ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sarang...รัก (Fic : TVXQ)

    ลำดับตอนที่ #2 : คนธรรมดา

    • อัปเดตล่าสุด 18 เม.ย. 49



                   
    ซีอาร์วีคันโตแล่นไปตามทางกลับรีสอร์ต ชายหนุ่มทั้งหกแทบไม่คุยอะไรกันเลยเนื่องด้วยความที่เป็นคนต่างชาติต่างภาษากัน ในขณะที่คนรู้ภาษากลับนั่งอ่านหนังสือสบายใจเฉิบอยู่หลังรถ ดูเหมือนจะมีเพียงคนเดียวที่สามารถเข้าถึงเธอได้...ชางมิน ชายหนุ่มที่มีงานอดิเรกเช่นเดียวกับเธอ

                    คุณอ่านหนังสือเรื่องอะไรอยู่น่ะครับ?เขาถามพลางชะโงกหน้ามาข้างหลังทันทีที่ร่างบางหยิบหนังสือนิยายเล่มโตขึ้นมาอ่าน

                    อ๋อ...หัวขโมยแห่งบารามอสกับแหวนแห่งปราชญ์น่ะค่ะ อ่านค้างอยู่ซารังตอบ เรียกสายตาสงสัยจากคู่สนทนาได้เป็นอย่างดี

                    ไม่เห็นเคยได้ยิน หัวขโมยแห่งบารามอสกับแหวนแห่งปราชญ์? มันเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไรเหรอครับ?

                เกี่ยวกับอะไรเหรอ? อธิบายไม่ถูกซารังตอบพลางส่งยิ้มแหยๆให้ชางมินอย่างจนใจ

                    ไหงงั้นล่ะ?ชางมินอุทานอย่างเสียดายก่อนจะยื่นมือมาทำท่าขอยืมหนังสือจากหญิงสาว ผมขอยืมได้มั้ยครับ?

                ภาษาไทยนะคะ จะอ่านออกเหรอ?หญิงสาวถามยิ้มๆยังไม่ยอมส่งหนังสือให้ชายหนุ่มที่ทำหน้ามุ่ยทันทีที่ฟังจบ

                    อะไรกัน! ภาษาอังกฤษไม่มีเหรอครับ?

                    เสียดายที่ไม่มีค่ะเธอตอบยิ้มๆก่อนจะเอ่ยชม(?)ชายหนุ่ม อืม...ฉันเพิ่งสังเกต หน้าตาชางมินนี่น่ารักดีนะคะ โดยเฉพาะเมื่อกี้

                เมื่อกี้? เมื่อกี้ไหนครับ?ชายหนุ่มถามอย่างงงๆ เรียกเสียงหัวเราะน้อยๆจากคู่สนทนาสาวได้เป็นอย่างดี

                    ก็เมื่อกี้ ตอนที่ทำหน้ามุ่ยๆเท่านั้นแหละ คนรู้ภาษาก็หัวเราะพรืดอย่างเห็นด้วย ทำเอาคนโดนวิจารณ์หน้ามุ่ยอย่างไม่พอใจ

                    ไหงเป็นงั้นล่ะครับ? พวกพี่ๆก็เอากับซารังด้วยชายหนุ่มกล่าวพลางกวาดสายตามองพี่ๆในวงทั้งสี่ที่ยังหัวเราะไม่เลิก

                    คุณก็น่ารักหญิงสาวเกริ่นทำเอาชาวเกาหลีหันขวับมามองอย่างสนใจ เลิกหัวเราะทันที

                    ใคร?ดงบังชินกิอีกสี่คนที่เหลือเอ่ยถามพร้อมกันอย่างสงสัย ในขณะที่ชางมินยิ้มอย่างพึงใจที่จะมีเพื่อนรวมชะตากรรม

                    ทั้งสี่คนนั่นล่ะ ตอนยิ้มเธอตอบพลางส่งยิ้มให้ ก่อนจะทำท่าครุ่นคิดแล้วเอ่ยต่อ ตอนถ่ายรูปน่าจะยิ้มให้มากๆ ฉันไม่ค่อยเห็นพวกคุณยิ้มเลย

                มันเป็นคอนเซปต์น่ะ แล้ว...ตอนขรึมๆพวกเราไม่หล่อรึยูชอนถามทีเล่นทีจริง แต่คนตอบกลับตอบอย่างจริงจัง

