ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Beauty and the Beast
Beauty and the Beast ❥ Sehun x Suho
「 tale as old as time 」
Beauty and the Beast
กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว...
โฉมงามอาศัยอยู่กับพ่อและพี่สาวคน ครั้นบิดาออกไปค้าขายเธอและถามถึงสิ่งที่เธอต้องการ เธอขอเพียงดอกกุหลาบงามหนึ่งดอก โฉมงามผู้จิตใจงามเฝ้ารอบิดากลับมา จนกระทั่งพ่อของเธอกลับมาพร้อมดอกกุหลาบตามสัญญาเพียงแต่ชายชราไปเด็ดมันมาจากปราสาทของอสูร และอสูรร้ายต้องการตัวของโแมงามให้ไปที่นั่น โฉมงามเดินทางไปที่ปราสาทเพียงลำพัง คราแรกเธอรู้สึกเกรงกลัวอสุราอัปลักษณ์ แต่อสูรหนุ่มได้จัดการต้อนรับเธออย่างดี ทั้งอาหาร เสื้อผ้าและเตาไฟ จนเวลาผ่านไป เธอกับอสูรต่างเป็นเพื่อนที่ดี และอสูรก็ขอเธอแต่งงาน โฉมงามไม่ตอบสิ่งใด อสูรหนุ่มเองรู้ดีว่าหล่อนรู้สึกแบบใด
โฉมงามได้รับกระจกวิเศษที่สามารถทำให้เธอมองเห็นครอบครัวได้ วันหนึ่งบิดาเธอป่วยหนัก อสูรให้โอกาสเธอได้กลับไปเจอครอบครัวภายในเจ็ดวัน เมื่อได้เจอลูกสาวสุดที่รัก ชายชราก็หายจากอาการตรอมใจ สองพ่อลูกอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขจนระยะเวลาเจ็ดวันได้ผ่านไป...ในคืนหนึ่งโฉมงามฝันร้ายที่ว่าอสูรใกล้ขาดใจและเรียกหาเธอ โแมงามรีบรุดไปที่ปราสาท เธอวิ่งเข้าไปที่สวนและพบร่างของอสูรหนุ่มนอนนิ่ง หล่อนทิ้งกายลงกอดอสูรพลางร้องไห้ และกล่าวว่าเธอจะแต่งงานกับเขา ทันใดนั้น แสงสว่างปรากฎขึ้น ใบหน้าน่าเกลียดของอสูรเปลี่ยนเป็นใบหน้าหล่อเหลาของเจ้าชายหนุ่ม ซึ่งได้แถลงไขว่าเขาต้องสาปและแสวงหาหญิงสาวใจงดงามที่สามารถยอมรับอสูรร้ายน่าเกลียดได้ จากนั้นทั้งสองก็ครองรักกันตลอดไป
Happy Ever After
โครม!
ดวงตาคู่งามหลับปี๋ลงเมื่อข้างกายมีเครื่องแก้วอับโชคที่ถูกปากระแทกกับพื้นจนแหลกละเอียดอยู่ปลายเท้า น้ำลายฝืดถูกกลืนลงคอ ตัวขาวบางสั่นระริกดั่งลูกแมวน้อย
เมื่อครั้นถูกเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเยียบที่แฝงไปด้วยความหยิ่งผยอง เหงื่อที่ไม่ต้องการก็ไหลพรากลงมาเต็มดวงหน้า
"....จุนมยอน พ่อผมจ้างคุณมาทำอะไร"
"ค...คนใช้คุณเซฮุน...ครับ"
"แล้วหน้าที่คนใช้คืออะไร"
"ทำให้เจ้านาย...พอใจครับ"
คนตัวเล็กตอบเสียงสั่น ลมหายใจตีรวนไม่เป็นระบบ ความหวาดกลัวเริ่มกัดหัวใจ ใบหน้าหวานก้มลงจนแทบชิดอก ถ้าเป็นไปได้ ตัวเขาอยากจะหายไปเสียเดี๋ยวนี้จริง
เพี๊ยะ!!
ใบหน้าหวานหันไปตามแรง จุนมยอนรู้สึกชาวาบที่ใบหน้าเมื่อคนเป็นนายฟาดมือลงมา หลายครั้งแล้วที่ต้องถูกบันดาลโทสะแบบนี้เวลาทำอะไรให้อีกฝ่ายพอใจหรือโมโห แต่เขาก็ยังคงรู้สึกเจ็บจนเผลอร้องไห้ออกมาอยู่ดี
"ก็รู้นี่!! แล้วยังจะทำแบบนั้นทำไม!!!"
"ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ..."
"ไม่ต้องมาแก้ตัว!! ถ้าทำให้ฉันพอใจไม่ไม่ได้ก็ไสหัวไป!!"
"โอ๊ย!"
จุนมยอนเบิกตากว้าง ร่างเล็กพยายามวิ่งพรวดเขาไปหาอีกคนจนละเลยเศษแก้วที่แตกอยู่ปลายเท้า แม้เขาจะร้องออกมาอย่างนั้น แต่เซฮุนที่กำลังจะเดินจากไปไม่มีแม้แตจะหันมามอง จุนมยอนกัดฟันพลางฝืนอาการเจ็บเท้าวิ่งเข้าไปกอดรั้งอีกฝ่ายเอาไว้
"คุณเซฮุน ขอร้องอย่าไล่ผม!! ผมไม่ได้อยากให้มันเป็นแบบนี้เลย!!"
"จุนมยอน อยากกลับไปใช้ชีวิตแบบเดิมไหม"
เซฮุนเอ่ยอย่างอ่อยโยนพลางลูบผมนิ่มของคนในอุ้งมือ จุนมยอนส่ายหน้ารัวๆ ปากบางพร่ำขอโทษพร้อมน้ำตาอาบแก้มอย่างน่าสงสาร
"ไม่! ได้โปรดเมตตาผมที"
"โถๆๆ เด็กน้อยของผม เอาล่ะ"
เซฮุนโถมตัวลงนั่งที่โซฟา ขาไขว่ห้างดั่งราชา จุนมยอนคุกเข่าลงด้านล่างรู้งาน เซฮุนใช้ปลายนิ้วยาวเชยคางเรียว ตาคมจ้องลงไปในแก้วตาใสที่เริ่มแดงก่ำ
"จูบเท้าฉัน พร้อมสาบานว่านายจะเป็นของฉัน"
"ผมจะเป็นของคุณ"
"จะน่ารักไม่ดื้อไม่ซน"
"จะน่ารัก...ไม่ดื้อ ไม่ซน"
จุนมยอนพูดตามว่าง่ายแม้จะติดขัด เซฮุนยกยิ้มพอใจ เมื่อได้คืบก็ริเอาศอก
"จะทำตามคำสั่งให้พอใจทุกอย่าง"
"จะทำตาม...ทุกอย่าง"
มือขาวรวบเท้าของนายขึ้นมาก่อนจะกดจูบลงเพื่อตอบสนองความภักดีและความซื่อสัตย์ที่เขาจำต้องทำอย่างเสียไม่ได้ ไร้ซึ่งศักดิ์ศรีและความยินยอม ร่างบางกลืนสะอื้นลงคอและกล่าววิงวอนขอความเมตตา
"ได้โปรด อย่าทิ้งผม"
"ดีมาก"
ราชายิ้มกว้างเมื่อได้รับทุกอย่างที่ต้องการ ก่อนจะกระชากคนตัวเล็กขึ้นมาโอบกอดปลอบโยนเพื่อให้เจ้ากระต่ายน้อยตัวนี้จมลึกเข้าไปในกับดักของตน ยิ่งลึกเท่าใด ก็ยิ่งรอดออกไปได้ยาก สำหรับเซฮุนการปกครองคนซักคนมันไม่ได้ยากอะไรเลย
แค่ยืนนิ่งๆเป็นความหวังสุดท้ายในตอนที่อีกฝ่ายสิ้นหวังสุดๆก็พอ...
จุนมยอนก็เหมือนโฉมงามในโลกอันโหดร้าย ไม่มีทั้งบิดาแสนดีที่รักใคร่บุตรตนมีแต่พ่อใจยักษ์ที่ดื่มแต่เหล้าเฝ้าแต่บ่อน ไม่มีมารดาผู้สั่งสอนในด้านความดีงามจะมีก็แต่คุณแม่ผู้ให้กำเนิดที่หนีตามชายอื่นไป ไม่มีบ้านอันอบอุ่นหรือพี่สาวสุดริษยาทั้งสอง เขาเป็นลูกชายคนเดียวกับสภาพสังคมอันโหดร้ายและไร้ซึ่งที่พึ่งพิง สุดท้ายโฉมงามคนนี้ก็ต้องต่อสู้กับชะตากรรมสุดน้ำเน่าราวนางเอกสุดรันทด
หลายครั้งที่อยากตาย แต่สุดท้าย พ่อที่เหลืออยู่ก็เข้ามาช่วยทุกครั้งไป หลังจากนั้นเขาก็จะถูกด่าว่า
ถ้าแกตายไป แล้วพ่อจะเอาอะไรไปชดใช้เจ้าหนี้ ?
