ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : บทสอง ของขวัญ
บทสอง ของขวัญ
สองชั่วโมงก่อน...
นภากรโดดเดียวบนโลกที่กว้างใหญ่ไพศาลมโหฬารบานตะไท
ที่เป็นเหตุผลอันเนื่องมาจากเอกวัฒน์เพื่อนรักที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกันมานานได้ตีตัวจาก
ด้วยเหตุผลที่ว่า...
...
ไม่อยากเข้าพิพิธพัณฑ์ให้เสียตังเปล่าถึงแม้ว่าค่าเข้าชมจะฟรี
"ถ้าเดินเบื่อแล้วก็กลับมาหากูนะ ไปล่ะจุ๊บๆ"
นี่เป็นคำพูดสุดท้ายจากปากเอกวัฒน์ ....ก่อนที่มันจะวิ่งหนีไปร้านกาแฟฝั่งตรงข้ามสีหน้าระรื่น
และทิ้งกูไว้....คนเดียว
...
ฟัค!!!!
"โอ๋เอ๋น่าน้องกรของพี่ อย่าทำหน้าบึ้งแบบนั้นซี่"
"เฮอะ!"
เอกวัฒน์ทำหน้าแหยเมื่อเพื่อนรักสะบัดหน้าพร้อมเดินหนีเขานำหน้าไปลิ่วๆ แอบถอนหายใจน้อยๆทั้งที่เขาพยายามเกี่ยวก้อยคืนดีกับไอ้หนูนี่มาจะร่วมชั่วโมงแล้วแต่แม่งเอาแต่เฮอะๆใส่จนแทบยั้งมือตัวเองไม่อยู่ ไม่คิดมาก่อนมาก่อนว่านภากรจะงอนแล้วตุ๊ดแตกขนาดนี้ เพราะกูแค่เห็นกาแฟกับแอร์เย็นๆดีกว่ามันแค่นี้ ไม่น่าเลยไอ้เอก
ไม่น่าคบมันเป็นเพื่อนเลย...
"ก็กูไม่ชอบอะไรแบบนี้นี่หว่ากูไม่อยากเข้าไปอ่ะ มึงไม่รู้เหรอว่าไอ้ตู้ไม้โถถังกะมังหม้อพวกนั้นมันอับๆชื้นๆจะตายไป"
"ยุ่งกับกู! ไม่ต้องมาตบหัวลูบหลังกูเลยไอ้หมา"
"มึงอย่างอนดิ ไม่น่ารักเลยยยย กูอุตส่าห์พามาตลาดเก่าไถ่โทษให้แล้วไง"
เอกวัฒน์ตีเนียนโอบไหล่ผมแล้วลากกันเดินไปตามทางท่ามกลางคนบางตาและแสง อาทิตย์เจิดจ้า ผมแสร้งเบ้ปากใส่มันอย่างหงุดหงิดงุ่นง่านไปหมดเหมือนชั่วชีวิตหลังจากนี้จะ ไม่มีโอกาสให้หงุดหงิดอีกเลย อ๊ะ แต่อย่าไปบอกมันนะครับว่าตอนแรกก็จะหายเคืองมันอยู่แล้วแหละ แต่พอมันบอกจะพามาตลาดเก่าไถ่โทษแถมเสนอตัวเป็นเจ้ามือให้ด้วย ไอ้ผมก็เลยต้องแกล้งเคืองต่อ....เพื่อของฟรีอ่ะครับ
"มึงใช้คำว่าอุตส่าห์เหรอฮะ ใช่สิ กูมันก็แค่เพื่อนมึง! จำไว้นะไอ้เอก วีรกรรมของมึงกูจะสาปแช่ง! กูจะให้พวกไอ้วีแบนมึง"
พอยกชื่อหัวหน้าไอ้พวกลิงทะโมนที่อยู่ไทยมา มันเลยยิ่งต้องง้อใหญ่เข้าไปอีก สำหรับพวกผม อะไรก็ได้ในชีวิตยิ่งเว้นเพื่อนแบนครับ เพราะมันจะไม่ใช่การแค่เมิน ไม่สนใจ งดติดต่อหรือไม่คุยกันนะ แต่พวกมันจะยิ่งเข้ามารุกรานชีวิตเลยล่ะครับ ทั้งอีเมล์ทั้งข้อความข่มขู่คลิปหลุดรูปทุเรศ อะไรต่างๆนานาที่พวกมันสามารถทำได้เพื่อคุกคามสิทธิเสรีภาพนะ ไอ้พวกนั้นแม่งชอบเลยแหละ
"โอ๋ๆๆ ใจเย็นๆก่อนสิจ๊ะ เนี่ยๆๆ มึงอยากกินอะไรกูจะประเคนให้ถึงปากเลยอ่ะ ให้กูเคี้ยวแล้วคายให้มึงกินต่อเลยก็ได้ เอาให้เหมือนลูกนกเพิ่งเกิดตัวแดงที่มีไม่มีข้าวกินเลยต้องกินอาหารบดๆแหยะๆจากไซริงเลยดีวะ"
"เอ่อะ นั่นก็ทุเรศไปป่ะสัด"
