คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : [Brothel] 4 - คู่หมั้น
“อื๊มม ~” เสียงครางใสดังอุดอู้อยู่ในลำคอของเด็กน้อย ที่ต้องปฏิบัติภารกิจเป็นเวลานาน ความเหนื่อยที่ถูกสะสมมาตลอดทั้งคืน ทำเอาเด็กน้อยแทบไม่อยากลุกขึ้นตื่นไปไหน ร่างเล็กนอนกอดผู้เป็นพี่เสมือนไม่อยากให้ไปไหน ศีรษะอิงอยู่บนหน้าอกขาวด้วยความรู้สึกที่แสนจะอบอุ่น เมื่อกันต์ธีร์เริ่มรู้สึกตัว ก็เงยหน้าขึ้นไปมองเจ้าของร่างที่ตนสวมกอดอยู่ด้วยความงัวเงีย ก่อนจะก้มหน้าลงมาหลับตาเช่นเดิม อีกทั้งยังกระชับกอดร่างของวรกรให้มากขึ้นไปอีก
“ยังจะนอนอีกหรอ”วรกรเอ่ยติเด็กน้อยอย่างขำๆ
“อืม ขอนอนต่ออีกหน่อยนะ” ว่าแล้วกันต์ธีร์ก็ขยับร่างอันเปลือยเปล่าเข้ามาใกล้วรกรให้มากกว่าเดิม แล้วกระชับกอดให้มากขึ้น
“สายแล้วนะซีดี วันนี้พี่มีนัดตอน 10 โมงนะ” วรกรใช้มือที่โอบกันต์ธีร์ ลูบไล้ไปตามเส้นผมและเรือนร่างอย่างเอ็นดู
“อยู่เป็นเพื่อนซีอีกหน่อยสิ นี่พึ่งจะ 8 โมงเองนะ”
“ไม่ได้ครับ อย่าดื้อสิ”
“หื้ย ใจร้าย อยากจะไปก็ไปเลย”กันต์ธีร์พลิกร่างไปอีกฝั่งของเตียง เพื่อปล่อยให้วรกรนั่นเป็นอิสระ
“อย่างอนสิครับ เข้าใจพี่หน่อยนะ พี่ก็อยากอยู่กับซีดีนานๆ แต่พี่ก็ปฏิเสธนัดไม่ได้” วรกรก้มตัวลงกอดเด็กน้อยที่มีทีท่าว่ากำลังน้อยใจ ก่อนจะกดจมูกลงที่แก้มเนียนของกันต์ธีร์ไปหนักๆ
“ไม่ต้องเลย จะไปก็รีบไป เดี๋ยวรถติดหรอก” เพียงแค่วรกรเห็นว่ากันต์ธีร์ดูจะเข้าใจเหตุผลของตน ก็ฉีกยิ้มอย่างดีใจ ก่อนจะก้มลงไปหอมแก้มเด็กน้อยอีกรอบ แล้วกระโดดลงจากเตียงไปอาบน้ำทันที ใช้เวลาไม่นานนัก วรกรก็ก้าวขาออกมาจากห้องน้ำ โดยมีผ้าเช็ดตัวเพียงผืนเดียวที่ปกปิดร่างกายส่วนล่างเอาไว้
“โหย เก็บเสื้อผ้าพี่ซะเรียบร้อยเลย ”วรกรเอ่ยแซวเด็กน้อยที่นอนคดตัวอยู่ใต้ผ้าห่มผืนยักษ์ เสื้อผ้าที่เคยกระจัดกระจายอยู่ตามพื้นห้อง บัดนี้ถูกผับไว้อย่างเรียบร้อยที่ปลายเตียงนอน
“พูดมาก ใส่ๆแล้วก็รีบไปเลย”
“แซวเล่นนิดเดียวเอง อย่างอนสิ ”วรกรทิ้งตัวนั่งลงข้างเตียง โดยมีซีดีนอนอยู่ข้างๆ ร่างสูงติดกระดุมที่ละเม็ดอย่างไม่รีบเร่งนัก
“ไม่ได้งอนสักหน่อย คนแก่ชอบมโนเองเนอะ” อยู่ๆกันต์ธีร์ก็เด้งตัวลุกขึ้นมานั่ง แล้วเอื้อมมือไปนวดที่ไหล่ของวรกรเบาๆ เพื่อให้ร่างสูงผ่อนคลายจากความเมื่อยล้าตลอดทั้งคืน
“เอาใจเก่งจริงนะเดี่ยวนี้ รู้หน้าที่แบบนี้เดี๋ยวพี่มาขอแต่งซะเลยดีไหม ฮ่าๆ”
“บ้าหรอ”
“ก็เล่นมาเตรียมเสื้อผ้า มานวดให้พี่แบบนี้ รู้ไหมมันเหมือนอะไร”
“?”
