ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ไอ้หมอนี่...เป็นเนื้อร้าย เฮ้ย!!เนื้อคู่ผม

    ลำดับตอนที่ #1 : ต่อปากต่อคำ...

    • อัปเดตล่าสุด 8 ก.ย. 63


    ไอ้ตุลย์” รอยยิ้มเล็ก ๆ เอ่ยทักทายคนเคยสนิทหลังจากห่างเหินกันไปนาน1เดือน สีหน้าคนตรงหน้ากลับมีท่าทีไม่ดีใจแม้แต่น้อย

    มึงเป็นใคร!!”

    ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง ถ้าเลือกได้คงไม่อยากให้มันเป็นแบบนี้

     

    ระหว่างความสุขกับความเจ็บปวดเป็นคุณจะเลือกแบบไหน

    +++++++++++++

     

    ย้อนกลับไป 2เดือนก่อน....

    ความเชื่อกับความงมงายมักมีเส้นบาง ๆ กั้นไว้อยู่ คนส่วนใหญ่ต่างหาข้อเท็จจริงริงเพื่อนำมาลบล้างความเชื่อที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้จริง ยิ่งกาลเวลาเปลี่ยนแปลงเท่าไรความเชื่อเหล่านั้นจะเริ่มค่อยๆ เลือนหายไปในที่สุด

     

    โทษทีนะเราคิดกับเธอแค่เพื่อน”

     

    เธอดีเกินไป”

     

    เป็นเพื่อนกันดีแล้ว”

     

    เราคงไม่คู่ควรกับเธอ”

    ประโยคปฏิเสธสุดแสนคลาสสิคที่คนพูดมักหาข้ออ้างหรือเหตุผลต่างๆ นานาพูดให้ตัวเองดูเป็นคนผิดน้อยลง แต่คนรับฟังต้องเจ็บปวดรวดร้าว เหมือนโดนมีดกรีดเข้ากลางใจ

    กันต์ ชายหนุ่ม อาภัพรัก อายุ 21ปี เรียนคณะนิเทศศาสตร์ สาขาวิชาวิทยุกระจายเสียงและวิทยุโทรทัศน์ ปี3

    กำลังพบกับปัญหาอันเกินจะรับไหวอยู่ในขณะนี้....

    โทษทีนะกันต์ เราชอบเธอแบบเพื่อนจริงๆ” หญิงสาวผมยาวสลวยสีดำ ใบหน้าคมเข้ม ขนตางอน ปากเรียวกระจับเข้ารูป สวมกระโปรงสั้นจู๋ แสดงสีหน้าเศร้าใจ เธอสบตามองเขาอีกครั้งก่อนหลบสายตาลง แล้วเดินก้มหน้าผ่านเขาไปอย่างไร้เยื่อใย

    ประโยคพวกนี้เขาน่าจะชินได้แล้ว นี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่โดนปฏิเสธกลับมา แต่ครั้งนี้ทำไมมันรู้สึกเจ็บกว่าครั้งอื่น กันต์ยืนตัวชา ขาแทบไม่มีเรี่ยวแรง เมื่อน้ำส้มเพื่อนสาวคนสนิทที่ใครหลายคนในคณะต่างคิดว่าเขาและเธอคบกัน ดันตอบปฎิเสธความรักที่เขามีต่อเธอกลับมาแค่คำว่าเพื่อน

    “...เพื่อน...”

    เขาพยายามยืนทรงตัวไม่ให้ล้มลงไปนอนกับพื้น ตาเริ่มแดงก่ำ ก่อนหันหน้ามองลานน้ำพุอันเลื่องชื่อผ่านเลนส์แว่นตาใส ที่คนในคณะต่างบอกกันปากต่อปากว่า ถ้าสารภาพรักกับคนที่ตัวชอบจะได้ดั่งหวังสมดังปราณนา

    ไหนบอกศักดิ์สิทธิ์ไงวะ แล้วไงมันถึงเป็นแบบนี้ ไอ้ตำนานลานน้ำพุอะไรเนี่ยแม่งหลอกกันชัดๆ” กันต์เปล่งเสียงตะโกนต่อว่าสระน้ำอย่างไร้เหตุผล ถ้าไม่ใช่เพื่อนตัวดีของเขาทั้งสอง ต่างพากันเป่าหูเขาจนหลงเชื่อมาละก็ เขาไม่มีวันทำตามเด็ดขาด

    ทำไมกันวะ เราถึงไม่สมหวังในเรื่องความรักเลย”

    ตั้งแต่เขาเริ่มจำความได้พอลืมตาขึ้นมายังบนโลกใบนี้ นอกจากความรักของพ่อแม่และเพื่อนแล้ว เขาไม่เคยได้สัมผัสความรักจากใครอีกเลย

