[GOT7 | MarkBam/YugBam] AT THE EDGE OF INSANITY. Chapter 3
He is about to lose it.....
ผู้เข้าชมรวม
2,918
ผู้เข้าชมเดือนนี้
1
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
At the Edge of Insanity
Chapter III
M.
“ยูคคยอม ยูค.. ได้ยินหรือเปล่า?" ผมได้ยินเสียงแบมแบมพูดอย่างนั้นอยู่นานสองนาน "ล็อคห้องทำไม..."
เสียงของเขาแทบจะอ้อนวอน
แกร๊ก...
ผมยืนมองดูประตูค่อยๆเปิดออกและแบมๆที่รีบแทรกตัวเข้าไปในชั่วพริบตาราวกับนี่เป็นโอกาสสุดท้ายที่เขาจะสามารถฉกฉวยเอาไว้
ปัง...
เสียงปิดประตูกระทบเข้ามาในโสตประสาท
ผมตัวชา
ผมเดินเอื่อยๆกลับไปที่ห้อง เดินผ่านจินยองที่มองหน้าผมราวกับอยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่สุดท้ายเขาก็ได้แต่มองผมจนลับสายตาไป ผมเปิดประตู ล้มตัวลง ผมซุกหน้าลงกับหมอนพร้อมกับเสียงสะอึกสะอื้นที่กลั้นไว้จนปวดคอ กำลังสวดภาวนาให้ในตอนเช้า ผมรู้สึกตัวขึ้นมา แบมแบมจะเดินมาบอกอรุณสวัสดิ์และส่งยิ้มให้ เขาจะทำให้รู้สึกว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้น ผมแค่ฝันไป
เช้าวันต่อมาแบมแบมกลับไม่ได้ทำอย่างนั้น...
“มีใครอาสาจะแชร์ห้องนอนกันเองมั้ย พอดีทางทีมงานอยากได้ห้องนึงเอาไว้เก็บพวกข้าวของจากแฟนๆ" แจบอมหัวหน้าวงเอ่ยขึ้นในระหว่างมื้ออาหารเช้า ทุกคนเงยหน้าจากจานข้าวขึ้นมองเขา "อาจจะแค่ประมาณสองสามเดือนนั่นหละ อย่างที่รู้กันว่าพอหอใหม่เสร็จเราก็จะได้ย้ายไปอยู่ห้องใหม่กัน"
“ผมโอเคนะ" แบมแบมอาสาแทบจะในทันที "ผมกับยูคยอม"
ผมวางช้อนกับตะเกียบและจ้องหน้าเขาเขม็ง ผมรู้สึกคลื่นไส้จนอยากจะสำรอกเอาต้มกระดูกหมูและผัดกิมจิในเช้านี้ออกมาเสียให้ได้
แบมแบมไม่ได้มองมาทางผม
“แบมแบมโอเค ยูคยอมก็โอเคใช่มั้ย" ผมได้ยินเสียงแจบอมถามย้ำ
ผมเหลือบไปมองเจ้าเด็กยูคยอมที่มีท่าทีเขินอาย ผมด่าสาปแช่งเขาในใจจนไม่เป็นภาษา
ก็ได้ ถ้าแบมแบมจะเอาแบบนี้...
“เฮ้ยมาร์ค โห ดูอะไรวะ" เสียงแจ๊คสันที่นั่งทานข้าวอยู่ทางซ้ายมือผมร้องลั่น "นี่มันบนโต๊ะอาหารนะเว้ย ถึงจะไม่ไหวยังไงก็กินข้าวให้เสร็จก่อนป่ะวะ?”
