ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Unloveable รักนี้ไม่มี 'แฟชั่น' (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #9 : DAY 9 ?

    • อัปเดตล่าสุด 18 พ.ค. 52






    DAY 9 ?

     

    ภัทกับแม่กำลังจะเปิดประตูรั้วเพื่อที่จะเข้าบ้านแต่ก็ต้องหยุดเพราะมีเสียงๆนึงเรียกจากข้างหลัง

     

    คุณค่ะๆ ผู้หญิงวัยกลางคน คนนึงกวักมือแล้วเรียกเรียกแม่ของภัทเอาไว้

     

    มีอะไรหรอค่ะ?” คนที่ถูดเรียกหันไปถามด้วยสีหน้างงงวย

     

    คือเมื่อกี้ดิฉันเห็นมีเด็กหนุ่มคนนึง สูงๆหล่อๆ น่ะค่ะ เค้าปีนขึ้นรั้วบ้านคุณแล้วดิฉันเห็นเข้าพอดี ไม่รู้ว่าจะปีนไปทำอะไรมิดิมิร้ายกับลูกสาวคุณรึเปล่าหญิงคนนั้นพูดด้วยสีหน้ากังวล

     

    ลูกสาว?” แม่ของภัทถามย้ำแล้วหันไปมองหน้าลูกชาย บ้านดิฉันไม่มีลูกสาวหรอกค่ะ คุณคงจำผิดบ้านแล้วล่ะค่ะ^^” หญิงผู้เป็นเจ้าของบ้านตอบกลับมาด้วยท่าทางสุภาพ

     

    ไม่ผิดแน่ๆค่ะ!” หญิงคนนั้นตอบกลับด้วยท่าทางมั่นใจ บ้านหลังนี้แหละค่ะ!”

     

    เอ่อค่ะ^^ ก็ขอบคุณนะค่ะ ดิฉันขอตัวไปทำกับข้าวให้ลูกชายกินก่อน หญิงเจ้าของบ้านกับลูกชายของเธอเดินเข้าบ้าน

     

    ลูกสาว? ภัทคิดว่าไง

     

    เพื่อนไอ้นัทเล่นแผลงๆมั้งแม่

     

    เอาให้จริงเถอะ…”

     

    ไอ้นัทมันเป็นถึงขนาดนี้แล้วหรอวะ คนเป็นพี่พึมพำเบาๆ อยู่คนเดียว

     

    พอตอนที่ผมกำลังนั่งอึ้งอยู่กับเหตุการณ์เบื้องหน้าผมก็ได้ยินเสียงจากทางหน้าบ้านแล้วต่อด้วยเสียง แม่ ภัท แล้วก็เสียงเปิดประตูรั้ว 

     

                ข้าวเย็นมาแล้วววววววววววววววววววววววว

     

                แม่นัทช่วยๆๆ ผมไม่สนใจไอ้เป้แล้วรีบวิ่งไปทำความดีทันที มีปลาด้วยหรอแม่!” ผมอุทานขึ้นหลังจากที่เห็นถุงๆหนึ่งในจำนวนที่แม่ถือมีปลาอยู่ตัวนึง

     

                เออ มึงเห็นเป็นเป็ดรึไง พอจบผมพูดไอ้ภัทก็สวนอย่างกวนตีนมาทันที

     

                ภัท! พูดกับน้องเค้าดีๆ สิ!!” แม่พูดออกมาแล้วตามท้ายด้วยมือที่ไปกระทบตรงที่แขนอย่างแรง

     

                ครับๆแม่!” ภัทรีบหลบมือแม่ก่อนจะเดินเข้าบ้าน

     

                คุณแม่สวัดดีครับ อยู่ๆดีที่ก็มีแสงทุ้มต่ำแอบแหบแบบผู้ชายเอ่ยขึ้น

     

                อ๋อ สวัดดีจ๊ะ แม่ผมกลับไปตอบรับอย่างงงๆ นี่ใครหรอนัท หลังจากที่แม่สงสัยก็หันมาถามผม

     

                อ๋อ! แม่นี่เป้เพื่อนเก่าผม เป้นี่แม่ก... เอ่ย! แม่เรา เกือบหลุดคำมิสุภาพ เหอะๆ

     

