ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่โดนข่มเหง - ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่โดนข่มเหง นิยาย ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่โดนข่มเหง : Dek-D.com - Writer

    ประวัติศาสตร์อันยิ่งใหญ่โดนข่มเหง

    เนื่องด้วยจะมีการปรับปรุงภูมิทัศน์รอบบริเวณศาลาวีรชนในตอนแรก แต่ปรากฏว่ามีข่าวหลุดออกมาว่าจะทำการรื้อศาลาวีรชนออกแล้วสร้างอาคารสัมมานาแทน มันถูกแล้วหรือกับการเหยียบย่ำประชาธิปไตยที่บรรพบุรุษเสียสละทำเอาไว้ แต่คนสมัยนี้กับไม่เห็นค่าแล้ว มีแต่การมองค

    ผู้เข้าชมรวม

    1,893

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    1.89K

    ความคิดเห็น


    14

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  อื่นๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  5 ก.พ. 53 / 00:14 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น



    ณ ที่นี้ คือที่รวมใจ  โต๊ะเซียน

            โต๊ะเซียน ถือเป็นจุดนัดพบของชาวอุตสาหการทุกคนนับตั้งแต่เริ่มก้าวเข้าสู่มหาวิทยลัยแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่รับน้อง ประชุมเชียร์ บายเนียร์ หรือกิจกรรมอื่นๆ ที่เราชาวอุตสาหการได้จัดขึ้น แม้กระทั่งเป็นสถานที่พักผ่อนขนาดย่อม หรือห้องประชุมขนาดใหญ่ก็ตาม

    โต๊ะเซียนเป็นสถานที่หนึ่งที่อยู่คู่กับศาลาวีรชนมานาน ซึ่งความเป็นมาของโต๊ะเซียนนั้นเริ่มตั้งแต่งานพี่น้องสัมพัน์ ปีการศึกษา ๒๕๓๔ ชาวอุตสาหการได้นำเสนอการแสดงในคืนนั้นเป็น Music Video ของพงษ์พัฒน์ วชิรบรรจง โดยนักศึกษาชั้นปีที่ ๒ จำนวน ๘ คน เป็นผู้แสดงและเรียกชื่อกลุ่มนักแสดงว่า โป๊ยเซียน การแสดงได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้ชมเป็นอย่างดี เนื่องด้วยมุขตลกขบขัน ผสมกับการแสดงพิลึกพิสดารเล็กน้อย จึงทำให้เซียนทั้งหลายถือกำเนิดขึ้น ณ ขณะนั้น

    ความโด่งดังของโป๊ยเซียนยังไม่ได้หยุดอยู่เพียงค่ำคืนนั้นแต่ยังต่อมาถึงวันรุ่งขึ้น เมื่อกลุ่มโป๊ยเซียนได้จัดกิจกรรมรำไทเก็กขึ้น ๘ กระบวนท่า เพื่อกระตุกต่อมฮาจากชาวบางมดในยามเช้า ทำให้เพื่อนร่วมสถาบันหลายคนถึงกับกลั้นเสียงหัวเราะไม่ไหว ฮากันไปตามๆกัน ชื่อเสียงของเหล่าเซียนทั้งแปดจึงเป็นที่รู้จักของชาวบางมดยิ่งขึ้น และยกย่องให้โป๊ยเซียนเป็นผู้นำเสียงหัวเราะและความสนุกในงานกิจกรรมต่างๆตลอดมา

    กลุ่มโป๊ยเซียนได้รับการสืบต่อจากรุ่นสู่รุ่น แต่เนื่องจากภายหลังจำนวนเซียนเปลี่ยนแปลงไป ทำให้เหลือเพียงแต่ กลุ่มเซียน เท่านั้น และ โต๊ะเซียน ก็เกิดขึ้น เมื่อเหล่าเซียนทั้งหลายลงความเห็นว่าห้องประจำภาควิชาอุตสาหการนั้นอยู่ห่างไกลจากความศิวิไลต์ (แหล่งสาวๆ) ควรมีสถานที่สำหรับเป็นศูนย์รวมของชาวอุตสาหการ ซึ่งก็คือบริเวณศาลาวีรชนในปัจจุบัน

    กลุ่มเซียนและเพื่อนพ้องชาวอุตสาหการจึงได้หาโต๊ะเก้าอี้จัดมาวาง โดยมองหาโต๊ะของกลุ่มโรงเรียนต่างๆ ได้แก่ โต๊ะเทพศิริทร์ สวนกุหลาบ ไมโคร และชมรมบันเทิง (กล่าวง่ายๆ คือ การขโมยโต๊ะมานั้นเอง) แล้วทำการทาสีใหม่ นับเป็นความพยายามสูงสุดของชาวอุตสาหการเลยทีเดียว  แต่ไม่นานความจริงได้ปรากฏเมื่อสีที่ทาได้หลุดลอกออก โต๊ะเซียนจึงกลายเป็นโต๊ะลายจุด ก่อเกิดเป็นศิลปะแนวใหม่ ทำให้ชาวบางมดสวนกุหลาบพยายามขอโต๊ะกลับแต่ก็ไม่สำเร็จ เนื่องด้วยความสามารถในการอำพรางหลักฐานของกลุ่มเซียนทั้งหลายนั้นอง

