ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : ภารกิจชิ้นใหม่
                ท่ามกลางเปลวเพลิง และกลุ่มควันแห่งหายนะ บลูก้าวเดินโซซัดโซเซออกมา ใบหน้าเต็มไปด้วยคราบโคลน และเลือด เสื้อผ้าขาดวิ่น เขาค่อยๆลอกใบหน้าของผู้พันซิกมาร์ออก ทำให้ใบหน้าเขาค่อยดูดีขึ้น เขาตรงกับไปที่ที่เขาทิ้งร่างเรดไว้ ร่างของเรดเริ่มเย็นเฉียบและแข็งทื่อ บลูค่อยๆยกร่างอันไร้วิญญาณของเธอขึ้น เขาหารถจิ๊ปคันที่ใกล้ที่สุด แล้วขับออกจากฐานทัพมุ่งสู่สนามบิน และบินไปสวิตเซอร์แลนด์ทันที
              ณ ที่ตั้งลับของหน่วยสืบราชการลับสากล
              บลูยืนรออยู่ที่ปลายของโลงศพที่ถูกคลุมด้วยธงสัญลักษณ์ประจำหน่วย ชายวัยกลางคนใส่สูทคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขา
              “เสียใจด้วยบลู เรดเป็นหนึ่งในยอดฝีมือ นิกก็เช่นกัน”ชายคนนั้นพูด บลูเงยหน้าขึ้นมาจ้องหน้าเขา
                “คุณรู้ไหม พีท ทำไมถึงเกิดเหตุอย่างนี้ขึ้น”บลูพูดอย่างเรียบๆ แต่ในน้ำเสียง แฝงไว้ด้วยโทสะ
                “มะ...”ชายคนนั้นจะตอบ แต่บลูไม่ยอมให้เขาตอบ
                “พีท นายเป็นหัวหน้าของกลุ่มเรา อย่าบอกนะว่าเรื่องแค่นี้นายไม่รู้”บลูพูดอย่างโกรธจัด พีทหุบปากลงแล้วเตรียมพร้อมรับฟังสิ่งที่บลูจะบอกออกมา
                “ภารกิจของเรา ถูกปิดเป็นความลับ มีเพียงคนในองค์กรเท่านั้นที่รู้”บลูเริ่มคุมอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่
                “องค์กรเรามีคนทรยศ”บลูเน้นเสียง พีทเริ่มทำหน้างุนงง
                “บอกมาว่า นอกจากนาย ฉัน เรด และนิก แล้ว มีใครอีกที่รู้เรื่องภารกิจนี้”บลูเริ่มคุกคามพีท พีทได้แต่ก้าวถอยหลังในช่วงเวลานั้น ร่างของเขาดั่งถูกหดจนเล็กเท่าคนแคระ แต่บลูดูเหมือนร่างขยายโตขึ้นดุจภูผา
                  “บอกมาว่า มีใครบ้าง พีท”บลูกระชากคอเสื้อพีทนายของเขาอย่างแรง พีทเหงื่อโชกไปทั้งตัว
                  “ปล่อยมือซะบลู”พีทพูดอย่างใจเย็น
                  “บอกมาก่อนว่าใคร”บลูยังคงไม่ฟัง
                  “ปล่อยมือเดี๋ยวนี้ บลู”พีทเริ่มเน้นเสียง
                  “แกก็บอกมาก่อนซิว่าใคร”บลูตะโกนลั่น โชคดีที่ในห้องนี้ไม่มีใครอยู่เลยนอกจากเขาทั้งสอง
                  “ปล่อยมือออกเดี๋ยวนี้ นี่เป็นคำสั่ง”พีทตะโกนลั่นไม่แพ้กัน ดูเหมือนว่ามันจะทำให้บลูอารมณ์เย็นขึ้น เขาคล่อยๆคลายมือ พีทจับคอเสื้อให้เข้าที่
                  “อาชีพมือสังหารควรเก็บอารมณ์ให้ดีกว่านี้บลู เสียใจก็ส่วนเสียใจ แต่ก็ต้องไม่เสียงานเข้าใจไหม ที่ฉันมานี่เพื่อมอบภารกิจชิ้นใหม่ให้นาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับคดีหัวรบนิวเคลียร์นี่ล่ะ”พีทพูดอย่างใจเย็น