จนสุดท้าย โฉมงามอัปโชคถูกขายไปกับเจ้าหนี้ของบิดา.... ยังดีที่ใบหน้าสะสวยที่ได้จากมารดายังทำผลประโยชน์ได้ เจ้าหนี้ดูจะถูกใจและเอ็นดูจุนมยอนจนตบแต่งและรับอุปถัมป์ภายใต้ข้อแม้ที่ว่า ต้องตามติดไปดูแลเอาใจใส่ลูกชายแสนเอาแต่ใจของท่าน
หมดสิทธิ์จะปฏิเสธ สถานะของจุนมยอนก็แค่ตัวอะไรสักอย่างที่สงบนิ่งอยู่ในมือ ถ้าขัดใจก็ตาย ถูกใจก็รอดไป...
อีกทั้งความร่ำรวยของเจ้าหนี้ที่พร้อมดูแลตัวเองได้ทั้งชีวิต ไม่ต้องกลับใช้ชีวิตดั่งหนูสกปรก มีบ้าน มีที่นอน ใส่ชุดสวยๆ ทานอาหารเลิศรสขนาดนี้ ไม่ว่าจะคิดซักกี่ตลบ คนตัวเล็กก็ไม่มีทางปฏิเสธเป็นการแน่แท้
ถึงแม้เจ้าชายอสูรอย่างโอเซฮุน ผู้เพอร์เฟ็คทุกอย่างยกเว้นนิสัยจะเอาแต่ใจองค์เองสุดๆ แต่การดูแลเขาก็ทำเพื่อแลกกับชีวิตแสนสุข มันไม่ยากหรอกถ้าจะลองลดศักดิ์ศรีเพื่อทำตัวเองให้ดูอ่อนแอและน่าทะนุถนอม แค่ทำตัวให้น่ารักดั่งแมวเชื่อง เท่านั้นเซฮุนก็จะพอใจสุดๆ
จุนมยอนก็แค่ต้องการที่พึ่งและความสุขสบายดั่งคนอื่น ถ้าเซฮุนสามารถรังสรรค์สิ่งเหล่านั้นได้
...เพียงเท่านี้โฉมงามจอมปลอมก็ตกอยู่ในมือของราชาอสูรตนนี้อย่างเต็มรูปแบบ
"เป็นอะไรไป หน้าตาดูไม่ดีเลยว่ะ ฮ่าๆๆๆ"
จุนมยอนปัดนิ้วยาวๆที่จิ้มแก้มตัวออกก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองใบหน้าทะเล้นของคนเป็นเพื่อนอย่างคาดโทษ แบคฮยอนเกลี่ยนเส้นผมที่บังตาให้จุนมยอนที่นั่งยู่หน้า
น่ารักจังเพื่อนจ๋าาาา
"ไอ้คุณเซฮุนนั่นมันทำอะไรแกอีกเเล้วเหรอ เมี๊ยว?"
"ปล่าว แค่นอนไม่หลับ ฝันร้ายหน่อยๆ อย่าเรียกเมี๊ยวดิ ชื่อจุนมยอน"
"จ้าาา เป็นเอามากเหมือนกันนะเราอ่ะ เรียนเสร็จแล้วไปเที่ยวกันไหม พี่รหัสฉันฉลองรับน้อง"
"มันฉลองกันครบร้อยครั้งรึยังวะ แม่งฉลองตั้งแต่ปีหนึ่งยันปีสอง ต้องถามเซฮุนก่อนอ่ะ"
"โทรไปดิๆ"
จุนมยอนควักโทรศัพท์ราคาแพงที่เพิ่งได้รับมาไม่นาน นี่เป็นอีกอย่างที่เขาชอบมาก ได้ใช้แต่ของดีๆล่อตาโจร หรูหราราวกับคุณหนูคุณชาย วาสนาจริงๆว่ะโฉมงาม....
จุนมยอนนั่งรอปลายสายรับโทรศัพท์อย่างจดจ่อ และเสียงแหบๆของเจ้านายหนุ่มหล่อก็กล่าวทักสั้นๆ
' ยอโบ '
"คุณเซฮุน ว่างคุยไหมครับ"
จุนมยอนปรับโทนน้ำเสียงให้ดูนอบน้อมอ่อนหวาน จนแบคฮยอนที่นั่งข้างๆแทบจะคายข้าวทิ้งเนื่องจากทนไม่ได้อย่างแรง
ช่วยไม่ได้นะ ถ้าอยากเป็นโฉมงามของอสูรอำมหิตแบบนั้นก็ต้องวางตัวดีๆ ถ้าไม่ทำ อสูรได้จับฉีกกินเป็นแน่แท้
' ก็พอมีเวลา พูดมาสิ '
"วันนี้แบคฮยอนชวนไปเที่ยวหลังเลิกเรียน ผมขออนุญาตกลับเย็นได้ไหมครับ"
' หือออ..... '
"นะครับบบบบ"
เมื่ออีกฝ่ายเริ่มลากเสียงยาว จุนมยอนก็ยิ่งต้องอ้อนเข้าไปที่หนึ่งระดับ
' อือ ได้สิ '
"จริงๆนะ ขอบคุณมากครับ!"
' เสร็จแล้วโทรมาด้วย เดี๋ยวไปรับ '
"เอ่อ ไม่รบกวนดีกว่า..."
' บอกให้ทำก็ทำสิ '
"ครับ"
ปลายสายกดเสียงตอบ จุนมยอนเลียปากล่างพลางรับคำอย่างขึ้นใจ เซฮุนค่อนหัวเราะนิดๆก่อนจะตัดสายไปเอง จุนมยอนเก็บอุปกรณ์สื่อสารลงกระเป๋า รอยยิ้มบางประดับหน้าขาวเนื่องจากได้ออกไปเที่ยวเล่นนอกปราสาทในค่ำคืนนี้
"ไง ไปได้สินะ ดีเลยๆ"
แบคฮยอนดูดนมกล่องจนแก้มตอบ จุนมยอนหัวเราะ ตบแก้มขาวนั่นเบาๆ แบคฮยอนน่ะน่ารักนะ ถ้ารวยซักหน่อย จุนมยอนยินดีจะเกาะแบคฮยอนกินเลย แต่น่าเสีย ดูเหมือนโฉมงามจะผูกวาสนากับอสูรหน้าหล่อมากกว่า
สองหนุ่มน้อยนั่งคุยกันจนกระทั่งเพื่อนอีกสองมาสมทบ เป็นคิมจงอินกับโดคยองซูที่เพิ่งไปหาอาหารเช้าทานกันมา แบคฮยอนถามเรื่องเลี้ยงน้องของรุ่นพี่ตน ตอนแรกจงอินดูไม่อยากไปแต่สุดท้ายก็แพ้ลูกอ้อนของคยองซูจนตอบตกลงแต่โดยดี
จงอินกับคยองซูเป็นแฟนกัน สองคนนอกบ้านติดกันแล้วตัวยังติดกัน มาโรงเรียนด้วยกันทุกวันและที่สำคัญ รักกันมากกกก
เหมือนจุนมยอนกับเซฮุน เรานอนเตียงเดียวกัน อยู่บ้านเดียวกัน และรักกันมาก ...มั้ง :>
ปกติเลี้ยงน้องมักจะพาไปผับหรือบาร์ใช่ไหมครับ? แต่พี่รหัสแบคฮยอนน่ะเป็นคนแปลกๆ เค้าชื่อคิมมินซอก...
ทำไมแปลกน่ะเหรอ ก็พี่เค้าเล่นปิดร้านทำมาหากินของพระมารดาไปเปิดปาร์ตี้นมสดว่ะครับ
"กูล่ะแปลกใจจริงๆ ทำไมพี่มึงเค้าไม่สูงว่ะ"
"ไอ้ห่าแบค แรง!"
พี่เขาบอกว่า เหล้าน่ะให้พวกเฮี้ยมันแดกไป ใครไม่อยากควายมาแดกนมกับพี่! ...แต่หลังไมค์มีคนบอกว่าพี่แกบอกเหล้าแม่งแพง เอาร้านกาแฟแม่กูนี่เเหละ ถูกดี อีกอย่างคนเมานี่ไม่สนใครใช่ไหมครับ พี่เค้ากลัวน้องๆเมาแล้วโดนลากไปเสียตั๊ว!?
