ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักแทบตาย ยัยตัวแสบ!

    ลำดับตอนที่ #2 : วันอาทิตย์ที่แสนสงบสุข

    • อัปเดตล่าสุด 13 เม.ย. 58


    หลังจากถูกแสงแดดแยงตามาได้ซักพัก  ตื่นก็ได้วะ!

    เมื่อคืนหลับสบายจัง   ว่าแต่ ฉันหลับไปเมื่อไหร่นะ  ช่างเถอะ

    เมื่อลืมตาขึ้นฉันก็พบว่าฉันนอนอยู่คนเดียวบนเตียง  แล้วบอลหายไปไหนล่ะ ?

    ฉันลุกออกจากเตียงอย่างเชื่องช้า  ไม่อยากลุกเลย  ให้ตายสิ!

    “บอล! แกอยู่หนายยย”  ฉันตะโกนเรียกบอล  เพราะขี้เกียจเดินหา

    “ฉันอยู่ในห้องน้ำ  มีอะไร”

    เออ  นั่นสิ  ฉันจะหาตานั่นทำไมกัน

    “ไม่มีอะไร  แค่สงสัยว่าแกหายไปไหน”

    “คิดถึงฉันอ่ะดิ”

    “ไม่มีทาง!!

    หลังจากโดนกวนประสาทตั้งแต่เช้า  ฉันเดินกระทืบเท้าปึงปังเข้าห้องครัวไป

    สุดท้ายคนเราก็ทำตามสัญชาตญาณล่ะนะ

    หิว......

    แล้วฉันก็พบว่าในครัวไม่มีอะไรให้ฉันกินได้เลยแม้แต่น้ำเปล่า

    โฮฮฮฮ  ฟ้าจะร้องไห้

                    เหอะถ้ามัวแต่งอมืองอเท้าก็คงจะไม่มีอะไรดีขึ้นมา  เมื่อคิดได้ดังนั้น  ฉันก็รีบวิ่งไปคว้ากระเป๋าสตางค์กับกุญแจห้องเตรียมออกไปหาอะไรกิน  และด้วยความสวย(?)และความใจดีมีเมตตาของฉัน  ฉันก็ไม่ลืมที่จะตะโกนถามบอล

    “บอล  ฉันจะออกไปหาอะไรกิน  แกจะฝากซื้ออะไรมั๊ย”

    “เฮ้ ๆ แกจะออกไปทั้ง ๆ แบบนั้นน่ะเหรอ”

    “แบบนั้นน่ะแบบไหน  แล้วตกลงแกจะฝากซื้ออะไรมั๊ย”

    “แกยังไม่ได้อาบน้ำเลยนะ  อย่างน้อย ๆ ก็แปรงฟันหน่อยสิ”  บอลเปิดประตูห้องน้ำออกมาพร้อมกับคำบ่นเยอะแยะมากมาย

    “ก็ฉันหิวอ่ะ”

    “แกคิดว่าฉันไม่หิวรึไง  ฉันก็หิวนะ  แต่ฉันก็อาบน้ำแปรงฟันก่อนจะออกไปล่ะน่า”

    “ทำไมแกต้องมาวุ่นวายกับฉันมากขนาดนี้ด้วยนะ!

    “อย่างน้อยก็ไปแปรงฟันเถอะนะ  ฉันขอร้อง  แล้วเดี๋ยวฉันจะออกไปหาอะไรกินกับแกด้วย”

    “โอ๊ยแปรงก็ได้  วุ่นวายจริง ๆ เลย”

    ฉันโยนกระเป๋าสตางค์กับกุญแจห้องลงบนโซฟาก่อนจะวิ่งไปแปรงฟันด้วยความเร็วสูง   เจ้าบ้านั่นบ่นมากกว่าพ่อฉันซะอีก  นายจะมาเป็นพ่อฉันรึไงนะ

    เมื่อแปรงฟันเสร็จฉันก็รีบออกมาจากห้องน้ำ  แล้วฉันก็เจอสายตาเหนื่อยหน่ายของบอล

    “มีอะไรอีกล่ะ  ถึงแกจะมองแบบนั้นฉันก็ไม่อาบน้ำหรอกนะ”

    “ฉันรู้หรอกน่า  ไปกันเถอะ”