พอนึกภาพตามก็แอบอยากอ้วกนิดหน่อย ไอ้ห่าเอกมันพูดจาดีๆไม่เคยเกินสองประโยคเลยรึไงวะชอบวกเข้าแต่เรื่องพรรคนี้ตลอด เถียงกันไปเถียงกันมา นภากรก็ถูกเอกวัฒน์ลากมาหน้าร้านติ่มซำตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ ไอ้คนสูงกว่าจัดการล็อกคอผมแถมยักคิ้วให้
"จะแดกไม่แดก"
"แดก"
นภากรตอบแบบไม่ต้องคิดทีเดียว มันเสนอจะเลี้ยงแถมยังเลือกร้านหน้าตาดีให้ด้วย ปฏิเสธก็โง่แล้วครับ ผมทั้งคู่หัวเราะใส่กันก่อนมันจะตบหัวผมไปทีนึง
"งั้นเข้าไป"
.
.
.
"อ้าาาา อาหร่อยยยยย"
นาภากรก้าวเท้าออกจากร้านด้วยสีหน้าเบิกบานสุดๆผิดกับขามา ไม่ผิดหวังจริงๆที่ได้มาลิ้มลองรสชาติติ่มซำต้นตำหรับทั้งไส้หมูไส้กุ้งและที่เด็ดสุดอย่างเสี่ยวหลงเปาร้อนๆแสนอร่อยที่ยังค้างอยู่ในปากสมคำอ้างของไกด์กิตติมศักดิ์ก่อนจะตบท้ายด้วยน้ำชาหนึ่งถ้วย...ที่สำคัญคือฟรีตลอดมื้อ อ่าาาา นิพพานเถอะครับ ถึงจะรู้สึกแปลกๆกับไอ้สายตาวิบวับของสาวแดนมังกรเวลาพวกผมเล่นกันนิดหน่อยก็เถอะ
เอกวัฒน์ที่เดินตามหลังมาถึงกับบีบกระเป๋าเงินหนังสีดำในมือแล้วเบ้ปาก
"กูเชื่อ ....แม่งเอาซะกระเป๋ากูยุบเลย"
"บ่นอะไร ขัดใจกูเหรอ!"
"เปล่าค่ะ ตามพระบัญชาองค์ชายนภากร"
'ไอ้สัด แดกยังกะยัดห่า ผีจีนเข้าสิงมึงรึไง'
เอกวัฒน์ได้แต่ด่าแบบไม่ออกเสียงขณะที่โค้งประหลกๆเหมือนพวกขันทีในหนังจีนชอบทำกันแต่ก็แอบแลบลิ้นปลิ้นตาใส่ นภากรยืนอยู่ด้านหลังเหลือบตามองแล้วก็หันกลับไปเฉยๆ รู้หรอกเว้ยแต่ไม่พูด คนกำลังสุขใจสุขใจอยู่ไม่อยากด่าให้เสียน้ำลาย งี้แหละครับพวกขี้อิจฉา *ยักไหล่*
สายตามันเหลือบไปเห็นทางอีกด้านหนึ่งที่ยังเดินไปไม่ถึง กลุ่มคนที่คล้ายกลุ่มนักท่องเที่ยวยืนกระจายตัวตามร้านค้าเล็กๆ สินค้าของแต่ละร้านที่ผมเห็นผ่านตาลางๆคล้ายว่าจะเป็นพวกเครื่องประดับหรือของตกแต่งเก่าๆจนไปถึงเครื่องครัวเครื่องใช้แบบโบราณก็มี
"เอก ตรงนั้นเค้าขายอะไรกัน"
"ขายของ........เก่า เอ่อ มันมีเยอะ มึงต้องไปดูเอง"
เอกวัฒน์ตั้งปากจะกวนตีนผมแต่เจอสายตาคมกริบเข้าไปก่อนมันเลยรีบแก้ตัวเป็นอธิบายเพิ่มขึ้นหนึ่งคำ ซึ่งทำให้ผมรู้สึกขอบคุณมากจริงๆแต่จะขอบคุณกว่านี้แน่ถ้ามันไม่พูดอะไรออกมาเลย เอ๊ะ ไม่สิ ก็ผมถามมันนี่หว่ามันก็ต้องตอบผม
แต่จริงๆมันไม่ต้องตอบผมก็ได้เพราะผมเองก็มองมันอยู่เมื่อครู่ แต่ว่าที่ถามเนี่ยไม่ได้มีจุดประสงค์ที่คำตอบครับ ผมมีจุดประสงค์ที่การกระทำมากกว่า
"อยากไปดูอ่ะ แต่ไม่มีตัง"
ใช่ครับนี่แหละจุดประสงค์ของผม.... เหยื่อของผมจากกำกระเป๋าตังตัวเองอยู่ชะงักงันแรงมาก ดวงตาสีนิลมันเหลือบมามองชั่งใจครู่หนึ่งก่อนจะเบนหนีพร้อมปิดปากเงียบกริบ นึกว่าไอ้กระบวนท่าแบบนี้จะทำอะไรกูได้เหรอครับ? ไอ้คนมั่นหน้าอย่างนภากรย่อมไม่ยอมแพ้ง่ายๆแบบนี้หรอกเว้ย!
