอนก่อนละ รอเปิดประตูให้กูด้วย” คนตรงหน้าพูดสั่งเสร็จ ไม่รอฟังคำตอบกลับของอีกฝ่าย เขาเดินหันหลังไปสวมรองเท้าผ้าใบตรงหน้าประตูห้องอย่างเร่งรีบ
“มึงก็มีกุญแจนิ จะให้กูรอเปิดเผื่อ”
“ก็กูอยากให้มึงเปิดให้นิ”
“ไม่อ่ะ มึงออกไปเองได้มึงก็ต้องเข้ามาเองได้สิวะ” กันต์ทำท่าทีไม่สนใจตุลย์ ก่อนจะเดินมานั่งยังโชฟา ชดมาม่ากินต่ออย่างไม่สนใจ
“กูขอมึงดีๆ แล้วนะ ปลาทอง”
“ปลาทองพ่อมึงสิ กูชื่อกันต์ เรียกให้ถูกหน่อย” กันต์ตะโกนต่อว่ากลับอีกฝ่าย ด้วยความไม่พอใจ
“ก็กูไม่อยากเรียกมึงเหมือนใครนิ”
“มึงบ้าป้ะเนี่ย”
“เปล่ากูปกติดี กูสายแล้วอย่าลืมเปิดประตูให้ด้วยละ” สิ้นเสียงดังประตูห้องได้ถูกปิดลงทันควัน ตุลย์ไม่รอฟังคำตอบจากกันต์แม้แต่น้อย
“เฮ้ย!! เดี๋ยวสิวะ ฟังภาษาคนไม่รู้เรื่องหรอไง ไอ้ผม...มันไม่ใช่ผมเทาแล้วสิ จะเรียกมันว่าอะไรดีนะ แมวมันชื่อสายไหม งั้นเรียกใยไหม ไม่เอาอ่ะชื่อนี้น่ารักไป” กันต์หันไปมองปลาทองตัวสีดำ ที่กำลังว่ายน้ำอยู่ “ปลามันชื่อไข่มุก งั้นเรียกมันว่าชานมไปเลย” ในที่สุดเขาก็หาชื่อที่เหมาะกับตุลย์จนได้ “ดันมาเรียกเราว่าปลาทองดีนัก ค่อยดูเถอะจะเรียกให้ตายกันไปข้างเลยค่อยดูสิ ถ้ามันไม่เรียกชื่อเล่นเรา เราก็จะไม่เรียกชื่อเล่นมันเหมือนกัน”
เมี๊ยว!! เสียงแมวเดินเข้ามาใกล้รัศมีในระยะประชิด เมื่อกันต์เห็นขนสีขาวฟูฟองอยู่ใกล้เท้า จึงรีบดึงขาทั้งสองข้างขึ้นมาบนโซฟาทันทีด้วยความกลัว “ไปชิ๊ว” เขาพยายามไล่มันให้ออกห่างตัว พร้อมหยิบรีโมรท์ทีวีขึ้นมาค่อยๆ จิ้มไปยังหัวเจ้าแมวขนฟูเบาๆ ด้วยอาการตัวสั่นเทา “ไปนะ ไปเถอะ” แมวน้อยมองกันต์ตาละอย่างไร้เดียงสา ส่งสายตาออดวอนขอให้เขาช่วยเล่นกับมันที ขนฟูทำท่ากลิ้งไปกลิ้งมาอยู่ด้วยความน่าเอ็นดู
“ฉันก็อยากจะเล่นกับแกนะ แต่เอาไว้ฉันกล้ามากกว่านี้ฉันจะเล่นด้วย ตอนนี้อยู่ให้ห่างจากฉันหน่อยนะ เด็กดี” น้ำเสียงอ่อนโยนพูดส่งไป แมวน้อยกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะลุกเดินไปยังที่อื่นด้วยความฉลาดของเจ้าตัวน้อย เฮ้อ!! เขาถอดหายใจยาวออกมา ปาดเหงื่อที่ไหลอยู่บนหน้าออก เวลาเขาอยู่ใกล้แมวทีไร จะรู้สึกหวาดกลัว ชอบนึกถึงเรื่องราวในวัยเด็กมันย้อนกลับมาทำร้ายเขาแทบทุกครั้ง
ร้านเหล้าข้างมหาลัยแห่งหนึ่ง...