                  “นายจะต้องไปยังประเทศที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยน่ะ ได้ยินว่านายพูดภาษาที่นั่นได้”บลูพยักหน้ารับช้าๆ
                  “งั้นก็เยี่ยม เพราะเราจำเป็นต้องประสานงานกับหน่วยงานที่นั่น”พีทอธิบาย
                  “แต่ เดี๋ยวก่อน เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับประเทศไทยด้วย”บลูถามด้วยความสงสัย
                  “ดีมากที่นายถามมา สายของเราที่นั่นบอกเรามาว่ามี นายพลคนหนึ่งรู้รหัสลับของกลุ่มอาระเบียน เทอเรอไรซ์ ทำให้เขากำลังถูกตามล่าโดยกลุ่มอาระเบียนเทอเรอไรซ์ ฉันได้ส่งริคไปคุ้นครองเขาแล้ว ส่วนนายต้องไปดูแลลูกสาวของเขาที่แยกออกมาอยู่ตัวคนเดียว”พีทบอก
                    “ผู้หญิงเหรอ”บลูถามเพื่อความแน่ใจ พีทพยักหน้ารับช้าๆ แล้วส่งกระดาษใบหนึ่งมาให้เขา
                    “นี่เป็นประวัติ ที่อยู่ปัจจุบัน และที่ทำงานของเธอ นายเอาไปอ่านซะ”บลูรับเอาไว้ เขาค่อยๆจ้องมองลงไปในรูป ในรูปเป็นรูปหญิงสาวชาวเอเชียอายุประมาณยี่สิบต้นๆ ผมยาวสีดำ ส่วนชื่อของเธอ...
                      จุฑามณี ไกรชุมพล
                      บลูถึงกับขมวดคิ้ว เขามองไปที่พีท
                    “เริ่มเมื่อไหร่”บลูถาม
                    “เดี๋ยวนี้เลย นายเดินไปที่แผนกจัดหาตั๋วเครื่องบินนะ ตอนนี้เขาคงจะจัดเที่ยวบินไปประเทศไทยแล้ว รีบไปเก็บของใช้ส่วนตัวซะ”พีทพูดจบ เขาก็เดินจากไป ทิ้งให้พีทพินิจพิเคราะห์ประวัติของเธอคนนั้นต่อไป...
                      ณ ประเทศไทย
                      เอกอยู่ในชุดสูทตัวเท่ มือถือกระเป๋าทำงาน เดินเข้ามาในตึกสูงเสียดฟ้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เขามุ่งไปที่ห้องผู้จัดการ ซึ่งเมื่อเขาเห็นเอก ผู้จัดการถึงกับลุกขึ้นจับมือทักทายเอกทันที
                      “ยินดีต้อนรับ โปรแกรมเมอร์คนเก่งสู่บริษัทเมกดรีมของเราครับ”
                      “ยินดีครับ”เอกตอบใบหน้ายิ้มแย้ม
                      “ทางบริษัทเรามีนโยบายร่วมกับฝ่ายรัฐนะครับ ตอนนี้นายพลสรยุทธ ไกรชุมพล ได้ประสานงานเข้ามา เพราะว่าทางรัฐต้องการโปรแกรมเมอร์ฝีมือดีไปเจาะรหัสบางอย่างน่ะครับ”
                      “ถ้าจะเป็นผม ผมก็ยินดีร่วมมือเต็มที่ครับ”
                      “งั้น เชิญทางนี้ครับ ท่านนายพลรออยู่ในห้องรับรองแล้วครับ”เขาพูดจบก็เดินนำหน้าเอกออกไป พวกเขาตรงมาที่ห้องโถงใหญ่ที่ถูกประดับประดาไว้อย่างสวยงาม นายทหารมีอายุท่านหนึ่งนั่งดื่มน้ำอยู่อย่างเงียบๆ