                อ๋อ แม่พยักหน้าอย่างเข้าใจ มากันข้าวด้วยกันไหมน้องเป้

     

                เอ่อ…” เป้อ้ำอึงก่อนจะหันมามองหน้าผม ผมพยักหน้าปัดๆไป อ๋อ ครับๆ^^”

     

     

     

     

                แล้วนี่อยู่คนล่ะโรงเรียนมาเจอกันได้ยังไงจ๊ะเนี่ย อยู่ๆแม่ก็พูดทำลายความเงียบของวงอาหาร

     

                หลังจากที่ไอ้เป้รับคำว่าจะมาร่วมวงด้วย มันก็เดินเข้ามาในบ้านและทำตามสุภาษิตไทยได้ดี

     

                อยู่บ้านท่านอย่านิ่งดูดาย ปั้นวัวปั้นควายให้ลูกท่านเล่น!!!

     

                ถูกป่าวหว่า???

     

                มันรีบรี่เข้าไปในครัวช่วยแม่ผมใหญ่เป็นลูกมือที่ดีมาก ช่วยโน่นช่วยนี่ หยิบนั่นหยิบนี่ ส่วนไอ้ลูกชายสองคนของบ้านก็นั่งแหมะดูทีวีกันอย่างไม่สนใจอะไรทั้นสิ้น!!!

     

                อ๋อ...พอดีผมอยู่บ้านหลังซอยอ่ะครับ เป้พูดก่อนจะยิ้มบางๆให้แม่ผม ก่อนจะก้มลงกินข้าวต่อ

     

                แล้วนี่น้องเป้ใช่คนที่ปืนข้ามประตูรั้วรึเปล่าจ๊ะ

     

    อ่าครับๆ ก็นัทเค้าไม่ยอมเปิดประตูให้ผม เป้พูดจบก็หันมายิ้มให้ผม

     

    โยนขี้ให้ง่ายๆเลยนะมึงงงงงงงงงงงงง

     

    อ้าว? ทำไมนัทไม่เปิดบ้านให้เพื่อนล่ะลูก แม่หันมาถามผมทันทีแล้วทำหน้ายักใส่

     

    ก็ผมไม่ได้ยินอะแม่ ผมตอบแบบตอแหลๆ แล้วรีบยกจานเข้าครัวทันที

     

    เห็นหน้ามันแล้วกินข้าวไม่ลง! (จริงๆ อิ่มเค้ก - -)

     

    ผมคิดอะไรเพลินๆ แล้วก็กำลังจะหยิบเลย์บนตู้กินผมก็ได้ยินเสียงแม่คุยกับไอ้เป้ที่กำลังอิ่มหนำสำราญ หน้าตาไม่ทุกข์ร้อนอยู่บนโต๊ะ เป็นคำถามที่เอาผมแทบช็อค

     

    เอ่อ...น้องเป้มีแฟนรึยังจ๊ะ

     

    ถามอะไรเนี่ยแม่!

     

    ถึงใจคิดอย่างนั้นแต่ก็แอบเอาหน้าแนบประตู รอฟังคำตอบจากปากของมัน

     

    ยังเลยฮะ^^”

     

    ไม่ใช่อะไรหรอกนะจ๊ะ ที่ถามแบบนี้น่ะ แม่คิดว่าน้องเป้จะเข้ามาจีบน้องนัทน่ะ นัทเค้าไม่เคยพาผู้หญิงมาให้แม่รู้จักสักคน บางทีแม่ก็สงสัยน่ะ

     

    เหมือนหรอครับ เป้พูดออกแนวเขินๆ เราเป็นเพื่อนตั้งแต่สมัยอนุบาลแล้วล่ะครับ ไม่มีอะไรหรอกฮะ^^”

     

    แค่ได้ยินแบบนี้แม่ก็โล่งแล้วละจ๊ะ

     

    จริงๆที่ได้ยินแม่พูดแบบนี้ให้คนอื่นฟังก็แอบเคือง แต่ทำไมผมกลับรู้สึกเคืองที่ไอ้เป้พูดมากกว่านะ ผมไม่ชอบความรู้สึกแบบนี้เลย

