ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Unloveable รักนี้ไม่มี 'แฟชั่น' (Yaoi)

    ลำดับตอนที่ #6 : DAY 6 …1 day with SA(ii) -มาเรียกกระแสใหม่-

    • อัปเดตล่าสุด 4 พ.ค. 52




    DAY 6 …1 day with SA(ii)

     

     

                -SA(ii)-

     

     

                ตอนนี้หกโมงเกือบเจ็ดโมงแล้ว ผมยังคงนั่งดูทีวีอยู่บนเตียงในห้องผม ก็ใช่นะสิ! ถ้าเป็นปกติเวลานี้คนอย่าผมต้องรีบไปโบกรถแถวนี้ไปโรงเรียนแล้วแหละ! แต่มันติดตรงที่ว่าเมื่อคืน ไอ้อ้น เพื่อนผม มันโทรมาบอกว่า วันนี้มันจะมารับไปโรงเรียนด้วยกัน แต่ตอนนี้มันเกินเวลาที่นัดกันแล้ว

     

                ให้กูรออีกแล้วหรอว่ะอ้น

     

                ผมไม่รู้ว่าผมชอบมันเข้าตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่รู้ตัวอีกทีผมก็คิดถึงมันทั้งวัน

     

                ปัจจัยที่ทำให้ผมชอบมันอาจจะเป็น มันหล่อ แต่อันนี้คงไม่มากนักหรอก สองผมนั่งเรียนติดกับมัน เวลามันมีอะไรมันจะบอกผมเป็นคนแรกและมันก็เห็นผมเป็นติวเตอร์ส่วนตัวของมัน ผมสนิทกับมันมากกว่าคนอื่นๆ นี่อาจจะเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมหวั่นไหว

     

                แต่ความรักของผมมันไม่ราบรื่นอย่างที่คิด ผมไม่ได้ซีเรียสอะไรมาก เพราะผมเคยคบกับผู้ชายมาคนนึงแล้วตอนอยู่โรงเรียนเก่า พี่เค้าชื่อพี่ วิทย์ พี่วิทย์น่ารัก นิสยดี แต่เราก็ต้องเลิกกันด้วยเหตุผลหลายๆอย่าง

     

                และก็อย่างที่บอกแหละ มันไม่ราบรื่นอย่างที่คิด ไม่เชี่ยอ้นมันไม่ชอบผู้ชาย! มันเคยมาเล่าว่ามีผู้ชายมาจีบมัน มันสยิวอย่างโน้น อย่างนี้ ให้ผมทำไงอะ

     

                แดกแห้วดิ!

     

                ช่างมันเหอะ! ยังไงเราก็เป็นได้แค่เพื่อนอยู่แล้วซีเรียสไรเนอะ

     

                ระหว่างที่ผมนั่งดูทีวีอยู่เงียบๆ ในห้อง แต่โทรศัพท์ผมมันดันไม่เงียบ - - เสียงเพลงทำให้ผมรู้ว่า มีข้อความเข้า

     

                ผมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา ข้อความจากไอ้อ้น?

     

              ษากูขอโทดนะ วันนี้แม่กูไปส่งอ่ะ เจ๊เค้าไรเข้าไม่รู้ อยู่ดีๆ ก็คิดจะไปส่ง

     

              ป.ล. มึงไปโรงเรียนเองได้ป่ะ? กูขอโทด เจอกันที่โรงเรียนนะ

     

                                                                       Sender AoN

     

                กูว่าและ ผมพึมพำแบบปลงๆ อยู่คนเดียวกับโนเกียของผม

     

                ไม่ใช่ว่าไอ้อ้นจะไม่เคยผิดนัดกับผม ประจำแหละครับ นับไม่ถ้วน ผมชินแล้วล่ะ พอผิดนัดมันก็พูดแค่คำเดียวคือ

     

                กูขอโทด

     

              ประโยคประจำตัวของมัน - -

     

                มานั่งบ่นในใจคนเดียว ก็ไม่มีประโยชน์ ไปโรงเรียนดีกว่า

     

