คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : คนที่คาดว่าจะเป็นเนื้อคู่....
ชมรมวิทยุกระจายเสียง
กันต์ขมวดคิ้ว มองหน้าเพื่อนรักทั้งสอง ที่ยื่นยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ดูท่าทางมีลับลมคมใน ขณะเปิดกระดาษ A4ปึกหนา เขาเปิดดูไปทีละหน้า กวาดสายตาอ่านตัวอักษรแต่ละบรรทัดช้าๆ เนื้อหาในกระดาษมีเรื่องราวเกี่ยวกับ ประวัติส่วนตัวนักศึกษาชั้นที่ปี3เพศชาย คณะต่างๆ รวมอยู่ในนี้ทั้งหมด
“โห!! นี้มึงไปหามาได้ไงวะ ไอ้คิม”
“กูไปขอน้องครีมฝ่ายทะเบียนกิ๊กเก่ากูหามาให้น่ะ” คิมยื่นยิ้มอย่างภูมิใจในความหล่อของตัวเอง กันต์กับบาสถึงกลับมองหน้ากัน แบะปากเล็กน้อย
“เออ..ไอ้พ่อคนหล่อ ว่าแต่มันเยอะขนาดนี้แล้วกูจะรู้ได้ไงว่ะ ว่าคนไหนมันคือเนื้อคู่กู”
“เนื้อคู่มึงหรอ ลองเปิด ไป 4 หน้าสุดท้ายสิ” บาสพูดแทรกขึ้น ก่อนรีบเดินมานั่งเก้าอี้ข้างๆ
“4หน้าสุดท้ายหรอวะ”
กันต์ เปิดกระดาษไปจนถึง 4หน้าสุดท้าย หน้าแรก มีรูปนักศึกษาติดไว้ นาวิน คณะศิลปศาสตร์,หน้าถัดมา อาร์ม คณะวิทยาศาสตร์การกีฬา หน้าที่สาม 3 กวิน คณะรัฐศาสตร์ ซึ่งทั้ง3คน เกิดวันพุธกลางคืนทั้งหมด
เขาอ่านข้อมูลส่วนตัวของทุกคนไปจนถึงกระดาษแผ่นสุดท้าย สายตาสะดุดรูปภาพนักศึกษาชายผมสีดำเข้มที่เหมือนรู้สึกคุ้นเคย ก่อนเลื่อนลงมาอ่านชื่อข้างล่าง “ตุลย์ คณะวิศวะ เฮ้ย!! นี่มันไอ้ผมเทานิ” กันต์ตะโกนเสียงดัง เงยหน้ามองเพื่อนทั้งสอง พร้อมแสดงสีหน้าตกใจ เขาไม่คิดเลยว่าคนที่เขาเกลียดขี้หน้าตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน แถมวันนี้ยังขโมยน้ำชาปั่นไปต่อหน้าต่อตา จะอยู่ 1ใน4 เนื้อคู่ของเขา
“ใช่มึง ไอ้ตุลย์คนที่มีเกลียด” บาสรับรู้เรื่องราวของกันต์ที่มีต่อตุลย์ทั้งหมด จึงไม่อยากพูดออกไปตั้งแต่แรก
“ไม่จริงอ่ะ นี้พวกมึงร่วมหัวกันแกล้งกูใช่ไหม”
“มึงลองอ่านข้อมูลมันดูก่อนสิวะ ค่อยมาว่าพวกกู” คิมพูดขึ้น กันต์ที่ไม่มีทางเลือกจึงจำใจก้มลงอ่านข้อมูลต่ออย่างละเอียด ถี่ถ้วน