...น้ำตาจะไหลไหมล่ะมึง
มันอาจจะดูฟังน่าเบื่อนะ แต่เรียกมาทีไรก็ไม่เคยมีใครปฏิเสธซักที
กิจกรรมก็ไม่มีไรมาก ก็สนุกสนานกันตามสบาย กล้าเต้นเต้นไป เรื้อนตามใจ บางกลุ่มก็มีการเปิดบ่อนเล็กในมุมมืด ใครมีงบก็ซื้อขนมมา ถ้าไม่มีก็รอกินฟรี ไม่มีเลยซักตัวก็รับชานมคนละแก้วแล้วแยกย้ายก็เคยมี อยู่ดึกหน่อยก็อาจเปิดโรงหนังผี มีจัดแอลกอฮอล์แต่แบบพอดีๆ เด็กอนามัยครับอยู่ในสายตาแม่ ถ้าเมาแล้วไม่มีคนมารับแม่พี่เค้าจะล็อกบ้านให้นอนข้างในครับ กลัวเพื่อนลูกเป็นอะไรไป
น่ารักไหมล่ะ นี่แหละ คุณนายคิม...
"เฮ้ย เด็กๆของพี่ มาๆๆเล่นเกมกัน พวกเอ็งน่าจะรู้กติกาแล้วแหละ"
พี่มินซอกหยิบฝาหม้อสองอันมาตีกันเรียกความสนใจ แก้มพองๆแดงเรื่อ ตารีก็ดูลอยล่อง แบคฮยอนให้ความสนใจพลางดูช็อคโกแล็ตปั่นในมือ
"เกมไรพี่ เมากาแฟแล้วใช่ไหมเนี่ย กรึ่มเชียว"
"เออดิ ไม่รู้ไอ้เหวตัวไหนมันเอาเหล้าใส่แก้วกูเนี่ย โหย น้องจ๊อกเครียดดด เกมที่ว่าคือ.........เกม .......เกมไรว่ะฟาน อะไรๆนะ ถูกหรือแพง?"
"ทรูออร์แดร์"
เพื่อนตัวสูงตอบอย่างระอา อะไรของมึงวะถูกหรือแพง มินซอกทำหน้าเหรอหรา ปัดความผิดเนียนๆไป พร้อมกวักมือเรียกรุ่นน้องที่ว่างๆอยู่ ในขณะที่ส่วนมากมันเปิดหนังดูกันแล้ว
"เออๆ นั่นแหละๆ ช่างหัวพี่แล้วมาล้อมวง เฮ้ยไม่ต้องๆดูหนังต่อไป ไอ้พวกว่างน่ะวางขนมด่วน!"
โต๊ะรับแขกถูกจับจองเป็นวงทั่วโต๊ะ คนเล่นก็น้อย พี่แม่งก็ยังจะเล่นให้ได้
"ทรูคือพูด แดร์คือทำ ไม่เอาก็แดก โอเค๊ ?"
"แดกไรอ่ะพี่ ไม่เห็นมีอะไรเลย เหล้าอ่อ"
"ปาร์ตี้พี่ เหล้าไม่เเตะครับน้อง พี่มีเด็ดกว่านั้น ฟาน!"
พี่มินซอกปรบมือเรียกก่อนจะโดนผลักศีษะกลมให้ไหวดุ๊กดิ๊กๆ ผู้ชายร่างสูงสุดหล่อถือถุงที่บรรทุกเม็ดๆน้ำๆอะไรซักอย่างมายังที่โต๊ะ ท่ามกลางเสียงหัวเราะที่ไม่น่าไว้ใจซักนิดของรุ่นพี่ตัวเล็ก
"นี่เป็นพริกไทยกับพริกป่นสูตรเผ็ดเฮี้ยๆของฝากจากอินเดีย น้ำปลากับน้ำพริกเผาของฝากจากไทย แล้วนี้เค้ก...ร้านหน้ามอ"
"พี่จะให้แกกินตอนพวกแกไม่ยอมทำหรือพูด โดยพี่จะตักเค้กหนึ่งช้อนแล้วให้คนในวงโรยของพวกนี้ให้ตามใจ แล้วแกต้องกิน ห้ามคาย!!"
"พี่ซอก!! ลงโทษแบบนี้แม่งโคตรเฮี้ยเลยนะเว้ย แค่คิดกูก็จิฮ่ะแล้วสัด!"
"จงอิน คยองอยากดูหนังงงง T T"
"ผมไม่เล่นแล้วได้ป่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ฮืออออออ..."
เสียงโอดครวญดังตามกันจากเหล่าผู้น่าสงสารที่หลงมาติดกับดักน่าพราน มินซอกหัวเราะดังก่อนจะเอ่ยด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม
"ใครนั่งแล้วไม่เล่น กูโกรธอ่ะ"
พลันเสียงทั้งหมดเงียบกริบเพราะคำว่าโกรธ แม้มินซอกจะมีจุดขายอยู่ที่รอยยิ้มงดงามดั่งนางสวรรค์ แต่ใครจะรู้ว่าเวลานางประทุนี่ยิ่งกว่านางปีศาจ แบคฮยอนจำได้ว่าตอนนั้นเคยแอบแดกขนมของพี่มินซอกเข้าโดนงอนไปเกือบเดือนงี้ ยิ่งตอนเข้าไปคุยด้วยนะ โอย มึงเอ๊ย ใจกูลงไปตาตุ่มเลยมึง เสียงงี้เย็นจนหนาวหลัง
"น่ารักมากเด็กๆของพี่ เอาล่ะเพื่อไม่ให้สับสน ตอนนี้วงเรามีพี่ มินซอก แล้วนี่ไอ้ฟาน ชิงชิง ปาร์คชาน คยอง กัมจง หมาแบค จุนนี่ เตี้ยยัง งี่เง่ามิน บ้าบอวู"
จุนมยอนมองตามที่มินซอกเเนะนำ เพราะมีบางคนที่เขายังไม่รู้จักบ้างอะไรบ้าง แต่ก็ต้องหันมาคนที่อยู่ใกล้สุดเนื่องจากโดนชวนคุย เป็นรุ่นพี่ตัวสูงสุดหล่อที่แอคแทคจุนมยอนแบบว่าเต็มรัก
"ชื่อจุนนี่เหรอเราน่ะ"
"แหะๆ เปล่าฮะ ผมชื่อจุนมยอน พี่...ฟาน?"
"เฮียชื่ออี้ฟาน อู๋อี้ฟาน เรียกพี่คริสก็ได้ แอบมองเรามานานแล้วแหละ ยินดีที่รู้จักนะตัวเล็ก"
คริสยิ้มมุมปากเนื่องรู้ตัวว่าไม่ควรยิ้มกว้างไป จุนมยอนรู้สึกสะดุดกับประโยคด้านบน สีหน้าจุนมยอนคงดูเหรอหรามากเพราะอีกฝ่ายนั่งกลั้นขำเสียอย่างนั้นไป
"เอ๋ ผมเหรอ?"
"ฮึ้ยยย อิจฉาาาาาาา"
แบคฮยอนแกล้งทำเป็นแซวผ่านอากาศให้ลอยไปกระทบคู่กรณีจนจุนมยอนหันมาค้อนเขียวขวับ แบคฮยอนแกล้งทำเป็นสนใจพี่มินซอกที่กำลังบอกให้เริ่มเกม
"เอ้าหมุนๆๆๆ ให้อี้เริ่ม"
ขวดถูกหมุนตามเเรงเอื่อยของจางอี้ชิง และปากมันก็ไปหยุดอยู่ ณ ...
"คยองซู!!"
"ทรูครับ พี่ชิง โปรดอย่าทำร้ายผม"
"อืออ พี่ไม่ถามมากหรอก แค่จะถามว่าเมื่อไหร่พี่จะเจอเนื้อคู่ซะทีครับ"
อี้ชิงตั้งคำถามที่คิดว่าน่าจะปัญญาอ่อนที่สุดแล้ว และมันก็ปัญญาอ่อนจนคยองซูอยากจะร้องไห้เลยว่ะครับ
หน้าตากูดูเหมือนหมอดูเหรออีรุ่นพี่..?
"วาเลนไทน์อีกสองปีข้างหน้าครับ"
อี้ชิงพยักหน้าเป็นเชิงว่าผ่าน คยองซูหมุนขวดอีกครั้งตามหน้าที่ จนปากขวดหยุดลง...
"ปาร์คชานยอล"
"แดร์"
"ให้ผลัดกันเป่าหูกับคนข้างๆพี่อ่ะฮะ เลือกเอาคนนึง"
คำสั่งจากคยองซูทำเอาชานยอลสะอึก ไม่นึกว่าหน้าติ๋มจะปากร้ายได้ขนาดนี้เลยนะครัชชชช
"เฮ้ย อย่ามายุ่งกับกู รู้นี่ว่ากูบ้าจี้"
จางอี้ชิงที่นั่งข้างๆส่ายหัวพลางกระเถิบหนี ปาร์คชานยอลหันไปอีกหน้าอย่างเว้าวอน
"เฮียย..."
"กินเค้กซะปาร์ค"
"ฮืออออ มีแต่คนทำร้ายกู ได้ มาเลยกูจะแดกเปิดงานเอง!!"
