คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : ไปซื้อของกันเถอะ
วันนี้วันจันทร์ ตอนนี้เป็นเวลาตีสี่ครึ่ง
ฉันตื่นมาทำบ้าอะไร ?
ไหน ๆ ก็ตื่นแล้ว เช็คตารางงานหน่อยดีกว่า
วันนี้ฉันมีสอนพิเศษเด็กสามคน คนละ 2 ชั่วโมง
คนแรก เก้าโมงถึงสิบเอ็ดโมง
คนที่สอง สิบเอ็ดโมงถึงบ่ายโมง
คนที่สาม บ่ายโมงถึงบ่ายสาม
อืม เลิกงานเร็วกว่าทุกวันแฮะ
ไปซื้ออะไรมาใส่ตู้เย็นในครัวดีมั๊ยนะ
ชวนบอลไปด้วยดีกว่า จะได้ช่วยกันจ่าย ฮี่ ๆ
ฉันเหลือบไปมองบอลที่ยังนอนอยู่บนเตียง ก่อนจะค่อย ๆ ย่องเข้าไปที่เตียง
ดู ๆ แล้วหมอนี่ก็หน้าตาไม่ได้แย่นะ
แต่นิสัยน่ะแย่สุด ๆ
หน้าตาสะอาดเกลี้ยงเกลา ผมสีดำขลับ
จะว่าไป....บอลตัวใหญ่กว่าฉันตั้งแต่เมื่อไหร่นะ แถมมือหมอนี่ยังใหญ่กว่าฉันตั้งเยอะ
เหอะ! บ้าที่สุด นี่ต้องเป็นเพราะฉันหยุดเจริญเติบโตเร็วแน่ ๆ
เฮ้อ นอนไม่หลับแล้วอ่ะ ออกไปซื้ออะไรกินดีกว่า
ฉันเดินไปหยิบกระเป๋าสตางค์แล้วออกจากห้องมา
รู้สึกว่าแถว ๆ นี้จะมีตลาดตอนเช้าอยู่นะ
ซื้อกลับมากินที่ห้องดีกว่า
สุดท้ายแล้วฉันซื้อปาท่องโก๋กับน้ำเต้าหู้มา
เป็นอาหารเช้าที่สิ้นคิดจริง ๆ แต่ก็เอาเถอะ
ฉันซื้อมามากกว่าปกติ เผื่อเจ้าบ้าที่นอนอืดอยู่ในห้องนั่นด้วย ดูสิว่าฉันน่ะมีน้ำใจกับว่าที่สามีที่แสนเลวร้ายนั่นแค่ไหน
“กริ๊ก” เสียงล็อคประตูห้องน่ะ
“แกไปไหนมา! โทรศัพท์ก็ไม่เอาไป ฉันตกใจมากนะที่ตื่นมาแล้วไม่เห็นแกน่ะ”
พอฉันเดินเข้ามาก็เจอกับบอลที่นั่งหน้ามุ่ยอยู่ที่โซฟา พร้อมกับเสียงบ่นยาวเหยียดของเจ้าตัว
ให้ฉันได้หายใจก่อนเถอะ
“ฉันแค่ไปตลาดมาน่ะ นี่! ฉันซื้อมาเผื่อแกด้วยนะ มากินด้วยกันเถอะ”
“อย่างน้อยแกก็น่าจะเขียนโน้ตบอกฉันหน่อย”
“โอเค ๆ คราวหน้าฉันจะเขียนโน้ตแปะไว้บนหน้าผากแกเลย โอเค๊? จะไปกินได้รึยัง”
“เออ ๆ”
“นี่ ๆ ปกติแกเลิกงานกี่โมงอ่ะ” ฉันถามขึ้นมาระหว่างที่เรานั่งกินปาท่องโก๋กันบนโซฟา
“หือ ปกติฉันเลิกงานสี่โมงครึ่งน่ะ ทำไมเหรอ”
“ว๊า ฉันว่าจะชวนแกไปเดินซื้อของด้วยกันซะหน่อย พวกของใช้น่ะ”
“อ๋อ แล้วแกจะไปกี่โมงล่ะ”
“วันนี้ฉันมีสอน เสร็จบ่ายสามน่ะ”
“อืม ฉันก็มีของที่อยากซื้อเหมือนกัน แกมารอฉันได้มั๊ย”
“ห๊ะ! ให้ฉันไปนั่งรอแกตั้งชั่วโมงกว่าเนี่ยนะ”
“แป๊ปเดียวเอง ฉันจะได้ไปซื้อของกับแกด้วยไง แกกำลังหาคนช่วยจ่ายเงิน แล้วก็คนช่วยถือของไม่ใช่เหรอ”
“ฉันเกลียดแกก็ตรงนี้”
“ตรงที่ฉันรู้ทันแกใช่มั๊ย”
“ใช่!”
