ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เจ้าสาวของภาคิน

    ลำดับตอนที่ #3 : แผนสลับตัวเจ้าสาว

    • อัปเดตล่าสุด 7 ก.ย. 53


    "ไม่มีทางเป็นไปได้!! เจ้าหญิงจะไม่ทำกับข้าแบบนี้!!" น้ำเสียงอันอ่อนโรยของเจ้านางเกศรากล่าวออกมา พร้อมจดหมายในมือที่ถืออยุ่ตกลงพื้น แทบทันทีที่นางอ่านจบลง ตอนแรกหลังจากที่นางฟื้นขึ้นมาจากการเป็นลมล้มพับลงนั้น นางคิดว่านางแค่ฝันร้ายไป แต่เมื่อแม่นมยื่นจดหมายที่เจ้าหญิงปิยะนุชเขียนลาทิ้งไว้ พร้อมย้ำนักย้ำหนาว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องจริง นางก็พบว่าฝันร้ายที่นางคิดนั้น มันได้กลายเป็นจริงที่สุด

    "โธ่!! เจ้าหญิง ลูกไม่น่าทำกับแม่ได้ ทำไมนะทำไม" นางกล่าวพลางพร้อมสะอื้น

    "เจ้านาง ไม่เป็นอะไรนะเพคะ โถ่! อิฉันสงสารเจ้านางเหลือเกิน" แม่นมกล่าวด้วยความเป็นห่วง

    "เจ้าก็รู้ แม่นม ว่าการแต่งงานครั้งนี้มันสำคัญยิ่งนัก ถ้าแคว้นอัคคีคยารุ้เรื่องนี้เข้า บ้านเมืองเรามีแต่พังกับพังเท่านั้น" เจ้านางกล่าวออกมา คราวนี้แทบจะปล่อยโฮออกมาทีเดียว

    "เจ้านาง อิฉันว่าใจเย็นก่อน เรื่องนี้พอจะมีทางออกนะเพคะ" แม่นมกล่าวออกมาให้กำลังใจ แต่นางก็รู้ดีว่า แทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะยุติเรื่องนี้ นอกจากตามเจ้าหญิงกลับมาให้ได้เท่านั้น

    "ถ้าจะพูดให้ถูกตอนนี้ก็มีเพียงอิฉันและเจ้านางเท่านั้นที่ทราบเรื่องเจ้าหญิง อิฉันว่าเราค่อยค่อยหาทางออกดูนะเพคะ"

    "ข้ามองไม่เห็นทางใดเลย แม่นม ฮือๆ ถ้าตอนนี้มีท่านพี่อยุ่เคียงข้างข้า ข้าคงจะมีแรงที่จะสู้ปัญหามากกว่านี้" เจ้านางรำพึงรำพันออกมา 

          เจ้านางเกศราเป็นราชินีของแคว้นวารีธารอย่างโดดเดี่ยว โดยพระราชาคือพระเจ้าอุเทนนัษณ์ ได้สิ้นพระชนม์ไปเมื่อหลายปีที่แล้ว ทอดทิ้งให้นางอยู่กับธิดาคนโต คือ เจ้าหญิงปิยะนุช และโอรสคนเล็กคือ เจ้าชายเรืองริทเท่านั้น นางก็เหมือนหญิงสาวโดยทั่วไปที่บอบบาง รักสวยรักงาม ไม่ถนัดเรื่องการเมือง แต่นางต้องมาปกครองบ้านเมืองและราษฎร์ของตนให้เป็นสุข ซึ่งถือเป็นความรับผิดชอบอันใหญ่หลวงที่ลูกผู้หญิงคนนึงจะสามารถทำได้
          เมื่อหกปีก่อน หลังจากพระเจ้าอุเทนนัษณ์สิ้นพระชนม์ได้ไม่นาน มีขุนนางจำนวนหนึ่งคิดกบฏต่อแคว้นวารีธาร ซึ่งนางก็จนปัญญาที่จะรับมือได้ แถมธิดาและโอรสของนางก็ยังเล็กอยู่ แต่โชคดีที่นางได้รับความช่วยเหลือจากแคว้นอัคคีคยา ซึ่งเป็นแคว้นที่ทรงอำนาจมากที่สุด จนสามารถรักษาแคว้นเอาไว้ได้ แต่แคว้นอัคคีคยาก็มีข้อแลกเปลี่ยน ว่าเมื่อใดก็ตามที่ธิดาของนางมีอายุครบ 20 บริบูรณ์ จะต้องเข้าพิธิสมรสกับโอรสองค์โตของแคว้นอัคคีคยา ซึ่งกำหนดพิธีสมรสนั้นจะมีขึ้นอีกไม่กี่วันข้างหน้า แต่เจ้าสาวซึ่งเป็นธิดาของนาง ...เจ้าหญิงปิยะนุช...ได้หนีหายสาบสูญไปเสียแล้ว!!