ชานยอลทุบโต๊ะขัดใจสุดซึ้ง ท่ามกลางฮีโร่หูกางผู้ใกล้จะร้องไห้อยู่รอมร่อ เสียงปรบมือสรรเสริญก็ดังขึ้น
แปะ! แปะ! แปะ!!
และมันก็จบด้วยเสียงกรีดร้องของปาร์คชานยอล
"แอร๊ยยยย!!!!!!!!!!!!! ..............อ้วก!!"
ไม่มีความเมตตาในวงทรูแดร์จ้าาา...
"ต่อไป เฮียขอหมุนแทนไอ้ปาร์คนะ"
คริสเอ่ยปากเมื่อเห็นน้องชายไม่ไหวอย่างยิ่ง คนเป็นเฮียก็ต้องสงเคราะห์ให้ ปากขวดหมุนเลยไปยังจุนมยอนที่หน้าเหยเก แต่ปาร์คชานยอลดีดมันกลับจนกลายเป็นแบคฮยอนแทน
"เฮียๆๆ ไม่ใช่คนนี้ดิ ...เอาคนนี้"
"โอ๊ย อีเฮี้ย!! อีเฮี้ยพี่ชานยอล!!! อย่าทำร้ายน้องแบค!! พี่มินซอกดูเด้!!"
"ฮะ? อะไร ตะกี้พี่นั่งมองเค้กอยู่"
มีทำกันเป็นกระบวนการ...
"ว่าไงครับน้องแบค"
ชานยอลยักคิ้วกวน แบคฮยอนกลืนน้ำลายก่อนจะตอบอย่างลังเลมาก จะทางไหน กูก็เสีย
"ทรู"
"จุ๊บแรกของน้อง รู้สึกยังไงบ้างครับ พี่อนุญาตให้ตอบในทางดีๆเท่านั้นนะจ๊ะคนสวย ฮิ้ววว"
แบคฮยอนอ้าปากพะงาบพะงาบ ใบหน้าขาวซีดแดงสลับกันอย่างน่าอัศจรรย์ ก่อนจะได้สติพลางด่ากราดอย่างไม่อายใคร
"อิเฮี้ยพี่ชานยอล ไอ้โรคจิต ฮือออ เสร็จงานงี้มึงขุดหลุดให้กูเลยนะสัด"
"โว้วๆๆๆ ตอบมาอย่าลีลา"
แบคฮยอนกัดปาก ก่อนจะตอบอ้อมแอ้มเสียงแผ่ว....
...
"..............รู้สึก...........ละมุนสัดๆเลยครัชชชช T T "
ฟุ่บ!
"เฮ้ย!!! ........ เป็นบ้าอะไรไอ้ปาร์ค!!! กูกำลังเคลิ้ม"
จางอี้ชิงร้องโวยวายเมื่อจู่ๆชานยอลก็ทิ้งหน้ามุดลงหน้าท้องตัวเองไม่บอกกล่าวอย่างแรง แม้จะพยายามผลักออกแต่ชานยอลกลับดึงชายเสื้ออี้ชิงพลางส่ายหน้ารัวๆ
"กูเขินว่ะ ขอหลบหน้าแป๊ปนึง ////////"
อีสัด กูต่างหากควรเขิน!!!! (แบคฮยอนไม่ได้กล่าวไว้)
"เอ้า เฮียฟานนน หมุน"
หลังจากเล่นกันไป มีหลายคนขอตัวออกไปอ้วก จนถึงตาอู๋อี้ฟานที่ต้องหมุนบ้าง แต่เจ้าตัวทำเพียงวางขวดแล้วดีดมันเบาๆ จนปากขวดไปอยู่ตรงหน้าคนตัวขาวอย่างจงใจ
"แม่งมีเล็งว่ะ ฮ่าๆๆๆๆๆ"
"จุนมยอน"
"ทรูครับ"
"ฟังคำถามพี่ให้ดีนะตัวเล็ก รู้ใช่ไหมว่าพี่แซ่อู๋? แต่อันนี้ไม่นับเป็นคำถามนะ"
จุนมยอนยิ้มแห้งรับ ในใจเต้นรัวๆด้วยความหวาดหวั่น คริสยิ้มขัดเขินก่อนจะยืนคำถามจริงออกไป
"คำถามก็คือ ช่วยเปลี่ยนมาใช้แซ่เดียวกับพี่...ตลอดชีวิตเลยได้ไหมครับ"
...
"หมายความว่าไงวะ พี่มินซอก เฮียแกอ้อมโลกแบบแถวบ้านท่อประปาแตกงั้นแหละ"
ปาร์คชานยอลชะโงกหน้ามาถามเจ้าของเกมอย่างสงสัยสุด เฮียคริสนี่แม่งกาแล็คซี่สัดๆ มินซอกตอบน้องพลางกระดกแก้วนมเนิบๆ
"อ๋อ มันขอแต่งงานน่ะ"
"อ๋อ... ฮะ!!!!!!!!!!???"
"เอ่อ"
จุนมยอนอ้ำอึ้ง มือไม้เริ่มอยู่ไม่สุข ปั่นป่วนไปทั่ว จู่ๆก็รุกกูขนาดนี้ ขอเวลาประหม่าแป๊ปนะ สายตาสอดส่องไปทั่ววงก็พบกับสายตาอยากรู้จากทุกคน ความกดดันมากกว่าอีกครับ...
คนตัวเล็กกลืนน้ำลายฝืดๆ ก่อนจะตัดบทด้วยการ...
"ขอเค้กเลยครับ"
"เฮ้ย จัดเว้ย!!"
จุนมยอนอยากกรีดร้องมากๆนะจุดนี้ คนพวกนี้ทำร้ายกูมาก ทุกคนดูสนุกกับการปรุงแต่งครีมเค้กรสอุบาทว์ให้คนน่ารัก โอ๊ย โฉมงามอยากตาย.. โดยเฉพาะอีเเบคฮยอน!!!
"....อีเหี้ยพริกหลุดมือ!!! มยอนกูขอโทษ"
จุนมยอนมองก้อนสีแดงอย่างหนักใจ แต่ยังไงก็ต้องกิน คนตัวเล็กหลับตาปี๋เตรียมรับชะตากรรม.. แต่ว่า
"พี่คริส!"
อู๋อี้ฟานงับมันแทนเขาจนหมดคำ จุนมยอนอ้าปากค้าง หน้าหล่อแสดงรีแอคชั่นแบบสุดบรรยายก่อนจะ...
อ๊วก!!!
วิ่งหนีไปอ้วกที่ห้องน้ำ..
"โหย พระเอกสัดๆ"
"กูจะอ้วกตาม แหวะ ตามไปดูมันหน่อยไปจุน"
มินซอกหยิบแก้วน้ำพร้อมกระดาษส่งให้ก่อนที่รุ่นน้องตัวบางจะวิ่งตามไปดูแลเพื่อนตน เมื่อเข้าไป ก็ได้เจอคริสโก่งคออ้วกอยู่ ใบหน้าคมเต็มไปด้วยเหงื่อ จมูกและแก้มแดงฉานอย่างน่ากลัว
"พี่คริสเป็นยังไงบ้างครับ ไหวรึเปล่า โธ่ ใครให้โผล่มางาบไปดื้อล่ะ บ้าจริงๆ"
"ถ้าพี่ไม่กิน จุนมยอนก็จะต้องกินใช่ไหมล่ะ ถ้าจุน แหวะ! ต้องมาสภาพนี้ พี่คงทนไม่ได้ อุ๊..."
"โธ่เอ๊ย พี่ไม่เห็นต้องทำบ้าอะไรแบบนี้เลย เรื่องแค่นี้เอง เราเพิ่งรู้จักกันด้วยซ้ำ"
"ไม่รู้สิ พี่แค่อยากกินไอ้ก้อนเวรนั่นแทนคนแปลกหน้าอย่างน้องเท่านั้นแหละ ก็ไม่รู้เหมือนกัน..."
คริสฉวยโอกาสจับมือจุนมยอนตอนคนตัวเล็กยกกระดาษเช็ดปากให้เขา จุนมยอนเผลอสบมองดวงตาดึงดูดคู่นั้น พลันหัวใจเต้นผิดจังหวะอย่างประหลาด... คริสกุมมือบางไว้อย่างอ่อนโยนและยิ้มอบอุ่นให้
"พี่รู้แค่ว่าอยากปกป้องน้องว่ะครับ"
"บ้าจริง..."
จุนมยอนอดไม่ได้ที่จะเผยยิ้มน่ารักออกมา ใบหน้าหวานชมพูขึ้นเมื่อรับรู้ถึงสิ่งที่อีกฝ่ายอยากจะสื่อ นี่เหรอที่เรียกความประทับใจแรกพบ
"ขอบคุณมากครับ"
...
บางทีอู๋อี้ฟานคนนี้อาจจะเป็น 'บ้านที่อบอุ่น' ที่เป็นที่รักยิ่งและเฝ้าฝันหาของโฉมงามก็ได้นะ
เพราะจุนมยอนเอง ก็รู้สึกอุ่นใจมากเลยเวลาอยู่กับผู้ชายคนนี้น่ะ! <3
3.5 / 5
พักนี้อสูรดูหงุดหงิดง่ายราวกับประจำเดือนไม่เดิน..?