     

    มันทำให้ผมไม่อยากมองหน้ามัน มันรู้สึกแปลกๆ

     

    และผมก็ต้องสะดุ้งอีกแล้ว (ทำไมเดี๋ยวนี้สะดุ้งบ่อยจังว่ะ) ก็อยู่ๆโทรศัพท์ผมก็ดังขึ้นผมมองหน้าจอโทรศัพท์เป็นชื่อที่ช่วงนี้โทรมาหาผมบ่อย แล้วบางทีผมก็ดีใจที่มันโทรมา

     

    หวัดดีกราฟ ผมรับแอลจีคุ๊กกี้แล้วรีบเดินไปสวนหลังบ้าน

     

    ก่อนจะมาเดินสวนกลับเป้เราสบมากันนิดนึง ผมต้องเป็นผาหลบตามัน

     

    ทำไม?

     

    ว่างรึป่าว กราฟถามผมเบาๆ

     

    ว่างกำลังเบื่อๆพอดีเลย ขอบคุณนะที่โทรมา ผมล้อเล่นเล็กๆกันมันก่อนจะนั่งลง พอนั่งปุ๊บก็ได้ยินเสียงกระดิ่ง ตามด้วยร่างอันบวมๆของไอ้โบ้

     

    นัทเสื้อวันนั้นที่ไปซื้อด้วยกันอะ ใส่แล้วมีแต่คนบอกว่าหล่อ กราฟพูดแบบดีใจหน่อยๆ

     

    เฮ้ย! จิงป่ะ ทำไมไม่ใส่มาให้ดูหน่อยว่ะ

     

    เอ้า! วันหลังใส่ไปเที่ยวกันเอาป่ะ?” กราฟพูดแล้วหัวเราะคิกๆ

     

    จะชวนไปเที่ยวว่างั้น ผมพูดอย่างเป็นต่อ โอเคๆ นัดมาก่อนล่ะกัน

     

    ดูน้องกราฟเข้าสิ

     

    ไม่ต้องมาแซวเลยนะครับ พอได้ยินเสียงผู้หญิงออกแนวแก่หน่อยๆ ดังขึ้น กราฟก็สวนกลับทันที นัทดูดิ แม่บ้านแซวใหญ่เลย แล้วมันก็หันมาพูดกับผม

     

    กราฟมันน่ารักนะ ผมไม่ได้ชมมันเหมือนที่คนปิ๊งกันชมนะ แต่พูดแบบเพื่อนคนนึง ผมว่านิสัยมันน่ารักดี ติดพ่ออีกต่างหากโตขนาดนี้และ

     

    หรอๆ ตลกว่ะ ผมพูดแล้วขำกับตัวเอง

     

    ไว้ค่อยคุยใหม่ดีกว่าคนเยอะ มันพูดเสียงแม่บ้านยังแซวอยู่เลย

     

    เอ้าซะงั้น ไม่เป็นๆ บาย

     

    เราเขิน!” มันพูดทิ้งท้ายก่อนจะว่างสายไป

     

    เขิน? เขินอะไรของมันว่ะ เขินแม่บ้านรึเปล่า???

     

    งี้แหละผมถึงบอกว่ามันน่ารัก ผมชอบคนแบบนี้นะ ถ้าเป็นเพื่อนคงเป็นเพื่อนที่ดี ถ้าเป็นแฟนคงเป็นแฟนที่เอาใจใส่ แต่ผมขอให้มันเป็นแค่เพื่อนที่ดีให้ผมจะดีกว่า

     

    คิดได้แบบนั้นผมก็ยิ้มบางๆกับตัวเองเบาๆ

     

    แต่มันก็ไม่เบาซะแล้ว!

