คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : นางเชลย!
‘เกย่า’ เกคาเข่าแทบทรุด น้องสาวยังอ่อนประสบการณ์นัก ไม่สามารถควบคุมอารมณ์รัก ห่วงหา เศร้าไว้ใต้ความเข้มแข็ง
คาลิคมองปฏิกิริยาของคนทั้งคู่ จับกระแสได้ว่าหญิงสาวในอ้อมแขนผู้นี้มีความหมายกับ
ทหารนายคนนั้น เขาจะไม่ปล่อยให้เธอผู้นี้เป็นอิสระก่อนที่จะได้คำสารภาพจากปากเสียก่อนว่า
เหตุใดปาค่าถึงได้ทำลายความสัมพันธ์อันดีต่อกันเช่นนี้
“เราจะปล่อยพวกนายไป แต่เธอจะต้องเป็นเชลยอยู่ที่นี่” คาลิคประกาศลั่น มองเชลยในกำมือ
“พี่เกคา พาทหารกลับไปเถอะ ทิ้งน้องไว้ที่นี่” ร่างระหงสั่นเทิ้มด้วยแรงสะอื้นจากการ
ร้องไห้ แขนเริ่มร้าวจากแรงบีบของมือใหญ่
สิ้นคำพูดของหล่อน คาลิคออกแรงกำรอบแขนเล็กแน่นขึ้น หากทุกคนมองฝ่าความมืดได้
จะเห็นแววตกใจในดวงตาคม ชายหนุ่มจ้อมองทหารฝ่ายตรงข้ามตาไม่กระพริบ เห็นความ
เปลี่ยนแปลงมากมายจากคนตรงข้าม เกคามีความกล้าหาญไม่ต่างจากคนที่เขาเคารพ
คาลิคคว้าแขนหญิงสาวเดินหายเข้าไปในป่ากว้าง ไม่สนเสียงสะอื้นเรียกชื่อเกคาจากปาก
อิ่ม ส่วนทหารทุกนายของปาค่าก็ล่าถอยไปท่ามกลางลำปืนหลายกระบอกจากทหารของ
อากูเดส
เกย่าเดินตามแรงกระชากอย่างทุลักทุเล มือเรียวยกสัมผัสจี้เพชร อธิฐานถึงผู้เป็นพ่อ
‘หากนี่คือตัวแทนของพ่อ ขอให้พ่อปกป้องพี่ชายและทหารทุกนายของเราให้กลับถึงบ้าน
อย่างปลอดภัยด้วยนะคะ’ สิ้นคำอฐิธาน หญิงสาวมองเห็นแสงสว่างอยู่รำไร
ทหารหลายนายยืนเรียงจับยามป้องกันภัย เมื่อหล่อนกับเจ้าของครีมเหล็กที่รัดรึงร่างอยู่
ผ่านเข้าไปก็ได้รับการเคารพอย่างพร้อมเพรียง
คาลิคพาหญิงสาวก้าวเข้ากระโจมใหญ่ เหวี่ยงร่างระหงลงบนพื้นดิน ไม่อนาทรถึงความ
เป็นหญิง ซึ่งเกย่าก็ไม่ได้ร้องอุทรถึงความเจ็บปวด ชายหนุ่มนั่งลงบนเก้าอี้สนามตัวจิ๋ว มอง
สำรวจหญิงสาวอย่างไม่เกรงใจ เสียงฝีเท้าหนักตรงเข้ามาในกระโจม ทหารห้านายหยุดยืนด้าน
หลังนางเชลย
“ได้ความว่าอย่างไรบ้าง” คาลิคถาม
“ทหารของปาค่ากลับถึงเขตของพวกเขาแล้วครับท่านนายพล”
“สั่งให้ทหารของเราจับตามองชายแดนของปาค่าให้เข้มกว่าเดิม ไม่ว่าทางโน้นมีการ
เคลื่อนไหวเล็กหรือใหญ่ต้องรายงานฉันทันที”
นางเชลยมองสำรวจสิ่งต่างๆ ภายในกระโจม ซึ่งไม่มีสิ่งอำนวยความสะดวกอะไรทั้งสิ้น
นอกจากวิทยุเครื่องใหญ่ที่ตั้งอยู่มุมสุด ส่วนทหารตรงหน้า รูปร่างสูงใหญ่ หน้าตาคมคาย ผิวออก
จะคล้ำ คิ้วเข้ม จมูกโด่งเป็นสัน ปากหนามีรอยหยักตรงกลาง หล่อนรู้สึกคุ้นหน้าเขาเหลือเกิน ไม่