แจ๊คสันพูดล้อผมระหว่างที่ชะโงกหน้ามาดูที่จอมือถือ เสียงครางเบาๆที่เล็ดลอดออกมาทำให้แบมแบมยืนขึ้น เสียงเก้าอี้หล่นกระแทกกับพื้นครัวดังสนั่น แบมกำลังโกรธ ผมเงยหน้าขึ้นจ้องเขาที่กำหมัดจนมือสั่น
“เฮ้ยแบม ไม่ต้องรีบขนาดนั้น ได้ดูทุกคน เฮ้ยๆ ดูนี่ เด็กในคลิปเสียงโคตรน่ารักเลย"
ผมเห็นยูคยอมขมวดคิ้วขณะมองแบมแบมที่ถลามาคว้าคอเสื้อผมไว้แล้วเหวี่ยงหมัดที่แรงที่สุดของเขาเข้าใส่ หน้าของผมหันไปตามแรงกระแทก ตาของผมพร่าไปชั่ววูบ รู้สึกชาที่แก้มฝั่งซ้าย หัวผมปวดหนึบและได้กลิ่นคาวเลือด
แบมแบมขึ้นคร่อมผมและพร้อมที่จะรัวหมัดใส่ไม่ยั้ง ผมจับข้อมือที่ผอมจนแทบจะหักได้ของเขาไว้ ในขณะที่ทุกคนมองด้วยความงุนงงและพยายามที่จะเข้ามาห้าม
“พี่มันบ้าไปแล้ว!!!” แบมแบมตะโกนสุดเสียง หน้าของเขาแดงก่ำและสั่นเทิ้มไปทั้งตัว
ผมยิ้มเยาะที่มุมปากอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ใครกันแน่ที่บ้า ใครกันแน่ที่เสียสติไปแล้ว!" ผมตะโกนและบีบข้อมือเขาแน่น "อายหรอ ไม่อยากให้ใครรู้หรอ เห็นหัวคนอื่นกับเขาเหมือนกันหรอแบม หรือกลัวมันเห็นกัน ตอบสิ!?”
แบมแบมกัดฟันกรอด
“ฉันอยากให้มันรู้ ฉันจะเปิดให้มันดู...” ผมชาไปทั้งตัวจนไม่รู้ว่าตัวเองกำลังทำหรือพูดอะไรออกไป "If only he knew how low you are, whoring yourself to me to get things”
แบมแบมกรีดร้องลั่น "SHUT IT! MARK!!!”
“Oh, you care? You little piece of...”
แบมแบมสะบัดข้อมือออกจากพันธนาการก่อนจะเอื้อมมาบีบคอผมแน่น ผมได้แต่หัวเราะ
ทุกคนกรูเข้ามาแยกเราทั้งสองคนออกจากกัน
“What the hell? Are you two insane!?” แจ๊คสันตะโกนเสียงดังขณะลากคอผมออกจากแบมแบม ผมมองเด็กน้อยที่ผมรักจนสุดชีวิตตัวสั่นและร้องไห้ด้วยความโกรธในอ้อมแขนของยูคยอม เด็กนั่นกำลังลูบหัวพลางกระซิบแบมแบมอยู่ที่ข้างหู "มีอะไร เกิดอะไรขึ้น ใจเย็นๆ"
ผมแทบจะเป็นบ้า ผมมองปากของสองคนนั่นขยับใกล้จนแทบจะชนกันต่อหน้าต่อตาผม ผมไม่รู้ว่าเมื่อคืนเกิดอะไรเน่าๆขึ้นในห้องนั่น แต่นี่มันไม่ใช่ แบมแบมจะทำแบบนี้ไม่ได้
“ยูคอย่าไปสนใจคนพรรค์นั้น เชื่อฉันนะ"
ยูคยอมพยักหน้าช้าๆพลางจับแก้มทั้งสองข้างของแบมแบมไว้
ผมพยายามจะลุกขึ้นไปต่อย บีบคอ ฆ่า ด่าทอ สาปแช่ง อะไรก็ได้ที่จะทำให้ทั้งสองคนตรงนั้นแยกห่างออกจากกันไป แจ็คสันรั้งผมไว้
“Chill, man” เขากระซิบ