    เวลาจีบใครมักจะแห้ว ทั้งๆ ที่หน้าตาเขาไม่ดูแย่แต่อย่างใด กันต์สูงราวๆ 175 ซม.ตามเกณฑ์ชายไทยทั่วไปผิวขาว หน้าตาตี๋ลูกครึ่งไทยจีน ปากอมชมพู ใส่แว่นตา สาวไหนเห็นเป็นอันต้องตกหลุมรัก แต่ความเป็นจริงกลับแสนโหดร้าย เวลาเขาจีบใครสักคนมั่นใจว่าเธอคือคนที่ใช่ มักจะจบลงด้วยคำว่าเพื่อน ไม่ก็พี่ชาย จนตอนนี้เขามีพี่น้องเพิ่มขึ้นจนนับไม่ถ้วน

    โอ๊ย!! จะมาแหกปากอะไรแถวนี้คนจะนอน” ชายร่างสูง ผิวขาว หน้าตาจัดอยู่ในเกรณ์หนุ่มหล่อของมหาลัยระดับต้นๆ ปากสีชมพูอ่อน ผมสีเทาหม่น (ควั่นบุหรี่) สวมเสื้อช็อปสีน้ำตาลเข้มหยิบหนังสือออกจากหน้าก่อนค่อยๆ ลืมตาสีน้ำตาลอ่อนขึ้นมา พยุงตัวเองลุกขึ้นนั่งท่าทางอารมณ์ฉุนเฉียว

    กันต์หันขวับมองตามเสียงชายคนดังกล่าวไปยังพุ่มไม้ไม่สูงมาก ที่ในนั้นมีโต๊ะม้าหินอ่อน ตั้งไว้อยู่กลางสวนหย่อมเล็กๆ หน้าตึกคณะนิเทศ เขากำหมัดแน่นเดินตรงไปยังโต๊ะม้าหินอ่อน ที่เจ้าของเสียงนั่งอยู่ สายตามองหน้าคู่กรณีอีกฝ่าย อย่างไม่สบอารมณ์

    สิ่งแรกที่เขารู้สึกเตะตาผู้ชายคนนี้ก็คือสีผมอันเด่นชัด ที่คนส่วนใหญ่ในมหาลัยไม่ทำกัน รองลงมาคือเสื้อช็อปสีน้ำตาลเข้ม เขารู้ดีว่าผู้ชายคนนี้ไม่ธรรมดา แต่ถึงยังไงเขาก็ไม่กลัวอยู่ดี

    มึงว่าใคร ไอ้ผมเทา” กันต์เปิดประเด็นถามกลับ เมื่อเห็นอีกฝ่ายมองหน้าไม่พอใจเช่นกัน เขายืนกอดอกมองหน้าคู่กรณีอย่างไม่กลัว

    ก็ว่ามึงนั่นแหละ โตจะเป็นควายละ ยังจะมายืนร้องไห้เสียใจกับเรื่องพวกนี้อีก” คำๆ นี้ทำให้กันต์เลือดแทบขึ้นหน้า

    เสือก!! มันไม่เกี่ยวอะไรกับมึงเปล่าวะ อ่อแล้วอีกอย่างนี้มันตึกคณะนิเทศ ไม่ใช่ตึกคณะวิศวะ มึงจะมานอนโดยพลการตรงนี้ไม่ได้”

    ชายร่างสูงถอดหายใจแรงเมื่อได้ยินคำพูดของอีกฝ่ายก่อนลุกขึ้นยืน เสยผมสีเทาหม่นขึ้นอย่างช้าๆ กันต์รู้สึกตกใจเล็กน้อยเงยหน้ามองร่างสูง ระดับความสูงระหว่างเขากับผู้ชายคนนี้แทบเทียบกันไม่ติดแม้แต่น้อย ไหล่ของเขาพอดีกับหน้าอกของอีกฝ่ายเป๊ะๆ

    พ่อมึงซื้อโต๊ะม้าหินอ่อนนี้ไว้หรอไง กูถึงนอนไม่ได้” หนุ่มผมเทาตะคอกกลับมาอย่างไม่ยอม

    กันต์แอบสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อถูกอีกฝ่ายตอบกลับเช่นนี้แต่นั่นมันยิ่งทำให้เขามีแรงฮึดขึ้นสู้

    เอ่อ!!! .....จะซื้อหรือไม่ซื้อมันไม่เกี่ยวกับมึง ไสหัวไปนอนที่คณะมึงนู้นไป” กันต์ยกมือขึ้นก่อนชี้นิ้วไปทางตึกคณะวิศวะ

    คนตรงหน้าแสยะยิ้มขึ้น เมื่อเห็นอีกฝ่ายกล้าต่อปากต่อคำกับเขา ทั้งๆ ที่เขาเรียนคณะวิศวะ ชื่อเสียงอันโด่งดังในเรื่องชกต่อย ปากจัด ไม่กลัวใคร แทบไม่เคยมีใครกล้าเข้ามายุ่งกับพวกเขา ถ้ายังอยากมีชีวิตอยู่

    เอาเวลาที่มึงมาเถียงกูเนี่ย ไปล้างหน้าล้างคราบน้ำตาที่ไหลอยู่ก่อนไป๊ ไอ้แว่น...”

