คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : แรกพบสบตา
ยามค่ำเงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงแมลงภายนอก ความอาลัยท้นขึ้นทุกทีจนยากจะควบคุม น้ำตาหยดหนึ่งไหลลงสู่พื้น วารินกลั้นหายใจไล่น้ำตาให้ย้อนกลับคืน
หญิงสาวในชุดทะมัดทะแมงด้วยกางเกงเนื้อหนาสีน้ำตาลกับเสื้อแขนยาวปกปิดเนื้อนวลเอ่ยทำลายความเงียบ
“จวนได้เวลาแล้วค่ะแม่”
“บ้านเมืองของเราสำคัญเหนือสิ่งอื่นใด เกย่ามีสายเลือดทหาร ต้องเข้มแข็ง มีเกียรติเฉกเช่นทหารนะลูก”
เสียงฝีเท้าหนักเดินตรงเข้ามา วารินและเกย่าต่างแน่ใจว่านั่นคือเสียงของเกคา
“ได้เวลาแล้วครับแม่” เกคาบอกกับผู้เป็นแม่ รู้สึกเห็นใจท่านเหลือเกิน
วารินเคยเจอกับความรู้สึกหวั่นไหว ห่วงหา หน่วงหัวใจอย่างนี้มานับไม่ถ้วน ทั้งจากสามีและลูกชาย ทว่าวันนี้ต่างออกไป ลูกไก่ตัวน้อยกำลังจะผละจากอกแม่ เดินยังไม่คล่องดีก็ต้องไปผจญกับอันตราย หญิงสูงวัยคว้าตัวลูกสาวมากอดแน่นแล้วดันตัวออกห่างเพื่อจุมพิตหน้าผากให้คลายคิดถึง
“เข้มแข็งนะลูก”
ดวงตายาวรีเจือด้วยหยาดน้ำตา นางมองลูกสาวเดินจากไปกับลูกชาย นางกลั้นใจมองเบื้องหลังลูกทั้งสองจนลับตา ได้ยินเสียงรถเคลื่อนตัวจากไป ร่างอิ่มเอิบก็ล้มลงทันที สาวใช้หลายคนเข้าคว้านายหญิงกลับห้อง หนึ่งในนั้นโทรถึงหมอเป็นการด่วน
/////////////////////////////
รถจี๊ปสามคันวิ่งทะยานฝ่าความมืด มีแสงไฟจากหน้ารถให้ความสว่าง คืนนี้ฟ้าหม่นทำให้ใจหาย
ผู้หญิงคนเดียวในคณะเริ่มหลั่งน้ำตา คิดถึงคนที่จากมาอย่างสุดแสน
“ร้องไห้เถอะเกย่าถ้าน้องอยากร้อง ร้องให้หมดแห่งหยาดน้ำตา เมื่อถึงชายแดนน้องต้องเก็บความเสียใจไว้ อย่าเผยออกมาให้ใครได้เห็น เพราะเราคือสายเลือดของผู้กล้า”
คำปลอบโยนไม่มีอะไรแปลกใหม่ มันซ้ำมาซ้ำไป ทว่ากระตุ้นความรู้สึกได้ดี เกย่าเอนตัวอิงบ่ากว้างของพี่ชาย
“น้องรู้แล้วในวันนี้ว่าอกอุ่นของแม่ บ่ากว้างของพี่ชายมันมีค่ามากขนาดไหน”
“พี่ก็ตระหนักดีว่า แม้แต่ชีวิตพี่ก็ให้น้องได้ อยากให้น้องได้ตัดสินใจอีกทีว่าอยากกลับบ้านหรือเปล่า” น้ำตาของลูกผู้ชายไหลออกมา
“พี่ชาย ท่านคิดอะไร” เกย่าถามอย่างตระหนก
“เรากลับไปพร้อมทหาร ส่วนพี่จะทำหน้าที่แทนเอง”
“พี่ชายคิดจะเอาชีวิตมาแลกกับน้อง ไม่มีทาง น้องเข้าไปยังมีหวังว่าจะได้กลับมา แต่หากน้องกลับบ้าน น้องกับแม่จะไม่มีวันได้พี่ชายกลับมา ขอร้องว่าอย่าพูดอย่างนี้อีก เรามีสายเลือดทหารเหมือนกัน” เกย่าบอกมาดมั่น เช็ดน้ำตาทันที
“กี่ทุ่มแล้วคันกา” เกคาถามทหารเพื่อนสนิทของน้องสาว
“จวนห้าทุ่มแล้วครับ”
“เร่งเครื่องหน่อย ไม่อยากให้ดึกไปกว่านี้”
ทางเรียบกลับเริ่มขรุขระเป็นหลุม ทำให้การเดินทางลำบากยิ่งขึ้น ยิ่งไกลยิ่งแลเห็นธรรมชาติอันสมบูรณ์ คันกาเร่งความเร็วทะยานเข้าป่าลึกจนหยุดอยู่หน้านายทหารสามนาย
ทุกคนลงจากรถ เกคาส่งกระเป๋าเป้ให้น้องสาว รับความเคารพต่อทหารผู้อยู่ใต้บังคับบัญชา