“แกสองคนคิดจะทำอะไร!?" ผมตะโกน พยายามบิดตัวออกจากวงแขนของทั้งแจ๊คสัน แจบอมและคนอื่นๆ
แบมแบมหันมามองผมตาขวาง เขาขู่ฟ่อ "ยังดูไม่ออกอีกหรือไง"
'ไอ้โง่'
แม้ไม่ได้พูดออกเสียง ผมก็อ่านปากของแบมแบมออก
คืนนั้นผมนั่งอยู่ที่มุมหนึ่งในห้องนอนที่มืดสนิทของตัวเอง
...ผมพลาดตรงไหน? แบมแบมเคยรักผมมาก รักมาก รักถึงขนาดที่ผมจินตนาการไม่ออกถึงสภาพที่มันกำลังเป็นอยู่ในปัจจุบัน เรื่องตอนนั้นทั้งหมดมันเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจริงและผมไม่ได้ฝันไป ผมคิดถึงภาพของเด็กน้อยคนนั้น ผมหยิบโทรศัพท์ ใส่วันที่เกิดของแบมแบมเพื่อปลดล็อค ผมเลื่อนหาไฟล์วีดีโอที่ผมเปิดดูเช้า กลางวัน เย็น ก่อนนอน 'I love you the best'
ผมมองดูแบมแบมในวัยสิบขวบสามเดือนกับอีกเจ็ดวันที่กำลังวาดรูป เขายิ้มให้กับกล้อง
“แบมแบมกำลังทำอะไรครับ?” เสียงของผมเอ่ยถาม
“แบมกำลังทำการบ้านครับ" สองมือเล็กๆกำลังง่วนอยู่กับสีชอล์ค "คุณครูให้วาดคนที่นักเรียนรักที่สุด"
“โอ้โห เก่งจัง แล้วแบมแบมกำลังวาดใครครับ? หื้อ?”
“แบมวาดพี่มาร์ค เพราะแบมอยากให้พี่มาร์คเก็บไว้" แบมแบมก้มหน้าก้มตาง่วนอยู่กับภาพวาดอีกครั้ง "แบมอยากวาดพ่อกับแม่ แต่พ่อกับแม่อยู่ไกล ตอนนี้แบมอยู่ใกล้พี่มาร์คที่สุด แบมเลยจะให้พี่มาร์คเก็บไว้"
“ฮะๆ น่ารักจังนะเรา" ผมเห็นมือตัวเองเอื้อมไปขยี้หัวของแบมแบมตัวเล็กจนผมยุ่ง
“ก็แบมรักพี่มาร์คนี่นา แบมอยากให้พี่มาร์คยิ้มแล้วก็ดีใจมากๆ แบมรักพี่มาร์คมากเลยน้า" แบมแบมคนนั้นยิ้มจนตาหยี ผมจำได้ว่าตัวเองแทบละลายลงไปกองที่พื้น
“You love me the best right?”
“I love you, love you, love you” แบมแบมพูดพลางยื่นหน้าเข้ามา เขาจุ๊บลงที่หน้าเลนส์กล้อง
“I love you the best, Mark Hyung, forever and ever”
ผมได้ยินเสียงตัวเองหัวเราะอย่างมีความสุข
ตอนนั้นผมคิดจริงจังกับคำพูดของเด็กสิบขวบคนนั้นว่าตลอดกาลของเขา หมายถึงตลอดกาลและตลอดไปและไม่มีทางที่จะเปลี่ยนแปลง
คลิปวีดีโอดับลงและห้องทั้งห้องตกอยู่ในความมืดสนิทอีกครั้ง ผมกดรีเพลย์ซ้ำไปซ้ำมา ในมืออีกข้างถือกระดาษรูปวาดสีชอล์คที่มีเด็กผู้ชายสองคนจูงมือกันไปเที่ยวภูเขา มีตัวหนังสือบูดเบี้ยวที่เขียนว่า แบม ♥ มาร์ค
ผมยิ้มกว้าง...
o0o
B.
“ยูคยอม!! แบมแบม!!” เสียงพี่แจบอมทุบประตูห้องรัวเสียงดัง "ยูค แบม เฮ้ยทั้งสองคนตื่นเร็ว!"
