ความในใจของคน2คน - ความในใจของคน2คน นิยาย ความในใจของคน2คน : Dek-D.com - Writer

    ความในใจของคน2คน

    ความในใจของคน2คน

    ผู้เข้าชมรวม

    366

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    366

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  13 ม.ค. 50 / 19:42 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      ตัวหนังสือสามารถบอกเล่าเรื่องราวความเป็นไปได้ดีกว่าคำพูดมากมายนัก
      จึงไม่น่าแปลกที่ฉันจะหลงใหลในเสน่ห์ของตัวอักษรมาหลายปีดีดักแล้ว
      ฉันมักจะเรียกตัวเองว่า "คนเขียนหนังสือ" อยู่เสมอ
      ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกันคงเพราะว่าฉันเขียนหนังสือไม่ดีพอที่จะเรียกตัวเองว่า
      "กวี" ได้ล่ะมั้ง
      โลกของตัวอักษรสวยงามนัก
      แค่มีปากกาสักด้าม เศษกระดาษสักแผ่น
      และมีเขาคนนั้นเป็นพระเอกของเรื่องสักคนก็คงเพียงพอ

      เรื่องราวความรักของฉันเกิดขึ้นเมื่อไหร่ก็ไม่รู้
      รู้เพียงแต่ว่าในสมุดบันทึกประจำวันของฉัน
      มีชื่อเขาตั้งแต่วันมอบตัวทีเดียว…
      คงเพราะความบังเอิญที่ทำให้เราสองคนมักจะได้ทำอะไรด้วยกันเสมอ
      ได้เล่นละครด้วยกัน
      ได้นั่งคู่กันในห้องทดลองวิทยาศาสตร์
      หรือแม้กระทั่งไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยครั้ง…
      แต่เรากลับไม่ได้ใกล้ชิดกันเท่าที่ควร
      ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไม

      …จนวันหนึ่ง…
      "มีนอยากวาดรูปเหรอ เราสอนให้ก็ได้นะ"
      นี่แหละประโยคสำคัญที่ทำให้เราสองคนได้มีโอกาสใกล้ชิดกันมากขึ้น
      เขารีบกระวีกระวาดไปหากระดาษกับดินสอมาวางไว้ตรงหน้าฉัน
      ไม่รู้ว่าวิญญาณครูไปสิงอยู่กับชายคนนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
      เขาลากเส้นเป็นตัวอย่างแล้วให้ฉันลองทำตามไปช้าๆ
      ลมที่พัดแรงทำให้ผมของฉันปลิวจนยุ่งไปหมด
      "ขอโทษนะ" เขาพูดแล้วเอื้อมมือมาหยิบปอยผมของฉันที่ปลิว
      เพื่อเหน็บหูของฉันไว้อย่างเดิม
      "ขอบคุณนะเฟิร์ส" ฉันพูดเขินๆ ใบหน้ากลายเป็นสีแดงระเรื่อ
      เขายิ้มบางๆเหมือนกับจะบอกว่าไม่เป็นไร
      หลังจากทนนั่งดูฉันลากเส้นที่ดูไม่ได้เอาเสียเลยมาเป็นเวลานาน
      เขาก็ลุกขึ้นยืนบิดขี้เกียจแล้วส่ายหน้าไปมาอย่างหดหู่
      "แย่กว่าเราตอนฝึกวาดใหม่ๆซะอีก"
      เขาทำท่าทางเหมือนครูที่กำลังดุนักเรียนอยู่ยังไงยังงั้น
      "ก็คนมันไม่เก่งนี่นาไม่ต้องสอนก็ได้นะ"
      ฉันบ่นเบาๆแล้ววางดินสอลงแรงๆ
      "เอาเหอะฝึกต่อไปละกัน วาดรูปน่ะไม่ยากหรอกถ้ามีคนสอนดีๆอย่างเรา"
      เขาบอกยิ้มๆ
      ฉันส่ายหน้ากับความหลงตัวเองของเขา…หลงตัวเองจริงๆนะนายเฟิร์สจอมเก๊ก…

