ลำดับตอนที่ #10
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #10 : กีฬาสีในมุมของประธานนักเรียน {ตอนพิเศษสำหรับปิดเทอม}
อืมตอนเนี่ยนะเราไม่ได้แต่งนะเพื่อนผองทั้งหลาย เรามีผุ้ช่วยพิเศษ คือ วรรณี ( ประธานนักเรียนปี 47 ) นะ เพื่อนๆ ทั้งหลาย ลองมาดูฝีมือของวรรณีกันดีกว่า แต่รับรองว่า สนุกแน่..
****************************************************************************************
วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2547
    วันนี้เรามาเช้าเป็นพิเศษ จาก 6 โมง 45 มาเป็น 6 โมงนิดๆ (ขนาดเช้าแล้วนะเนี่ย -*-) ทำไมต้องมาเช้าน่ะหรอ ก้อวันนี้เป็นวันกีฬาสีของชาวสีลมเราอ่ะสิ แล้วป.6 ก้อได้เป็นคนจัดงานด้วย วันนี้ชาว 95 แต่ละคนก้อต้องตื่นตัวเป็นพิเศษอ่ะนะ รวมถึงเราด้วยคนนึง
    พอมาถึงโรงเรียน เราก้อหอบสัมภารกที่ขนมา มุ่งหน้าไปยังห้อง 20.... (จำไม่ได้อะ) ห้องป.3/3 อ่ะนะ ซึ่งเป็นห้องที่มิสเค้าจัดไว้สำหรับเตรียมตัวนักกีฬา หรีด แฟนซี สรรพสิ่งทั้งหลายที่เกี่ยวกับงานกีฬาสีจะมารวมกันที่ห้องนี้หมด พอเราเข้าไปห้องนั้น อืมม... -*- คนโคดเยอะเลยว่ะ
    “ไอวรรณี ไม่มาพรุ่งนี้เลยละวะ” โบว์ หัวแดง ประธานสีเหลือง (สีเรา) กวนมาแต่ไกล ทั้งๆที่ตัวเองกะลังง่วนกะป้ายสตาฟอยู่
    “เออน่า ก้อไม่รุนี่หว่าว่าจะมากันเร็วขนาดนี้” เราตอบกลับไป แล้วก้อมองไปรอบๆห้อง คนเยอะอย่างแรงอ่ะ สีเหลืองแสบตาจิงๆ ทั้งหรีด แฟนซี ก้อเยอะแล้วนะ ไม่รวมผู้ปกครอง มิส อีกนานานัปการ ยัดกันอยู่ได้ไงเนี่ย - -
    “เอ้อ..น้องจ๋า น้องคนไหนอ่ะ ที่จะเอาชุดกับพี่อ่ะ” เราตะโกนถามน้องๆที่นั่งรอในห้อง ถึงแม้ว่าตะโกนแล้ว แต่เสียงก้อยังสู้คนทั้งห้องรวมกันไม่ได้อ่านะ
    ชุดที่ว่าเนี่ย ก้อคือชุดเอี๊ยมของเด็กป.ต้น ที่เราต้องเป็นคนเอามาให้ ด้วยความที่เป็นคนพี่น้องเยอะ เรื่องนี้เลยไม่ค่อยเป็นปัญหาเท่าไร เว้นแต่ว่ามันจะทำหายอ่ะสิ
    น้องป.5 ประมาณ 3-4 คน วิ่งมาหาเรา แล้วก้อเอาชุดไป คราวนี้ เราก้อถือถุงที่ใส่ผ้าสีเหลืองนับ 5 ร้อยผืนเดินไปที่โบว์
    “โบว์ๆๆ ขอป้ายด้วยๆ” เราพูดขอโบว์ที่กำลังกลัดเข็มกลัดป้ายสต๊าฟสีดำที่ต้องติดไว้ที่แขนเสื้อกีฬาสี
    “เออๆๆ นี่ๆ แล้วแกมีเข็มกลัดป่าววะ” โบว์ถามขึ้น ไอ้เราก้องงแล้วล่ะสิ ม่ายมีอ่ะ ToT ก้อต้องวิ่งหากัน กว่าจะได้ ดีนะเนี่ย ที่....ซักคนแหละ เอามาเยอะ แต่ว่าเราก้อยังไม่ได้ติดตอนนั้นอ่ะนะ เก็บไว้ก่อนๆ เพราะว่าต้องเดินพาเหรด
    ในวันนี้ เราต้องเดินพาเหรดในฐานะ ถือธงโรงเรียน อันนี้ภาคภูมิใจมากที่สุดในปีเรื่องหนึ่งเลยนะเนี่ย อิอิ
    “เอ้อๆๆ โบว์ เราเอาผ้าผูกข้อมือ ..(โบว์ทำหน้างง)... ที่เราขอตังค์สีไปซื้อผ้า 13 เมตรอ่ะ เราตัดมาให้แล้วนะเว้ย นี่อ่ะๆ” เรายื่นถุงในมือให้โบว์... โบว์หยิบไปจำนวนหนึ่ง แล้วก้อเอาไปสร้างสรรค์ ว่าจะผูกตรงไหนดี แม้กระทั่งที่หัวมันก้อยังจะเอา
    “ผูกผมดีไม๊วะ หรือผูกคอ” มันถามเรา
    “เอ้อๆๆ สำหรับแกอ่ะ ผูกไหนก้อผูกเหอะ แต่น้องที่เดินพาเหรดอ่ะ ผูกที่ข้อมือทุกคนนะเว้ย เวลาแกว่งมือจะได้สวยๆ เผื่อได้ถ้วยๆ 55555+” เราบอกโบว์ แล้วก้อขำด้วยกันทั้งคู่ ไอ้ที่ว่าจะเอาถ้วยเนี่ย ไม่ได้คิดอะไรเลยจิงๆนะ พูดเล่นๆ
    พอแจกจ่ายของเส็ดแล้ว เราก้อเดินดูเพื่อนที่เล่นแฟนซีสิคะ เดินไปก้อหัวเราะไป โดยเฉพาะ ‘ไหม’ ที่ต้องเล่นเป็นคุณยาย มิสป้อมเล่นเอาแป้งโรยหัวซะเหมือนจิง แล้วดูชุดมัน โจงกะเบน เสื้อคอกระเช้า เหมือนอย่างแรง ทำให้เรากะเพื่อนๆคนอื่นอดขำม่ายด๊าย...
    “ไอวรรณี แกไม่ต้องหัวเราะเราเลยนะเว้ย โคดอายๆๆ” ไหมพูดเสียงแหลมปรี๊ดด
    “เออน่า เหมือนดีออก เด็กมันจะได้เชื่อไง ดีนะเนี่ยที่มิสเค้ายังปราณีแก ไม่ให้แกเคี้ยวหมากด้วยอ่ะ 555+”
    “ไอ้เวร!!!!!!!!!!”
