ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [GOT7 | MarkBam Ft. G-Dragon] FILL IN THE GAP.

    ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2

    • อัปเดตล่าสุด 24 ม.ค. 59


    FILL IN THE GAP

    CHAPTER 2










    “เฮ้ย มาร์ค น้องจียอนมองมาทางนี้ตลอดเลยว่ะ” แจ็คสันใช้ศอกสะกิดเพื่อนผมสีแดงข้างๆอย่างแรงระหว่างที่ทั้งคู่กำลังวอร์มร่างกายก่อนจะลงแข่งบาสเก็ตบอล

     

    มาร์คเงยหน้าขึ้นมองบนอัฒจันทร์ จียอน เด็กผู้หญิงที่ผู้ชายในห้องมักพูดถึง พร้อมพรั่งด้วยนักเรียนหญิงอีกหลายคนที่จับกลุ่มกันนั่งมองมาร์คเป็นตาเดียว

     

    “อืม นายก็เตรียมตัวเข้าเถอะ” มาร์คพูดห้วนๆก่อนจะเดินไปหยิบขวดน้ำขึ้นมาดื่ม

     

    แจ๊คสันมุ่ยหน้า “หงุดหงิดอะไรของมันวะ”

     

    oOo

     

    “อย่างอแงได้ไหม พรุ่งนี้วันทำงาน คิดว่าพี่จะไปได้ยังไง” มาร์คฟังคำตอบจากอีกฝ่ายก่อนจะถอดถอนใจออกมายาวเหยียด เขาเซ้าซี้หว่านล้อมให้แบมแบมมาดูเขาแข่งบาสฯในงานกีฬาสีที่โรงเรียนอยู่พักใหญ่ “แค่คิดภาพก็ตลกแล้ว เหมือนผู้ปกครองไปเชียร์ลูกเลย ฮะๆ”

     

    มาร์คเงียบ

     

    “มันตลกมากขนาดนั้นเลยหรอครับ” เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลแดงเอ่ยออกมาหลังจากเงียบไปพักใหญ่

     

    แบมแบมนึกอยากตบปากตัวเอง ตลอดเวลาที่ผ่านมาเขาก็น่าจะรู้ว่าอะไรนิดหน่อยเด็กคนนี้ก็เก็บไปคิดเป็นจริงเป็นจังขนาดไหน “อา... ฉันเลี้ยงข้าวหลังจากแข่งเสร็จเป็นไง นะ ลองคิดดูว่าอยากทานอะไร”

     

    มาร์คเงียบไปอีกครั้ง

     

    “อืม เข้าใจแล้ว ผมง่วงแล้วหละ ฝันดีครับ”

     

    และวางสายไป

     

    แบมแบมมองหน้าจอมือถือครู่หนึ่งก่อนจะถอนหายใจออกมายาวเหยียด

     

    oOo

     

    เสียงกรีดร้องตะโกนเรียกชื่อมาร์คสนั่นอาคารหลังจากเด็กหนุ่มเพิ่งชู้ตทำแต้ม 3 คะแนนทำให้ทีมกลับมานำได้อีกครั้ง มาร์คยกแขนขึ้นเช็ดเหงื่อตัวเองที่ไหลอาบหน้า เกมส์เริ่มจะหนักหน่วงและจริงจังขึ้นเรื่อยๆ ทั้งกองเชียร์ ทั้งอารมณ์ของคนในสนาม

     

    “กูละหนวกหูเสียงแฟนคลับหน้าม้ามึงจริงๆ วันหลังบอกว่าไม่ต้องแห่กันมาทำลายสมาธิพวกกูนักได้ไหม” ผู้เล่นฝั่งตรงข้ามที่ตามประกบมาร์คเริ่มยั๊วะขึ้นหลังจากที่อีกฝ่ายขึ้นนำ

     

    แจ็คสันที่ได้ยินกำลังจะเดินเข้ามา

     

    กระจอกก็หุบปากไปได้ไหม มาร์คกระซิบ

     

    เพื่อนร่วมทีมชาวฮ่องกงที่ยืนอยู่ข้างๆถึงกับหันควับไปมองหน้ามาร์คที่เพิ่งตอบโต้ไป โดยปกติมันหน้าที่เขาที่ต้องคอยฟาดปากกับพวกอันธพาลโดยมีมาร์คยืนเป็นใบ้อยู่ข้างๆไม่ใช่หรอ แล้วนี่ไปกินอะไรผิดสำแดงมา