     

    มาคุยกับใครอยู่หลังบ้านคนเดียวว่ะ เสียงแหบๆไอ้ภัทพี่ชายสุดตีน (?) ของผมเอ่ยขึ้น

     

    กิ๊ก มันชอบมาดูถูกผมว่าไม่มีปัญญาแฟน ผมก็เลยแกล้งพูดไปงั้น

     

    เชื่อตาย มันพูดแล้วเดินมายืนข้างหน้าผม แม่บ่นใหญ่เลย

     

    บ่นเรื่องไร ผมเงือยหน้าไปจ้องหน้ามันตอบ

     

    เรื่องเพื่อนมึงไง ก็มึงมัวแต่คุยโทรศัพท์แล้วไม่ดูแลแขก ไม่ต้องห่วงหลอกเด็กนั่นกลับไปแล้วฝากลามึงด้วย แต่แม่บอกว่ามึงเสียมารยาท

     

    ไปเรียกมันเด็ก…” ผมพึมพำ หรอ ช่างมันเหอะ

     

    มึงกับเป้เป็นอะไรกัน อยู่ๆมันก็ถามขึ้นอย่างนั้น มันทำให้ผมอึ้ง

     

    เพื่อนดิ ทำไมอีกวะ ผมรีบบอกปัดทันที

     

    ป่าวมันพูดก่อนจะจ้องหน้าผม มึงก็รู้ว่าแม่ไม่ชอบแบบนี้ เค้าไม่อยากให้มึงมีแฟนหรอก ถึงปากจะบอกว่าให้มึงพาผู้หญิงมาบ้าน แต่ถ้าเอาเข้าจริงคงไล่ก่อนว่ะ

     

    กูรู้…” ก็จริงอย่างที่มันพูด

     

     ผมรู้เรื่องนี้ตั้งนานแล้วแหละ ตั้งแต่ที่ผมมีแฟนคนแรก แม่รู้ว่าผมคุยโทรศัพท์นานขึ้น ออนเอ็มถี่ขึ้น เริ่มไปเที่ยว กลับดึก ตื่นสาย (อันนี้จริงๆตั้งนานแล้ว) จนแม่ห้ามให้มีแฟนคบกันเป็นเพื่อนได้ หลังจากนั้นก็ไม่พาเพื่อนผู้หญิงมาบ้านอีกเลย พอพวกผู้ชายมาก็กลับละเวงอีกซะงั้น!

     

    หวงเกินไปไหมครับแม่

     

    มึงยังเด็กอยู่ไม่ควรมีอยู่แล้วนิ

     

    แหม ทีมึงนะมีกี่คนก็ไม่เคยจะว่าผมพูดออกแนวปลงๆ ก็จิงนะ มันไม่ว่าเพศไหน วัยไหน วันไหน เวลาอะไร มาที่บ้านก็ไม่เคยจะว่า ทีผมล่ะมองตั้งแต่หัวจรดเท้า!

     

    มึงควรจะโทรไปหาเพื่อนมึงนะ อยูดีๆมันก็พูดขึ้นมา

     

    ไอ้เป้อะหรอ? โทรไปทำไมเปลืองตัวค์เปล่าๆ ผมพูดแล้วโบกมือ

     

    ถ้ากูเป็นมันกูก็เสียความรู้สึก คิดเอาเองแล้วกัน กูไปและ มันพูดก่อนจะเดินไปเล่นกับไอ้โบ้ ที่แลบลิ้นทำหน้าหิวอยู่ใต้เก้าอี้

     

    ทำไมผมต้องโทรไป?

     

    ผมไม่ได้ชวนมันมานั่งกินสักหน่อย แล้วอยู่ดีๆมันจะเดินกลับไปเองทำไม ถ้ารอผมอีกสักแปปก็ได้นิ นั่งดูทีวีก่อนก็ได้

     

    ถึงใจจะคิดว่าไม่โทรแน่แต่อีกมือกลับหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหาเบอร์มันแล้วกดโทรออกทันที

     

    นี่กูซีเรียสนะไอ้ภัท!

     

    แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือเสียงสัณญาณของการโทรที่ถี่ยิบ

     

    เชี่ยเป้ตัดสาย!



    ============================

    อ่ะ อะ! น้องเป้ทำป่วนซะแล้วสิ!

    คอมเม้นและโหวตให้กันด้วยนะค่ะ




    กลับมาแล้วววววววววววววววววววววววว

    ไปและนะจะรีบไปอัพตอนใหม่!!!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×