ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ผมเป็นหนุ่มวาย 🌠 (yaoi)

    ลำดับตอนที่ #3 : 02 -- เกมกับการตีสนิท

    • อัปเดตล่าสุด 30 พ.ย. 58





    บทที่สอง


    ' เกมกับการตีสนิท '






    "ไอ้เกมมึงคิดจะทำเหี้ยอะไรของมึงวะ"


    "หะ"


    เกศรินทร์เอ่ยรับคำคนข้างๆแม้ปากจะคาบแผ่นขนมไว้เต็ม มือทั้งสองสาละวนกับpspเครื่องสีม่วงที่รักนักหนาดุจลูกรักในอุทร ขาสองขายกขึ้นมายันไปกับขอบเบาะนั่งจนกางเกงขาสั้นที่สั้นอยู่ร่นไปตามแนวขาอ่อนขาวๆ แต่ไม่มีใครคิดจะไปใจเต้นอะไรกับไอ้ตะเกียบคู่นั่นหรอก พวกเขาสุมหัวกันอยู่ในห้องไอ้เกมเพราะมันกว้างที่สุด แถมเขาสองคนเห็นมันจนเบื่อ


    "ทำไมมึงถึงพูดแบบนั้นกับไอ้คีย์ มึงเห็นไหมตอนแม่งแดกอยู่แล้วมึงจ้องมันยังกับจะแดกมันแทนสุกี้ที่กูควักตังเลี้ยง หน้าไอ้คีย์แม่งซีดยังกับกระดาษ"


    วีเอ่ยโดยไม่แม้จะละดวงตาออกจากจอโทรทัศน์ที่กำลังฉายหนังผีน้ำแดงเยิ้มๆ โดยข้างๆเขามีผู้ชายหน้าหวานที่ถือวิสาสะเอาหัวมาพิงไหล่และมีบริการป้อนน้ำป้อนขนมให้ฟรี


    "มันขาวอยู่แล้ว กูรู้...."


    "เกม น้ำลายไหล"


    ทอยเหล่มองพร้อมถอนหายใจ ไม่ได้ล้อเล่นนะมุมปากมันมีน้ำใสๆหยดลงมาจริงๆ บางทีเขาก็รู้สึกว่าไอ้เพื่อนคนนี้มันจำเป็นต้องเป็นคนตรงขนาดนี้เลยเหรอ


    "ไอ้สัดนี่ ถามยังจะกวนตีน"


    "แล้วทำไมมึงต้องขึ้นเสียงด้วยวะ ชอบมันอ่อ"


    เกมกดพักเกมในมือแล้วเงยหน้าขึ้นมองคู่กรณีอย่างกวนๆ ดวงตาปลาตายมีประกายวิบวับๆประปรายให้พอดูกวนตีน มุมปากยกขึ้นแสยะหวิดชวนโดนฝ่ามือหนาฟาดเข้ากลางกระหม่อมบางๆ วีรภัทรจิ๊ปากรำคาญนิสัยชอบชงให้คนอื่นหันเหเดินไปเส้นทางสายเกย์ของไอ้เกมเหลือเกินแต่ถึงด่ามันไปก็เปลืองคำพูดเปล่าๆ เด็กเชี่ยก็เป็นเด็กเชี่ยวันยังค่ำแหละครับ


    "ไม่ใช่เว้ย! แล้วมึงล่ะชอบมันรึไง"


    "อือ ก็ชอบ"


    หนุ่มศิลปะพยักหน้ารับรัวๆนิ่งๆ ดุจไม่อายฟ้าอายดินหรืออายเครื่องปรับอากาศในห้อง เกมมองอีกสองคนตรงหน้าที่ตาค้างใส่เขาแทนที่จะดูหนังผีที่กำลังฉายฉากหลอนได้ที่ ทำไมอ่ะ หลังกูมีผีอยู่เหรอมองอยู่ได้ เดี๋ยวจับจูบกันเลยนิ อิอิ


    "ไอ้เกมมึง.... เอาจริงดิ"


    "ก็ไม่ได้หมายความแบบนั้นตรงๆ หมายถึงกูชอบหน้ามัน สวยหยิ่งถือตัว เข้ากับลุคพี่ลอว์คนน่ารักของกูได้พอดีเป๊ะ! อ่าาาา จินตนาการจงพุ่งเข้ามาหากู"


    เขากางแขนออกพร้อมเงยหน้าขึ้นเพดานเหมือนรับพลังอะไรบางอย่าง แต่พอก้มกลับมาไอ้วีกลับมองมาด้วยสายตาที่ยากจะอ่านแต่ค่อนไปทางขยาดปนสมเพช ว้อท? ทำหน้าแบบนั้นมึงไม่เข้าใจสินะ หึ มึงมันไม่มีศิลปะในหัวใจ กูจะแบนมึงหนึ่งนาที


    "มึงคิดดูดิวี! ขนาดแค่กูเห็นมันครั้งแรกความคิดกูยังพุ่งเป็นฉากๆขนาดนี้! ไอ้คีย์มันต้องเกิดมาเพื่อเป็นเป็นเคะในอุดมคติของกูแน่ๆ! อ่ะ แต่มึงอย่าไปบอกมันนะว่าตอนนี้กูกำลังอยากให้มันโดนเสียบตูดด้วยฮอตสเปียร์สีชมพูอยู่...."


    ผัวะ!


    พูดยังไม่ทันจบประโยค ภาพด้านหน้าของเกมกลับหมุนเปลี่ยนองศาไปเพราะฝ่าเท้าจากคนข้างๆ สัด! ถีบกูทำไมเนี่ย ไอ้วีเจ้าของตีนทำท่าเหมือนขนลุกเสียเต็มประดาก่อนตะโกนด่าเสียงดัง


    "ไอ้เหี้ยเกม! พูดหาพ่อง! ถึงกูจะอยู่กับมึงมานานไม่ได้หมายความว่ากูชินนะโว้ย!!!"


