ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sarang...รัก (Fic : TVXQ)

    ลำดับตอนที่ #1 : ดีหรือร้าย...ที่ได้เจอเธอ

    • อัปเดตล่าสุด 18 เม.ย. 49



                    เวลาล่วงเข้าวันใหม่แล้วหากแต่ไฟในห้องนอนบนชั้นสองยังคงส่องสว่าง ร่างบางเจ้าของห้องนั่งอ่านหนังสือนิยายเล่มโตในมืออย่างเอาเป็นเอาตายพร้อมรอยยิ้มน้อยๆ ก่อนที่ความเงียบสงบที่เจ้าตัวพยายามรักษามานานจะถูกสมาชิกในบ้านทำลายลง

                    เสียงเคาะประตูอย่างเป็นจังหวะดังขึ้นทำลายความสุขของเจ้าของห้อง ก่อนหญิงสาวจะวางมือจากหนังสือเล่มโตแล้วเดินไปเปิดประตูให้คนทำลายความสุขเข้ามา

                    "มีไรล่ะ? พี่แตม" หญิงสาวเอ่ยถามพี่ชายสุดที่รักอย่างไม่ใส่ใจเท่าใดนัก

                    "ไปรับแขกเป็นเพื่อนพี่หน่อยดิ" ชายหนุ่มนาม "เฌอแตม" บอกพลางส่งสายตาอ้อนวอนไปให้น้องสาวที่ช้อนนัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำขึ้นสบนัยน์ตาของเขา

                    "ทำไมต้องมาชวนซา?" หล่อนถามอย่างไม่ค่อยพอใจที่โดนรบกวนเวลาอ่านหนังสือ

                    "พวกนั้นเป็นคนเกาหลี ไปเป็นล่ามให้พี่หน่อยนะนะคะ" เขาอ้อนอย่างน่ารักพลางส่งสายตาวิบวับไปให้คนเป็นน้อง ทั้งนัยน์ตาทั้งคำพูดทำเอาหญิงสาวใจอ่อนยวบพลางพยักหน้าตอบรับคำ

                    "น่ารักที่สุดเลยซา ไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดเลยไป แล้วเจอกันที่ห้องนั่งเล่นนะ พี่ให้เวลาสิบห้านาที" เฌอแตมบอกอย่างรัวเร็วก่อนจะผลุบหายออกไปจากห้อง

                   

                    สนามบินประจำจังหวัดมีผู้คนไม่มากมายหากแต่การจะหาคนห้าคนจากสถานที่ที่ใหญ่ขนาดนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อีกทั้งข้อมูลเกี่ยวกับแขกทั้งห้าที่เฌอแตมให้ยังน้อยนิดเสียจนคนเป็นน้องอยากกระโดดเตะพี่ชายผู้แสนดีเสียที

                    "พี่แตม ไอ้ข้อมูลที่พี่ให้มาเนี่ย พี่จะพูดมาทำไมให้เปลืองน้ำลายห๊า!!" น้องสาวผู้แสนดีถามอย่างกราดเกรี้ยว ถูกรบกวนเวลาอ่านหนังสือยังไม่พอยังต้องมาตามหาคนโดยมีข้อมูลเพียงแค่ 'เป็นน้องร้องชาวเกาหลีห้าคน' แย่ที่สุด!

                    "ก็ยังมีข้อมูลบ้างแม้จะมีแค่จิ๊ดเดียวก็เหอะ" เฌอแตมตอบพลางส่งยิ้มแหยๆให้

                    "ไม่ใช่จิ๊ดเดียว จิ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดเดียวตะหาก" หญิงสาวกล่าวพลางลากเสียงยาวเหยียดในประโยคสุดท้าย ประชดพี่ชายเสียอย่างนั้น