                คิดได้อย่างนั้นผมก็เดินไปหน้ากระจก แต่งตัวให้เรียบร้อย ยิ้มให้กับตัวเองในกระจก ใกล้บ้าแล้วกู  เปลี่ยนสียางสีไรดีหว่า พอเกือบบ้าอยู่หน้ากระจก ผมก็เดินกลับมายังเตียงแล้วหยิบกระเป๋าเดินลงข้างล่าง ม๊า กำลังดูทีวีอยู่

     

                ม๊าผมไปแล้วนะ หวัดดีคับ ผมไหว้ม๊าอย่างที่ทำทุกวัน

     

                เออนี่ษาเมื่อไหรแกจะสูงขึ้นเนี่ย ฉันเริ่มจะเซ็งแล้วนะ ให้ไปซื้อนมกินที่โรงเรียนน่ะ ทำบ้างไหม พอม๊าเห็นหน้าผมปุ๊ปก็บ่นใหญ่

     

                ซื้อดิม๊า สูงขึ้นสองเซนแล้วนะม๊า ที่หลังม๊าหาพ่อสูงๆหน่อยดิผมจะได้สูง  ผมพูดประชดม๊ากลับไป

     

                ไม่ต้องไปโทษคนอื่นเลยนะ ตอนเด็กน่ะฉันเอานมให้แกเอาไปกินที่โรงเรียน แต่แกก็เอาไปขาย น่าตีดีนัก!”

     

                โอ๊ย! ม๊า นั่นมันตอนเด็กนี่นา ผมก็อยากสูงเหมือนกันแหละน่า ไปและนะม๊า จะไปซื้อนมกิน!” ผมพูดแล้วเดินงอนแม่ออกจากบ้าน

     

                เอาให้จริงเถอะ!”

     

                โถ่เอ๋ย! ไม่ต้องมาขุดเรื่องอดีตมาบ่นเลย ใครๆเค้าก็ต้องอยากสูงกันทั้งนั้นแหละน่า ผมเตี้ยอย่างนี้มาตั้งแต่เด็กแล้ว อยู่หน้าแถวตลอด และหลังจากที่ผมเห็นว่าความสูงคือสิ่งสำคัญในชีวิตผม

     

                มารู้สึกอีกทีก็ได้แค่ 160!

     

                แมร่ง! กินนมวันล่ะสี่กล่อง เช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน ซึ่งมันได้ผล

     

                ผมสูงขึ้นตั้ง 2 เซนต์แนะ!

     

                เหอะๆ สุดๆแล้วชีวิตกู ทั้งเตี้ย ดัดฟัน ใส่แว่น แล้วไอ้เรื่องแว่นนี้ สุดๆแล้วตอนคาบพละ เวลาเค้าให้ทำอะไรก็ต้องมานั่งถอดแว่นใส่แว่น โคดจะเซ็งเลย จะไม่ใส่แว่นก็ไม่ได้วิ่งก็คงกะไรอยู่ สุดๆ ไหมล่ะชีวิตผม

     

                โชดดีที่กูยังขาว! ถึงจะไม่ขาวเวอร์แบบไอ้นัท ก็ยังดีว่ะ ขาวกว่าไอ้ปาล์มก็แล้วกัน!

     

                และที่ผมกำลังเดินอยู่เงียบอย่างเคย โทรศัพท์ผมมันไม่เงียบอีกแล้ว

     

              ~รอฟังคำนั้นอยู่รู้รึเปล่า หากเพียงได้ยินคงบินได้ถึงดวงดาว จะให้ฉันโชคดีอย่างนั้นได้รึไม่~

     

                ‘GoFFy’

     

                ไอ้เชี่ยกอฟโทรมา

     

                ฮัลโหลลล

     

                ษาวันนี้กูไปโรงเรียนไม่ไหว…” พอผมเซย์ฮัลโหลมันไป มันก็ไอ ค่อกๆ แค่กๆ แบบเนี่ย หนังสือคณิต…”

     

                พอ พอ พอเลยมึง มึงไอให้เสร็จก่อนแล้วค่อยพูดได้ไหม กูฟังไม่รู้เรื่อง ผมต้องรีบขัดมันไว้ก่อน ไม่งั้นเดี๋ยวลำโพงโนเกียผมแตกพอดี