    "รู้สึกเสียวจากโคนถึงปลายเลยสิมึง เดี๋ยวกูวาดสตอรี่บอร์ดให้อ่านเลยเนี่ย มันต้องเป็นเรื่องคุณชายจอมหยิ่งกับลูกหนี้ขี้ขลาดอยู่แล้ว! แอ๊ะ หรือจะเอาคนใช้ขี้เป็นห่วงด้วยดี เอามึงเป็นอิมเมจนี่แหละวีง่ายดี เห้ย! โอเคเลยว่ะ ไอ้เกมมึงมันสุดยอด สตรองงงงงง"


    เจ้าของความคิดพิลึกพูดพึมพำคนเดียวแล้วชูไม้ชูมือ ร่างผอมลุกไปหยิบสมุดโน๊ตไร้เส้นที่ซื้อมาร่างภาพโดยเฉพาะมาขีดๆเขียนๆและหลุดเข้าไปในโลกจินตนาการอีกครั้ง ธีรธรมองตามคนประหลาดก่อนจะละสายตามาหาคนปกติเพียงหนึงเดียวที่กำลังกุมหน้าผากที่ฉายแคปชั่นลางๆว่า 'กลุ้มใจหนักมาก' คิ้วเข้มสองข้างของหนุ่มวิศวะแทบพันกันเป็นเถาวัลย์


    หนุ่มผมน้ำตาลคาราเมลเผยยิ้มอ่อน นิ้วโป้งยาวเอื้อมไปแปะตรงหัวคิ้วขมวดเป็นการปลอบตามสไตล์เจ้าตัว ทอยเป็นคนมีวิธีปลอบใจคนอื่นแตกต่างไปตามรายบุคคลและวิธีนี้เป็นวิธีที่วีชอบให้เขาทำที่สุด เพราะอีกฝ่ายมักขมวดคิ้วหนักแบบนี้ทุกทีถึงแม้จะรู้สึกเพียงเล็กน้อยหรือมากมายขนาดไหน


    "ปวดหัว.... ทอยกูปวดหัว พากูกลับห้องที"


    วีถอนหายใจและจำต้องปล่อยวางไอ้คนพิลึกที่เขาไม่เคยจะชินกับมันซะที คนผิวแทนซบศีรษะเข้าตรงบ่าเล็กกว่าผู้ชายทั่วไปนิดหน่อย ทอยหัวเราะขำกับการอ้อนแบบเด็กน้อยทั้งๆที่ตัวเองโตกว่าเขาแท้ๆ แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้นะว่าทำแบบนี้เสน่ห์ที่ซ่อนไว้มันอิมแพ็คขนาดไหนเพราะปกติก็เอาแต่ทำหน้าเหมือนโกรธใครมาค่อนปีนี่นะ


    แต่ดีแล้วขืนไปทำแบบนี้กับใครบ่อยๆมีครั้งสาวติดตรึมพอดีสิ~


    "เกม พวกกูไปนะ เจอกัน"


    พอเก็บของให้เจ้าของห้องที่หมกมุ่นอยู่เสร็จ มือขาวพาดกระเป๋าขึ้นบ่าพร้อมบอกลาก่อนจะคล้องคอกันออกจากห้องไปทั้งคู่


    โดยที่ไม่ทันได้สังเกตว่ามีสายตาคู่นึงที่จับจ้องเขาทั้งสองอยู่ตลอดเวลา


    พร้อมหยดน้ำที่ไหลออกมุมปาก...


    ปึง


    ...



    "ฮือออออออออออ"


    ทันทีที่ประตูปิดลง เกศรินทร์แทบจะลงไปดิ้นกับพื้นให้มันรู้แล้วรู้รอดไป มือขาวสั่นสะท้านทั้งสองข้างทึ้งผมตัวเองแบบสุดทน ผิดกับริมฝีปากที่พยายามจะเม้มแน่นแต่มันกลับยิ้มเผล่ออกมา ตอนแรกนี่นึกดีใจมากที่เป็นคนเก็บความรู้สึกผ่านสีหน้าได้ดี ไม่งั้นผมคงเผลอทำหน้าแปลกออกไปให้ไอ้วีสยองเป็นแน่ แต่ตอนนี้แบบ เอื้อ!!!


    โง้ยยยยย ไม่ไหวแล้วครับ!! อิเกมจะกรี๊ดดดด แค่ว่ามีเพื่อนผู้ชายเอาไว้จิ้นหรือแซวเล่นๆสนุกสนานชีวิตไอ้เกมก็คอมพลีทแล้วนะ แล้วทำไมเพื่อนๆผมมันมิ้งกันขนาดนี้วะเห้ย ฟหกดเ้่าสว#%$%&^@% ดาเมตพวกเขาแรงมากครับแม่ครับ น้องเกมใจ๋บ่ดีเลย *จับจูบกันแม่ง*


    กลับมารับผิดชอบหัวใจที่เต้นระรัวของกูเดี๋ยวนี้เลยพวกมึง! ฮอลลล ///q///















    นิ้วโป้งกดจอโทรศัพท์ที่ฉายภาพสิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆนอนอยู่บนเบาะที่นอนประจำของมันมาให้แม้ดวงตาสีอำพันของมันที่เขาชอบนั้นจะปิดสนิทอยู่ แม่ส่งรูปไอ้ทูน่ารูปสุดท้ายมาให้ แมวเฒ่าสามสีดวงตาปิดหยีและมุมปากสีชมพูอ่อนที่ยังคงดูนุ่มนิ่มตลอดเวลาแม้ถึงช่วงสุดท้ายของชีวิต เขาและมันเติบโตขึ้นมาด้วยกัน ภาพความทรงจำต่างๆในอดีตนั้นเขายังจำได้เสมอ