จ้องมัน! จ้องมันเท่านั้นที่จะครองเงินของมัน!
"...."
"....เอกกกกก" ลากเสียงยาวแบบมีจุดประสงค์
"...." หันหน้าหนี
"เอกกาว้าดดดด"
"....ไม่"
เจ้าของชื่อแข็งใจตอบกลับมาด้วยเสียงที่มันคิดว่ามะนาวไร้น้ำที่สุดของมัน แต่บอกเลยนะ โคตรสั่น ฮ่าๆๆๆๆ ตั้งแต่มัธยมเอกวัฒน์มันเป็นคนแกล้งง่ายที่สุดในกลุ่ม เพราะอะไรน่ะเหรอ เพราะมันใจอ่อนไงล่ะ!
"..."
"..."
นภากรคนหน้าตาดีหรี่ตามองคนตรงหน้าที่ยังคงเงียบเหมือนจะเล่นสงครามประสาทกับเขา เวลาที่ผ่านไปหลอมหัวใจเอกวัฒน์ให้แข็งแกร่งขึ้นอีกระดับสินะ แต่ขอโทษนะครับ คนอย่างมันเอาชนะผมไม่ได้หรอกตราบใดที่มันยังไม่อุดจุดอ่อนวงใหญ่ตรงนั้นเสียที ผมนับหนึ่งถึงสิบในใจพร้อมนึกถึงใบหน้าคนบางคนที่อยู่ไทย ผมขยับปากช้าๆก่อนจะโพล่งวลีศักดิ์สิทธิ์สำหรับมัน
"...กูจะฟ้องไอ้ซีน"
"เออ! กูยอมมมม!!"
สั้นๆง่ายๆได้ใจความ....
นี่แหละครับคำสาปสั่งตายสำหรับไอ้เอก....
นภากรกำลังนั่งยองๆเครียด...อยู่ตรงหน้ากองทัพตุ๊กตาดินเหนียวหลายโทนหลายรูปแบบ
ผมกำลังสงสัย...ว่าทำไมมันถึงได้มีดีไซน์แบบนี้ แล้วไอ้รูปแบบแปลกๆแบบนี้มันมีไว้เพื่ออะไรวะ
"อืมมมม"
แต่ยิ่งคิด...ก็ยิ่งไม่เข้าใจ
...
ไม่เข้าใจว่ากูมายืนมองพวกมันทำไมเนี่ย!!
"กรๆ อันไหนสวยกว่ากันวะ เอ่อ มึงกำลังยุ่งอยู่รึเปล่า"
เสียงจากคนร้านข้างๆเดินเข้ามาหาผมพร้อมกับของในมือ สีหน้ามันอีหลักอีเหลื่อเหมือนกำลังไม่เข้าใจบางอย่างซึ่งน่าจะเป็นเรื่องเดียวกับที่ผมไม่เข้าใจ ก็เรื่องที่กูมาทำอะไรตรงนี้ไงล่ะครับ...