     

    “ไอ้นี่...” เด็กหนุ่มฝั่งตรงข้ามคว้าคอเสื้อมาร์คขึ้นและกำหมัดแน่นพร้อมที่เหวี่ยงออกไปกระแทกปากเก่งๆนั่น

     

    ปี๊ดดด

     

    “โอโห นี่มันอะไรกันเนี่ย” แบมแบมเพิ่งเดินเข้าอาคารมาและเกาะรั้วยืนมองเกมส์ข้างล่างได้สักพัก ชายหนุ่มในเสื้อเชิ๊ตสีดำและกางเกงสแล็คสีเดียวกันมองมาร์คกับคู่กรณีที่โค้ชสั่งให้เปลี่ยนตัวไปพักที่ข้างสนาม มองตามกลุ่มเด็กผู้หญิงสองสามคนที่กึ่งวิ่งกึ่งเบียดเอาน้ำและผ้าขนหนูไปให้เจ้าของผมสีน้ำตาลแดงที่ม้านั่ง บ่นพึมพำว่าร้ายฝ่ายตรงข้ามเอาใจคนรักของเขาเป็นการใหญ่

     

    แบมแบมหัวเราะเบาๆ ไม่รู้ว่าคิดผิดหรือถูกแต่เขาก็ปลีกตัวจากงานและเลือกที่จะมาดูมาร์คจนได้ ความเงียบของมาร์คระหว่างที่คุยโทรศัพท์เมื่อคืนทำให้เขารู้สึกผิดและนั่งทบทวนบางอย่าง ในเมื่อเขาตกลงที่จะคบกับมาร์คแบบจริงจัง ที่ความสัมพันธ์ระหว่างกันมันอึดอัดมันเพราะเขายังพยายามไม่พอหรือเปล่า พี่จียงไม่ว่าอะไรเพราะน้อยครั้งที่เขาจะขอลาหยุด ทำงานมาหกเจ็ดปีใช้ลาป่วยไปสองครั้งมันมีที่ไหนกัน

     

    แบมแบมเดินลงบันไดไปช้าๆ เขายังได้ยินเสียงเด็กผู้หญิงร้องเรียกชื่อมาร์คอยู่ตลอด กำลังคิดว่าการได้มาเห็นเด็กคนนี้ในอีกมุมที่เขาไม่เคยสัมผัสก็อาจเป็นการตัดสินใจที่ดี ได้มาเห็นมาร์คที่เป็นที่คลั่งไคล้ของคนในโรงเรียน มาร์คที่หล่อเหลาและเพอร์เฟ็คในสายตาเพื่อนๆ มาร์คที่ดูเงียบขรึมและดูเป็นผู้ใหญ่กว่าเด็กวัยเดียวกัน ไม่ใช่เด็กดื้อด้านบอกอะไรก็ไม่ค่อยจะฟังที่เขารู้จัก

     

    “ไง” แบมแบมเดินเข้าไปตบไหล่เด็กหนุ่มเบาๆ

     

    มาร์คหันควับก่อนจะเบิกตากว้างพร้อมกับเด็กผู้หญิงสองสามคนที่หันมามองเขาเป็นตาเดียว

     

    “ยืนดูอยู่สักพักแล้วหละ” แบมแบมยิ้ม “จริงจังกันดีนะ”

     

    “มาได้ยังไงครับ” มาร์คเอ่ยถามเสียงแหบ ยังดูไม่ค่อยอยากจะเชื่อสายตานัก

     

    “ขับรถมา” แบมแบมตอบ

     

    “ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้น” มาร์คค่อยๆลุกขึ้นและทำท่าจะลากแบมแบมออกไป

     

    “เฮ้ยเดี๋ยวๆ ยังแข่งไม่จบเลยจะไปไหน” แบมแบมรั้งมาร์คไว้ “ไปแข่งก่อน ฉันยังอยู่แถวนี้แหละ เดี๋ยวไปหาอะไรทานกัน เดี๋ยวพาไปนอนที่บ้านด้วยคืนนี้”


    หลังจากแบมแบมพูดจบ มาร์คยิ้มกว้างและดูสดใส เหมือนสุนัขตัวโตที่กำลังส่ายหางไปมาด้วยความดีใจ


    ผู้คนแถวนั้นยืนมองมาร์คที่ดูร่าเริงด้วยแววตาฉงน


    “นั่นใครหรอ?”