     

                เหมือนจะแพงเนอะ พูดอยู่นั่นเหละ

     

                เสียงไอ้กอฟเงียบไปเสียงไอมันมาแทน จริงๆ มันชื่อ กอฟฟี่ เหตุผลชื่อนี้มาเนื่องจากแม่มันชอบตัวการ์ตูนที่ชื่อ กูฟฟี่ เลยตั้งชื่อลูกให้คล้องกัน แต่ไอ้กอฟมันห้ามเด็ดขาด

     

                ห้ามใครเรียกมันว่า กอฟฟี่!

     

                ฮ่าๆ ผมว่าน่ารักดีออก เนอะ ถ้ามันเห็นว่าผมเมมชื่อมันว่าอะไร มีหวังมันตื้บผมตายแหงเลย

     

                หนังสือคณิตของมึงอะ ระหว่างที่ผมนินทามันอยู่ในใจมันก็พูดด้วยเสียงเรียบๆออกมา

     

                อ๋อ เฮ้ย! วันนี้ศรีววณสอนนะมึง!!!”

     

                กูไปไม่ไหว ฟังเสียงมันแล้วเครียด บ่งบอกถึงคำว่ามันไม่ไหวแน่

     

                ไม่เป็นไร กูไปบ้านมึงเอง…”

     

     

     

     

                เนี่ยน้องกอฟเค้าน่ะไม่ค่อยดูแลตัวเองเอาซะเลย เมื่อวานกลับมาตีหนึ่งกว่าๆ แถมฝนยังตกอีก พอถามว่าไปไหนก็บอกแค่ว่าไปดูบอลกับน้องปุ่น ตื่นมาเลยเป็นไข้นอนซมอย่างนี้แหละ แม่ของกอฟเล่าเรื่องทั้งหมดให้ผมฟังตั้งแต่ผมเหยียบเข้าบ้านมัน

     

                กอฟมันก็เป็นอย่างงี้แหละครับน้า ผมพูดแบบยิ้มๆให้แม่ไอ้กอฟ งั้นผมขึ้นไปดูมันก่อนนะฮะ

     

                แม่ปลื้มจังที่กอฟมีเพื่อนแบบนี้

     

                ครับ^^” ผมตอบรับแม่กอฟก่อนจะเดินขึ้นห้องไปหาไอ้เพื่อนกอฟฟี่

     

                ผมมาบ้านไอ้กอฟสองสามครั้งแล้วมั้ง มาติวหนังสือให้มัน จริงๆแล้วผมเคยไปบ้านเพื่อนเกือบทุกคนแล้ว ไปติวหนังสืออย่างเดียวแหละครับ นีถ้าผมเก็บตังค์นะครับ ป่านนี้รวยเละไปแล้ว นักเรียนเยอะมากกกกกก

     

                กอฟๆ เปิดประตูๆๆ ผมไปยืนอยู่เคาะประตู ก๊อก ก๊อก อยู่หน้าห้องมัน

     

                สักพักก็ได้ยินเสียงคนเดินมาเปิดประตู

     

                โห มึงสภาพ พอเห็นสภาพของไอ้กอฟผมก็เดินตามมันเข้าห้อง

     

                เฮ้ย มึงไหวไหมเนี่ย ผมรีบถามมันทันที หน้ามันซีดมาก สภาพมันดูไม่ได้เลย หมดความหล่ออย่างแรง

     

                แก้ผ้าใส่บ๊อกสีซีด! สถุลโคดเพื่อนกู

     

                หนังสือคณิตมึงอยู่บนโต๊ะ มันพูดแล้วนอนคว้ำหน้าซุกกับหมอน

     

                ผมแอบลอบมองมัน กอฟแมร่งไหล่กว้าง ขาว แถมยังสูงอีก หุ่นแมร่งโคดดีเลยวะ!