                    "น่าๆ ก็ลองหาคนหน้าตาดีๆขาวๆที่อยู่กันห้าคนแล้วถามเขาดูว่ามาพักที่พักเรารึเปล่าก็เท่านั้น" เฌอแตมหาทางออกอย่างขอไปที หากแต่ก็ไม่อาจดับเพลิงอารมณ์ของน้องสาวได้ เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาพี่ชายคนโตทันทีอย่างไม่คิดจะเกรงใจอีกต่อไปว่าพี่ชายคนนั้นจะทำอะไร อยู่ที่ไหน

                    (ฮัลโหล โทรมาทำไมตอนนี้เนี่ย?!) เสียงทุ้มดังมาตามสายอย่างรำคาญใจที่ถูกขัดจังหวะการนอนทั้งๆที่เขาเองก็เพิ่งได้นอนไปเมื่อไม่นาน

                    "นี่ซารังนะพี่เลิฟ ซามีเรื่องจะถามเรื่องแขกชาวเกาหลี" หญิงสาวกล่าวอย่างพยายามข่มอารมณ์ หากแต่เสียงที่กล่าวออกไปกลับห้วนกระด้างอย่างไม่ตั้งใจ

                    (ว่ามา!) เสียงทุ้มเอ่ยอย่างสั่งจริงจังคลายความง่วงลงเป็นปลิดทิ้ง

                    "นักร้องเกาหลีห้าคนที่เป็นแขกรีสอร์ตเราน่ะ วงอะไร?" หญิงสาวถามเสียงเครียด เพราะนอกจากเธอจะพูดภาษาเกาหลีได้แล้ว เธอยังเป็นชาวเอเชี่ยนป๊อบตัวจริงอีกด้วย

                    (ตง ฟาง เสิน ชี่ ถ้าการอ่านทับศัพท์ภาษาจีนพี่ยังใช้ได้อยู่นะ) ชายหนุ่มตอบกลับมาอย่างไม่ค่อยแน่ใจ

                    "ไม่ผิดหรอกพี่เลิฟ ขอบคุณนะคะ อ้อ! พี่เลิฟระวังแม่ปลิงตัวใหม่ดีๆนา ซาว่าแม่นี่น่ากลัวทีเดียวล่ะ" ซารังพูดพลางเอ่ยเตือนพี่ชายจอมเจ้าชู้อย่างห่วงใยในประโยคสุดท้าย

                    (เออ พี่จะระวังไม่ให้พลาด อีกสักอาทิตย์ก็จะเปลี่ยนแล้ว)

                    "ลีลาไม่เด็ดสะใจเรอะ สองอาทิตย์เอง" เธอถามอย่างสงสัย ทั้งๆที่ตัวเองก็ไม่ได้ชอบใจแม่ปลิงนี่สักเท่าไหร่ ถึงเธอจะเข้าใจนิสัยเจ้าชู้สะบัดช่อของพี่ชายดีก็เถอะ

                    (ลีลาเด็ด แต่ดูท่าแม่นี่จะไม่พอแค่นี้น่ะสิ แล้วซาก็ไม่ชอบด้วย) เลิฟตอบอย่างตรงไปตรงมาโดยไม่คิดจะเกรงใจคู่นอนคนใหม่ที่นอนหมดเรี่ยวหมดแรงอยู่ข้างๆเลยสักนิด

                    "ซาก็ไม่ชอบหมดแหละคู่นอนของพี่น่ะ ง่าย! เออ! เดี่ยวซาไปหาตงฟางเสินชี่ของพี่ก่อนนะ แล้วเจอกันที่บ้านนะคะ บาย" หญิงสาวเอ่ยอย่างรัวเร็วก่อนจะกดตัดสายไปโดยไม่รอให้อีกฝ่ายเอ่ยลา

                    "พี่แตม" ซารังเรียกก่อนจะค้นหาของบางอย่างในกระเป๋าหนังสีดำของตนแล้วยื่นให้พี่ชายจอมสะเพร่า "นี่รูปของห้าคนนั้น ถ้าพี่แตมเจอก็โทรบอกซา แล้วไปเจอกันที่รถ" เธอทิ้งทายก่อนจะเดินตัวปลิวไปหานักร้องทั้งห้าคน แม้จะสงสัยนิดๆว่าดงบังชินกิมาทำไมที่เมืองไทย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องสนใจตอนนี้เพราะมีเรื่องที่สำคัญกว่า นั่นคือการหาดงบังชินกิทั้งห้าให้พบโดยเร็วจะได้รับกลับไปอ่านหัวขโมยแห่งบารามอสกับแหวนแห่งปราชญ์รอบที่ห้าต่อ!!