    "เจ้านาง อิฉันว่าเจ้าหญิงคงหนีไปไม่ไกลมากหรอกเพคะ เราน่าจะให้ทหารออกไปตามนะเพคะ"

    "แม่นม เจ้าก็รู้ว่าข้าไม่อยากให้เรื่องนี้มันใหญ่ออกไป จนไปเข้าหูของแควั้นอัคคีคยาเข้า"

    "เฮ้อ~ ถ้าข้ามีธิดาอีกคน ก็คงดีสินะจะได้ส่งตัวไปแทนได้ แต่นี่ข้าเหลือแต่เจ้าชายคนเล็ก ถึงแม้จะหน้าตางดงาม อ่อนหวานดุจหญิงสาวเพียงใด แต่เขาก็เป็นผู้ชาย" เจ้านางพูดออกมาพร้อมหัวเราะอย่างขมขื่นกับคำพูดตัวเอง แต่คำพูดดังกล่าวกลับทำให้แม่นมถึงกับตาลุกโพลงเหมือนจะนึกอะไรได้

    "เจ้านาง แล้วใครว่าจะใช้เจ้าชายไปแทนไม่ได้ล่ะ!!" แม่นมพูดออกมา พร้อมส่งสายตาอย่างมีเลศนัยไปให้เจ้านางที่แววตาฉายแววงงงันกับคำพูดของแม่นม

    ------------------------------------------------------------------------------------------------------------

    "ไม่มีทาง!! ข้าไม่มีทางทำเป็นอันขาด ท่านแม่ ข้าเป็นผู้ชายนะ!!" ใบหน้าอันงดงามดุจหญิงสาวของผู้พูดบูดบึ้งด้วยความโกรธ
    จะให้ข้าปลอมตัวเป็นท่านพี่ แถมยังต้องไปเป็นเจ้าสาวให้เจ้าบ้าที่ไหนนี่นะ เจ้าชายเรืองริทรำพึงใจ ตอนแรกที่เจ้านางเกศราและแม่นมบอกเขา เรื่องที่เจ้าพี่หนีไป ก็ทำให้เขาแทบหมดสติด้วยความตกใจ แต่พอท่านแม่กล่าวต่อว่าจะให้เขาปลอมตัวเป็นท่านพี่ เพื่อไปแต่งงานกับโอรสของแคว้นอัคคีคยา จากสติที่แทบไม่เหลือ ก็ทำเอาเขาคิดว่าสติของเขามันคงกระเจิงหายไปเสียหมดแล้ว
    "โถ่! ถ้าไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใครล่ะ เรืองริท" เจ้านางเกศรากล่าวเสียงอ่อน

    "ท่านแม่ข้าเป็นผู้ชายนะ!! แล้วอีกอย่างแคว้นเราก็มีหญิงงามออกเยอะแยะ แล้วทำไมท่านแม่ไม่เลือกไปสักคนล่ะ ทำไมต้องเป็นข้า" เจ้าชายเรืองริทเถียงไม่ลดละ

    "ก็เขาไม่ใช่ลูกแม่นิ แต่เจ้า..เรืองริท เจ้าเป็นลูกแม่นะ" เจ้านางพยามพูดโน้มน้าวให้อีกฝ่ายเข้าใจเหตุผลของนางที่สุด 

    "และที่สำคัญถึงเจ้าไม่เห็นแก่แม่ แต่เจ้าก็น่าจะเห็นแก่บ้านเมืองและราษฎร์เรานะ ลูกแม่" นางแน่ใจว่าคำพูดนี้ต้องทำให้โอรสของนางโอนอ่อนในที่สุด เพราะนางรู้ดีว่า โอรสของนางรักบ้านเมืองและราษฎร์ของตนมาก เขาจะไม่ยอมแน่ถ้าใครจะมาทำให้บ้านเมืองอันเป็นที่รักต้องเดือดร้อน  เจ้าชายเรืองริทเงียบไปนานเหมือนจะไตร่ตรองกับความคิดตนเอง จากนั้นจึงเอ่ยออกมา

    "ในเมื่อข้าไม่มีทางเลือกใด ในการยุติปัญหาครั้งนี้ ... "เจ้าชายเรืองริทหยุดคำพูดไว้เพียงเท่านั้นพลางสูดหายใจเข้าไปเต็มปอด ก่อนจะเอ่ยประโยคต่อมาที่แทบทำให้เจ้านางเกศราและแม่นมกระโดดกอดกันตัวลอย

    "ตกลงท่านแม่ ข้าจะไปเป็นเจ้าสาวของแคว้นอัคคีคยา!!"

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×