     

                จะดีมากถ้ามันไม่ปากหมา แล้วหัดพูดจากับคนอื่นเค้าเยอะๆกว่านี้ซะบ้าง

     

                ผมมองตามที่มันบอกแล้วก็เดินไปหยิบหนังสือ หนังสือของผมสภาพเยือนมาก เหตุเพราะว่าคนยืมผมไปลอกเยอะมาก พอคิดว่าจะไปโรงเรียนกลับรู้สึกผิดแบบตะงิดๆ

     

                จะทิ้งมันไว้แบบนี้ จะได้หรอ?

     

                กอฟมึง เป็นไงบ้าง ผมอ้อมๆ เดี๋ยวมันคิดว่าผมเป็นห่วงมัน

     

                รู้สึกจะห่วงจริง

     

                ปวดหัว มึงจะเพิ่มพยางค์เวลามึงพูดจะได้ไหมว่ะ

     

                กินยารึยัง

     

                ไม่กิน มันพูดด้วยเสียงอู้อี้

     

                ไม่แดกแล้วมันจะหายไหม ยืนแล้วเมื่อย ผมเดินไปนั่งที่ปลายเตียงมัน

     

                มึงไปโรงเรียนป่ะ ไปไหนก็ไป พอมันพูดแบบนี้ผมก็เลยก้มมองนาฬิกาตัวเอง แปดโมงแล้ว มึงจะให้กูไปอีกแระ???

     

                นี่ไล่กันเลยเรอะ?

     

                ไม่ไปแล้ว อยู่บ้านมึงนี่แหละ คิดได้อย่างนั้นผมก็ถอดถุงเท้า เข็มขัด การเกง ให้มันเหลือแต่บ๊อกแล้วล้มตัวไปนอนข้างมัน

     

                สัดมันเบียด ไอ้คุณกอฟฟี่พูดเบาๆ แล้วกลิ้งตัวไปอีกด้านนึงของเตียง

     

                เตียงมึงออกจะใหญ่ให้กูนอนด้วยไม่ได้ว่างั้น

     

     

     

     

                ~สุดท้ายก็มีแต่ตอแล้ววว เหลือแต่ตอ เหลือแต่ตอ เหลือแต่ตอ~

     

              ผมสะดุ้งตื่นมาด้วยเสียงโทรศัพท์ของไอ้กอฟ

     

                กอฟ โทรศัพท์ ผมใช้เท้าถีบตูดมัน แมร่งมันไม่ยอมตื่น ทนฟังเพลงมันไม่ไหว เพลงอินดี้มากเลยว่ะ สัด สุดท้ายผมก็หยิบโทรศัพท์ของมันมาแล้วกดตัดสาย

     

                นอนไม่หลับแล้ว

     

                ผมดีดตัวขึ้นมาจากเตียงอันแสนจะนุ่มของมัน แล้วกดโทรศัพท์มันเล่น และผมก็ต้องสะดุดกับการเมมชื่อของมัน

     

                เตี้ยดัดฟัน

     

                อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก ไอ้เชี่ย!!! มึงตื่นเดี๋ยวนี้เลยสัดดดดดดดด ผมตะโกนลั่นห้องแต่มันก็ยังคงไม่ตื่นแล้วร้อง อื้อๆ อยู่เหมือนเดิม

     

                มึงเมมชื่อกูอย่างงี้หรอ ไอ้เชี่ยกอฟฟฟฟฟฟ ผมก้มลงไปตะโกนกอกหูมัน

     

                โอ๊ย! ไอ้เชี่ย!!!” กอฟมันผุดขึ้นจากเตียงขึ้นมานั่งแล้วขยี้หัวตัวเองให้มันยุ่งกว่าเดิม แล้วหันมามองผม ไปเอาข้าวมาดิ๊ หิว

     

                กูเป็นคนใช้มึงหรอสัด!! ใครใช้ใครมึงเมมชื่อกูแบบนี้

     

                แล้วไงสิทธ์ส่วนตัว แต่ตอนที่ผมกำลังจะสร้างสงครามกันบนเตียงก็ได้ยินเสียงเปิดประตูดังขึ้น เป็นคุณน้า หรือแม่ไอ้กอฟนั่นเอง

     

                อ้าว หนุ่มๆ แม่ยกมาม่ามาให้ เดี๋ยวกลัวว่าจะหิวกัน

     