                      “คุณณภัทรครับ นี่ นายพลสรยุทธ ไกรชุมพลครับ”ผู้จัดการแนะนำ
                      “ยินดีที่ได้รู้จักครับ”เอกพูด แล้วเอื้อมมือไปสัมผัสกับมือนายทหาร
                      “เช่นกัน พ่อหนุ่ม”เขาตอบรับอย่างอารมณ์ดี
                      “มิ้งค์สบายดีไหมครับ”เอกถาม นายทหารถึงกับขมวดคิ้ว
                      “เธอรู้จักลูกสาวฉันได้ยังไง”
                      “เราเคยเป็นเพื่อนเรียนด้วยกัน สมัยมัธยมน่ะครับ”เอกตอบ นายพลสรยุทธผงกหน้ารับช้าๆ
                      “งั้นเธอก็รู้จักปันน่ะสิ ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้างล่ะ”นายพลสรยุทธถาม
                      “เอ่อ คือ ว่า ผมก็ไม่ได้เจอเขาตั้งแต่ที่เขาย้ายออกไปตอนมัธยมแล้วนะครับ”เอกตอบเสียงเศร้าๆ การถามถึงปันเป็นการกระตุ้นให้เขานึกถึงเรื่องราวในอดีตออกมา
                      “งั้นหรือ นึกว่าเธอจะมีข่าวเขาบ้าง มิ้งค์เขาจะได้รู้ข่าวอะไรบ้าง เธอรู้ไหม มิ้งค์เขานะยังไม่เลิกคิดถึงปันเลย”นายพลสรยุทธตอบเสียงเอื่อยๆ
                      “แล้วตกลงว่า จะให้ผมช่วยเรื่องอะไรหรือครับ”เอกเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา
                        “อ้อ ใช่ๆ เกือบลืมไปแน่ะ คืองี้ เธอรู้จักกลุ่มอาระเบียน เทอเรอไรซ์ บ้างไหม”นายพลสรยุทธถาม
                        “ก็เคยได้ยินมาบ้างครับ”
                        “เมื่อไม่นานมานี้ รัสเซียถูกขโมยอาวุธนิวเคลียร์ออกไปโดยกลุ่มนี้แหล่ะ แล้วบังเอิญ หน่วยสืบราชการลับสากลได้ส่งสายมาว่า นายทหารของประเทศไทยบางคนเป็นสมาชิกของกลุ่มอาระเบียนนี้ด้วย”นายพลสรยุทธหยุดพูดพัก เพื่อหายใจ
                        “ลุงจึงอยากให้เอกช่วย เจาะเข้าระบบของกองทัพ เพื่อค้นหาเบาะแสของคดีรายนี้”
                        “ก็ได้ครับ ผมจะพยายามให้ดีที่สุด”
                        “ขอบใจเธอมากนะเอก”
                        “แล้วจะเริ่มงานตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะครับ”
                        “เดี๋ยว ลุงจะส่งข่าวมาบอกอีกทีก็แล้วกัน วันนี้ลุงขอตัวก่อนนะมีธุระที่กองทัพนิดหน่อย ลาก่อน เอก ผู้จัดการ”นายพลสรยุทธลุกขึ้น แล้วทำความเคารพทั้งสอง
                        “สวัสดี ครับคุณลุง”เอกทำความเคารพอย่างนอบน้อม ก่อนที่นายพลสรยุทธจะเดินออกจากห้องไป
                        “นายดังแน่”ผู้จัดการแซวเอก แต่เอกไม่ได้สนุกด้วย เขากำลังหวลคำนึงถึงความหลังอันดื่มด่ำวาบหวามเมื่อ 6-7 ปีก่อน เพื่อนๆแต่ละคนจะเป็นยังไงกันบ้าง มีความสุข หรือทุกข์สักแค่ไหน เขาปรารถนาที่จะพบหน้าเพื่อนของเขาอย่างยิ่ง...