ผมชันแขนขึ้นมองยูคยอมที่งัวเงียไปเปิดประตู ก่อนจะเหลือบไปดูนาฬิกา ตีสองเจ็ดนาที
ทันทีที่หมุดประตูปลดล็อคพี่แจบอมแทบจะกระชากมันให้เปิดออก
“เฮ้ย เร็ว ตื่นเดี๋ยวนี้ ต้องรีบพามาร์คไปโรงพยาบาล เจ้านั้นกรีดข้อมือไม่ได้สติแล้วเนี่ย"
“ว่าไงนะ!?" ผมเบิกตากว้าง
“ไม่รู้มันอะไรของมัน เลือดท่วมเต็มห้องไปหมด ตอนนี้ยังไม่ต้องถาม แจ๊คสันกับพี่ผู้จัดการกำลังอุ้มขึ้นรถไปโรงพยาบาล"
“นายสองคนกับยองแจแล้วก็คนอื่นเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วรีบตามมาทีหลัง โอเคนะ ฉันไปก่อน"
ผมยืนประมวลเหตุการณ์และคำพูดทั้งหลายก่อนจะวิ่งตามพี่แจบอมไปโดยไม่ได้ใส่ใจเรื่องเสื้อผ้าที่เขาบอกผมก่อนหน้า "ผมไปด้วย!"
ผมวิ่งไปทั้งๆที่ยังไม่ได้ใส่รองเท้า
ผมนั่งฟังเสียงเครื่องวัดชีพจรดังเป็นจังหวะสม่ำเสมอ มองดูสายน้ำเกลือและพี่มาร์คที่นอนนิ่งอยู่บนเตียงสีขาว หลังจากให้เลือดและพยายามช่วยชีวิตอย่างที่สุดพี่มาร์คก็ยังสามารถมีชีวิตและยังนอนหายใจอยู่บนเตียงแคบๆนี่
“ทำอะไรวะ" ผมกระซิบกับตัวเอง "คิดจะโยนความผิดให้กันหรือไง"
ผมเบื่อ.. เกลียดเขาที่ยึดติดและไม่ไปไหน แล้วยังจะเรื่องงี่เง่านี่ ผมทนกับความรักมากมายที่พี่มาร์คให้มาจนมันทำให้ผมหายใจไม่ออก ผมไม่รู้จริงๆว่าจะเอามันไปเก็บไว้ตรงไหน ในขณะที่ผมแสนจะเหนื่อยหน่ายกับเขา แต่นอกจากพี่มาร์ค นอกจากเขาแล้วจะมีใครบนโลกนี้อีกนะ ที่จะรักผมได้มาก จะมีอีกไหมคนที่ยอมทำให้ผมได้ทุกอย่าง และคำว่าทุกอย่างที่เขาหมายถึงผมรู้ว่ามันหมายถึงทุกอย่างจริงๆ หลักฐานก็คาตาผมและอย่างที่ทุกคนเพิ่งได้เห็น
ผมยืนขึ้น เดินไปหยิบโทรศัพท์มือถือของพี่มาร์คที่วางไว้ข้างเตียง ใส่รหัสปลดล็อคเลขเดียวกับยูคยอมหรือซึ่งก็คือเลขวันเกิดของผม ผมกลอกตา นึกถึงเรื่องที่คุยกับยูคยอมเมื่อคืน ในตอนที่ยูคยอมแทบจะ... ต้องเรียกว่าเฉดหัวผมออกจากห้อง ทำเหมือนผมไม่มีตัวตนจนผมระเบิดอารมณ์ออกมา ขว้างปาข้าวของในห้องของเขา ผมที่ตอนนั้นเหมือนร่างอวตารของพี่มาร์คชัดๆ
“มันหน้าไม่อายไม่ใช่หรอครับพี่ แน่ใจมาจากไหนถึงคิดว่าผมจะต้องแคร์เรื่องที่พี่จะไปทำบ้าบอคอแตกอะไรกับพี่มาร์คหรือใครหน้าไหนในที่ลับตาคนด้วย ออกจากห้องผมไปซักทีเหอะ เสียเวลานอน แบมแบม"