    พอในห้องเก็บตัวสีตัวเองไม่มีอะไรให้กวนแล้ว คราวนี้ เราเลยขอกล้องหมิง ไปเก็บภาพคัตเอาท์ของสีต่างๆกันหน่อย แล้วก้อไปถ่ายบรรยากาศในห้องเก็บตัวแต่ละสีอีกด้วย
    ตรงนี้ตัวเราก้อจำไม่ค่อยได้อะนะ ว่าไปไหนบ้าง ก้อจำได้ มีสีแดง เปิดประตูเข้าไป!! แทบจะเดินออกมา กลิ่นฉุนอย่างแรง แต่ก้อเข้าไป เจอสต๊าฟสีแดง ใส่ผ้าโพกหัว นั่งอยู่ เดินเข้าไปปุ๊ป ก้อจัดการสัมภาษณ์ประธานสีแดง หรือน้องนิค ซะอย่างงั้น เมื่อเก็บภาพได้สมใจแล้ว ก้อต้องหลบมรสุมสเปรย์ฉีดหัว ที่สีนี้เล่นกันแบบไม่บันยะบันยัง - -
    ประมาณซัก 7 โมง มิสชมฯ ก้อประกาศให้แต่ละสี เริ่มเตรียมตัว ไอ้เราก้อเครียดเลยคราวนี้ ต้องเดินตามหา สอ เมย์ กะมน ที่เป็นคนที่ป้าย วิ่งทั่วโรงเรียน จนเจอมันอยู่ที่ห้อง 6/4 หรือ 6/5 นี่แหละ
    เข้าไปปุ๊ป อ่า...เจอแฟนซีสีแดงแต่งตัวกันอยู่ แล้วก้อมีไอ้หมวย 2 คน กะเด็กชุดไทยคนนึง
    “เฮ้ยย สอๆ เปลี๊ยนไป๋ ไม่น่าเชื่อว่ะๆ” เราทักอย่างตกใจ ที่เห็นปลาดอรี่เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
    “เอ้อ หนักโคดๆเลยว่ะ เดินก้อเดินยาก ToT” สอพูดอย่างทรมาน ไอ้เราก้อได้แต่ขำละ เพื่อนต้องมานั่งแต่งหน้าแต่งตัว แต่เรามะต้องทำไรเลย อิอิ
    มองไปที่มนกะเมย์ มีคนมาแต่งหน้าให้ รุสึกว่าเป็นอะไรกับมนก้อไม่รุอ่ะ แม่มั้งนะ แต่งซะเนียนเลย เหมือนอาหมวยขั้นรุนแรง ดูแล้วฮาดีอ่ะๆ 5555+
   
    พอเห็นทุกสีประจำที่หมดแล้ว ไอ้เราก้อบอกสอ มน เมย์ว่าเส็ดแล้วรีบลงไปนะ แล้วตัวเองก้อวิ่งไปเอาธง กะป้าย ที่มีคนถือไว้ให้ รอมัน 3 คน กว่าจะลงมา ชาติครึ่งได้!!
    แล้วเค้าก้อให้พาเหรดออกไปรอข้างนอก เตรียมเดินเข้ามา น่าสงสัยอยู่อย่าง คือทำไมปีนี้ ธงกะป้ายโรงเรียนเดินนำดุริยางค์ อย่างที่ไม่เคยเป็น ดรัมฯปีนี้เราก้อสวยซ้า น่ารักมากมายอ่ะๆ ถ่ายรูปขึ้นจิงนะอี๊ฟจ๋า
    ถึงเวลาก้อเดินเข้ามา ไม่อยากจะเซดนะ ทำไมธงเรามันไม่เหมือนที่ซ้อมมาอ่ะ ธงโคดใหญ่ ตอนเดินเข้ามา เสาธงมีติดกับเพดานด้วย แล้วพัดลมก้อเป่าเอาๆ ธงก้อม้วนเป็นเกลียวเลยสิคราวนี้ ต้องเดินไป หมุนธงไป หนักก้อหนัก เมื่อยมากมาย  ToT
    พอทุกสีประจำที่เส็ด ก้อมีประธานกล่าวนู่นนี่ ตีฆ้องใช่ป่ะ สายตาเรา พลันมองไปที่เก้าอี้ข้างๆสแตนด์ประธานอ่ะ ‘พี่บรู๊คว้อยยยยย’ ดารานี่หว่า มิน่าล่ะ ทำไมกล้องเยอะจัง ไอ้เราก้อมองละเว้ย ในใจคิด จะไปสัมภาษณ์ลงโครงงานหนังสือพิมพ์ของเราดีไม๊ว้า อิอิ
    เส็ดแล้วก้อจะมีนักกีฬาอาวุโสมากล่าวนำคำปฏิญาณใช่ไม๊อ่า เราก้อต้องถือธง แล้วให้เค้ารวมธง ตอนนั้นมองหน้ากะนิคละ คิดในใจ ‘ไอ้คนนำจะเก่งไปไหนวะ’ คือมันจะมีบอกประวัติ ว่าชนะนู่นนี่นั่นโน่น เยอะแยะ แล้วเราก้อถือเรานานมากมายอ่ะ แอบหมั่นไส้พี่คนนั้น -*- ....... สุดท้ายมารู้ ว่าคนๆนั้น คือคุณรณิดา ทั้งๆที่ตอนนั้นไม่ได้สังเกตเลยนะ มาถึงตอนนี้พึ่งจะรุจากพี่ ขำอ่ะ 555+ ด่าไว้เยอะ -o-
    แล้วเค้าก้อให้พาเหรดออกนอกสนาม เพื่อจะได้แสดง ก้อมีแสดง 4 ภาคของน้องป.4 เห็นว่าอันนี้แสดงยกห้องกันเลย คือคนเยอะมาก แล้วก้อมีแสดงของพี่ม.3 ในปีนี้ (ม.4 ปีนี้) อันเป็นต้นเหตุของ ........ (ละไว้ในที่รุกัน 55+) แล้วก้อแสดงแฟนซี แต่ละสีก้อแสดงกันดีๆทั้งนั้น โอเคเลยล่ะ!!
   
    พอจบในเรื่องของพิธีการ แข่งกันกรีฑา/เกมก้อมาถึง ในส่วนของเราไม่ค่อยได้ดูเรื่องกีฬาเท่าไร แต่พอมาถึงเวลาจิงๆ ทุกๆคนต้องช่วยกันจิงๆแล้วล่ะ เพราะว่าน้องๆที่ลงชื่อไว้อ่ะนะ พอถึงเวลาจิงๆ ก้อหายกันไปหมดเลย เลยต้องมานั่งหานักกีฬาใหม่ให้ทันเวลา ไม่งั้นก้อจะโดนสละสิทธิ์
    “น้องป.1 จ๋าๆๆ คนไหนอยากวิ่งเหยียบลูกโป่ง ออกมาเลยนะน้องๆ ช่วยสีนะคะน้อง ไม่ต้องอายๆ” สต๊าฟแต่ละคน รวมถึงเรา และคนที่ได้ถือโทรโข่ง ตะโกนตามหาน้องซะวุ่นวาย สลับกับร้องเพลงบ้างเป็นบางที
    “น้องๆ เอาเพลงไรๆ เดี๋ยวพี่ช่วยร้อง” มีบุคคลไม่คุ้นหน้าตะโกนถามมาจากหน้าโรงเรียน นั่นคือพี่ๆม.3 ที่มาแสดงนั่นเอง พี่ๆเค้าก้อมาช่วยสีเราร้องอยู่ประมาณ 3-4 เพลง แล้วก้อกลับไป อันนี้รู้สึกขอบคุณมั่กมายค่ะพี่ ^o^
    วันนั้นต้องบอกเลยว่าสต๊าฟหลายคนมากๆที่ทุ่มเทให้กับการเต้น โดยเฉพาะเจ๊โบว์ เต้นไม่อายฟ้าอายดิน เห็นแล้วอายแทนว่ะ
    สีเหลืองเราจะพยายามยึดหลัก นั่งให้น้องมองเห็นการแข่งขันทุกๆช่วง แต่บางทีมันก้อต้องมีลุกขึ้นบ้างใช่ไม๊อ่า ก้อโดนน้องเทศน์ไปตามระเบียบ ToT
    สต๊าฟทุกคน ส่วนใหญ่จะวิ่งขึ้น วิ่งลงทั้งพาน้องไปเตรียมตัว ไปเอาของที่ใช้เชียร์ลงมา ไปหามิส และอีกมากมาย แทบจะว่าทำงานกันจนลืมเวลาอ่ะ ตัวเราก้อต้องวิ่งขึ้นไปเอาผ้าผูกข้อมือมาแจกน้อง แล้วก้อใบเพลงนับ 500 ใบ แล้วยังจะมีกระป๋อยที่เขย่าแล้วมีเสียงอ่ะ แล้วก้อถาด ... เอามาเคาะให้เป็นจังหวะนะ ไม่ใช่เอามาตีหัว
    สต๊าฟของสีเหลืองเรา เรียกได้ว่าเป็นทุกคนแหละ แต่จะมีเครื่องหมาย ป้าย หรือสัญลักษณ์ไม่กี่คน ป้ายสต๊าฟสีเราจะแตกต่างจากสีอื่น ที่เป็นผ้าโพกหัว เป็นเข็มกลัดคือ เป็นผ้าที่ใช้คล้องแขนตรงปลายแขนเสื้อ แล้วเอาเข็มกลัดติด ตอนนั้น ตัวเราเองรุสึกภาคภูมิใจกับป้ายอันนี้มากมายอ่ะ มันดูเหมือน “ป้ายเกียรติยศ” ดีอ่ะ (ขอลอกเศรษฐศาสตร์ในห้องแถวหน่อย อิอิ)
    ในช่วงแรกๆ สีเราไม่ค่อยรุกในเรื่องร้องเพลงเท่าไร เพราะว่าน้องๆก้อกระจายหายไปไหนหมดไม่รุ แล้วก้อวุ่นกับการหาน้องมาลงแข่ง แต่ตอนนั้นก้อยังไม่ใช่ช่วงที่สนุกเท่าไร ต้องตอนที่เริ่มแข่งหรีดสิ มันส์สุดยอด!!