    ต่างคนต่างกระซิบ

     

    oOo

     

    แบมแบมอยู่รอมาร์คจนกิจกรรมทั้งหมดเสร็จสิ้น เขาช่วยมาร์คถือข้าวของมาขึ้นรถ

     

    “มาแบบนี้แล้วงานจะไม่เป็นอะไรหรอครับ” มาร์คเอ่ยถามขึ้นหลังจากที่ทั้งคู่ตัดสินใจว่าจะซื้อของมาทำอะไรทานกันที่ห้องของแบมแบมแทน “คุณจียงไม่ว่าเอาหรอ”

     

    “ไม่หรอก” แบมแบมสตาร์ทรถ

     

    “เมื่อกี้เพื่อนๆผมถามว่าพี่เป็นใครน่ะ”

     

    ชายหนุ่มเลิกคิ้ว

     

    “แล้วเราตอบว่ายังไง”

     

    “เป็นแฟน”

     

    แบมแบมแทบจะกระชากเบรกมือขึ้นแล้วบีบคอมาร์ค แต่เขาไม่ได้ทำ แบมแบมแค่กลอกตา

     

    “พูดจริงพูดเล่นเนี่ย”

     

    “ถ้าพูดจริงล่ะครับ”

     

    เขาเหลือบมองมาร์คด้วยหางตาก่อนจะมองถนนอีกครั้ง

     

    “นายไม่ทำหรอก เพราะฉันบอกแล้วว่าไม่ให้ทำแบบนั้น” แบมแบมพูด “แต่ก็ไม่แน่ พักหลังดูรั้นขึ้นมากเลย ไม่เห็นจะว่าง่ายเหมือนตอนเจอแรกๆเลย”

     

    “หรอครับ แต่ผมรักพี่มากกว่าวันนั้นมากเลย ชอบมาก อยากบอกทุกคนเลย” แบมแบมสะอึก รู้สึกเขินนิดๆเวลามาร์คเกิดจะพูดตรงมากขึ้นมา “ยังไงวันนี้ผมก็ดีใจที่คุณมานะ”

     

    “อืม” ชายหนุ่มกระแอม “ตกลงไม่ได้ตอบไปแบบนั้นใช่ไหม”

     

    มาร์คไม่ตอบคำถาม

     

    “ไหนๆวันนี้ผมก็ชนะ อยากได้รางวัลนะครับ”

     

    เขาเปลี่ยนเรื่อง

     

    “จะเอาอะไรรางวัลที่ว่าน่ะ ลามกมากหรือเปล่า”

     

    “มากๆครับ”

     

    oOo

     

    รางวัลที่แบมแบมให้มาร์คคือเซ็กส์อันร้อนแรงบนโต๊ะอาหารในห้องของเขา แบมแบมเหนื่อยจนแทบสลบในขณะที่มาร์คเท่าไหร่ก็ยังรู้สึกไม่พอ ชายหนุ่มพาสติที่เหลืออันน้อยนิดจากแอลกอฮอล์บอกมาร์คให้ไปอาบน้ำในห้องน้ำ ทิ้งข้าวของกระจัดกระจายในห้องครัวราวกับเพิ่งผ่านสงครามไว้จัดการในวันถัดไป มาร์คดันตัวแบมชิดกับกระเบื้องก่อนจะเบียดตัวเองกับแบมแบมอีกครั้ง แม้จะเหนื่อยและล้าแต่ชายหนุ่มเจ้าของห้องก็ทำตามอย่างว่าง่าย หลังจากออกจากห้องน้ำมาร์คก็พาแบมแบมที่เดินเซไปยังเตียงนอน

     

    เด็กหนุ่มผมสีน้ำตาลแดงท้าวแขนมองดูคนตรงหน้าขณะหยิบผ้าขนหนูมาซับน้ำที่ผมให้ เขามีสติ เต็มร้อย ไม่ได้แตะวิสกี้ของแบมแบมสักนิดเพราะเจ้าตัวไม่อนุญาตเหตุผลว่าเขายังเด็ก

     

    “พี่รักผมหรือเปล่า” มาร์คจับมือของแบมแบมมาลูบที่แก้มของตัวเอง “ผมสงสัยทุกวันเลยว่าพี่รักผมจริงๆหรือเปล่า”

     

    เขาจูบแผ่วเบาที่ฝ่ามือ

     

    “สงสัยว่าผมจะทำให้พี่พอใจได้ไหม พี่จะรำคาญผมไหม ผมยังสู้คนอื่นไม่ได้เรื่องไหนหรือเปล่า เรื่องไหนที่คุณจียงยังเหนือกว่าผมอยู่กันนะ”