“เหมือนสามีภรรยาไง ฮ่าๆๆ”
“พูดภาษาบ้านๆก็ผัวเมียเหอะ ทำไมต้องใช้คำที่ดูเป็นทางการขนาดนั้น จะผู้ดีไปไหน” กันต์ธีร์ส่ายหัวอย่างเอือมระอา มือที่เคยนวดให้คนร่างสูง ค่อยเปลี่ยนมาสวมกอดเจ้าของร่างจากข้างหลัง แล้งอิงหัวลงที่ไหล่กว้างด้วยความเหนื่อย
“เหนื่อย........”
“พี่รอก็ได้นะ เดี๋ยวไปส่งที่บ้าน จะได้นอนพักระหว่างทางไง” วรกรกุมมือของกันต์ธีร์ขึ้นมาหอมเบาๆ
“ไม่เอา เดี๋ยวกลับเอง พี่รีบไม่ใช่หรอ” กันต์ธีร์ส่ายหัวเบาๆ ขณะที่เปลือกตายังปิดอยู่
“ขับรถมาเองหรอเรา”
“เปล่า เดี๋ยวขึ้นแท็กซี่กลับ”
“เดี๋ยววันหลังจะมาหาใหม่นะ” พูดจบ วรกรก็แกะมือกันต์ธีร์ให้ออกจากการสวดกอด แล้วหันหลังมาหาเจ้าของร่างด้วยความอาลัย ไม่ทันได้ตั้งตัวกันต์ธีร์ก็พุ่งเข้ามาประกบปาก ก่อนจะดูดเม้มริมฝีปากของร่างสูงด้วยความอาลัยไม่แพ้กัน ทั้งสองปล่อยให้อารมณ์บรรเลงจูบตามความต้องการซึ่งกันและกัน เพื่อแลกสัมผัสระหว่างกัน ก่อนจะต้องจากลา.........
กว่าหลายชั่วโมงที่วรกรต้องทนพูดคุยกับหุ้นส่วนคนสำคัญของบิดา ที่ดูๆแล้วการที่เขาถูกนัดมาในวันนี้ก็ไม่เชิงว่ามาคุยกันเรื่องธุรกิจ แต่เหมือนเป็นการเรียกเขามันดูตัวเสียมากกว่า ก็จะอะไรละ ผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นคุณหญิงแห่งปิติธัญเล่นเปิดทางให้ลูกสาวกับวรกรได้พูดคุยกัน แล้วดูเหมือนว่าหญิงสาวน่าตาน่ารักคนนี้ก็ดูจะสนใจในตัววรกรไม่น้อย ตลอดการพูดคุยคุณหญิงมักจะเอาเรื่องธุรกิจกับการจับคู่ให้ลูกสาวของตัวเองเสมอ ซึ่งดูๆแล้ววรกรไม่มีแม้แต่ท่าทีที่จะสนใจหญิงสาวคนนี้เลย จึงได้เพียงแต่ยิ้มรับไปตามมารยาทก็เท่านั้น
“หนูกั้งจะว่าอะไรไหม ถ้าน้าอยากจะทาบทามให้หนูหมั้นกับยัยเกรซ” คุณหญิงแห่งปิติธัญเริ่มเปิดบทสนทนาอย่างเป็นทางการ หลังจากพูดจาวนโลกมาเสียตั้งนาน
“ห๊ะ!”
“คือดูๆกันไปก่อนก็ได้นะลูก ค่อยๆศึกษากัน น้าว่าถ้าการที่ครอบครัวของเราสองคนสามารถจะปรองดองกันได้ การที่เราจะพัฒนาธุรกิจไปพร้อมๆกันก็จะง่ายขึ้น”
“อะ เออ..”
“เชื่อน้าสิ เกรซลูกน้าดีที่สุดแล้ว ทั้งน่ารัก เรียนเก่ง เป็นแม่บ้านแม่เรือนอีก ไม่เหมือนลูกของคุณธราอีกคน....”
“อีกคน? คุณอาธรามีลูกอีกคนหรือครับ” วรกรนึกแปลกใจ เพราไม่ว่าเขาจะมาคุยเรื่องธุระกิจกับคุณอาธรากี่ครั้งก็พบแต่เกวลิน ไม่ยักรู้มาก่อนว่าคุณอาธรามีลูกอีกคน
“อย่าไปสนใจเลยค่ะ เด็กคนนั้นชอบสร้างแต่ปัญหา บ้านก็ไม่ค่อยจะอยู่ สู้ลูกสาวของน้าก็ไม่ได้” คุณหญิงหันไปยิ้มหัวเราะชอบใจกับลูกสาวของตัวเอง ขณะที่วรกรยังนึกสงสัยถึงลูกอีกคนของอาธราที่เขาไม่เคบพบเคยเจอเลยสักครั้ง จะว่าไปทำไมเขาต้องสนใจประเด็นลูกของอาธราถึงขนาดนี่ นึกแล้วก็อดขำกับตัวเองไม่ได้
“นั้นมาพอดีเลย ซีดี!” คุณหญิงถึงกับหุบยิ้มทันที ที่มีบุคคลที่สามก้าวเดินผ่านมาทางห้องรับแขก เด็กหนุ่มที่ถูกเรียกชื่อ แสดงสีหน้าที่แสนจะเบื่อหน่ายผู้ได้ชื่อว่าเป็นแม่เลี้ยงไม่ได้ ก่อนจะก้าวเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าประตูห้องรับแขกอย่างไม่สบอารมณ์นัก
“ไหว้พี่เขาสิ นี่เป็นลูกชายของหุ้นส่วนสำคัญของพ่อแก” กันต์ธีร์ชายตามองไปยังบุคคลที่แม่เลี้ยงพึ่งจะแนะนำให้รู้จัก แต่พอเจ้าของร่างกันนั้นเงยหน้าขึ้นมา กันต์ธีร์ก็ถึงกับนิ่งค้าง ไม่ต่างจากวรกรที่ตกใจไม่น้อย ที่เห็นกันต์ธีร์ที่นี่ แสดงว่าลูกอีกคนของคุณอาธราก็คง....