    “น้องๆคะ เดี๋ยวแข่งหรีดแล้วนะน้อง  ... เฮ้ยๆๆ เบลล์ๆ ดูน้องตรงนั้นหน่อย จัดให้เค้านั่ง .... สต๊าฟตรงนั้นอ่ะ ช่วยจัดน้องหน่อย ..... เฮ้ยๆๆ โบว์อยู่ไหนอ่ะ มาถือโทรโข่งก่อน โบว์สั่งน้องนะ น้องเค้ารักแกอ่ะ .... หมิงๆ เอาเพลงไหนก่อน” เสียงอึกทึกครึกโครมของสต๊าฟ ที่ต้องช่วยกันดูแลน้องให้เรียบร้อยที่สุด เพื่อเตรียมแข่งหรีด
    “ก้อโค้ดรัวก่อนนะ แล้วก้อยอดเยี่ยม แล้วก้อซู่ซ้า แล้วก้ออัสสัมฯ โอนะ” หมิงแจงงานกับเราและเพื่อนๆคนอื่น ทุกคนพยักหน้ารับด้วยความเข้าใจ เวลานี้ ไม่เข้าใจไม่ได้แล้ววว~*
    “โค้ดรัว” เป็นโค้ดตบมือ ที่ตั้งชื่อกันอย่างมั่วๆ โดยมีลักษณะการตบดังนี้
//-///-///-// Cheer!!
ตึกๆ โต๊ะ ตึกๆๆ โต๊ะ ตึกๆๆ โต๊ะ ตึกๆ Cheer!!
ชาวสีเหลืองคนจะยังจำกันได้นะจ๊ะ
    ก่อนที่จะแข่งหรีดเนี่ย ก้อจะต้องมีการซักซ้อมกับน้องๆกองเชียร์กันก่อน “น้องจ๋า โค้ดรัว ยังจำกันได้ไม๊” เราพูดใส่โทรโข่ง ถามน้องๆที่นั่งกันอย่างไม่รุสึกรุสาอะไร
    “จำม่ายด้ายค่า..~” น้องๆตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน ทำเอาสต๊าฟหลายคนตบกบาลตัวเองด้วยความเครียด 55+
    “โอคจ่ะน้อง พี่สอนง่ายๆ ลัดๆเลยนะ น้องตบมือ 13 ทีแล้วร้อง Cheer!! ดังๆนะ ตบไม่พร้อมไม่เป็นไร  Cheer! ดังไว้ก่อนเป็นดีนะจ๊ะ” เราบอกน้องๆทั้งหลาย น้องๆต่างพยักหน้า ไม่รุว่าพยักหน้าเพราะเข้าใจหรืออะไรกันแน่ “อ่ะๆ ลองซักทีนะน้อง เดี๋ยวให้หรีดสั่งนะ”
    “3 4 รัว!!!” เสียงหรีดรุ่นใหญ่คนหนึ่งของสีเราสั่งขึ้น ตามมาตัวเสียงโค้ดรัวอย่างทุลักทุเล และตามด้วยคำว่า Cheer!! ที่โผล่มาทีละคำ 2 คำ สต๊าฟต่างมองหน้ากัน และจะให้น้องลองตบโค้ดรัวอีกที แต่...
    “ทุกสีประจำที่นะคะ จะเริ่มแข่งกันแล้ว” เสียงมิสท่านหนึ่งดังขึ้นมา
    “ซวยแล้วล่ะสิ เอาไงดีว้า” เราถามโบว์ด้วยสีหน้าประมาณว่า พังแน่ๆแล้ว กองเชียร์ช้านนน
    “ตามเวรตามกรรมแล้วกันวะ” โบว์ตอบ.... เอ้ออ ก้อคงต้องตามเวรตามกรรมแล้วจิงๆ
   
    สีไหนแข่งสีแรก อันนี้ไม่แน่ใจเท่าไร แต่เมื่อถึงสีเรา หรีดรุ่นใหญ่ สั่ง “3 4 รัว!!” โค้ดรัวก้อดังขึ้น แต่คราวนี้ไม่เหมือนตอนซ้อมกัน ทุกพยางค์ ที่จังหวะตบ ลงจังหวะเดียวกันหมด ทำเอาเรากะเมย์มองหน้ากันอึ้งๆ
    เมื่อแต่ละเพลงของหรีดจบไป ก้อจะต้องต่อด้วยโค้ดรัวเสมอ เมื่อตบไปนานๆ แขนก้อเริ่มล้าละคราวนี้ เสียงตบเบาลงเล็กน้อย แต่ด้วยแรงสปิริตของสต๊าฟ ก้อพยายามลากแขน ตบให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วทดแทนด้วยการตะโกนคำว่า Cheer ให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้เช่นกัน
    “โอ๊ยๆๆ เมื่อยโว้ยๆๆ” เราบ่นกับเมย์ มน โบว์ โอ๊ค เต็นและเพื่อนๆสีเหลืองคนอื่นๆ ในขณะที่กำลังตบโค้ดรัวกันอยู่ ในใจพลางคิดว่าใครเป็นคนคิดให้ตบโค้ดรัววะ สุดท้ายก้อมาคิดได้ ว่าตัวเองนี่หว่า
    โค้ดรัวนี้ เราได้มาจากวีซีดีงานกีฬาสีของโรงเรียนแห่งนึง ของสงวนนามแล้วกัน อิอิ แล้วเห็นว่ามันเท่ดี เลยเอามาลองใช้กับกองเชียร์ รวมทั้งหรีด กองเชียร์ แนวคิดก้อมาจากรร.อื่นทั้งนั้นแหละ เพียงแต่ว่าของเขาอ่ะ เป็นม.ปลาย
    พอหรีดรุ่นเล็ก รุ่นกระเป๋าออกไป ก้อเรียกเสียงฮือฮาให้แก่มิสๆ มาสเซอร์ได้อย่างมาก นับเป็นตัวชูโรงเลยก้อว่าได้ เพราะหรีดรุ่นกระเป๋าของสีเรา ส่ายซะลืมชีวิตไปเลย เห็นแล้วก้อเสียวว่าเอวน้องเค้าจะหลุด อันนี้ไม่เน้นความพร้อมเพรียง เน้นมันส์จ้าๆ
    พอหรีดจบ ก้อเหมือนจะจบ แต่ก้อหาเป็นเช่นนั้นไม่ เจ๊โบว์ ของเรา ก้อได้พาผองเพื่อนสต๊าฟทั้งหลาย เกือบๆ 20 คนได้ ออกไปเต้นเพลงตุ๊ดตู่ ชนิดหรีดเห็นยังอาย โดยที่เรียกว่า แทบจะไม่ได้นัดหมายกันอ่ะ ทำอย่างกะตัวเองเป็นหรีดซะงั้นอ่ะ  เราอ่ะ อยากออกไปใจแทบขาด ติดที่ต้องดูน้องให้ร้องเพลงอ่ะดิ เสียดายง่าๆ ToT แต่เท่าที่เห็น ก้อขอคารวะในความ....หน้าด้านของสต๊าฟจิงจิ๊ง
   
