ลำดับตอนที่ #5
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Cinderella
Cinderella ❥ Kris x Suho
「 so this is love ... 」
Cinderella by Charles Perrault
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...
เอลล่าอาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงที่มีลูกสาวอยู่2คน พวกเธอใช้งานเอลล่าราวสาวใช้ และใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ซ้ำยังเรียกเอลล่าว่า ซินเดอเรลล่า(เอลล่าผู้มอมแมม) วันหนึ่ง มีจดหมายเชิญหญิงสาวทุกคนมาร่วมงานเต้นรำ เพื่อหาคู่ครองให้กับเจ้าชาย ลูกสาวทั้งสองต่างพากันดีใจ เช่นเดียวกับเอลล่า แต่แม่เลี้ยงใจร้ายกลั่นแกล้งต่างๆจนเอลล่าไม่มีชุดใส่ไปงานเต้นรำเธอเสียใจมาก จึงหนีไปร้องไห้ ทันใด นางฟ้าแม่ทูนหัวปรากฏตัวขึ้นและบันดาลรถม้าฟักทอง ชุดสวยงามและรองเท้าให้ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องกลับมาก่อนเที่ยงคืน ไม่เช่นนั้นเวทมนตร์จะเสื่อมลง เอลล่าได้เต้นรำกับเจ้าชายจนลืมเวลา เมื่อระฆังตีบอกเวลาเที่ยงคืน เอลล่าก็รีบหนีไปโดยลืมรองเท้าแก้วเอาไว้ เจ้าชายจึงประกาศว่าจะแต่งงานกับเจ้าของรองเท้าแก้วเสนาบดีได้ออกตามหา จนถึงบ้านแม่เลี้ยง ลูกสาวทั้งสองไม่สามารถสวมได้ นางโกหกว่าไม่มีหญิงสาวในบ้านอีก พร้อมทำลายรองเท้าแก้ว ทุกคนต่างหมดหวัง แต่เอลล่าก็หยิบรองเท้าแก้วอีกข้างที่เก็บไว้ขึ้นมาและสวมให้กับเหล่าเสนาดู ทำให้เอลล่าได้แต่งงานกับเจ้าชาย และมีความสุขตราบนานเท่านาน
Happy Ever After
RRRRrrrrrr....
"ฮึ้ย คนจะนอน วางสายไป กูยังไม่ตื๊นนนน"
ร่างยาวเหยียดแผ่หลากลางเตียงกว้าง อู๋อี้ฟานหรือคริสตะโกนใส่โทรศัพท์อย่างรำคาญพร้อมหมอนมาปิดหู ทว่าเจ้าตัวร้ายกลับไม่มีการปรานีใดๆ มันสั่นสะเทือนและแผดเสียงสะใจยังกับแผ่นดินไหว จนคนหล่อทนไม่ไหวต้องเสียสละเวลานอนอันมีค่าลุกขึ้นมารับโทรศัพท์
"เหว่ยๆๆๆ"
' จัดห้องรึยังไอ้ฟาน หลานใกล้จะไปถึงแล้วนะ '
"ไฮ้ยยยยยย ถามอีกแล้วนะเฮีย เนี่ยจัดเสร็จแล้ววว รอลูกเลี้ยงพี่มาอย่างเดียวเนี่ยยยย"
คนตัวโตโกหก รอบกายเขายังคงเละเทะไม่มีชิ้นดี ทั้งกองเสื้อผ้าอับเหม็น เศษขนมกระป๋องเบียร์เกลื่อนกลาดจากเมื่อคืนและหลายๆอย่างที่เหล่าชายโสดมักเป็นกัน ปลายสายจิ๊ปากอย่างรู้ทัน
' ชิ ถ้าแกเป็นคนว่าง่ายจริงๆ เฮียคงไม่จู้จี้กับแกหรอก แล้วแกก็ห้ามตีหน้ายักษ์ใส่น้องนะเว้ย แม่ง หน้าตายังกะยักษ์ '
"เออน่ะ หน้าพี่ก็ไม่ได้ต่างจากผมนักหรอก กำ"
' หยาบมากไอ้ฟาน ไอ้หานพี่แกหน้าตาดีกว่ามากครับ หน้าไม่เหี่ยวด้วย แบร่ '
อี้ฟานเบะปากหมั่นไส้ พอนึกถึงเวลาที่คนพูดแลบลิ้นจริงก็ขนลุกเกรียว อี๋หลงตัวเอง ก็จริงอยู่ที่พี่ชายคนสนิทคนนี้น่ะมันหน้าใสเนียนนุ่มขยุ้มหัวใจจนชวนเข้าใจผิดว่ายังไม่บรรลุนิติภาวะแค่ไหน แต่ก็นั่นแหละ แหวะ!
"จ้ะ พ่อคนแมน ตั้งแต่ไปอยู่เกาหลีกับพ่อม่ายลูกติดนั่น ตีนกาขึ้นอีกกี่แผงแล้วล่ะ"
' อย่าลามเกลื้อน ไม่เอาไม่ดี มินซอกไม่ได้ลูกติด นั่นหลานเค้าเข้าใจป่ะแบบว่าลูกพี่สาวไรงี้อือ กูคนแรกของเค้าครับไอ้สลัดผลไม้ '
"แน่ใจ๊? หน้าตาเค้าก็ดีนะ ไม่มีหลักฐานซะหน่อยว่าเฮียเป็นคิวแรก"
' หึ อย่ามาไอ้น้อง แกทำครอบครัวเฮียแตกแยกไม่ได้หรอก '
ถึงลู่หานจะพยายามทำตัวเป็นผู้ใหญ่ใจเย็นแค่ไหนก็เถอะ แต่คริสก็รู้อยู่ดีว่าวางสายเมื่อไหร่พี่ชายเขาจะต้องไปล้งเล้งใส่แฟนแก้มป่องอีกแหงๆ วะฮ่าๆๆๆ อ่อนหัดมากไอ้พี่เด็กน้อย
"จิ๊ เออ จะไปอาบน้ำแล้ว วางนะรำคาญ จุ๊บๆ"
' เฮ้ยเดี๋ยว น้องมัน... '
อู๋ฟานไม่สนใจจะคุยต่อจึงจัดการตัดสายอย่างเอาแต่ใจสุด ร่างสูงลุกจากเตียงพร้อมคว้าผ้าขนหนูเน่าๆและตรงดิ่งเข้าห้องน้ำในทันที
"ย๊าาาา!!! ไอ้อู๋!!"
ตัดไปยังปลายสาย ลู่หานนั่งกระทืบเท้าขัดใจสุดๆกับการกระทำของน้องชาย เมื่อลองโทรไปอีกที่อีกฝ่ายก็ปิดเครื่องตัดปัญหาซะอย่างนั้น ลู่หานกุมขมับหนักใจ กลัวน้องชายมันจะไปทำตัวทรามใส่ลูกเลี้ยงเขาตามที่มันชอบทำ ถ้าเป็นเเบบนั้นจริง ลู่หานเกรงจะโดนว่าที่ภรรยาไล่ออกจากบ้านแหง โทรไปเตือนมันก็ไม่ฟัง อึดอัดเหลือเกินโว้ยยย
อีกอย่าง กับเด็กคนนั้นน่ะ มันมีข้อห้ามอยู่... ทำไมไม่ฟังเฮียบ้างวะไอ้อู๋....
ร่างเล็กๆของคิมจุนมยอนหยุดลงที่บานประตูห้องหนึ่ง หยิบที่อยู่ที่ได้รับมาขึ้นเทียบเพื่อความแน่ใจและเคาะประตูห้องด้วยความสำรวม
ก๊อก! ก๊อก!!
แล้วข้างในตะโกนกลับมาด้วยความสุภาพว่า 'เออๆรู้แล้ว รอแป๊ปนึง' จุนมยอนยืนรอสงบนิ่ง แป๊ปแล้วแป๊ปเล่าก็ยังไม่เห็นหัวเจ้าของห้อง เขายกนาฬิกาขึ้นมาดูพบว่าผ่านไปเกือบสามนาทีแล้ว
น่ากลัวว่าห้องจะกว้างเหมือนสวนเอเดนเลยกระมั้ง
เด็กหนุ่มถอนหายใจและตั้งท่าจะเคาะประตูอีกครั้งด้วยความหงุดหงิดน้อยๆ
แอ๊ด...
ปั้ก!
"มา โอ๊ย อีด้อง ไหปลาร้ากู"
"ขะ ขะ ขอโทษครับ ผมแค่จะเคาะประตู"
จุนมยอนโค้งศีรษะขอโทษขอโพยตามประสา ทว่าเด็กน้อยก็ต้องสะอึกกับสภาพคนตัวสูงที่เอาแต่จนอีไหปลาร้าที่เพิ่งโดนทุบไปเมื่อครู่ ไม่นึกไม่ฝันมาก่อนเลยว่าจะโดนแอคแทคขนาดนี้ อะไรคือกล้ามหน้าท้องขาวๆ! อะไรคือผ้าสั้นๆพันเอว! อะไรคือหน้าหล่อๆของผู้ชายคนนี้!
...โรคจิตป่าววะ?
"สวัสดีครับ อะ อาคริส?"
คริสละสายตาจากไหปลาร้าและมองเด็กตัวเล็กตรงหน้า ใบหน้าขาวๆกับปากชมพูดูคุ้นเคยแปลกๆ เจ้าตัวทำท่าคิดก่อนจะทำท่าอ๋อ
"แกคือ? ลูกเลี้ยงพี่หานใช่ป่ะ"
"ถ้าหมายถึงคุณลู่หานแฟนใหม่น้ามินซอกก็ใช่ครับ...."
จุนมยอนทำหน้าเซ็งเมื่อนึกถึงเจ้าของชื่อ บรรยากาศที่เปลี่ยนกระทันหันทำให้คริสขมวดคิ้ว สงสัยเรื่องในครอบครัว ไม่ควรเข้าไปยุ่งสินะๆ
"ทำไมเรียกคุณวะ พ่อเลี้ยงใหม่แกไม่ใช่เหรอ"
แต่โทษนะ... ฟานอยากเสือก
"เขาไม่ใช่พ่อผมครับ พ่อเลี้ยงผมมีแค่พี่มินซอก"
คริสขำน้อยๆกับแมวตัวน้อยหวงของ จุนมยอนขมวดคิ้วฟึดฟัดทุกทีเวลาเขาพูดถึงลู่หาน ร่างสูงตบบ่าหลานชายแปะๆ
"ไฮ้ ทำตัวเป็นเด็กหวงพี่ไปได้ อายุเท่าไหร่แล้วเนี่ยฮะ สิบสามเหรอ เตี้ยโคตร"
"สิบหกครับ"
"อือ ก็ดี เข้ามาดิ ปิดประตูด้วยนะ จะไปแต่งตัวละ"
ว่าแล้วก็ทำมารยาทเจ้าบ้านและคุณอาที่ดีด้วยการเดินดุ่มเข้าห้องไป ไม่มีแม้แต่การจะช่วยยกกระเป๋า จุนมยอนพยักหน้ารับคำก่อนจะลากกระเป๋าใบโตเข้าห้องตามหลังมาด้วยความทุลักทุเลกับสภาพห้อง
แกร่กๆๆๆๆ
"ว่าแต่แกชื่ออะไรนะ อะไรๆ จุนๆสักอย่างใช่ป่ะ ไม่แน่ใจ"
"ผมชื่อคิมจุนมยอน ห้องรกจังนะครับ ขอรบกวน โอ๊ะ! โอ้ย!"
คริสหันขวับทั้งที่เพิ่งใส่บ็อกเซอร์เสร็จ ภาพตรงหน้าจะว่าน่าสงสาร เวทนาหรือว่าตลกดีก็ไม่รู้สิ จู่ๆหลานชายตัวเล็กก็ริจะจับกบจนหน้าทิ่มไปจุ้มกับกองเสื้อผ้าเก่าของเขา ทั้งไอ้กระเป๋าเดินทางก็หน้าหงายอย่างไม่มีชิ้นดี
"เฮ้ยๆๆ เป็นไรเนี่ย เมาฝุ่นรึไง ...เฮ้"
คริสหยิบแว่นตาที่ตกอยู่ใกล้ๆกันเข้าไปหาจุนมยอนที่นั่งหน้ามุ่ย ร่างสูงนั่งลงพลางเอ่ยแซวหลานชายที่เงยหน้าขึ้นมาหน้างอใส่ แต่แก้มทั้งสองกับแดงเรื่อๆซะอย่างงั้น
จุนมยอนอับอายแปลกๆที่ความประทับใจแรกเริ่มของพวกเขาทั้งคู่ อีกทั้งอาหนุ่มเอาแต่จ้องเขาค้างแล้วก็ยิ้มขำมุมปากแบบนั้น
"อาคริส ....อาคริส ขอแว่นผมคืนหน่อยครับ"
คริสยัดแว่นใส่เบ้าตาหลานแต่สงสัยจะทิ่มหูซะมากกว่า ผู้ใหญ่ร่างสูงจ้องนิ่งแล้วก็ถามคำถามประหลาด
"ใส่แว่นไมวะ"
"หา ก็ผมตาสั้นนิดหน่อย ทำไมล่ะครับ"
"...เออปล่าว เอาของไปเก็บซะไป ชิ่วๆ"
แล้วคริสก็ลุกขึ้นหนีไปใส่เสื้อผ้าต่อทิ้งให้ตัวจุนมยอนงงเต็กอยู่คนเดียว
...อะไรของเขาวะ แปรปรวนยังกับผู้หญิงเป็นประจำเดือน ?
คริสแอบลอบมองหลานชายตัวเล็กที่ง่วนอยู่กับการทำความรู้จักที่อยู่ใหม่จากกระจกตู้เสื้อผ้า ร่างสูงกระตุกยิ้มเจ้าเสน่ห์น้อยๆ พลางนึกสนุกกับชีวิตที่เพิ่มคนใกล้ตัวขึ้นมาอีกหนึ่ง...
แต่ก็ไม่เข้าใจเลยๆจริง ทำไมต้องใส่เเว่น แถมทรงผมติดหน้าปิดตา เซ็งเลย แบบนั้นก็เอาไปอวดใครไม่ได้อ่ะดิว่า
...อู๋อี้ฟานมีหลาน 'น่ารัก' อย่างคิมจุนมยอนอ่ะ :[
แต่อู๋อี้ฟานคงไม่รู้หรอกว่า จุดเริ่มต้นของบทเวทมนตร์กำลังเริ่มต้นขึ้นในเวลานั้นเอง..
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...
เอลล่าอาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงที่มีลูกสาวอยู่2คน พวกเธอใช้งานเอลล่าราวสาวใช้ และใช้จ่ายฟุ่มเฟือย ซ้ำยังเรียกเอลล่าว่า ซินเดอเรลล่า(เอลล่าผู้มอมแมม) วันหนึ่ง มีจดหมายเชิญหญิงสาวทุกคนมาร่วมงานเต้นรำ เพื่อหาคู่ครองให้กับเจ้าชาย ลูกสาวทั้งสองต่างพากันดีใจ เช่นเดียวกับเอลล่า แต่แม่เลี้ยงใจร้ายกลั่นแกล้งต่างๆจนเอลล่าไม่มีชุดใส่ไปงานเต้นรำเธอเสียใจมาก จึงหนีไปร้องไห้ ทันใด นางฟ้าแม่ทูนหัวปรากฏตัวขึ้นและบันดาลรถม้าฟักทอง ชุดสวยงามและรองเท้าให้ แต่มีข้อแม้ว่าจะต้องกลับมาก่อนเที่ยงคืน ไม่เช่นนั้นเวทมนตร์จะเสื่อมลง เอลล่าได้เต้นรำกับเจ้าชายจนลืมเวลา เมื่อระฆังตีบอกเวลาเที่ยงคืน เอลล่าก็รีบหนีไปโดยลืมรองเท้าแก้วเอาไว้ เจ้าชายจึงประกาศว่าจะแต่งงานกับเจ้าของรองเท้าแก้วเสนาบดีได้ออกตามหา จนถึงบ้านแม่เลี้ยง ลูกสาวทั้งสองไม่สามารถสวมได้ นางโกหกว่าไม่มีหญิงสาวในบ้านอีก พร้อมทำลายรองเท้าแก้ว ทุกคนต่างหมดหวัง แต่เอลล่าก็หยิบรองเท้าแก้วอีกข้างที่เก็บไว้ขึ้นมาและสวมให้กับเหล่าเสนาดู ทำให้เอลล่าได้แต่งงานกับเจ้าชาย และมีความสุขตราบนานเท่านาน
Happy Ever After
RRRRrrrrrr....
"ฮึ้ย คนจะนอน วางสายไป กูยังไม่ตื๊นนนน"
ร่างยาวเหยียดแผ่หลากลางเตียงกว้าง อู๋อี้ฟานหรือคริสตะโกนใส่โทรศัพท์อย่างรำคาญพร้อมหมอนมาปิดหู ทว่าเจ้าตัวร้ายกลับไม่มีการปรานีใดๆ มันสั่นสะเทือนและแผดเสียงสะใจยังกับแผ่นดินไหว จนคนหล่อทนไม่ไหวต้องเสียสละเวลานอนอันมีค่าลุกขึ้นมารับโทรศัพท์
"เหว่ยๆๆๆ"
' จัดห้องรึยังไอ้ฟาน หลานใกล้จะไปถึงแล้วนะ '
"ไฮ้ยยยยยย ถามอีกแล้วนะเฮีย เนี่ยจัดเสร็จแล้ววว รอลูกเลี้ยงพี่มาอย่างเดียวเนี่ยยยย"
คนตัวโตโกหก รอบกายเขายังคงเละเทะไม่มีชิ้นดี ทั้งกองเสื้อผ้าอับเหม็น เศษขนมกระป๋องเบียร์เกลื่อนกลาดจากเมื่อคืนและหลายๆอย่างที่เหล่าชายโสดมักเป็นกัน ปลายสายจิ๊ปากอย่างรู้ทัน
' ชิ ถ้าแกเป็นคนว่าง่ายจริงๆ เฮียคงไม่จู้จี้กับแกหรอก แล้วแกก็ห้ามตีหน้ายักษ์ใส่น้องนะเว้ย แม่ง หน้าตายังกะยักษ์ '
"เออน่ะ หน้าพี่ก็ไม่ได้ต่างจากผมนักหรอก กำ"
' หยาบมากไอ้ฟาน ไอ้หานพี่แกหน้าตาดีกว่ามากครับ หน้าไม่เหี่ยวด้วย แบร่ '
อี้ฟานเบะปากหมั่นไส้ พอนึกถึงเวลาที่คนพูดแลบลิ้นจริงก็ขนลุกเกรียว อี๋หลงตัวเอง ก็จริงอยู่ที่พี่ชายคนสนิทคนนี้น่ะมันหน้าใสเนียนนุ่มขยุ้มหัวใจจนชวนเข้าใจผิดว่ายังไม่บรรลุนิติภาวะแค่ไหน แต่ก็นั่นแหละ แหวะ!
