ควันปืน ใต้แสงตะวัน - นิยาย ควันปืน ใต้แสงตะวัน : Dek-D.com - Writer
×

    ควันปืน ใต้แสงตะวัน

    เมื่อฟาร์มถูกโจมตี และแผ่นดินเริ่มลุกเป็นไฟ เธอต้องลุกขึ้นสู้ ท่ามกลางควันปืน ศัตรูที่ไม่เห็นหน้า และพันธมิตรที่ไม่แน่ใจว่าจะเชื่อใจได้หรือไม่ "เพื่อปกป้องบ้าน เหล่ามิตร และสิ่งที่พ่อเธอเชื่อ"

    ผู้เข้าชมรวม

    37

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    24

    ผู้เข้าชมรวม


    37

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  9 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  12 ก.ค. 68 / 16:52 น.
    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ปฐมบท: กลิ่นดินปืนและแสงตะวัน

    ณ ดินแดนแห้งแล้งทางตะวันตกของรัฐเท็กซัส ค.ศ. 1874 เมืองเล็ก ๆ ที่ชื่อว่า “ดราย ฮอลโลว์” (Dry Hollow) ตั้งอยู่โดดเดี่ยวใกล้ขอบทะเลทรายสีแดงคล้ำ อากาศร้อนระอุและฝุ่นทรายที่ลอยค้างในอากาศทั้งวันทั้งคืนทำให้ที่นี่ไม่ใช่ที่อยู่ของผู้คนธรรมดา แต่เป็นแหล่งซ่อนตัวของความลับ ความแค้น และเรื่องเล่าที่ไม่เคยมีใครกล้ายืนยัน

    ดราย ฮอลโลว์เคยเป็นเพียงจุดแวะพักของขบวนเกวียนในสมัยเปิดพื้นที่ตะวันตกใหม่ๆ มีเพียงบ่อน้ำตื้นหนึ่งแห่ง ต้นสนแคระประปราย และโบสถ์ไม้หลังเล็ก ๆ ที่ไม่ค่อยมีใครเข้าไปนอกจากวันฝนตก แต่เมื่อเหมืองเงินในเขตเทย์เลอร์ฟอร์คระเบิดขึ้นในช่วงปี 1868 คนก็เริ่มหลั่งไหลเข้ามา ทั้งชาวเหมือง พ่อค้า นักเลง และนักบวชปลอม ๆ ที่อ้างว่าจะชำระวิญญาณด้วยคำภาวนาและแอลกอฮอล์

    ในช่วงเวลานั้นเอง ครอบครัวฮาร์เปอร์ได้ย้ายเข้ามาตั้งรกรากจากทางตอนเหนือ พวกเขาไม่ใช่คนร่ำรวย แต่เป็นนักสู้ในแบบของตัวเอง แซมมวล ฮาร์เปอร์ เคยเป็นทหารม้าผู้เก่งกาจในช่วงสงครามกลางเมือง พอหมดสงคราม เขาได้นำภรรยา—มารี และลูกสาว ” เอลลี” วัย 7 ขวบของเขามุ่งหน้าลงใต้ด้วยความหวังจะเริ่มต้นชีวิตใหม่

    เขาเลือกที่ดินทางฝั่งตะวันออกของเมือง — แผ่นดินที่เต็มไปด้วยหญ้าทุ่งและร่องน้ำตื้นที่พอเลี้ยงวัวได้บ้าง ฝั่งตรงข้ามคือเนินเขาที่ทอดยาวเหมือนเป็นกำแพงธรรมชาติ และทางเหนือมีป่าสนซึ่งกลายเป็นแหล่งล่าสัตว์และไม้สำหรับสร้างที่อยู่อาศัยของครอบครัวในเวลาต่อมา

    ฟาร์มฮาร์เปอร์เริ่มจากโรงนาเพียงหลังเดียว มีเพิงไม้สำหรับเลี้ยงม้า และบ้านไม้หลังเล็กที่มีห้องใต้ดินสำหรับเก็บอาหารแห้ง ในช่วงปีแรก ชีวิตไม่ง่าย แต่ครอบครัวนี้รู้จักอดทน

    เอลลีเติบโตขึ้นท่ามกลางเสียงตอกตะปู กลิ่นมูลวัว และเสียงฝึกซ้อมปืนของพ่อและครอบครัว ตอนอายุ 11 เธอใช้ปืนลูกซองยิงไคโยตีตัวแรกได้ พ่อของเธอจึงให้ปืนกระบอกนั้นเป็นของขวัญ พร้อมคำพูดสั้น ๆ ว่า “ใช้มันเพื่อปกป้อง ไม่ใช่เพื่อรุกราน”

