ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ปริญญาเอกชีวิต

    ลำดับตอนที่ #2 : รับความจริงไม่ได้

    • อัปเดตล่าสุด 28 มิ.ย. 52


                   วันที่ ๑๘. เมษายน ๒๕๕๒ เวลาประมาณ ๑๖.๐๐ น. ฉันไปช่วยงานศพเพื่อนรุ่นน้องที่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมมาแต่ปี ๒๕๔๒ และเสียชีวติไปอย่างสงบเมื่อเวลา ๔ ทุ่มของวันที่ ๑๕ เมษายน ๒๕๕๒ ด้วยอมแพ้แก่โรคมะเร็งร้ายที่กัดกร่อนร่างกายและจิตใจมาเป็นเวลายาวนานถึง ๑๐ ปี ศิริอายุมรวม ๔๓ ปี 
                    ทุกคนลงประมติเป็นเอกฉันท์ให้ฉันเป็นคนเขียนกลอนไว้อาลัยแก่ผู้วายชนม์ ซึ่งฉันก็ไม่ได้ขัดข้องและเต็มใจที่จะเขียนให้น้องจากใจริงจริงโดยนำเรื่องราวคุณความดีของเขามาร้อยเรียงเป็นบทกลอนที่ไม่ยาวเกินไปแค่ครอบคลุมในทุกเรื่องราวที่แค่เพื่อน ๆ ได้อ่านแค่ฉบับร่างก็น้ำตาร่วงพลูประมาณนั้น
                    เพื่อนคนหนึ่งเย้าแหย่ฉันว่า
                    เขียนได้ดีนะ
                    อือ!เธอจะใช้บริการหรือเปล่าฉันจะจัดให้
                    ไม่ต้อง!ฉันยังไม่อยากใช้บริการเธอ
                    เราคุยเล่นกันระหว่างรอแขกช่วงเย็นเพราะการสวดศพวันนี้จะเป็นคืนสุดท้ายพรุ่งนี้ก็จะมีพิธีฌาปกิจตามประเพณีที่กำหนดไว้
                    พงษ์สุวัฒน์ น้องเขยคนเล็ก ของฉัน โทรศัพท์มาถามว่า
     พี่ปออยู่ไหน” “อยู่งานศพโก้พี่ทำใจดีๆไว้นะทำไมมีเรื่องอะไรบอกมาเร็ว ๆ
                    พี่เพชรเสียแล้วเป็นอะไรพี่เพชรผูกคอตาย เป็นไปไม่ได้ ฉันไม่เชื่อไม่ต้องมาบอก ฉันไม่เชื่อฉันรับไม่ได้ ฉันไม่เชื่อฉันรับไม่ได้ๆๆๆๆๆ
                    แล้วฉันก็ขว้างโทรศัพท์ทิ้งไปอย่างแรง
     
                    ความสับสนได้วิ่งเข้าปะทะชนสมองฉันทั้งแปดทิศ ฉันร้องไห้คร่ำตรวญเหมือนคนเสียสติ คำถามมากมายพร้อมกับความตกใจความสับสนทำให้สมองฉันหมุนติ้วจนต้องเกาะแขน ศุภชัย (จิ๋ว) ไว้แน่น และเพ้อเจ้ออย่างคนเสียสติว่า ว่า เป็นไปไม่ได้ๆๆ พอเพื่อนหรือน้องคนไหนตรงมาถามด้วยความสงสัยฉันก็โผล่เข้ากอดเขาแล้วก็ร่ำไห้เหมือนคนบ้าไม่มีผิด
     
                    น้องเล็กสุวิมล ได้ขับรถมาส่งฉันที่บ้านน้องสาวเพื่อตั้งหลักโดยมีจิ๋วขับรถตามมาอีกคัน น้องเล็กขับรถด้วยมือขวาข้างเดียวแต่มือซ้ายจับมือฉันไว้แน่น
    และพูดปลอบใจตลอดทางว่า พี่ต้องเข้มแข็งนะ พี่เป็นผู้หญิงที่เล็กชื่นชมเสมอ อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส พี่ก็ไปมาแล้ว พี่ยังผ่านมาได้  พี่เป็นหญิงแกร่งที่เล็กชื่มชมเสมอ พี่ต้องมีสติ เล็กเชื่อว่าพี่ทำได้
                    คำว่าพี่ต้องมีสติของน้องเล็กทำให้ฉันเริ่มได้สติ และเริ่มนึกถึงสิ่งแรกที่จะต้องทำคือโทรศัพท์หาลูกชายและพูดกับลูกด้วยเสียงสั่นเครือว่า
                    ลูกณัฐ ฟังคุณแม่พูดนะ ตอนนี้แม่สติสัมปชัญญะไม่ดี แต่ลูกต้องมีสติและช่วยคุณแม่แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน ฟังแม่พูดนะ น้าเพชรเสียแล้ว เสียอยูบ้านป้าน้อยแถวรามอินทรา ลูกต้องหาเบอร์โทรศัพท์ป้าน้อยก่อนแล้วถามทางไปบ้านป้าน้อยเดี๋ยวนี้เลยต้องไปอยู่เป็นเพื่อนป้าน้อยและจัดการเรื่องราวต่าง ๆ เบื้องตนไปก่อน แม่จะลงไปคืนนี้ พร้อม ๆ กับลุงใหญ่จะรับคุณยายจากกาฬสินไปด้วยกันคืนนี้เลย
                    เมื่อน้องเล็กเห็นฉันเริ่มมีสติรู้จักโทรสั่งลูกณัฐที่พึ่งเดินทางกลับกรุงเทพฯ วันก่อน แต่ก็ยังไม่ได้ไปทำงานเพราะศึกเสื้อแดงประท้วงรัฐบาลยังไม่เรียบร้อย
    เลยหยุดแถมหลังสงกรานต์ให้อีกสองวัน มันจึงเป็นวันหยุดที่ยาววววว ที่สุดเท่าที่เคยหยุดให้กับประเพณีสงกรานต์ที่ยาวนานกว่าครั้งสมัยใด ๆๆ
                    และเมื่อน้องเล็กสุวิมลขับรถไปส่งฉันถึงบ้านน้องสาวคนเล็กฉันก็เห็นเขายืนเกาะประตูรั้วรอฉันอยู่แล้วฉันยังไม่ต้องเดินผ่านรั้วบ้านที่ไม่สูงนักเข้าไป น้องก็โผเข้ามากอดร้องไห้ จนลูกเล็ก ๆ ที่แค่เห็นคนแปลกหน้าก็ตกใจ กลับยืนนิ่งมองแม่กับป้าร้องไห้เหมือนถูกมนต์สะกดประมาณนั้น
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×