ผมเริ่มเข้าใจความรู้สึกของพี่มาร์คก็ตอนได้ยินยูคยอมพูดคำพูดแบบนั้น ผมเจ็บใจจนอยากจะฉีกเนื้อเขาเป็นชิ้นๆในขณะที่ก็ทำไม่ได้เพราะ โอเค... ผมน่าจะหลงรักเจ้านั่นหัวปักหัวปำไม่รู้ตัว
“เหอะ คิม ยูคยอม สาบานให้ตาย ขอฉันถามหน่อยนะ ใครมันจะเอาเลขวันเกิดเพื่อนร่วมวงไปตั้งเป็นเบอร์ปลดล็อคโทรศัพท์กัน สาบานดังๆทีสิ ถ้านายไม่ได้คิดอะไร"
ผมหลุดขำเมื่อนึกถึงใบหน้าเหรอหราของเด็กยักษ์นั่นหลังจากที่ผมพูดจบ หลังจากนั้นผมก็ขอคบกับเขาไปทั้งอย่างนนั้น ผมบอกไปว่า 'ลองคบกันมั้ย ไปกินข้าวดูหนังจับมือ หรือจะมากกว่านั้นก็แล้วแต่ถ้าอยากทำ จะได้จบๆไปไง ข้ามตอนจีบไปเลย นะ?' หลังจากเขาตกลงแบบเสียไม่ได้ เราทั้งคู่ก็ฮาแตก แต่มันพองโตมากเลยนะ ความรู้สึก ผมบอกไม่ถูกเลย วันเดียวเองละมั้งที่ผมจะสามารถมีความสุขได้แบบนี้กับยูค ผมคิดก่อนจะยิ้มเศร้าๆ
แต่คนพวกนี้นี่จริงๆเลย...
ผมยืนมองโทรศัพท์ที่ตัวเองเช็ดคราบเลือดของพี่มาร์คออกเสียจนเหมือนใหม่ ผมจ้องมันอีกเป็นพักก่อนจะเดินไปหายูคยอม ผมเลื่อนหาและกดเปิดวิดีโอที่พี่มาร์คเล่นไปกลางโต๊ะอาหารเมื่อเช้า ผมยื่นให้ยูคยอมที่หยิบจากมือไปโดยไม่ได้คิดอะไร เขานั่งดูเงียบๆไปสิบห้าวินาทีก่อนจะส่งคืนให้ผมทั้งๆที่มันยังไม่จบ
“ช่วยหยุดที จะอ้วก"
“อ่อ อืม" ผมเม้มปาก "ก็คงอย่างงั้นอยู่แล้ว ขอโทษที่ต้องให้ดูของพรรค์นี้นะ"
“ตอนนั้นอายุเท่าไหร่?”
“น่าจะสักสิบ สิบสองสิบสาม ไม่รู้ ฉันจำไม่ได้หรอก"
“ทำแบบนั้นบ่อยหรอ?”
ผมกัดกระพุ้งแก้มและไม่ได้ตอบอะไร
“ไม่ตอบแปลว่าใช่นะ" ยูคยอมมองตะปูที่แขวนรูปภาพที่คงจะน่าสนใจกว่าหน้าของผมมากในตอนนี้
“จะเอายังไง?"
“เอายังไงเรื่องไหน? เรื่องที่ผมปล้ำพี่ไปเมื่อคืนก่อนน่ะหรอ บอกแล้วไงว่าจะรับผิดชอบทั้งชีวิตอ่ะ ฮะๆ"
ผมชกไหล่ยูคยอมเสียงดังทั้งที่หน้าแดงแปร๊ด "ยังจะเล่นอีก"
เสียงหัวเราะของยูคยอมสะท้อนดังในห้อง
“รักเขาหรือเปล่า" ยูคยอมถามเรียบๆ
“รักดิ่"
“พูดต่อว่าแบบพี่น้องให้ชื่นใจหน่อยสิ"
“แบบผู้มีพระคุณ น่าจะประมาณนั้น แต่ถ้าจะแบบนั้นคงจะกับนาย"
"อื้อหือ เขินแฮะ" ยูคยอมกระแอม “ทำอะไรไปมั่งล่ะ"
“........”