"จ้ะ พ่อคนแมน ตั้งแต่ไปอยู่เกาหลีกับพ่อม่ายลูกติดนั่น ตีนกาขึ้นอีกกี่แผงแล้วล่ะ"
' อย่าลามเกลื้อน ไม่เอาไม่ดี มินซอกไม่ได้ลูกติด นั่นหลานเค้าเข้าใจป่ะแบบว่าลูกพี่สาวไรงี้อือ กูคนแรกของเค้าครับไอ้สลัดผลไม้ '
"แน่ใจ๊? หน้าตาเค้าก็ดีนะ ไม่มีหลักฐานซะหน่อยว่าเฮียเป็นคิวแรก"
' หึ อย่ามาไอ้น้อง แกทำครอบครัวเฮียแตกแยกไม่ได้หรอก '
ถึงลู่หานจะพยายามทำตัวเป็นผู้ใหญ่ใจเย็นแค่ไหนก็เถอะ แต่คริสก็รู้อยู่ดีว่าวางสายเมื่อไหร่พี่ชายเขาจะต้องไปล้งเล้งใส่แฟนแก้มป่องอีกแหงๆ วะฮ่าๆๆๆ อ่อนหัดมากไอ้พี่เด็กน้อย
"จิ๊ เออ จะไปอาบน้ำแล้ว วางนะรำคาญ จุ๊บๆ"
' เฮ้ยเดี๋ยว น้องมัน... '
อู๋ฟานไม่สนใจจะคุยต่อจึงจัดการตัดสายอย่างเอาแต่ใจสุด ร่างสูงลุกจากเตียงพร้อมคว้าผ้าขนหนูเน่าๆและตรงดิ่งเข้าห้องน้ำในทันที
"ย๊าาาา!!! ไอ้อู๋!!"
ตัดไปยังปลายสาย ลู่หานนั่งกระทืบเท้าขัดใจสุดๆกับการกระทำของน้องชาย เมื่อลองโทรไปอีกที่อีกฝ่ายก็ปิดเครื่องตัดปัญหาซะอย่างนั้น ลู่หานกุมขมับหนักใจ กลัวน้องชายมันจะไปทำตัวทรามใส่ลูกเลี้ยงเขาตามที่มันชอบทำ ถ้าเป็นเเบบนั้นจริง ลู่หานเกรงจะโดนว่าที่ภรรยาไล่ออกจากบ้านแหง โทรไปเตือนมันก็ไม่ฟัง อึดอัดเหลือเกินโว้ยยย
อีกอย่าง กับเด็กคนนั้นน่ะ มันมีข้อห้ามอยู่... ทำไมไม่ฟังเฮียบ้างวะไอ้อู๋....
ร่างเล็กๆของคิมจุนมยอนหยุดลงที่บานประตูห้องหนึ่ง หยิบที่อยู่ที่ได้รับมาขึ้นเทียบเพื่อความแน่ใจและเคาะประตูห้องด้วยความสำรวม
ก๊อก! ก๊อก!!
แล้วข้างในตะโกนกลับมาด้วยความสุภาพว่า 'เออๆรู้แล้ว รอแป๊ปนึง' จุนมยอนยืนรอสงบนิ่ง แป๊ปแล้วแป๊ปเล่าก็ยังไม่เห็นหัวเจ้าของห้อง เขายกนาฬิกาขึ้นมาดูพบว่าผ่านไปเกือบสามนาทีแล้ว
น่ากลัวว่าห้องจะกว้างเหมือนสวนเอเดนเลยกระมั้ง
เด็กหนุ่มถอนหายใจและตั้งท่าจะเคาะประตูอีกครั้งด้วยความหงุดหงิดน้อยๆ
แอ๊ด...
ปั้ก!
"มา โอ๊ย อีด้อง ไหปลาร้ากู"
"ขะ ขะ ขอโทษครับ ผมแค่จะเคาะประตู"
จุนมยอนโค้งศีรษะขอโทษขอโพยตามประสา ทว่าเด็กน้อยก็ต้องสะอึกกับสภาพคนตัวสูงที่เอาแต่จนอีไหปลาร้าที่เพิ่งโดนทุบไปเมื่อครู่ ไม่นึกไม่ฝันมาก่อนเลยว่าจะโดนแอคแทคขนาดนี้ อะไรคือกล้ามหน้าท้องขาวๆ! อะไรคือผ้าสั้นๆพันเอว! อะไรคือหน้าหล่อๆของผู้ชายคนนี้!
...โรคจิตป่าววะ?
"สวัสดีครับ อะ อาคริส?"
คริสละสายตาจากไหปลาร้าและมองเด็กตัวเล็กตรงหน้า ใบหน้าขาวๆกับปากชมพูดูคุ้นเคยแปลกๆ เจ้าตัวทำท่าคิดก่อนจะทำท่าอ๋อ
"แกคือ? ลูกเลี้ยงพี่หานใช่ป่ะ"
"ถ้าหมายถึงคุณลู่หานแฟนใหม่น้ามินซอกก็ใช่ครับ...."
จุนมยอนทำหน้าเซ็งเมื่อนึกถึงเจ้าของชื่อ บรรยากาศที่เปลี่ยนกระทันหันทำให้คริสขมวดคิ้ว สงสัยเรื่องในครอบครัว ไม่ควรเข้าไปยุ่งสินะๆ
"ทำไมเรียกคุณวะ พ่อเลี้ยงใหม่แกไม่ใช่เหรอ"
แต่โทษนะ... ฟานอยากเสือก
"เขาไม่ใช่พ่อผมครับ พ่อเลี้ยงผมมีแค่พี่มินซอก"
คริสขำน้อยๆกับแมวตัวน้อยหวงของ จุนมยอนขมวดคิ้วฟึดฟัดทุกทีเวลาเขาพูดถึงลู่หาน ร่างสูงตบบ่าหลานชายแปะๆ
"ไฮ้ ทำตัวเป็นเด็กหวงพี่ไปได้ อายุเท่าไหร่แล้วเนี่ยฮะ สิบสามเหรอ เตี้ยโคตร"
"สิบหกครับ"
"อือ ก็ดี เข้ามาดิ ปิดประตูด้วยนะ จะไปแต่งตัวละ"
ว่าแล้วก็ทำมารยาทเจ้าบ้านและคุณอาที่ดีด้วยการเดินดุ่มเข้าห้องไป ไม่มีแม้แต่การจะช่วยยกกระเป๋า จุนมยอนพยักหน้ารับคำก่อนจะลากกระเป๋าใบโตเข้าห้องตามหลังมาด้วยความทุลักทุเลกับสภาพห้อง
แกร่กๆๆๆๆ
"ว่าแต่แกชื่ออะไรนะ อะไรๆ จุนๆสักอย่างใช่ป่ะ ไม่แน่ใจ"
"ผมชื่อคิมจุนมยอน ห้องรกจังนะครับ ขอรบกวน โอ๊ะ! โอ้ย!"
คริสหันขวับทั้งที่เพิ่งใส่บ็อกเซอร์เสร็จ ภาพตรงหน้าจะว่าน่าสงสาร เวทนาหรือว่าตลกดีก็ไม่รู้สิ จู่ๆหลานชายตัวเล็กก็ริจะจับกบจนหน้าทิ่มไปจุ้มกับกองเสื้อผ้าเก่าของเขา ทั้งไอ้กระเป๋าเดินทางก็หน้าหงายอย่างไม่มีชิ้นดี
"เฮ้ยๆๆ เป็นไรเนี่ย เมาฝุ่นรึไง ...เฮ้"
คริสหยิบแว่นตาที่ตกอยู่ใกล้ๆกันเข้าไปหาจุนมยอนที่นั่งหน้ามุ่ย ร่างสูงนั่งลงพลางเอ่ยแซวหลานชายที่เงยหน้าขึ้นมาหน้างอใส่ แต่แก้มทั้งสองกับแดงเรื่อๆซะอย่างงั้น
จุนมยอนอับอายแปลกๆที่ความประทับใจแรกเริ่มของพวกเขาทั้งคู่ อีกทั้งอาหนุ่มเอาแต่จ้องเขาค้างแล้วก็ยิ้มขำมุมปากแบบนั้น
"อาคริส ....อาคริส ขอแว่นผมคืนหน่อยครับ"
คริสยัดแว่นใส่เบ้าตาหลานแต่สงสัยจะทิ่มหูซะมากกว่า ผู้ใหญ่ร่างสูงจ้องนิ่งแล้วก็ถามคำถามประหลาด
"ใส่แว่นไมวะ"
"หา ก็ผมตาสั้นนิดหน่อย ทำไมล่ะครับ"
"...เออปล่าว เอาของไปเก็บซะไป ชิ่วๆ"
แล้วคริสก็ลุกขึ้นหนีไปใส่เสื้อผ้าต่อทิ้งให้ตัวจุนมยอนงงเต็กอยู่คนเดียว
...อะไรของเขาวะ แปรปรวนยังกับผู้หญิงเป็นประจำเดือน ?
คริสแอบลอบมองหลานชายตัวเล็กที่ง่วนอยู่กับการทำความรู้จักที่อยู่ใหม่จากกระจกตู้เสื้อผ้า ร่างสูงกระตุกยิ้มเจ้าเสน่ห์น้อยๆ พลางนึกสนุกกับชีวิตที่เพิ่มคนใกล้ตัวขึ้นมาอีกหนึ่ง...
แต่ก็ไม่เข้าใจเลยๆจริง ทำไมต้องใส่เเว่น แถมทรงผมติดหน้าปิดตา เซ็งเลย แบบนั้นก็เอาไปอวดใครไม่ได้อ่ะดิว่า
...อู๋อี้ฟานมีหลาน 'น่ารัก' อย่างคิมจุนมยอนอ่ะ :[
แต่อู๋อี้ฟานคงไม่รู้หรอกว่า จุดเริ่มต้นของบทเวทมนตร์กำลังเริ่มต้นขึ้นในเวลานั้นเอง..
1 / 5
"แอ๊ เมื่อยโคตรร"
อู๋ฟานนอนเหยียดยาวด้วยความขี้เกียจสุดฤทธิ์สุดเดชอยู่บนโซฟา โดยมีหลานชายเป็นหมอนให้
หลายวันที่มาอยู่ด้วยกัน ลองคุยกันและใช้ชีวิตในห้องเดียวกัน จุนมยอนเป็นเด็กแปลกนิด บางทีก็เงียบ บางทีกวน บางทีก็น่ารักตามธรรมชาติ บางทีก็แอบมารยา เป็นเด็กชายที่ติดน้าและไม่ค่อยชอบลู่หานคนรุงรัง และที่สำคัญบ้านรวย...
แค่นี้ก็พอแล้วล่ะลูกเอ๊ย...
จุนมยอนกำลังเปิดหนังสืออ่านอย่างประหลาดใจ สาเหตุมันก็เริ่มมาจากการไปถามคริสว่า
'อาไม่มีงานทำเหรอฮะ วันๆเห็นแต่นั่งๆนอนๆให้แอร์เป่า'
เจ้าตัวเลยเบะปากแล้วก็โยนนิตยสารใส่หน้าหลานก่อนจะกระแทกหัวลงขาอ่อนจุนมยอนอย่างสบายใจ เด็กน้อยพอได้เห็นใบหน้าของคนคุ้นยืนเก๊กหล่ออยู่ในหนังสือก็ร้องโว้ออกมา
"อาคริสเป็นนายแบบเหรอ... ยอดเลย ไม่เหมือนตัวจริงเลยนะครับ"
"เฮ้ยๆ พูดงี้หมายความว่าไงวะ เฮียไม่หล่อตรงไหนเนี่ย"
คริสทุบรีโมตใส่หน้าขาขาวๆที่หนุนอยู่ ไม่อยากยอมรับเลยว่าแก่จนเป็นอา เรียกเฮียดีกว่านะคนดี่ แต่ถึงจะพูดแบบนั้น จุนมยอนแม่งก็เอาแต่บอกว่า 'ก็อาคริสเป็นน้องคุณลู่หาน ก็ต้องเป็นอาสิฮะ'
เออ ได้ จำไว้นะมึง!
"ไม่ใช่แบบนั้น หมายถึงถ้าแฟนคลับมาเห็นอาในสภาพนี้.... ไม่ใช่แน่ๆ"
"ไฮ้ย์ จะชมว่าเฮียหล่อก็ชมมาเถอะ"
จุนมยอนส่ายศีรษะด้วยความเอือมระอา มือขาวค่อยๆพลิกแต่ละหน้ากระดาษอย่างตื่นเต้น สายตาทั้งคู่ดูเป็นประกายราวเด็กเจอของเล่นถูกใจ จนตอนนี้จุนมยอนเลือกที่จะเมินเสียงของอาหนุ่มและจมดิ่งกับภาพสุดเลิศหรูพวกนี้
"ช่างภาพคนนี้สุดยอดเลยนะครับ ถ่ายได้สวยมากเลยทั้งมุมทั้งแสง ผมเคยเห็นอยู่ครั้งนึง"
"ไหนๆๆ อ๋อ ไอ้จื่อเทา คนนี้เฮียรู้จัก ถ่ายดียังไงวะ จะบอกว่านายแบบหล่อตรงๆก็ได้ จะอายทำไม"
"ฮื้ออ อาไม่เข้าใจหรอก สายตาของพวกเขาเวลามองภาพต่างๆผ่านเลนส์ มันช่าง...น่าตื่นเต้น"
"เหอะๆๆ พูดแบบนี้ แกชอบถ่ายรูปรึไง"
"อื้อ!"
คริสชะโงกหน้าขึ้นมาดูพลางหัวเราะสะใจ นิ้วยาวขยี้ผมดำนุ่มของจุนมยอนจนยุ่งเหยิง พอหัวข้อถูกโยงไปเกี่ยวกับการถ่ายภาพแล้วเขาก็ยกยิ้มกว้างขึ้นมา จู่ๆจุนมยอนลุกผึงจากโซฟาวิ่งไปที่กระเป๋าหาของบางอย่าง
...โดยไม่บอกกล่าว อู๋ฟานคนหล่อโดนเมินจนลงไปกองแทบพื้น
หลานชายตัวเล็กหยิบกล้องDSLRสีดำตัวเก่งขึ้นโชว์ด้วยความภาคภูมิและกล่าวถึงความหลังของมัน
"ดูนี่สิ นี่เป็นกล้องตัวเก่งของผมเลยนะ กล้องตัวนี้น้ามินซอกบอกว่าพ่อกับแม่ตั้งใจซื้อมาให้ผม แต่มันก็...เก่ามากแล้ว"
คริสนั่งมองจุนมยอนที่ลูบกล้องตัวโปรดเหงาๆ ลู่หานเคยเล่ามาว่าจุนมยอนมักจะชอบนั่งเหม่อคนเดียวบ่อยๆเวลามินซอกไม่อยู่ แต่เวลามินซอกอยู่ก็มักจะเข้ามาอ้อนสุดมารยา...
สงสัยจะเป็นเด็กติดน้า... ติดน้ามากๆไม่ดีนะ ลองติดอาดูบ้างไหมสิ รับรองสนุก
"แน่ะๆ ทำตีหน้าเศร้า ก็ของดีนี่หว่า เอางี้ เดี๋ยววันหน้าเฮียจะพาไปเจอมันเอาไหมล่ะ เสริมความมั่นใจกันหน่อย"
เเขนยาววาดไปโอบบ่าบางพลางโยกไปมา จุนมยอนเงยหน้ามองอาคริสด้วยสายตาสงสัย
"มัน? มันไหน"
"อ้าว ก็จื่อเทาไง อยากเจอไม่ใช่เหรอ อยากเจอเฮียก็จะพาไป"
"จริงนะๆๆ"
"ตามใจทุกอย่างเลยเห็นป่ะ โชคดีขนาดไหนที่มีอาหล่อแบบนี้ สำนึกบ้างไอ้หนู!"
"...อาคริสยอดเลย ขอบคุณมากฮะ!! ผมรักอาว่ะเฮ้ย!"
จุนมยอนยิ้มกว้างหลับตาปี๋ ตัวเล็กกระโดดเหยงๆไปกอดอาหนุ่มอย่างลิงโลด แขนขาวแทบจะหักเอวของนายแบบหนุ่มจนคริสแทบจะถีบหลานออกมาอยู่รอมร่อ
แต่เห็นเด็กมันดีใจอ่ะ ทำไม่ลงชวิงๆ...
"เฮ้ย หวงตัวหน่อยดิวะ! เออ วันนี้แกทำกับข้าวเลี้ยงเลย ตกลงป่ะ"
"อื้อ ตกลงเลย ไปมาร์เก็ตกันนะๆๆ เดี๋ยวผมไปเปลี่ยนกางเกงก่อน! อาคริสๆๆๆ นี่...รางวัล!"
ฟอด!
ตาคมเบิกค้างเมื่อสันจมูกขาวๆของเจ้าตัวเล็กฝังลงที่ข้างแก้มของอี้ฟานอย่างแรง ผู้ถูกกระทำผงะถอยผิดกับคนทำ จุนมยอนเพียงแค่ยิ้ม...แต่ดูก็รู้ว่ามันเต็มไปด้วยความอาย แล้วก็วิ่งปร๋อเข้าห้องน้ำไปกับกางเกงขายาว
คริสมองตามอึ้งๆก่อนจะฉีกยิ้มเล็กออกมา ร่างสูงทรุดตัวลงบนโซฟาพลางลูบที่แก้มข้างที่โดนหอม ในใจเต็มไปด้วยความตกใจปนขบขัน ทำเองอายเอง งืม แต่ก็เกรงเหลือเกินว่าอาจจะไปทำรุ่มร่ามแบบนี้กับใครเข้าอีก
สงสัยว่าต้องดูแลกันเป็นพิเศษเเล้วกระมัง...
"จุนมอน เฮียอยากแดกไก่อ่ะ ทำไก่ให้กินบ้างดิ"
คริสเท้าคางกับที่จับรถเข็นด้วยความขี้เกียจสุดฤทธิ์ ในขณะจุนมยอนกำลังเดินดูของราวมืออาชีพ ก็เงี้ยแหละ หน้าตาดีมีเงินใช้ ใครๆก็อยากได้ไปประดับบารมี น้ามินซอกย่อมฝึกให้เป็นแม่บ้านแม่เรือนธรรมดา
"อาคริสปกติทำอาหารอะไรทานครับ"
"...อาหารขยะ"
เฟรนช์ฟรายหนึ่งชิ้นถูกส่งเข้าปากเป็นการยืนยัน มันเป็นของคริสที่ซื้อมากินเวลาเดินห้าง จุนมยอนกรอกตาเหนื่อยใจ
"ตอบได้เยี่ยม น่าอิจฉาที่อากลับสูงขนาดนี้นะ"
"เพราะหม่าม้าเฮียสวยไง แกอ่ะเตี้ยเกิ๊น ถามจริงแม่ให้กินนมบ้างป่ะเนี่ย"
"เมื่อก่อนก็ให้นะครับ แต่เดี๋ยวนี้...."