                จ๊อกกกกกกกกกกกกกกกกก

     

     

     

     

              กอฟมึงเลิกดูการ์ตูนเหอะ เอารีโมทมานี่ ผมพูดแล้วแย่งรีโมทมาจากมัน

     

                ตอนนี้พวกผมสองคนกำลังกินมาม่าที่แม่ไอ้กอฟเอามาให้อยู่ข้างเตียงของมัน เอาโต๊ะมาตั้งกินกันเต็มที่เลยเหอะ

     

                ผมกดเปลี่ยนช่องไปเลื่อยๆ จดมาสะดุดกับหนังเรื่องนึง

     

                รักแห่งสยาม!

     

                ดูก่อนๆ เสียงของไอ้กอฟพูดขึ้น

     

                ทำไมมึงไม่เคยดูรึไง ผมหันไปถามมัน จริงๆผมก็ยังไม่ได้ดูเหมือนกันแหละ ได้ข่าวมาว่ามันเป็นหนังเกย์เด็กอะไรประมาณงี้

     

                เออ

     

                สักพักเราสองคนต่างคนต่างกินแล้วดูรักแห่งสยามกันเงียบๆ

     

                และฉากที่ผมไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น โต่งกับมิวค่อยๆเลื่อนหน้าเข้าหากันเลื่อยๆ จนทั้งคู่จูบกันในที่สุด บอกตามตรงโคดอินเลย ระหว่างที่ผมจ้องฉากจูบตาไม่กระพริบนั้นไอ้กอฟก็พูดบางประโยคที่ทำให้ผมแทบแข็ง

     

                ขอจูบได้ป่ะ ผมหันไปมองหน้ามันแบบอึ้งๆ หน้ามันไม่ได้บ่งบอกถึงคำใดๆทั้งสิ้น หน้ามันยังคงนิ่งเหมือนเดิม

     

                อย่าล้อเล่นงี้ดิ ผมบอกปัดๆไปทำเป็นไม่สนใจ

     

                แต่ใจผมกำลังเต้นอยู่

     

                ไม่ได้เล่น มันพูด

     

                พอมันพูดจบเราสองคนสบตากันนิ่งไอ้กอฟมันเลื่อยหน้ามาใกล้ผมเข้ามาทุกทีทุกที

     

                รอหนังจบก่อน!” ผมพูดอย่างปัดๆแล้วดันไหล่มันออกไป

     

                เล่นเชี่ยไรเนี่ย! ใจกูเต้นจะหลุดแล้วนะสัด!

     

                ไม่รอ มันพูดจบแล้วโอบคอผมแบบที่ผมไม่ทันตั้งตัว

     

                ริมฝีปากของเราแตะกันแล้ว

     

                ปากของไอ้กอฟร้อนมาก ใจผมเต้นแรง ผมพยายามฝืนตาไม่ให้หลับลง แต่ก็ทำไม่ได้ มันเป็นแค่จูบธรรมดา แค่ปากแตะกันเป็นสิ่งที่ใครๆก็ทำได้ สักพักกอฟถอนริมฝีปากของจากผม ไอ้กอฟตาโตเหมือนอึ้งอะไรสักอย่าง

     

                กูอึ้งกว่ามึงอีก!

     

                ขออีกรอบจากที่ผมยังอึ้งๆอยู่ไอ้กอฟก็เข้ามาจูบผมอีกครั้งนึง

     

                คราวนี้ไม่เหมือนครั้งที่แล้ว รอบนี้ไอ้กอฟสอดลิ้นเข้ามาในปากของผม

     

    ~สุดท้ายก็มีแต่ตอแล้ววว เหลือแต่ตอ เหลือแต่ตอ เหลือแต่ตอ~

     

    เสียงโทรศัพท์ของไอ้กอฟดังขึ้น ผมกับมันรีบผละออกจากกันทันที!





    -----------------------------

    5555+ มาเรียกน้ำย่อยๆๆ

    ไรเตอร์ชอบษามากกว่าคนอื่น เลยเขียนมันซะเลยยย

    55+ ตักฉากสวยๆๆ

    เม้นแล้วโหวตด้วยเน้อออออออออออออออ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×