แน่ใจว่าเคยพบกันที่ไหนมาก่อนหรือเปล่า ตัวเขาใหญ่ไม่เหมาะกับเก้าอี้สนามตัวนั้น
“ต้องขอกำลังเพิ่มหรือเปล่าครับท่าน” หนึ่งในทหารหารือ
“ไม่ต้อง ฉันเชื่อว่าปาค่าจะยังไม่เคลื่อนไหวอะไรในตอนนี้”
เกย่ายิ้มเยาะ เขาเป็นใครถึงกล้าคาดเดาในความกล้าหาญ เข็มแข็งของทหารปาค่า ท่าที
ของเกย่าไม่อาจรอดสายตาคมไปได้
“พวกท่านออกไปได้ เราจะสืบสวนเชลยด้วยตัวเอง” เขามองเชลยด้วยสายตากร้าว บอกว่าไม่พอใจในความอวดดีของหล่อน
“ว่าไงสาวน้อย มีอะไรที่ฉันคาดการณ์ผิดไปจากทหารของปาค่างั้นหรือ”
ร่างสูงใหญ่ลุกเดินมาย่อตัวตรงหน้าเชลย เขายกมือแตะบ่ามน
“นายรู้จักทหารของเราน้อยไป เชื่อเถอะว่าเราไม่ย้อมแพ้ง่ายๆ อย่างที่นายคิด”
คาลิคยิ้มเยาะกลับไป ซ้ำยังขู่ว่า
“สาวน้อย... เธอรู้หรือไม่ว่าคำพูดของเธอมันผิดจากคำพูดของเชลย หากต้องการอยู่เพื่อ
ส่งข่าวไปให้ปาค่าก็จงหุบปากโอหังของเธอซะ แต่หากอยากมาตายฟรีก็เชิญแหกปากพูดให้ฉัน
ทนไม่ไหว ยอมสละประโยชน์ส่วนรวม เพื่อประโยชน์ส่วนตน ยิงเธอทิ้งไปเสีย จะได้ไม่ต้องทน
รำคาญ” เขาบอกก่อนลุกเดินออกจากกระโจม
เกย่าแทบทนฟังคำพูดของเขาจนจบไม่ไหว เขาพูดถูกทุกอย่าง หล่อนโง่เง่าอย่างที่เขาบอก
เอะอะจะเอาดั่งใจให้ได้ทุกอย่าง หญิงสาวมองดูเขาเดินออกไปจากกระโจม
หล่อนหอบร่างไร้เรี่ยวแรงเดินไปนั่งด้านใน คิดหาวิธีหนีออกจากที่นี่ แต่คิดอย่างไรก็จน
หนทางเพราะทหารมากมายเฝ้าระวังอยู่เต็มไปหมด เกย่ายกมือคลำจี้เพชร คิดถึงแม่ พี่ชาย แล้ว
ก็คุณปู่ ขอพรจากคุณพ่อให้ช่วยพาเธอหนีอกไปจากที่นี่ให้ได้ หล่อนมองออกไปด้านนอกผ่าน
รอยแยกของกระโจม แลเห็นแต่ความมืดซึ่งไม่ต่างจากหัวใจยามนี้ ความเหงาก่อตัวขึ้นมาจน
หนาวเหน็บ
////////////////////////////////
เกคากลับถึงปาค่าก็ตรงไปที่ตึกบัญชาการทหาร เรียกระดมทหารเข้าหารือ ภายในใจร้อน
ระอุเสียจนไม่อยากรอเวลาไปช่วยน้องสาว เสียงฝีเท้าหลายคู่ดังเข้ามา ทหารหนุ่มเดินไปเปิด
ประตูให้อย่างใจร้อน
นายหทารนั่งล้อมรอบโต๊ะประชุม ด้วยสีหน้าและแววตาเคร่งเครียด
“น้องเป็นอย่างไรบ้างเกคา” ท่านแม่ทัพถามก่อนอื่นใด
เกคาเดินตามท่านไปนั่งโต๊ะ
“โดนจับไปครับ เราชะล่าใจเกินไป ไม่คิดว่าอากูเดสจะวางกำลังไว้อย่างแน่นหนาขนาดนั้น”
“นายพลผินอบ ให้สายของเราที่อากูเดสตามหาเกย่าโดยด่วนว่าโดนจับไว้ที่ไหน” อันปามอบหมายงานให้นายทหารใหญ่ ใจภาวนาให้หลานสาวอย่าตกเป็นเชลยของใคร นอกจาก...