หน้าหล่อที่ว่างอแล้วมักจะงอเข้าไปอีกเวลาโฉมงามถือดอกไม้ติดมือกลับบ้าน?
ตวาดใส่ทุกครั้งเวลาโฉมงามขออนุญาตออกไปนอกปราสาท?
กระชากแขนบอบบางจนแดงทุกครั้งเมื่อเจอพบเห็นบ้านอันอบอุ่นของหล่อน?
ดุด่ากัดเหน็บโฉมงามตลอดเวลาที่แอบเพ้อฝัน?
แต่ว่าอสูรก็ชอบกอดโฉมงามแน่นอย่างหวงแหนทุกครั้งแม้แต่เวลายามนิทรา อสูรมักจะบอกว่าอย่าไว้ใจใครนอกจากเขา มักจะกุมมือของโฉมงามเวลาเดินด้วยกัน แล้วก็ชอบเอ่ยชมเยินยอเวลาหล่อนทำสิ่งน่ารักๆให้ราชาอสูรพออกพอใจ
โฉมงามสำคัญกับอสูร.................ใช่ไหม?
ครั้นจบปาร์ตี้นมสดของพี่มินซอก จุนมยอนซ้อนท้ายเป็นสก๊อยให้จางอี้ชิงมาส่งเพราะรุ่นพี่หน้าตายบอกเฉยๆว่าจะกลับทางนี้อยู่แล้ว แม้จุนมยอนจะปฏิเสธรัวๆแค่ไหนแค่อี้ชิงก็พูดนิ่งๆว่าถ้าไม่ให้เขาไปส่ง อี้ฟานจะอาสาออกตัวอย่างแน่ๆ และถ้าจุนมยอนกลับไปกับรุ่นพี่คนนั้น...บ้านแตกแน่
กลับมาถึงคอนโดถึงจริงดั่งที่อี้ชิงว่า โอเซฮุนพุ่งเข้ามาอย่างกระหายเลือดสุดๆพร้อมคำรามใส่ข้อหาว่าไม่ยอมเรียกเขาไปรับ แต่พอบอกอี้ชิงมาส่ง เซฮุนกลับยิ้มแป้น สันดานเปลี่ยนหน้ามือหลังเท้าจริงๆ ซ้ำยังมีการลูบหัวโฉมงามพร้อมบอกคราวหลังอย่ากลับดึกอีกด้วย
แต่หลังจากเรื่องวันนั้นผ่านไป พี่คริสเริ่มประกาศตัวอย่างไม่แคร์สายตาใครว่าจะเดินหน้าจีบจุนมยอนเต็มกำลังสูบ จนบางทีก็รู้สึกผวารุ่นพี่ประหลาดคนนี้เหมือนกัน แบคฮยอนแอบกระซิบมาว่า เพื่อนพี่แกหลายคนตั้งฉายาให้ว่าไอ้กาแล็คซี่ เนื่องจากจะชื่นชอบกาแล็คซี่เป็นชีวิตจิตใจแล้วพี่แกฝันอยากจะสร้างยานอวกาศได้เก่งเหมือนบลูม่าในดราก้อนบอลล์จะได้ขับไปเที่ยวดาวโน้นดาวนี้ได้ บางทีแกก็ฝันว่าตัวเองบินได้ จนพี่มินซอกเคยไปดึงชายเสื้อไอ้พี่อู๋ไว้ตอนที่มันจะบินออกจากหน้าต่างหอเรียนเพราะมันเบื่อ
อืม...ดีๆ ประเสริฐใช้ได้
แต่นั่นก็ทำเซฮุนประทุไม่แพ้กัน ถึงเวลาคริสเข้ามาจีบแล้วเซฮุนยืนข้างๆ เด็กตัวสูงจะทำเพียงจ้องกลับเย็นชาแต่มือจะคว้าข้อมือจุนมยอนไปทำความเป็นเจ้าของเรียบร้อย สองสิงห์มักจะผงาดสงครามเย็นใส่กันจนเพื่อนๆต้องขอแยกจุนมยอนออกไปแทน
แต่บางครั้งที่โดนจีบแล้วแอบเล่นด้วยแต่โดนเซฮุนจับได้ แน่นอนว่าเขาไม่พอใจมากจนบางทีก็เอาแต่ใจไม่สนรอบข้าง โทษหนักสุดที่จุนมยอนเคยโดนคือ โดนตบหน้าต่อหน้าธารกำนัลให้เอาไปโจษจัณท์กันเล่นๆ ขอยืนยันเรื่องนี้ด้วยความด้านชาที่ยังคาอยู่ที่หน้าขาวๆนี่เลย เพิ่งโดนไปเมื่อวานเอง จบเรื่องแล้วโจทย์ก็เล่นหนีหายกลับไปเฉยๆ อยู่ด้วยกันก็ไม่คุยไม่หือไม่อือ ไม่มองหน้า เปิดตูดหนีหายไปกลางดึก เช้ามาก็หายหัวไปยังไม่กลับบ้านช่อง ทำเอาเป็นห่วงหัวยุ่งไปหมด...
และนั่นเองที่ทำให้เพื่อนในกลุ่มของเขาเชียร์ฝ่ายตาอู๋ฟานมากกว่าราชาจอมเผด็จการ จนวันนี้ได้ก่อตำนานเพื่อนรักหักเหลี่ยม สร้างแผนกามทูตสื่อรักให้สองคนได้มาเดทกันแบบจับผลัดจับพลู โดยที่ตัวเขาสาบานว่าไม่รู้เรื่องอะไรทั้งนั้น
"จุนมยอนนาา ....โกรธพี่รึเปล่า"
"ไม่ครับ แต่ช่วยพาผมไปส่งบ้านเร็วๆทีเถอะ"
กี่ครั้งแล้วที่ถอนหายใจออกมา ทั้งรถติดจนจราจรแทบปิดตายทั้งฟ้าที่เริ่มมืดจนเห็นแต่แสงไฟ ทั้งอนาคตที่เริ่มจะมอดลงตามไฟพิโรธของราชา ให้ตาย อยากให้ไอ้พี่ที่นั่งทำหน้าเง้างอดนี่บินได้จริงเลยโว้ย!
ร่างบางนั่งกัดเล็บอย่างครุ่นคิด แอร์เย็นฉ่ำในรถยิ่งทำให้เขารู้สึกเวลามันช่างเชื่องช้า ช้า...เหลือเกิน
ในความจริง เดทปลอมๆนี่ควรล่มลงเมื่อตอนเดินออกจากคอฟฟี่ช็อป แต่ไม่รู้ไอ้พี่กาแล็คซี่มันเกิดคึกอะไรขึ้นมา จู่ๆร่างบางของโฉมงามก็ลอยหวือเข้ารถคันงามพร้อมโดนเร่งเครื่องใส่จนไม่มีเวลาแม้แต่จะวิ่งหนีลงมา จนสุดท้ายก็ตื่นมาที่หน้าโรงหนัง คริสเว้าวอนแกมบังคับให้เขาเข้าไปดูหนังด้วยไม่เช่นนั้นจะไม่พากลับบ้าน จุนมยอนจำใจนั่งหลับตลอดเรื่อง แต่อีกฝ่ายก็ยังรั้นพาเขาไปทานข้าวเย็นต่อ จนเขาต้องมานั่งอดทนรอการจราจรสุดนรกนี่จนถึงเวลาล่วงไปถึงยี่สิบนาฬิกา
คริสอาสาจะเข้าไปส่งที่หน้าห้องเผื่อเวลาโอเซฮุนโกรธจนไม่ฟังอะไรอย่างน้อยคนตัวสูงจะได้ปกป้องจุนมยอนได้ทัน จุนมยอนไม่พูดอะไร จ้ำอ้าวขึ้นห้องอย่างเดียว แต่ทว่าห้องหับที่มืดสนิทนั่นแสดงให้เห็นว่าเซฮุนไม่อยู่ที่ห้อง
หายไปไหน ยังไม่กลับมาหรือออกไปอีกแล้ว?
...จะกลับมาอีกไหมเนี่ย?