เสียงชนแก้วดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในท่ามกลางแสงไฟสลัว เสียงเพลงเปิดคลอเบาๆ ให้ดื่มด่ำกับบรรยากาศในยามค่ำคืน ผู้คนเข้ามาจับจองที่นั่งกันอย่างเนื่องแน่น โดยมีจุดเด่นอยู่ที่โต๊ะหน้าเวที คือกลุ่มของคณะวิศว ซึ่งมีจำนวนวผู้คน ไม่ต่ำกว่า20คน นั่งเรียงแถวติดกัน โดยมีต่อเป็นประธานรุ่น เปิดงานในครั้งนี้
“กินให้เต็มที่เลยนะมึง เดี๋ยวกูเลี้ยงเอง” ต่อยกขวดเหล้าขึ้นมาตี พร้อมกับชูแก้วเหล้าขึ้น “เอาดื่ม” ทุกคนในโต๊ะต่างพากันร้องเพลง โยกตัวไปตามจังหวะดนตรี
“โทษทีวะ กูมาสาย” ตุลย์เดินเข้ามายังในร้าน พร้อมรีบกล่าวคำขอโทษให้กับเพื่อนๆ ทุกคน ก่อนนั่งลงไปข้างๆ ปาล์มที่มาถึงงานก่อนหน้านี้แล้ว
“มาช้าตามเคยนะมึงอ่ะ เอารินเหล้าให้ไอ้ตุลย์มันหน่อยสิ” ณัฐ เพื่อนตรงข้ามรีบรินเหล้าเพียวๆ ก่อนส่งไปให้กับตุลย์
“เออๆ ขอบใจ” ตุลย์รับแก้วเหล้านั้นมา ก่อนจะกระดกกลืนเข้าไปรวดเดียว “อ๊าส!!”
“ไอ้ตุลย์นี้มันคิดไงไปเปลี่ยนสีผมมาวะ กูเห็นมึงผมเทามาตั้งแต่ ปี1” ปาล์มถามกลับด้วยความสงสัย พร้อมทั้งเพื่อนๆ ในกลุ่ม อยากรู้เหตุผลด้วย
“อ่อ กูแค่อยากเปลี่ยนสีผมเท่านั้นแหละ ไม่มีอะไรมากหรอก” ตุลย์ตอบกลับเพื่อให้มันผ่านๆ ไป ทั้งๆ ที่จริงเขามีเหตุผลมากกว่านี้
“แต่กูว่า มึงดูดีมากเลยนะเนี่ย สีผมเนี่ย” ณัฐ พูดแซวเพื่อน
“เวอร์ละ มากินเหล้ากันนิ จะมาสงสัยเรื่องสีผมกูทำไม เอาๆ มากินต่อ” ตุลย์ ยกขวดเหล้าก่อนรินใส่แก้ว ก่อนยกขึ้นมาจิบไปเรื่อยๆ โดยมีปาล์มนั่งมองดูพฤติกรรมเขาอยู่ห่างๆ
หญิงสาวโต๊ะข้างๆ เมื่อเห็นตุลย์เดินเข้ามายังในร้าน ต่างพากันจ้องมองตุลย์อย่างหื่นกระหาย พวกเธอส่งซิกไปให้กับเพื่อนสาว ที่สวยที่สุดในกลุ่ม หญิงสาวปากแดงผมลอนยาวสีน้ำตาลมาในชุดสีขาวลายรูปไม้เปิดไหล่ทั้งสอง สวมกางเกงยีนตัวสั้นจิ๊ด ยิ้มมุมปากก่อนจะเดินตรงมายังโต๊ะหนุ่มๆ คณะวิศวะ ผู้ชายภายในร้านต่างพากันหันมามองเธอด้วยแววตาหวานเย้ย พร้อมอยากจะลุกขึ้นเข้ามาทำความรู้จักกับเธอ ด้วยความสวยที่ดูมีออร่าของเธอ มักดึงดูดผู้ชายทุกคนให้หลงรักอย่างง่ายดาย
สายตาโต๊ะหนุ่มๆ วิศวะ ต่างจ้องมองเธอเช่นกัน เธอเดินมาหยุดอยู่ข้างหลังตุลย์ พร้อมเสยผมขึ้นอย่างช้าๆ “คืนนี้ว่างไหมคะ ไปต่อกันไหม” เธอกระซิบไปที่ข้างหูเขาอย่างอ่อนโยน
ตุลย์ที่กำลังจะยกแก้วเหล้าเพื่อดื่มต่อ ต้องวางแก้วลงไป พร้อมหันหน้ามองดูหญิงสาวสวยคนนี้ เมื่อเขาเห็นหน้าเธอกลับนั่งนิ่งไม่ตอบโต้อะไรกลับ
“เฮ้ย!! ไอ้ตุลย์ น้องเขามาหามึงขนาดนี้แล้ว มึงจะปล่อยไปไม่ได้นะโว้ย” ต่อพูดกระซิบข้างๆ หู
“แต่กู...”