     

    แบมแบมลืมตาเมื่อได้ยินชื่อเจ้านายของตัวเอง

     

    “อะไรกับพี่จียงนักนะเราเนี่ย” แบมแบมว่า

     

    “ก็พี่ชอบเขานี่ครับ”

     

    “ฉันชื่นชมเพราะเขาเก่งต่างหาก”

     

    “เลิกโกหกให้ผมสบายใจเสียที”

     

    แบมแบมขมวดคิ้ว

     

    “แล้วเราล่ะ ไม่ชวนทะเลาะสักวันได้ไหม”

     

    “งั้นก็เล่ามาสิครับ ผมรับได้”

     

    “ชักจะเซ้าซี้มากไปแล้วนะมาร์ค”

     

    “จะว่าผมทำตัวเด็กอีกสินะ อยากจะรู้จริงๆว่าผู้ใหญ่ที่พี่คบมาแต่ละคนเนี่ย เขาทำตัวยังไงกัน”

     

    แบมแบมชักข้อมือที่มาร์คกำอยู่แน่นออก

     

    “อย่างน้อยเขาก็แยกแยะกันได้ว่าพี่กับพี่จียงเป็นเจ้านายกับลูกน้อง”

     

    มาร์คแค่นหัวเราะ

     

    “พี่ลองคิดดูนะ จะให้ผมคิดยังไงเวลาที่เราคุยโทรศัพท์กันแล้วพี่กดวางสายผมทันทีที่เขาโทรมา จะให้ผมคิดยังไงเวลาที่พี่จะไปไหนมาไหนก็ต้องคอยรายงานเขา ขออนุญาตเขาตลอด ในขณะที่แค่ผมโทรหาบ่อยหน่อยพี่ก็หงุดหงิดแล้ว ไหนจะไปรับไปส่งกัน ไม่เห็นเขาไปส่งลูกน้องคนอื่นนี่ครับว่าไหม? ในระหว่างที่ผมอยู่ที่โรงเรียนแต่พี่อยู่กับเขาทั้งวัน จะไม่ให้คิดได้ยังไงเวลาที่พี่หลับแล้วละเมอชื่อเขาออกมา”

     

    แบมแบมหน้าแดง เขาแทบจะสร่างเมาในทันที

     

    “ฉันจะไปนอนที่โซฟา”

     

    “ผมก็สมเพชตัวเองเหมือนกันนะ ต้องทำยังไงถึงจะเทียบเท่าเขาในสายตาพี่บ้าง อย่างน้อยก็กล้าบอกคนอื่นว่าเราเป็นอะไรกัน ผมอดคิดไม่ได้จริงๆว่าถ้าเป็นคุณจียง พี่คงไม่มีทางมาหลบๆซ่อนๆแบบนี้ ถ้าจะบอกว่าผมเด็กไป ผมก็พยายามที่สุดแล้วหละ ก็เรื่องนี้มันช่วยไม่ได้นี่” มาร์คจ้องหน้าเขา “ที่พูดนี่ไม่ใช่ว่าผมจะไปหรอกนะครับ”

     

    “นายอยากจะเที่ยวเดินป่าวประกาศให้ใครต่อใครรู้ว่าเราเป็นอะไรกันน่ะหรอ แค่อยากจะทำแบบนั้นน่ะหรอ? คิดอะไรตื้นๆ เด็กอายุสิบเจ็ดก็คงวุฒิภาวะประมาณนี้สินะ คิดด้วยสิว่าฉันก็มีสังคมที่ฉันก็ต้องอยู่น่ะ” แบมแบมหยิบหมอนกับผ้าห่ม “คิดเอานะมาร์ค ถ้ามันอึดอัดนักก็ไม่ต้องฝืนหรอก พี่ก็พยายามแล้ว เราก็คงถึงที่สุดแล้ว ถ้ากลับไปมีชีวิตกับเพื่อนๆแล้วมีความสุขก็มาบอก พรุ่งนี้เราค่อยคุยกัน”

     

    แบมแบมปิดประตูในขณะที่มาร์คค่อยๆยกมือขึ้นมาปิดหน้า ห้ามน้ำตาที่ค่อยๆไหลลงมาเงียบๆ

     

     










     

    To be continued...

     

     


    ปล. หนึ่งปีผ่านไป มาต่อแล้วค่ะ T T


     


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×