ตอนที่ 3 : 1 แรกพบ (3)
เสียงเพลงลูกทุ่งจังหวะสนุกสนานจบลง กอหญ้าจึงส่งมอบเวทีให้กับนักร้องหนุ่มมือรางวัลประจำวงดนตรี
ร่างบางในชุดกระโปรงสีชมพูหวานก้าวลงมายังห้องแต่งตัวด้านหลัง ซึ่งมีลักษณะเป็นเต็นท์ผ้าใบเล็กๆ ก่อนจะนั่งลงบนเก้าอี้ว่าง ถอดพวงมาลัยที่ผู้ใหญ่ใจดีเอามาคล้องคอเพื่อแกะธนบัตรออกมา
“หมั่นไส้! ได้ทิปเยอะกว่าค่าจ้างอีกนะยะ” เสียงใครคนหนึ่งดังขึ้นจากทางประตูเต็นท์
กอหญ้าหันไปมองแล้วยิ้มกว้าง เนื่องจากรู้ว่าอีกฝ่ายแค่หยอกเล่นมากกว่า
“ขอบคุณเจ๊ตรีมากๆ เลยนะคะ” กอหญ้าประนมมือไหว้ “ถ้าไม่ได้เจ๊...หนูคงไม่รู้จะหาเงินที่ไหนไปจ่ายค่าฟอกไตให้ลุง”
“ไม่ต้องมาขอบคงขอบคุณอะไรหรอก เจ๊เห็นหนูมาตั้งแต่เล็กๆ อะไรที่ช่วยได้เจ๊ก็อยากช่วย แล้วไว้มีงานอื่นจะชวนมาร้องอีก”
กอหญ้ายิ้ม ดวงตาแวววาวด้วยความยินดีปรีดา
“ช่วงนี้โรงเรียนปิดเทอมแล้ว งานต่างจังหวัดก็ไปได้นะคะ” กอหญ้าเสนอตัวไว้แต่เนิ่นๆ เพราะไม่ได้เป็นนักร้องประจำของวง แต่ไหนแต่ไร...หล่อนมีหน้าที่หลักคือเรียนหนังสือ รองลงมาก็ช่วยลุงกับป้าดูแลงานบ้านงานครัว ตลอดจนสวนผลไม้เล็กๆ ซึ่งเป็นมรดกที่ปู่กับย่าทิ้งเอาไว้ให้ แต่ปีที่ผ่านมาราคาผลไม้ตกต่ำลงจนน่าใจหาย รายได้ก็เลยไม่ค่อยดีเท่าไร อีกทั้งลุงยังมาป่วยเป็นโรคไต ภาระค่าใช้จ่ายจึงเพิ่มขึ้นจนกอหญ้าไม่แน่ใจด้วยซ้ำว่าจะมีโอกาสได้เรียนต่อมหาวิทยาลัยหรือเปล่า
“ถ้ามีเจ๊ชวนแน่ๆ ว่าแต่...หนูจะกลับบ้านเลยไหม เจ๊จะได้ให้เด็กเอารถไปส่ง” สาวใหญ่เจ้าของวงดนตรีเอื้อเฟื้อ ทว่าหญิงสาวกลับส่ายหัว
“ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ หนูเอามอเตอร์ไซค์มา เดี๋ยวเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จว่าจะกลับเลยค่ะ”
“งั้นก็ขี่รถดีๆ ละ เอาไว้เจ๊จะโทร.หา”
“ค่ะ” กอหญ้ายิ้ม ก้มลงแกะธนบัตรที่ติดอยู่กับพวงมาลัยอีกครั้ง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นแบงค์ร้อยกับแบงค์ยี่สิบ แต่พอเอามารวมๆ กันก็ได้หลายพัน น่าจะพอสำหรับใช้จ่ายค่าล้างไตของลุงไปอีกหนึ่งเดือน
กอหญ้าเก็บเงินเข้ากระเป๋าย่ามใบเก่ง ก่อนจะลุกไปในห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าเล็กๆ
เพียงแค่เวลาไม่นาน ร่างแน่งน้อยก็อยู่ในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนสีซีดๆ ที่มักชอบใส่เป็นประจำ เด็กสาวเลือกที่จะถักผมเปียสองข้างเพื่อที่เวลาขี่มอเตอร์ไซค์กลับบ้านจะได้ไม่โดนลมพัดจนปลิวมาปิดหน้าปิดตา เรียบร้อยดีแล้วถึงค่อยหอบเอาชุดกระโปรงสีชมพูของทางคณะดนตรีไปแขวนรวมกับเสื้อผ้าชุดอื่น
“เจ๊ตรีคะ หนูเอาชุดแขวนให้แล้วนะคะ” กอหญ้าหันไปบอกสาวใหญ่เจ้าของวงที่กำลังสาละวนอยู่กับการสำรวจความเรียบร้อยของทรงผมแดนเซอร์ แต่ก็มีเวลาพอจะหันมาพยักหน้าตอบรับด้วยรอยยิ้ม “จริงสิคะ ห้องน้ำไปทางไหน เจ๊ตรีพอรู้ไหม”
“อยู่ด้านหลังโน่นแหนะ ออกจากเต็นท์แล้วตรงไปทางล็อบบี สุดทางแล้วเลี้ยวซ้าย มันจะมีป้ายบอกทางไปเองจ้ะ เดินไกลหน่อยนะ”
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ” กอหญ้ายิ้ม ถือโอกาสนี้บอกลาพี่ๆ แดนเซอร์ แล้วก้าวไปยังล็อบบีรีสอร์ต ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากสถานที่จัดงานมากนัก
กระทั่งถึงสุดทางที่เป็นระเบียงกว้างสำหรับก้าวลงไปยังสระบัวขนาดใหญ่ และมองเห็นบ้านพักสไตล์ล้านนาที่ปลูกสร้างอยู่ไกลๆ ตามแนวไหล่เขา กอหญ้าก็เลือกที่จะเลี้ยวซ้ายไปยังทางเดินเล็กๆ ที่สาวใหญ่แนะนำ แต่จนแล้วจนรอดก็หาป้ายห้องน้ำไม่เจอ ไม่รู้เป็นเพราะรีสอร์ตกว้างเกินไป หรือเพราะหล่อนตาเซ่อกันแน่
แล้วกันสิ! ตอนนี้ก็สุดทางอาคารต้อนรับแล้ว
กอหญ้ากำลังจะหมุนตัวกลับไปสำรวจตามทางเลี้ยวที่เดินผ่านมาอีกครั้ง แต่พลันเหลือบไปเห็นแสงสว่างด้านหลังบ้านพักสไตล์ล้านนาหลังหนึ่ง
เมื่อเดาได้ว่าน่าจะเป็นห้องน้ำสำหรับให้บริการลูกค้าที่ชอบนั่งรับลมชมทะเลหมอกยามเช้า หญิงสาวจึงไม่รอช้าที่จะเดินเลาะผ่านสนามริมสระบัวไปทางนั้น โดยไม่รู้เลยว่าชีวิตหล่อนกำลังจะเปลี่ยนแปลงไปตลอดกาล
++++++++++
ใกล้จะเจอกันแล้วววว เดี๋ยวบ่ายๆมาต่ออีกน้าา
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