ตัวเล็กหน้าบูด อาหนุ่มจึงปลอบด้วยการลูบผมนิ่มๆเป็นเชิงประโลม
"เฮ้ย ไม่ต้องเศร้านะ อยู่นี่เฮียดูแลเอง ไม่ต้องเกรงใจ เฮียลู่แบ็คอัพเค้าอัดฉีดตังมาเยอะ"
"...โหย เกือบจะซึ้งเเล้ว กลับไปไก่เค็มนี่ไม่ต้องสงสัยเลยอ่ะ แล้วก็เลิกกินได้แล้ว กลับไปไม่กินข้าวผมไม่ยอมนะอา"
"อะไรวะ แค่นี้แม่งทำบ่นยังกะแม่"
คริสโยนเข้าปากอีกสองชิ้นควบและยังทำท่าจะกินต่อไป จุนมยอนเลยยึดถุงมันฝรั่งทอดมากอดไว้แนบอก
"ก็อาไม่ทำตัวน่าเคารพอ่ะว่ะ"
"ทำตัวจังไรเข้าไว้ดิ จะได้ไม่ตกเป็นข่าว"
...
พ่อง!
"หยุดเลยนะ แล้วแบบนี้ใครจะแต่งงานกับอาคริสวะ"
"ไม่มีใครเอาก็ไม่เครียด"
"โหย งานบ้งงานบ้านก็ไม่เป็นเนี่ยนะ งานนายแบบเนี่ยอีกหน่อยก็เหี่ยวยาน ระวังเถอะ จะไม่มีอะไรกิน"
"กลัวอะไร๊!"
อี้ฟานยักไหล่สบายๆ ชายหนุ่มยักคิ้วมั่นใจกับคำตอบ จุนมยอนขมวดคิ้วสงสัยก่อนจะยิ้มเหนื่อยหน่ายปนเอือมระอาออกมากับคำตอบที่สุดทนของอาคริสสุดหล่อคนนี้
"ก็มีแกอยู่ทั้งคน ...ไม่มีตังก็ไปเกาะเฮียลู่กินก็ได้"
...เกือบจะเขินแล้วนะถ้าไม่ติดประโยคหลัง
2 / 5
"ขอบคุณที่มาเป็นแบบให้เราในวันนี้นะคะ คุณคริส ฉันจะตั้งใจรอวันที่เราร่วมงานกันอีกค่ะ"
"เช่นกันครับ"
นายจ้างหญิงสาวที่ดูอายุน้อยหยักยิ้มพึงพอใจส่งมาให้นายแบบหนุ่ม คริสเองก็ยิ้มกลับและยื่นไปจับมือเธอตามมารยาท หล่อนผละจากเขาไปจัดการกับภารกิจต่อไปของเธอและส่งคนมาดูแลนายแบบคนสำคัญต่อแทน
อี้ฟานมองตามหลังเธออย่างชื่นชม เขาสาบานได้ว่ามีคนไม่มากที่จะมีดวงตาแห่งความทะเยอทะยานเช่นนั้น ซ้ำยังด้วยอายุน้อยแต่กลับมายืนเป็นนายคน เดิมพันเลยว่าผู้หญิงคนนี้ต้องไปได้อีกไกล อีกอย่างเธออินดี้ดีนะ
ก็ไม่อยากบอกหรอกว่าเมื่อก่อนก็เคยมีแววตาแบบนั้น แต่ตอนนี้แม่งมอดแล้วว่ะ
"เอ่อ หลานชายผมอยู่ไหนเหรอครับ แกคงไม่ได้ทำปัญหาให้พวกคุณใช่ไหมเนี่ย"
"ไม่เลยค่ะ น้องน่ารักมาก ตอนนี้คุณเทาดูแลให้อยู่ค่ะ"
คริสเป็นคนดีมีสัจจะครับ สัญญาอะไรไว้คือทำตามหมด แม้มันจะเลยมาแล้วเกือบสามสัปดาห์ก็ตามที ทำไงได้ล่ะ จื่อเทามันไม่ว่างหรอกนะ ...ไม่ใช่อี้ฟานงานไม่เข้า :[
อย่างที่บอก วันนี้พกหลานมาด้วยแหละ ฝากไอ้จื่อไว้ให้ดูแล มันสองคนก็ดูถูกชะตากันดี ดีขนาดว่าแรกเจอหน้าปุ๊บแม่งทิ้งกูอ่ะ ...ชีวิตแค่โดนทำร้าย
คริสพยักหน้ารับ และเมื่อเดินไปถึงห้องพัก เขาก็ส่งยิ้มทำลายล้างให้เธอเป็นเชิงบอกลา แต่ผู้ช่วยสาวก็ไม่ได้สะเทือนใดๆ หล่อนเพียงยิ้มและหันหลังเดินจากไป ...ปล่อยคนหน้าแตกไว้คนเดียว
...หมดกันความมั่นที่สะสมมา
แอ๊ดด
คริสเปิดประตูโซซัดโซเซเข้าไปในห้อง แต่แล้วคนแก่ก็ต้องตกตะลึงอีกรอบกับภาพตรงหน้า what? why? ทำไมเจ้าแพนด้าจื่อเทาถึงทำท่าคล้ายขึ้นคร่อมจุนมยอนอยู่วะ จุนมยอนมันเอามือปิดหน้าทำไมวะ นี่พวกมึง อย่าบอกกูว่า...
"ย่าๆๆๆๆๆ!! จื่อเทา ทำอะไรวะ!"
คริสกระโจนเข้าไปดึงตัวโตๆของแพนด้าออกมา จื่อเทาสะบัดผมจัดทรงก่อนจะฟ้องจนคริสขมวดคิ้วมึน จุนมยอนลุกพรืดขึ้นมาเกาะเเขนของอาหนุ่ม ปากชมพูยู่เข้าหากันก่อนจะแลบลิ้นให้พี่ชายตัวสูง
"อ้าวเฮีย เสร็จงานแล้วดิ เนี่ยๆ ช่วยจับหน่อยดิ น้องมันไม่ยอมอ่ะ"
"อาคริสช่วยด้วยยย"
"ไม่ต้องมาเลย จุนย่า ทีตาแกทำ เฮียยังไม่ว่าซักคำเลย ทำไมเฮียจะทำบ้างไม่ได้อ่ะ!"
"ไม่ได้ๆๆๆ ผมยังไม่พร้อม"
"ได้ไงไม่แฟร์ งี้แกก็มีความสุขคนเดียวดิ"
คริสเหลือบมองตามคู่กรณีทังสองคนละทีๆ ประโยคล่อแหลมที่เข้ารูปกับสถาการณ์ก่อนหน้าทำให้คริสรู้สึกสับสนจนทำอะไรไม่ถูก ทั้งจื่อเทาและจุนมยอนก็เถียงกันอยู่ แต่คริสเริ่มหูอื้อจนไม่ได้ยินอะไรแล้ว คนหล่อส่ายศีรษะแรงๆก่อนจะกรีดร้องออกมา
"อิเฮี้ยยย พวกมึงทำอะไรกั๊นนน!!"
ทั้งคู่อึ้งเงียบและมองหน้ากันด้วยความงุนงง จื่อเทาเลยยกกล้องที่คล้องคออยู่ขึ้นมาเฉลยข้อสงสัยให้
"จะถ่ายรูป!"
"แล้วมึงไปขึ้นคร่อมมันทำไม"
"ก็น้องมันไม่ยอมให้ผมถ่าย ผมยังยอมให้น้องมันเลย ไม่ยุติธรรม ทำไม เฮียว่าทำไรอ่ะ"
จื่อเทายกคิ้วยียวน คริสหน้าตึงใส่ก่อนจะผละไปโถมเข้าโซฟานุ่ม ชายกลางคนเบ้หน้าพลางบ่นเป็นหมีกินผึ้ง ส่วนจุนมยอนก็แอบหลบฉากย่องหนีไปอีกทางเนียนๆ
"...โอ่ย คราวหน้ามึงอย่าทำแบบนี้กันอีกนะ หัวใจจะวายตายแล้วไอ้คริสเอ๊ย ...นึกว่าจะพาลูกชายเค้ามาเสียตัวแล้วไงมึง พุทโธ่ๆๆๆ มึงก็อย่าไปทำร้ายมันนักได้ไหมวะ เดี๋ยวเฮียลู่แม่งแดกหัวกูพอดี แม่งยิ่งหวงๆอยู่สัด"
"อ้าว น้องมันเป็นเมียเฮียลู่เหรอวะ แล้วทำไมมันมาอยู่กับเฮียอ่ะ อย่าบอกว่าหลอกให้หนีตามกันมา โอ๊ย อกอีเทาจะแตก ทำไมถึงทำเรื่องบัดสีขนาดนั้นกับจุนย่ามันได้วะ โฮ้ยยย กูไม่น่าหลงเคารพพวกเฮียมึงเลย หาเมียไม่ได้เลยเลี้ยงต้อยเนี่ยนะ โอ๊ยตายๆๆๆๆ"
"นั่นลูกเลี้ยงมัน นั่นมันหลานกู ไอ้จื่อเทา อีบ้า อร๊ายโว๊ย!"
"เอ๊า แล้วก็ไม่บอก... จะไปรู้ป่ะล่ะ"
"โอ๊ย เครียดเหลือเกิน คราวหน้ากูจะล็อคมันไว้บ้านแล้ว แบกไปไหนคนอื่นแม่งก็มองกูแปลกๆ"
"เฮ้ยเล่นๆน่าเฮีย"
"กับมึงน่ะเล่น แต่กับคนอื่นอาจไม่ใช่ไงเทา มึงคิดดูนะ เผลอแป๊ปเดียวก็แทบหายไปกับคนแปลกหน้า ภาษาจีนก็งูๆปลาๆ ส่งกลับบ้านดีไหมเนี่ยสัด"
"จะดีเหรอเฮีย เดี๋ยวได้เหงาตาย หลานมันน่ารักนะเว้ย"
"หลานกู ไม่ใช่หลานคุณน้องมึง"
"อันย่ะ มีหวงหลานด้วยแหละ โถ คุณอาที่แสนดี ผมก็อยากเป็นบ้างนะเนี่ย"
"บอกมันดิ"
คริสโบ้ยไปทางตัวเล็กที่วิ่งมาแต่ไม่ไกลมาก จุนมยอนที่หนีหายไปกลับมาพร้อมกับกระป๋องสีแดงที่คุ้นตา ตัวเล็กเดินอ้อมไปทางด้านหลังอาหนุ่มก่อนจะซุกหน้าลงที่คอยาวๆเป็นการอ้อน มือขาวๆก็แกว่งกระป๋องเครื่องดื่มไหวๆ
"อาคริสสสส โคล่ามาแล้ว อุตส่าห์ไปซื้อเตรียมไว้ให้เลยนะ"
"ย่าๆๆๆ อย่ากระแทก เดี๋ยวท่านเทพระเบิด เก่งมากเมี้ยวน้อย รู้ใจเฮียจริงๆสิน้าาา"
"แน่นอนนน หลานอาทั้งคนนี่นา นี่ๆก่อนกลับบ้านพาไปหาอะไรกินก่อนน้าาา วันนี้ไม่อยากทำข้าวเย็นอ่าา"
"เออเอาดิ กินไก่นะ"
"ได้เลย!"
หวงจื่อเทานั่งเงียบๆคอยเฝ้าดูการกระทำของบุคคลที่เรียกตัวเองว่าอากับหลานคุยกันงุ้งงิ้งๆอย่างนึกสนุก คนหลานชื่อคิมจุนมยอนแทบจะกลืนไปกับซอกคอของคนเป็นอาที่ชื่ออู๋อี้ฟาน เอาเข้าจริง สกินชิพกับสกิลอ้อนแบบนั้นน่ะ มันเกินสถานะกันไปหน่อยรึเปล่า?
ถึงตอนเริ่มจุนมยอนจะดูสนใจและตั้งใจเรียนทักษะการถ่ายภาพจากเขามาก แต่เจ้าเด็กน้อยก็มักจะดึงตัวเขาไปแอบดูการถ่ายแบบของคริสอยู่ตั้งสองถึงสามครั้ง พอกลับมาที่ห้องก็จะกล่าวถึงอาคริสอย่างนู้นอย่างนี้ยังกะคู่รักกันยังไงยังงั้น บางคราวที่จื่อเทาเล่าถึงเรื่องเก่าในอดีตของเขาและคริส จุนมยอนก็จะตั้งใจฟังแล้วก็อมยิ้มพองๆ
แล้วก็เรื่องขอเป็นอาเนี่ย ไม่ใช่ว่าไม่ได้ถามนะ เคยถามไปแล้ว แต่คำตอบน่ะเหรอ แน่นอนว่าไม่ น้องมันยืนยันจะเรียกเฮีย แต่เรื่องเหตุผล... ก็แค่คริสเป็นอาคริส
...แล้วว่านะ จื่อเทาเพิ่งรู้ว่าจุนมยอนมีความลับบางอย่างกับการมาเที่ยวซัมเมอร์2เดือนครั้งนี้ด้วยล่ะ
แต่ขอไม่บอกนะ ...มันเป็นความลับของเราสองคน :}
จุนมยอนแอบเหลือบมองอาหนุ่มที่กำลังเดินแทะโคนไอศกรีมยักษ์อยู่ด้านข้าง พวกเขาทั้งคู่กำลังอยู่ระหว่างทางกลับคอนโดที่พักเนื่องจากเมื่อเช้าไม่ได้เอารถส่วนตัวไปเนื่องจากสตูฯงานไม่ไกลมาก และคริสก็คิดว่าการเดินกลับคอนโดโต้ลมเย็นๆเองก็เป็นอะไรที่น่าจะลองดูสักครั้ง
"อาคริสผมขอกินบ้างสิ"
"ได้ไง ทีตอนถามบอกไม่เอา"
หลังจากอาหารเย็นกับร้านข้างทางคริสก็แวะซื้อของหวานโดยที่จุนมยอนยืนบ่นอยู่ข้างๆ ตอนนั้นมันอิ่มนี่นา ...แต่ว่าตอนนี้กลับรู้สึกอยากกินแปลกๆ
"ก็ตอนนั้นมันไม่อยากนี่ อาเเหละที่มากินยั่วผมเองอ่ะ"
"แค่นี้ไม่เรียกยั่ว ถ้ายั่วต้องแบบนี้ อ่าาา..."
อี้ฟานกัดไอศกรีมโคนด้วยท่าทางที่คิดว่าเซ็กซี่และคาริสม่าสุดๆ โครงหน้าคมเอนองศาอย่างเคยชิน พร้อมกระพริบวิ้งให้หลานชายอย่างมืออาชีพ จุนมยอนยืนนิ่งอึ้งก่อนจะหัวเราะออกมา
"ฮ่าๆๆๆ อาทำบ้าอะไรเนี่ย น่ากลัวว่ะฮะ"
"อ่ะๆ รีบกินซะ ลีลาอยู่เดี๋ยวได้ละลายหมดๆๆ"
ตัวสูงส่งโคนไปให้หลานชายตัวเล็ก จุนมยอนเอียงคอยู่ปากอย่างการอ้อน
"ป้อนหน่อยซี่"
"มีมือป่ะ"
"โธ่ มันหนาวนะอาคริส เนี่ยมือผมไม่ว่างหรอก มันต้องการความอบอุ่นนะ ป้อนหน่อยยยย"
"โว้ เรื่องเยอะจังวะไอ้หลานคนนี้ เอ้า อ้าปาก!"
จุนมยอนอ้าปากอย่างว่าง่าย แต่จู่ๆอี้ฟานก็กระแทกไอศกรีมเข้าปากเล็กๆโดยไม่ทันดูจนมันเปรอะไปรอบปากชมพูอ่อนจนเจ้าทุกข์ตัวน้อยเบ้หน้า
"งุ! เลอะแล้ว"
"กินยังไงสภาพถึงออกมาทุเรศแบบนี้วะฮะ"
"เพราะอานั่นแหละ! เช็ดเลยนะ!"
"ได้ไง เฮียไม่มีทิชชู่นะเว้ยเดี๋ยวมือเลอะ ก็บอกแล้วกินดีๆเฮ้ออ"
"ได้ไงอ่ะอาคริส อาทำปากผมเลอะต้องรับผิดชอบซี่ ฮึ ฮึ่ยยย ถ้าคนอื่นมาเห็นมันทุเรศนะ"
"ถ้าเช็ดด้วยปากอ่ะ ได้ป่ะล่ะ"
อี้ฟานโยนไอศกรีมคำสุดท้ายเข้าปากก่อนจะหันมายิ้มกรุ่มกริ่มใส่จุนมยอนที่ยืนหน้าเสียพร้อมเขยิบออกห่างด้วยสายตาไม่ไว้ใจ
"....ทุเรศ คิดจะเคลมหลานตัวเองเนี่ยนะ อี๋"
"บ้า ใครจะเอาวะ เตี้ยวก็เตี้ย มาๆเดี๋ยวเช็ดให้ รอบนี้แกซักเสื้อเลยนะ"
หน้าหล่อถอนหายใจเอือมระอา ทว่าก็ใช้แขนเสื้อแสนหวงของตัวเองเช็ดให้โดยดี
"เเหะๆ คิดแล้วว่าอาใจดี"
จุนมยอนตีมึนเข้าไปเข้าไปจับมือคริสมากุมเดินก่อนจะซบหัวนิ่มลงบนบ่าแข็งแรงของคุณอา คริสเลิกคิ้วสูงและแกว่งแรงเหมือนจะรังเกียจ แต่นิ้วยาวๆกลับสอดเข้าไปกระชับแน่นกว่าเก่า
"อะไรเนี่ยย อย่ามาลวนลามดิ๊ ซุกกระเป๋าตัวเองโน่นไป"
"เเน่ะๆๆๆ คนแก่อย่าเขินเลยน่า นี่แค่เด็กมอปลายเองนะ ไม่ดีๆ ติดคุกนะฮะ"
"เฮอะ ขืนหน้ามืดไปเต๊าะแกจริงๆมีหวังกวางขวิดไส้แตกดิวะ ไหนจะพ่อแม่แกอีก กบาลแยกพอดี"
"ไม่หรอกกกกก ...คงไม่มีใครสนใจเรื่องผมหรอก"
"ไม่ต้องมาทำเสียงเหงาเลยมึง กูไม่หลงกลแล้ว ไปๆๆกลับบ้าน"
"แหะๆๆ มืออาอุ่นจัง"
"แน่นอน ...ก็เฮียหล่อ!"