                    เครื่องดีเลย์เปล่าวะเนี่ย หญิงสาวคิดอย่างวุ่นวายใจ เครื่องลงตอนตีสาม พวกเธอก็มาถึงตอนตีสาม แต่ตอนนี้จะตีสี่แล้วเธอยังหาพวกเขาไม่เจอเลย

                    โว้ย!! เธอล่ะอยากจะบ้า ซารังคิดอย่างคนเครียดจัดผสมกับอาการนอนไม่พอเป็นสัญญาณบอกเธอว่าไมเกรนกำลังจะขึ้น และความสามารถในการควบคุมความใจร้อนของตัวเองก็จะดิ่งลงเหว เธอต้องทำอะไรสักอย่างก่อนที่เรื่องมันจะเลวร้ายมากไปกว่านี้

                    คิ้วคมขมวดมุ่นอย่างใช้ความคิดก่อนจะหาวิธีออก ตอนนี้เธอทำได้ทุกอย่างทั้งนั้น แต่ด้วยจรรยาบรรณที่ค้ำคออยู่ทำให้เธอไม่อาจทำให้แขกเดือดร้อนได้ แต่ถ้าเธอไม่ทำให้เขาเดือดร้อน คนที่จะเดือดร้อนก็คงไม่พ้นเธอเนี่ยแหละ

                    "ไม่ไหวแล้ววววววววว!!! คิมแจจุง จุงยุนโฮ ปาร์คยูเชิน ชิมชางมิน คิมจุนซู พวกนายอยู่ไหนกันนนน?" หญิงสาวร้องเป็นภาษาไทยในตอนแรกก่อนจะรัวชื่อของทั้งห้าแล้วต่อด้วยภาษาเกาหลีอีกชุดอย่างคนสติแตก ทำเอาเจ้าของชื่อทั้งห้าหันขวับก่อนจะเดินเร็วๆมาหาต้นเสียง...ทั้งๆที่คนเรียกไม่คิดว่าจะได้ผลแท้ๆ

                    "ขอโทษครับ คุณเป็นคนที่จะมารับพวกเราใช่มั้ยครับ?" เสียงทุ้มๆเอ่ยถามเป็นภาษาเกาหลีดังกระทบโสตเรียกให้คนสติกระเจิงหันขวับมามอง นัยน์ตาสีน้ำตาลเข้มจนเกือบดำเบิกกว้างทันทีที่มองเห็นคนตรงหน้าได้ชัดถนัดตา...คนที่เธอเอ่ยเรียกเป็นคนแรก คิมแจจุง!!!

                    "คุณพระ! เจออย่างปาฏิหาริย์มาก" หญิงสาวอุทานเป็นภาษาไทยก่อนจะหันไปยิ้มให้คนถามอย่างฝืดเฝื่อนแล้วเปลี่ยนระบบสมองให้ไปรับภาษาเกาหลี...ระบบสมองที่ตอนนี้ช่างล้าเกินทน

                    "ใช่ค่ะ เดี๋ยวฉันจะพาไปที่รถนะคะ ตามฉันมาค่ะ" เธอพูดก่อนจะเดินนำทั้งห้าไปที่รถพลางกดโทรศัพท์โทรหาพี่ชายที่แสนประเสริฐ

                    "พี่แตม ซาเจอแขกของเราแล้ว ไปเจอกันที่รถนะ" ไม่รอคำตอบรับจากปลายสายมือเรียวก็กดตัดทันทีด้วยความใจร้อน