“ครับ”
“ดี งั้นวันนี้เท่านี้ก่อน ให้ได้ความว่าเกย่าอยู่ที่ไหนค่อยว่ากันอีกที”
ทหารทุกนายออกไปทำตามสั่ง การตามหาว่าเกย่าอยู่ที่ไหนไม่ใช่เรื่องยาก สายลับของ
ปาค่ามีมากมายซึ่งชำนาญการอยู่ในอากูเดส
“คุณปู่ครับ ผมดูแลน้องไม่ได้” ท่าทางองอาจของชายชาติทหารหมดไป มีเพียงพื้นที่ของพี่
ชายสำหรับน้องสาว
“ปู่ภาวนาขออย่าให้น้องเป็นอะไร และอย่าโดนใครรังแก จำคาลิคได้ไหมเกคา ถ้ามีอะไร
ยากเกินแก้ไข ปู่จำเป็นต้องติดต่อถึงเขา” ชายคนหนึ่งซึ่งหายไปจากสายตาเนินนาน ผุดขึ้นมาใน
ความทรงจำ
‘คาลิค’ เพื่อนรุ่นพี่ของเขาอย่างนั้นหรือ
เกคาทบทวนสถานการณ์ตรงแนวชายแดน สายตาของทหารฝ่ายตรงข้ามเมื่อมองมาบอก
อะไรมากมาย และยามได้ยินชื่อเขา ทางโน้นมีท่าทีแปลกไป
“หรือว่าจะเป็นคาลิค” เกคาพึมพำ
“อะไรนะเกคา”
“ทหารนายนั้นรูปร่างสูงใหญ่ ท่าทางองอาจ ถามชื่อผม”
“รอข่าวกรองจากทางโน้นก่อน แล้วสรุปกันอีกที หากเป็นเขาจริง เขาต้องรับผิดชอบในตัว
เกย่าทั้งหมด” ท่านแม่ทัพหมดห่วงไปเปลาะหนึ่ง แต่ไม่วางใจเสียทีเดียว
ถ้าเกย่าตกอยู่ในการควบคุมของคาลิคจริงๆ ก็เป็นเรื่องที่ดี ปาดาไม่คิดว่าคาลิคจะใจร้าย
อย่างที่แสดงออกมา เยื่อใยตัดกันได้ไม่ขาด
@@@@@@@@@@@@@@@@
เนื้อหาแยกกันอย่างชัดเจนค่ะ แต่มีจุดเชื่อมเล็กๆ ค่ะ บอกพื้นฐานเอาไว้บ้าง ความจริงแล้ว พรกมล เขียนเรื่อง “บำเรอไฟ” ก่อนเรื่องนี้ ทว่าเรื่องนี้ได้พิมพ์ก่อนค่ะ
ไว้ต่อพรุ่งนี้กันนะ หมดแรง กร๊ากกกกกกกกก ขอตัวไปเตียมตัว เตียมใจ เชียร์เดอะสตาร์ค้นฟ้าคว้วดาวก่อน อิอิ
ความคิดเห็น