    พอแข่งหรีดจบลง ก้อเข้าสู่การแข่งขันแชร์/บาสฯ ของครูและผู้ปกครอง ก้อเป็นไปด้วยความสนุกสนาน โดยเฉพาะบาสของครูฝรั่งชาย ครูไทยชาย อันนี้ ม.ศุภศิลป์ก้อเหอะ แพ้ราบคาบ ด้วยเหตุแห่งความสูง 555+
    แต่นั่นไม่ใช่จุดไคลแมกซ์ของงานกีฬาสีปีนี้ ที่ทุกคนรอ น่าจะเป็นการแข่งขันบาส/แชร์ของ ป.5-6 มากกว่า ซึ่งสีเราก้อเข้ารอบทุกรายการ เริ่มที่แชร์ ป.5
    “น้องจ๋าๆ We come to cheer นะน้อง” เราตะโกนผ่านโทรโข่งให้น้องๆได้ยิน อย่าพึ่งสงสัยว่าทำไมเราครองโทรโข่งบ่อยจัง จิงๆแล้วคนอื่นๆก้อมีถือบ้างแหละ แต่จะเอามาเขียนหมดก้อไม่ไหวเน้อ อีกอย่าง เจ๊โบว์ ประธานสี ติดแข่งแชร์ฯ ป.6 เราเลยต้องรับบทหนักแทน
    แต่จะว่าไปก้อแทบจะไม่ได้ทำอะไร นอกเสียจากนั่งกินมะนาวจิ้มเกลือ บวกกับน้ำเขียว ที่โรงเรียนเตรียมไว้ อร่อยโคดๆอ่ะ สุดยอดๆๆ นั่งล้อมวงจิ้มกิน สลับกับลุกขึ้นมาเรียกน้องร้องซักเพลง 2 เพลง แล้วก้อกินต่อ
    “น้องจ๋าๆ ใครอยากกินน้ำ ออกมาตักตรงนี้น้า มีน้ำเขียว ฟรีจ่ะฟรี” เราเรียกน้องๆให้มากินด้วย แต่น้องเค้าคงกลัวมั้ง ไม่เห็นจะมีใครออกมากินซ้ากคน - -
    สำหรับแชร์บอลป.5 ก้อผ่านไปอย่างรวดเร็ว สีเหลืองเอาแชมป์ไปครอง ต่อมาก้อเป็นแชร์ป.6 คนแข่งก้อแข่งไป คนกิน (อย่างเรา) ก้อยังกินอยู่ น้องก้อดูไป ลูกลงก้อ เฮ!! เค้าเฮ ก้อเฮตามกันไป เวลาสีอื่นร้อง “แม่เรียก..สีแดง” สีเหลืองอย่างพวกเราก้อบ่ยั่น ร้องตอกกลับไปซะงั้น เน้นความฮาจ่ะ 5555+ สุดท้ายสีเหลืองก้อชนะไป
    สุดท้ายเป็นการแข่งขันบาส ป.6 ที่สีเหลือง VS สีแดง 2 สีนี้มีปัญหากันมาตั้งแต่รอบคัดเลือกแล้ว แต่ด้วยเหตุไหน ก้อคิดว่าทุกๆคนจะรุดี ป.6 เลยค่อนข้างลุ้นกับการแข่งขันคู่นี้
    “แก้มสู้ๆ แก้มสู้ตาย แก้มไว้ลาย สู้ตาย สู้ๆ / เต็นสู้ๆ เต็นสู้ตาย เต็นไว้ลาย สู้ตาย สู้ๆ” เพลงเหล่านี้ เป็นเพลงที่ไม่ได้นัดหมายกับน้องๆที่จะร้องเลย มีแต่สต๊าฟที่บ้าร้องกันเอง ปล่อยให้น้องนั่งชะโงกหน้ามองว่าคนไหนวะ แก้ม คนไหนวะ เต็น...
    เมื่อลูกสีไหนลง สีนั้นก้อร้องเฮ เมื่อสีไหนร้องเพลงเย้ยหยันมา สีนั้นก้อร้องตอบกลับไป สร้าวความสนุกสนานให้แก่สต๊าฟ (อย่างเดียวมั้ง ไม่รุว่าน้องจะฮาด้วยป่าว) เป็นอย่างมาก แล้วยังจะได้เห็นมิตรภาพจากสีอื่นๆ ที่ไม่ได้เข้ารอบ ยื่นมือมาช่วยร้องเพลง ทำให้เรากะเพื่อนๆ รุสึกตื้นตันใจอย่างมาก
    สุดท้ายคู่นี้ สีเหลืองก้อชนะไปอีกแล้ว ด้วยเหตุนี้ทำให้สีแดง .. ร้องไห้
    “เฮ้ยๆ ไอวรรณี ร้องเพลงให้สีแดงดีไม๊วะ” มีคนถามเรา จิงๆแล้วเราก้อเห็นว่าดีนะ แต่อีกแง่นึง สีเค้าจะคิดรึป่าว ว่าเราไปเยาะเย้ยเค้า
    “ไม่รุว่ะ อย่าเลยเหอะ เดี๋ยวมันหาว่าเยาะเย้ยอีก” เราบอกไป
    “ไปปลอบไอนิคหน่อยดีป่าววะ” ใครก้อไม่รุอีกนั่นแหละ [จำชื่อใครไม่ได้เลย -*-] ถามเรา
    ด้วยความที่นิค เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของเราคนนึง เราก้ออยากจะไปปลอบนะ แต่ด้วยสถานการณ์ หรืออะไรดลใจก้อไม่รุ ทำให้เราไม่ได้ไปคุยกับนิคในตอนนั้น
    พอการแข่งขันทุกอย่างจบ ก้อมีการประกาศรางวัล และปิดพิธี เส็ดแล้วมิสเค้าก้อให้ถ่ายรูปกันให้พอ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมไม่มีรูปเราอยู่ในนั้น พอประกาศจบ เรากะมนก้อเดินขึ้นห้องไปเก็บของเลย รางวัลน่ะ มันอยู่ที่ใจ ไม่ต้องไปถ่ายเก็บไว้หรอก ตัวเราจะดีว่าเราทำอะไรอยู่ ^o^
กีฬาสีวันนี้ ทำให้เรารุอะไรมากมาย มิตรภาพ ความเป็นผู้นำ ความสนุกสนาน การรุจักแก้ไขปัญหา ทุกๆอย่าง เหมือนเป็นแบบทดสอบ ถ้าใครไม่ได้ทำแบบทดสอบนี้ คงจะน่าเสียดายน่าดูเลยล่ะ!!