    ไม่เป็นไรหรอก มันไปดีแล้ว ...คีย์ได้แต่บอกกับตัวเองแบบนั้น


    ดวงตาช้ำๆเหมือนคนอดนอนเงยหน้ามองพระพุทธรูปสีทองตรงหน้าพลางเอ่ยอธิษฐานภาวนาให้พระองค์รับไอ้เหมียวของเขาให้ไปสู่ที่ดีๆ วันนี้วีพาเขามาวัดตามคำสัญญาที่ให้ไว้เมื่อวาน เขาเองเป็นคนที่ไม่ค่อยได้เข้าวัดวาเท่าไหร่แต่การได้มาที่นี่ ได้ทำบุญให้ทูน่ามันก็ทำให้เขารู้สึกสงบไม่น้อย


    บางทีสิ่งที่คีย์ต้องการอาจจะเป็นสถานที่สงบๆและระยะเวลาสักหน่อยเพื่อการปล่อยวาง


    "คิดถึงแมวเหรอ"


    เมื่อกี้กูเพิ่งพูดว่าสถานที่สงบ ....แต่มันดันมีมารผจญนี่สิ


    "..."


    อัคคีโชติหรือนายคีย์ลอบมองใบหน้าเฉยชาชวนเท้ากระดิกของคนข้างๆที่โผล่พรวดเข้ามาไม่ให้ซุ้มเสียง คนรู้จักหน้าใหม่เลิกคิ้วสูงเหมือนจะสงสัยในคำถามตัวเองมากๆ ก่อนเวลาต่อมาจะถูกมือปริศนาหิ้วคอเสื้อออกไป วีรภัทรใช้ดวงตาคมกริบจ้องลูกแมวขนดำหัวใจกที่หิ้วคออยู่เหมือนจะดุ


    "เกม อย่าเกาะแกะเพื่อนกู ถึงมึงนับถือคริสต์แต่อย่าเล่นซนในวัด"


    "กูรู้ กูได้เกรดพระพุทธเยอะกว่ามึงละกันเด็กชายวีรภัทร"


    คริสเตียนคนเดียวสะบัดตัวหนีออกไปจากเงื้อมมือยักษ์ผิวแทนพร้อมแลบลิ้นใส่ วีวาดมือออกหวังทำเฮดช็อตใส่แต่อีกฝ่ายก็หลบได้เหมือนรู้ทางกันดี คีย์มองภาพเด็กไม่รู้จักโตสองคนตีกันเเล้วแอบถอนหายใจ คิดถูกหรือคิดผิดที่มากับมันวะเนี่ย


    "เฮ้อ ทำไมเพื่อนมึงถึงมาด้วยวะเนี่ย"


    "ทำไมห่างเหินจัง เรียกเกมดิ"


    ตัวจุดประเด็นย้ายร่างตัวเองมาอยู่ด้านหลังเขาโดยไร้เสียงไร้กลิ่นเหมือนมืออาชีพที่เก่งด้านทำให้คนตกใจ คีย์ไม่รู้จักเกมดีเท่าไหร่แต่เคยได้ยินว่าเป็นคนปากเหมือนวีและมีสกิลพิเศษคือหาเรื่องคนอื่นเก่งและเคลื่อนย้ายไร้เสียงได้ รู้สึกจะไอ้วีจะบอกว่าท่านี้เจ้าของมันตั้งชื่อว่าเคลื่อนสวรรค์ตามชื่อท่าการ์ตูนเรื่องไหนสักเรื่องนี่แหละ


    "นั่นแหละ ทำไมถึงมาอยู่นี่ล่ะ ไม่มีเรียนเหรอ"


    "มี แต่วันนี้ไม่อยากเข้า"


    "แล้วทำไมเกมต้องเดินตามผมแบบนี้ด้วยล่ะ เอ่อ คือเราก็ไม่ได้สนิทกันขนาดนั้นป่ะ"


    คีย์ว่าพร้อมแอบถอยห่างไปสามก้าวจากผู้ชายด้านข้างแอบหวาดระแวงโดยเกมยักไหล่ให้โดยไม่ว่าอะไร กระนั้นดวงตาเขาลอบสำรวจอีกฝ่ายจากหัวจรดเท้า เค้าโครงหน้าพิมพ์นิยมรับกับทรงผมรากไทรไม่ยาวแบบที่ตัวละครญี่ปุ่นชอบไว้กัน หูข้างขวาเจาะเป็นจิวสีดำไล่ระดับสามอัน ผิวค่อนข้างขาวตัดกับเครื่องแต่งกายโทนดำที่เจ้าตัวชอบใส่ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกมเป็นผู้ชายที่ดูดีทีเดียว


    แต่มันก็มีข้อเสียอยู่อย่างนึง....


    "ก็อย่างที่บอกไปเมื่อวานไงว่ากูชอบมึง นี่กูกำลังแอบเก็บข้อมูลมึงอยู่ เผื่อไม่รู้นะ การที่มึงจะสร้างตัวละครขึ้นมาสักตัวมึงควรจะศึกษาเรื่องราว หน้าตา รูปร่าง ความรู้สึกนึกคิดของตัวละค...! อื้อ!"


    "เอ่อ มึงอย่าไปฟังมันเลย จริงๆมันก็ไม่ใช่คนไม่ดีอะไรนะ แค่ชอบพูดเพ้อเจ้อนิดหน่อย"


    ไอ้วีรีบปิดปากเพื่อนตัวเองพลางส่งยิ้มแหยมาให้เขา เกศรินทร์ดิ้นเพราะท่อนแขนสีแทนทั้งรัดตั้งแต่คอถึงปากก่อนจะถูกล็อคแน่นขึ้นจนต้องยืนนิ่งๆ อาศัยจังหวะที่มืออุดปากตนคลายออก เกมจึงฉวยพูดออกมาเสียงหนักแน่น


    "เอาตามตรงนะคีย์ กูชอบอิมเมจมึงมากๆเลย กูรู้สึกโดกิโดกิทุกครั้งเวลาจิ้นให้มึงถูกจีบ เพราะงั้นช่วยเป...!"