นภากรส่ายหน้าก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปมองของในมือมันที่น่าจะเป็นประเด็นหลักมากกว่าไอ้ตุ๊กตาดินเหนียวนั่น แต่พอเห็นเท่านั้นแหละไอ้กรถึงกับตาเบิกกว้างพร้อมพ่นฟองน้ำลายเสียงดัง
"พรูด!! ฮ่าๆๆ มึงใส่กำไลด้วยเหรอวะเอก! สีน่ารักเชียว ฮิ้วววว"
"วะ ไอ้นี่นี่เว้ย กูจะซื้อไปฝากไอ้กิ่งไม่ได้ใส่เอง มึงว่าสีไหนน่ารักกว่ากันวะ"
ผมแอบเฟลนิดหน่อยเวลาไอ้เอกมันไม่โมโหกับความขี้คอกของผม ไอ้ซิสค่อนมันมองซ้ายขวากับกำไลข้อมือด้วยแววตาติดเพ้อฝันจนผมแอบขยาดเบาๆ คงนึกถึงหน้าไอ้กิ่งเวลาดีใจอยู่ล่ะมั้ง ไอ้เอกนี่น่าเอ็นดูแถมมีความเป็นพี่ชายที่แสนดีสูงมาก เพราะงั้นผมจะช่วยมันเลือกกำไลให้น้องมันก็ได้
ผมยืนเลือกเครื่องประดับที่กองในมือมัน จะว่าไปเอกมันก็มีรสนิยมดีนะ มีแต่สีโทนน่ารักๆเหมาะสมกับผู้หญิง แอ้ววว น้องกรอยากได้บ้างงง
...ขอโทษๆๆ = =;;
"ผู้หญิงส่วนมากชอบสีชมพูนี่หว่า แต่เป็นกูกูจะเลือกสีฟ้า เพราะชื่อกูคือท้องฟ้า"
ผมหยิบวงสีชมพูกุหลาบอ่อนๆกับสีฟ้ามารีนขึ้นมาชูให้ไอ้เอกดู มันหัวเราะเหอะๆเสียงแหบใส่ผมพร้อมเคาะหัวผมเบาๆก่อนจะเดินกลับไปที่ร้านไม่ไยดีผมอีกเลย อ้าวทำไมวะ เป็นคำแนะนำที่ดีที่สุดในชีวิตกูแล้วนา
นภากรเดินตามเอกวัฒน์ต้อยๆไปแผงขายเครื่องประดับนั่น โอ้คุณพระ! นี่มันขุมสมบัติดาวี่โจนส์ของเหล่าสตรีและเหล่าชะนีน้อยใหญ่เลยล่ะครับ เหมือนกับว่ามันมีประกายวิ้งๆออกมาด้วยว่ะ
"ไหนๆ มีสีอื่นอีกไหมวะ น้องสาวมึงขับรถสีเขียว บางทีกิ่งมันอาจจะชอบสีเขียวก็ได้"
".....กูค้านมันเองไม่ให้เอาสีม่วง"
"มึงจริงจัง"
ไอ้เอกยิ้มแหยกลับมาและ... *พยักหน้า*
".....มึงทำถูกแล้วเอก"
"ไม่ต้องมาทำหน้าเห็นใจกู กลับไปที่ของมึงเลย ไป๊!"
"อ่ะๆๆ ไปก็ได้ว้าาาา บู้วววว โอ่ย!"
ไอ้คนสูงกว่าดีดลิ้นและถลึงตาคาดโทษใส่ผม อ่ะโด่ นึกว่ากลัวดิ ตอนนี้กูยังไม่อยากซื้ออะไรเว้ยถึงจะมีของล่อตาเยอะก็เถอะ กูไม่ง้อมึงหรอก! อ่ะฮ่าๆๆๆ ตลกจังเลยยยยยย เฮ้ออ สบายใจจจจจ
เอกวัฒน์มองตามหลังที่เดินลิงโลดไปนั่งยองๆจ้องตากับพวกตุ๊กตาดินเหนียวร้านเดิม เขาขำและขยับปากด่าสั้นว่าบ้าบอ มันบ้าจริงๆแหละครับไอ้กรน่ะ บ้าแบบซื่อโง่ๆแต่ว่าไปบอกมันนะว่าผมชมมันเดี๋ยวจะได้ใจ ว่าไปแล้วสีเขียวที่กรมันบอกก็สวยดี สีคล้ายๆหยก ไอ้กิ่งน้องสาวผมมันน่าจะมีสีพวกชมพูๆอยู่แล้วด้วยแหละ จะว่าไปผมไม่ได้ซื้อของน่ารักๆให้น้องมานานแล้วนะ ยังนึกถึงหน้าตอนดีใจของมันตอนได้ตุ๊กตาเป็ดสันติภาพสีเหลืองตัวโตในงานวันเกิดปีที่18ของมันอยู่เลย ฮ้าาา