“ชื่อเล่นตุลย์ เกิดวัน ที่22กันยายน 2542 เวลาเกิน 23.00 น. วันพุธกลางคืน สัตว์ที่ชอบ แมว น้ำที่ชอบอะไรก็ได้ที่มีไข่มุก คติประจำใจ ถ้าชอบก็ทำ ไม่ชอบก็ไม่ทำ นี่วันเกิดมันกับกูตรงกันเลยวะ แค่กูเกิดวันพุธกลางวัน” เพื่อนทั้งสองต่างพยักหน้ารับ
“ก็ใช่ไง กูว่านะไอ้ตุลย์เนี่ยแหละ มีแววเป็นเนื้อคู่มึงมากที่สุด” สิ่งที่บาสพูด ทำให้กันต์หันขวับมองตาขวางใส่ด้วยความไม่พอใจ
“ไม่จริง กูว่าไม่ใช่มันหรอก มีอีกตั้งคน3นี่ ที่เกิดวันพุธกลางคืนเหมือนกัน” กันต์พยายามหาข้ออ้างมาพูดเพื่อให้ตัวเองรู้สบายใจ
“แต่ ไอ้กันต์...” คิมที่ยังพูดไม่ทันจบ ได้ถูกมือหนาๆ ของกันต์ ยกขึ้นมาปิดปากเอาไว้แน่น สายตาจ้องเขม็งมองเพื่อนรักไม่ให้พูดในสิ่งที่ตัวเองไม่อยากฟังออกมา
“พวกมึงเงียบไปเลย ถ้าไม่อยากช่วยกู เดี๋ยวกูไปหาพวกนั้นเองก็ได้”
บาสและคิมต่างหันมองหน้ากันเมื่อเห็นกันต์โวยวายเสียงดังไม่ยอมฟังพวกเขาแม้แต่น้อย บาสจึงส่งชิกให้คิมพูดต่อ
“ใครว่ากูจะไม่ช่วยมึงหาวะ กูต้องช่วยมึงอยู่แล้ว ส่วนไอ้ตุลย์เอาไว้เป็นตัวเลือกสุดท้ายละกันเนอะ” คิม พูดให้เพื่อนใจเย็นลง
“เออ แต่เอาไว้หาพรุ่งนี้ละกันนะ วันนี้กูรู้สึกเพลียๆ เมื่อยเนื้อเมื่อยตัวคล้ายจะเป็นไข้ยังไงไม่รู้วะ”
“นี่อย่าบอกนะมึงไปตากฝนมาอ่ะ” บาสรีบถามด้วยความเป็นห่วง ก่อนยกมือวางไว้บนหน้าผากกันต์ “ตัวร้อนจี้เลยวะ ให้กูไปส่งมึงที่คอนโดไหม” กันต์ปัดมือบาสออก
“ไม่เป็นไร คอนโดกูอยู่ใกล้แค่นี้เอง พวกมึงไปเรียนเถอะ อย่าลืมเช็คชื่อให้กูก็พอ”
“มึงแน่ใจนะ ว่าเดินไหว” คิมถามย้ำ ด้วยความเป็นห่วงเพื่อน ตั้งแต่เป็นเพื่อนกันมา เขาไม่เคยเห็นกันต์ไข้ขึ้นสูงถึงขนาดนี้
“ไหวสิวะ มึงก็รู้ไอ้คิมกูเข้มแข็งแค่ไหน ไปๆ พวกมึงรีบไปเรียนได้แล้ว สายแล้วเนี่ย” กันต์รีบผลักเพื่อนๆ ทั้งสองให้ออกจากห้องชมรมไป
“ถึงคอนโดละโทรหากูด้วย”
กันต์พยักหน้ารีบคิม พร้อมโบกมือลาเพื่อนทั้งสอง ก่อนหันหลังเดินลงบันได เงยหน้ามองท้องฟ้าสีครามที่ฝนพึ่งหยุดตกไปได้เพียงไม่นาน ก่อนค่อยๆ ประคองตัวเองเดินมายังคอนโด ด้วยร่างกายที่อ่อนเพลียเต็มที แค่ก!! เสียงไอดังเป็นระยะ
