ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ชุลมุนวุ่น ลุ้นรักเจ้าหญิงกำมะลอ

    ลำดับตอนที่ #3 : Chapter 2 : วันที่ 1.....ช่วงทำคะแนน

    • อัปเดตล่าสุด 29 มี.ค. 49


                     
                     ยามเช้าในพระราชวังแห่งอาทิตยนคร ช่างสดใส เมื่อมีทั้งแสงแดดอ่อนๆ และสายลมเบา แม้แต่หมอกที่พริ้วไหวยังพากันมารวมตัวอยู่ที่นี่ ให้บรรยากาศดังหลงอยู่ในความฝัน แม้กระทั่งบรรดาสิ่งมีชีวิตแสนงดงามอย่างนกน้อย หรือกระต่ายตัวจิ๋ว ยังพากันอพยพสำมะโนครัวเข้ามาอาศัยอยู่เป็นการถาวร ณ พระราชวังแห่งนี้ ยังมีอีกสถานที่หนึ่ง ที่เป็นดังที่พำนักยามต้องการพักผ่อนขององค์ชายรัชทายาท เฮลมัส ผู้บัดนี้ นั่งนิ่งอยู่บนเก้าอี้ด้วยสีหน้าเบื่อหน่าย ที่นั่น คืออุทยานแสนร่มรื่น ที่เรียกกันติดปากว่า อุทยานเฮลมัสนั่นเอง

                      รอบด้านเจ้าชายหนุ่มรายล้อมไปด้วยหญิงสาวที่แย่งกันหยอดคำหวาน หรือป้อนขนมที่ไม่มีใครรู้เลยว่า เจ้าชายทรงเกลียดขนมหวานเป็นที่สุด เส้นอารมณ์ของเฮลมัสเริ่มบางเบาลงทุกทีๆ ไม่มีใครในบรรดาหญิงสาวนับสิบคน ที่จะสังเกตุว่า พระพักตร์ของเจ้าชาย ในตอนนี้ แทบจะฆ่าใครได้อย่างไม่ลังเลเลยด้วยซ้ำ

                      และก็ไม่มีใครอีกเช่นเคย ที่จะสังเกตุว่า ยามสายที่ดวงตะวันเริ่มจะเคลื่อนคล้อยสูงขึ้นทุกที ..ยังมีเจ้าหญิงองค์หนึ่ง บรรทมหลับนิ่งอย่างเป็นสุข  โดยไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้น....ใช่แล้ว...ซีเลียนาเรลนั่นเอง

    ................

                      อือ... 

                       แพขนตางอนยาว ขยับเล็กน้อย พร้อมๆกับที่คิ้วเรียวมนของผู้นอนหลับอยู่บนเตียงเริ่มจะขมวดมุ่นลง ไม่นาน กลุ่มขนตาก็เลื่อนพรึบขึ้นไปด้านบนทันใด เผยให้เห็นนัยน์ตาสดใสสีเขียวมรกต ที่ยังฉาบไว้ด้วยความงัวเงียของการเพิ่งตื่นนอนของหญิงสาว แม้แสงตะวันแรงกล้าจากทางหน้าต่างก็ไม่ได้สร้างความกังวลใดๆ เพราะนางเพียงยิ้ม แล้วปิดเปลือกตาลงอีกครั้ง....

                       ก็อกๆ ก็อกๆ

                       ปัดโถ่เอ้ย...เสียงสบถในใจดังขึ้นอย่างหงุดหงิด แต่ความง่วงยังสั่งให้นางนอนนิ่ง 
                       ใครกันนะ ไปไหนก็ไปซะที มาเคาะหา.....อะไร

                       ก็อก...ก็อก...

                       หากเสียงเคาะประตูครั้งต่อมากลับดูลังเล ไม่แน่ใจ ซีเลียนาเรล ผุดลุกขึ้นมาในท่านั่ง ก่อนความคิดด้านดีจะเข้าครอบงำ

                       ก็ได้...ใครบังอาจรบกวนได้นะ หนอย!!!