    "กูหมายถึง....พูดเพ้อเจ้อมากไปหน่อยแค่นั้นเอง"


    "อ่า เหรอ....เฮอะ เฮอะๆ"

    วีรภัทรรีบตะปบปากหมานั่น อัคคีโชติได้แต่ส่งเสียงหัวเราะแฮะๆกลับไป เขากำลังแอบมึนหัวกับคำพูดพรั่นพรูเมื่อครู่ของอีกฝ่ายอยู่ คือผมไม่ได้รู้สึกเขินลมเขินฟ้าเขินแดดอะไรทั้งนั้นน่ะครับ แค่รู้สึกว่าหลังจากนี้ชีวิตมันไม่ง่ายแบบแปลกๆ


    "เชี่ยเกม!! ทุเรศ"


    คีย์เงยหน้าขึ้นมาเห็นวีกำลังถูฝ่ามือกับกางเกงยีนส์สีซีด ก่อนเขาจะต้องถอยผงะเมื่อถูกมือบีบเข้าที่ข้อมือ ดวงตาทั้งสองคู่ของพวกเขาสบกันผ่านเพียงเลนส์แว่นสายตา หนุ่มวิศวะฯพยายามจะชักตัวเองออกจากการจับกุมตามสัญชาตญาณแต่มันอาจจะแรงไปหน่อยอีกคนถึงได้มองตามเขาหน้าละห้อย กลีบปากสีชมพูซีดขยับเป็นชื่อเสียงแผ่ว


    "คีย์"


    "ฉัน....ไม่ได้ตั้งใจ"


    "อย่าทำหน้าเหมือนขยะแขยงกันแบบนั้นสิ"


    ถ้อยคำคล้ายจะตัดพ้อทำเอาคีย์สะอึกและเก็บความตะขิดตะขวงใจไว้กับตัวเอง ดวงตาสีนิลลอบมองบ่ากว้างสมส่วนที่สั่นอยู่น้อยๆ เกมก้มหน้าและไขว้มือไว้กับท่อนแขนอีกข้าง


    "เกม"


    "อย่าทำหน้าแบบนั้นคีย์...รู้ไหม"


    ดวงตานิลระริกเงยขึ้นมอง เสียงเอ่ยออกมาริมฝีปากสั่นระริกจนคีย์นึกเอะใจ เกมสูดหายใจเข้าแรงๆหนึ่งเฮือกก่อนจะเลื่อนมือขึ้นไปกอดบ่าตัวเองพร้อมดวงตาย้อยหยดชวนขนลุกประดับรับกับรอยแยกยิ้มบิดเบี้ยว หัวคิ้วตกขัดกับใบหน้าเปี่ยมสุขและเสียงลมหายใจ รวมกับคำพูดสุดท้ายทำเอาขนอ่อนตรงแขนเขาลุกอย่างพร้อมเพรียง


    "มึงกำลังปลุกความMในตัวกู"


    "...."






     
    50 %









    "คีย์ มึงร้อนเปล่า"


    "คีย์ หิวน้ำไหม"


    "คีย์ รถไอติมวิ่งมาว่ะ กูอยากแดก"


    "คีย์ ดูหมาตัวนั้นดิ หน้าเหมือนแพนด้าเลย"


    "คีย์ หนังเรื่องนี้..."


    "คีย์..."


    "คีย์"


    "โอ๊ย!! เลิกวุ่นวายกับกูซักที!"


    อัคคีโชติกุมหัวตัวเองพลางตะโกนก้องให้ฟ้าดินรับรู้ความรู้สึกของเขา โชคดีที่รอบๆนี้ไม่มีคนอยู่มิเช่นนั้นแล้วเขาคงต้องถูกจ้องมองด้วยสายตาประหลาดปนสังเวชเวทนาก็เป็นได้ หนุ่มวิศวะหน้าสวยลงไปนั่งยองๆกุมขมับตัวเองดุจทรมานสุดโดยตัวสาเหตุได้แต่ทำหน้ามึนต่อไป เกมกับแฟชั่นผ้าปิดปากคัมแบ็คอีกครั้งหลังจบการเข้าวัดเหลือแต่ดวงตามืดมนไร้แสง


    เขาได้แต่เฝ้าถามพระศาสดาว่าทำไมถึงต้องให้เขากับไอ้หมอนี่มาอยู่ด้วยกันด้วย ตลอดทางที่ทนหายใจร่วมกันมาเกมเอาแต่ถามเหมือนพยายามดูแลเทคแคร์อย่างดีแต่พอเขาเลือกจะตอบมัน มันกลับรับคำแค่อือแล้วก็เงียบไป ....ก่อนจะเริ่มต้นถามคำถามอื่นอีกครั้ง ว้อท? คืออะไรครับ? คือกูไม่เข้าใจ กูตามไม่ทัน โอเค กูขอโทษ


    "เสียงดังทำไมเนี่ย อายคนอื่นเค้า"


    ไอ้เกมตีหน้ายุ่งใส่แล้วเอ่ยปากเหมือนดุเด็กเล็กชอบร้องกระจองอแงตามที่สาธารณะ ทำเอาคนฟังแทบจะลงไปดิ้นกับพื้น นี่มึงยังมีหน้ามาถามอีกเหรอ เพราะมึงนั่นแหละครับเพราะมึงงงงง


    ไม่ๆ กูต้องไม่โกรธ กูต้องไม่โมโห กูต้องรักษาสุขภาพจิตไว้... คีย์สูดหายใจลึกๆแล้วท่องยุบหนอพองหนอสะกดอารมณ์ตัวเองไว้ให้มากที่สุด เขาพ่นลมหายใจออกมาพรูใหญ่ก่อนจะก้าวเท้าเดินต่อไปยังจุดหมายคือป้ายรถเมล์


    ตึกๆๆๆ


    ตึกๆๆๆๆ


    สองรองเท้าผ้าใบหยุดลงก่อนหน้าเสียงฝีเท้าด้านหลังชั่วครู่ แน่นอนมันหยุดที่หลังเท้าเขา เงาทอดยาวที่หนาผิดปกติเองก็สร้างความรำคาญจนใกล้จะประทุแตก


    ตึกๆๆๆ


    ตึกๆๆ


    "เลิกเดินตามซะที! จะตามมาทำไมวะ!"