     

     

    แล้วฉันก็ได้รู้ว่าฉันคิดผิด

    ฉันควรจะอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะออกมา  หรือไม่  ฉันควรจะออกมาคนเดียว

    ก็ดูบอลสิ  ใครเค้าใส่เสื้อเชิ้ตกับกางเกงสแลคออกมาเดินตอนเช้ากันนะ  แล้วดูฉันสิ  เสื้อยืดเก่า ๆ กับกางเกงขาสั้น  ผมเผ้าก็ยังไม่ได้หวี

    โฮฮฮฮ  นี่มันเหมือนคุณชายกับคนใช้ชัด ๆ

    “เฮ้แล้วแกจะกินอะไรล่ะ”   ระหว่างที่ฉันกำลังคร่ำครวญอยู่ในใจ  บอลก็ถามแทรกขึ้นมา

    “เอ่ออ  กินอะไรใกล้ ๆ นี่แหละ  ฉันอยากรีบกลับห้องด้วย”

    “งั้นกินโจ๊กร้านนี้นะ”

    “อืม ๆ”

    “ป้าครับ  โจ๊กหมูใส่ไข่  ไม่ใส่เครื่องในสองครับ”

    “อ๊ะ!

    “อะไรปกติแกไม่กินเครื่องในไม่ใช่เหรอ”

    “อืม  ยังจำได้อยู่อีกเหรอ”

    “จะลืมได้ยังไงล่ะ”

    “อ้าวนั่นพี่ฟ้านี่นา  สวัสดีครับ”  ระหว่างที่ฉันกำลังคุยกับบอลก็มีบุคคลที่สามเข้ามาขัดจังหวะ  เป็นเด็กผู้ชายอายุน่าจะประมาณ 16-17  ฉันอาจจะเคยสอนพิเศษเด็กคนนี้ล่ะมั๊งถ้าจำไม่ผิด 

    “สวัสดีจ้า”

    “พี่ฟ้าอยู่แถว ๆ นี้เหรอครับ  ผมไม่เคยเจอพี่ฟ้าเลย”

    “ใช่จ้า  พี่เพิ่งย้ายมาน่ะ”

    “เอิร์ททำอะไรอยู่  แม่จะกลับแล้วนะ”  ผู้หญิงท่าทางมีอายุคนหนึ่งตะโกนเรียกเด็กคนนี้  ชื่อเอิร์ทสินะ  จริงด้วยฉันเคยสอนพิเศษเด็กคนนี้   อ่า  มันก็นานมาแล้วนี่นา  จะลืมบ้างก็ไม่แปลกหรอกเนอะ

    “ครับแม่พี่ฟ้า ผมไปแล้วนะ  แล้วผมจะส่งข้อความไปหานะ”

    “อ่า....จ้า ๆ”

    หลังจากเจ้าเด็กนั่น  เอ่อ...เอิร์ท เดินหายไป  ฉันก็เบนสายตามาเจอยักษ์ตัวหนึ่งที่นั่งอยู่ตรงข้ามฉัน

    เปล่า  ไม่ใช่ยักษ์  บอลต่างหาก   หน้ายับเป็นกระดาษทิชชู่ใช้แล้วเชียว

    “หิวเหรอ”

    “ห๊ะเปล่า  ทำไมแกคิดอย่างงั้น”

    “ก็แกทำหน้าเครียดขนาดนั้น  ฉันก็นึกว่าแกหิวมาก”

    “ฉันไม่ได้หิว”

    “อ้อ งั้นเหรอ”

    “ฟ้า  ผู้ชายคนเมื่อกี้เป็นใคร”

    “ห๊ะเด็กนั่นน่ะเหรอ  ชื่อเอิร์ทน่ะ  ฉันเคยสอนพิเศษเค้าอยู่พักนึง”

    “แกรับสอนพิเศษด้วยเหรอ”

    “ก็มีบ้าง  ฉันเองก็ต้องใช้เงินนะ  ว่าแต่แกรู้จักเด็กคนนั้นเหรอ”

    “ฉันไม่ชอบหน้ามัน”

    “เฮ้ยเอิร์ทไปทำอะไรให้แก  แกบอกฉันก็ได้นะ  เดี๋ยวฉันจะเตือนเค้าให้”