                       ร่างบางกระโดดผลุงลงจากเตียงนอนแสนสบาย ตรงไปยังบานประตูสีน้ำตาลเข้มอย่างหงุดหงิด แต่ก่อนจะเอื้อมมือไปปลดล็อกก็นึกขึ้นมาได้ รีบวิ่งไปคว้าแปรง หน้ากระจกมาแปรงผมสีทองที่ยุ่งเหยิงให้พอดูได้ขึ้นเล็กน้อย

                       ยังไงซะตอนนี้เธอเป็นเจ้าหญิงซีเลียนาเรลนะ ..... ให้ใครมาว่าคนจากจันทรานครไร้มารยาทไม่ได้

                       หลังจัดการกับตัวเองเสร็จสรรพ ก็พุ่งลิ่วเข้าไปกระชากประตูเปิดออกทันใด 


                        "อ้าว มีธุระอะไรกับข้ารึเปล่าคะ"

                        หญิงสาวถามพร้อมรอยยิ้ม อารมณ์โกรธที่มีต่อผู้มาปลุก หายวับไปทันทีที่เห็นร่างหญิงชราผมสีขาวที่มัดขึ้นรวบไว้ด้านหลัง ในมือถืออุปกรณ์ทำความสะอาด ทั้งไม้กวาด ไม้ถูพื้น นางดูแปลกใจเช่นกันที่พบเธออยู่ในห้อง

                        "เปล่าหรอกจ๊ะ ข้าแค่จะมาทำความสะอาด ไม่นึกว่าจะมีคนอยู่ งั้นข้าไปล่ะนะ"

                        "อ้าว ไม่ทำความสะอาดแล้วหรือคะ มา เดี๋ยวข้าช่วยท่านเอง"

                        เทลซ่า นางกำนัลผู้มีหน้าที่ดูแลความสะอาดในพระราชวัง เงยหน้าขึ้นสบนัยน์ตาจริงใจสีเขียวมรกตอย่างตกใจ ตลอดชีวิตการทำงานอยู่ที่นี่ ไม่เคยมีใครอาสาช่วยนางทำงานมาก่อน แม้แต่พูดหวานๆเยี่ยงนี้ก็ยังไม่มี เทลซ่าได้แต่นิ่งอั้น ความรู้สึกนับถือในตัวเจ้าหญิงต่างเมืองคนนี้ ท่วมท้นขึ้นมาเต็มหัวใจ

                        "เป็นอะไรไปคะ"

                        หญิงสาวถามขึ้นอย่างห่วงใยเมื่อเห็นอีกฝ่ายเงียบไป และไม่ต้องรอถามซ้ำ นางเอื้อมมือไปดึงไม้กวาดจากหญิงชราที่สะดุ้งเฮือก

                        "ไม่ ไม่ต้องจ๊ะ เดี๋ยวข้าทำเอง.. ท่านหญิง....."

                        เทลซ่าพยายามนึกชื่อเจ้าหญิงผู้อ่อนโยน หากนึกอย่างไรก็นึกไม่ออก
                        อีกฝ่ายยิ้ม แล้วจึงต่อให้

                        "ซีเลียนาเรลค่ะ ข้าชื่อซีเลียนาเรล"

                        พร้อมคำกล่าว ซีเลียนาเรล จูงมือหญิงชราให้เข้ามาภายในห้อง แล้วพาไปนั่งลงบนเตียง เทลซ่าตัวแข็งไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อซีเลียนาเรลกล่าว

                        "ท่านพักผ่อนบ้างเถอะค่ะ ห้องนี้เป็นห้องของข้า เดี๋ยวข้าจัดการเอง"


                        ด้วยความที่ซีเลียนาเรลเจาะจงเลือกห้องพักที่อยู่ด้านท้ายสุดของวัง ดังนั้น หน้าต่างห้องของนางจึงเชื่อมติดกับอุทยานเฮลมัส อันร่มรื่น ด้วยเหตุนี้ จึงไม่แปลกที่นัยน์ตาสีดำสนิทของใครบางคนจะวาวโรจน์ขึ้นมาอย่างเดาอารมณ์ไม่ถูก เมื่อมองมาพบร่างบางๆ กำลังก้มๆ เงยๆ ทำความสะอาดห้องของตนอย่างคล่องแคล่ว 