เสียงประตูห้องปิดลง เสื้อนักศึกษาสีขาว กางเกงสแล็คสีดำ ที่ยังไม่แห้งดีได้ถูกถอดทิ้งไว้บนพื้น เหลือเพียงบ๊อกเซอร์ลายการ์ตูนเพียงตัวเดียว ร่างบางเผยให้เห็นหน้าอกขาวเนียนกำลังนอนคตตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนหนาบนโซฟาห้องรับแขก ด้วยอาการเพลียจากไข้
หญิงสาวในชุดสีดำ ปราฎกขึ้น ณ ห้องรับแขก มือเรียวเล็ก ค่อยๆ วางบนหน้าผาก “ไม่สบายสินะ” เธอยื่นมองเขา ที่กำลังนอนหลับไม่ได้สติอยู่บนโซฟา ก่อนร่ายคาถาเสกผ้าชุบน้ำหมาดๆ ไว้บนหัวกันต์ พร้อมเสกนิตยสารขึ้นมาเพื่อนั่งอ่านข้ามเวลา รอให้กันต์ตื่นขึ้นมาพบเธอ
เวลาผ่านไปไม่นานนัก ร่างบางเริ่มรู้สึกฟื้นตัวจากอาการไข้ ดวงตาสีดำค่อยๆ ลืมตาขึ้น กะพริบตาปริบๆ มองเพดานห้องสีขาวที่ประดับด้วยโคมไฟสลัว พร้อมสูดกลิ่นหอมของดอกกุหลาบที่ลอยตลบอบอวนไปทั่วห้อง
“ตื่นแล้วหรอจร้า กันต์” เสียงใสๆ หญิงสาวเอ่ยขึ้นข้างหู
“ครับ” เขาตอบกลับด้วยอาการงัวเงีย ก่อนหันไปตามเสียงเรียกของหญิงสาว ภาพตรงหน้าทำให้ดวงตาเขาเบิกโพลง เมื่อปรากฏร่างหญิงสาวอยู่ภายในห้อง “เฮ้ย!!” เขาร้องอุทานตกใจเสียงดัง กระเด้งตัวเองลุกขึ้นยืนขึ้นอัตโนมัติ มือทั้งสองข้างยกผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาปิดเรือนร่าง “นี่ป้าเข้ามาห้องผมได้ไง” กันต์มองซ้ายขวาสำรวจมองไปทั่วห้อง เพื่อดูว่ามีประตูบานไหนถูกเปิดออก
“ป้าบ้านเธอสิยะ จำฉันไม่ได้แล้วหรอ คนที่เธอขอให้ดูดวงให้เมื่อวานนี้ไง” กันต์ยื่นนิ่งนึกย้อนไปเรื่องเหตุการณ์เมื่อวาน ที่เขากับเพื่อนไปเจอเรื่องเหลือเชื่อเข้า
“จำ...จำ...ได้แล้วครับ ป้าที่บอกว่าตัวเองเป็นแม่มดนี้เอง”
“นี่ถ้าเรียกฉันว่าป้าอีกรอบ ฉันจะเสกให้เธอเป็นหมูค่อยดูสิ” เธอชักสีหน้าไม่พอใจใส่อีกฝ่าย ก่อนสะบัดกระโปรงยาวออก แล้วนั่งไขว่ห้างลงไปยังโซฟา
“ขอโทษครับ ถ้าไม่ให้ผมเรียกป้า แล้วจะให้ผมเรียกว่าอะไรครับ”
“นั้นสินะ ฉันยังไม่ได้บอกชื่อเธอเลย ฉันออโรร่า เป็นแม่มดที่ทั้งสาวและสวยไม่มีใครมาเทียบได้ แถมยังโสดด้วยนะ” เธอบรรยายพูดสรรพคุณของตัวเองออกมา จนทำให้กันต์ชักสีหน้าเหนื่อยใจออกมา
“อ่อ...ครับออโรร่า”
“แล้วนี่จะยืนอีกนานไหม ที่ฉันมาหาเธอวันนี้ พอดีฉันมีเรื่องอยากจะคุยกันเธอ”