“ไปนะคะ พี่ตุลย์ ตอนนี้น้องต่ายรู้สึกปวดหัวยังไงไม่รู้” เธอจับแขนเขาไว้แน่น ก่อนจะใช้มารหญิงเล่นละครตบตาเขา ว่าเธอยืนไม่ไหว
“ไปเลยไอ้ตุลย์ พาน้องเขาไปนอนพักห้องมึงหน่อยสิ ห้องใหม่มึงอยู่ใกล้ๆ แค่นี้เองไม่ใช่หรอวะ” แววตาของเพื่อๆ ในกลุ่ม ต่างพาพยักหน้ารับให้เขาทำตามในสิ่งที่ต่อบอก จึงทำให้เขาไม่กล้าปฏิเสธเธอลงก่อนที่เขาลุกขึ้นได้ยกแก้วเหล้าขึ้นมากระดก 1 ที ก่อนจะลุกยืนพร้อมกับเสียงเชียร์เพื่อนๆ ต่อเนื่อง
“สู้โว้ยไอ้ตุลย์ อย่าให้เสียชื่อผู้ชายคณะวิศวะอย่างเรา” เสียงเชียร์นั้นไหล่ตามหลังเขามาไม่ห่าง สายตามองดูเธอที่กำลังเกาะแขนเขาไว้แน่นไม่ยอมปล่อย ก่อนจะถอดหายใจเฮือกใหญ่ออกมา จากนั้นค่อยๆ ประคองร่างบางของเธอไปยังคอนโด
“ใครว่าคืนนี้ไอ้ตุลย์ได้น้องเขาแน่ ชนหน่อยเร็ว” ทุกคนภายในโต๊ะต่างชนแก้วขึ้นพร้อม โดยมีแค่เพียงปาล์มที่นั่งเงียบไม่ร่วมสนุกไปกับเพื่อนๆ ด้วย
(เวลา23.00น.)
ดวงตาใสลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆ เสียงทีวียังคงเปิดอยู่ เขายกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาอยู่อีกครั้ง “5ทุ่มแล้วหรอเนี่ย” เขาพยุงตัวเองลุกขึ้นจากโซฟาด้วยอาการงัวเงีย บิดซ้ายบิดขวา เพื่อเตรียมตัวเข้าไปนอน สายตาพบเข้ากลับขนฟูสีขาวที่นอนหลับอยู่บนโต๊ะอาหาร “นี่ไอ้บ้านั้นมันยังไม่กลับมาอีกหรอวะเนี่ย” ยังไม่พูดจบ ณ ขณะนั้น จู่ๆ เสียงอ๊อดได้ดังขึ้นมาจากหน้าประตู
ปิ๊งป่อง!!
กันต์ปิดทีวีลง ก่อนจะเดินไปยังหน้าประตู พร้อมเขย่งปลายเท้าขึ้นเพื่อส่องดูตาแมวว่าเป็นใคร ภาพที่เขาเห็นคือตุลย์กำลังยืนประคองหญิงสาวสวยอยู่คนหนึ่ง ที่มีท่าทีลักษณะเหล้านัก เขาเปิดประตูออกไปอย่างไม่คิดอะไร
“อ้าว คุณแฟนน่ารักจัง รอเปิดประตูให้เขาด้วย”
“ฮ่ะ แฟนอะไรของมึงวะ”
(ความจริงก็คือความจริง เราไม่สามารถหลีกหนีมันไปไหนได้)
ความคิดเห็น