    "ก็ไอ้วีบอกให้มาส่ง"


    อีกฝ่ายตอบกลับง่ายๆดุจรูปประโยคทักทายตามชีวิตประจำวัน'อย่างไปไหนมา' ผิดกับคนพูดที่เริ่มจะเหวี่ยงมือเหวี่ยงแขนไปทั่ว ย้ำอีกครั้งว่าเขาโชคดีตรงที่ไม่มีคนอยู่แถวนี้ ไม่งั้นคงได้วิ่งหนีรถพยาบาลศรีธัญญาเป็นแน่


    "ต้องทำตามมันบอกทุกอย่างเลยรึไง! ถามจริง นายมีอะไรกับฉันรึเปล่าเนี่ย"


    "อยากได้เป็นนายเอก..."


    "ฉันไม่ใช่เกย์นะเว้ย!!"


    "ฉันก็ไม่ใช่ ....ก็ไม่ได้ว่าจะให้เป็นเกย์ แค่อยากให้เป็นแบบ"


    เกมเบ้หน้าขณะยกมือขึ้นปิดหูเพราะเสียงคีย์เริ่มจะดังขึ้นจนเขาปวดหู คนเตี้ยกว่านิดหน่อยจึงต้องอธิบายเพิ่มเติมเพื่อประโลมใจให้เย็นลง


    "ถ้าจะเอาแค่แบบก็ดูดิแล้วจำเอาไปวาด ถ่ายรูปไปก็ได้อ่ะ ทำตัวยังกับสตอคเกอร์แบบนี้ขนลุกว่ะ"


    แต่เหมือนอีกฝ่ายคงรู้สึกแอนตี้เขาไปแล้วครึ่งตัวตั้งแต่หัวถึงปลายสะดือถึง ไม่ยอมรับฟังอะไรเพิ่มเติม หลายคนที่เขาเจอก็ชอบเป็นแบบนี้ไม่รู้ทำไม หรือคงเพราะเกมขี้เกียจจะอธิบายให้เข้าใจคนพวกนั้นถึงได้เข้าใจผิดนะ? อือ ช่างหัวคนพวกนั้นเถอะ ตอนนี้เขาต้องรีบคว้าตัวคนตรงหน้าให้ได้ก่อน


    "โว้วๆๆ คนอะไรไม่มีศิลปะในหัวใจเลย แถมไม่มีหัวใจด้วยป่ะ"


    ไอ้คีย์ทำหน้าบึ้งเมื่อฟังจบแถมกอดอกสะบัดหน้าหนีไปอีกทาง อ้าว ว่านิดว่าหน่อยทำหันหนี ทีตอนด่ากูล่ะมาเป็นชุดเลยนะมึง ==


    เกศรินทร์เดาะลิ้นหนึ่งเป๊าะ ก่อนส่งปลายนิ้วชี้ซีดไปจิ้มจึ้กค้างอยู่บนเสื้อยืดสีขาวลายเส้นแมวสีขาวน้ำตาลที่เขามองว่ามัน....ก็ ก็ดีมั้ง น่ารักมุ้งมิ้งแต่ไม่เหมาะกับมันเท่าไหร่ แถมดูถอดง่ายเกินไปด้วย.... เอ๊ะเดี๋ยว ไม่ใช่เรื่องนี้ เกมไล่ความคิดนอกเรื่องออกจากหัวก่อนเริ่มเข้าเรื่อง


    "ฉันเคยบอกไหม ว่านายคือแบบในอุดมคติของฉัน"


    "เคย แล้วไง"


    "ทำไมสมองช้าจังน้า ถามจริง ถ้าเป็นนายลองได้เจอคนในอุดมคติมายืนอยู่ตรงหน้า เป็นคนที่นายจับต้องได้ สัมผัสได้ แถมยังลวนลามได้แบบเนี้ย สิ่งที่นายจะทำคือการมองเขาเฉยๆแล้วโบกมือลาไปเฉยๆรึไง? จะไม่เจ็บใจบ้างเหรอวะที่มีโอกาสแต่เสือกไม่คว้าไว้น่ะ จะไม่เสียใจทีหลังรึเปล่าถ้าเขาหลุดมือมึงไปโดยไม่มีโอกาสได้กลับมาอีก"


    "..."


    "อีกอย่างนะคีย์ สำหรับฉันมันไม่ใช่แค่หน้าตาเปลือกนอกแบบฉาบฉวยไปวันๆ หน้าแบบนายน่ะถ้าหาดีๆจะหาที่ไหนก็ได้ แต่สิ่งที่ฉันต้องการคือทุกสิ่งๆของนาย ทั้งภายนอก ภายใน คำพูด การแสดงออก ความรู้สึก ....ทุกๆสิ่งที่ทำให้ฉันละสายตาจากนายไม่ได้ และทุกๆสิ่งที่ไอ้ตรงนี้มันบอกว่าใช่ตั้งแต่แรกได้เห็น โอเค นี่อาจจะฟังเหมือนการสารภาพรักแต่มันไม่ใช่ สบายใจได้ถึงนายจะมีหน้าตาแบบที่ชอบก็เถอะ แต่พอดีไม่ใช่เกย์ว่ะ"


    "ไม่ใช่เกย์อะไรวะ ที่ทำนี่แม่งยิ่งใครใดๆทั้งปวงแล้ว! พอ! พอ! อย่ายุ่งกับกู เลิกแล้วต่อกันแล้วไปนะ โอเคลาก่อยเลิกแถวได้ หนึ่งสอง หนึ่งสองสาม หนึ่งสอง หนึ่งสอง หนึ่ง เฮ้!"