กันต์ยืนนิ่งไม่กล้าขยับตัวไปไหน เพราะเนื่องจากภายใต้ผ้าห่มผืนหนามีเพียงบ๊อกเซอร์ตัวเดียวที่เขาใส่อยู่ตอนนี้
“คือว่า.....ผมขอตัวไปใส่เสื้อผ้าก่อนได้ไหมครับ แล้วผมจะมาคุยด้วย”
“รีบๆละกัน ฉันมีเวลาไม่นาน” กันต์รีบพยักหน้า ก่อนจับผ้าห่มผืนหนาขึ้นมาคลุมตัว แล้วรีบเดินเข้าห้องนอนตัวเองไป ท่าทีลุกลี้ลุกลน
“เฮ้อ!! เด็กสมัยนี้ทำไมต้องอายด้วยนะ ฉันเห็นจนชินตาแล้วย่ะ” เธอยกแก้วไวน์องุ่นขึ้นมาจิบไปพลางๆ
เสียงประตูห้องเปิดออก กันต์ค่อยๆ โผล่หัวออกมาจากประตู จ้องมองออโรร่าอีกรอบ เพียงไม่กี่วินาที สายตาของเธอกลับหันมามองเขาเช่นกัน
“ฉันไม่ใช่ผีย่ะ ไม่ต้องกลัวฉันขนาดนั้นก็ได้ รีบๆ นั่งมาสักทีเถอะ”
“ครับๆ ...” กันต์ก้าวขาเดินออกมาจากห้องนอน ด้วยกางเกงวอมขาวยาวสีดำ พร้อมเสื้อฮู้ดสีดำ ปกปิดร่างกายไว้อย่างมิดชิด ก่อนนั่งลงไปยังโซฟา ตรงข้ามเธอ
“เข้าเรื่องเลยละกันนะ” กันต์พยักหน้ารับ “ที่ฉันมาหาเธอวันนี้ จะมาคุยเรื่องเนื้อคู่เธอเนี่ยแหละ” เธอยกไวน์มาจิบอีกรอบ
“แล้ว ออโรร่ารู้ไหมครับ ว่าใครคือเนื้อคู่ของผม”
“รู้สิ”
“ใครครับ” กันต์ นั่งรอฟังคำตอบอย่างใจจดใจจ่อ
“เอาเป็นว่า ฉันบอกเธอได้แค่ว่า วันนี้เขาจะมาหาเธอเอง”
“วันนี้ เนื้อคู่ของผม จะมาหาผมที่ห้องหรอครับ” เธอพยักหน้ารับ ไม่ตอบกลับมาเป็นคำพูด ยิ่งทำให้กันต์สงสัยหนักขึ้นไปกว่าเดิม
“นี่ก็ถึงเวลา ที่ฉันต้องไปสปาขัดผิวแหละ เอาไว้เจอกันใหม่นะหนุ่มน้อย บายจร้า” หลังจากที่เธอพูดเสร็จ ร่างของเธอก็ได้สลายหายไปต่อหน้าต่อตากันต์ทันที
“เดี๋ยวสิ ออโรร่า” กันต์หันมองไปรอบๆ ห้อง ก็ไม่พบว่าเธออยู่ในห้องแล้ว “อะไรกันเนี่ย จู่ๆ ก็ตัวหายไป ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลย” เขาถอดหายใจ ก่อนเอนกายลงบนโซฟา นั่งนึกย้อนถึงคำพูดที่เธอพูดออกมา “เนื้อคู่จะมาหาวันนี้หรอ มันจะเป็นไปได้ไงกัน ห้องนี้เราอยู่มา 3 ปี ไม่เคยมีใครมาหาเลยสักคน แม้แต่เพียงสนิท เคยมาห้อง 2ครั้งเอง หึ!! เธอพูดหลอกเราชัวร์”