****************************************************************************************
วันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2547
    วันนี้เรามาเช้าเป็นพิเศษ จาก 6 โมง 45 มาเป็น 6 โมงนิดๆ (ขนาดเช้าแล้วนะเนี่ย -*-) ทำไมต้องมาเช้าน่ะหรอ ก้อวันนี้เป็นวันกีฬาสีของชาวสีลมเราอ่ะสิ แล้วป.6 ก้อได้เป็นคนจัดงานด้วย วันนี้ชาว 95 แต่ละคนก้อต้องตื่นตัวเป็นพิเศษอ่ะนะ รวมถึงเราด้วยคนนึง
    พอมาถึงโรงเรียน เราก้อหอบสัมภารกที่ขนมา มุ่งหน้าไปยังห้อง 20.... (จำไม่ได้อะ) ห้องป.3/3 อ่ะนะ ซึ่งเป็นห้องที่มิสเค้าจัดไว้สำหรับเตรียมตัวนักกีฬา หรีด แฟนซี สรรพสิ่งทั้งหลายที่เกี่ยวกับงานกีฬาสีจะมารวมกันที่ห้องนี้หมด พอเราเข้าไปห้องนั้น อืมม... -*- คนโคดเยอะเลยว่ะ
    “ไอวรรณี ไม่มาพรุ่งนี้เลยละวะ” โบว์ หัวแดง ประธานสีเหลือง (สีเรา) กวนมาแต่ไกล ทั้งๆที่ตัวเองกะลังง่วนกะป้ายสตาฟอยู่
    “เออน่า ก้อไม่รุนี่หว่าว่าจะมากันเร็วขนาดนี้” เราตอบกลับไป แล้วก้อมองไปรอบๆห้อง คนเยอะอย่างแรงอ่ะ สีเหลืองแสบตาจิงๆ ทั้งหรีด แฟนซี ก้อเยอะแล้วนะ ไม่รวมผู้ปกครอง มิส อีกนานานัปการ ยัดกันอยู่ได้ไงเนี่ย - -
    “เอ้อ..น้องจ๋า น้องคนไหนอ่ะ ที่จะเอาชุดกับพี่อ่ะ” เราตะโกนถามน้องๆที่นั่งรอในห้อง ถึงแม้ว่าตะโกนแล้ว แต่เสียงก้อยังสู้คนทั้งห้องรวมกันไม่ได้อ่านะ
    ชุดที่ว่าเนี่ย ก้อคือชุดเอี๊ยมของเด็กป.ต้น ที่เราต้องเป็นคนเอามาให้ ด้วยความที่เป็นคนพี่น้องเยอะ เรื่องนี้เลยไม่ค่อยเป็นปัญหาเท่าไร เว้นแต่ว่ามันจะทำหายอ่ะสิ
    น้องป.5 ประมาณ 3-4 คน วิ่งมาหาเรา แล้วก้อเอาชุดไป คราวนี้ เราก้อถือถุงที่ใส่ผ้าสีเหลืองนับ 5 ร้อยผืนเดินไปที่โบว์
    “โบว์ๆๆ ขอป้ายด้วยๆ” เราพูดขอโบว์ที่กำลังกลัดเข็มกลัดป้ายสต๊าฟสีดำที่ต้องติดไว้ที่แขนเสื้อกีฬาสี
    “เออๆๆ นี่ๆ แล้วแกมีเข็มกลัดป่าววะ” โบว์ถามขึ้น ไอ้เราก้องงแล้วล่ะสิ ม่ายมีอ่ะ ToT ก้อต้องวิ่งหากัน กว่าจะได้ ดีนะเนี่ย ที่....ซักคนแหละ เอามาเยอะ แต่ว่าเราก้อยังไม่ได้ติดตอนนั้นอ่ะนะ เก็บไว้ก่อนๆ เพราะว่าต้องเดินพาเหรด
    ในวันนี้ เราต้องเดินพาเหรดในฐานะ ถือธงโรงเรียน อันนี้ภาคภูมิใจมากที่สุดในปีเรื่องหนึ่งเลยนะเนี่ย อิอิ
    “เอ้อๆๆ โบว์ เราเอาผ้าผูกข้อมือ ..(โบว์ทำหน้างง)... ที่เราขอตังค์สีไปซื้อผ้า 13 เมตรอ่ะ เราตัดมาให้แล้วนะเว้ย นี่อ่ะๆ” เรายื่นถุงในมือให้โบว์... โบว์หยิบไปจำนวนหนึ่ง แล้วก้อเอาไปสร้างสรรค์ ว่าจะผูกตรงไหนดี แม้กระทั่งที่หัวมันก้อยังจะเอา
    “ผูกผมดีไม๊วะ หรือผูกคอ” มันถามเรา
    “เอ้อๆๆ สำหรับแกอ่ะ ผูกไหนก้อผูกเหอะ แต่น้องที่เดินพาเหรดอ่ะ ผูกที่ข้อมือทุกคนนะเว้ย เวลาแกว่งมือจะได้สวยๆ เผื่อได้ถ้วยๆ 55555+” เราบอกโบว์ แล้วก้อขำด้วยกันทั้งคู่ ไอ้ที่ว่าจะเอาถ้วยเนี่ย ไม่ได้คิดอะไรเลยจิงๆนะ พูดเล่นๆ
    พอแจกจ่ายของเส็ดแล้ว เราก้อเดินดูเพื่อนที่เล่นแฟนซีสิคะ เดินไปก้อหัวเราะไป โดยเฉพาะ ‘ไหม’ ที่ต้องเล่นเป็นคุณยาย มิสป้อมเล่นเอาแป้งโรยหัวซะเหมือนจิง แล้วดูชุดมัน โจงกะเบน เสื้อคอกระเช้า เหมือนอย่างแรง ทำให้เรากะเพื่อนๆคนอื่นอดขำม่ายด๊าย...
    “ไอวรรณี แกไม่ต้องหัวเราะเราเลยนะเว้ย โคดอายๆๆ” ไหมพูดเสียงแหลมปรี๊ดด
    “เออน่า เหมือนดีออก เด็กมันจะได้เชื่อไง ดีนะเนี่ยที่มิสเค้ายังปราณีแก ไม่ให้แกเคี้ยวหมากด้วยอ่ะ 555+”
    “ไอ้เวร!!!!!!!!!!”