    "จิ๊ ทำไมถึงชอบคิดว่าหนุ่มวายจัดอยู่ในจำพวกเดียวกับเกย์กันฮะ ไม่ใช่ๆ คนละสายกันแล้ว อ้อ อีกอย่างกูไม่ไป ถ้าคิดว่าการตะโกนบอกว่าไม่ชอบ อย่ายุ่ง ขยะแขยงอะไรพรรค์นี้จะช่วยให้กูรามือจากมึงได้ล่ะก็......คิดไปเองทั้งนั้น คนอย่างไอ้เหี้ยเกมหน้าด้านหน้าทนและไม่ได้อ่อนไหวขนาดโดนด่าแล้วต้องวิ่งไปนั่งร้องไห้ในมุมมืด ไม่งั้นคงเชือดคอตายไปตั้งแต่สิบขวบที่แม่กูด่าแล้ว"


    "แต่กูไม่ชอบ!! กูไม่ชอบจะให้กูทำยังไง! กูต้องกราบตีนแล้วบอกว่าขอโทษที่เกิดเป็นสเป็คมึงไหม?"


    "มึงจะทำรึไง"


    "ถามกวนตีน ไม่มีวันอยู่แล้วไอ้สัด"


    "อ่าหะ เป็นกูกูก็ไม่ทำ .....แล้วต้องทำยังไงมึงถึงจะโอเคล่ะ ไหนลองบอกกูมาซิเผื่อกูจะทำให้มึงได้"


    "แค่หายหัวไปจากชีวิตกูที กูอึดอัด"


    ตาสองดวงจ้องกันแบบไม่ยอมผลัดผ่อน เกมดึงฮู้ดขึ้นปิดหน้าจนเกิดเงาพาดสันจมูด ดวงตาข้างหนึ่งที่โผล่ออกมาวาวโรจน์ดุจดวงตากอร์กอนจนคนดูรู้สึกสะดุด เกมในตอนนี้อาจจะดูน่ากลัวสำหรับคนอื่นนะ แต่ที่จริงไม่มีอะไรเลยแค่แสงอาทิตย์มันแยงตาเฉยๆ


    "....กูให้โอกาสแล้วนะคีย์ กูไม่คิดว่ากูต้องสำนึกผิดอะไรนักหนากับการที่กูเดินตามมึงหรือเกาะติดชีวิตมึงจนมึงรำคาญ เพราะกูสนใจในตัวมึง"


    "ขนลุก!!"


    หนุ่มวิศวะยกมือลูบแขนพร้อมสั่นตัวตั้งแต่หัวถึงขาบ่งบอกว่าที่พูดไม่ได้ล้อเล่นแต่อย่างใด ดวงตาล้อมรอบด้วยกรอบแว่นสีดำหรี่ตามองอีกคนที่ไม่ได้รู้ร้อนหนาวกับคำพูดตัวเองเอาเสียเลย แถมยังเดาะลิ้นสนุกสนานตามใจตัวเองอีก แหม่ไอ้ห่าเดี๋ยวจับตัดลิ้นขาด ลองมายืนสถานะเดียวกับกูดูบ้างสิ จะดูซิว่ามึงจะยังมีอารมณ์ดีดลิ้นอีกไหม


    แต่คิดไปคิดมา ถ้าเป็นคนอย่างไอ้เกมนี่นอกจากจะไม่รู้สึกอะไรแล้วมันน่าจะมีความสุขดีด้วยซ้ำล่ะมั้ง....


    โอ๊ยยยยย เครียดเว้ยย!!


    "กูไม่รู้ ไม่รู้ๆๆๆๆ กูไม่รู้เว้ย! มึงคิดว่าใครมันจะทนได้วะกับการต้องทนอยู่เป็นเป้าให้คนที่ไม่ได้สนิทหรือชอบพอมาจ้องเนี่ย! กูไม่ใช่ก็อตซิล่าในกรงสวนสัตว์นะเว้ย!"


    "งั้น..."


    คนเตี้ยกว่าทิ้งท้ายด้วยความเงียบ.... เงียบจนคีย์เผลอกลั้นหายใจไปช่วงนึงเพื่อมัน จากดวงตาปลาตายมีประกายเสียงเหมือนดวงตาของปลาที่กำลังกระเสือกกระสนคึกคักดุจได้กินM150มาหนึ่งขวด


    "ถ้ามึงชอบกู มึงจะโอเคงั้นสิ"


    "เออ ถ้ามึงเป็นคนที่กูชอบนะ จะจ้องกันทั้งวันคืนกูก็ยอม แต่มันไม่ใช่ มึงเป็นผู้ชาย กูเป็นผู้ชาย กูไม่มีทางพิศวาสมึง"


    "....จำคำพูดตัวเองไว้นะคีย์ สำเหนียกมันไว้ แล้วอย่าเสือกกลืนน้ำลายตัวเอง"


    ...


    "ไม่งั้นมึงจะไม่มีวันได้ละสายตาไปจากกูแน่"


    อัคคีโชติรู้สึกเหมือนรอบตัวเขามีบ่วงล่องหนบางอย่างที่หลุดมาจากคำพูดชั่วครู่ชั่วคราวของตัวเองรัดไว้บางๆแต่กลับทำให้อึดอัดดุจขาสองข้างถูกตรวนโซ่และผลักให้จมไปในบ่อโคลนดูด เขานึกอยากตบปากตัวเองโทษฐานพูดอะไรไม่คิด แต่ตอนนี้ต่อให้ตบไปสักร้อยทีมันก็คงเอาคำพูดเดิมกลับมาไม่ได้


    "มึง มึงหมายความว่าไง"


    ฝ่ามือขาวซีดยื่นออกมาจากชายแขนเสื้อสอดเข้าตามกลุ่มผมไล่ไปตามรูปกระโหลกแทนคำตอบ ริมฝีปากที่ควรจะเอ่ยแถลงคำถามของเขาเลื่นอเข้ามาใกล้ชิดใบหูแดงเรื่อๆจะด้วยพิษแดดพิษเขินหรืออะไรก็แล้วแต่ รวมทั้งร่างกายผอมภายใต้เสื้อฮู้ดสีดำแทบจะแนบชิดเข้ามา


    "คีย์ กูน่ะ...ที่จริงแล้ว..."