“มีความคืบหน้าอะไรบ้างหรือเปล่า” เกคาถามลูกน้อง
“ทางอากูเดสลาดตระเวรถี่ขึ้นครับ เรามีเวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงที่จะผ่านเข้าเขตอากูเดส”
“เอาล่ะ งั้นออกเดินทาง ขอกำลังแค่สองนายเพื่อนำทางพวกเรา” ท่านนายพลสั่ง
“ครับ” ทั้งสามรับคำ
เสียงสัตว์เล็กร้องระงม กลิ่นดินหอมกรุ่นโชยกระทบจมูก
เกย่ามองรอบตัว เห็นหลังคาผ้าใบที่เหล่าทหารใช้คุมแดดคุมฝนอย่างง่ายๆ โดยไม่มีเบาะรองนั่ง หญิงสาวไม่มีเวลาสำรวจอะไรถ้วนถี่ก็ต้องจ้ำเดินตามพี่ชาย ทหารเจ็ดคนเดินเข้าป่าทึบด้วยอาวุธเบาครบมือ หลอ่นเร่งฝีเท้าให้เสมอกับความเร็วของทุกคน เดินจนล้าแทบหมดแรงทั้งหมดก็หยุดรอคำสั่งของเกคา
เกคาให้สัญญาณกับคันกาว่าให้ประจำอยู่ที่นี่ ส่วนคนที่เหลือให้ออกเดิน
“ถึงแล้วเกย่า อีกไม่กี่ก้าวเราจะเข้าเขตอากูเดส น้องพร้อมใช่ไหม”
“พร้อมค่ะ”
ชายหนุ่มตบบ่าน้องสาวแทนอ้อมกอดอบอุ่น ทหารทุกนายกระชับอาวุธปืน อยู่ในท่าเตรียมพร้อม ได้ยินคำสั่งก็ออกเดินอย่างระมัดระวัง
เกคามองไปรอบๆ น้องสาวทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม เขายกมือสั่งหยุดเดิน
“เราทำสำเร็จแล้ว เกย่าไป”
ร่างเล็กจ้ำไปตามทางที่นัดแนะกันเอาไว้เมื่อคืน
เกคามองน้องสาวที่กำลังก้าวผ่านเข้าเขตอธิปไตยของอากูเดส แสงหนึ่งวาบเข้ามาในดวงตา พร้อมกับเสียงปืนดังขึ้นหนึ่งชุด ทหารหนุ่มมองน้องสาวถูกจู่โจมจับตัวเอาไว้ สีหน้ากระต่ายน้อยของเขาตื่นตระหนก
เกย่าจ้องมองพี่ชายอย่างต้องการปรึกษาว่าจะทำอะไรต่อไป
“เราทหารอากูเดส ขอให้พวกนายทั้งหมดวางอาวุธ” เสียงเข้มประกาศก้องมาจากดินแดนตรงหน้า
ผู้บัญชาการทหารบกยกมือสั่งให้ทหารภายใต้บังคับบัญชาวางอาวุธ เกคาฝ่าความมืดมองหาเจ้าของคำสั่ง
พบนายทหารร่างสูงใหญ่ยืนตระหง่าน ชายหนุ่มพยายามมองดูว่าทหารของปาค่ามีกันจำนวนเท่าไหร่
คาลิคมองกำลังพลของปาค่าฝ่าความมืดแห่งรัตติกาล
“ฉันมีกองกำลังหลายเท่ากว่าพวกนายมากนัก”
ผู้บังคับบัญชาของทั้งสองฝ่ายเร่ิมเจรจากัน
“ข้าผู้บัญชาการทหารบกของปาค่า ขอแลกชีวิตของทุกคนด้วยชีวิตของข้า” เกคาเอ่ยเสียงดังพอกัน
“แล้วท่านชื่ออะไร”
เกคาชะงัก เหตุใดทหารนายนั้นต้องถามชื่อของศัตรู
“ข้าบอกแล้วท่านจะยอมอย่างที่ข้าต้องการงั้นรึ”
สิ้นเสียงของเกคา กระสุนหลายนัดพุ่งเฉียดปลายเท้าเขา ทว่าไม่ทำให้เกคาสะพรึง
ต่างจากเกย่าที่สะบัดตัวหนีการเกาะกุมแล้วออกวิ่งไปหาพี่ชาย หากว่าไม่พ้นมือของทหารกล้าแห่งอากูเดส คาลิคคว้าร่างระหง จับเอาไว้แน่นจนหญิงสาวรู้สึกเจ็บ
‘เกย่า’ เกคาเข่าแทบทรุด น้องสาวยังอ่อนประสบการณ์นัก ไม่สามารถควบคุมอารมณ์รัก ห่วงหา เศร้าไว้ใต้ความเข้มแข็ง
@@@@@@@@@@@@@@@@@
เกย่าเจอคาลิคแล้วสิ เบื้องหลังเบื้องลึกเรื่องนี้มีมากเลย อิอิ รอเลยนะ จะนั่งแก้จนถึงหกโมง ก็คงลงได้อีกสักตอนหรือสองตอน
ความคิดเห็น