“ตกลงแกจะไปรอฉันที่บริษัทมั๊ย”
“เฮ้อ รอก็ได้”
“คนที่ต้องถอนหายใจน่ะฉันต่างหาก เอ๊อ! แล้วปกติแกไปสอนที่ไหนอ่ะ”
“ที่คาเฟ่ของเพื่อนอ่ะ ทำไมเหรอ”
“เดี๋ยววันนี้ฉันไปส่ง”
“ห๊ะ! แกจะไปส่งฉันทำไม”
“ก็เวลาไปซื้อของจะได้ไปรถฉันไง ไปด้วยกันก็ใช้รถคันเดียวกันสิ”
“เออ ก็ดีเหมือนกัน จะได้ประหยัดน้ำมันรถฉัน ฮิ ๆ”
“ฉันว่าแล้ว”
ตอนนี้ฉันอยู่บนรถของบอล บรรยากาศค่อนข้างกระอักกระอ่วนนิดหน่อย หวังว่าเจ้าบ้านี่คงจะไม่ทันสังเกตนะ
“นอกจากรถแท็กซี่กับรถที่พ่อแกขับแล้ว แกไม่เคยนั่งรถที่ผู้ชายขับเลยใช่มั๊ย”
นั่นไง! บ้าชิบ ตรงประเด็นเป๊ะเลย ทำไมเจ้าบ้านี่ถึงรู้ล่ะ
“เฮอะ! ถ้าใช่แล้วทำไม แกจะหัวเราะเยาะฉันสินะ เอาเลย เชิญเลย!”
“ฉันไม่หัวเราะเยาะแกหรอกน่า”
“.......”
“เพราะผู้หญิงนอกจากแม่แล้ว ก็มีแกเนี่ยแหละ ที่นั่งรถที่ฉันขับ”
ประโยคหลังบอลพูดเสียงค่อนข้างเบา ฉันเลยไม่ค่อยได้ยิน แต่ฉันว่าฉันคงจะหูเพี้ยนแน่ ๆ ที่ได้ยินอะไรแบบนี้
ก่อนที่บรรยากาศจะน่าขนลุกไปมากกว่านี้ ขอบคุณพระเจ้า ถึงคาเฟ่แล้ว
“เดี๋ยวตอนบ่ายสามฉันจะไปนั่งรอแกที่ร้านกาแฟข้าง ๆ บริษัทแกก็แล้วกันนะ”
“โอเค” บอลพยักหน้า ก่อนจะขับรถออกไป
“ฟ้า ใครมาส่งน่ะ ทุกทีขับรถมาเองนี่”
เท็ดดี้ เจ้าของคาเฟ่ใจดีที่ให้ฉันใช้สถานที่เพื่อสอนพิเศษได้ฟรี ๆ ชะโงกหน้าออกมาจากหลังเคาน์เตอร์
เท็ดดี้เป็นเพื่อนฉันตั้งแต่สมัยมัธยม พอเข้ามหาวิทยาลัยเราก็เรียนคณะเดียวกันอีก เธอเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉันเลยก็ว่าได้
เท็ดดี้ได้รับจดหมายเรื่องการจับคู่ของรัฐบาลตั้งแต่ปีที่แล้ว หรือก็คือ เธอใช้ชีวิตคู่มาเกือบ 1 ปีแล้ว ฉันจำชื่อว่าที่สามีของเท็ดดี้ไม่ได้ แต่ที่ฉันรู้คือ เท็ดดี้กับตานั่นรักกันดีมาก
ถือเป็นคู่หนึ่งที่ประสบความสำเร็จจากการจับคู่ของรัฐบาล
ส่วนคู่ของฉัน
ยาก!!