                    "สุดยอดเลยนะครับ ไปตะโกนเรียกชื่อพวกเรากลางสนามบินแบบนั้น" แจจุงเอ่ยทำนองชวนคุยด้วยอารมณ์ขันน้อยๆที่คนถูกทักขยับยิ้มแหยๆส่งให้แต่ยังไม่ทันจะได้ตอบคนข้างๆหล่อนก็พูดแทรกขึ้น

                "ฉันว่าหน้าด้านมากกว่า" ยุนโฮว่าอย่างตรงไปตรงมา ทำเอาคนโดนว่าแทบจะด่ากลับยกชุด นี่หล่อนทำคุณบูชาโทษหรือไงวะเนี่ย

                    "ก็ถ้าฉันไม่ตะโกนเรียกอย่างนั้นฉันจะเจอพวกคุณมั้ยล่ะ? เอ...หรือฉันจะทำคุณบูชาโทษโปรดสัตว์ได้บาปซะแล้ว" ซารังโต้กลับอย่างไม่ไว้หน้า

                    "ไหนเขาว่าคนไทยมีน้ำใจไง?" จุนซูผู้น่ารักเอ่ยถามคนชอบอ่านหนังสือข้างๆ หากแต่คนเพิ่งโดนด่ากลับได้ยินแล้วเป็นฝ่ายตอบแทน

                    "คงยกเว้นยัยนี่"

                "เสียใจ! ถ้าฉันไม่มีน้ำใจนายคงต้องรอเงกอยู่ที่นี่ ไม่ก็คงต้องจับรถแท็กซี่ไปรีสอร์ตเอง เพราะคนมารับนายเขาหานายไม่เจอ!"ซารังโต้กลับอย่างคนหมดความอดทน ทำเอายุนโฮหาคำโต้กลับไม่ออก

                    "แล้วที่ว่าคนไทยมีน้ำใจน่ะก็ไม่ผิดหรอกนะคะจุนซู แต่เรื่องปากจัดไม่จัดมันขึ้นอยู่กับตัวบุคคลแล้วก็คู่สนทนา" ซารังอธิบายแต่ก็ยังไม่วายกระทบชายหนุ่มอีกคน

                    "เออ! คุยกันมาตั้งนานแล้ว ผมยังไม่รู้จังชื่อคุณเลย"ยูเชินเอ่ยถามพลางส่งยิ้มให้อย่างเป็นมิตร ถึงเขาจะไม่ได้คุยกับเธอแต่เท่าที่สังเกตเธอไม่ได้กรี๊ดกร๊าดอะไรกับดงบังชินกิ แถมยังรักษาความเป็นส่วนตัวให้ด้วย โดยยอมเรียกชื่อพวกเขารายคนแทนที่จะเรียกชื่อวง

                    "ฉันชื่อซารัง ชื่อเกาหลีเหมือนพวกคุณน่ะแหละ" หญิงสาวตอบพลางส่งยิ้มให้ยูเชิน

                    "ชื่อคุณแปลกดีนะครับ ซารัง(รัก)" ชางมินเอ่ยชม(?)

                    "ที่บ้านฉัน...ชื่อของทุกคนก็แปลตามนี้หมดน่ะค่ะ ตั้งแต่พี่เลิฟ พี่เฌอแตม ฉัน แล้วก็ไอน้องชาย" ซารังอธิบายยิ้มๆ ที่บ้านเธอพ่อแม่มีความรักให้กันตลอดชื่อของพวกเธอเลยมีแต่ รัก รัก รัก แล้วก็รัก

                    "บ้านที่อบอวลไปด้วยความรัก" จุนซูสรุปอย่างน่ารักเรียกเสียงหัวเราะจากคนอื่นๆได้เป็นอย่างดี ไม่แม้แต่ยุนโฮหัวหน้าวงหรือหญิงสาวเจ้าของเรื่อง