    ท้ายที่สุดแล้วเราจึงมีโต๊ะเซียนเป็นแหล่งชุมนุมของชาวอุตสาหการ บริเวณโค้งโต๊ะเซียนจะกลายเป็นโค้งแห่งการแซว หรือเรียกว่า โค้งปากหมา ซึ่งอาจทำให้สาวๆ หรือแม้กระทั่งหนุ่มๆ หลายๆคนนั้นลำบากใจกับการต้องเดินผ่านโต๊ะเซียนเป็นบางครั้ง นอกจากนี้บริเวณใกล้ๆกับโต๊ะเซียนจะเป็นสนามเปตองและเป็นตลาดนัดเล็กๆในช่วงต้นสัปดาห์ของทุกเดือน                นอกจากนี้ยังมีวีรกรรมมากมายเกิดขึ้น ณ โต๊ะเซียน แห่งนี้ไม่ว่าจะเป็นกองเชียร์ปีศาจ (กองเชียร์ที่ทำได้ทุกอย่างที่ไม่มีใครทำ) กิจกรรมวันไหว้ครู ซึ่งใช้เวลาในการทำพานไหว้ครูมากกว่าสิบสองชั่วโมง นิทรรศการประท้วงห้องคอม (ขึ้นค่าบำรุงห้องคอม) หรือการร้องเพลงจรรโลง (ไร) ทั้งหลาย และอีกหลากหลายกิจกรรมที่ชาวอุตสาหการได้สร้างสรรค์ความสนุกและความสุขขึ้น

    วันวานแห่งความรักความผูกพันที่เกิดขึ้นกับสถานแห่งนี้กว่าสิบปีได้ถูกถ่ายทอดให้กับน้องๆรุ่นต่อมา และยังคงถักทอความรู้สึกดีๆ อย่างนี้ตลอดไป ด้วยความดูแลจากหัวใจชาวอุตสาหการทุกคน

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ศาลาวีรชน

       และแล้วความเคลื่อนไหวก็ปรากฏ
      เป็นความงดความงามใช่ความชั่ว
      มันอาจขุ่นอาจข้นอาจหม่นมัว
      แต่ก็เริ่มจะเป็นตัวจะเป็นตน

      พอเสียงร่ำรัวกลองประกาศกล้า
      ก็รู้ว่าวันพระมาอีกหน
      พอปืนเปรี้ยงแปลบไปในมณฑล
      ก็รู้ว่าประชาชนจะชิงชัย

       

      จาก....(เนาวรัตน์ พงษ์ไพบูลย์. เพียงความเคลื่อนไหว. พิมพ์ครั้งที่ 7 .กรุงเทพฯ: เคล็ดไทย, ๒๕๓๕.)

       

      กาลเวลาผ่านไปนับตั้งแต่เหตุการณ์เมื่อ ๑๔ ตุลาคม ๒๕๑๖ นานถึง ๓๖ ปีแล้ว ภาพในอดีตเมื่อเหล่านักศึกษาต่างลุกขึ้นมาต่อสู้เพื่อเรียกร้องอำนาจประชาธิปไตยคืนสู่ประชาชน สงครามที่เกิดขึ้นอาจต้องแลกด้วยชีวิตของผู้บริสุทธิ์นับสิบแต่ทว่าการสูญเสียในครั้งนั้น กลับสร้างความยิ่งใหญ่ของการได้มาซึ่งความเป็นธรรม โดยการเสียสละของเหล่าวีรชนผู้กล้าทุกท่าน วีรบุรุษที่ต่อสู้เพื่อความถูกต้องด้วยแนวทางสันติวิธี และร่วมเป็นหนึ่งในสร้างหน้าประวัติศาสตร์การเมืองไทย

      และพี่สมพงษ์    พลอยเรืองรัศมี ก็คือหนึ่งวีรบุรุษที่ก้าวเข้าร่วมแสดงพลังการเมือง ซึ่งในขณะนั้นพี่สมพงษ์กำลังศึกษาอยู่ที่มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ภาควิชาวิศวกรรมอุตสาหการ โดยในวันที่ ๑๔ ตุลามคม พี่สมพงษ์ได้เข้าร่วมการชุมนุมบริเวณกองบัญชาการตำรวจนครบาลผ่านฟ้า  ได้เข้าแย่งปืนจากทหารด้วยความกล้าหาญและเด็ดเดี่ยวเพื่อปกป้องเพื่อนสหายที่ร่วมอุดมการณ์มาด้วยกัน ทำให้ถูกยิงเสียชีวิตทันทีในเวลาประมาณ  ๑๙.๑๕ น.