เพราะเสียงแหกปากประหลาดของอีกหนึ่งชีวิตใต้ชายคาเดียวกันนี่เอง ที่ปลุกเขาให้ตื่นจากการนอนสั้นๆหลังจากกลับมาถึง จุนมยอนโซเซมาที่ห้องนั่งเล่นที่อาที่แสนดียังคงลืมตาอยู่กับหนังแปลกๆเรื่องหนึ่ง และสิ่งที่เขาเห็นคือผู้หญิงผิวแปลกๆผมเปียกๆท่าทางเหมือนคนกำลังกัดคอผู้ชายคนหนึ่งอยู่และฉีกเนื้อของอีกฝ่ายออกจนเลือดสาดกระเซ็น
...และหลังจอแก้วนั้น ก็มีคนบ้าคนนึงกำลังสั่นดิ๊กและแหกปากอย่างลืมอายุ
"โอ้ย่าๆๆๆๆ โอ๊ย อย่าทำอย่างนั้น อย่า...ม่ายยยย!! อีเฮี้ย น่าวววว"
ตัวแสบปิ๊งไอเดียบางอย่างก่อนจะค่อยๆย่องไปด้านหลังนายแบบหนุ่มที่กัดเล็บตัวเองด้วยความเครียดสุด จุนมยอนเเสยะยิ้มก่อนจะ...
"แฮ่!"
"โว้ๆๆๆ!! อีเฮี้ย อย่าแดกกู กูขอโทษ!! กูผิดไปแล้วว!!"
"ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆ อาคริสแม่งจี้ว่ะ ฮ่าๆๆๆๆ โอ๊ย ยังกะตุ๊ดแตก..."
คริสค่อยๆลดการ์ดลงอย่างงุนงง เมื่อเพิ่งประจักษ์ว่าโดนแกล้งก็แกล้งดุกลบเกลื่อนความอายซะอย่างนั้น
"ย่า เป็นเด็กเป็นเล็ก ตื่นมาทำไมกลางดึก ถ้าเฮียดูหนังโป๊อยู่แล้วจะทำยังไง"
"ช่วยอาขึ้นว่าวมั้งแหม่ ก็เสียงดังอ่ะ ใครจะไปนอนหลับลงฮะ!"
"จิ๊ เจ้าเด็กมีปัญหานี่ เออๆๆ ไปนอนก็ได้ เริ่มง่วงแล้วเหมือนกันแหละน่า ไปๆๆๆ"
อี้ฟานปิดทีวีและเบี่ยงประเด็นอย่างแนบเนียน ร่างสูงเอื้อมไปโอบไหล่หลานชายและพาไปเข้านอนตามประสาคุณอาแสนกตัญญู
"ฮ้าวว"
"น่าเกลียด อ้าปากยังกะลูกบอลโลก"
จุนมยอนเดินตามอย่างว่าง่ายและเมื่อถึงเตียงก็นอนแหมะลงตามคำสั่ง คริสปีนขึ้นเตียงนอนอีกฝั่งนึง นิ้วยาวปัดเศษผมด้านหน้าที่แหย่ตาหลานชายออกและเอื้อมไปลูบศีรษะบางเบาๆ
"เอ้ามานอนซะเด็กน้อย เดี๋ยวเฮียจะกล่อม"
"ฟังเสียงอาผมก็นอนไม่หลับแล้วล่ะ เล่านิทานให้ฟังหน่อยสิ"
"เหอออ เอาเรื่องอะไรล่ะ กระต่ายกับเต่า?"
"โห่ย อย่าเลยทุเรศมาก กระต่ายกับเต่า เหอะๆๆ ชักเป็นห่วงลูกพี่แล้วดิ ...ซินเดอเรลล่าดีกว่า"
"ไม่รู้จักว่ะ ฮ่าๆๆๆๆ ไหนเล่าดิ ทำไมไม่เคยฟัง"
"ถามจริง? โธ่เอ๊ย งั้นนอนลงเลยเดี๋ยวผมจะเล่าให้ฟัง เอานะ อะแฮ่ม!"
จุนมยอนลุกขึ้นนั่งเพื่อเตรียมเล่านิทานกล่อมเด็กโข่งหน้าหล่อฟังแทน คริสเอาหน้าเกยหมอนมองคนเล่านิทานตัวน้อยที่กำลังจะบอกเล่านิทานเรื่องคลาสสิคด้วยความตั้งใจ
"กาลครั้งหนึ่งนานแล้ว..."
"จากนั้น ซินเดอเรลล่าและเจ้าชายก็ครองรักกันอย่างมีความสุขตลอดไป เป็นไงล่ะ...อ่ะ อ้าว หลับแล้วเหรออาคริส อาคริส เฮ้!"
จุนมยอนชะงัก เด็กน้อยเขย่าตัวตัวคนข้างๆที่หลับตาพริ้มเข้าห้วงนิทราอย่างมีความสุข แม้จะเรียกก็ยังไม่ตื่น ซ้ำยังทำเสียงรำคาญใส่อีกต่างหาก
"อะไรกันเนี่ย คนหลับมันควรเป็นผมไม่ใช่รึไงวะ น้ำท่าก็ไม่อาบ ผ้าเผ้อก็ไม่ห่ม เป็นนี้ตลอดเลย เฮ้อ..."
ตัวเล็กหยิบผ้าห่มจากปลายเตียงมากางให้เบาๆเพราะกลัวอีกฝ่ายจะตื่น ครั้นคริสขยับตัวจุนมยอนก็แทบสะดุ้งตาม รู้ดีอยู่แล้วเวลาคริสโดนปลุกนะ คนปลุกโดนเละขนาดไหน บางทีก็ชอบตื่นสายจนทำงานไม่ทันก็มี
"แล้วอีแบบนี้จะไม่ให้ห่วงได้ยังไงกันล่ะ บ้าชะมัด"
โทรศัพท์มือถือกำลังบันทึกภาพของชายหนุ่มหน้าคมโดยเจ้าของมันอย่างสนุกมือ จุนมยอนยิ้มน้อยๆให้คริสผ่านเลนส์กล้องโทรศัพท์เครื่องเขื่องและถ่ายมันจนพอใจ ก่อนจะมันลงที่โต๊ะวางโคมไฟข้างเตียง
ใบหน้าหวานชะโงกหน้าไปเหนือหน้าเรียวของคริส มือเย็นลูบมันเบาๆ สายตาทั้งคู่ของหลานจุนมยอนเต็มไปด้วยความรู้ที่แปลกประหลาด ปากชมพูเม้มเข้าหากันก่อนจะกล่าวอะไรบางอย่าง...
"อาคริสรู้ไหม บางทีซินเดอเรลล่าก็อาจจะไม่ใช่คนดีอย่างที่ใครๆคิดหรอกนะ...เธอน่ะ..."
จุนมยอนหยุดคำพูดไว้แค่นั้น เด็กน้อยก้มหน้าลงจนแนบชิดกับโครงหน้าหล่อเพื่อทำการบางอย่าง ...ในขณะที่โคมไฟข้างเตียงก็ดับลงด้วยมือของเขาเพื่อราตรีที่แสนวิเศษ
"ราตรีสวัสดิ์ ...อาคริสของผม"
ครั้นกล่าวถึงซินเดอเรลล่าผู้เลอโฉม... ทุกๆคนคงเคยได้ฟังแต่เรื่องเล่าที่เเสนดีของสาวใช้แสนสวยจากตำนานเล่าขานนามว่าซินเดอเรลล่า เธอช่างแสนดี ขยันขันแข็ง ยึดมั่นในความฝันและความรักจนได้พบกับรักแท้ในที่สุด...
แต่ว่านะ...ใครจะรู้ว่าตัวหล่อนเอง...ก็โลภมากไม่ได้แพ้ใคร
เธอปรารถนาต่อการไปงานเต้นรำอย่างแรงกล้าจนได้พบกับนางฟ้าแม่ทูนหัว
เธอปรารถนาที่จะใช้เวลาอยู่กับเจ้าชายมากเกินไปจนลืมดูเวลา
เธอปรารถนาที่จะวิ่งหนีจากเจ้าชายเพื่อไม่ให้เขารู้ว่าเธอเป็นเพียงสาวใช้
เธอปรารถนาที่จะออกมาจากห้องขังเพื่อแสดงตัวว่าเป็นเจ้าของรองเท้าแก้ว
เธอปรารถนาในชีวิตที่ดีกว่า ทิ้งแม่เลี้ยงกับพี่สาวทั้งสองและบ้านเกิดไว้ด้านหลัง
เธอปรารถนาจะเคียงคู่เจ้าชายในฝัน... เธอเฝ้าปรารถนาและลงมือทำทุกอย่าง
....เพื่อให้ความฝันของเธอก็เป็นจริง
นี่ไม่ใช่เหรอ...ผู้หญิงที่ชื่อซินเดอเรลล่า ?
3.5 / 5
ยังจำได้ไหมว่าคิมจุนมยอนเพียงแค่มาเที่ยวเล่นในจีนแค่ช่วงเวลาซัมเมอร์เป็นเวลา2เดือนเท่านั้น?
...และอีกไม่นานเขาจะต้องกลับโซล
เพื่อเป็นการสร้างความทรงจำแสนดี คริสจึงตัดสินใจพาหลานไปเที่ยวที่แม่น้ำจูเจียงเป็นที่สุดท้าย
ว่ากันว่า...ไม่ได้พาไปเที่ยวห่าไรเยอะหรอก
แต่ครั้งนี้ ก็หวังว่ามันจะถูกใจแหละนะ
"อาคริส แอ็คหน่อยซี่ อูย หนักกก"
คริสหันไปตามเสียงลิงโลดนั่นก็พบกับคนคุ้นหน้า จุนมยอนก้มๆเงยๆกับกระเป๋ากล้องที่สะพายดูรุงรัง จนคริสต้องเดินเข้ามาช่วยดูให้
เจ้าตัวเล็กที่ได้เปิดโลกอีกใบดูจะตื่นเต้นผิดปกติ ตลอดเวลาที่เดินเล่นด้วยกันจุนมยอนมักจะหยิบกล้องใหญ่ๆผิดกับขนาดตัวมากดชัตเตอร์เก็บภาพทุกๆอิริยาบทของคริสราวช่างกล้องส่วนตัว สาบานได้ว่าถ้าถ่ายรูปแล้วเจ็บ อู๋ฟานตายห่าไปนานแล้ว
"ก็เล่นแบกขนาดนั้น เฮ้อ เร็วๆเข้า นี่แกถ่ายไปกี่รูปแล้วเนี่ยวันนี้น่ะ จะได้กลับบ้านไหมเนี่ย"
"คิ เอาน่า ตั้งใจหน่อยซี่ มีค่าจ้างให้นะ"
"เอางั้นเหรอ ให้ทำคอนเซ็ปท์อะไรว่ามาเลย"
อี้ฟานขยี้ผมหลานเอ็นดูปนหมั่นไส้ จุนมยอนมองร่างนายแบบผ่านเลนส์กล้องอย่างชื่นชม แม้คริสเลือกที่จะยืนเฉยๆมันก็ดูคาริสม่าเอามากๆ เด็กน้อยเอาท่าครุ่นคิดก่อนจะยิ้มหวานกลับมา
"อืมมมม ความสุข! วันนี้เราต้องมีความสุขนะ ทำเลยๆ"
"อือ สุขเหรอวะ ไม่คิดว่ามันขาดอะไรไปรึไง"
คริสเงยหน้าขึ้นมองฟ้าก่อนจะค่อยสาวเท้าโซเซๆเข้ามาหากล้อง ใกล้จนนัยน์ตาคู่คมแทบจะติด
"อะไรล่ะนั่นน่ะ โว้วววว"
จุนมยอนโอดเมื่อโดนคล้องคอเข้าไปหา คริสหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดกล้องหน้าก่อนจะชูขึ้นกลางอากาศ หน้าคมเอียงไปซบศีรษะของหลานชายพลางลูบมันเบาๆ
"ถ้าขาดตัวเอกของงานไป มันจะเพอร์เฟ็คได้ไงล่ะฮึ"
จุนมยอนซุกหน้ากับท่อนแขนยาวๆของคริสที่มันอยู่ตรงหน้า ตัวเล็กหลับตาเขินและบ่นพึมพำๆ
"...ให้ตายสิ อานี่เสน่ห์แรงชะมัด ...ยังกับในหนังสือเลย"
"หนังสืออะไร"
"หนังสือนิทาน เจ้าชายของผมมม"
ไม่ว่าเปล่า จุนมยอนกอดแขนคริสแน่นพลางเอาหัวไปถูไถไหล่กว้างราวลูกแมวน้อย ครั้นคนเป็นอาจะเอาออกก็รัดแน่นกว่าเก่าอีก
"อี๊สยอง แต่ไม่ปฏิเสธหรอกนะ เพราะเฮียหล่อ"
"แหะๆ โอเคเชื่อแล้วน่าาา ขอถ่ายบ้างสิ มองกล้องนะ หนึ่ง สอง..."
จุนมยอนควักโทรศัพท์ตัวเองออกมาเก็บรูปบ้างเพราะกล้องเขามันคงถ่ายไม่ได้แหงๆ คริสจ้องจิกตัวเองในจออย่างมั่นใจ แต่หลานชายตัวเล็กกลับยิ้มกริ่มและพุ่งเข้าฝังจมูกลงบนแก้มเนียนของอาคริสเข้าเต็มๆพอดีกับที่วิดีโอถูกตัดจบไป
"ย๊า เด็กบ้า หอมแก้มทำไมวะ แปรงฟันรึยังเนี่ย"
"ก็อาหล่อ ฮ่าๆๆๆๆ โว้ๆๆ ทำอะไร!"
จุนมยอนสะดุ้งเมื่อโดนจิ้มที่เอว ตากลมเบิกโปนใส่คริสเป็นเชิงขู่ฟ่อ แต่คริสก็ไม่ได้สนใจ ผู้ใหญ่ตัวสูงรวบเอวอีกฝ่ายไว้ก่อนจะละเลงนิ้วลงไปอย่างสะใจ จุนมยอนกรีดร้องพลางมือที่ทำหน้าที่อย่างอัตโนมัติ
"เอาคืนดิวะ มีอย่างที่ไหนมาแต๊ะอั๊งคนหล่อฟรีๆ"
"อ่ะฮ่าๆๆๆๆๆๆๆ อาคริส! ไม่เอา จั๊กจี้ ฮะๆๆๆๆ โอ๊ย"
"อ่ะปล่อยแล้วๆๆ"
คริสปล่อยมือเมื่อเห็นว่าเด็กน้อยเริ่มจะหายใจไม่ทัน สีขาวขึ้นสีจากความเหนื่อย แหม่ สะใจจังค่าาา จุนมยอนตวัดมองด้วยความเคือง มือขาวระดมฟาดใส่รางกายผู้ปกครอง
"ใครสั่งใครสอนให้เล่นแบบนี้เนี่ย! นี่ๆๆๆ!!!"
"โอ๊ย จุนมอน มือแกฟาดปากเฮียเนี่ย"
"เฮ้ยๆๆๆ จริงเหรอ อาคริสผมขอโทษ เจ็บไหม"
สิ้นคำจุนมยอนแทบจะถลาเข้าไปดูด้วยความเป็นห่วงสุด คริสมองเลยไปทั่ว ตาคมกรอกไปมาเงียบๆ
"ไม่..."
"ไม่เจ็บแน่นะ แล้วทำไมต้องทำหน้าเข้มด้วยล่ะ อาคริสสสส"
"ปล่าวคือ"
"ผมขอโทษ..."
"ฟังก่อนดิ คือมันไม่โดนว่ะ สงสัยตะกี้มโนไปเอง"
"อ่ะ โธ่เอ๊ย นี่...หลอกให้เป็นห่วงเหรอเนี่ย อาคริส แม่ง...พาโบย่า!"
"เฮ้ย จุนมอนไปไหน"
คริสมองตามไอ้เด็กน้อยที่วิ่งหนีห่างออกไปงงๆ จุนมยอนหันกลับมาแลบลิ้นใส่พลางยกนิ้วโป้งลงให้
"ไม่ต้องตามมาเลย งอนแล้ววว"
"เฮ้ย หยุดเลยนะ! อย่างอแงได้ไหมเนี่ย"
คริสชี้หน้าหวานพร้อมดุเสียงเบา จุนมยอนอ้าปากพะงาบก่อนจะตวาดกลับอย่างน้อยใจสุด
"...อะไรวะ! ที่จริงมันต้องตามว่าโอ๋ดิไม่ใช่ด่า"
"อย่ามาเอาแต่ใจดิ ทีแกทุบเฮียๆยังไม่ว่าเลยนะเว้ย อีกอย่างโตๆแล้ว โอ๋มากเดี๋ยวได้เสียคนพอดี"
"....อ๋อ ใช่สิ เป็นหลานนี่นาลืมไป ทีกับผู้หญิงนี่แทบจะอุ้มเดินเลยสินะ"
จุนมยอนแค่นยิ้มเยาะ คำพูดเสียดสีทำให้คริสขมวดคิ้ว ร่างสูงเร่งเท้าไล่ตามจุนมยอนไป ปากก็ตะโกนไปด้วย
"พูดอะไร? แล้วจะเดินไปไหนฮะ อยากหลงทางรึไง อยากโดนจับไปขายเหรอฮะ!"
"ไม่ต้องตามมา เรื่องของผม!"
"จุนมอน อย่าดื้อ กลับมานี่! เดินดูทางหน่อยดิ"
"ไม่ดู อย่ามาสั่ง ไม่ฟัง จะกลับบ้าน!..."
ปี๊น!!!!
จุนมยอนลืมตาโพลงมองรถยนต์คันโตที่อยู่ห่างจากหน้าไม่มากไป ร่างกายบอบบางแข็งทื่อขยับไม่ได้ถูกโอบกอดไว้จากด้านหลังด้วยฝีมือของอี้ฟานที่ยืนหอบอยู่ ไม่เข้าใจเลยทั้งที่ขาก็สั้นทำไมเดินเร็วนักหนา แล้วถ้าเมื่อกี้ไม่ทันล่ะก็...
"ย๊า!!! เด็กบ้า ก็บอกให้เดินดูทาง อยากตายรึไง"
คริสบังคับให้หลานชายหันมาประจันหน้า ร่างสูงกัดฟันกรอดก่อนจะต่อว่าอย่างกังวล จุนมยอนกลอกตาไปมาก่อนตัวบางจะสั่นเทาน้อยๆ
"อะ อะ อะ อะ อะ อาคริส ผม ผม"
"เฮ้ยๆ ใจเย็นๆ หายใจลึกๆ"
"...รถสวยจัง"
".......จังกับเตี่ยแกสิ เกือบตายแล้วรู้ไหมเนี่ย!!"
คริสเขย่าตัวเล็กๆของหลานอย่างโมโหน้อยๆ จุนมยอนเอียงคอดูงุนงง มือขาวเอื้อมมาจับปกเสื้อของอี้ฟานอย่างไร้ความหมาย
"......เดี๋ยวๆๆๆ ตะกี้เกิดอะไรขึ้นนะ งงว่ะ"
"คือตะกี้นะ มึงอ่ะจะโดนรถชนตายห่า แต่พอดีกูไปช่วยทันไง ทำไมรู้ไหม เพราะมึงไม่ฟังกูไง"
"...กู? จะโดนชน?"