      เราสนิทกันมากขึ้นทุกที…สนิทท่ามกลางเสียงแซว
      และวิพากษ์วิจารณ์ของเพื่อนที่ไม่เว้นแม้แต่ในคาบเรียน
      "สวีทกันจังเลยคู่นี้"
      เสียงเพื่อนๆที่ดังมาจากด้านหลังห้องทำให้ฉันต้องวางดินสอลงอายๆ
      "เฮ้ย! เธออย่าแซวซิเราไม่ได้คิดอะไรอย่างนั้นสักหน่อย"
      เฟิร์สแก้ตัวให้ แต่เพื่อนๆ ทำสีหน้าไม่เชื่อ
      แต่พอเห็นหน้าตาเอาเรื่องของฉัน
      ก็เลยจำใจต้องสงบปากสงบคำแล้วเดินหนีไปคุยกันที่อื่นแทน
      "ช่างเขาเหอะ"
      ฉันพูดเบาๆแล้วก้มหน้าก้มตาวาดรูปต่อไป
      "มีน…เรามีอะไรจะบอก" เขาพูดท่าทางเขินๆ
      "อารายเหรออออ"
      ฉันเงยหน้าขึ้นมองแล้วพูดลากเสียงยาว
      "เราชอบผู้หญิงคนหนึ่งนะ" สีหน้าอายๆของเขา
      ทำให้ฉันแอบหวังอยู่ลึกๆ ว่านี่คงจะเป็นวิธีการบอกรักทางอ้อมของเขา
      แต่…. "คนนั้นไง"
      ว่าแล้วเขาก็ชี้ไปที่เพื่อนร่วมสถาบันคนหนึ่งที่หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู
      ฉันหันไปยิ้มล้อบอกไม่ถูกเหมือนกัน
      ว่าทำไมไม่รู้สึกเสียใจอะไรเลยจนนิดเดียว
      อาจจะเป็นเพราะว่าฉันไม่เคยหวังให้เขามารัก
      แค่รู้สึกรักเขาอยู่ฝ่ายเดียวก็พอ
      เสียงออดบอกเวลาเลิกเรียนดังขึ้น
      ฉันวางดินสอลงโดยอัตโนมัติ
      "เรากลับแล้วนะ" ฉันบอกเบาๆ
      "ขอบคุณสำหรับการสอนวาดรูปและทุกๆอย่างนะ"
      "มีนพูดเหมือนสั่งลาเลย" เขาพูดติดตลก
      "อย่างกับเราจะไม่ได้สอนมีนอีกอย่างนั้นแหละ"
      "ใครจะไปรู้ล่ะ...ชีวิตมันไม่แน่หรอกเฟิร์ส" ฉันพูดทีเล่นทีจริง
      แล้วเดินไปปิดกระจกและประตูห้องเรียน
      เขาเดินมาช่วยอีกแรงหนึ่ง
      "วันเสาร์เจอกันที่เรียนพิเศษแล้วกันนะ บ๊ายบาย" เขาบอกลาแล้วโบกมือให้
      ฉันยิ้มรับแล้วโบกมือตอบไป
      "กลับบ้านดีๆนะจ้ะหนูมีน" เสียงตะโกนของเขาที่ดังตามหลังมา
      ทำให้ฉันแอบอมยิ้มบางๆอย่างมีความสุข

      ฉันนั่งคิดถึงเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างฉันกับเขา
      นับตั้งแต่วันแรกที่รู้จักกัน ตลอดเส้นทางกลับบ้าน
      ไม่เคยคิดเลยว่าผู้ชายที่แสนจะธรรมดาคนนี้จะกลายมาเป็นคนสำคัญของหัวใจ
      ถึงจะรู้ว่าเขามีคนที่เขาชอบอยู่แล้ว
      แต่นั่นก็ไม่สำคัญอะไรเพราะฉันก็ยังคงมีความสุขที่จะรักเขา
      ที่จะได้เห็นรอยยิ้ม ได้ยินเสียงหัวเราะของเขา
      มันเป็นสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับฉันคนนี้แล้ว
      ฉันหยิบภาพเหมือนของฉันที่เขาวาดให้ตอนวันเกิดขึ้นมาดู
      "สุขสันต์วันเกิดนะครับ"
      ฉันยังจำเสียงใสๆของเขาที่บอกตอนเช้าตรู่ในวันสำคัญของฉัน
      "มีความสุขมากๆนะครับมีน"
      รอยยิ้มจริงใจของเขาในวันนั้นยังบันทึกอยู่ในความทรงจำของฉันเสมอมา
      ….ไม่เคยลบเลือน

      "โครมมมมมมม!!!!!!" เสียงดังขึ้นที่ถนนสายหนึ่ง
      บรรดาไทยมุงต่างพากันมามุงดูเหตุการณ์รถคว่ำ
      ร่างของหญิงสาวคนหนึ่งถูกหามออกมา
      กระดาษวาดเขียนตกลงมาจากมือที่เปียกชุ่มไปด้วยเลือดของเธอ
      ชายแก่คนหนึ่งหยิบขึ้นมาดูเห็นหยดเลือดเปรอะไปทั่วแผ่นกระดาษนั้น
      แต่ก็พอจะมองเห็นลางๆ ว่าเป็นภาพวาดของหญิงสาว
      ที่กำลังยิ้มสดใสในชุดนักเรียนโรงเรียนมัธยมปลายชื่อดัง
      มีลายมือที่เขียนไว้ใต้ภาพอย่างสวยงามว่า
      "เพียงความทรงจำ…เฟิร์ส"
      ชายแก่คนนั้นทิ้งภาพไว้ที่เดิมอย่างไม่ใคร่สนใจใยดีนัก
      ลมเริ่มพัดกระหน่ำแรงขึ้นเรื่อยๆ
      จนทำให้กระดาษแผ่นนั้นปลิวตกลงไปบริเวณลำคลองริมถนน
      และค่อยๆจมหายลงไปใต้ผืนน้ำนั้น…

      - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - - -- - - -

      ผมได้สมุดเล่มนี้มาจากเพื่อนสนิทของเธอ…
      ผมเลยขอเขียนเรื่องนี้ให้จบด้วยมือของผมแทน

      เมื่อเช้าวันเสาร์ที่ผ่านมา
      ผมไปเรียนพิเศษก็นึกแปลกใจอยู่ตะหงิดๆว่าทำไมเธอถึงไม่มาเรียน
      เพราะปกติเธอไม่ใคร่จะชอบหยุดเรียนนัก
      ก็บังเอิญผมไปพบเพื่อนสนิทของเธอเข้าพอดิบพอดี
      "เฟิร์ส…รู้เรื่องมีนหรือยัง" เขาถามผมทันทีที่พบกัน
      สีหน้าของเขามีแววเศร้าๆปรากฏอยู่
      ตาก็ดูบวมแดงผิดปกติ
      "ยังครับ มีนทำไมเหรอ" ผมถามยิ้มๆ
      เธอก็คงไม่สบายแต่อาจจะหนักหน่อยถึงยอมขาดเรียนวันนี้…ผมคิด
      "มีนรถคว่ำ ตอนนี้อยู่ห้อง ICU โรงพยาบาล…………." เขาบอก
      ผมอึ้งไปสักพักใหญ่ๆ
      พอได้สติอีกทีก็มายืนอยู่หน้าห้อง ICU โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
      ข้างๆเพื่อนสนิทของเธอคนเดิม
      เขาจัดการเป็นธุระไถ่ถามพยาบาลถึงเตียงของเธอเพราะไม่เห็นเธออยู่ที่เตียงเดิม
      "เสียใจด้วยนะคะ คุณมีนาหัวใจล้มเหลวเมื่อ 15 นาทีที่แล้วค่ะ"
      หูผมอื้อไปหมดจนไม่ได้ยินเสียงพยาบาลที่พูดอธิบายเรื่องราวต่อจากนั้น
      ถ้าจะถามผมว่าวินาทีนั้นผมรู้สึกเช่นไร
      ผมก็อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน
      รู้เพียงแต่ว่าน้ำตาลูกผู้ชายไหลออกมาท่วมใบหน้าของผมตั้งแต่ได้รับรู้ว่า
      ........"เธออจากไปแล้ว"........

      ผมอ่านบันทึกเล่มนี้หลังจากที่ร่างของเธอฌาปนกิจเสร็จเรียบร้อยแล้ว…
      ผมเพิ่งรู้ว่าเธอรักผม…
      แต่ทำไมเธอถึงไม่รู้เลยว่าคำพูดที่ผมพร่ำบอกกับเธออยู่บ่อยครั้งว่า
      "รักกับชอบแตกต่างกัน"
      มันคือสิ่งที่ผมอยากให้เธอรับรู้
      ผู้หญิงคนที่ผมเคยชี้ให้เธอดูคือคนที่ผมชอบ
      แต่ผู้หญิงคนที่ผมรักคือ
      "เธอคนนี้"…
      เธอคนที่เข้าใจและเป็นกำลังใจให้ผมอยู่เสมอ…
      เธอจากไปอย่างไม่มีวันกลับทั้งๆที่ยังไม่รู้เลยว่าผมคิดอย่างไรกับเธอ
      ถ้าผมสามารถขอพรวิเศษใดๆได้
      ผมอยากจะขอแววตาคู่นั้นที่เคยจ้องมองผมด้วยความรู้สึกดีๆอยู่เสมอ
      รอยยิ้มที่เคยมีให้เวลาผมท้อแท้
      เสียงหัวเราะที่เคยทำให้โลกทั้งโลกดูสดใส
      ..…ผมอยากจะขอให้เธอกลับคืนมา…..

      เธอคือรักครั้งแรกของผม
      อาจต้องใช้เวลามากสักหน่อยในการทำใจว่า
      ต่อจากนี้จะไม่มีเธออยู่บนโลกใบนี้อีกแล้ว
      ไม่มีคนที่เข้าใจและคอยห่วงใยผมตลอดมา
      แต่ผมรู้เสมอว่าเธอจะคอยจ้องมองผมอยู่ห่างๆ
      เหมือนอย่างเคย
      เพราะนั่นคือสิ่งที่เธอเรียกมันว่าความสุข
      และเธอจะรอผมอยู่ ณ ที่แห่งนั้น
      ตรงดินแดนแห่งความรักที่สร้างไว้สำหรับเราเพียงสองคน…
      สักวันผมจะไปหาเธอ…
      หลับให้สบายนะครับ…มีน…
      หลับตาเถอะนะ…แล้วเราก็จะพบกันอาจเป็นเพียงฝันก็พอใจ
      หลับตาเถอะนะ…ถึงตัวเราจะแสนไกลห่างกันเพียงไหนก็ใกล้เธอ
      ชีวิตขีดเส้นทางไว้ให้เราเจอกันขีดทางที่ผกผันให้มีวันห่างไกล
      หลับตานานนาน…คิดถึงวันเก่าจะยังมีเราสองคน…หลับตาเถอะนะเธอ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×