    “เด็กนั่นมันไม่เห็นหัวฉัน”

    “ห๊ะแกจะบ้ารึไงแค่เด็กเค้าไม่สนใจแก  แกถึงกับไม่ชอบเค้าเลยเหรอ”   ไอ้บอลนี่มันติ๊งต๊องเกินไปแล้ว  ทำไมเพื่อนฉันถึงเป็นแบบนี้ไปได้นะ

     

     

    ผมมองฟ้าที่กำลังกินโจ๊กอย่างเอาเป็นเอาตาย  แกไปอดอยากมาจากไหนฮะ

    เป็นอีกครั้งที่ผมต้องแอบถอนหายใจอยู่เงียบ ๆ

    ไม่ได้รับรู้ความรู้สึกของคนทางนี้บ้างเลยน๊า

    ก็เห็น ๆ อยู่ว่าไอ้เด็กนั่นมันทำเป็นมองไม่เห็นผม  ทั้ง ๆ ที่ผมนั่งอยู่ตรงหน้าฟ้าแท้ ๆ

    แถมมันยังทำตัวสนิทกับฟ้าอีกต่างหาก  ส่งข้อความหาอะไรกัน เฮอะแกคิดจะเยาะเย้ยฉันเหรอไอ้เด็กเวร   ฉันน่ะว่าที่สามีของฟ้านะเว้ย  คนที่อยู่ด้วยกันเค้าไม่มาส่งข้อความหากันหรอก

    ผมเหลือบมองฟ้าที่กำลังใช้ช้อนกวาดโจ๊กหยดสุดท้ายในชาม

    “ถึงแกจะมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นฉันก็ไม่แบ่งให้แกหรอกนะ”

    “ฉันไม่คิดจะขออะไรจากคนที่เลียโจ๊กในชามจนแห้งหรอกนะ”

    “ฉันยังไม่ได้เลียเลยนะ  อ้อ! แล้วฉันก็แค่ไม่อยากกินเหลือเท่านั้นแหละ  ถ้าแกอิ่มแล้วฉันจะกินของแกให้ก็ได้นะ”

    “อย่าได้คิดจะแตะโจ๊กของฉันเชียวนะ”

    “เฮอะ!

     

     

    พอกลับมาถึงคอนโดฟ้าก็ไปอาบน้ำ  ส่วนผมเองวันนี้ก็ไม่ต้องไปทำงาน  จึงเปิดทีวีดูเรื่อยเปื่อย

    ซักพักฟ้าที่เพิ่งอาบน้ำเสร็จก็มานั่งข้าง ๆ ผม  พร้อมหนังสือเล่มหนาเล่มหนึ่ง  กลิ่นสบู่อ่อน ๆ ลอยมาแตะจมูกผม

    “นี่แก  เขยิบไปนั่งตรงนู้นได้มั๊ย”  ฟ้าถามผมพลางชี้ไปที่โซฟาตัวเล็กอีกตัวที่อยู่ใกล้ ๆ กัน

    “แกจะทำอะไร  แกก็ไปนั่งเองดิ”

    “ฉันจะนอนอ่านหนังสืออ่ะ”

    “นั่งตรงนั้นเวลาดูทีวีมันเมื่อยคอนะ”

    “แกจะไม่ลุกใช่มั๊ย  โอเค๊! ได้”  ท้ายประโยคฟ้าขึ้นเสียงสูง  ก่อนที่เจ้าตัวจะนอนลงบนโซฟาตัวยาวตัวเดียวกับที่ผมนั่งอยู่  แล้วเอาเท้าพาดบนตักของผม

    “น้อย ๆ หน่อยแก  ฉันมานั่งก่อนนะ”

    “นั่งก่อนแล้วไง”

    “แล้วไงเหรอ  ก็แบบนี้ไง”  ผมพูดก่อนจะเอามือมาจั๊กจี้ตรงฝ่าเท้าของฟ้า   ฟ้าน่ะบ้าจี้สุด ๆ เลยล่ะ 

    “เฮ้ยอย่าจั๊กจี้ตรงนั้นสิ  อ๊าย!!

    “ฮ่า ๆ  ลุกออกไปได้แล้ว”

    “ไม่ลุก!  พลั่ก!!