อ่อ แล้วที่มันบอกว่าผมเป็นซิสค่อนนี่ไม่จริงนะครับ ผมก็เป็นพี่ชายแบบปกติธรรมดาทั่วไปก็แค่พิเศษที่ว่าเป็นพี่ชายคนโตที่มีน้องสาวอายุห่างเกือบห้าปีเพียงคนเดียวเท่านั้นเอง คนเรามันจะรักน้องแล้วมันผิดเหรอครับ ผมก็แค่กันไอ้พวกหนุ่มดาดเดื่อนไม่ให้เข้าใกล้ไอ้กิ่ง แล้วก็ที่ตามมาจีนเนี่ยไม่ได้มีปัญหาอะไรเล๊ยนอกจากเพื่อความปลอดภัยของกิ่ง อันที่จริงผมจะให้น้องที่เทียวไปมามหาลัยกับหอเอารถไปใช้แล้วเอาจักรยานกรุ๊งกริ๊งที่บ้านไปรับไอ้กรด้วยซ้ำนะถ้ากิ่งไม่ได้ห้ามไว้ ผมเป็นห่วงมันจริงๆนะ
.....เอ้อ เห็นไหมผมไม่ได้เป็นซิสค่อนนะ
"รับเป็นเส้นนี้ใช่ไหมคะ"
สาวน้อยที่น่าจะเป็นลูกสาวเจ้าของร้านยิ้มกว้างรับสร้อยข้อมือจากผมไปใส่ถุงกระดาษลายน่ารักๆ ผมล้วงหยิบกระเป๋าเงินออกมาเตรียมจ่ายทว่าตาของผมเหลือบไปเห็นบางอย่างที่ห้อยรวมอยู่ท่ามกลางเส้นอื่นเหมือนม่านระย้า สีสันชวนสะดุดตาชวนให้ผมเอื้อมมือไปจับมาดู
"สนใจเหรอคะ"
เด็กสาวเธอเอ่ยถามทันทีที่ผมเอื้อมมือไป พอจะปฏิเสธเธอก็จัดการปลดมันลงมาใส่มือผมก่อนเลยทำได้แต่ยิ้มแหย ปลายนิ้วผมไล้ตามสายสร้อยกับจี้ไร้รูปทรง ดวงตาเรียวจ้องมันเหมือนมีแรงดึงดูดบางอย่างอยู่ด้านใน ....ไม่ต้องใช้เวลาคิดอะไรอีก เอกวัฒน์ยื่นสายสร้อยให้หญิงสาวที่เผยยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี
"ขอบคุณนะคะพี่สุดหล่อ~"
.
.
.
"นภากร"
"คร้าบบบบ"
ผมตอบกลับแม้สายตาทั้งคู่ยังจับเจ่าอยู่ที่เกมยิงยานอวกาศที่หน้าจอไอแพดเครื่องใหญ่ๆของเอกวัฒน์ที่ไปขอยืมมันเล่น ถามว่าผมไม่มีโทรศัพท์ใช้เหรอ? ก็มีนะแต่จอมันเล็กอยากเล่นแบบชัดๆมากกว่า ไอ้ผู้ชายที่สูงกว่าผมนิดหน่อยแต่ชอบทำกร่างนั่งบนเตียงพร้อมผ้าขนหนูคาอยู่หัว น้ำหยดติ๋งๆลงจากคางแบบนั้นคงเพิ่งสระผมมา
"ไปอาบน้ำ"
"แป๊ปนึงงงง"
ไม่ต่อปากต่อคำอะไรทั้งนั้น เอกวัฒน์บรรจงยกเท้าเปล่าขึ้นถีบกลางลำตัวผม เอ่อ หมายถึงหน้าท้องครับ นภากรส่งเสียงอิดออดไปแต่ไร้ผล ไอ้เอกระดมถีบผมอีกจนต้องดันตัวขี้เกียจๆขึ้นอย่างเสียไม่ได้
"ไปก็ได้ๆ ปั๊ดโถ่เอ๊ย กำลังจะผ่านด่านแล้วเชียวนะเว้ยยย"
เอกวัฒน์กอดอกมองคนแสร้งทำกระฟัดกระเฟียดกระชากผ้าขนหนูแล้วเดินเข้าห้องน้ำ กระชากบานประตูกระแทกเข้ากับประตูเสียงดังปังใหญ่ ก่อนจะเจ้าตัวจะโผล่หัวออกมาบอกเขาเบาๆว่า 'ไม่ได้ตั้งใจ แค่ลมมันตี'
.....คำพูดคุ้นๆเหมือนในซีรี่ย์เลยนะมึง
"ไอ้เอกมันเป็นอะไรของมัน ทำตัวขี้บ่นยังกับแม่ลูกสองไปได้"
ผมบ่นทั้งๆที่เพิ่งจะด่าไอ้คนด้านนอกว่าขี้บ่น แต่แล้วไงครับก็มันขี้บ่นจริงๆนี่ นภากรยู่ปากก่อนจะเริ่มทำการชำระล้างร่างกายอันบริสุทธิ์ผุดผ่องยิ่งกว่าตูดเด็กบนโลโก้แป้งฝุ่น
สเต็ปหนึ่ง บีบแชมพูใส่มือละเลงลงหัวนะจ๊ะ
สเต็ปสอง หยิบสบู่แล้วถูให้ทั่ว
สเต็ปที่สาม เปิดฝักบัวเต็มแรงแล้ววิ่ง!!