              ณ ที่ตั้งลับของหน่วยสืบราชการลับสากล
              บลูยืนรออยู่ที่ปลายของโลงศพที่ถูกคลุมด้วยธงสัญลักษณ์ประจำหน่วย ชายวัยกลางคนใส่สูทคนหนึ่งเดินเข้ามาหาเขา
              “เสียใจด้วยบลู เรดเป็นหนึ่งในยอดฝีมือ นิกก็เช่นกัน”ชายคนนั้นพูด บลูเงยหน้าขึ้นมาจ้องหน้าเขา
                “คุณรู้ไหม พีท ทำไมถึงเกิดเหตุอย่างนี้ขึ้น”บลูพูดอย่างเรียบๆ แต่ในน้ำเสียง แฝงไว้ด้วยโทสะ
                “มะ...”ชายคนนั้นจะตอบ แต่บลูไม่ยอมให้เขาตอบ
                “พีท นายเป็นหัวหน้าของกลุ่มเรา อย่าบอกนะว่าเรื่องแค่นี้นายไม่รู้”บลูพูดอย่างโกรธจัด พีทหุบปากลงแล้วเตรียมพร้อมรับฟังสิ่งที่บลูจะบอกออกมา
                “ภารกิจของเรา ถูกปิดเป็นความลับ มีเพียงคนในองค์กรเท่านั้นที่รู้”บลูเริ่มคุมอารมณ์เอาไว้ไม่อยู่
                “องค์กรเรามีคนทรยศ”บลูเน้นเสียง พีทเริ่มทำหน้างุนงง
                “บอกมาว่า นอกจากนาย ฉัน เรด และนิก แล้ว มีใครอีกที่รู้เรื่องภารกิจนี้”บลูเริ่มคุกคามพีท พีทได้แต่ก้าวถอยหลังในช่วงเวลานั้น ร่างของเขาดั่งถูกหดจนเล็กเท่าคนแคระ แต่บลูดูเหมือนร่างขยายโตขึ้นดุจภูผา
                  “บอกมาว่า มีใครบ้าง พีท”บลูกระชากคอเสื้อพีทนายของเขาอย่างแรง พีทเหงื่อโชกไปทั้งตัว
                  “ปล่อยมือซะบลู”พีทพูดอย่างใจเย็น
                  “บอกมาก่อนว่าใคร”บลูยังคงไม่ฟัง
                  “ปล่อยมือเดี๋ยวนี้ บลู”พีทเริ่มเน้นเสียง
                  “แกก็บอกมาก่อนซิว่าใคร”บลูตะโกนลั่น โชคดีที่ในห้องนี้ไม่มีใครอยู่เลยนอกจากเขาทั้งสอง
                  “ปล่อยมือออกเดี๋ยวนี้ นี่เป็นคำสั่ง”พีทตะโกนลั่นไม่แพ้กัน ดูเหมือนว่ามันจะทำให้บลูอารมณ์เย็นขึ้น เขาคล่อยๆคลายมือ พีทจับคอเสื้อให้เข้าที่
                  “อาชีพมือสังหารควรเก็บอารมณ์ให้ดีกว่านี้บลู เสียใจก็ส่วนเสียใจ แต่ก็ต้องไม่เสียงานเข้าใจไหม ที่ฉันมานี่เพื่อมอบภารกิจชิ้นใหม่ให้นาย ซึ่งเกี่ยวข้องกับคดีหัวรบนิวเคลียร์นี่ล่ะ”พีทพูดอย่างใจเย็น
                  “นายจะต้องไปยังประเทศที่อยู่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ประเทศไทยน่ะ ได้ยินว่านายพูดภาษาที่นั่นได้”บลูพยักหน้ารับช้าๆ
                  “งั้นก็เยี่ยม เพราะเราจำเป็นต้องประสานงานกับหน่วยงานที่นั่น”พีทอธิบาย