    เต็ม ๆ เลยครับ  ฝ่าเท้าฟ้าเต็ม ๆ หน้าผมเลย  ไม่น่าแกล้งเธอเลย  เธอถีบหน้าผมเต็มแรงแน่ ๆ  คอหักรึเปล่าเนี่ย

    “อ๊ะขอโทษนะ  ฉันไม่ได้ตั้งใจ  แต่ก็สมน้ำหน้าแล้วล่ะ ฮ่า ๆๆ”

    “ตกลงแกจะขอโทษฉันหรือจะหัวเราะเยาะฉันน่ะ”

    “ทั้งสองอย่าง ฮ่า ๆๆ”

    “เจ็บนะเว้ยอ๊าก!  เหมือนคอจะเคล็ดว่ะ”

    “พูดจริงดิ  ไหน ๆ มาดูดิ๊”

    “แฮ่ฉันล้อเล่น”  พอฟ้าทำท่าจะเข้ามาดูอาการผม  ผมก็จัดการคว้าแขนทั้งสองข้างของเธอแล้วรวบไว้ด้วยมือเดียว  อีกมือนึงผลักเธอลงไปบนโซฟา  แล้วรีบขึ้นคร่อมอย่างรวดเร็ว

    จะปราบม้าพยศก็ต้องใช้วิธีแบบนี้แหละ

    “ลุกออกไปเดี๋ยวนี้นะเว้ย”

    “ถ้าฉันลุกออกไปแกก็ถีบฉันน่ะสิ”

    “แกก็รู้อนาคตตัวเองดีนี่”

    “แกว่ายังไงนะ”   ผมพูดพลางทิ้งน้ำหนักส่วนนึงใส่คนที่นอนอยู่ข้างล่าง   ทำเอาเจ้าตัวถึงกับร้องโวยวาย

    “อ๊ากกก!!  หนักเว้ย  ลุกออกไป!”  ฟ้าดิ้นอย่างเอาเป็นเอาตาย  แต่ยังไงเธอก็สู้แรงผมไม่ได้หรอก

    อ๊ะผมเพิ่งสังเกตว่าพอผมจับแขนเธอตรึงไว้เหนือหัวแล้วชายเสื้อเธอมันลอยขึ้นมาจนเกือบถึงขอบเสื้อใน

    ชิบละ…..

    ผมรีบปล่อยฟ้าออกก่อนที่เจ้าตัวจะรู้ว่าผมเห็นอะไรไปบ้าง

    “มานี่เลยนะแก  ฉันไม่ปล่อยแกไปง่าย ๆ แน่”  ฟ้าคว้ามือผมที่กำลังจะลุกหนีจากโซฟาแล้วดึงให้นั่งลง

    “อะไรอีกล่ะ”

    “มานั่งตรงนี้เลย ๆ”  ฟ้าจับผมไปนั่งอยู่ตรงที่เดิม  ก่อนที่เจ้าตัวจะนอนแล้วเอาเท้ามาพาดผมเหมือนเดิม

    “อะไรเนี่ย”

    “นั่งอยู่แบบนั้นแหละ  พอเอาเท้าพาดแกแล้วมันสบาย”

    “ห๊ะ!

    “นั่งแบบนั้นแหละ!!

    เป็นอันสิ้นสุดการโต้เถียง  ผมจำต้องนั่งดูทีวีโดยมีเท้าเธอพาดอยู่อย่างนั้น

    ความจริงแล้วผมแทบไม่ได้ดูทีวีเลย

    ในหัวของผมมีแต่ภาพของยัยนั่นตอนที่อยู่ใต้ร่างของผม  แถมชายเสื้อยังลอยขึ้นมาจนเห็นหน้าท้องอีก

    เธอผอมกว่าที่ผมเห็นอีก  แถมใต้เสื้อก็ขาวมากอีกต่างหาก

    เฮ้ย ๆ นี่ผมกลายเป็นพวกโรคจิตไปแล้วเหรอ

    ไม่นะ!

    แล้วผมก็ต้องเหลือบมองคนที่กำลังนอนอ่านหนังสืออย่างสบายใจเฉิบอยู่ข้าง ๆ

    ไม่ได้สนใจความรู้สึกของคนทางนี้เลยซักนิด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×