"อ่าหะ"
สมองเล็กๆค่อยหวนนึกถึงเรื่องที่เพิ่งจะผ่านไป ....จุนมยอนนิ่ง ก่อนที่ความกลัวจะขึ้นมาจับหัวสมองจนมือสั่นไปหมด ตาสวยสะท้านด้วยก้อนน้ำใสที่คลอหน่วย ปากบางเบะออกเหมือนเด็กสามขวบ
"อา...กูจะโดนรถชน อาคริสส กูจะโดนรถชนนนนน ฮืออออ กูกลัวววว"
"อีเหี้ยอะไรมึงเนี่ย จุนมยอน เฮ้ย!"
คริสรีบรวบตัวหลานขึ้นเมื่อเห็นว่ามันกำลังจะร่วงลงไปกองที่พื้น ท่าทีโอหังเปลี่ยนไปจนตามไม่ทันเลยจริงๆ
"โอ๊ยๆ ขาสั่น ช่วยหน่อยๆ อาคริสดู กูยังไม่ตาย...."
"แล้วมึงเป็นอะไรเนี่ย"
"กลัวอ่ะ ฮือออ ไม่อยากเดินแล้ววว"
"โอ้โห ทีตะกี้จะวิ่งเข้าไปบวกกับรถยนต์นะมึง ทีงี้ทำมาเข่าอ่อน ....แล้วคือมึงเดินไกลมากแต่คือรถมันอยู่อีกทาง อีบ้า! โอ๊ยตายๆๆๆๆ คราวหน้ามึงฟังกูหน่อยได้ไหม เตี้ยก็เตี้ยทำไมเดินเร็วจังวะ คือกูเป็นอานะ ทำไมไม่มีใครเคารพบ้างวะ"
อี้ฟานไล่บ่นไม่ลืมหูลืมตาเหมือนกับว่าแค่อยากระบายเฉย ไม่ฟังเรื่องของมึงยังไงยังงั้น จุนมยอนเช็ดน้ำตาป้อยๆด้วยความรู้สึกผิด ตอนแรกก็ว่าจะฟังแต่ไม่อยากฟังแล้ว...
สัมผัสเย็นจากฟ้าหยดลงบนหลังมือขาว จุนมยอนเงยหน้าขึ้นไปก็โดนหยดน้ำเข้าปากด้วยความบังเอิญ มือเรียวกอดกระเป๋ากล้องข้างลำตัวเเน่น เด็กน้อยเรียกชื่อผู้ปกครองอย่างหวั่นๆ...
"อาคริส"
"อะไร!"
"ฝนตก..."
"พูดจริง? แต่รถอยู่ตั้งโน่นเลยนะเว้ย"
"เนี่ย ลงเม็ดอยู่ ทำไงอ่ะ ถ้ากล้องผมเปียก...กล้องผม...มันจะพัง"
เด็กน้อยหน้าสลดลงเรียกความเอ็นดูได้อย่างดี คริสมองซ้ายขวาก่อนจะถอดเสื้อคลุมออกแล้วโยนไปใส่ตักจุนมยอน
"จิ๊ อะไรวะเนี่ย! เอาเสื้อคลุมกันฝนไว้ แล้วรีบวิ่งตามมาเข้าใจไหม"
จุนมยอนพยักหน้ารัวๆ ทั้งคู่ออกวิ่งท่ามกลางฝนที่เริ่มจะตกหนักขึ้น จุนมยอนใช้มือนึงกอดกล้องแนบอก และอีกมือนึงจับมือกับคริสเพื่อหาที่หลบฝน ร่างสูงที่เหยือเพียงเสื้อยืดกัดฟันมองซ้ายขวาไปทั่ว
โชคดีสวรรค์ยังไม่ทิ้ง คริสมองเห็นเพิงเล็กๆอยู่ลิบจากสายตา ตอนปกติก็คงไม่ได้เห็นค่า แต่ตอนนี้มันจำเป็นเอาเสียมากๆ หนุ่มร่างสูงกระชากข้อมือหลานชายวิ่งไปสุดกำลังจนใกล้จะถึง ทว่าจุนมยอนกลับขืนตัวไว้ด้วยบางเหตุผล
"อาคริสเดี๋ยว หยุดก่อน ผมทำสร้อยข้อมือตก!"
"ฮะ? ช่างมันเถอะน่า กล้องแกสำคัญกว่าไม่ใช่รึไง"
"มันก็ใช่แต่ว่าไม่ได้ ผมจะไปหา อาช่วยดูกล้องให้ผมหน่อยแล้วกัน"
จุนมยอนส่งกระเป๋าให้คริสด้วยสายตาเว้าวอน คริสมองอย่างลังเลใจ ไม่ดีแน่ถ้าจะปล่อยเจ้าเด็กเลินเล่อนี่ออกไป นายแบบหนุ่มเสยผมขัดใจพลางกรีดร้องขัดใจออกมาเสียงดัง
"โธ่เว้ย!! แกเห็นใช่มั้ยเพิงตรงนั้นน่ะ ไปหลบซะ"
"แล้วอา..."
"เฮียจะไปหาสร้อยให้เอง รออยู่ที่นั่น... เป็นเด็กดีอย่าดื้อ โอเคนะ"
คริสชี้หน้าสั่งเสียก่อนจะวิ่งออกไป จุนมยอนหลบเข้าที่หลบตามคำสั่งอย่างว่าง่าย หน้าหวานเริ่มออกแววกังวลเมื่อเห็นสายฝนกระหน่ำลงมาหนักขึ้นเรื่อยๆ จุนมยอนมองฝนรอคอยคนบางคนกลับมาอย่างใจจดใจจ่อ
แต่ละนาทีมันดูนานกว่าเดิมเอามากๆ จุนมยอนเริ่มนั่งไม่อยู่กับที่ สมองเริ่มคิดเรื่องไม่ดีจนฟุ้งซ่านต่างๆนานาไปเอง เด็กน้อยมองกล้องตัวเองสลับกลับข้างนอกที่มีคริสอยู่
จุนมยอนตัดสินใจไม่รอ ร่างบางถิดเสื้อคลุมเอาให้คลุมหัวตัวเองและปล่อยกระเป๋าไว้ด้านหลัง แต่แล้ว...
"....อาคริส"
"เด็กบ้า! บอกให้นั่งรออยู่ที่นี่!"
อี้ฟานกลับมาด้วยสภาพดูไม่ได้ ร่างสูงวิ่งเข้าที่หลบพลางสะบัดน้ำฝนเต็มหัวออก พอจัดการตัวเองเสร็จคริสก็ดุเจ้าตัวเล็กทันทีที่คิดจะขัดคำสั่ง
"ทำไมไม่นั่งรอดีๆ จะออกไปไหนทำไมวะ นี่ใช่มะ สร้อยเน่าๆของแก"
"อือ ขอบคุณครับ"
จุนมยอนสวมสร้อยข้อมือตัวเองเข้าที่เดิม หน้าขาวเจี๋ยมเจี้ยมลงด้วยความรู้สึกผิด คริสพยักหน้าประมาณว่าเออไม่เป็นไร ร่างสูงทรุดตัวลงที่ๆนั่งเตี้ยอย่างเหนื่อยอ่อนกับการวิ่งตากฝน แขนยาวกอดเข้าหาลำตัวด้วยความเย็นที่พัดวาบใส่ลำตัว
"ฟู่ นึกยังไงมันถึงตกลงมายังงี้วะ สงสารกูบ้างก็ดีป่ะ ...รอฝนตกแล้วค่อยกลับไปที่รถแล้วกัน"
"อาไม่เป็นไรนะ เปียกแบบนี้จะเป็นหวัดไหมเนี่ย"
"เออน่า แค่นี้เอง แกน่ะนั่งดีๆเถอะ เดี๋ยวก็โดนฝนสาดหรอก เสื้อน่ะเอาคลุมกล้องไว้เดี๋ยวเจ๊ง"
คริสเอ่ยปากดุอีกครั้งเมื่อจุนมยอนหยิบเอาเสื้อคลุมของตนมาใส่คืนให้
"แต่อาเปียก..."
"พูดอะไรให้ทำตาม"
เด็กน้อยละมือไปโดยดี คริสถอนหายใจเหนื่อยๆ แล้วก็ต้องแปลกใจอีกครั้งเมื่อจุนมยอนเดินอ้อมไปด้านหลังและพยายามเอื้อมมือมากอดร่างสูงๆของตัวเขาเพื่อให้ความอบอุ่น หน้าหวานเกยอยู่บนไหล่กว้าง
"จะทำอะไรของแกวะ"
"กอดไม่ได้เหรอ"
"ก็ไม่ได้...ว่าอะไร จุนมอน อีกไม่กี่วันแกจะกลับโซลแล้วใช่ป่ะ"
นิ้วยาวเอื้อมไปลูบศีรษะเจ้าแมวน้อยขี้อ้อน จุนมยอนมองลงพื้นและเพิ่มแรงกอดเล็กน้อยพลางกล่าวอะไรอู้อี้ๆ
"อือ แต่ผมยังไม่อยากกลับเลย"
"เอาน่า ไว้คราวหน้ามาใหม่ก็ได้ แล้วจะพาไปเที่ยวที่สวยๆนะ ให้แกถ่ายรูปได้เต็มที่เลยดีไหม"
"จริง? สัญญาแล้วนะ"
"อ่าหะ แล้วแกสัญญาอะไรกับเฮียอย่างได้ป่ะ..."
"...ว่า"
"สัญญาว่าจะคิดถึงเฮีย"
คริสว่าในขณะที่ร่างสูงเสมองรอบอย่างตั้งใจไม่มองหน้าหลาน จุนมยอนอมยิ้มขำเมื่อเห็นใบหน้าอีกฝ่ายขึ้นสีน้อยๆ ตัวเล็กโยกเยกไปมาอย่างชอบพอก่อนจะจุ๊บลงบนแก้มผู้ปกครองอีกซักหนึ่งที
"งื้ออออ แน่นอนอยู่แล้วแหละน่า ....อาคริสสสส รักน้าาาาาาาา"
"เออออออออออ"
จุนมยอนเปิดไฟคอนโดของคริสจนสว่างไปทั่ว เด็กน้อยถอนหายใจด้วยความล้า ก่อนที่รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นมาข้างแก้มอย่างยินดี จุนมยอนถอดรองเท้าออกและเตรียมหันไปปิดประตู มือขาวจับที่บิดเตรียมงับลง
ปั่บ!!
ทว่ากลับมีมือเรียวบางซีดขาวของใครบางคนลอบเข้ามาตะปบมือเขาไว้เสียก่อน จุนมยอนสะดุ้งก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองดูหน้าผู้ที่อุกอาจหาญกล้ากระทำการนี้
แต่มันไม่ใช่คนแปลกหน้า คนตรงหน้าเขาเป็นคนคุ้นเคยกันดีและรักกันมาก ...แต่มันไม่ใช่ตอนนี้
"เจอตัวซักทีนะ..."
"...ทำไม..ถึง"
เวลานี้เขายังไม่พร้อมที่เผชิญหน้า ...คิมมินซอก คนที่รู้ความลับทุกอย่างของเขา
เวทมนตร์เอ๋ย ได้โปรด...
เขายังไม่พร้อมที่จบงานเต้นรำ...
"หมดเวลาเล่นซ่อนแอบแล้ว ...คิมจุนมยอน"
"มาที่นี่ได้ยังไง...น้ามินซอก"
มือเรียวของเด็กน้อยหมดแรงเข้าดื้อ คิมมินซอกดันตัวเองเข้ามาในห้องด้วยสายตาดุดันจนจุนมยอนอยากจะหายตัวไปซะเดี๋ยวนี้
"...นั่นไม่สำคัญ ประเด็นคือน้ารู้เรื่องทั้งหมดแล้ว ...ทำไมเธอถึงเหลวไหลแบบนี้จุนมยอน ทำไมต้องทำเป็นแกล้งหนีออกจากบ้านแบบนี้"
"ผมไม่ได้..."
"พ่อแม่เป็นห่วงเธอกันจนแทบบ้า แต่เธอกลับ.....ทำไมเธอถึงทำแบบนี้ล่ะ"
"ผมขอโทษ... ผมจะกลับแน่...แต่ต้องไม่ใช่ตอนนี้!"
จุนมยอนว่าเสียงแข็งจนมินซอกนิ่งชะงัก ชายหนุ่มวัย30กว่ากัดฟันกรอด หัวใจเต้นจนแทบทะลุเนื่องจากกิริยาก้าวร้าวของหลานชายที่เฝ้าฟูมฟัก จุนมยอนดูตกใจที่ทำแบบนั้นลงไป แต่ด้วยเสียงของคนอีกคนก็ค่อยๆสาปให้ตัวเด็กน้อยเเข็งทื่อ
"อ้าว ใครมาล่ะนั่นน่ะ"
"อาคริส..."
"...อู๋อี้ฟาน"
คริสขมวดคิ้วกับแขกไม่คุ้นหน้า เขาเพิ่งจะขึ้นมาทีหลังเนื่องจากติดคุยโทรศัพท์จึงไม่รู้เหมือนกันว่าอีกคนมาจากไหน
"รู้จักผมด้วยเหรอ อืออออ เดี๋ยวนะหน้าแบบนี้มันคุ้นๆอยู่"
"ผมชื่อคิมมินซอก น้าของจุนมยอน"
"อ๋อ ...แฟนเฮียลู่"
"ไม่ใช่!!!!!!! ลู่หานไม่ใช่แฟนผม!! ผมเกลียดคนโกหก!!!"
ทั้งคริสและจุนมยอนต่างสะดุ้งตกใจเมื่อครั้นมินซอกบันดาลโทสะ จุนมยอนดูเซอร์ไพรส์เป็นพิเศษกับด้านใหม่ของมินซอก หลายคนเคยบอกว่ามินซอกโกรธแล้วน่ากลัวแต่บอกเลยว่าเกิดมาไม่เคยเจอ อี้ฟานดูจะไปต่อไม่ถูกเมื่อมองหน้าอีกฝ่ายที่ทำหน้าดุใส่ตน
"หะ อ่าวก็เฮียลู่มัน...อะไรวะ โดนด่าอีกกู"
"น้ามินซอก เราไปคุยกันข้างนอกเถอะนะ ผม..."
จุนมยอนเลือกจะเอาน้ำเย็นเข้าลูบก่อน เด็กน้อยจับแขนน้าตัวเองแต่มินซอกก็บิดมันออก
"ไม่ไป! พอสักที น้าชักจะเหนื่อยแล้วนะ! ทำไมถึงไม่มีใครคิดจะฟังบ้างวะ รู้บ้างไหมว่าน้าเอาแต่ตามหาเธอแทบทุกวันจนประสาทจะกินอยู่แล้ว รู้บ้างไหมว่าน้าจะบ้าตายขนาดไหนตอนเธอหายตัวไปน่ะห๊ะ เลิกเอาแต่ใจตัวเองซะทีเถอะจุนมยอน!! นายแบบคนนี้มันจะมีอะไรกับชีวิตเธอนักหนาถึงต้องบ้าตามมันขนาดนี้ฮะ!"
"ผม..."
"อู๋ฟาน!!!"
คุณน้าคิมหันไปสนใจเหยื่อคนใหม่แทน เจ้าของชื่อสะดุ้งพลางรับคำแข็งขัน
"ฮะ!? ครับ!!"
"น้ามินซอกผมขอ...อย่า"
จุนมยอนทำหน้าเว้าวอน แต่มินซอกส่งสายตาเย็นชืดมาให้ บางทีเขาอาจจะเลี้ยงเด็กคนนี้ตามใจเกินไป...
"ไม่จุนมยอน มันถึงเวลลงโทษเด็กดื้อแล้ว ...ฟังนะอู๋อี้ฟาน!
จุนมยอน...มันเป็น 'แฟนคลับ' นาย! ชอบนายมากๆ ...มากจนลงทุนหนีออกจากบ้านที่เกาหลี แสร้งทำเป็นนักเรียนปิดซัมเมอร์...เพื่อมาอยู่กับนาย ด้วยความร่วมมือกับลู่หานคนแสนดี"
"ฮะ????"
อี้ฟานขมวดคิ้วด้วยสีหน้าเหรอหราเสล่อสุดๆ หน้าหล่อดูงงสุดซ้ำยังมึนๆคล้ายไม่เข้าใจ ฟังไม่ได้ศัพท์... มินซอกจิ๊ากก่อนจะตะโกนใส่หน้าใหม่อีกรอบและตบท้ายด้วยประโยคใหม่
"มึงฟังอะไรไมเข้าใจวะ! จุนมยอนชอบอู๋ฟาน ชอบมากๆ ชอบจนไม่บริสุทธิ์ใจ และเส้นกั้นอาหลานของพวกนาย...มันไม่มีหรอก!!"
"หมายความว่า...แก..."
อี้ฟานชี้หน้ามาทางจุนมยอนที่ทำหน้าคล้ายจะร้องไห้อยู่รอมร่อ เด็กน้อยส่ายหน้ารัวๆแต่มินซอกตอบกลับอย่างฉะฉานหนักแน่น
"โกหก"
"เดี๋ยว!! อาคริส! ผมไม่ได้"
มินซอกจับข้อมือบางของหลานชายยึดไว้ไม่ให้เข้าไปใกล้คริสที่คล้ายจะสติแตกพิกล จุนมยอนหันมาทำหน้าเว้าวอนแต่มินซอกใจแข็งกว่าจะแพ้น้ำตา
"หมดเวลาสนุกแล้วหลานรัก กลับกันซักที"
"ไม่น้ามินซอก ขอผมอธิบายก่อน"
"ไม่ต้อง! เธอผิดก็ยอมรับซะ!"
"ผมขอโทษแต่ฟังก่อนนะ ผมไม่ได้..."
"เงียบ!!!!!!"
เป็นคริสเองที่ตะโกนปิดท้ายทุกๆสิ่ง ร่างสูงส่งสายตามาทางจุนมยอน...ภายในเต็มไปด้วยความผิดหวังและเคลือบแคลง เด็กน้อยเมื่อเห็นดังนั้นก็อดน้ำตาคลอไม่ได้
คิมมินซอกนึกคาดโทษตัวเองที่ทำหลานเจ็บ แต่ว่า...เรื่องทั้งสองมันไม่เกี่ยวกัน
"...เข้าใจแล้วก็ดี จุนมยอน กลับบ้านกับฉันเดี๋ยวนี้"
"...น้ามินซอก"
"กลับบ้าน!!!!"
จุนมยอนสะดุ้งหลับตาปี๋ สีหน้ามินซอกเริ่มฉายแววเกรี้ยวกราดเพราะเขาดื้อดึง เด็กน้อยลดเกราะลดและตามแรงกระชากของน้าตัวเองราวคนไร้วิญญาณ... ร่างบอบบางเดินผ่านหน้าคริสไปด้วยความปวดร้าว
ปึด..