    กลิ่นเหงื่ออ่อนๆจากสภาพอากาศผสมกับโคโลญจ์นุ่มๆและลมผ่าวร้อนเป่ารดใบหูทำเอาเจ้าของชื่อแทบจะสติกระเจิง คีย์รู้ตัวและบอกกับตัวเองว่าเขาควรจะผลักอีกฝ่ายออกไปให้เร็วที่สุดก่อนความรู้สึกต้องห้ามบางอย่างจะถูกขุดขึ้นมาให้ก่อปัญหาในภายภาคหน้า


    "กูน่ะ..."


    สัมผัสนุ่มนิ่มเฉียดสัมผัสกันไปมาทำเอาชาวาบไปทั้งตัว และเหมือนร่างกายของเขาเลือกเชื่อฟังสัญชาตญาณและยอมโอนอ่อนผ่อนตามไป ภายนอกที่อ่อนยวบขัดกับภายในที่พลุ่งพล่าน หรือเขาจะต้องกัดลิ้นตัวเองเรียกสติดี แต่อย่าดีกว่ายังไม่อยากตายสาเหตุเพราะรับไม่ได้ที่โดนเพศเดียวกันอ่อย เขาภาวนาให้พระเจ้าเร่งเวลานี้ให้เดินไปเร็วๆ


    "กู..."


    โอ๊ยยยย มึงมีอะไรก็รีบพูดมาซักทีแล้วออกไปได้แล้ว! มึงจะกูอีกนานไหมกูเกร็งจนขาสั่นไปหมดแล้วโว้ย


    กูใจไม่ดีมึงเข้าใจไหม กูใจไม่ดี!


    ...


    "กู.....ก็แค่อยากลองพูดแบบนี้ดูซักครั้งเท่านั้นแหละ"


    "หะ"


    ชายร่างผอมผละร่างของตัวเองออกไปยืนที่เดิมด้วยท่าทางนิ่งสนิทเหมือนเดิม เหมือนไอ้เกมคนเดิมกับท่าทางเดิมๆที่เจอได้ทุกที่ทุกเวลา ไม่มีอะไรพิเศษหรือแตกต่างจนบางทีคีย์ก็นึกแปลกใจว่า


    เมื่อกี้มันเกิดเหี้ยอะไรขึ้น? what happened?!


    "ขอโทษที่ทำให้มึงรู้สึกอึดอัดด้วย กูแค่ไม่รู้ว่าควรจะเข้าหามึงแค่ระยะไหนดี พอดีกูไม่เคยต้องตามสตอคใครมาก่อนก็เลยไม่รู้จะเว้นระยะห่างเท่าไหร่ยังไงกับมึง เห็นแบบนี้กูก็ไสยๆไม่เคยตามผู้ชายนะ เพิ่งเป็นกับมึงคนแรก เย่ๆ"


    "กูต้องดีใจป่ะ"


    "แล้วแต่มึง"


    พูดแล้วก็ยักไหล่ง่ายสไตล์ฮิปสเตอร์ คีย์เงยหน้าขึ้นมองฟ้าพักนึง แล้วก้มลงมาถอนหายใจเฮือกยาวๆใส่คนตรงหน้าก่อนจะพับขาลงไปกุมหัวนั่งยองๆ ไม่รู้ว่าเป็นอะไรแต่ตอนนี้โคตรปวดหัว ขอแค่เพียงเวลาปรับตัวให้ได้เตรียมหัวใจ~


    โอเคขอโทษ เริ่มนอกเรื่อง


    "....เกมมึงรู้ไหมว่ามึงเป็นคนแปลก"


    "ไอ้วีก็ชอบพูดแบบนั้นบ่อยๆถึงแม้มันก็ไม่ได้ต่างจากกูเท่าไหร่หรอก มึงรู้ป่ะตอนมัธยมนะมันไม่มีเพื่อนคบถึงต้องมาอยู่เป็นส่วนเกินห้องกับกูไงทั้งๆที่กูไม่ได้ต้องการมันสักนิด เคยถูกล้อว่าเป็นคู่เกย์กันด้วย กูไม่สนใจหรอกมีแต่ไอ้วีที่แม่งร้อนเร่าๆไปต่อยพวกมัน นั่นทำให้คนอื่นกลัวมันหมดเลยกูเลยต้องทำใจคบกับมันต่อไป มันเป็นคนเลือดร้อนแต่บางทีก็หยุมหยิมจนน่ารำคาญ หน้าตาเเม่งเหมือนพระเอกโชโจมังงะแต่นิสัยนี่เสียของมาก กูกับมันคุยกันดีๆไม่ค่อยได้หรอก ถึงจะด่ากันทุกวันแต่ก็คุ้มค่าที่ยอมลงทุนกับมันมา"


    เกมลากเท้าช้าๆไปนั่งตรงที่นั่งรอรถเมล์เพื่อให้คุยกับคีย์ที่นั่งยองๆอยู่ได้สะดวกขึ้นแถมไม่ต้องเงยหน้าคุยให้เมื่อยคอ เรียวขาในยีนส์เดฟตวัดขึ้นไปทับอีกข้างนึงด้วยวงสวิงสุดเท่ก่อนจะตบท้ายด้วยการยักคิ้วฉบับเจ้าตัวให้หนึ่งที


    "งงล่ะสิว่าทำไมกูต้องมาเล่าเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับมึงให้มึงฟังด้วย"


    "พอมึงพูดกูก็รู้สึกแบบนั้นขึ้นมาเฉยๆ"


    "เพราะกูอยากให้คนที่กูชอบรู้เรื่องของกู"


    "ไอ้เกม..."