ยูคยอมเลิกคิ้วสูง เมื่อผมไม่ตอบในทันที
“ไม่ต้องรายละเอียดมากก็ได้ แค่แบบ ถึงประมาณระดับไหน"
“นอกจากเอาลิ้นเข้าไปในปาก ก็ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น"
“โห พูดออกมาได้" ยูคยอมทำท่าจะอาเจียนล้อเลียนผม "บอกว่าไม่ต้องลงรายละเอียดไง"
ผมคลี่ยิ้มออกมา จริงๆนะ ผมชอบยูคยอม ชอบอยู่กับเขา ผมอยากจะคุกเข่าแล้วขอแต่งงานมันตรงนี้ แต่ก็..
“ถ้าผมทำบ้างล่ะแบม...” ยูคยอมหันมามองผมที่ยืนพิงผนังอยู้ช้าๆ
“หือ? หมายถึงอะไร"
“ถ้าผมทำบ้าง ทำอย่างที่พี่มาร์คทำ" มือผมเริ่มเย็นเฉียบ "ทำเหมือนหมาจนตรอก ที่ไม่เหลือทางเลือก เรียกร้องความสนใจจากนาย แบมจะทำยังไง"
“หยุดเลย หยุดพูดเดี๋ยวนี้ อย่าแม้แต่จะคิด"
“จะว่าพี่มาร์คโง่หรือฉลาดดีที่กล้าทำอะไรแบบนี้ ผลลัพธ์คือนายสามารถบอกเลิกผมได้หลังจากที่เพิ่งคบกันวันเดียว สุดยอดเลยว่ะ"
“คิม ยูคยอม พอ ฉันไม่ชอบคุยเรื่องนี้"
“พี่มันบ้าแบม ทำให้คนอื่นจะเป็นบ้า อยู่ใกล้ใครก็พาคนๆนั้นเสียสติไปหมด" ยูคยอมบีบมือ "ไม่ใช่ผมไม่โกรธนะที่จะต้องโดนทิ้งทั้งๆอย่างนี้ แต่ผมทำอะไรได้ละ มุกฆ่าตัวตายก็มีคนใช้ไปแล้วด้วยสิ ใครจะเป็นรายต่อไปหรอ พี่จำวันที่ไปอัดรายการวิทยุวันนั้นได้ไหม พี่เห็นหน้าพี่ยองแจตอนตอบคำถามถึงพี่ไหม ฮ่าๆ พนันได้เลยว่านอนฝันถึงหน้านายตอนกลางคืนแน่ๆ"
“ยูค หยุดพูด"
“ทำไม?!” ยูคยอมกระแทกตัวลุกขึ้น "กลับประเทศไปเลยเหอะว่ะ อยู่ไปก็มีแต่ปัญหา"
ผมจุก “ว่าอะไร? ทำไมพูดแบบนั้น!" ผมแทบน้ำตาไหล
"ทั้งที่ในบรรดาทุกคนที่เหลืออยู่ฉันแคร์นายที่สุด ทำไมถึงไม่เข้าใจ นายจะให้ฉันทู่ซี้เดินหน้าไปกับนายต่อแล้วมองไม่เห็นสิ่งที่พี่มาร์คทำหรอ ฉันมาเกาหลีฉันอยากเป็นนักร้องนะยูค ไม่ใช่ฆาตกร"
“อยากพูดอะไรก็พูดได้สิ นายไม่เคยผิดอะไรอยู่แล้วนี่"
“แล้วนี่ฉันผิดอะไรล่ะวะ!” ผมเดือดดาล ทั้งเสียใจแล้วก็โกรธ แต่ความเสียใจนี่มันที่สุดจริงๆ
“ผมถึงขีดสุดแล้ว ทุกคนก็คงถึงขีดสุดแล้ว ยังคิดถึงเรื่องวงอะไรอีกในเมื่อมันจะพังอยู่แล้ว พรุ่งนี้ข่าวจะออกเรื่องพี่มาร์คว่ายังไงก็ลองจินตนาการเอาเองดู พี่ไม่ได้ผิดอะไรแบม แค่พวกเราซวยเอง ไม่น่าจะมาเจอกันตั้งแต่แรกเลย"