สเต็ปสุดท้าย ตรวจสอบผลลัพธ์และแก้ไขปรับปรุง ยกแขนขึ้นมาข้างนึงแล้วซู้ดดดดด~~
...
อ่าาา น้องกรหอมฉุยยยยย
อาบน้ำแล้วสบ๊ายสบาย ขนาดที่ว่าผมเดินออกมาแบบยิ้มแก้มแทบแตก สบู่บ้านพี่เอกนี่กลิ่นหอมหวนรัญจวนใจจริงๆนะเจ้าคะ เห็นไหม ผมพูดเพราะด้วย! ต้องเป็นเพราะได้อาบน้ำมาแน่เลย~~
ผมออกไปแขวนผ้าขนหนูนอกระเบียงก่อนจะผลัดผ้าผืนเล็กมาเช็ดศีรษะแทน ผ้าเปียกแบบนี้สงสัยเป็นผืนที่ไอ้เอกเพิ่งเช็ดเสร็จแน่เลย อี๋ ผมแอบเบ้ปากก่อนจะเหลือบไปเห็นไอ้ตัวสูงที่นอนแบ็บอยู่บนเตียงเรียบร้อย
"เอก นอนแล้วอ่อ?"
"..."
"เงียบ สงสัยไม่ช็อต"
สงสัยมันจะเหนื่อยที่พาทะโมนต่างด้าวอย่างผมไปตะลอนมาทั้งวัน เลยติดไฟห้องเหลือแต่โคมไฟพระจันทร์มุ้งมิ้งของมันเหมือนเดิม จะได้ให้มันนอนสบายตาไงครับ เป็นไงล่าาาา ผมโคตรคนดีเลยล่ะสิ อิอิ
ผมถลาพุ่งเข้าใส่ฟูกบนพื้นแล้วก็ต้องร้องโอ๊ย กรี๊ดดด มือผมเผลอกดทับโดนอะไรแข็งๆก็ไม่รู้อ่ะ! เป็น.........ถุงกระดาษสีน้ำตาลอ่อน อ่าเร๊ะ!? ผมหันหน้าไปหาไอ้คนที่นอนหันหลังให้ทันที น้องกิ่งกลับมาบ้านแต่ไม่ได้เข้ามาในห้องแน่ ไม่มีใครเข้าออกได้นอกจากมันกับผม และนี่ไม่ใช่ของผม
.....ถ้าไม่ใช่ฝีมือไอ้เอกก็พลังงานแหละครับ
"อะไรวะเนี่ย กูแกะได้ไหมวะ เอก กูแกะละนาาาาา"
"..."
"เงียบแบบนี้แปลว่าอนุญาต อิอิ"
กว่าจะรอมันพูดก็ได้แกะพรุ่งนี้แหละครับ สู้แกะเองง่ายกว่าเยอะเลย ผมยิ้มสบายใจก่อนจะเทของในถุงกระดาษเล็กออกมา ทันทีที่ผมได้เห็นก็ต้องตีวงคิ้วกลับตัลปัตร ทำไมไอ้ของในมือผมมันถึงเป็นสร้อยคอได้วะ!
"ของกิ่ง? เฮ้ยมึงเอามาทิ้งไว้นี่ทำไม จะให้กูเอาไปให้ไอ้กิ่งให้เหรอ หว่ายยยย แค่นี้มึงเขินน้องตัวเองเหรอวะ"
ได้ทีให้แซวครับ ถึงไอ้เอกมันจะค่อนข้างหน้าด้านหน้าทนแบบนี้นะฮะ แต่ซิสค่อนอย่างมันก็ย่อมมีมุมมุ้งมิ้งกรุ๊งกริ๊งกับน้องสาวเป็นแน่แท้ อันที่จริงผมก็รู้นะว่ามันเป็นคนแสดงออกไม่เก่ง ....อย่างงั้นผมจะช่วยแบ่งเบาภาระของมันด้วยการเอาไปให้น้องกิ่งแล้วบอกว่าว่าพี่ซื้อมาฝากเองละกัน!