    เธอจดจำคำพูดนั้นได้เสมอ — โดยเฉพาะตอนที่ต้องยืนหยัดเพียงลำพังหลังการเสียชีวิตของพ่อจากการลอบยิงเมื่อสามปีก่อน ส่วนแม่ของเธอได้เสียชีวิตไปตั้งแต่เธออายุสิบแปดปี

    หลังจากงานศพสิ้นสุดลง เอลลีไม่ร้องไห้ต่อหน้าผู้คน แต่เธอขุดหลุมเพิ่มข้างหลุมพ่อ ฝังสมุดบันทึกเก่าของแม่ไว้ใต้ไม้กางเขน และพูดเพียงประโยคเดียวเบา ๆ ว่า “ฉันจะดูแลมันต่อเอง”

    ในเมืองดราย ฮอลโลว์ ชื่อของเอลลีเป็นที่รู้จักในฐานะเจ้าของฟาร์มสาวที่พูดน้อยแต่ปืนไว มีทั้งคนที่เคารพเธอและคนที่อิจฉาเธอ ฟาร์มของเธอรอดจากฤดูแล้งปี 1872 ที่หลายฟาร์มพังไปต่อหน้าต่อตา และยังเป็นเพียงไม่กี่ฟาร์มที่ยังมีเสบียงให้เมืองพึ่งพาในปีถัดมา

    แต่ภายใต้แสงตะวันอันร้อนแรงของดราย ฮอลโลว์ มีเงาที่ไม่เคยหายไปไหน — เงาของผู้คนที่ยังไม่ยอมวางปืน เงาของความแค้นจากอดีต และเงาของการล่มสลายที่กำลังคืบคลานเข้ามาอย่างช้าๆ

    ชื่อของแก๊งแม็คกรอว์เริ่มแพร่กระจายจากหุบเขาฝั่งใต้ ข่าวการปล้นฟาร์ม การเผาเสบียง และการหายตัวไปของคนงานลอยเข้าหูของชาวเมืองเป็นระยะๆ โดยเฉพาะผู้ที่เคยเห็นสัญลักษณ์หัวกระโหลกบนกระเป๋าหนังที่พบในซากเกวียน — เครื่องหมายของสงครามเงาที่กำลังจะปะทุ

    และในวันหนึ่ง… เมื่อลมหอบกลิ่นดินปืนมาปะทะแสงตะวันอีกครั้ง ทุกคนจะรู้ว่า สิ่งที่เคยซ่อนอยู่ในเงา ไม่ได้อยู่นิ่งอีกต่อไป

    บุคคลสำคัญในดราย ฮอลโลว์

    เอลลี เมย์ ฮาร์เปอร์ (Ellie Mae Harper) – หญิงสาววัย 27 ปี รูปร่างสมส่วน ผิวแทนแดด ดวงตาสีอำพัน สวมหมวกฟางเก่าของพ่อแทบตลอดเวลา เธอเติบโตมาในฟาร์มที่พ่อสร้างขึ้นด้วยมือเปล่า มีนิสัยเด็ดเดี่ยว พูดน้อย มองโลกอย่างตรงไปตรงมา และมีความสามารถในการใช้ปืนทั้งปืนพก ไรเฟิลและลูกซองระดับแม่นยำ เธอรักความสงบ สะสมสมุดบันทึกเก่า และฝึกยิงเป้าทุกเช้าเป็นนิสัย

    ไรอัน โคลเตอร์ (Ryan Coulter) – นายอำเภอวัย 36 ปี อดีตมือปืนทหารม้าผู้มีอดีตที่ลึกลับ เขามีรูปร่างสูงแกร่ง ผิวขาวแดงจากแดนเหนือ ดวงตาคม สีหน้าเคร่งขรึม มีรอยแผลเก่าที่ไหล่ซ้ายเป็นเครื่องเตือนใจ ไรอันย้ายมาที่ดราย ฮอลโลว์เมื่อ 4 ปีก่อนหลังออกจากหน่วยลาดตระเวนชายแดน เขาไม่พูดเรื่องอดีต แต่ทำงานอย่างซื่อตรงและไม่เคยปล่อยให้ผู้บริสุทธิ์ตกอยู่ในอันตราย