จุนมยอนครุ่นคิด ในใจรุ่มๆ เป็นห่วงปนโล่งใจ ร่างบางเชิญอีกคนที่ยืนหอบอยู่หน้าประตูให้เข้ามาก่อน เมื่อคริสเห็นว่าเจ้าของอีกคนไม่อยู่ก็พลอยโล่งอกไปด้วย เจ้าตัวออกปากขอแค่เพียงหาน้ำดื่มซักแก้วเนื่องจากวิ่งขึ้นมาเหนื่อยๆ แล้วจะได้ลากลับไปก่อนที่ใครจะมาเห็น
"เดี๋ยวผมไปหยิบให้"
"เฮ้ยไม่ต้องๆ เดี๋ยวพี่ไปหาเอง ตู้เย็นไปทางไหนล่ะ"
ว่าแล้วก็รุดหน้าตามทางที่บอก จุนมยอนทรุดตัวลงที่โซฟา หน้าขาวดูเคร่งเครียดเรื่องราชาหนุ่มน้อยที่ไม่รู้ว่าหายไป ถ้าโทรไปก็กลัวจะรำคาญ
อีกอย่างนี่เป็นครั้งแรกที่โดนเย็นชาใส่ทั้งที่ๆปกติจะเป็นการทารุณกรรมแทน มันทำให้เขาทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะเดินทางไหน จะทำยังไงให้หายโกรธดีล่ะ...พระเจ้าช่วย
"คิมจุนมยอน!!!!"
เจ้าของชื่อเงยหน้าหาต้นตอคอแทบหลุด เป็นเซฮุนเองที่ตะโกนเสียงดังออกมา ร่างผอมแลดูอิดโรย ขอบตาออกสีคล้ำจางๆ ใบหน้าหล่อซีดเซียวจนอยากจะเข้าไปกอดให้พลังชีวิต
เซฮุนวิ่งเข้ามาสวมกอดร่างบางด้วยความยินดี เขาเอาแต่พร่ำว่าขอบคุณพระเจ้าอยู่อย่างนั้นเงียบๆพร้อมลูบผมของอีกฝ่าย จุนมยอนตัวแข็งทื่อจากสัมผัสแปลกใหม่ โฉมงามยกมือขึ้นจะลูบแผ่นหลังกว้างให้คลายกังวล
แต่เซฮุนกลับชักตัวออกกระทันหัน...
"......มึง....คริส"
ดูเหมือนพวกเขาจะลืมใครอีกคนที่ยังมีชีวิตอยู่ไปนะ...
ร่างสูงคำรามเสียงต่ำ แววตาแดงก่ำน่าจะเกิดจากการอดนอนฉาบด้วยความชิงชังสมดั่งราชาอสูรสะท้อนใบหน้าหล่อของอู๋อี้ฟานที่เดินออกมา มือเรียวกำแน่นจนสั่นระริก เซฮุนกัดฟันแน่น อารมณ์โกรธพุ่งขึ้นจนจุนมยอนต้องถอยออกมา แต่ดูจะช้ากว่าโอเซฮุนที่ผลักโฉมงามตัวบางออกไปนั่งพับเรียบร้อย
"นี่มึงพามันมาหักหน้ากูถึงถิ่นกูเหรอฮะ!!!!!! มึงทรยศกูเหรอจุนมยอน!!!"
"ไม่ใช่..."
"อยากได้กลับไปนักใช่ไหมชีวิตของมึงน่ะ ได้ ถ้ามึงเลือกที่จะไปจากกูก็ออกไป!!!"
"คุณเซฮุน ฟังก่อน...!!"
จุนมยอนแทบจะถลาไปกอดเอวเซฮุนแบบที่ชอบทำแต่สถานการณ์ตอนนี้มันโคตรไม่ให้ โอเซฮุนบันดาลโทสะไม่ไว้หน้าใคร ร่างสูงคว้ามือถือที่เคยซื้อให้จุนมยอนที่วางแอ้งแม้งอยู่บนโต๊ะใกล้ตัวมาชี้หน้าเจ้าของมัน
"กูโทรไปหาไม่รู้กี่สายก็ไม่คิดจะรับ มัวแต่ทำเฮี้ยอะไรกับมันอยู่ใช่ไหม ดีเลย ไอ้ของแบบนี้มึงก็ไม่ต้องเอา!!"
ผัวะ!!
จุนมยอนหลับตาตามสัญชาตญาณเมื่อเซฮุนเงื้อมือขึ้นสูง เขารู้สึกถึงความปวดที่แถวๆหน้าผากที่แล่นเข้าสมอง คริสยืนงงก่อนจะเข้ามาประคองคนตัวเล็กที่ดูจะล้มลง เขาไม่รู้ว่าทำไมเซฮุนต้องโมโหขนาดนี้แต่เขาก็เริ่มรู้สึกไม่พอใจซะแล้ว
"เฮ้ย มันจะเกินไปแล้วคุณชาย จุนมยอนจะเป็นยังไงนายก็ไม่ควรทำแบบนี้ แล้วอีกอย่าง...... อีเฮี้ยเลือด!!"
อี้ฟานตะโกนอย่างตกใจ เลือดสีข้นติดนิ้วเขาชวนอาเจียน ตรงที่โดนปาโทรศัพท์ใส่ปรากฏรอยแผลเลือดออก ถึงกระนั้นจุนมยอนก็เอาแต่เรียกชื่อเจ้านายพร้อมจะเดินเข้าไปหา
"คุณเซฮุน"
เพี๊ยะ!!
โอเซฮุนเลือกที่จะตัดเยื่อใย มือเรียวปัดลงที่หน้าขาวอย่างแรงจนร่างเล็กล้มลงไปกองกับพื้นเย็น เหงื่อไหลลงมาทั่วโครงหน้าหล่อ ในใจเขาเต็มไปด้วยความรู้สึกอัดแน่นทั่ว
"เฮ้ย!!!"
"อย่ามาแตะกู กูเหนื่อยที่หลงมารยาของมึงแล้ว เก่งจังนะที่เลี้ยงกูเชื่องจนกูแทบลืมสันดานตัวเองแบบนี้"
"นี่เลิกเอาแต่ใจแล้วฟังผมบ้างสิ"
"ถ้ากูมันเอาแต่ใจจนมึงไม่อยากทนขนาดนั้นก็หนีไปมันซะสิ แค่ขาดมึงไป กูก็ไม่ตายหรอก"
"...งั้นก็ได้"
จุนมยอนตอบเสียงแผ่ว ก่อนจะยืนขึ้นด้วยความช่วยเหลือของคริส สายตาหวานเหลือบมองคนข้างตัวพลางกล่าวขอร้อง
"เอาเป็นว่าพี่คริส ช่วยรับผมไปเลี้ยงทีนะครับ"
อู๋ฟานพยักหน้าก่อนจะช้อนตัวเล็กๆของอีกฝ่ายขึ้นมาอุ้มแนบอก เขาเลือกที่จะท้าทายอำนาจอสูรด้วยการแบกโฉมงามของรักผ่านหน้าราชาอสูรไปอย่างไร้เยื่อใย...
ประตูห้องปิดลง ทุกอย่างกลับสู่ความสงบสุขยกเว้นตัวโอเซฮุน ร่างสูงกุมหัวตัวเองก่อนจะปล่อยหัวเราะอย่างบ้าคลั่งผ่านประตูไปให้ไอ้สารเลวทั้งสองได้ยิน
"ฮ่ะๆ ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆ!!!"
ไปเลย...ไปไกลๆ
ถึงอสูรจะมีทุกอย่างมาประเคนให้ แต่บางที โฉมงามก็เลือกที่จะเดินออกมา...
อู๋อี้ฟานชอบคนตัวเล็ก ผิวขาว น่ารัก ตัวนิ่ม ผมหอม ตาโต ปากนุ่ม จิตใจดี มีน้ำใจ ใฝ่คุณธรรม บลาๆๆ ซึ่งตัวเขาก็รู้สึกว่าสเป็คตัวเองมันโคตรเข้ากับคิมจุนมยอน รุ่นน้องที่น่ารักคนนี้ทุกอย่าง แต่วันนี้เจ้าตัวน้อยได้สอนให้เขาเข้าใจเจ้าโลกความเป็นจริงมากขึ้น ด้วยภาษิตที่ว่า...
ระยะทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน
เกือบสิบวันแล้วที่เด็กตัวขาวระเห็จมาจากปราสาทสุดหรูมาที่หอพักของเขา ตอนแรกก็ยอมรับนะว่าปลื้มใจมากๆที่ได้อีกฝ่ายกลับบ้านมาอย่างไม่ตั้งใจ หลังจากทำแผลที่ศีรษะให้ก็บอกให้นอนพักผ่อนแผลจะได้หาย ด้วยความเป็นพระเอกเต็มสายเลือด คริสสละเตียงให้จุนมยอนได้นอนส่วนตัวเองจะไปนอนที่อื่น แต่จุนมยอนบอกว่า
"นอนด้วยกันนี่แหละ ไม่ต้องสุภาพบุรุษ ให้ตายพี่ก็ไม่ได้ลวนลามผมหรอก"
จบคำเท่านั้น ไอ้หัวใจพองๆของไอ้คริสงีดเลยครับ น้องพูดด้วยสีหน้ามั่นใจมากว่าเขาไร้น้ำยา... //หนีเข้าห้องน้ำอย่างห่อเหี่ยว
พอเห็นว่าจุนมยอนไม่มีโทรศัพท์ใช้เวลาจะติดต่อ ด้วยความเป็นพระเอกจึงออกได้ตัวไปซื้อให้ใหม่ แต่จุนมยอนบอกว่า
"ไม่ต้องซื้อหรอกพี่ เก็บไว้กินเหล้าพี่เถอะเดี๋ยวปลายเดือนพี่ช็อตเอา เบอร์ไม่สวยแล้วผมก็อยากได้เครื่องแพง"
คริสจึงหนีไปค้นๆเครื่องเก่าให้แทน...