"อาคริส..."
แต่แล้ว มืออีกข้างของเขากลับถูกดึงไว้ด้วยแรงของอีกคนในห้อง ร่างสูงจับข้อมือหลานชายเอาไว้ จุนมยอนมองหน้าอี้ฟานอย่างไม่เข้าใจ ...และดูเหมือนคริสเองก็ไม่ค่อยเข้าใจตัวเองเหมือนกัน เด็กน้อยเผยรอยยิ้มทั้งน้ำตาทว่ามันก็ต้องหุบลง...
"อย่าจับอู๋ฟาน ...เขาไม่ใช่หลานนายอีกแล้ว"
มันช่างเป็นความจริงที่โหดร้าย...
มินซอกกล่าวตัดเยื่อใยเสียงแข็งกร้าว คริสมองมือตัวเองที่จับข้อมือหลานชายด้วยความลังเล เขาพยายามจะถามตัวเองว่าควรปล่อยหรือไม่ และแล้วเสียงสวรรค์ก็โปรดตอบคำตอบเขา
"จับไว้ไอ้คริส!!"
"เฮีย? // มึง..."
"พอแล้วมินซอก อย่าทำแบบนี้"
เป็นลู่หานเองที่หอบแดกมาจากไหนไม่รู้วิ่งเข้ามาเคลียร์สถานการณ์ที่น่าอึดอัดนี่ให้มันระเบิดตู้ม มินซอกกำมือจุนมยอนแน่นจนเด็กน้อยเผลอร้องโอดโอยอย่างเสียมิได้
"อย่ามาแตะกูลู่หาน มึงมันเฮี้ย!! มึงก็หลอกกู!!! ปล่อยมือเดี๋ยวนี้อู๋อี้ฟาน!!"
"อย่าปล่อยคริส มึงเชื่อเฮีย...คนนี้กูจัดการเอง มินซอกปล่อยมือหลานก่อน เธอบีบมือจุนมยอนแรงไปแล้ว"
"ยุยงใช่ไหม ได้..."
ลู่หานยิ้มโล่งใจเมื่อมินซอกยอมปล่อยง่ายกว่าที่คิด แต่แล้วทุกคนก็ต้องตกใจเมื่อมินซอกปล่อยหมัดแน่นตรงไปกระทบใบหน้าสวยของลู่หานดังลั่นจนเจ้าตัวเซเกือบล้ม
ผัวะ!
"เฮ้ย! เฮียลู่"
"มึงเคลียร์เรื่องมึงไป! มินซอกเดี๋ยวฟังกูนะ..."
ผัวะ!
ลู่หานหน้าหันอีกรอบด้วยแรงหมัดจากคนรักที่คล้ายจะคลั่งแล้ว มินซอกกรีดร้องตะโกนด่าพลางขยี้หัวตัวเองแรงๆ
"อย่าเรียกชื่อกู กูเกลียดมึงอีลู่หาน กูเกลียดมึงๆๆๆๆ กูเกลียดมึ๊งงงง!!!"
"เออกูรู้แต่มึงฟัง..."
"ไม่ฟัง!!!"
กึ่ด!
มินซอกเตรียมจะฟาดมือลงอีกครั้งเมื่อเห็นลู่หานรุกเข้ามา ทว่าครั้งนี้กลับถูกบล็อคจากมือแกร่งของอีกฝ่าย ลู่หานกำมือมินซอกไว้แน่นเพื่อให้ตัวผอมๆของเขาแทรกเข้าไปประชิดตัวคนรักได้
"เออได้ ชอบใช่ไหมบทเอสเอ็มเนี่ย เดี๋ยวพี่ลู่จัดให้!"
จ๊วบ...
คริสเลือกจะดันตัวเองมาบังภาพไม่เหมาะสมให้จุนมยอนโดยหันหลังให้คู่รักที่ทะเลาะกัน มินซอกพยายามกระชากผมลู่หานออกทว่าผู้ชายแมนๆแล้วก็เอาแต่รั้งจูบไม่ปล่อยเสียดี คริสกดหน้าจุนมยอนให้จมหายไปกับแผ่นอกเพื่อไม่ให้หลานชายได้ฟังเสียงจูบอันดูดดื่มจนเสียคนไปซะหมด
ลู่หานถอนปากแดงอย่างมั่นใจในชัยชนะ ผิดกับมินซอกที่ผละออกอย่างไร้แรงดูเหมือนแมวง่วง
"หายบ้ารึยั..."
พลั่ก!!
"ย๊า!!! ต่อยทำไมนักหนาวะ หมัดหนักจะตายห่า! มึงจะไปโอลิมปิกรึไงมินซอก! เห็นไหมเลือดกำเดากูออกแล้วเนี่ย!!"
และด้วยความชะล่าใจจึงโดนหมัดหนักกระแทกเข้าจมูกอย่างจังจนแทบเบี้ยว คิมมินซอกกัดปากพร้อมน้ำตาไหลพร่าลงเต็มสองตา
"....มึงแม่งเฮี้ย ตายห่าไปสัด...กูห่วงหลานกูจะตายมึงกลับปิดกู หน้าที่แฟนแม่งก็ไม่เคยดี ชอบใช่ไหมฉากเลิฟซีนน่ะ กลับไปกูจะได้จัดให้เล่นAVสักเรื่อง...มึงจะได้หลงนมจนไปให้พ้นชีวิตกูไง"
"มึงจะด่าก็ด่าดิวะ จะร้องไห้ทำไมเนี่ย! บอกเลยจะใหญ่แค่ไหนกูก็ไม่มีทางหลงมันมากกว่ามึงหรอก"
"กูจะร้องไห้ให้แม่งทุกคนดูนี่แหละสัด ว่าเกิดเป็นกูมันเจ็บแค่ไหน!! พี่สาวกูก็ทิ้งไปอยู่กับพี่เขย หลานกูๆก็เฝ้าเลี้ยงดูยิ่งกว่าลูกชาย...โตมาแม่งไม่รักกูซักนิด มีผัวแม่งก็ไม่เคยซื่อสัตย์ คิดว่ากูอยากเป็นนักเหรอวะเบื้องหลังชีวิตมึงน่ะ! กูอยากจะเดินไปตอกหน้าอีพวกนั้นเหลือเกินว่ามึงเป็นของกู! กูโกรธ กูโมโห กูดราม่า"
ตาเรียวเจือแดงกราดไปโดยรอบห้องพร้อมเสียงตะคอกดังก้อง มินซอกตรงไปที่ประตูก่อนจะวิ่งหนีทุกอย่างไป
"กูทุ่มให้ไปจนหมดตัว แต่ก็ไม่มีใครรักกูสักคน!!! พอ เลิก จบ แล้วแต่พวกมึงเลย!! กูไปเอง!"
"น้ามินซอก!!!"
"จุนมยอนหยุดๆๆๆๆอยู่ตรงนั้นเลย อยู่นี่ เดี๋ยวพี่ตามเอง"
ลู่หานวาดแขนไปกั้นตัวเล็กเอาไว้เป็นการห้าม จุนมยอนหัวเสียกับหลายๆอย่างจนตอบกลับไปเสียงดัง
"แต่นั่นน้าผมนะ!"
"แต่คนข้างๆนายดูเหมือนจะต้องการคำตอบเหมือนกัน"
ลู่หานทิ้งท้ายไว้ก่อนจะวิ่งตามคิมมินซอกออกไป เหลือเจ้าของห้องกับหลานชายตัวน้อย ...จุนมยอนมองหน้าคริสพลางกล่างเสียงค่อย...
"อาคริส"
"...แป๊ปนะ ขอเวลาหน่อยนึง อ่า ...ก่อนอื่นเลย"
คริสนวดขมับอย่างคนเครียดจัด ร่างสูงตรงไปนั่งลงบนโซฟานุ่มด้วยความเหนื่อยล้าตรงอก จุนมยอนไม่รู้จะวางตัยังไงดี เด็กน้อยจึงเลือกการยืนแทน
"...สร้อยข้อมืออันนั้น...ของฉันใช่ไหม"
"อือ รู้จริงๆด้วยสินะ มันเป็นอันที่อาทิ้งไปแล้ว ...พี่ลู่หานเก็บมาให้ผม เขารู้ว่าผมชอบ...คุณ"
".....อือ จริงๆก็พอจะสงสัยอยู่บ้างนะ"
"ตั้งแต่เมื่อไหร่"
"ตอนที่เห็นรูปเก่าๆของฉันในกระเป๋ากล้องนาย แต่...ไม่คิดว่ามันจะเป็นแบบนี้จริงๆ"
คริสแค่นหัวเราะน้อยๆ บางทีถ้าเขาไม่ขี้เสือก เรื่องมันอาจจะดีกว่านี้ ...เขาจะได้ไม่ต้องเชื่อคำพูดของคิมมินซอกเพราะมันไม่มีน้ำหนักและเหตุผลสนับสนุน
"ผมไม่ได้ตั้งใจ....ไม่ๆๆ ทุกอย่างผมตั้งใจ แต่ผมไม่อยากอากั้นกำแพงแฟนคลับกับผม ผมไม่อยากแค่มองอาไกลๆ ผมแค่อยากอยู่ใกล้ๆคริส"
"แล้วความตั้งใจของนาย รวมถึงจูบคืนนั้นด้วยรึเปล่า..."
จุนมยอนกลืนน้ำลายลงเมื่อถูกต้อนจนถึงจุดลงเหว ร่างบางกุมมือเข้าหากัน ใบหน้าหวานมีเหงื่อไหลซึมไปทั่ว..
"ตื่นอยู่เหรอ"
"ก็ว่าจะฟังนิทานให้จบน่ะ"
"..."
คริสถอนหายใจเมื่อบทสนทนามันจบลงด้วนๆ จุนมยอนรู้สึกว่าตัวเองหายใจลำบากถ้าจะพูดต่อจึงตัดสินใจเงียบไมว้อย่างนั้น
"น้าของนายน่ะ...เค้าเป็นห่วงนายจริงๆนะ คราวหน้าก็อย่าทำแบบนี้อีก"
"ผมคงไม่ทำอีกแล้วแหละ น้ามินซอกคงผิดหวังมาก...เขาไม่เคยตะคอกคำหยาบให้ผมฟังเลยด้วย"
"ถ้าเข้าใจก็ดี กลับไปกับเขาซะ เข้าใจใช่ไหม"
"ไม่...ยังกลับไม่ได้"
"ทำไม"
"ผมอยากอยู่กับคุณ"
"งั้นฉัน...จะไปเอง"
ร่างสูงลุกพรวดตรงไปที่ทางออก เด็กน้อยไล่ตามมาจับตัวไว้ด้วยใบหน้าน้ำตาคลอ จุนมยอนกำเเขนเสื้อคริสแน่นด้วยกลัวอีกฝ่ายจะหนีหายไป
"ไม่! ไม่ๆๆๆ....แค่อีกไม่นาน อยู่กับผม ขอร้อง..."
"คิดว่าเรายังจะมองหน้ากันเหมือนเดิมอีกเหรอคิมจุนมยอน? ความลับมันแตกแล้ว...ยังจะให้ฉันเชื่อใจนายอีกรึไง นี่ฉันดูโง่มากเลยป่ะวะ เขางอกแล้วใช่มะ"
"ได้โปรด...คริส"
"โทษนะ แต่เราออกไปจากชีวิตกันและกันเถอะ... ให้ฉันจำได้แค่จุนมยอน คนที่เป็น'หลาน'ของฉันเท่านั้นก็พอ"
จุนมยอนไม่รู้สึกถึงแรงของตัวเองอีกต่อไปเมื่อครั้นคริสสะบัดมือเขาออก เด็กน้อยปล่อยน้ำตาใสออกมาช้าๆกับความเป็นจริงที่ไม่อยากยอมรับ
"แต่นาย...ไม่ใช่"
...และเขาทำได้เพียงแต่มองแผ่นหลังกว้างของคนในฝันเริ่มจากไป
ทำไม... โชคชะตาคนเรามันถึงได้ต่างกันเช่นนี้...
"อาคริส...อย่าไป"
ปัง...
ทำไม่ไหว...ยื้อไว้ไม่ได้อีกแล้ว
"ฮือออ...."
...งานเลี้ยงแสนหวานได้จบลงแล้ว
...พร้อมกับความลับของซินเดอเรลล่าแสนโลภมากที่ไม่ยอมจากเจ้าชายจนเวทมนตร์เสื่อมคลาย
จากนั้นคนขี้โกหก ต้องรับโทษอย่างสาสม...
ติ๊ก... ติ๊ก... ติ๊ก...
' เหลือเวลาอีกไม่มากแล้วนะ '
"ขอให้ผมรอเขา...จนหมดวันนี้ด้วยเถอะครับ"
จุนมยอนเอ่ยเสียงค่อยตอบผ่านโทรศัพท์ที่คุยอยู่ เด็กน้อยอยู่คนเดียวภายในห้องมืดที่มีเพียงแท่นเทียนที่คอยให้ความสว่างแทนหลอดนีออน เจ้าของห้องตัวจริงยังคงไม่กลับมาและคงไม่คิดจะกลับมาตอนนี้ ปล่อยเขาทิ้งไว้คนเดียว
' จุนมยอน พี่ขอโทษนะที่มันจบลงแบบนี้ '
ลู่หานรู้ดีถึงสถานการณ์ทุกอย่าง สาเหตุที่ทำให้มินซอกตามมาถูกก็คงเป็นเพราะเขาที่ไม่ระวังจนโดนแอบฟังความลับนี้เข้า และแน่นอนคิมมินซอกคนรักของเขาเกลียดคนโกหกยิ่งกว่าอะไร ยิ่งด้วยความสัมพันธ์ที่เริ่มระหองระแหงเพราะข่าวคาวกับดาราสาวที่โดนหนังสือพิมพ์นั่งเทียนใส่ก็ยิ่งสร้างรอยร้าวมากขึ้น
มินซอกต่อว่าและขอบอกลาความสัมพันธ์ จากนั้นก็มาตามหาหลานชายในจีนแผ่นดินใหญ่ แต่เนื่องจากข้อมูลที่ไม่พอทำให้มินซอกต้องเดินหน้าหาข้อมูลบ้านของคริสไปทั่ว น่าแปลกที่ทำได้สำเร็จ แต่ด้วยเรื่องนั้นทำให้ลู่หานตามมาห้ามเรื่องไว้ได้ซักครึ่งหนึ่ง
แต่ถึงอย่างนั้น...อู๋อี้ฟานก็รู้ทุกอย่างอยู่ดี
"ผมต้องขอบคุณพี่ต่างหาก ...แล้วน้ามินซอกเป็นยังไงบ้างฮะ"
' หลับอยู่น่ะ ร้องไห้จนเพลีย ไม่ต้องห่วงนะ พี่จะดูแลให้เอง '
จุนมยอนได้ยินเช่นนั้นก็ใจชื้นขึ้นมา หลังจากวันที่ทะเลาะกันเขาไม่ได้รับข่าวอะไรจากใคร เด็กน้อยทำได้เเต่เฝ้าคิดถึงคิมมินซอกและรอคอยคริสอู๋หวนกลับมา
อย่างแรกมันสมหวังแล้ว ที่อย่างที่สอง...มันเริ่มหมดหวัง
"ผมรู้...ขอบคุณมากนะพี่ลู่หาน"
หลังจากคุยกับลู่หานอีกสองสามคำจุนมยอนก็ตัดสายลง ใบหน้าหวานแหงนมองนาฬิกาแขวนข้างผนังที่บอกเวลาสามทุ่มกว่า ก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งเล่นที่โซฟายาวที่ๆคริสชอบนั่งอยู่ตอนดึก จุนมยอนเปิดโทรทัศน์ดูเรื่อยเปื่อยจนไปสะดุดกับซีรี่ย์เรื่องหนึ่ง...มันเป็นเรื่องรักเศร้าๆน้ำเน่าตามประสาซีรีย์ที่จุนมยอนไม่ค่อยได้ดูมันเท่าไหร่
...แต่เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อู๋ฟานชอบดู
จุนมยอนหยิบหมอนอิงลายอัลปาก้าที่คริสชอบขึ้นมากอดตอนกำลังดูซีรี่ย์ เข้าจำได้...คริสทักจะกอดมันเสมอเวลานั่งเล่นบนโซฟา ร่างบางซบหน้าลงกับหมอนพลางสูดกลิ่นอายที่เจ้าของมันเหลือทิ้งเอาไว้
ตากลมเหลือบไปมองสร้อยข้อมือของตนเอง นั่นมันก็เคยเป็นของคริสมาก่อน...
ให้ตายเถอะ....ทุกอย่างมันชวนคิดถึงเจ้าของห้องจนน่าร้องไห้จริงๆ
ติ๊ก... ติ๊ก... ติ๊ก....
จุนมยอนค่อยๆลืมตาตื่นขึ้นมาหลังจากเผลอหลับไปอย่างไม่รู้ตัว โปรแกรมโทรทัศน์ที่เปิดค้างไว้กำลังเล่นเป็นข่าวจีนตอนดึกที่เขาฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเท่าไหร่ เด็กน้อยสะลึมสะลือขึ้นมาท่ามกลางความมืด จุนมยอนปิดโทรศัพท์และตรงไปที่โต๊ะอาหาร
เทียนที่เขาจุดเอาไว้ไร้แสงเพราะเชื้อเพลิงหมด จุนมยอนปลดมันออกและปักเทียนเล่มใหม่ลงไป เด็กน้อยแหงนมองนาฬิกาอีกครั้งก็ต้องรู้สึกใจหาย มือทั้งสองข้างลำตัวกำแน่นจนสั่นน้อยๆ
"คงจะไม่มาจริงๆสินะ ...ปีนี้ก็คงต้องฉลองคนเดียวอีกแล้ว"
ร่างบางนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิมด้วยสีหน้าเศร้าสลด สายตาทั้งสองมองตรงไปที่เค้กก้อนน้อยๆตรงหน้าที่ถูกปักเทียนลงไปรอบแล้วรอบเล่าจนหน้าเค้กบางส่วนหายไปแทบหมด ยิ่งเห็นแบบนั้นเขาเองก็อยากร้องไห้ออกมาดังๆ ...นั่นมันยิ่งตอกย้ำว่าเขากำลังกำลังทำอะไรอยู่
"งี่เง่าชะมัดคิมจุนมยอน รอคอยอะไรลมๆแล้งๆ ถ้าเขาจะโกรธ มันก็คงไม่แปลก..."