    วิลเลียม “วิล” ฮาร์เปอร์ (William “Will” Harper) – ผู้ช่วยนายอำเภอวัย 31 ปี หน้าคม ผมสีน้ำตาลเข้ม มีรอยแผลจางที่คางขวา เขาเติบโตในเมืองนี้ และยึดถือไรอันเป็นต้นแบบ มีนิสัยจริงใจ คล่องแคล่ว และกล้าหาญ ฝึกยิงปืนพกเร็วและแม่น วิลเป็นคนตื่นเช้าเสมอและมักออกลาดตระเวนก่อนใคร

    ด็อกเตอร์อีไล วอร์เรน (Dr. Eli Warren) – หมอวัย 58 ปี ผู้ผ่านสนามรบมาหลายแห่งในสงครามกลางเมือง เขามีรูปร่างผอมสูง ผมขาวบาง ใส่แว่นสายตากรอบทองเก่า ๆ มีนิสัยเงียบขรึม แต่เด็ดขาดในยามจำเป็น เชื่อในการเยียวยามากกว่าความรุนแรง ดื่มกาแฟดำไม่ใส่น้ำตาลวันละ 3 แก้วเสมอ

    บาทหลวงฮาร์เวย์ ซิมส์ (Father Harvey Simms) – นักบวชวัย 49 ปี ผู้สวมเสื้อคลุมดำและถือพระคัมภีร์หนักเท่าปืนลูกโม่ เขาย้ายมาจากแคนซัสหลังการล่มสลายของชุมชนเดิม มีท่าทีสงบนิ่ง แต่สายตาคมดุ เขาเชื่อว่าแสงศรัทธาสามารถเผาผลาญความชั่ว แต่เมื่อจำเป็นแสงจากปลายปืนก็สามารถเผาผลาญความชั่วได้เช่นกัน เขามักเดินเยี่ยมทุกฟาร์มด้วยเทียนและขวดเหล้าองุ่นเสมอ

    โธมัส เดลลีย์ (Thomas Delley) – ช่างตีเหล็กวัย 52 ปี ร่างหนาเหมือนท่อนซุง มือหยาบกร้านจากเตาหลอม เคยมีอดีตในเมืองอุตสาหกรรมฝั่งตะวันออกก่อนหนีมาเพราะทะเลาะกับนายทุนและเผลอฆ่านายทุน เขามีนิสัยเงียบขรึม รักเสียงค้อนทุบเหล็ก และเชื่อว่าอาวุธที่ดีจะพูดแทนตัวเจ้าของได้เสมอ อย่าได้ประมาทเขา เพราะปืนลูกซองยาวแขวนอยู่ใกล้มือของเขาเสมอ

    เบนจามิน “เบ็น” โคลฟิลด์ (Benjamin “Ben” Caulfield) – ช่างซ่อมรถม้าวัย 46 ปี ผู้มีรอยสักรูปเฟืองบนข้อมือและเสียงหัวเราะดังที่สุดในเมือง เคยประจำการกับกองทัพม้าในนิวเม็กซิโก ก่อนมาเปิดร้านรับซ่อมรถม้าในดราย ฮอลโลว์ เขารู้จักรถม้าทุกรุ่น ทั้งยังรับสร้างรถม้า รถม้าที่ใช้ในดราย ฮอลโลว์กว่าครึ่งเป็นฝีมือของเขา นอกจากนี้เขายังสามารถสร้างกับดักภายในเวลาไม่ถึงชั่วโมง

    เฮนรี่ ชอว์ (Henry Shaw) – เจ้าของโรงแรม “ลอว์เรนซ์ อินน์” วัย 65 ปี อดีตทหารม้าจากเทนเนสซี แม้พิการเดินขาเป๋จากแผลเก่าแต่ใจแข็งราวตะปูและฝีมือยิงปืนยังใช้การได้ เขาเข้มงวดเรื่องเวลา ความสะอาด และมักจดชื่อแขกน่าสงสัยไว้ใต้โต๊ะ มีสมุดจดเล่มเก่าที่ใครก็ไม่เคยได้อ่าน

    มารี เบลล์ (Marie Belle) – เจ้าของร้านเหล้า “เดอะ ไพน์ บาร์เรล” หญิงผิวขาวรูปร่างโปร่ง วัย 44 ปี อดีตนักร้องคณะละครเร่ เธอรู้จักและจดจำเสียงฝีเท้าแทบทุกรูปแบบ และมีปืนพกเดอร์ริงเจอร์กระบอกเล็กซ่อนไว้ในกระเป๋าส่วนใต้เคาน์เตอร์กลับวางปืนลูกซองที่สามารถหยิบใช้ได้ทันทีในยามคับขัน เธอเป็นคนที่ไม่มีใครในเมืองกล้าลองของ