ฉันเล่าเรื่องจดหมายการจับคู่จากรัฐบาลของฉันให้เท็ดดี้ฟัง รวมถึงเรื่องชั่ว ๆ ที่บอลทำกับฉันต่าง ๆ นา ๆ ด้วย
“ตกลงว่าคู่ของแกคือไอ้บอล เพื่อนสนิทแกสมัยมัธยมสินะ”
“อืม”
“แกนี่โชคดีจังนะ”
“แกไม่ได้ฟังเหรอ ตานั่นแกล้งฉันตั้งเยอะ แถมยังขี้บ่นอีกต่างหาก”
“เอาน่า เมื่อก่อนก็มีข่าวลือว่าพวกแกคบกันไม่ใช่เหรอ”
“จะบ้าเหรอ! ข่าวลือมั่วซั่ว เราเป็นเพื่อนกันต่างหาก”
“แต่ก็มีข่าวว่าตานั่นแอบชอบแกด้วยนี่นะ”
“เฮอะ! ก็ข่าวมั่วอีกนั่นแหละ คนที่ชอบกันเค้าไม่ทำกันแบบนี้หรอก” ฉันเบ้ปาก บอลเนี่ยนะชอบฉัน รอให้หมาลุกขึ้นมาเขียนหนังสือได้ก่อนเถอะถึงจะเป็นไปได้
“เดี๋ยวอยู่กันไปพวกแกก็รักกันเองแหละ”
“ไม่มีทางเถอะย่ะ!”
“เอาเหอะ ๆ นักเรียนของแกมานู่นแล้ว ไปทำงานไป ฉันก็จะไปทำงานบ้าง” เท็ดดี้ดันหลังฉันให้ลุกขึ้น จากนั้นตัวเองก็เดินหายเข้าไปหลังร้าน
เอาล่ะ ทำงาน ๆ
“เฮ้ยบอล! วันนี้เป็นอะไรวะ ดูอารมณ์ดีแต่เช้าเลย”
“ไม่มีอะไรนี่ครับ”
“ไม่มีอะไรแต่หน้าบานเชียวนะ”
“ฮ่า ๆ ก็นิดหน่อยน่ะครับ”
“เอ๊อ! วันนี้พวกฝ่ายขายจะไปฉลองวันเกิดไอ้ณัฐกัน แกจะไปด้วยมั๊ย”
“วันนี้ผมคงต้องขอตัวล่ะครับ พอดีมีนัด”
“เฮ้ย! หายากนะเนี่ยที่แกจะมีนัดตอนเย็น นัดกับสาวไว้เหรอจ้ะหนุ่มน้อย” พี่แมน ผู้จัดการฝ่ายขายเข้ามากอดคอผมอย่างหยอกล้อ
“เอ่อ..ก็ประมาณนั้นแหละครับ”
“โอ้วแม่เจ้า! เฮ้ยพวกแก วันนี้ไอ้บอลมีนัดสาวเว้ย”
“ว้าว! พี่บอลมีแฟนแล้วเหรอครับ” พนักงานคนหนึ่งในแผนกตะโกนขึ้นมา แล้วตามมาด้วยคำถามอีกมากมายก่ายกองที่ผมตอบไม่ทันแน่นอน
“ตั้งแต่ที่ผมเข้ามาทำงาน ผมเพิ่งเคยเห็นพี่บอลกลับเร็วนะเนี่ย”
“แฟนคนแรกอ่ะดิไอ้บอล”
“ในที่สุดก็มีแฟนซักทีนะคะ มัวแต่เลือกอยู่นั่นแหละ แต่ก็อย่างว่าแหละ คนที่ทั้งหล่อทั้งรวย แถมยังเก่งแบบพี่บอลจะหาแฟนทั้งทีก็ต้องเลือกดี ๆ หน่อยเนอะ”
แค่ผมมีนัดกับผู้หญิงคนนึงมันจะอะไรนักหนาวะ
“เอ่อ...ทุกคนครับ ผู้หญิงคนนี้ไม่ใช่แฟนผมครับ” ผมพูดขัดขึ้น หลังจากฟังมาซักพัก
“ห๊ะ!”
