ตอนที่ 1 : 1 แรกพบ (1)
เสียงดนตรีโฟลคซองดังคลอเคล้าเสียงพูดคุยสนุกสนานของผู้คนในงานเลี้ยง แต่ถัดออกมาจากสนามหญ้าที่ใช้จัดงานไม่ไกลนัก ชายหนุ่มสูงราวร้อยแปดสิบห้าเซนติเมตรคนหนึ่งกำลังยืนหน้านิ่วคิ้วขมวดอยู่เพียงลำพัง หากไม่ใช่เพราะย่าของเขาบังคับ คนอย่าง เขมรัชต์ รชตะ ไม่มีทางสวมสูทผูกเนคไทมาที่นี่แน่นอน
มือหนายกแก้วบรั่นดีในมือขึ้นดื่มด้วยท่าทางเบื่อหน่าย
“ไอ้ทิง! หลบมายืนทำบ้าอะไรตรงนี้คนเดียววะ” เพื่อนสนิทหนุ่มก้าวมาทางด้านหลัง โดยไม่ต้องหันกลับไปมองด้วยซ้ำ ไอ้ทิง...หรือ ‘กระทิง’ ก็รู้ในทันทีว่าเจ้าของเสียงคือ ชาติพยัคฆ์ อัครชาติ เจ้าของไร่ชาขนาดใหญ่ที่อยู่ติดกับฟาร์มรชตะของเขา
“แกก็รู้ว่าฉันไม่ชอบงานแบบนี้ เบื่อ”
“แต่สาวๆ ในงานน่ารักหลายคนเลยนะ” เสือหนุ่มกระเซ้า “ย่าสร้อยอุตส่าห์มีน้ำใจอยากแนะนำให้รู้จัก แกไม่สนใจบ้างเลยหรือไง”
“ฮึ!” เขมรัชต์แค่นหัวเราะ “สวยแต่รูป จูบไม่หอมทั้งนั้น”
“แกยังไม่ได้จูบ แล้วรู้ได้ยังไงว่าไม่หอม”
“ผู้หญิงทั้งโลกก็เหมือนกัน เห็นเงินเป็นพระเจ้า ยิ่งพวกผู้หญิงที่ย่าพยายามแนะนำแต่ละคน แค่เห็นก็รู้แล้วว่ากระแดะ” เขมรัชต์ไม่พูดเปล่า แต่ยังยกแก้วเครื่องดื่มสีอำพันในมือขึ้นชิดริมฝีปากอีกครั้งราวกับจะตอกย้ำความน่าเบื่อหน่ายของงานในค่ำคืนนี้
“ฉันว่าแกน่าจะเลิกทำธุรกิจฟาร์มโคนม แล้วหันไปทำฟาร์มเพาะสุนัขแทนว่ะ เพราะแค่ที่เลี้ยงอยู่ในปากก็น่าจะขายได้หลายตัว” ชาติพยัคฆ์หัวเราะร่วน ผิดกับกระทิงหนุ่มที่เริ่มมองหน้าเพื่อนด้วยอารมณ์ขุ่นมัว
เสือร้ายไหวไหล่เล็กน้อย รู้ดีว่าอีกฝ่ายมีอดีตที่ไม่น่าประทับใจเกี่ยวกับผู้หญิง หากเดาไม่ผิด...สาเหตุที่เขมรัชต์หลบมายืนดื่มเงียบๆ คนเดียวตรงนี้ คงเพราะมีสาวๆ หลายคนไปล้อมหน้าล้อมหลังให้รำคาญ
ก็แน่ละ... คนในจังหวัดกำลังลือกันให้แซ่ดว่า คุณนายสร้อยสอางค์ รชตะ ประมุขของฟาร์มโคนมขนาดใหญ่ระดับภูมิภาคอยากอุ้มเหลนเต็มแก่ ติดเสียก็แต่ว่าหลานชายคนเดียวอย่างเขมรัชต์ยังไม่มีทีท่าว่าจะหาหลานสะใภ้มาให้ ทั้งๆ ที่อายุก็ปาเข้าไปสามสิบห้าแล้ว ผู้เป็นย่าก็เลยต้องลากเขามาร่วมงานฉลองครบรอบสิบปีรีสอร์ตผู้ทรงอิทธิพลอันดับต้นๆ ของภูมิภาค หมายใจว่าเขมรัชต์อาจถูกใจลูกสาวบ้านใดบ้านหนึ่ง ถึงตอนนั้นความหวังของเศรษฐีนีเฒ่าก็คงได้เป็นจริงเสียที
เป็นจังหวะเดียวกับที่เสียงทำนองเพลงโปรดดังแว่วๆ มาจากในงาน ชาติพยัคฆ์เลยหันไปมองทางเวทีอีกครั้ง ก่อนจะพบว่าศิลปินโฟลคซองสองคนได้ยกเวทีให้วงดนตรีลูกทุ่งแล้ว
“อ้าว นั่นมันน้องกอหญ้านี่หว่า”
กระทิงหนุ่มที่ยืนดื่มอยู่เงียบๆ ไม่ได้อยากจะสนใจมากนัก แต่พอเพื่อนทักเหมือนคนรู้จัก เขมรัชต์เลยอดหันไปมองไม่ได้
หัวใจอันกร้าวแกร่งกระตุกไหว หญิงสาวในชุดกระโปรงสีชมพูหวานคนหนึ่งกำลังก้าวขึ้นเวทีมาพร้อมไมโครโฟนในมือ ริมฝีปากอิ่มขยับร้องเพลงจังหวะสนุกสนาน แต่เสียงร้องของหล่อนกลับไม่ได้อยู่ในความสนใจของเขาเท่าไรนัก เพราะความสนใจทั้งหมดถูกส่งตรงไปที่ใบหน้าน่ารักมากกว่า
หล่อนมีดวงตากลมโตราวกับตากวาง มีจมูกเล็กจิ้มลิ้มที่รับพอดีกันกับริมฝีปาก ยิ่งหล่อนขยับแข้งขยับขาเต้นไปพร้อมๆ กับแดนเซอร์ เขมรัชต์ยิ่งอดจินตนาการไม่ได้ว่าหากขาทั้งสองข้างของหล่อนมาโอบรัดอยู่รอบเอวเขาจะรู้สึกอย่างไร
“เฮ้ย...ไอ้ทิง แกอย่าคิดเรื่องบัดสีกับน้องกอหญ้าเชียวนะ” ชาติพยัคฆ์รีบท้วง เมื่อเห็นเพื่อนซี้ที่โตมาด้วยกันกำลังยืนจ้องมองนักร้องสาวราวกับกระทิงเปลี่ยวที่อดอยากปากแห้งมานาน
เขมรัชต์หันหน้าไปหา หรี่ตามองอย่างประหลาดใจนิดๆ ว่าทำไมเขาจะคิดไม่ได้ ต่อให้เขาจะเป็นคนรักสงบ ไม่ชอบสุงสิงกับใคร แต่เขาก็แค่ผู้ชายธรรมดาๆ ที่บางครั้งอยากหาที่ระบายบ้าง
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

แถมความคิดยังหื่นอีก แต่ชอบนะ ผู้ชายสายหื่น 5555 >,.<
น้องกอหญ้สจะเป็นยังไงต่อไปเนี่ย