มือเรียวหยิบกล้องวิดีโอขึ้นมาบันทึกภาพ 'ครบรอบวันเกิด18ปี' ของตนเอง จุนมยอนมองตรงไปด้านหน้าและทำราวกับว่ามันมีคริสอยู่ตรงนั้น เด็กน้อยฉีกยิ้ม...แม้ในใจจะร่ำร้อง
"ผมขอโทษนะที่ทำอะไรตามตัวเองอีกแล้ว ...แค่ผมเอากล้องอามาเล่นคงจะไม่โกรธใช่ไหม"
"ผมน่ะชอบคุณมาตั้งนานแล้วนะ ผมหลงรักอาคริสจากนิตยสารเล่มนึงที่น้ามินซอกเอามาให้ดู จะบอกว่าผมโรคจิตไหมถ้าจะบอกว่ามันเป็นรักแรกพบ สายตาอาที่มองกล้องแบบนั้นมันทำผมจะตายจริงๆนะ จนทุกวันนี้ผมไล่เก็บหนังสือทุกเล่มที่มีรูปอาอยู่ด้วยแหละ! ทีผมใฝ่ฝันในการเป็นตากล้องมันก็เพราะคุณนะอู๋ฟาน..."
จุนมยอนส่งสายตาให้กล้องที่วางอยู่ตรงนั้น เขาปรารถนาที่จะให้คริสได้รับรู้มันจากสายตาคู่นี้บ้างบ้างแม้จะเล็กน้อย...
"ความรู้สึกของผมแค่หน้ากระดาษมันเติมเต็มไม่พอ...ผมไม่ได้อยากเป็นแค่แฟนคลับ ผมอยากจะจับกล้องแล้วเล็งมันไปที่คุณ ถ่ายคุณออกมาให้ดูดีที่สุดเพราะคุณเป็นสมบัติของผม อยากให้คุณยิ้มให้กล้องผม...ยิ้มให้ผมคนเดียวก็พอ"
จุนมยอนสูดหายใจเรียกเสียงที่คล้ายจะถูกกลืนหายลงคอเพราะก้อนสะอื้น ซินเดอเรลล่าตัวน้อยรู้สึกเจ็บหนักครั้งถูกเจ้าชายหนีหาย
"ผมเลือกที่จะเลวเพื่อขอมีช่วงเวลาแสนงดงามกับคุณ ภายในเวลาสองเดือนกับฐานะหลานชายห่างๆ ...แม้มันจะเป็นแค่เล็กน้อยและดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้ แต่ผมก็เลือกที่จะทำ...คุณว่าผมเหมือนซินเดอเรลล่าไหม? เรื่องที่ผมเล่าให้ฟัง... เราออกจะเหมือนกันนะ ผมเองก็คาดหวังกับตอนจบเอาไว้เหมือนกันแต่มันก็คงเป็นได้แค่นั้น...เรื่องราวของเรามันไม่แฮปปี้เอ็นดิ้งเหมือนในนิทาน เพราะหล่อนคว้าหัวใจเจ้าชายได้...ผิดกับผม ผมคว้าอะไรไม่ได้เลย..."
น้ำสีใสร่วงอาบสองแก้ม มือเรียวยกขึ้นปาดมันออกลวกๆแบบเด็กน้อยคนนึง ตากลมสองข้างแดงจัดเนื่องจากการขยี้
"มันไม่โอเคเลยที่ผมจะอ่อนแอแบบนี้ ผมรั้งคุณไว้แต่ก็ทำไม่ได้ ผมเว้าวอนให้คุณกลับมาแต่ผมก็ทำไม่ได้ ข้อความพวกนั้นคุณคงไม่ได้อ่านมันใช่ไหมคุณเลยไม่กลับมา ถ้าคุณอ่านมันคุณจะกลับมาใช่ไหมคริส ...ผมคิดถึงคุณ...ผมคิดถึงคุณมากๆ ผมคิดถึงจนจะเป็นบ้า"
เสียงหวานสั่นครืออย่างควบคุมไม่อยู่ จุนมยอนยกมือปิดหน้าเพื่อกลบเสียงสะอื้นที่ดังขึ้นจากความน้อยใจที่ล้นปรี่
"พ่อแม่ผมพวกเขาเคยร่วมอวยพรผมครั้งยังเด็ก แต่พอผมโตมาพวกเขากลับค่อยๆห่างออกไป... เหลือแค่น้ามินซอกที่ยังอยู่กับผม แต่... แต่ผมรู้นะ อีกไม่นานเขาก็จะทิ้งผมไปอีกคน วันนี้ ...ผมอยากจะมีคนร่วมอวยพรวันเกิดซักคน และผมก็หวังสูงไป...ว่ามันจะเป็นคุณ
แต่คุณก็ไม่กลับมา ...แต่ก็นะ ...เด็กไม่ดีสมควรถูกลงโทษ โอเค นาฬิกาใกล้จะหมดวันแล้ว ผมคงต้องฉลองคนเดียวจริงๆ..."
จุนมยอนมองเค้กตรงหน้าด้วยภาพพร่ามัว ม่านน้ำตามันบังเอาไว้จนเขาเริ่มแยกไม่ออกว่าอันไหนครีมหรือเค้ก เด็กน้อยเอ่ยเอื้อนบทเพลงฉลองวันเกิดที่มักจะได้ยินทุกๆปี
แต่ปีนี้ เขาต้องร้องมันด้วยตัวเอง...คนเดียว
"เซงิลชุกฮาฮับนิดา เซงิลชุกฮาฮับนิดา ซารังฮานึน จุนมยอนนา..."
คิดแล้วก็อดน้ำตาไหลไม่ได้ถ้าคริสยังอยู่ตรงนี้เขาจะมีความสุขขนาดไหนนะ...
ได้โปรดเขาไม่ได้อยากได้แค่นี้... จุนมยอนต้องการมากกว่านี้... จุนมยอนต้องการอู๋อี้ฟานกลับมาที่นี่...
ขอแค่นี้จริงๆ...
".....เซงิลชุกฮาฮับนิดา"
ระฆังตีบอกเวลาเที่ยงคืนแล้ว
....งานเลี้ยงกำลังจะจบลง...เวทมนตร์กำลังจะสิ้นสุด...
และซินเดอเรลล่าก็ต้องตื่นจากความฝันแสนหวาน...และกลับไปยังที่ๆเธอจากมา
from : จุนมยอน
to : อาคริสสุดหล่อ
subject : ผมขอโทษ...
วันนี้เป็นวันเกิดผม
ผมแค่อยากจะฉลองมันร่วมกับคุณสักครั้ง
ได้โปรดกลับมาหาผมหน่อยเถอะ
...ผมจะรอ
5 / 5
' จุนมยอนนาขอโทษจริงๆนะจ้ะ วันนี้อัปป้ากับออมม่าไม่อยู่จริงๆ ไว้เรากลับแล้วเราจะพาลูกไปฉลองทีหลังนะจ้ะ รักลูกเสมอนะคนเก่งของแม่ '
"เดินทางโดยปลอดภัยนะครับพ่อแม่"
' จุนมยอน น้ามินซอกอยู่จีนนะกลับไม่ทันจริงๆ น้าขอโทษ เราอยู่คนเดียวได้ใช่ไหม ดูแลบ้านดีๆนะ '
"อื้อ ปักกิ่งคงจะหนาวแน่ๆ น้าดูแลสุขภาพตัวเองด้วยนะครับ"
ก๊องแก๊ง...
"จุนมยอนนนนนน ขอดูหนังได้ไหมอ่า"
"เรื่องนี้ๆๆ"
"ย่า! คิมจงแด ปาร์คชานยอล พยอนแบคฮยอน มาช่วยกันเก็บกวาดก่อนสิ!"
จุนมยอนเหลือบมองพวกเพื่อนด้านหลังแล้วก็อมยิ้ม วันนี้เป็นวันเกิดของจุนมยอนปีที่20แล้วนะ แต่พอดีว่าทางบ้านติดธุระจริงๆ เพื่อนเลยเสียสละมาอยู่ฉลองด้วยกันแทน พอกินกันเสร็จก็หนีไปตีพุงอยู่หน้าทีวี ด้วยความดีงามแต่กาลก่อน จุนมยอนจึงบากหน้ามาล้างจานเล่นอยู่หน้าซิงค์อย่างมีความสุข ส่วนตัวเเสบนั่นเหรอ แย่งกันดูหนังดูไง
"จริงเลยพวกนี้นิ พลังงานไม่หมดกันบ้างรึไงนะ"
"ฮ่าๆๆๆๆ ไม่เป็นไรหรอกคยองซู เรามาช่วยกันล้างจานแล้วไปดูหนังกันเนอะ"
คยองซูเพื่อนตัวเล็กบ่นกระปอดกระแปดเหมือนคุณแม่ของหมู่เพื่อน ตั้งแต่ล้างจานเสร็จจนมานั่งรวมกลุ่มกัน ตากลมโตถลึงใส่ดุๆที่จุนมยอนเอาแต่โอ๋พวกนั้นมากไป
"เฮ้ จุนมยอนมึงก็20แล้วนะ ไม่ดุให้พวกนั้นกลัวหน่อยเล่า!"
"จุนมัน20แล้วไง ดูสิมีอะไรเซอร์ไพรส์!! แต๊น!"
ปาร์คชานยอลโชว์ขวดยาวอันคุ้นตาที่แอบเอาเข้ามาในบ้านด้วยสีหน้าระริกระรี้สุดๆจนคยองซูเบ้ปากใส่
"เหล้า? ตลกล่ะปาร์ค นั่นกินได้ตั้งแต่18"
"อ้าวรือออ ไม่เป็นไรๆ 20ก็กินได้น่าาาา เอ้า ยกเพื่อมิตรภาพของเรา"
ชานยอลยกดื่มทั้งขวดก่อนจะส่งให้จุนมยอนต่อ ตัวเล็กมองคิดๆก่อนจะยกดื่มตามท่ามกลางเสียงปรบมือของคุณปาร์คผู้ร่าเริงขณะเดียวกันแบคฮยอนก็หันหน้าเข้าทีวีไปพบหน้าใครบางคนเข้า
"เฮ้ยนั่นมันดาราคนที่มึงชอบนี่หว่า ใช่ป่ะจุน เนี่ยๆ โอ๊ย!"
"พ่อมึง ใครสั่งใครสอนให้ตอกย้ำเรื่องเก่าๆฮะ! อีห่า"
จงแดตะปบปากแบคฮยอนจนอีกฝ่ายร้องโอ๊ย จุนมยอนมองสบตากับจอก่อนจะเพ้อเสียงแผ่วออกมา ทำเอาพวกเพื่อนๆเลิกลั่กกันถ้วนหน้า
"....อาคริส"
"เฮ้ย จุนกูเข้าความรู้สึกมึงนะ"
"ทำไม...หล่อจังวะ พวกมึงดูดิ อาคริสแม่งหล่อขึ้นจมเลยอ๊าาาา กูจะอือรือรองงง"
"โอเคกูไม่เข้าใจมึงแล้วแหละ ยกเหล้าให้เมาไปเลยไปมึงอ่ะ"
แบคฮยอนที่อยู่ใกล้สุดตบกระโหลกน้อยๆเต็มแรง จุนมยอนยู่ปากพลางนั่งขบขัน
"ฮ่าๆๆๆๆ กูขอโทษ กูก็เจ็บแหละ แต่มันก็ดีนี่ที่เห็นเค้าเป็นแบบนี้"
"ดีละ เดี๋ยวพวกกูไปโทรศัพท์แป๊ปนะ บอกแม่ก่อนว่าค้างกะมึง"
เป็นจงแดที่ลุกออกไปก่อน จากนั้นทั้งสามคนที่เหลือก็ค่อยๆทะยอยกันออกไป ทิ้งจุนมยอนเอาไว้หน้าโทรทัศน์คนเดียว
เด็กน้อยเล่นโทรศัพท์รอไปเรื่อยๆ บนหน้าจอมีแต่ข่าวของคริสขึ้นเต็มไปทั่ว รอยยิ้มน้อยมุมปากยกแย้มน่าเอ็นดู ทว่าทันใดนั้นเอง แสงสว่างภายในห้องก็พาลดับลงเอาเสียดื้อๆ
ฟึ่บ....
"อ้าวไฟดับ...เฮ้ย พวกมึง ข้างนอกดับรึเปล่าวะ"
จุนมยอนตะโกนถามผ่านประตูห้องพร้อมเคาะประตูสองสามปึ้ง แต่ก็มีเพียงความเงียบที่ตอบกลับมา
"มึง ...ปาร์ค คิม พยอน โด อะไรวะ อยู่รึเปล่า ตอบกูหน่อยดิ"
แกร๊ก...
เมื่อไร้ซึ่งคำตอบอีกครั้ง จุนมยอนจิ๊ปากขัดใจก่อนจะจำใจเปิดประตูออกไปดูเองโดยมีเพียงแสงสว่างจากโทรศัพท์เท่านั้น แต่แล้วเมื่อมือจับถูกลูกบิดก็มีมือแห้งหยาบน่าขนลุกคว้าหมับเข้าที่ข้อมือขาว จุนมยอนสะดุ้งก่อนจะสาดไฟไปส่งหน้าคนที่คิดว่าเป็นเพื่อน
"เล่นเชี่ยอะไร...สัด"
"...อ่าาาา"
เสียงกดต่ำชวนสยองดังมาจากสิ่งมีชีวิตบางอย่างตรงหน้าเข้า รูปร่างคล้ายมนุษย์ ทว่าใบหน้าและลำตัวที่เหวอะหวะไปด้วยรอยแผลทำเอาเด็กน้อยสติแทบสิ้น จุนมยอนนึกถึงหนังซอมบี้ที่เคยดูตอนเด็กๆก็น้ำตาซึมน้อยๆ
"ใครวะ! อีเฮี้ย อี๋หน้าเละสัดอี๋ออกไป นี่อย่าบอกนะว่ากูจะติดเชื้อผีดิบเนี่ย แฟนตาซี แฟนตาซีเกินไปแล้ว!! อย่าเข้าม้าาาา กรี๊ดดดดด!!"
"จุน...มยอน......"
เจ้าของชื่อส่ายหน้ารัวๆพลางวิ่งหนีเข้าไปในห้อง ตัวประหลาดยังคงตามเขาเข้ามาติดๆราวผีดิบในเรซิเดนท์ อีวิวที่ไม่ได้เดินช้าๆเหมือนต้นฉบับ มือเหวอะทั้งสองข้างพันธนาการข้อมือขาวไว้หนาแน่น จุนมยอนกรีดร้องเสียงดังเมื่อถูกจับได้
"ปล่อยกู!!! นี่มันเฮี้ยเกินไป เป็นการตายที่ไม่คาดคิดจริงๆ แม่งเอ๊ยยังไม่ได้อยากตาย ไม่เอาอ่าา ยังไม่ได้เจออาคริสอีกครั้งเลย ยังไม่ได้ขอโทษเลย จะตายตาหลับยังไง"
"จุนมยอน..."
"อะไร ฮือ.......โอ๊ย ใครก็ได้ๆๆๆ ช่วยกูด้วย พระเจ้า กูเกลียดอัมเบลล่า!! กูต้องโดนกัดคอเหรอเนี่ย ได้ไง กูอุตส่าห์เก็บไว้ให้อาคริสคนเดียว!"
น้ำตาใสไหลลงอาบแก้มชมพู จุนมยอนเบะปากราวเด็กๆเมื่อลำคอมีบางอย่างอยู่แนบชิด ตัวเค้าไม่กล้าเลยที่จะคิดไปมากกว่านั้น
น่ากลัว...แค่นึกว่าเลือดจะพุ่งแบบไหนก็สั่นไปหมดทั้งตัว...
...
"จุนมยอน นี่ร้องไห้เลยเหรอ? ทำไมขี้แยงี้วะ"
"เอ๊ะ?"
จุนมยอนลืมตาข้างนึงอย่างกล้าๆกลัวๆ ถ้าไม่รู้สึกไปเองล่ะก็เสียงแบบนี้คุ้นมากจริงๆ สัตว์ประหลาดตัวสูงถอดใบหน้าปลอมของตัวเองออกและขยับหน้าจริงเข้ามาฝังจูบลงที่หน้าผากมน
"จุนมอน...สุขสันต์วันเกิด โตขึ้นบ้างซะทีนะแกน่ะ"
"เอ๋? คะ คะ คะ คะ คะ ...คุณ? ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่!"
ตัวเขารู้สึกตกใจแทบสิ้นเมื่อคนตรงหน้าคือคนที่รู้จักกันดี อู๋อี้ฟานยกยิ้มเจ้าเสน่ห์ก่อนจะลูบศีรษะน้อยเบาๆ
"โตขึ้นมากเลยนะ ก็ดีแล้ว... เออ แต่ก่อนอื่น"
ปัง!!
"เซอร์ไพรส์!!!!!!"
พลุกระดาษถูกยิงเข้าหน้าขาวๆที่เหวออยู่ด้วยฝีมือเพื่อนรักทั้งสี่ของตนเอง เหล่าเด็กหัวเราะสะใจกันถ้วนหน้าเมื่อเห็นเพื่อนตัวเองเต็มไปด้วยเศษกระดาษ หลังจากนั้นมินซอกและลู่หานพร้อมด้วยคุณคิมทั้งสองที่ตั้งใจมาพร้อมหน้ากันเพื่อวันนี้โดยเฉพาะ
"ไงเตี้ย เงิบแดกเลย"
ชานยอลระเบิดหัวเราะครั้นเห็นปากเล็กอ้ากว้าง คุณนายคิมหัวเราะน้อยๆก่อนจะหยอกล้อกับสามีเธอ
"ดีใจไหมจ้ะลูกรัก คิคิ ดูสิคุณ จุนมยอนหน้าเหวอเหมือนฉันตอนโดนขอแต่งงานเลย"
จุนมยอนหันซ้ายทีขวาทีเหมือนคนบ้าขี้ระแวง หน้าขาวดูคิดไม่ตก นิ้วชี้ขาวชี้กราดหน้าทุกๆคนในห้อง
"ก็ไหน...บอกไม่อยู่กันแล้วทำไม...เดี๋ยวนะ ปากสั่น"
"วันเกิดปีที่20ของลูก พวกเราจะพลาดกันได้ยังไง ทุกคนตั้งใจมาเลยนะ"
"อีกอย่างแผนเนี้ย ไอ้คริสมันเริ่มเองเลยนะ"
ลู่หานโบ้ยไปทางน้องชายที่ยืนสูงหน้ามึนอยู่ข้างๆเจ้าของวันเกิด จุนมยอนหันขวับคอแทบหักพร้อมทำตาโตใส่ คริสเพียงยักไหล่แบบ...แฉแล้วไงไม่แคร์
"ก็...เอาคืนตอนเมื่อสองปีที่แล้ว แล้วก็แก้ตัวให้ที่คราวนั้นไม่ได้อยู่ด้วย"
"นี่มัน อะไร ...ได้ไงเนี่ย...นี่มันวันเกิดนะ อย่ามาทำให้ร้องไห้ได้ไหม!! บ้าจริงใครแต่งหน้าให้เนี่ย นึกว่าซอมบี้บุกแล้วไง ฮือออ เข่าอ่อนเลยดู!"
"ไม่งั้นจะเซอร์ไพรส์ไหมล่ะ!"