เขาเดินออกจากห้องไปทั้งอย่างนั้น
ยูคคยอมคงโกรธ เขาคงแค่อารมณ์ไม่ดีที่ผมบอกเลิกเขาไป หวังว่าพรุ่งนี้เขาจะใจเย็นลงแล้วคุยกับผมดีๆแบบปรกติ
แต่จะได้หรือเปล่านะ เจ้านั่นเห็นเป็นเด็กใสๆแต่หัวดื้อใช่เล่น
อา... เอาซะน้ำตาไหลเลยแฮะ เสียใจชะมัด เจ็บหน้าอกไปหมดเลย
ผมร้องไห้สะอืกสะอื้น
ยูคยอมใจร้ายจัง พูดจาอะไรไม่คิดถึงหัวอกคนฟังเลย ชักจะเข้าใจพี่มาร์คขึ้นมานิดๆแล้วสิ
อืม... จำได้ว่าในกระเป๋ามียานอนหลับที่ขอหมอมาตอนก่อนจะมาเกาหลีนี่นา ไว้เผื่อตอนนอนไม่หลับคิดถึงบ้าน
กินซักหน่อยละกัน
ผมควานหากระปุกยาในกระเป๋าเป้ที่พี่ผู้จัดการถือสัมภาระตามมาให้ทีหลัง
ผมกลัวนอนไม่หลับเพราะรู้สึกไม่สบายใจเท่าไหร่กับคำพูดของยูคยอม
ผมหยิบยาเข้าปากไปสามกำ น่าจะประมาณสามสิบกว่าเม็ดได้ อย่างนี้น่าจะได้หลับสบายๆหน่อย
รู้สึกว่ามันยังน้อยและอาจจะหลับสบายไม่พอ ผมเลยกินที่เหลือมันทั้งขวด
ผมดื่มน้ำตามแล้วลงไปนอนพักอยู่ที่เก้าอี้ข้างๆพี่มาร์ค ผมนอนทับแขนตัวเองแล้วหายใจช้าๆ เสื้อเปียกไปหมดเพราะยังไม่หยุดร้องไห้ได้ซักที
ผมจับมือพี่มาร์คแล้วก็พูดขอโทษเบาๆ
ผมจำได้แค่นั้นแล้วผมก็ไม่ได้ตื่นมาอีก
แต่ขาดผมไปยูคยอมก็คงสะใจแล้ว
ไม่รู้ว่าจะต้องเปลี่ยนชื่อวงเป็น GOT6 หรือเปล่านะ...
END
TALK: ก้มหลังให้โบยค่ะ 5555 นานไปนะ เกือบสองอาทิตย์ T T เพิ่งว่างเอง นั่งพิมพ์ตั้งแต่เย็นของวันนี้ แต่ในที่สุดก็จบ(เห่)ทั้งหมดสิ้นแล้วค่ะเรื่องนี้ อยากแต่งอีกเรื่องจัง คิดเล่นๆไว้ในหัว อะไรที่มันแบบระดับอารมณ์ของคนในเรื่องอยู่ในภาวะปกติกว่านี้อีกนิด ฮ่าๆ
ขอตอบคอมเม้นท์หน่อยนะคะ แบบว่าชอบคุย ประทับใจทุกคน
hebaraki – อ่านถึงตรงนี้แล้วก็อาจจะรู้ไปแล้วนะคะว่าทุกคนทำยังไงต่อ เหอๆ เราไม่กล้าพูดเลยว่าใครสุดกว่ากันในเรื่องนี้ ขอบคุณคุณ hebaraki ที่ชอบและตามอ่านจนถึงสุดท้ายค่ะ
natty – ต่อแล้ว จบแล้ว หมดภาระแล้วนะคะ เราก็ชอบยูคแบมในความเป็นจริงเหมือนกันค่า ชอบเวลายูคนัวเนีย แบบ ฟิน 5555
ShyShin – จบสวยทุกคนค่ะ อย่างเท่าเทียม /โดนตบ