    พอในห้องเก็บตัวสีตัวเองไม่มีอะไรให้กวนแล้ว คราวนี้ เราเลยขอกล้องหมิง ไปเก็บภาพคัตเอาท์ของสีต่างๆกันหน่อย แล้วก้อไปถ่ายบรรยากาศในห้องเก็บตัวแต่ละสีอีกด้วย
    ตรงนี้ตัวเราก้อจำไม่ค่อยได้อะนะ ว่าไปไหนบ้าง ก้อจำได้ มีสีแดง เปิดประตูเข้าไป!! แทบจะเดินออกมา กลิ่นฉุนอย่างแรง แต่ก้อเข้าไป เจอสต๊าฟสีแดง ใส่ผ้าโพกหัว นั่งอยู่ เดินเข้าไปปุ๊ป ก้อจัดการสัมภาษณ์ประธานสีแดง หรือน้องนิค ซะอย่างงั้น เมื่อเก็บภาพได้สมใจแล้ว ก้อต้องหลบมรสุมสเปรย์ฉีดหัว ที่สีนี้เล่นกันแบบไม่บันยะบันยัง - -
    ประมาณซัก 7 โมง มิสชมฯ ก้อประกาศให้แต่ละสี เริ่มเตรียมตัว ไอ้เราก้อเครียดเลยคราวนี้ ต้องเดินตามหา สอ เมย์ กะมน ที่เป็นคนที่ป้าย วิ่งทั่วโรงเรียน จนเจอมันอยู่ที่ห้อง 6/4 หรือ 6/5 นี่แหละ
    เข้าไปปุ๊ป อ่า...เจอแฟนซีสีแดงแต่งตัวกันอยู่ แล้วก้อมีไอ้หมวย 2 คน กะเด็กชุดไทยคนนึง
    “เฮ้ยย สอๆ เปลี๊ยนไป๋ ไม่น่าเชื่อว่ะๆ” เราทักอย่างตกใจ ที่เห็นปลาดอรี่เปลี่ยนไปได้ขนาดนี้
    “เอ้อ หนักโคดๆเลยว่ะ เดินก้อเดินยาก ToT” สอพูดอย่างทรมาน ไอ้เราก้อได้แต่ขำละ เพื่อนต้องมานั่งแต่งหน้าแต่งตัว แต่เรามะต้องทำไรเลย อิอิ
    มองไปที่มนกะเมย์ มีคนมาแต่งหน้าให้ รุสึกว่าเป็นอะไรกับมนก้อไม่รุอ่ะ แม่มั้งนะ แต่งซะเนียนเลย เหมือนอาหมวยขั้นรุนแรง ดูแล้วฮาดีอ่ะๆ 5555+
   
    พอเห็นทุกสีประจำที่หมดแล้ว ไอ้เราก้อบอกสอ มน เมย์ว่าเส็ดแล้วรีบลงไปนะ แล้วตัวเองก้อวิ่งไปเอาธง กะป้าย ที่มีคนถือไว้ให้ รอมัน 3 คน กว่าจะลงมา ชาติครึ่งได้!!
    แล้วเค้าก้อให้พาเหรดออกไปรอข้างนอก เตรียมเดินเข้ามา น่าสงสัยอยู่อย่าง คือทำไมปีนี้ ธงกะป้ายโรงเรียนเดินนำดุริยางค์ อย่างที่ไม่เคยเป็น ดรัมฯปีนี้เราก้อสวยซ้า น่ารักมากมายอ่ะๆ ถ่ายรูปขึ้นจิงนะอี๊ฟจ๋า
    ถึงเวลาก้อเดินเข้ามา ไม่อยากจะเซดนะ ทำไมธงเรามันไม่เหมือนที่ซ้อมมาอ่ะ ธงโคดใหญ่ ตอนเดินเข้ามา เสาธงมีติดกับเพดานด้วย แล้วพัดลมก้อเป่าเอาๆ ธงก้อม้วนเป็นเกลียวเลยสิคราวนี้ ต้องเดินไป หมุนธงไป หนักก้อหนัก เมื่อยมากมาย  ToT
    พอทุกสีประจำที่เส็ด ก้อมีประธานกล่าวนู่นนี่ ตีฆ้องใช่ป่ะ สายตาเรา พลันมองไปที่เก้าอี้ข้างๆสแตนด์ประธานอ่ะ ‘พี่บรู๊คว้อยยยยย’ ดารานี่หว่า มิน่าล่ะ ทำไมกล้องเยอะจัง ไอ้เราก้อมองละเว้ย ในใจคิด จะไปสัมภาษณ์ลงโครงงานหนังสือพิมพ์ของเราดีไม๊ว้า อิอิ
    เส็ดแล้วก้อจะมีนักกีฬาอาวุโสมากล่าวนำคำปฏิญาณใช่ไม๊อ่า เราก้อต้องถือธง แล้วให้เค้ารวมธง ตอนนั้นมองหน้ากะนิคละ คิดในใจ ‘ไอ้คนนำจะเก่งไปไหนวะ’ คือมันจะมีบอกประวัติ ว่าชนะนู่นนี่นั่นโน่น เยอะแยะ แล้วเราก้อถือเรานานมากมายอ่ะ แอบหมั่นไส้พี่คนนั้น -*- ....... สุดท้ายมารู้ ว่าคนๆนั้น คือคุณรณิดา ทั้งๆที่ตอนนั้นไม่ได้สังเกตเลยนะ มาถึงตอนนี้พึ่งจะรุจากพี่ ขำอ่ะ 555+ ด่าไว้เยอะ -o-
    แล้วเค้าก้อให้พาเหรดออกนอกสนาม เพื่อจะได้แสดง ก้อมีแสดง 4 ภาคของน้องป.4 เห็นว่าอันนี้แสดงยกห้องกันเลย คือคนเยอะมาก แล้วก้อมีแสดงของพี่ม.3 ในปีนี้ (ม.4 ปีนี้) อันเป็นต้นเหตุของ ........ (ละไว้ในที่รุกัน 55+) แล้วก้อแสดงแฟนซี แต่ละสีก้อแสดงกันดีๆทั้งนั้น โอเคเลยล่ะ!!
   
    พอจบในเรื่องของพิธีการ แข่งกันกรีฑา/เกมก้อมาถึง ในส่วนของเราไม่ค่อยได้ดูเรื่องกีฬาเท่าไร แต่พอมาถึงเวลาจิงๆ ทุกๆคนต้องช่วยกันจิงๆแล้วล่ะ เพราะว่าน้องๆที่ลงชื่อไว้อ่ะนะ พอถึงเวลาจิงๆ ก้อหายกันไปหมดเลย เลยต้องมานั่งหานักกีฬาใหม่ให้ทันเวลา ไม่งั้นก้อจะโดนสละสิทธิ์
    “น้องป.1 จ๋าๆๆ คนไหนอยากวิ่งเหยียบลูกโป่ง ออกมาเลยนะน้องๆ ช่วยสีนะคะน้อง ไม่ต้องอายๆ” สต๊าฟแต่ละคน รวมถึงเรา และคนที่ได้ถือโทรโข่ง ตะโกนตามหาน้องซะวุ่นวาย สลับกับร้องเพลงบ้างเป็นบางที
    “น้องๆ เอาเพลงไรๆ เดี๋ยวพี่ช่วยร้อง” มีบุคคลไม่คุ้นหน้าตะโกนถามมาจากหน้าโรงเรียน นั่นคือพี่ๆม.3 ที่มาแสดงนั่นเอง พี่ๆเค้าก้อมาช่วยสีเราร้องอยู่ประมาณ 3-4 เพลง แล้วก้อกลับไป อันนี้รู้สึกขอบคุณมั่กมายค่ะพี่ ^o^
    วันนั้นต้องบอกเลยว่าสต๊าฟหลายคนมากๆที่ทุ่มเทให้กับการเต้น โดยเฉพาะเจ๊โบว์ เต้นไม่อายฟ้าอายดิน เห็นแล้วอายแทนว่ะ
    สีเหลืองเราจะพยายามยึดหลัก นั่งให้น้องมองเห็นการแข่งขันทุกๆช่วง แต่บางทีมันก้อต้องมีลุกขึ้นบ้างใช่ไม๊อ่า ก้อโดนน้องเทศน์ไปตามระเบียบ ToT
    สต๊าฟทุกคน ส่วนใหญ่จะวิ่งขึ้น วิ่งลงทั้งพาน้องไปเตรียมตัว ไปเอาของที่ใช้เชียร์ลงมา ไปหามิส และอีกมากมาย แทบจะว่าทำงานกันจนลืมเวลาอ่ะ ตัวเราก้อต้องวิ่งขึ้นไปเอาผ้าผูกข้อมือมาแจกน้อง แล้วก้อใบเพลงนับ 500 ใบ แล้วยังจะมีกระป๋อยที่เขย่าแล้วมีเสียงอ่ะ แล้วก้อถาด ... เอามาเคาะให้เป็นจังหวะนะ ไม่ใช่เอามาตีหัว
    สต๊าฟของสีเหลืองเรา เรียกได้ว่าเป็นทุกคนแหละ แต่จะมีเครื่องหมาย ป้าย หรือสัญลักษณ์ไม่กี่คน ป้ายสต๊าฟสีเราจะแตกต่างจากสีอื่น ที่เป็นผ้าโพกหัว เป็นเข็มกลัดคือ เป็นผ้าที่ใช้คล้องแขนตรงปลายแขนเสื้อ แล้วเอาเข็มกลัดติด ตอนนั้น ตัวเราเองรุสึกภาคภูมิใจกับป้ายอันนี้มากมายอ่ะ มันดูเหมือน “ป้ายเกียรติยศ” ดีอ่ะ (ขอลอกเศรษฐศาสตร์ในห้องแถวหน่อย อิอิ)
    ในช่วงแรกๆ สีเราไม่ค่อยรุกในเรื่องร้องเพลงเท่าไร เพราะว่าน้องๆก้อกระจายหายไปไหนหมดไม่รุ แล้วก้อวุ่นกับการหาน้องมาลงแข่ง แต่ตอนนั้นก้อยังไม่ใช่ช่วงที่สนุกเท่าไร ต้องตอนที่เริ่มแข่งหรีดสิ มันส์สุดยอด!!