     

                    ซานั่งหลังนะ หญิงสาวเอ่ยกับผู้เป็นพี่ชายขณะที่ดงบังชินกิทั้งห้ากำลังขนกระเป๋าขึ้นรถ

                    มันแหงอยู่แล้ว ถ้าซาไม่นั่งแล้วใครจะนั่ง เฌอแตมตอบรับอย่างตรงไปตรงมาเพราะเขาต้องขับรถและคงให้ดงบังชินกิทั้งห้าไปนั่งท้ายรถไม่ได้

                    ซารังครับ พี่คุณพูดเกาหลีได้มั้ย?ชางมินถามอย่างสุภาพทำเอาคนไม่ค่อยสุภาพต้องสุภาพตาม

                    ไม่ได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นภาษาอังกฤษล่ะก็ได้

                เหรอครับ

                    แล้วเธอจะนั่งไหนล่ะ?ยุนโฮถามพลางมองที่นั่งในรถซีอาร์วีคันโตคงจุพวกเขาและเธอได้ไม่ครบ

                    ฉันนั่งท้ายรถ รีบๆขึ้นได้แล้ว จะได้รีบไปเธอตอบพลางไล่คุณหัวหน้าวงให้รีบๆขึ้นรถไปก่อนที่ตัวเองจะเปิดท้ายรถแล้วเข้าไปซุกอยู่ในมุมหนึ่งอย่างรวดเร็ว

                    แบ่งแยกชะมัดชายหนุ่มบ่นอุบอย่างเหลืออด ทำไมหล่อนพูดกับเขาต่างจากคนอื่นนักนะ

                    ซานั่งหลังนะ หญิงสาวเอ่ยกับผู้เป็นพี่ชายขณะที่ดงบังชินกิทั้งห้ากำลังขนกระเป๋าขึ้นรถ

                    มันแหงอยู่แล้ว ถ้าซาไม่นั่งแล้วใครจะนั่ง เฌอแตมตอบรับอย่างตรงไปตรงมาเพราะเขาต้องขับรถและคงให้ดงบังชินกิทั้งห้าไปนั่งท้ายรถไม่ได้

                    ซารังครับ พี่คุณพูดเกาหลีได้มั้ย?ชางมินถามอย่างสุภาพทำเอาคนไม่ค่อยสุภาพต้องสุภาพตาม

                    ไม่ได้ค่ะ แต่ถ้าเป็นภาษาอังกฤษล่ะก็ได้

                เหรอครับ

                    แล้วเธอจะนั่งไหนล่ะ?ยุนโฮถามพลางมองที่นั่งในรถซีอาร์วีคันโตคงจุพวกเขาและเธอได้ไม่ครบ

                    ฉันนั่งท้ายรถ รีบๆขึ้นได้แล้ว จะได้รีบไปเธอตอบพลางไล่คุณหัวหน้าวงให้รีบๆขึ้นรถไปก่อนที่ตัวเองจะเปิดท้ายรถแล้วเข้าไปซุกอยู่ในมุมหนึ่งอย่างรวดเร็ว

                    แบ่งแยกชะมัดชายหนุ่มบ่นอุบอย่างเหลืออด ทำไมหล่อนพูดกับเขาต่างจากคนอื่นนักนะ


    +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

    (หัวขโมยแห่งบารามอสกับแหวนแห่งปราชญ์ : เขียนโดย Rabbit - หนังสือที่ซารังอ่าน)

    *****************************************

    เป็นยังไงกันบ้างคะ ตอนแรกของ Sarang...รัก
    คือเราเพิ่งแต่งฟิคเกี่ยวกับดงบังชินกิเรื่องนี้เป็นเรื่องแรกน่ะนะ
    ผิดพลาดยังไงก็บอกกันด้วย
    แล้วก็ขอคอมเม้นท์เยอะๆนะคะ
    ขอบคุณมากค่ะ ^^

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×