                         รังเกียจข้าล่ะสิท่า ไม่ยอมออกจากห้องเชียวนะ สงสัยจะเป็นเจ้าหญิงจากเมืองใหญ่

                         "องค์รัชทายาทเพคะ ต้องการอะไรอีกมั้ยเพคะ"

                         เสียงหวาน ดึงความคิดชายหนุ่มให้กลับมาที่สถานการณ์ปัจจุบัน เขาไม่ตอบ แต่นึกอะไรบางอย่างได้จนต้องเผลอคลี่รอยยิ้ม

                         "ข้าอยากได้ดอกกุหลาบจัง อือ แต่คงไม่มีใครมีหรอกใช่มั้ย"

                         ได้ผล หญิงงามทั้งหลายพากันขมวดคิ้ว แล้วหาเหตุขอตัวออกไปทีละคน สองคน ปล่อยให้เฮลมัส หัวเราะออกมาอย่าง ... สะใจ ...

                         หาให้เจอนะ .. ก็สวนกุหลาบแห่งเดียวในอาทิตยนครน่ะ ข้ารู้จักอยู่คนเดียวนี่นา

                         "เอ่อ หัวเราะอะไรหรือเพคะ"

                         เจ้าชายสะดุ้งอย่างตกใจ ที่แท้ยังมี หญิงสาวคนหนึ่งยืนนิ่งมองพระองค์อยู่นานแล้ว เฮลมัส แอบบถอนหายใจอย่างเบื่อหน่าย

                         "เจ้าไม่ไปหากุหลาบรึไง"

                         นางทำหน้างงๆ ใบหน้าใสของวัยแรกรุ่นยังดูงดงามแม้ในยามสงสัย

                         "อ้าว ทรงสั่งให้ไปหาหรือเพคะ หม่อมฉันก็นึกว่า....บ่นเฉยๆ"

                         คนกล่าว กล่าวจบก็หน้าแดงแจ๋ด้วยความอาย แล้วทำท่าออกไปหากุหลาบตามคำสั่ง เฮลมัสหัวเราะออกมาเบาๆ 

                         "ไม่ต้องๆ ข้าแค่อยากจะไล่พวกนั้นไปน่ะ เจ้าฉลาดแล้วก็อย่าเพิ่งมาโง่สิ"

                         คำตรัสตรงๆ ทำเอาหญิงสาวยืนนิ่งอย่างทำอะไรไม่ถูก เจ้าชายเฮลมัสมองแล้วชักจะถูกใจ 

                         "เจ้าชื่ออะไรน่ะ มาจากเมืองไหน"

                         "เจ้าหญิงเฟเรเรีย จากจินตนคร"

                         หากเสียงตอบคำถามกลับกลายเป็นเสียงห้วนๆของบุรุษ ก่อนที่เจ้าของเสียงจะค่อยๆ ปรากฏกายพร้อมนัยน์ตาวาววับอย่างไม่สบอารมณ์

                         "คนรักของข้าเอง"

                         ใบหน้าของเฟเรเรีย ยิ่งร้อนผ่าวจนดูเหมือนจะมีควันออกมาได้ทุกเมื่อ นางค้อน ใส่ จอมเวทไทน์ผู้กล่าวออกมาได้อย่างไม่อายฟ้าดิน แล้วบ่นอุบ แต่กลับแผ่วเบา

                         "บ้า ใครเป็นคนรักของท่านกัน"

                         จอมเวทไทน์เริ่มจะอารมณ์ดีขึ้น เมื่อได้เห็นนิสัยแสนจะขี้อายของคนที่เขาอ้างว่าเป็นคนรัก ไทน์ยิ้มเจ้าเล่ห์

                         "อะไรนะ รักข้าเหมือนกันงั้นเหรอ อ้อ ไม่เป็นไรๆ ข้ารู้แล้วล่ะ"

    ...............................................
    สวัสดีค่ะ 

                        อ่านแล้วช่วยคอมเมนต์ความคิดเห็นกันด้วยนะคะ ได้โปรด...อิอิ 
                        ส่วนที่จะให้เราไปอ่านเรื่องอะไร เดี๋ยวไปแน่นอนค่ะ แต่ต้องรอให้ว่างก่อนนะ ติ - ชม ด้วยก็ดีนะคะ เราอยากจะพัฒนาฝีมือให้มากกว่านี้


    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×