"แหน่ะ ทำหยิ่งด้วยนะ ได้ทีนี่เล่นใหญ่ กูเอาไปให้น้องนะงั้นอ่ะ"
"โอ๊ยยยย มึงโง่หรือมึงบ้าเนี่ยไอ้สัดดดด ของมึงแหละไอ้กร ไอ้ควายยยยยยยยย"
ศพบนเตียงตวัดผ้าห่มขึ้นมาแล้วตะโกนด่าผมเสียงลั่นบ้านไปหมด เหมือนจะแว่วๆจากด้านนอกว่า 'ส่งเสียงดังหาแม่พี่รึไง' เอกวัฒน์หัวฟูหน้ามุ่ยปนจริงจังใส่ผมที่ยืนนิ่งเป็นหมางงเป็นที่เรียบร้อย ใช้นิ้วชี้ชี้หน้าตัวเองแบบเหลอหลาสุดขีด
"ห๊ะ"
ของกู?
เอ้าอิดอกกก แล้วกูจะรู้ไหมมมม
"ให้กู? ให้กูทำไมวะ"
"ก็มึงบอกว่ามึงฝันร้าย คนขายเค้าบอกกูว่าอันนี้มันช่วยปกป้องคุ้มครองเจ้าของแล้วก็เหมาะกับผู้ชายด้วยกูเลยซื้อมาให้ กูยังไม่อยากให้เพื่อนกูมาตายที่บ้านกูหรอก"
ไอ้เอกว่าห้วนๆแต่หน้ามันนี่หลบผมงุดเลยครับ ยิ่งไอ้ใบหูขาวๆที่โผล่พ้นเส้นผมสีดำนี่แดงแจ๋เลย โอ๊ย น่าเอ็นดูเกินไปแล้ว นภากรทิ้งก้นลงนั่งข้างๆกันพลางยกสร้อยคอสายป่านขึ้นเสมอดวงตา จี้แข็งคล้ายหินสีฟ้าสดใสแกว่งไปแกว่งมาล้อเสี้ยวแสงไฟ ผมหันไปแหย่อีกคนที่เมินหน้าหนีคอแทบหัก
"อันนี้เค้าเรียกว่าอะไรเหรอ"
"เทอร์ควอยซ์ ...สีฟ้า"
สิ้นคำคนขี้เล่นถึงกับชะงักกึก นภากรค่อยๆหันกลับไปมองหน้าอีกคนที่บึ้งสุดๆแต่กลับแดงสุดๆเหมือนกัน สมองน้อยนิดของผมเผลอย้อนกลับไปนึกถึงคำพูดตัวเองที่ตลาดเก่า ตอนนั้นที่ผมพูดพล่อยๆออกไป
'แต่เป็นกูกูจะเลือกสีฟ้า เพราะชื่อกูคือท้องฟ้า'
นี่อย่าบอกนะว่า........มันให้ความสำคัญกับคำพูดนั้นด้วยเหรอวะ ?
ไม่ไหว....ไม่ไหวแล้ว.........
"คึ มึงนี่ ฮ่าๆๆๆๆ"
กลั้นยิ้ม.....ไม่อยู่แล้วโว้ยย!!
นภากรระเบิดหัวเราะออกมาเต็มปากไปหมดขนาดว่าขำจนหยดน้ำตาค้างอยู่หางตาแถมท้องยังขัดแข็ง ปวดไปหมดแล้ว ผมแทบจะทุบเตียงให้หักคามืออยู่แล้วเนี่ย โอ๊ยย! ไอ้เอกนี่มองผมแบบอยากจะขย้ำให้ตายคามืออยู่แล้ว ผมก็อยากจะหยุดนะแต่มันหยุดไม่ล่ายยยยย
"หัวเราะอะไรของมึงวะ!"
"โอ๊ยยย ทำไมน่ารักจังเลยคะพี่เอกกกก น้องกรจะรักษาอย่างดีเลย จะเอาไปอวดไอ้พวกอยู่ไทยด้วยว่าพี่เอกหมั้นกูแล้ว ก๊ากกก"
"ไอ้กร! สยอง! เอาคืนมาเลยมา"
เอกวัฒน์กัดฟันกรอดและตวัดมือจะแย่งของในมือผม อ๊ะๆๆ แต่เสียใจนะ วืดว่ะ ผมแลบลิ้นใส่มันพร้อมขยับถอยห่าง
"ไม่ให้~~ ของกูก็คือของกู ฮะฮะฮาฮา"
"เด็กเหี้ยนี่...."