                    ก็หล่อ แต่ตอนยิ้มมันดีกว่าไง

                    ตรงไปตรงมาจริงนะ เธอน่ะยุนโฮพูดอย่างที่หญิงสาวอดคิดไม่ได้ว่า เขาว่าเธออีกแล้ว เธอเลยประชดให้เสียนี่

                    ขอบคุณที่ชม

                ก็ชมน่ะสิ ฉันไม่ได้ว่าอะไรเธอซักหน่อยชายหนุ่มตอบหน้าตาย พลางยิ้มอย่างยียวนที่ทำให้หญิงสาวหน้าแตกได้

                    อย่ายิ้มเลย นายน่ะซารังยังไม่ยอมแพ้ เขาแกล้งเธอได้ เธอก็แกล้งเขาได้เช่นกัน

                    เธอบอกว่าเรายิ้มสวย ฉันก็ยิ้มให้ไง น่าจะถูกใจนาเขาย้อนด้วยถ้อยคำของเธอเอง แต่คิดเหรอว่าแค่นี้เธอจะจนมุม

                    ฉันบอกเหรอว่าสี่คนที่ว่าน่ะรวมนายอยู่ด้วย อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลยถ้อยคำที่ทำเอาชายหนุ่มอึ้ง ใครมันจะไปนึกว่าจะโดนโต้แบบนี้

                    เออ! พูดถึงหน้าตาก็นึกขึ้นได้ พี่แตม รูปที่ซาให้ไปล่ะ? หญิงสาวหันไปถามพี่ชายที่ขับรถอยู่อย่างมีสมาธิเป็นภาษาไทย

                    อยู่ในกระเป๋าตังค์ เดี๋ยวหยิบให้เฌอแตมตอบก่อนจะละสายตาจากถนนเบื้องหน้าทันทีที่รถติดไฟแดง แล้วหยิบรูปออกมาจากกระเป๋าหนังสีน้ำตาลอย่างรวดเร็วพลางยื่นรูปให้กับคู่อริที่น่ารักของหญิงสาว ก่อนจะบอกเขาเป็นภาษาอังกฤษ

                    “Send this photo to her, please”
                    "Hmm...Is this her photo?” เขาถามพลางก้มลงดูรูปถ่ายที่ถูกส่งมาให้ รูปพวกเขาทั้งห้าคนในชุดสบายๆแต่เท่ห์หากแต่ไร้ซึ่งรอยยิ้มที่เจ้าของรูปบอกว่าชอบ

                   
    “Yes. She said thay are you” คำตอบที่ชายหนุ่มพยักหน้าให้น้อยๆเป็นเชิงว่านั่นเป็นรูปพวกเขาจริงๆ หากแต่มือใหญ่ยังคงถือรูปไว้ในมือ ไม่ยอมส่งไปให้เจ้าของที่นั่งหน้าบูดอยู่ข้างหลัง

    คืนมาได้ยัง?หญิงสาวถามกวนๆพลางแบมือออกอย่างพร้อมจะรับรูปใบนั้นทุกเมื่อ

                    เธอชอบพวกเราเหรอ?ยุนโฮถามเรียกความสนใจพุ่งตรงมาที่เขาและเธอได้เป็นอย่างดี สายตาทั้งสี่คู่จับจ้องยุนโฮอย่างสงสัย ในขณะที่ยุนโฮจ้องหญิงสาวอย่างต้องการคำตอบ

                    ถามไปทำไม?หญิงสาวไม่ตอบหากแต่ย้อนถามแทน มือเรียวลดลงมาวางไว้บนตักพลางกุมกันแน่นเพื่อระบายความเครียด ดวงหน้านวลกลายเป็นสีเรื่ออย่างน่ามองตอบคำถามได้อย่างดี หากแต่ชายหนุ่มยังอยากได้ยินจากปากเธอมากกว่า

                    ก็อยากรู้เขาตอบง่ายๆยังไม่ยอมละสายตาค้นหาไปจากดวงหน้านวลใสของคนตรงหน้า

                    แล้วฉันต้องตอบรึ?ซารังพยายามเลี่ยงโดยการยียวนเขา หากแต่ยุนโฮกลับขยับยิ้มอย่างคนถือไพ่เหนือกว่า

                    คงใช่ล่ะ ถ้าไม่งั้นรูปก็ไม่ได้คืน

                    ฉันเพิ่งรู้ว่านายเป็นโรคนาร์ซิสซัสเธอว่า หากแต่คนถูกว่ากลับไม่สะทกสะท้าน ในขณะที่คนแอบฟังหูผึ่งทันทีที่ได้ยินพลางคิดไปในแนวเดียวกันว่า นั่นรูปยุนโฮหรือไง?