"พี่ก็ดูรวยนะ ทำไมมีแต่จาจังวะ"
"ผมไม่อยากได้สร้อยถูกๆหรอกครับ"
"ถ้าคิดจะมัดใจผมก็ขอร้านอาหารดีๆหน่อยนะครับ"
"หนังนี่รสนิยมต่ำไปนะครับ"
"ผมชอบแบบเซฮุนมากกว่าน่ะ"
อีกหลายๆเรื่องที่ให้คริสรู้ว่า อีเฮี้ยกูหยิบผิดคน!
คิมจุนมยอนมันไม่ใส!!! และมันไม่ใช่สไตล์กูสุดๆ ตอนแรกมันก็ยอมเออออไปไหนไปด้วยอย่างนี้ แต่ช่วงหลังๆเชื้อเอาแต่ใจแพร่กระจายเลยครับ ทั้งกิริยาอารมณ์...แม่งโคตรถอดแบบเจ้านายเก่ามากอ่ะครัชชชช คราบนางฟ้าที่มันสะสมมาหลุดลอกจนสนองเนื้อในมากๆ กาแล็คซี่จิครายอ่ะครัชชชช
"พี่คริสเป็นอะไรป่ะ เห็นนั่งเก๊กทำจะแต่งนิราศมาได้ชั่วโมงนึงละ"
"ปล่าวจ้า ว่าแต่เมื่อไหร่จะจบแผนน้องซะทีล่ะจ้ะ"
"อ๋อ เอาเป็นซักพรุ่งนี้ล่ะกัน วันนี้ผมเหนื่อย อยากนอนละ"
"ครับ เห่อะๆๆๆๆ"
คนหล่อส่งยิ้มเจื่อนๆ จุนมยอนยิ้มน่ารักแล้วหันหลังหนีล้มตัวนอนทันที พูดถึงแผน แผนอะไรน่ะเหรอ ....เดี๋ยวก็รู้!!
...ตอนนี้ช่วยพี่ภาวนาให้พระอาทิตย์ขึ้นใหม่เร็วๆก่อนเถอะว่ะ
"ครับๆ นอนอยู่ห้องแน่นะฮะ แล้วผมจะรีบขึ้นไป"
คริสเหลือบมองจุนมยอนที่เจื้อยแจ้วกับโทรศัพท์ตัวเองขณะที่เขาหักเลี้ยวเข้ามาที่ๆปราสาทของเจ้าชายหน้าหล่อจอมเอาแต่ใจ รถคันสวยหยุดลงเมื่อถึงที่หมาย จุนมยอนปลดเข็มขัดนิรภัยก่อนจะสูดหายใจลึกๆ ตัวเล็กหันมาบอกลารุ่นพี่ตัวสูงอย่างสดใส
"ขอบคุณที่มาส่งนะครับพี่คริส ผมจะไปแล้วนะ ไม่บอกลาอะไรหน่อยเหรอ"
"อือ จุนมยอน รู้ใช่ไหมอ่ะ ว่าน้องอ่ะสเป็คพี่"
"อือๆๆ รู้"
"แต่ว่าน้องทำพี่ฝันสลายมากเลย อย่าทำแบบนี้ไม่ว่ากับใครเข้าใจไหม...นะครับบบ"
คริสระบายยิ้มอ่อนโยน นิ้วยาวหยิกแก้มขาวเอาไปยืดเล่นก่อนจะโดนตีมือกลับมา จุนมยอนหัวเราะคิกคักก่อนจะฉวยโอกาสหอมแก้มคนตัวสูงกว่า
"เเน่ะ ยังจะอ่อยอีกไปเลยๆ"
"คิๆๆ โอ๋ ขอโทษนะฮะพี่คริส ความจริงผมก็คิดว่าพี่น่าสนใจนะ แต่ว่าพวกเราดูจะเข้ากันไม่ได้เนอะๆ"
จุนมยอนเปิดประตูรถ ก้าวออกไปพร้อมประโยคที่ปล่อยคริสนั่งขบขันกับความแสบสันของเจ้าตัว
"ก็โฉมงามคนนี้น่ะ....เป็นของราชาอสูรนี่นา"
นี่นะคนที่เรียกตัวเองว่าแมวเชื่อง? นางเสือยังไม่พอเลยด้วยซ้ำไป!
ถ้าพี่คริสว่าอะไรจุนมยอนในใจล่ะก็ขอปฏิเสธว่ามันไม่ใช่จุนมยอนจริงๆนะ จุนมยอนน่ะใสๆไร้เดียงสา แล้วก็แผนที่ว่าน่ะโคตรปัญญาอ่อนเลย เด็กอนุบาลเขาก็คิดๆกัน มีแต่เฮียนั่นแหละชอบใส่ไฟ บ้าชริม โฉมงามโดนอิจฉา :[
จุนมยอนก็แค่คุยกับเจ้าบ้านโอไว้ว่าจุนเหนื่อยแล้วกับความซึนเดเระของคุณชาย จุนจะทำแผนเบิกความในใจของเซฮุน แต่ว่ามันก็ยากมากด้วยเลเวลการซึนของที่สูงส่งของโอเซ จุนมยอนจึงต้องทำจุดพีคในชีวิตให้ โดยเขาจะทำเป็นงอนแล้วเปิดตูดหนีหายไป ไม่ติดต่อ ไม่เจอหน้า เอาให้มันลงแดงตายกันไปข้างเลย เจ้าบ้านโอด้วยความเอ็นดูลูกชายคนใหม่มากกว่าคนเก่าก็เห็นดีเห็นงามตามไป ซ้ำยังแขวะลูกชายคนเก่าด้วยว่าอีกสองสามวันมันคงทนไม่ทนเตลิดไปพลิกฟ้าหาแหงๆ
แต่ดูเหมือนสองคนเราจะคิดผิด เซฮุนดูให้เหตุผลมากขึ้น ไม่วู่วามหรือลุ่นแล่นหุนหันเหมือนเดิม เจ้าเด็กโข่งไม่แบะปากร้องหาเขาเลยสักคำ แค่ถามนิ่งๆ ไม่ว่าเหรอที่เขาหนีไป คุณโอก็ตอบเบี่ยงๆไปตามแผน จากนั้นก็เหมือนว่าจะเริ่มทนไม่ได้จนต้องหันไปกอดแอลกอฮอล์แทน เอาแต่นอนเป็นหมีจำศีล เรียนก็ไม่เรียน เอาแต่ดื่มจนเมาอ้วกแตก
แอ๊ด
กลิ่นอับกระแทกหน้าขาวเมื่อประตูเปิด เซฮุนเป็นพวกไม่จับงานบ้าน ไม่แปลกเลย จุนมยอนไม่อยู่ตอนไหน ตอนกลับมาห้องก็จะยังทุเรศเหมือนเดิม...และรกกว่าเดิม
ครึ่ก...
เคร้ง...
ร่างบางเดินนวยนาดผ่านกองขวดเหล้ากระป๋องเบียร์อย่างมีความสุข ไม่มีความจำเป็นต้องรู้สึกผิด เพราะทั้งหมดนี่ตั้งใจทำล้วนๆ
และแล้วจุนมยอนของพบเจอร่างของราชาอสูรผู้อ่อนแรงนอนกอดขวดเหล้าอยู่บนเตียง ร่างบางทรุดตัวลงข้างก่อนจะเอื้อมมือไปเกลี่ยเส้นผมที่ปรกหน้าหล่อออก
เซฮุนค่อยๆลืมตาเมื่อมีคนมารบกวน ร่างสูงครางอื้อในลำคอด้วยความรำคาญ ตัวต้นเหตุหาได้สนใจไม่ กลับนั่งหัวเราะคิกๆสมใจ
"โฮ้ย เหล้าหึ่งเลยแฮะ เป็นเอามากเหมือนกันนะเนี่ย"
"โอย ภาพหลอนอีกแล้วเหรอวะ"
"เปล่า นี่ตัวจริงนะ"
"ฮื้อ เลิกแกล้งดิวะ ไม่ขำไอ้สัด"
เซฮุนที่กึ่งลุกกึ่งนั่งตวัดผ้าห่มหนี จุนมยอนถอนใจเหนื่อยหน่าย ก่อนจะคว้ามืออีกฝ่ายมาโอบเอวตัวเองไว้ให้รับรู้ว่าเนี่ย ตัวจริงนะ
"ของปลอม...ไหมล่ะ"
โอเซฮุนนิ่ง มือขาวลูบโน่นลูบนี่ไปจนเริ่มแน่ใจว่าไม่ได้ฝันไปแน่
"คิมจุนมยอน?"