ไอ้เอกด่าผมเบาๆก่อนจะถอนหายใจเสียเปล่า ขณะที่ผมกำลังชื่นชมของขวัญชั้นใหม่เหมือนเด็กขี้เห่อ เชือกป่านเส้นเล็กถูกคล้องลงที่คอผม นิ้วยาวไล้ไปตามจี้หินเทอร์ควอยซ์ช้า ....ก่อนที่รอยยิ้มของผมจะผุดขึ้นมาแบบไร้สาเหตุ
ก็บอกแล้วว่าไอ้เอกมันรสนิยมดีนะ เพราะของชิ้นนี้ผมชอบมันมากเลยว่ะ
ผมเหลือบตามองแผ่นหลังกว้างของเอกวัฒน์ที่นั่งนิ่งเป็นรูปปั้นไม่รู้ทำอะไรอยู่ รู้แต่ว่าหูนี่ยังแดงอยู่เลย โอ๊ย น่ารักกกกก ยืนขำมันอยู่ครู่นึงก็นึกอะไรออกได้ ผมคว้าไอแพดหัวเตียงก่อนจะกระโดดขึ้นเตียงไปกอดคอมันจากด้านหลัง นิ้วกดไปที่แอพพลิเคชั่นสีฟ้าอ่อนพร้อมเอ่ยเสียงติดออดอ้อนนิดๆหน่อยๆ
"เอกๆๆ"
"ว่าไร"
"สไกป์กัน"
"....เฮ้ออออออออออ"
ตอนแรกมันต่อต้านนะแต่สุดท้ายมันก็ต้องยอมครับบอกแล้ว *ยักคิ้ว* อันที่จริงผมก็รู้ผู้ชายเค้าไม่ทำกันแบบนี้หรอกผมรู้ แต่นี่มันเรื่องของผมไง ทำอะไรก็ได้โตแล้ววว!
อ่ะ แต่ไม่ต้องมาจ้มมาจิ้นผมกับมันนะครับ พวกผมเป็นเพื่อนกันไม่ใช่แฟนหรือคนรักเว้ย
ไม่! - ใช่!
...
ถ้าใช่เมื่อไหร่เดี๋ยวนภากรบอกเองครับ อิอิ
_______________________________________________________
บทสองและความอ้อยของนายนภากร แค่ชื่อตอนก็อ้อยหนักมากแล้วค่ะ รู้สึกอินเนอร์ดันพี่เอกนี่มาแรงมาก 55555555555 ทีแรกว่าจะให้กลับอดีตตั้งแต่ตอนนี้แล้วนะแต่เขียนๆลบๆไปมาก็เริ่มขี้เกียจ....บทหน้าค่อยกลับไปหาสามีแล้วกันนะคะละกันนะคะ จุ๊บบบบบ
จริงๆแอบวาดรูปคาแรกเตอร์ไว้ด้วยแต่ลงไม่ได้ค่ะ อาย 55555555555 //ผิส ลงไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวเป็นสปอยล์
อ้อ แล้วก็ขอบคุณเจ้าของคอมเม้นต์ทั้งสี่จากใจเลยนะเพคะ นิยายเรื่องนี้ไม่ดราม่าแน่นอนค่ะรับประกันหนึ่งปีเต็ม อ่านได้เรื่อยๆสบายๆออกแนวขี้เกียจไปวันๆเหมือนคนเขียนค่ะ ถถถถ
ไม่เม้นต์ไม่หือไม่อืออะไร ช่วยโหวตก็ยังดีนะคะ
ขอให้อ่านแบบมีความสุขทุกท่านค่ะ <3
09.56 pm
24/10/15
จริงๆแอบวาดรูปคาแรกเตอร์ไว้ด้วยแต่ลงไม่ได้ค่ะ อาย 55555555555 //ผิส ลงไม่ได้ค่ะ เดี๋ยวเป็นสปอยล์
อ้อ แล้วก็ขอบคุณเจ้าของคอมเม้นต์ทั้งสี่จากใจเลยนะเพคะ นิยายเรื่องนี้ไม่ดราม่าแน่นอนค่ะรับประกันหนึ่งปีเต็ม อ่านได้เรื่อยๆสบายๆออกแนวขี้เกียจไปวันๆเหมือนคนเขียนค่ะ ถถถถ
ไม่เม้นต์ไม่หือไม่อืออะไร ช่วยโหวตก็ยังดีนะคะ
ขอให้อ่านแบบมีความสุขทุกท่านค่ะ <3
09.56 pm
24/10/15
@SQWEEZ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น