เมื่อรับรู้ถึงต้นตนบวกด้วยความตกใจที่หายไปแล้ว เด็กน้อยก็เบะปากออกมาอย่างน่าเอ็นดู มือน้อยทุบลงอกแน่นของคนข้างๆเต็มแรง น้ำตาใสคลอหน่อยอยู่รอบๆ คริสแยกเขี้ยวใส่ก่อนจะรวบตัวเอามาโอ๋
"ชิบหาย ร้องไห้จริงนี่หว่า ฮ่าๆๆๆๆๆๆ"
แบคฮยอนหันไปหัวเราะกับจงแด แต่คยองซูก็รวบปากทั้งคู่ไว้อย่างชำนาญพร้อมสั่ง(ขู่?)เสียงเย็น
"เงียบๆๆ"
เหมือนว่าทั้งคู่จะลืมไปว่ามีคนอื่นอยู่อีกในห้องนี้ จุนมยอนกอดคริสแน่นก่อนจะปล่อยน้ำตาออกมาด้วยความคิดถึงและโหยหา แม้เวลาจะผ่านไปเกือบสองปีแต่มันไม่ได้ทำให้ความรู้สึกของเขาเปลี่ยนแปลง เขายังคงมั่นคงในตัวไอดอลคนนี้
รักเสมอมา...
"ตกใจเหรอ ขอโทษที ไม่นึกว่าจะแรงขนาดนี้ บ่อน้ำตายังตื้นเหมือนเดิมนะแก"
"ตกใจตอนเจอหน้าอานั่นแหละ...อาคริสส ผมขอโทษ"
"ขอโทษห่าอะไรวะ ยืนเงียบๆไปมึงอ่ะ เอางี้ เพื่อไถ่โทษต้องทำอะไรชดใช้หนึ่งอย่าง"
"ได้...ทำอะไรอ่ะ"
จุนมยอนพยักหน้ารัวๆ สีหน้าขาวเริ่มแหยลงด้วยกริ่งเกรงน้ำเสียงเย็นชืด เด็กน้อยก้มหน้าลงเมื่อเจอสายตากดดันจนแทบหายใจไม่ออก
คริสเลิกคิ้วมองก่อนจะเหยียดยิ้มออกมา ร่างสูงบีบไหล่บางเพื่อทำการไซโคให้รู้สึกผิดยิ่งๆขึ้นไป...
"แต่งงานกันนะ..."
"...ก็ได้"
"วู้ฮู้!!!!!!!! เยี่ยมเลยเว้ยยยย!!!!"
"เป็นฝั่งเป็นฝาแล้วเพื่อนกู!!!"
"อิจฉาโว้ย หวานกันชิบหายหายหายหาย!!! เห็นหัวคนไม่ดีคู่แบบพวกกูบ้าง!! อ้ากกก"
"แบบนี้ต้องฉลองใหญ่เลยเว้ยยยย เยส!!!"
สหายรักทั้งสี่กระโดดโลดเต้นกันสุดเท้า บอกได้ว่าถ้าไม่ติดคนข้างๆไอ้เตี้ยแล้วล่ะก็อยากจะจับมันโยนลอยสักห้าหกที สะใจยิ่งกว่าได้โอลิมปิกอี๊กกกก!!!
จุนมยอนมองหน้าเพื่อนก่อนจะขมวดคิ้ว....
"ฮะ?"
"ตอนนี้หมั้นไว้ก่อนก็ได้ เรียนจบแล้วว่ากันอีกที ตกลงใช่ไหมครับคุณแม่"
"ฮะ?"
จุนมยอนหันไปมองทางคริสที่ทำการตกลงบางอย่างกับมารดาเขาอย่างเอาแต่ใจ เด็กน้อยชักจะงงกับเรื่องตรงหน้ามากขึ้นเรื่อยๆ
"จ้ะ แน่นอน น่ายินดีเนอะพ่อ แม่ก็ได้แฟนหล่อ มินซอกก็ได้แฟนหล่อ น้องจุนก็ได้แฟนหล่อ หน้าตาดีไม่ทิ้งแถวจริงๆเลยยย"
คุณนายคิมยิ้มปลื้มพลางตีหน้าเอียงอาย หล่อนอมยิ้มกว้างกับว่าที่เขยคนใหม่อย่างปิดไม่มิดจริงๆ
ผิดกับลูกชายนาง....
"ฮะ?"
"โอ๊ย อิจฉาาาา เมื่อไหร่น้องแบคจะได้แบบนั้นบ้างงง อาคริสสส ...อุ๊ ปล่อยๆๆๆ"
แบคฮยอนทำหน้าเคลิ้มเวลามองนายแบบหนุ่ม และแน่นอนว่าเพื่อนรักอีกสามพุ่งเข้ามาชาร์ตคอเอาเข้าไปเก็บทันที
"เดี๋ยวๆๆๆๆ ตะกี้นี้แต่งอะไร"
"อ้าว ตะกี้ไม่ได้ฟังรึไง แต่งงานน่ะแต่งงาน ไม่เข้าใจเหรอวะ แต่ง - งาน wedding อ่ะ wedding"
อี้ฟานค่อยๆย้ำที่ละคำเพื่อจูนสติอันน้อยนิดของว่าที่ภรรยาตัวน้อยที่อ้าปากค้างไปอีกแล้ว ณ ขณะนี้
"ว่าไงนะ เป็นไปไม่ได้อ่ะ อันบีลีฟเอเบิ้ล!"
"พูดแบบนี้คือจะไม่รับ โอเคจะได้ไปจองตั๋วกลับกวางโจวพรุ่งนี้เลยละกัน"
"ไม่ๆๆๆ รับครับรับ ด้วยความยินดีปรีดาสุขขีเกษมสานต์สุดๆเลย พรุ่งนี้เลยก็ได้ วันนี้ก็ได้!!"
เมื่อเห็นคุณอาสุดหล่องอนตุ๊บป่องจะออกจากห้อง จุนมยอนตัวเล็กก็รีบพุ่งเข้าไปกอดรั้งไว้ทันที เด็กน้อยปั้นหน้าไม่ถูกว่าควรจะแสดงอารมณ์แบบไหนออกมา ได้แต่ทำเพียงหน้าแดงๆใส่เท่านั้น
แต่แค่นั้นก็น่ารักแล้ว...
"แฮ่ม จุนมยอน...ใจเย็นๆหน่อย หลานออกนอกหน้าแบบนี้ไม่ได้นะ"
คิมมินซอกกระแอมไอขัดจังหวะน้อยๆเมื่อมันเริ่มจะดู...ไม่ดี สำหรับจุนมยอนน่ะ
"มินซอกอาา น้องก็อายุเยอะแล้ว ไม่แต่งซะทีล่ะจ๊ะ"
คุณนายคิมผู้เป็นพี่สาวยิ้มจางๆก่อนจะเข้าไปกอดน้องชายพลางกระเซ้าเย้าแหย่ หล่อนมองไปยังหนุ่มจีนตาสวยคนคุ้นหน้า เธอรู้จักถูกชะตากับคนๆนี้นะ สายตาที่เด็กนี่มองน้องชายเธอมันเหมือนตอนเธอมองสามีเธอเลย
"ผมยังหาไม่ได้เลยครับ คู่ชีวิตน่ะ"
"ย๊า มินซอก แล้วฉันล่ะ!"
"นายเหรอ... คนบ้าบอลมั้ง"
มินซอกจงใจเเสยะยิ้มใส่ลู่หานที่เบะปากคล้ายจะร้องไห้รอมร่อ ชายหน้าสวยกรีดร้องอย่างไม่อายใครทั้งนั้น
"เหยดดดด น้ามินซอกโคตรเจ๋งอ่ะมึงงง ฮ่าๆๆๆๆๆ"
พวกเด็กๆออกจะถูกใจกับการเล่นของผู้สูงอายุคู่นี้ เสียงปรบมือปนหัวเราะปนเปกันทั่ว
"ฉันเป็นแฟนนายต่างหากเล่า!!! T T"
ยกเว้นก็แต่ชายหาน...
หลังจากจบเซอร์ไพรส์เรื่องนั้นเราก็มีปาร์ตี้กันนิดหน่อยก่อนจะแยกย้ายกันไปนอน เจ้าพวกตัวแสบทั้งสี่ก็เมาค้าง....โดยเฉพาะปาร์คชานที่แทบจะเมาคาโซฟา
โดยทั้งหมดก็ตกลงความเห็นกันแล้วว่า ทั้งคริสและจุนมยอนควรจะอยู่ด้วยกัน
จุนมยอนที่เพิ่งจะออกมาจากห้องน้ำมองหาคริสไปรอบๆห้อง แล้วก็เจออีกฝ่ายที่ไปยืนเก๊กหล่ออยู่ตรงระเบียงห้องด้านนอก ร่างบางในชุดนอนลายการ์ตูนสุดน่ารักเหมือนหน้าตาแอบย่องเข้าไปกอดจากด้านหลังพลางเรียกชื่ออีกฝ่ายอย่างออดอ้อน
"คุณคริส"
"เรียกอาคริสดิ ว่าไงเด็กน้อย"
คริสหันมาประจันหน้ากับยิ้มพิฆาต จุนมยอนถือโอกาสซุกหน้าลงกับแผ่นอกของนายแบบคนโปรด รอยยิ้มกว้างผุดขึ้นมาอย่างบังคับไม่ได้
"คิดยังไงถึงมาขอแต่งงานล่ะเนี่ย"
"ก็ไม่คิดไงถึงทำ"
"ปากร้ายจังวะ ฮะๆๆๆๆ ....คิดถึงนะรู้ไหม ตั้งแต่วันนั้นก็เฝ้ามองแต่ผลงานอาในฐานะแฟนคลับ เห็นหน้าอาก็อยากจะร้องไห้ แต่ใจมันก็เต้นไปด้วย เลือกไม่ถูกระหว่างเขินหรือเศร้าดีเลย ตกใจหมดที่จู่ๆก็โผล่มา"
"หายหัวนานไปหน่อย ขอโทษนะ....ที่วันนั้นไม่ได้ไปหา เฮียเห็นข้อความแล้ว แต่ว่าไม่อยากหักความตั้งใจตัวเอง... แต่พอแกหายไป มันก็ร้อนรุ่มๆแปลกๆ พยายามหางานทำให้มันสบายใจ แต่มันก็เลิกไปลง จนอีพี่ลู่ตามไปลากหัวมานี่แหละ ...คนเรานี่ก็โง่เนอะ กว่าจะตัดสินใจทำอะไรได้เสือกต้องใช้เวลาตั้งเยอะเเยะ ไม่อยากจะนึกเลยว่าถ้าแกหายไปจริงๆ มันจะเป็นยังไง"
"...ผมไม่ทรยศคุณหรอก ไม่ว่าจะอยู่ในสถานะไหน ผมก็ยังรักคุณอยู่ดี"
"ชีวิตคนเรามันสั้น เฮียก็จะสามสิบอยู่แล้ว ก็เลยคิดว่าก่อนที่จะตายควรจะหาคนมาดูแล เห็นแกก็ยี่สิบแล้วเป็นผู้ใหญ่แล้วก็เลยทำอะไรให้เป็นเรื่องราวไป แล้วแกก็เคยพูดเองไม่ใช่เหรอว่าอย่างเฮียใครจะเอา?"
คริสบีบจมูกจุนมยอนด้วยความหมั่นเขี้ยว เด็กน้อยปัดมันออกเขินๆ
"รับผิดชอบคำพูดซะ ไอ้เด็กน้อย"
"พูดจริงนะ?"
"อือฮึ เอามือมานี่สิ"
คริสหยิบบางอย่างออกมาจากกระเป๋ากางเกง ก่อนจะบรรจงสวมมันลงที่นิ้งนางข้างซ้ายของจุนมยอนที่เลิกคิ้วประหลาดใจในขณะที่ปากบางก็แย้มยิ้มน้อยๆ
"ห่วงเปิดกระป๋อง? เนี่ยวะแหวนอา ทุเรศว่ะ"
"งบน้อยแต่จริงใจบวกหน้าตาดี สนใจป่ะล่ะ?"
คริสยักคิ้วเย้าหยอกตัวเล็กที่แก้มเจือแดงอย่างน่ารัก จุนมยอนยู่ปากใส่ก่อนจะยื่นมือมาให้
"ยอมตั้งแต่เห็นหน้าแล้ว เต้นรำเป็นไหม"
คริสพยักหน้าก่อนจะวางมือบนเอวบาง จุนมยอนวางมือบนไหล่คริส และมืออีกข้างของทั้งคู่ก็กุมกันอย่างรู้งาน จุนมยอนยิ้มเขินก่อนที่ทั้งสองจะค่อยเคลื่อนกายไปตามใจอยาก จนโน่นบ้างนี่บ้างก็หัวเราะกันไปเรื่อย
ไร้ซึ่งกฏเกณฑ์และดูยุ่งเหยิง เพียงแต่มันเต็มไปด้วยรอยยิ้มของทั้งคู่เท่านั้น
...แสงจันทร์ที่ทอดผ่านมาสะท้อนกับแหวนอลูมิเนียมจนสะท้อนแสงวิบๆ คู่เต้นรำทั้งสองหยุดฝีเท้าลงแค่นั้น สายตาของทั้งคู่มองตรงไปหากันและกันราวกับจะเก็บรายละเอียดของอีกฝ่ายให้หมดด้วยตาเปล่า จุนมยอนยกยิ้มกับความคิดซุกซนของตัวเอง
...ไม่ผิดแน่ อู๋อี้ฟานคือเทพบุตรของเขาจริงๆ
....ช่างเป็นของขวัญอันแสนเลอค่า
"ยิ้มอะไรล่ะน่ะ ไม่น่าไว้ใจเลยนะ"
"เปล่าซะหน่อย ก็แค่คิดว่ามันเหมือนฉากปิดของหนังสือนิทานหลอกเด็กเลยเนอะ แบบว่าเจ้าหญิงกับเจ้าชายเต้นรำด้วยกันแล้วก็..."
อี้ฟานหัวเราะน้อยในลำคอ ร่างสูงกดจูบบนเปลือกตาของจุนมยอนอย่างแผ่วเบาและอ่อนโยน ปากสวยพรมจูบจากเปลือกตาเรื่อยไปยังริมฝีปากชมพูเล็กๆที่เฝ้ารอคอยจะครอบครองมาตลอดด้วยความหลงใหล
จุ๊บ...
"มีความสุขตลอดไป"
อี้ฟานต่อคำพูดสุดท้ายของ 'คนรัก' จนสิ้นประโยค จุนมยอนลืมตาขึ้นมาก่อนจะหัวเราะคิกคัก ตัวเล็กกระโดดกอดอีกฝ่ายอย่างยินดีสุดๆ เสียงหัวใจของทั้งคู่ตีรวนด้วยกันจนเเทบเป็นเสียงจังหวะกลอง คริสยิ้มอ่อนโยนให้ก่อนจะหอมแก้มเจือชมพูเบาๆให้เป็นของขวัญ ขณะที่จุนมยอนยิ้มกว้างจนแก้มแทบแตกอยู่แล้ว
ให้ตายเถอะ วันนี้เป็นวันเกิดที่โคตรมีความสุขที่สุดเลย!!
The End
สี่ตอนมา จุนมยอนสามตอน คืออะไรคะ #ความติ่งไม่ทำให้เดือดร้อนซักเท่าไหร่...
รักทุกคนเเหละบาย รีเควสไปทั้งเรื่องทั้งคู่ ที่ห้องแรกนะคะ ปิ๊ง >3<
หนีไปดูซินเดอเรลล่า3แป๊ป ฟฟฟฟ แบบว่าอนาสตาเซ๊ย งื้อออ ซึ้งมาก ;o;
ลูซิเฟอร์น่ารักมากเลยยยย ถึงจะซนไปหน่อย งือออ #ทาสแมว
โผล่มาแบบงงๆเนอะ 55555555555 งงเหมือนกันค่ะ ขออัพน้อยก่อน ไม่มีโกดังสำรอง แง้ T T
ตอนนี้มันยังดูไม่ค่อนซินเดอเรลล่าเท่าไหร่ แต่อีกเดี๋ยวเถอะ 555555555 เตรียมตัวโดนหักหลังรึยัง! #ผิด
เรื่องนี้มันสบายตามสไตล์เฮียนะคะ ชีวิตมันเศร้าเด้าถั่วไหม อาคริสนายแบบกับจุนมยอนบ้ากล้อง
อัพอีกครั้งก็น่าจะจบแล้วแหละ ครั้งสุดท้ายกับความลับของจุนมอน :}
คิดไปว่าเพลงนี้คือสัจธรรมของเรื่องนี้เลยค่ะ ส่วนตัวรู้สึกฮึกเหิมกับท่อนที่ซินร้องว่า I want so much more than a dream มากกกกก คือมันใช่
#ไม่มีใครบอกThe End นั่นหมายถึงยังไม่จบ :]
#จริงไม่ได้ตั้งใจอัพวันนี้นะ ดองจนถึงวันจริงๆ 55555555 ขอให้แฮปปี้กับปีนี้นะพี่จุนเมี้ยว หวังว่าพี่จะได้ของขวัญแบบนี้เหมือนกัน
รักทุกคนเเหละบาย รีเควสไปทั้งเรื่องทั้งคู่ ที่ห้องแรกนะคะ ปิ๊ง >3<
หนีไปดูซินเดอเรลล่า3แป๊ป ฟฟฟฟ แบบว่าอนาสตาเซ๊ย งื้อออ ซึ้งมาก ;o;
ลูซิเฟอร์น่ารักมากเลยยยย ถึงจะซนไปหน่อย งือออ #ทาสแมว
โผล่มาแบบงงๆเนอะ 55555555555 งงเหมือนกันค่ะ ขออัพน้อยก่อน ไม่มีโกดังสำรอง แง้ T T
ตอนนี้มันยังดูไม่ค่อนซินเดอเรลล่าเท่าไหร่ แต่อีกเดี๋ยวเถอะ 555555555 เตรียมตัวโดนหักหลังรึยัง! #ผิด
เรื่องนี้มันสบายตามสไตล์เฮียนะคะ ชีวิตมันเศร้าเด้าถั่วไหม อาคริสนายแบบกับจุนมยอนบ้ากล้อง
อัพอีกครั้งก็น่าจะจบแล้วแหละ ครั้งสุดท้ายกับความลับของจุนมอน :}
คิดไปว่าเพลงนี้คือสัจธรรมของเรื่องนี้เลยค่ะ ส่วนตัวรู้สึกฮึกเหิมกับท่อนที่ซินร้องว่า I want so much more than a dream มากกกกก คือมันใช่
#ไม่มีใครบอกThe End นั่นหมายถึงยังไม่จบ :]
#จริงไม่ได้ตั้งใจอัพวันนี้นะ ดองจนถึงวันจริงๆ 55555555 ขอให้แฮปปี้กับปีนี้นะพี่จุนเมี้ยว หวังว่าพี่จะได้ของขวัญแบบนี้เหมือนกัน
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น