กันต์ลุกยืนขึ้น ก่อนเดินไปยัง ตู้ปลาที่ถูกตั้งไว้กลางห้อง ภายในนั้นมีปลาทอง สีส้มอร่ามตัวอ้วนกลมกำลังว่ายน้ำไปมา อยู่เพียงลำพัง ชื่อม้าน้ำ เขารักปลาทองตัวนี้มาก เลี้ยงมาตั้งแต่ย้ายเข้ามาอยู่ในห้องนี้ได้ใหม่ๆ แต่ก่อน เขาไม่ได้อยู่คนเดียว กันต์มีพี่สาวอยู่ 1 คน ซึ่งห่างจากเขา 2ปี เธอชื่อว่า กิ่งแก้ว พี่สาวที่ดูแลเขาอย่างดี คอยทำกับข้าวให้กิน เป็นเพื่อนคุยเวลายามเหงา ได้เรียนจบไปเมื่อเทอมที่แล้ว จึงทำให้เขาอยู่เพียงลำพัง
ตอนนี้มีเพียงปลาทอง ที่ไว้คุยเวลายามเหงา เวลาเขารู้สึกไม่สบายใจหรือมีเรื่องให้ต้องคิดมาก เขามักจะเดินมาคุยกับปลาทองเขาเป็นประจำ
“กินเยอะๆ นะม้าน้ำ” กันต์โปรยอาหารปลาลงไป ก่อนเดินเข้าไปอาบน้ำ
เวลาผ่านไปไม่นานนัก ร่างบางเดินออกมาจากห้องน้ำ ด้วยเสื้อยืดสีขาว กับกางเกงนอนขาสั้น ก่อนจะมานั่งลงดูโทรทัศน์สักพัก สายตาเหลือบไปมองนาฬิกาเพดาน บ่งบอกว่า 5ทุ่มตรง เสียงข่าวจากโทรทัศน์ดังขึ้นเป็นระยะ เขาเริ่มสัปหงกเผลอหลับไปหลายรอบ ด้วยอาการอ่อนเพลียจากไข้ ที่ยังไม่หายดี ก่อนรู้สึกตัวขึ้น เอื้อมมือกดปุ่มรีโมทปิดโทรทัศน์ลง จากนั้นลุกขึ้นยืนบิดซ้ายบิดขวาเพื่อเตรียมตัวเขานอน
ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง เสียงอ๊อดที่ประตูหน้าห้องดังขึ้น
ในขณะที่มือขอกันต์กำลังจะเอื้อมไปจับ ลูกบิดประตูห้องนอน จู่ๆ เสียงกดอ็อดหน้าห้องดังขึ้น เขาหันไปมองหน้าประตูด้วยความสงสัย ตั้งแต่เขาอยู่ที่นี่มา ไม่เคยมีใครมากดอ็อดหน้าห้องเลยสักหน เขาเดินไปยังหน้าประตูด้วยอาการงัวเงีย
“แป๊บนะครับ”
ติ๊งต่อง ติ๊งต่อง เสียงอ๊อดนั้น ดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนทำให้กันต์ต้องเร่งฝีเท้าเดินไปยังหน้าห้องให้เร็วที่สุด
“มาแล้วครับ”
เขาพูดพร้อมกับเปิดประตูออกกว้าง ภาพเบี่ยงหน้าเล่นเอากันต์แทบอยากจะเป็นลม ล้มไปนอนกับพื้น เขายืนนิ่งตัวชาไปทั่วตัว พร้อมกลับอ้าปากค้าง กะพริบตาปริบๆ ลมหายใจแทบหยุดลงไปชั่วขณะ เส้นผมสีเทาที่ดูเตะตา บวกกับใบหน้านิ่งเฉย ที่เขารู้สึกคุ้นเคยเป็นอย่างดี กำลังยื่นอยู่หน้าห้อง พร้อมกับสัมภาวะถือติดตัวมา
(นี่นะหรอ คือเนื้อคู่ของผม)
“ไอ้ผมเทา”
(อะไรที่เรามักจะเกลียดมากๆ มันมักจะนำพาให้เราพบเจอเสมอ)
เป็นยังไงกันบ้าง คอมเมนต์มาบอกได้นะคะ
ความคิดเห็น