แล้วผมก็เล่าเกี่ยวกับจดหมายการจับคู่จากรัฐบาลให้ทุกคนฟัง รวมไปถึงเรื่องยัยตัวแสบด้วย
“โห มีแววจะได้ลูกแมวน้อยมาเป็นภรรยาแล้วสิพี่บอล”
“เสือโคร่งล่ะสิไม่ว่า” ผมแย้ง ใครนะมองยัยบ้านั่นเป็นลูกแมวไปได้ อย่างยัยนั่นน่ะ อย่างดีที่สุดก็แม่เสือที่กำลังหิวล่ะน่า
“แต่ดูเหมือนผู้หญิงคนนั้นจะไม่ชอบพี่บอลเลยนะ”
“ผู้หญิงที่ได้ใกล้ชิดพี่บอลขนาดนั้นแล้วยังไม่ชอบพี่บอลน่ะไม่มีหรอก” มีสิ ก็ยัยบ้านั่นไง ผมคิดในใจ
“แต่นี่ก็เป็นผู้หญิงคนแรกที่ไอ้บอลยอมไปรับไปส่งนะ แถมยังไปเดินซื้อของเป็นเพื่อนด้วย ฉันเป็นเพื่อนกับหมอนี่ตั้งแต่มหาวิทยาลัยไม่เคยเห็นมันไปไหนกับผู้หญิงเลย”
“เฮ้ย! หรือว่า ผู้หญิงคนนี้จะเป็นผู้หญิงคนที่แกเคยเล่าให้ฉันฟัง”
“ใช่ครับพี่”
“โอ้โห! แกได้ผู้หญิงคนนั้นมาเป็นว่าที่ภรรยา นี่มันพรหมลิขิตชัด ๆ มานี่เลย ๆ มาเล่าให้ละเอียดสิ” แล้วพี่แมนก็ลากผมไปตรงทางเดิน จะถือว่าเป็นบุญคุณที่ช่วยลากผมออกมาจากวงสนทนารึเปล่านะ
“นี่แกอย่าบอกนะว่าผู้หญิงคนนี้คือเหตุผลที่แกเป็นโสดมาเกือบสิบปีน่ะ”
“คนนี้แหละครับพี่”
“โอ้ว! ฉันเริ่มอยากจะเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้ซะแล้วสิ จะสวยขนาดไหนนะถึงมัดใจแกได้อยู่หมัดขนาดนี้”
“ยัยนั่นไม่ได้สวยขนาดนั้นหรอกครับพี่ แต่ว่า...”
“แต่ว่า...?”
“สำหรับผม ก็คงไม่มีใครสวยกว่านี้แล้วล่ะครับ”
“โอ้โห เป็นเอามากแล้วนะแกเนี่ย เฮ้อ ไป ๆ ไปทำงานดีกว่า” พี่แมนส่ายหัวแล้วเดินออกไป เหลือแต่ผมที่มีแต่ภาพยัยนั่นเต็มหัว
ขยันเข้ามาหลอกหลอนคนอื่นเหลือเกินนะ
ความคิดเห็น