                  “แต่ เดี๋ยวก่อน เรื่องนี้มันเกี่ยวอะไรกับประเทศไทยด้วย”บลูถามด้วยความสงสัย
                  “ดีมากที่นายถามมา สายของเราที่นั่นบอกเรามาว่ามี นายพลคนหนึ่งรู้รหัสลับของกลุ่มอาระเบียน เทอเรอไรซ์ ทำให้เขากำลังถูกตามล่าโดยกลุ่มอาระเบียนเทอเรอไรซ์ ฉันได้ส่งริคไปคุ้นครองเขาแล้ว ส่วนนายต้องไปดูแลลูกสาวของเขาที่แยกออกมาอยู่ตัวคนเดียว”พีทบอก
                    “ผู้หญิงเหรอ”บลูถามเพื่อความแน่ใจ พีทพยักหน้ารับช้าๆ แล้วส่งกระดาษใบหนึ่งมาให้เขา
                    “นี่เป็นประวัติ ที่อยู่ปัจจุบัน และที่ทำงานของเธอ นายเอาไปอ่านซะ”บลูรับเอาไว้ เขาค่อยๆจ้องมองลงไปในรูป ในรูปเป็นรูปหญิงสาวชาวเอเชียอายุประมาณยี่สิบต้นๆ ผมยาวสีดำ ส่วนชื่อของเธอ...
                      จุฑามณี ไกรชุมพล
                      บลูถึงกับขมวดคิ้ว เขามองไปที่พีท
                    “เริ่มเมื่อไหร่”บลูถาม
                    “เดี๋ยวนี้เลย นายเดินไปที่แผนกจัดหาตั๋วเครื่องบินนะ ตอนนี้เขาคงจะจัดเที่ยวบินไปประเทศไทยแล้ว รีบไปเก็บของใช้ส่วนตัวซะ”พีทพูดจบ เขาก็เดินจากไป ทิ้งให้พีทพินิจพิเคราะห์ประวัติของเธอคนนั้นต่อไป...
                      ณ ประเทศไทย
                      เอกอยู่ในชุดสูทตัวเท่ มือถือกระเป๋าทำงาน เดินเข้ามาในตึกสูงเสียดฟ้าแห่งหนึ่งในกรุงเทพฯ เขามุ่งไปที่ห้องผู้จัดการ ซึ่งเมื่อเขาเห็นเอก ผู้จัดการถึงกับลุกขึ้นจับมือทักทายเอกทันที
                      “ยินดีต้อนรับ โปรแกรมเมอร์คนเก่งสู่บริษัทเมกดรีมของเราครับ”
                      “ยินดีครับ”เอกตอบใบหน้ายิ้มแย้ม
                      “ทางบริษัทเรามีนโยบายร่วมกับฝ่ายรัฐนะครับ ตอนนี้นายพลสรยุทธ ไกรชุมพล ได้ประสานงานเข้ามา เพราะว่าทางรัฐต้องการโปรแกรมเมอร์ฝีมือดีไปเจาะรหัสบางอย่างน่ะครับ”
                      “ถ้าจะเป็นผม ผมก็ยินดีร่วมมือเต็มที่ครับ”
                      “งั้น เชิญทางนี้ครับ ท่านนายพลรออยู่ในห้องรับรองแล้วครับ”เขาพูดจบก็เดินนำหน้าเอกออกไป พวกเขาตรงมาที่ห้องโถงใหญ่ที่ถูกประดับประดาไว้อย่างสวยงาม นายทหารมีอายุท่านหนึ่งนั่งดื่มน้ำอยู่อย่างเงียบๆ
                      “คุณณภัทรครับ นี่ นายพลสรยุทธ ไกรชุมพลครับ”ผู้จัดการแนะนำ
                      “ยินดีที่ได้รู้จักครับ”เอกพูด แล้วเอื้อมมือไปสัมผัสกับมือนายทหาร