    "หลงรักกูแล้วล่ะสิ~"


    "มึงโกหก หน้าตามึงตอแหลมาก"


    "ฮ่าๆๆๆๆ"


    พอได้ฟังคำด่าแบบนั้นแทนที่จะสลด นายเกศรินทร์กลับหัวเราะตบเข่าตัวเองเหมือนมีความสุขเต็มประดา หัวเราะแบบyoloสุดๆก่อนจะเช็ดน้ำตาป้อยๆ รอยยิ้มเล็กผุดขึ้นมุมปากเหมือนดอกเห็ดในวันที่ห้องน้ำอับชื้นๆ


    "โอเคกูขอโทษ กูที่จริงแค่อยากประจานไอ้เหี้ยวีให้ฟัง จะดีมากถ้ามึงเอาไปเล่าต่อให้เพื่อนๆมันฟังด้วย"


    ถ้ากูเป็นไอ้วี กูจะเลิกคบมึง... คีย์ได้แต่คิดในใจ ก่อนดวงตานิลเหลือบเห็นรถคันคุ้นตาที่ตนมั้งจะขึ้นประจำกำลังวิ่งมาหยุดที่ป้ายและเขาควรจะโบกก่อนที่มันจะวิ่งหนีไป หนุ่มวิศวะเอื้อมมือโบกให้สัญญาณรถและเอ่ยลาคนตรงหน้าพอเป็นมารยาท


    "....รถกูมาโน่นแล้วไม่ต้องมาตามกูถึงหอ ไปไหนก็ไปไป๊ ชิ่วๆ"


    "โหยย ใจร้าย พอหมดประโยชน์นายก็ทิ้งเรา แต่ก่อนจะจากกันไปกูเรื่องจะบอก"


    "อะไร เร็วๆ"


    " 'โทษนะ"


    เกมเอ่ยขอโทษก่อนถือวิสาสะกระชากอีกฝ่ายลงมากระซิบกระซาบเรื่องบางอย่าง ซึ่งเขาแน่ใจว่าถ้าใครได้ยินก็ต้องตกใจแน่ๆ ไม่เชื่อสินะ อ่ะมาพนันกันก็ได้ เขาแน่ใจว่ามันต้องตกใจ คอยดู!


    "...มึงรู้ป่ะ วีรภัทรมันเคยบอกรักกูด้วย"


    "จริงดิ!"


    "เหอะ พูดเล่น ไปเหอะรถจอดแล้ว กลับบ้านดีๆ"


    "เออ มึงด้วย ยังไงก็ขอบใจที่มาส่งกู"


    เกมตบไหล่กว้างเหมือนแอบแต๊ะอั๋งภายในตัว ทิ้งอีกฝ่ายเคว้งในคำโกหกสายฟ้าแลบจนเกือบตกรถเพราะก้าวเท้าพลาดตอนขึ้น ไอ้คีย์กรอกตาดุ๊กดิ๊กใส่ผมพร้อมชี้หน้าคาดโทษลิงทะโมนหน้าตาย แต่ถึงอย่างนั้นปากมันกลับตรงกับใจซะนี่


    "แล้วก็...ไงดีล่ะ...."


    ระหว่างก้าวขึ้นรถมันทำท่าเหมือนจะนึกอะไรขึ้นมาได้ นายแบบในอุดมคติของผมหันกลับมาเม้มปากน้อยๆพร้อมชายดวงตาทรงเสน่ห์แลมาเป็นพิธี ก่อนจะเอ่ยคำสั้นๆที่ทำให้ใจผมแทบติดปีก


    "เจอกัน"


    ปึง!


    ประตูปิดไปพร้อมกับรถโดยสารออกตัวไปตามสายถนน ทิ้งไว้เพียงคนด้านหลังที่กลั้นยิ้มไม่ลงจนต้องใช้มือช่วยปิด ทั้งสมองอันน้อยนิดของคนเจ้าเล่ห์มีเพียงคำสองพยางค์ที่วนเวียนไปๆมาๆ


    น่ารัก...


    โง้ย!!! จะน่ารักไปแล้ว คำสุดท้ายนั่น หมายความว่าไง... ถือว่าเป็นการอนุญาตให้รุกรานชีวิตแล้วใช่ไหมเนี่ย โอ๊ยยยยยย นอกจากจะสวยแล้วยังซึนอีก เกมจะน้วย! เกมจะเอา! ทั้งใบหน้าและท่าทางเวลาโดนแกล้งบ้างล่ะ ท่าทางตอนโดนบุกรุกชีวิตบ้างล่ะ โอ่ยยยย //ขูดผนัง


    หลังจากนี้ไปคงต้องแกล้งเยอะๆหน่อยแล้วล่ะสิเนี่ย~~  อันที่จริงก็อยากทำตัวญาติดีกับมันนะ อ่า แต่ว่า....ให้ตายเถอะ  ใบหน้าและแววตาที่ฉายความขยะแขยงของไอ้คีย์เวลามองมานี่มันปลุกความMของผมขึ้นดีมากจริงๆนะ


    คือบับว่า turn me on แรงมาก! น้องเกมใจ๋บ่ดี๋นะฮ้าฟฟฟฟ


    ...


    ชักจะอยากเห็นอีกบ่อยๆแล้วสิ //v// //เอามือทาบแก้มแล้วทำท่าเอียงอาย






    100 %









    อิเกมของแม่ ความอ่อยนี้เจ้าได้แต่ใดมา

    ฮอลลลล ถึงแรดแต่ก็รักนะ โมเอะโมเอะบีมมม <3


    ### ย้ำอีกที ยังไม่ได้ระบุเคะเมะนะคะ ###





    ©
    t
    b
    u
    t
    t
    e
    r
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×