      การจากไปของพี่สมพงษ์นั้นยังความโศกเศร้าเสียใจแก่พี่น้องชาวอุตสาหการทุกคน จึงได้มีการจัดสร้าง ศาลาวีรชน ขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้แก่พี่สมพงษ์ และด้วยความช่วยเหลือของท่านรองอธิการบดี ดร.ไพบูลย์ หังสพฤกษ์ ในการจัดหาเนื้อที่ส่วนหนึ่งของมหาวิทยาลัย (บริเวณใกล้กับตึกอธิการในปัจจุบัน) และวัสดุก่อสร้างบางส่วนทำให้การดำเนินการสร้างศาลาวีรชนเริ่มต้นได้ด้วยดี นอกนี้ยังมีอาจารย์โสภณ ช่วยในการออกแบบศาลาและเพื่อนๆ นักศึกษาที่ช่วยกันออกหาทุนในการซื้อวัสดุต่างๆ เพิ่มเติม อันได้มาจากการจัดฉายภาพยนต์ และการขายสติ๊กเกอร์ ซึ่งผู้ร่วมบริจาครวมเป็นเงินประมาณ ๒๐,๐๐๐ บาท

      การก่อสร้างเริ่มขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๑๗  ด้วยความร่วมมือร่วมใจของเพื่อนร่วมสถาบันจากหลายๆภาควิชาที่ว่างจากการเรียนมาช่วยกันสร้างจนเสร็จสิ้น และทำพิธีเปิดในวันที่ ๑๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๑๗

      ถึงแม้พี่สมพงษ์จะเสียชีวิตไปแล้ว แต่ศาลาวีรชน เป็นก็ยังสถานที่ที่แสดงถึงความศรัทธาของชาวบางมดที่มีต่อคุณสมพงษ์ และระลึกถึงเกียรติคุณอันดีงามที่คุณสมพงษ์ได้กระทำไว้ ซึ่งจะเป็นแรงบันดาลใจในการต่อสู้กับสิ่งไม่ถูกต้องและยืนอยู่บนความยุติธรรม เพื่อดำรงไว้ซึ่งประชาธิปไตย

       

      แต่ตอนนี้ประวัติศาสตร์นี้กำลังจะถูกลบลงโดยมีข่าวออกมาในทางที่จะรื้อศาลาวีรชน เป็นที่น่าเสียดายกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นนี้ จึงอยากให้เพื่อนบางมดช่วยกันร่วมใจรักษาศาลาวีรชนแห่งนี้ไว้น่ะครับ


      โปรดช่วยส่งต่อๆกันไปเพื่อประวัติศาสตร์นี้ด้วยเถอะน่ะ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      คำนิยม Top

      "สมควรแล้วหรือกับการทำลายประวัติศาสตร์"

      (แจ้งลบ)

      ถูกแล้วหรือ กับการทำลายพื้นที่ประวัติศาสตร์ ดีแล้วหรือ กับการมาถุบสถานที่รวมของเรา แล้วได้อะไรกับการมาสร้างตึกทับสถานที่แห่งนี้........................................................................................................................................................................... อ่านเพิ่มเติม

      ถูกแล้วหรือ กับการทำลายพื้นที่ประวัติศาสตร์ ดีแล้วหรือ กับการมาถุบสถานที่รวมของเรา แล้วได้อะไรกับการมาสร้างตึกทับสถานที่แห่งนี้...........................................................................................................................................................................  

      PE&MCE#50 | 5 ก.พ. 53

      • 4

      • 0

      คำนิยมล่าสุด

      "สมควรแล้วหรือกับการทำลายประวัติศาสตร์"

      (แจ้งลบ)

      ถูกแล้วหรือ กับการทำลายพื้นที่ประวัติศาสตร์ ดีแล้วหรือ กับการมาถุบสถานที่รวมของเรา แล้วได้อะไรกับการมาสร้างตึกทับสถานที่แห่งนี้........................................................................................................................................................................... อ่านเพิ่มเติม

      ถูกแล้วหรือ กับการทำลายพื้นที่ประวัติศาสตร์ ดีแล้วหรือ กับการมาถุบสถานที่รวมของเรา แล้วได้อะไรกับการมาสร้างตึกทับสถานที่แห่งนี้...........................................................................................................................................................................  

      PE&MCE#50 | 5 ก.พ. 53

      • 4

      • 0

      ความคิดเห็น

      ×