    กูไม่ได้ร้องสักหน่อย ที่เห็นหน้ากูมีน้ำคือเหงื่อโว้ย” กันต์พูดแก้ตัวออกไป ถ้าเกิดเขายอมรับความจริงไป มีหวังเขาโดนล้อเป็นเด็กแน่

    หึ!! กูจะยอมเชื่อละกัน เฮ้อ....คุยกับมึงแล้วเสียเวลาวะ กูไปดีกว่า” หนุ่มผมเทาเอื้อมมือไปหยิบกระเป๋าสะพาย ก่อนเดินเข้ามายืนประจันหน้าก้มหน้ามองอีกฝ่ายเผยยิ้มอย่างมีเลศนัย กันต์เห็นท่าไม่มีจึงรีบหลบสายตาทันที

    ป....ไป๊....ไปได้แล้ว” กันต์ไม่กล้าสบตากลับแม้แต่น้อย ทั้งๆ ที่ภายในใจแทบอยากจะชกหน้าไอ้หมอนี่แทบตาย แต่พอมาคิดดูดีๆ เขาไม่มีอะไรสู้หมอนี้ได้เลยสักนิด ความสูงก็กินขาดเขาไปไกลแล้ว

    หนุ่มผมเทาล้วงมือไปยังหน้ากระเป๋าเสื้อช็อปสีน้ำตาลเข้ม ก่อนหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนสีดำขึ้นมา ยัดใส่ในมือให้อีกฝ่าย

    เอานี่ไว้เช็ดคราบน้ำตา เอ่อ...แล้วไม่ต้องอยากรู้สึกขอบคุณกูหรอกนะ ที่กูให้ผ้าเช็ดหน้ามึงเนี่ยแค่รู้สึกสมเพชเวทนามึงเท่านั้น” ร่างสูงตบไปยังไหล่กันต์เบาๆ ก้มหน้ากระซิบไปที่ข้างหูอีกฝ่าย ก่อนจะเดินล้วงมือเข้าไปในกางเกงยีนยิ้มออกมาอย่างผู้ชนะ ก้าวเท้าเดินออกไปจากสวนหย่อมด้วยท่าทีสบายใจสบายอกสบายใจ

    กูไม่ได้ร้องสักหน่อย” กันต์รีบตะโกนบอกไป แต่อีกฝ่ายกลับไม่สนใจเขาแม้แต่น้อย “ไอ้บ้าเอ๋ย!! สมเพชเวทนาอะไรของมันกัน” เขาง้างมือเตรียมจะทิ้งผ้าเช็ดหน้าผืนนี้ลงไปบนพื้น เสียงลอยตามลมกระแทกเขามาที่หูของเขาทันที (ถ้ากูเห็นมึงทิ้งผ้าเช็ดหน้ากูละก็ กูสาบานเลยว่ามึงจะได้เห็นหน้ากูไปจนจบการศึกษา) เขาฉุกคิดประโยคที่ชายคนดังกล่าวพูดทิ้งท้ายไว้ ก่อนเอามือลงขยำผ้าเช็ดหน้าอย่างเคียดแค้น

    ให้ตายเถอะทำไมเราต้องมาเจอไอ้ผมเทานี้ด้วย เกิดมาพึ่งเคยพบเคยเจอคนปากหมาอย่างมัน ขอให้ครั้งนี้เป็นครั้งแรกและเป็นครั้งสุดท้ายที่ได้เจอมันอีก” กันต์บ่นพึมพำในใจ ก่อนจะเดินออกมาจากตรงนั้น

     

    ไอ้หมอนี่ชักน่าสนใจแล้วสิ” หนุ่มผมเทาแอบยืนมองเขาอยู่ข้างต้นไม้ จนอีกฝ่ายเดินขึ้นตึกคณะไปจนหลับสายตา

     

    (อกหักเป็นเรื่องขำๆ แต่ถ้าอกหักไปนานๆ จากขำมันจะกลายเป็นชินขึ้นมาแทน)

     

    เรียบเรียงบรรยายใหม่ทั้งหมด ขอให้คนอ่านลืมๆ อันเก่าไปก่อน

    แล้วเรามาเริ่มต้นอ่านกันใหม่นะคะ

    ยังไงฝากติดตามให้กำลังใจกันด้วยนะคะ

    ถ้าไม่ดียังไงคอมเมนต์บอกได้นะคะ

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×