    “น้องๆคะ เดี๋ยวแข่งหรีดแล้วนะน้อง  ... เฮ้ยๆๆ เบลล์ๆ ดูน้องตรงนั้นหน่อย จัดให้เค้านั่ง .... สต๊าฟตรงนั้นอ่ะ ช่วยจัดน้องหน่อย ..... เฮ้ยๆๆ โบว์อยู่ไหนอ่ะ มาถือโทรโข่งก่อน โบว์สั่งน้องนะ น้องเค้ารักแกอ่ะ .... หมิงๆ เอาเพลงไหนก่อน” เสียงอึกทึกครึกโครมของสต๊าฟ ที่ต้องช่วยกันดูแลน้องให้เรียบร้อยที่สุด เพื่อเตรียมแข่งหรีด
    “ก้อโค้ดรัวก่อนนะ แล้วก้อยอดเยี่ยม แล้วก้อซู่ซ้า แล้วก้ออัสสัมฯ โอนะ” หมิงแจงงานกับเราและเพื่อนๆคนอื่น ทุกคนพยักหน้ารับด้วยความเข้าใจ เวลานี้ ไม่เข้าใจไม่ได้แล้ววว~*
    “โค้ดรัว” เป็นโค้ดตบมือ ที่ตั้งชื่อกันอย่างมั่วๆ โดยมีลักษณะการตบดังนี้
//-///-///-// Cheer!!
ตึกๆ โต๊ะ ตึกๆๆ โต๊ะ ตึกๆๆ โต๊ะ ตึกๆ Cheer!!
ชาวสีเหลืองคนจะยังจำกันได้นะจ๊ะ
    ก่อนที่จะแข่งหรีดเนี่ย ก้อจะต้องมีการซักซ้อมกับน้องๆกองเชียร์กันก่อน “น้องจ๋า โค้ดรัว ยังจำกันได้ไม๊” เราพูดใส่โทรโข่ง ถามน้องๆที่นั่งกันอย่างไม่รุสึกรุสาอะไร
    “จำม่ายด้ายค่า..~” น้องๆตอบอย่างพร้อมเพรียงกัน ทำเอาสต๊าฟหลายคนตบกบาลตัวเองด้วยความเครียด 55+
    “โอคจ่ะน้อง พี่สอนง่ายๆ ลัดๆเลยนะ น้องตบมือ 13 ทีแล้วร้อง Cheer!! ดังๆนะ ตบไม่พร้อมไม่เป็นไร  Cheer! ดังไว้ก่อนเป็นดีนะจ๊ะ” เราบอกน้องๆทั้งหลาย น้องๆต่างพยักหน้า ไม่รุว่าพยักหน้าเพราะเข้าใจหรืออะไรกันแน่ “อ่ะๆ ลองซักทีนะน้อง เดี๋ยวให้หรีดสั่งนะ”
    “3 4 รัว!!!” เสียงหรีดรุ่นใหญ่คนหนึ่งของสีเราสั่งขึ้น ตามมาตัวเสียงโค้ดรัวอย่างทุลักทุเล และตามด้วยคำว่า Cheer!! ที่โผล่มาทีละคำ 2 คำ สต๊าฟต่างมองหน้ากัน และจะให้น้องลองตบโค้ดรัวอีกที แต่...
    “ทุกสีประจำที่นะคะ จะเริ่มแข่งกันแล้ว” เสียงมิสท่านหนึ่งดังขึ้นมา
    “ซวยแล้วล่ะสิ เอาไงดีว้า” เราถามโบว์ด้วยสีหน้าประมาณว่า พังแน่ๆแล้ว กองเชียร์ช้านนน
    “ตามเวรตามกรรมแล้วกันวะ” โบว์ตอบ.... เอ้ออ ก้อคงต้องตามเวรตามกรรมแล้วจิงๆ
   
    สีไหนแข่งสีแรก อันนี้ไม่แน่ใจเท่าไร แต่เมื่อถึงสีเรา หรีดรุ่นใหญ่ สั่ง “3 4 รัว!!” โค้ดรัวก้อดังขึ้น แต่คราวนี้ไม่เหมือนตอนซ้อมกัน ทุกพยางค์ ที่จังหวะตบ ลงจังหวะเดียวกันหมด ทำเอาเรากะเมย์มองหน้ากันอึ้งๆ
    เมื่อแต่ละเพลงของหรีดจบไป ก้อจะต้องต่อด้วยโค้ดรัวเสมอ เมื่อตบไปนานๆ แขนก้อเริ่มล้าละคราวนี้ เสียงตบเบาลงเล็กน้อย แต่ด้วยแรงสปิริตของสต๊าฟ ก้อพยายามลากแขน ตบให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้ แล้วทดแทนด้วยการตะโกนคำว่า Cheer ให้ดังที่สุดเท่าที่จะทำได้เช่นกัน
    “โอ๊ยๆๆ เมื่อยโว้ยๆๆ” เราบ่นกับเมย์ มน โบว์ โอ๊ค เต็นและเพื่อนๆสีเหลืองคนอื่นๆ ในขณะที่กำลังตบโค้ดรัวกันอยู่ ในใจพลางคิดว่าใครเป็นคนคิดให้ตบโค้ดรัววะ สุดท้ายก้อมาคิดได้ ว่าตัวเองนี่หว่า
    โค้ดรัวนี้ เราได้มาจากวีซีดีงานกีฬาสีของโรงเรียนแห่งนึง ของสงวนนามแล้วกัน อิอิ แล้วเห็นว่ามันเท่ดี เลยเอามาลองใช้กับกองเชียร์ รวมทั้งหรีด กองเชียร์ แนวคิดก้อมาจากรร.อื่นทั้งนั้นแหละ เพียงแต่ว่าของเขาอ่ะ เป็นม.ปลาย
    พอหรีดรุ่นเล็ก รุ่นกระเป๋าออกไป ก้อเรียกเสียงฮือฮาให้แก่มิสๆ มาสเซอร์ได้อย่างมาก นับเป็นตัวชูโรงเลยก้อว่าได้ เพราะหรีดรุ่นกระเป๋าของสีเรา ส่ายซะลืมชีวิตไปเลย เห็นแล้วก้อเสียวว่าเอวน้องเค้าจะหลุด อันนี้ไม่เน้นความพร้อมเพรียง เน้นมันส์จ้าๆ
    พอหรีดจบ ก้อเหมือนจะจบ แต่ก้อหาเป็นเช่นนั้นไม่ เจ๊โบว์ ของเรา ก้อได้พาผองเพื่อนสต๊าฟทั้งหลาย เกือบๆ 20 คนได้ ออกไปเต้นเพลงตุ๊ดตู่ ชนิดหรีดเห็นยังอาย โดยที่เรียกว่า แทบจะไม่ได้นัดหมายกันอ่ะ ทำอย่างกะตัวเองเป็นหรีดซะงั้นอ่ะ  เราอ่ะ อยากออกไปใจแทบขาด ติดที่ต้องดูน้องให้ร้องเพลงอ่ะดิ เสียดายง่าๆ ToT แต่เท่าที่เห็น ก้อขอคารวะในความ....หน้าด้านของสต๊าฟจิงจิ๊ง
   