                    เปล่า ฉันไม่ได้เป็น...แต่...ชายหนุ่มตอบหน้าตาย ก่อนจะเอ่ยถามอีกครั้ง เธอจะตอบมั้ยล่ะ?

                ตอบ!” หญิงสาวตอบรับห้วนๆอย่างไม่ค่อนสบอารมณ์ ฉันชอบเสียงพวกนาย...หญิงสาวตอบก่อนจะแบมือออกอีกรอบประมาณว่า เอารูปคืนมาได้แล้ว

                    คงไม่ใช่แค่เสียงเขาพูดพลางโบกรูปไปมาตรงหนน้าหญิงสาว บอกเป็นนัยๆว่า รูปนี่เป็นหลักฐานชั้นดี

                    ฮึ้ย! ใช่! ฉันชอบพวกนาย...คลั่งพวกนาย หน้าตาพวกนายหล่อ เท่ห์ ตรงสเป็ค เสียงก็ดี ความสามารถก็มาก... พอใจยัง! ถ้าพอใจแล้วก็เอารูปคืนมา!!” ซารังรัวตอบอย่างคนหมดความอดทน ทำเอาดงบังชินกิทั้งห้าอึ้งกันถ้วนหน้า ไม่เว้นแม้แต่คนถาม และทันทีที่ตั้งสติได้รูปก็ถูกส่งคืนให้เจ้าของที่มารับไปอย่างรวดเร็วหากแต่ทะนุถนอมอยู่ในที

                    นี่นาย! ถึงฉันจะชอบพวกนายแต่ก็ไม่ได้หมายความว่าฉันต้องกรี๊ดกร๊าดนายเป็นบ้าเป็นหลังถูกมั้ย? เพราะงั้น...ขอให้เข้าใจไว้ด้วยว่าถึงนายจะเป็นนักร้องดัง แต่ในสายตาฉันพวกนายก็เป็นแค่คนธรรมดาเธอเอ่ยอย่างจริงจังก่อนจะปิดหนังสือแล้วดิ่งลงสู่ห้วงนิทรา หากแต่คำพูดของเธอไม่ได้ตามไปด้วยมันยังวนเวียนอยู่ในหัวของคนทั้งห้า...คำพูดที่ทำให้คนทั้งห้ายิ้มออกมาอย่างพึงใจ

     

                    ซีอาร์วีคันโตเลี้ยวเข้าไปในโรงจอดรถของบ้านหลังหนึ่งก่อนจะจอดสนิทอยู่ในนั้นทำเอาคนต่างชาติงงว่านี่เป็นรีสอร์ตทีพวกเขาจะมาพักรึไง? ทำไมมันเล็กแบบนี้?

                    อืม...ถึงแล้วเหรอ?หญิงสาวเอ่ยถามขณะปรือนัยน์ตาขึ้นจากห้วงนิทรารมย์ นัยน์ตาคู่สวยกวาดมองสายตาทั้งห้าคู่ที่ส่งตรงมาที่เธอเป็นคำถาม

                    ถึงแล้วยังไง?จุนซูถามอย่างงงงวย เขาไม่เคยเห็นรีสอร์ตอะไรเล็กขนาดนี้มาก่อนเลย

                    ถึงท่าเรือ...เราต้องลงเรือไปรีสอร์ตเธอตอบก่อนจะลงจากรถทันทีที่พี่ชายเดินมาเปิดให้ ดงบังชินกิทั้งห้าเปิดประตูรถลงตามมาทีหลังอย่างมึนๆว่า นี่พวกเขาต้องนั่งเรือต่ออีกเหรอ? ทั้งๆที่นั่งรถมาถึงนี่ก็ปากไปชั่วโมงครึ่งแล้ว แล้วทำไมคุณคิม(ผู้จัดการวง)ถึงไม่บอกพวกเขาเรื่องนี้?