    ลูคัส เวนท์ (Lucas Vent) – เจ้าของร้านขายสินค้าเบ็ดเตล็ดวัย 39 ปี ผมทองหยักศก สวมผ้ากันเปื้อนทุกวัน เขาเคยเป็นลูกเรือค้าขายก่อนมาตั้งหลักที่นี่ เขาชอบเก็บของแปลกไว้ในหลังร้าน และมีนิสัยบ่นเสียงเบาเวลาบวกเลขผิด ร้านค้าของเขามีของขายทุกอย่างที่ชาวเมืองต้องการรวมถึงกระสุนปืน ร้านของเขายังเป็นที่รับส่งจดหมายและพัสดุ โดยจะมีรถม้าโดยสารและรับส่งสินมาจอดที่ร้านทุกสัปดาห์

    รูเพิร์ต แฟรงก์ (Rupert Frank) – ผู้จัดการธนาคารชายวัย 51 ปี ผมเรียบ ใส่สูทฝั่งตะวันออก เขาเคยเป็นที่ปรึกษาทางการเงินในเมืองใหญ่ แต่ถูกหักหลังโดยหุ้นส่วน จึงหนีมาเริ่มต้นใหม่ เขาเคร่งครัดเรื่องเอกสาร และมีปืนพกวินเชสเตอร์ในลิ้นชักที่เขาไม่เคยเปิดต่อหน้าลูกค้า

    แก๊งโจรในละแวกเมือง

    แก๊งแม็คกรอว์ (McGraw Gang) – แก๊งที่เคลื่อนไหวหลักทางตอนใต้ของดราย ฮอลโลว์ มีจำนวนสมาชิกประมาณ 18 คน นำโดย โจนาธาน แม็คกรอว์ หัวหน้าแก๊งผู้โหดเหี้ยมวัย 42 ปี ร่างสูงใหญ่ ดวงตาแดงคล้ำ มีแผลเป็นพาดคิ้วซ้าย เขาเคยเป็นลูกชายของคนงานเหมืองที่ตายจากการโกงค่าแรง โจนาธันเชื่อว่าโลกมีแต่ความอยุติธรรม และได้รวบรวมคนจากชายแดนมาเป็นกองกำลัง เขาไม่เคยไว้ชีวิตใครที่ทรยศ และมีเป้าหมายจะควบคุมเส้นทางการค้าให้ได้ทั้งหมดและอดีตลูกชายคนงานเหมือง แก๊งนี้เน้นปล้นฟาร์ม ปล้นเสบียง และก่อกวนการขนส่งเป้าหมายคือยึดครองเส้นทางค้าหลัก และควบคุมเมืองผ่านความหวาดกลัว สมาชิกแก๊งส่วนใหญ่เป็นทหารเก่าหรือพวกนอกกฎหมายจากชายแดน

    แก๊งไวท์โครว์ (White Crow Gang) – กลุ่มนักฆ่าผู้เชี่ยวชาญการลอบสังหารและข่าวกรอง มีสมาชิกประมาณ 10 คน หัวหน้าคือ เซเวอริน เคน (Severin Kane) ชายร่างผอม สูง ใบหน้าแคบยาว ผิวขาวซีด ดวงตาสีเทาไร้แววและเย็นชา เขาเคยเป็นมือสังหารรับจ้างในเมืองฟิลาเดลเฟียก่อนหลบหนีมาสร้างเครือข่ายที่ชายแดน เป้าหมายของพวกเขาคือทำลายผู้นำชุมชนเพื่อให้เมืองไร้เสถียรภาพ เหมาะแก่การเข้ายึดโดยไม่ต้องยิงสักนัด

    แก๊งซันสเกลด์ (Sunsclade Riders) – แก๊งขี่ม้าเร่ร่อนที่รวบรวมคนชายขอบจากพื้นที่ทะเลทรายฝั่งตะวันตก สมาชิกมีประมาณ 12–15 คน นำโดย เคน “แบล็คดัสต์” ลี (Ken “Blackdust” Lee) ชายผิวเข้ม ดวงตาคมดั่งนกอินทรี เคยเป็นนักค้าทาสและอาวุธทางตะวันตกเฉียงใต้ก่อนถูกเนรเทศ แก๊งนี้โจมตีเร็ว ล่าถอยไว และมักพุ่งเป้าไปยังคอกม้า โรงนา หรือขบวนสินค้าเคลื่อนที่ เป้าหมายคือยึดปศุสัตว์ อาวุธ และทำลายเสถียรภาพเศรษฐกิจท้องถิ่น

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    นักเขียนเปิดให้แสดงความคิดเห็น “เฉพาะสมาชิก” เท่านั้น