SunRune – ขอบคุณที่ติดตามนะคะ จบแล้วน้า
OK GO – 5555 เราชอบมากที่คุณ OK GO บอกว่า เรากลัวแบมแบมมากกว่าพี่มาร์คนะเอาจริง < 555 ชอบๆ
littlepenz – กรี๊ดด ขอบคุณที่ชอบค่ะ สรุปรู้แล้วยังตกลงใครกับแบม 5555 อ่านเม้นท์แล้วมันส์มากอ่ะค่ะ ขอบคุณที่ตามจนจบ จบแบบนี้เราอาจโดนคุณด่าได้ 5555 คือตกลงแบมชั้นนี่ยังไง (อยากเปลี่ยนเป็นเรื่องยาวเหมือนกันค่ะ แต่เลือกผิดแต่แรก แล้วไม่รู้เปลี่ยนตรงไหนด้วยสิ โฮก T T )
ชาบู - ขอบคุณที่ชอบนะคะ มาต่อจนจบแล้ว อยากแต่งยาวๆเหมือนกันค่ะ ถ้ามีเวลากว่านี้ จะได้มาลงถี่ๆหน่อย แล้วทุกคนในเรื่องก็คงจะเป็นมาร์คแบมยูคเวอร์ชั่นได้รับการบำบัดมาแล้ว ซอล์ฟกว่านี้ ก๊าก
KissmeMoncher – พอดีพี่มาร์คตัวจริงหล่อค่ะ ในฟิคเลยอยากแกล้งค่ะ 5555
ไม่ได้ติ่งมั่วๆแค่ติ่งแบบทั่วถึง – จบแล้วนะค้าคุณติ่งงง ว่าไงมั่งอ่ะ
YBM – มาและค่า จบแล้วด้วยค่ะ ขอบคุณที่ตามอ่านนะคะ ^^
AmorousTK – เอาอีกละ อ่านเม้นท์ตัวเองแล้วนอนไม่หลับอีกละ นึกว่าตกหลุมรักผู้ชาย เปล่า นั่งอ่านคอมเม้นท์ ใจเต้นเลย รู้สึกตัวเองเหมือนกระบอกเพชรเหมือนพี่มาร์ค ตัวเองเม้นท์มาดีงาม เค้าก็แบบ เพ้อละ ตื่นเต้น อ่านไปหัวเราะไป นอนไม่หลับ ก๊ากก ยาวด้วยงะ อ่านเพลินเลยไง รู้สึกผิดที่เตงต้องยุ่งยากมาเปิดคอมพ์ ขอบคุณที่อ่านถึงตอนนี้ เค้าจบละ เค้าอยากไปจูบถึงบ้าน พูดจริง
KATOL_039 – ยกยูคให้ เพราะมันไม่เหลือใครละ ฮ่าๆๆ
HoneyJ – ขอบคุณที่ติดตามนะคะ สรุปเข้าใจยากทุกคนค่ะ พูดเลย
GiNg – 5555 ถูกค่ะ เชื้อมาร์คแรงค่ะ
ฟังค์กัส – กรี๊ด ขอโทษค่ะ อาทิตย์ที่แล้วเหมือนมันไม่ขึ้นเนื้อหาเต็มๆ(เพราะโง่เอง) เลยมาลงใหม่ตอนเช้า ขอบคุณที่ตามอ่านมาถึงนี่นะคะ
Soull – มาต่อแล้วนะตัวเอง อ่านแล้วอินอ่ะ อ่านแล้วมันส์ อ่านแล้วรู้สึกผิด อ่านแล้วแบบ เออแบมแม่มแย่ว่ะ ชั้นแต่งมาไงวะเนี่ย 55555 ขอบคุณที่ตัวเองชอบ ถ้ามีเรื่องหน้า แบมแบมจะน่ารักกว่านี้ เค้าสัญญา
ขอบคุณทุกคน ทุกเม้นท์ที่อ่านมาจนจบอีกครั้ง ♥
ผลงานอื่นๆ ของ powder3 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ powder3
ความคิดเห็น