    พอแข่งหรีดจบลง ก้อเข้าสู่การแข่งขันแชร์/บาสฯ ของครูและผู้ปกครอง ก้อเป็นไปด้วยความสนุกสนาน โดยเฉพาะบาสของครูฝรั่งชาย ครูไทยชาย อันนี้ ม.ศุภศิลป์ก้อเหอะ แพ้ราบคาบ ด้วยเหตุแห่งความสูง 555+
    แต่นั่นไม่ใช่จุดไคลแมกซ์ของงานกีฬาสีปีนี้ ที่ทุกคนรอ น่าจะเป็นการแข่งขันบาส/แชร์ของ ป.5-6 มากกว่า ซึ่งสีเราก้อเข้ารอบทุกรายการ เริ่มที่แชร์ ป.5
    “น้องจ๋าๆ We come to cheer นะน้อง” เราตะโกนผ่านโทรโข่งให้น้องๆได้ยิน อย่าพึ่งสงสัยว่าทำไมเราครองโทรโข่งบ่อยจัง จิงๆแล้วคนอื่นๆก้อมีถือบ้างแหละ แต่จะเอามาเขียนหมดก้อไม่ไหวเน้อ อีกอย่าง เจ๊โบว์ ประธานสี ติดแข่งแชร์ฯ ป.6 เราเลยต้องรับบทหนักแทน
    แต่จะว่าไปก้อแทบจะไม่ได้ทำอะไร นอกเสียจากนั่งกินมะนาวจิ้มเกลือ บวกกับน้ำเขียว ที่โรงเรียนเตรียมไว้ อร่อยโคดๆอ่ะ สุดยอดๆๆ นั่งล้อมวงจิ้มกิน สลับกับลุกขึ้นมาเรียกน้องร้องซักเพลง 2 เพลง แล้วก้อกินต่อ
    “น้องจ๋าๆ ใครอยากกินน้ำ ออกมาตักตรงนี้น้า มีน้ำเขียว ฟรีจ่ะฟรี” เราเรียกน้องๆให้มากินด้วย แต่น้องเค้าคงกลัวมั้ง ไม่เห็นจะมีใครออกมากินซ้ากคน - -
    สำหรับแชร์บอลป.5 ก้อผ่านไปอย่างรวดเร็ว สีเหลืองเอาแชมป์ไปครอง ต่อมาก้อเป็นแชร์ป.6 คนแข่งก้อแข่งไป คนกิน (อย่างเรา) ก้อยังกินอยู่ น้องก้อดูไป ลูกลงก้อ เฮ!! เค้าเฮ ก้อเฮตามกันไป เวลาสีอื่นร้อง “แม่เรียก..สีแดง” สีเหลืองอย่างพวกเราก้อบ่ยั่น ร้องตอกกลับไปซะงั้น เน้นความฮาจ่ะ 5555+ สุดท้ายสีเหลืองก้อชนะไป
    สุดท้ายเป็นการแข่งขันบาส ป.6 ที่สีเหลือง VS สีแดง 2 สีนี้มีปัญหากันมาตั้งแต่รอบคัดเลือกแล้ว แต่ด้วยเหตุไหน ก้อคิดว่าทุกๆคนจะรุดี ป.6 เลยค่อนข้างลุ้นกับการแข่งขันคู่นี้
    “แก้มสู้ๆ แก้มสู้ตาย แก้มไว้ลาย สู้ตาย สู้ๆ / เต็นสู้ๆ เต็นสู้ตาย เต็นไว้ลาย สู้ตาย สู้ๆ” เพลงเหล่านี้ เป็นเพลงที่ไม่ได้นัดหมายกับน้องๆที่จะร้องเลย มีแต่สต๊าฟที่บ้าร้องกันเอง ปล่อยให้น้องนั่งชะโงกหน้ามองว่าคนไหนวะ แก้ม คนไหนวะ เต็น...
    เมื่อลูกสีไหนลง สีนั้นก้อร้องเฮ เมื่อสีไหนร้องเพลงเย้ยหยันมา สีนั้นก้อร้องตอบกลับไป สร้าวความสนุกสนานให้แก่สต๊าฟ (อย่างเดียวมั้ง ไม่รุว่าน้องจะฮาด้วยป่าว) เป็นอย่างมาก แล้วยังจะได้เห็นมิตรภาพจากสีอื่นๆ ที่ไม่ได้เข้ารอบ ยื่นมือมาช่วยร้องเพลง ทำให้เรากะเพื่อนๆ รุสึกตื้นตันใจอย่างมาก
    สุดท้ายคู่นี้ สีเหลืองก้อชนะไปอีกแล้ว ด้วยเหตุนี้ทำให้สีแดง .. ร้องไห้
    “เฮ้ยๆ ไอวรรณี ร้องเพลงให้สีแดงดีไม๊วะ” มีคนถามเรา จิงๆแล้วเราก้อเห็นว่าดีนะ แต่อีกแง่นึง สีเค้าจะคิดรึป่าว ว่าเราไปเยาะเย้ยเค้า
    “ไม่รุว่ะ อย่าเลยเหอะ เดี๋ยวมันหาว่าเยาะเย้ยอีก” เราบอกไป
    “ไปปลอบไอนิคหน่อยดีป่าววะ” ใครก้อไม่รุอีกนั่นแหละ [จำชื่อใครไม่ได้เลย -*-] ถามเรา
    ด้วยความที่นิค เป็นเพื่อนที่สนิทที่สุดของเราคนนึง เราก้ออยากจะไปปลอบนะ แต่ด้วยสถานการณ์ หรืออะไรดลใจก้อไม่รุ ทำให้เราไม่ได้ไปคุยกับนิคในตอนนั้น
    พอการแข่งขันทุกอย่างจบ ก้อมีการประกาศรางวัล และปิดพิธี เส็ดแล้วมิสเค้าก้อให้ถ่ายรูปกันให้พอ ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมไม่มีรูปเราอยู่ในนั้น พอประกาศจบ เรากะมนก้อเดินขึ้นห้องไปเก็บของเลย รางวัลน่ะ มันอยู่ที่ใจ ไม่ต้องไปถ่ายเก็บไว้หรอก ตัวเราจะดีว่าเราทำอะไรอยู่ ^o^
กีฬาสีวันนี้ ทำให้เรารุอะไรมากมาย มิตรภาพ ความเป็นผู้นำ ความสนุกสนาน การรุจักแก้ไขปัญหา ทุกๆอย่าง เหมือนเป็นแบบทดสอบ ถ้าใครไม่ได้ทำแบบทดสอบนี้ คงจะน่าเสียดายน่าดูเลยล่ะ!!
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น