                      “เช่นกัน พ่อหนุ่ม”เขาตอบรับอย่างอารมณ์ดี
                      “มิ้งค์สบายดีไหมครับ”เอกถาม นายทหารถึงกับขมวดคิ้ว
                      “เธอรู้จักลูกสาวฉันได้ยังไง”
                      “เราเคยเป็นเพื่อนเรียนด้วยกัน สมัยมัธยมน่ะครับ”เอกตอบ นายพลสรยุทธผงกหน้ารับช้าๆ
                      “งั้นเธอก็รู้จักปันน่ะสิ ตอนนี้เขาเป็นยังไงบ้างล่ะ”นายพลสรยุทธถาม
                      “เอ่อ คือ ว่า ผมก็ไม่ได้เจอเขาตั้งแต่ที่เขาย้ายออกไปตอนมัธยมแล้วนะครับ”เอกตอบเสียงเศร้าๆ การถามถึงปันเป็นการกระตุ้นให้เขานึกถึงเรื่องราวในอดีตออกมา
                      “งั้นหรือ นึกว่าเธอจะมีข่าวเขาบ้าง มิ้งค์เขาจะได้รู้ข่าวอะไรบ้าง เธอรู้ไหม มิ้งค์เขานะยังไม่เลิกคิดถึงปันเลย”นายพลสรยุทธตอบเสียงเอื่อยๆ
                      “แล้วตกลงว่า จะให้ผมช่วยเรื่องอะไรหรือครับ”เอกเปลี่ยนหัวข้อการสนทนา
                        “อ้อ ใช่ๆ เกือบลืมไปแน่ะ คืองี้ เธอรู้จักกลุ่มอาระเบียน เทอเรอไรซ์ บ้างไหม”นายพลสรยุทธถาม
                        “ก็เคยได้ยินมาบ้างครับ”
                        “เมื่อไม่นานมานี้ รัสเซียถูกขโมยอาวุธนิวเคลียร์ออกไปโดยกลุ่มนี้แหล่ะ แล้วบังเอิญ หน่วยสืบราชการลับสากลได้ส่งสายมาว่า นายทหารของประเทศไทยบางคนเป็นสมาชิกของกลุ่มอาระเบียนนี้ด้วย”นายพลสรยุทธหยุดพูดพัก เพื่อหายใจ
                        “ลุงจึงอยากให้เอกช่วย เจาะเข้าระบบของกองทัพ เพื่อค้นหาเบาะแสของคดีรายนี้”
                        “ก็ได้ครับ ผมจะพยายามให้ดีที่สุด”
                        “ขอบใจเธอมากนะเอก”
                        “แล้วจะเริ่มงานตั้งแต่เมื่อไหร่ล่ะครับ”
                        “เดี๋ยว ลุงจะส่งข่าวมาบอกอีกทีก็แล้วกัน วันนี้ลุงขอตัวก่อนนะมีธุระที่กองทัพนิดหน่อย ลาก่อน เอก ผู้จัดการ”นายพลสรยุทธลุกขึ้น แล้วทำความเคารพทั้งสอง
                        “สวัสดี ครับคุณลุง”เอกทำความเคารพอย่างนอบน้อม ก่อนที่นายพลสรยุทธจะเดินออกจากห้องไป
                        “นายดังแน่”ผู้จัดการแซวเอก แต่เอกไม่ได้สนุกด้วย เขากำลังหวลคำนึงถึงความหลังอันดื่มด่ำวาบหวามเมื่อ 6-7 ปีก่อน เพื่อนๆแต่ละคนจะเป็นยังไงกันบ้าง มีความสุข หรือทุกข์สักแค่ไหน เขาปรารถนาที่จะพบหน้าเพื่อนของเขาอย่างยิ่ง...
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น