                    ต้องลงเรือด้วยเหรอ?ยูชอนที่พอจะหายมึนได้เร็วกว่าคนอื่นเดินไปช่วยหญิงสาวขนของก่อนจะเอ่ยถามอย่างสงสัย

                    ช่าย รีสอร์ตเราอยู่บนเกาะน่ะ ดีมั้ยล่ะ?เธอตอบก่อนจะย้อนถามอย่างอารมณ์ดี ในมือยังคงถือหนังสือนิยายเล่มสีเหลืองอยู่ไม่ห่าง

                    ดียังไง?คนที่แทบไม่ได้พักผ่อนเลยตลอดสามปีถามอย่างงงๆ ทำเอาคู่สนทนาหัวเราะคิกอย่างอดไม่อยู่

                    เป็นส่วนตัวดีไง  ที่เกาะแสงดาวน่ะคนไม่มาก มีความเป็นส่วนตัวสูง อยู่ที่นั่นแทบจะไม่ต้องสนใจสายตาใคร  ดารานักร้องจะมาพักก็ไม่ต้องระวังตัวมากมายด้วยหญิงสาวอธิบายอย่างเป็นการเป็นงานก่อนจะกวักมือเรียกอีกสี่คนมาหาแล้วเดินนำไปลงเรือ

                    ขนกระเป๋ามาหมดแล้วใช่ปะพี่แตม? หญิงสาวเอ่ยถามพี่ชายอย่างสบายอารมณ์ ก็ไม่ต้องขนกระเป๋าเลยซักใบนี่

                    อืม จะหกโมงแล้วหิวมั้ย?…Ar…Are you hungry?” เฌอแตมถามน้องสาวก่อนจะส่งคำถามเดียวกันไปถามแขกเป็นภาษาอังกฤษ

                    “No, we aren’t” แจจุงตอบยิ้มๆ เช้าๆอย่างนี้พวกเขายังไม่หิวหรอก แต่สายกว่านี้หน่อยล่ะหิวแน่

                    แล้วเราล่ะ? เฌอแตมหันมาถามน้องสาวที่ยืนทำตาบ้องแบ๊วอยู่ใกล้ๆ

                    พอพี่แตมพูดแล้วซาก็หิวเลย อยากกินปาท่องโก๋น้ำเต้าหู้ซารังเอ่ยยิ้มๆก่อนจะแบมือออกตรงหน้าพี่ชาย เฌอแตมควักแบงค์ยี่สิบส่งให้น้องสาวที่น่ารักก่อนที่สาวเจ้าจะวิ่งฉิวไปที่ร้านน้ำเต้าหู้เพื่อหาของกินอย่างที่ว่า ไม่นานร่างบางที่ในมือถือน้ำเต้าหู้สองถุงกับปาท่องโก๋หนึ่งถุงก็กลับมาพร้อมลงเรือไปเกาะแสงดาว

    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    (โรคนาร์ซิสซัส - โรคหลงรูปตัวเอง)

    ***************************************

    มาถึงตอนที่ 2 แล้ว (อัพว่องไวดีมั้ยเอ่ย?)
    ก็ตอนนี้ดำเนินเรื่องค่อนข้างช้าหน่อยอ่ะนะ
    ถ้ามันช้ามากไปก็ขอโทษด้วยนะ ( - /\ - )
    ส่วนภาษาอังกฤษในเรื่อง เราอยากจะบอกว่า
    เราเป็นพวกโง่อังกฤษมากๆเลย
    ถ้ามันผิดพลาดยังไงก็บอกเราหน่อยแล้วกันนะ
    เราจะได้เอาไปแก้ไข
    อ้อ! อีกอย่าง อ่านสะดวกกันมั้ยกับตัวเอียงๆ (ที่เป็นภาษาเกาหลี)
    ถ้าไม่สะดวกเราจะได้สลับให้ บอกเราด้วยนะจ๊ะ

    ในส่วนของหนังสือหัวขโมยแห่งบารามอส
    ถ้ามันจะถูกเอ่ยถึงบ่อยๆในเรื่องก็เพราะเราบ้าอ่ะนะ
    ใครเป็นแฟนหัวขโมยก็โพสต์บอกเราด้วยแล้วกัน
    เราอยากคุยกับแฟนๆหัวขโมยฯที่เป็นแฟนดงบังชินกิด้วย
    แฮะๆ พล่ามมานานแล้วไปปั่นต่อดีกว่าเนอะ ก่อนที่จะไม่ได้ปั่น

    โอม.....คอมเมนท์จงมา คอมเมนท์จงมา จงมาเยอะๆ เพี้ยง!

    รักคนอ่านทุกคนนะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×