"คุณเซฮุน"
"กลับมาทำไม!"
"กลัวคุณตาย"
ถึงร่างสูงจะทำท่าเป็นรังเกียจรังชังแต่มือที่จับค่อนเอวไปก้นที่กลับนิ่ง จุนมยอนเลยสร้างสถานการณ์ให้แนบชิดขึ้นไปอีกด้วยมารยาโฉมงามด้วยการโอบรอบคอราชาอสูร
"กลัวคุณตายเพราะทนคิดถึงผมไม่ไหว"
"ขาดมึงกูอยู่ได้ ...แต่อยู่แบบซากแบบที่มึงเห็น"
"ทำไมไม่ออกไปเที่ยวหาคนอื่นมาแทนล่ะ แค่ไพร่ธรรมดาหาที่ไหนก็ได้"
"รู้คำตอบใช่ไหมถึงถามแบบนี้"
คนถูกถามทำลอยหน้าลอยตาน่าตบ แต่มันก็น่ารักสำหรับเซฮุน
"มึงน่ะพิเศษ ต่อให้หมาตัวไหนมาแทนก็แทนไม่ได้ เพราะมึงเป็นชานมไข่มุกเพิ่มไข่มุกกับช็อกชิพ"
"ห๊ะ"
"กูหมายถึงพิเศษสัดๆน่ะ"
"ทำไมถึงพิเศษล่ะครับบบบ"
จุนมยอนเบียดตัวเองเข้าไปใกล้ๆยิ่งขึ้นอีกอีก ชนิดที่ว่าดูก็รู้ว่าอ่อยสุดๆ สายตาหวานเชื่อมฉายแววยินดีที่จะได้รับชัยชนะรออยู่แล้ว
"......."
"พูดไม่ได้เลยเหรอ แค่คำเดียวก็ได้"
"......"
"โอเค จำไว้"
"กูรักมึง จุนมยอน กูรักมึงคนแรกและคนเดียว ขอร้องว่าอย่าไปจากกูอีกเลย กูอยากให้มึงอยู่กับกู เอาใจกู แล้วรักกูคนเดียวตลอดไป กูจะเลี้ยงมึงให้โตเป็นหมูน้อยๆเหมือนเกมแฮปปี้คนเลี้ยงหมู กูจะหาชุดสวยๆให้ใส่ตั้งแต่ชุดชั้นในยันชุดคาบาเร่ต์ กูจะยอมให้มึงออนท็อปตามใจมึงเลย กูจะเลี้ยงลูกของเราให้หน้าตาดี จะเป็นพ่อที่ดี แล้วก็...."
ปากนุ่มถูกปิดด้วยปากนุ่มฉันใด โอเซฮุนก็โดนคิมจุนมยอนจูบปิดปากฉันนั้น
และเพื่อไม่ให้เสียโอกาส เซฮุนไม่คิดจะเสียเวลากับการตกใจ ร่างสูงส่งลิ้นเข้าไปรุกรานพื้นที่ของอีกฝ่าย แม้จุนมยอนจะอยากถอนจูบแต่มันก็ยากเอามากๆเมื่อเซฮุนเอาแต่กดท้ายทอยเขาไว้ ...แล้วก็ยังจะดึงด้วยลิ้นอีก
เสียงดูดปากที่ก้องไปทั่วปะปนกับกับเสียงลมหายใจถี่หนักขึ้น ยิ่งปลุกแรงรักที่ซ่อนเร้นมานานให้โหมกระหน่ำ ไม่ปฏิเสธเลยว่าทั้งคู่เองก็ต้องการที่จะทำแบบนี้มานานมาก เว้นเสียแต่ความสัมพันธ์แปลกที่คั่นกลางอยู่ชวนให้ไม่แน่ใจ แต่เพราะเรื่องงี่เง่านั่นแหละที่ทำให้เซฮุนเก็บผลไม้ลูกนี้ไว้จนถึงเวลาที่อร่อยที่สุดได้
"ว้าว ....เซอร์ไพรส์จัง"
จุนมยอนละจูบออก หน้าขาวแดงเรื่อ นัยน์ตาหวานหยาดเยิ้มเหมือนคนขาดสติ เซฮุนยิ้มปราชัยก่อนจะจัดท่าให้ตุ๊กตาตัวน้อยมานั่งตักตัวเอง สาบานได้ว่าขาอ่อนจุนมยอนเป็นอะไรที่ดึงดูดไม่แพ้ซอกคอเลยจริงๆ
"มึงรู้บ้างไหมล่ะว่าวันนั้นกูเห็นมึงกลับบ้านช้ามากกูเลยเป็นห่วงสุดๆ วิ่งออกไปตามหามึงที่โน่นที่นี่แต่ก็ไม่เจอซักที นึกว่าน้อยใจกูหนีแล้ว กูโกรธตัวเองจนแทบจะกระโดดน้ำตายแล้วด้วย แต่พอเจอมึงกับไอ้พี่นั่นอยู่ด้วยกันเลยปรี๊ดมากอ่ะ สติกูหลุดเลยไม่ฟังอะไรทั้งนั้น กูโมโหมึงมากเลยนะจุนมยอน ทั้งๆที่นี่เป็นบ้านกูกับมึงแต่มึงเอามันเข้ามา กูก็น้อยใจเป็นนะเว้ย"
"โอ๋ เรื่องนั้นผมขอโทษ ผมโดนเพื่อนแกล้งน่ะ แล้วพี่เค้าก็วิ่งตามขึ้นมาเพราะกลัวคุณเซฮุนตีผม เห็นเค้าเหนื่อยๆเลยเชิญเข้ามาพักแค่นั้นเอง"
"จุนมยอน อยากใช้นามสกุลโอไหม มันเจ๋งไม่แพ้แซ่อู๋หรอกนะ"
"ไปรู้มุกนี้มาจากไหนเนี่ย"
"แอบฟังผ่านโทรศัพท์พี่อี้ พอดีเส้นสายเยอะ"
"อือออ มีพี่อี้ชิงหนุนหลังนี่เอง ถึงว่าวันนั้นมาส่งไม่ยักจะโกรธ"
"คำตอบล่ะ แต่ไม่ให้ปฏิเสธหรอก เป็นของเซฮุนนี่แหละจุนมยอนจะได้มีความสุข"
เซฮุนฉวยเอสมือของอีกฝ่ายขึ้นมาจูบพิตแผ่วเบาและอ่อนโยน จุนมยอนหัวเราะยกมืออีกข้างขึ้นดีดหน้าผากกว้างนั่นเป็นการหยอกล้อ
"โถ่เอ๊ย โง่จัง อยู่ด้วยกันมาตั้งสามสี่ปีแล้วยังจะสงสัยอะไรกันอีก ถ้าไม่ยอมจะกลับมาเหรออออ อีกอย่าง..."
จุนมยอนไถหัวตัวเองกับแผ่นอกกว้าง จริงๆเขาชอบมากเลยนะตอนซบอกเซฮุน มันอบอุ่นจนไม่อยากไปไหนอีกเลย ตอนเซฮุนนอนกอดก็ด้วย แล้ววันนี้ยังให้นั่งตักอีก แล้วจูบมือด้วย ...อยากอยู่ที่นี่กับคนนี้ตลอดไปเลย
"ผมน่ะเป็นของคุณตั้งนานแล้วนะ...ราชา"
โฉมงามคนนี้จะอยู่ที่ปราสาทของเรา....กับราชาอสูรคนนี้เท่านั้น
ถ้าเบลล์เลือกที่จะรักอสูรขณะที่เขายังอยู่ในร่างของอสูร นั่นก็หมายถึงว่า ไม่ว่าเขาจะเป็นอสูรหรือเจ้าชายเบลล์ก็รักเขา
ฉะนั้น ต่อให้โอเซฮุนเอาแต่ใจแบบแก้ไม่หายแค่ไหน คิมจุนมยอนก็รักนะ ❤
The End
Behind the Scene
"ไม่เอาราชาดิ เรียกสามี"
"ได้ไง ไม่ได้เป็นไรกันซะหน่อย"
"ไหนบอกตกลงใช่สกุลโอแล้วไง ตอแหลนี่หว่า เดี๋ยวคืนนี้ก็เป็นเองแหละ"
"เอาจริงดิ ไม่อยากทำเลยอ่ะ"
"น้องนอนนิ่งๆ เดี๋ยวพี่ทำเอง"
"ฮุนนี่ทะลึ่ง!"
"จะพาไปจดทะเบียน อะไรเนี่ยอะไร"
"แล้วให้นอนทำไม"
"นอนในรถไง เดี๋ยวขับเอง กลัวจุนง่วง"
"อุ๊ยน่ารักเรียกจุนด้วยอ่ะ งื้อ ...สามีฮุนนนน"
"เชื่องดีมากกก ...ภรรยาจุนของผม"
">◊ SQWEEZ
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น