“สะ สวัสดีครับ” กันต์ธีร์ยกมือไหว้วรกรหลังจากที่เรียกสติตัวเองกลับมาได้
“หึ! รู้จักพี่เขาไว้ก็ดีนะ เพราะหนูกั้งเป็นว่าที่คู่หมั้นของยัยเกรซ” คุณหญิงและเกวลินหันไปยิ้มให้กันต์ธีร์อย่างมีชัย กันต์ธีร์ถึงกับหน้าถอดสีเมื่อได้ยินว่าวรกรจะเป็นว่าที่คู่หมั้นกับศัตรูอย่างเกวลิน เขาไม่เคยพอใจกับหญิงทั้งสองที่ชอบว่างอำนาจใส่เขาและคนในบ้านเลยสักนิด หลายๆครั้งกันต์ธีร์ต้องทำเป็นหูทวนลม เพราะไม่อยากมีปัญญากับหญิงทั้งสองนัก ต่างคนต่างอยู่ บางทีอาจเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่กันต์ธีร์จะทำได้แล้วละมั้ง
“คุณน้าครับ เรื่องการหมั้น กั้งยอมรับข้อเสนอนะครับ” ทันทีที่วรกรหันไปยอมรับข้อเสนอของสองแม่ลูก กันต์ธีร์ก็ทำตัวแทบไม่ถูก นึกตัดพ้อในใจว่าตนคงไม่ได้สำคัญอะไรกับวรกร ความสัมพันธ์ระหว่างเขามันคงเป็นเพียงการซื้อขายบริการเท่านั้น
“แต่กั้งจะหมั้นกับซีดีคนเดียวเท่านั้น” วรกรลุกขึ้นยืนก่อนจะเดินไปหากันต์ธีร์ที่ยังคงนิ่งอึ้งอยู่ สายตาของ
วรกรจ้องมองเด็กน้อยตรงหน้าอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะโอบร่างของกันต์ธีร์ให้เข้ามาใกล้ แล้วจรดปลายจมูกทรงสวยเขาที่แก้มเนียนที่แสนคุ้นเคย
“ยังไง วันนี้กั้งต้องขอตัวก่อนนะครับ เดี๋ยวจะพาซีดีไปเลือกแหวนหมั้น”
“อะ เออ ”
“ไปครับซีดี คู่หมั้นของผม” วรกรกดจมูกลงที่แก้มของกันต์ธีร์อีกครั้ง แล้วโอบร่างของเด็กน้อยที่ยังดูเหมือนจะยังไม่ได้สตินัก เดินออกมา
วรกรกึ่งลากกึ่งฉุดกันต์ธีร์ให้เดินไปยังร้านเครื่องประดับหรูแห่งหนึ่งในห้างสรรพสินค้าชื่อดัง ซึ่งดูๆแล้วร่างบางเองก็ยังดูมึนๆงงๆกับเหตุการณ์ที่พึ่งเกิดขึ้นไม่น้อย ที่อยู่ๆดันถูกวรกรจับมาเป็นคู่หมั้นซะงั้น แม้ในใจลึกๆก็แอบดีใจที่อย่างน้อยๆคนร่างสูงก็ยังเลือกเขา แต่อีกใจนึงก็อดคิดไม่ได้ว่า การที่วรกรเลือกเขามาเป็นคู่หมั้นนั้นเพียงเพราะต้องการกันตัวเองมาจากเกวลินหรือเปล่า
“ซีดี ชอบแหวนวงไหนครับ”
“หะ ห๊ะ?”
“นี่ พี่พามาซื้อแหวนหมั้นนะ ทำหน้าให้มันดีๆหน่อยสิ” วรกรส่ายหน้าเอือมระอากับท่าทางของกันต์ธีร์ที่เอาแต่เหม่อลอยมาตั้งแต่ออกจากบ้าน
“ที่นี่ไม่ใช่ที่บ้านนะ ไม่ต้องเล่นละครตบตาคนอื่นหรอก อีกอย่างพี่แค่เอาผมมาอ้างเพื่อจะได้ไม่ต้องหมั้นกับยัยนั้นไม่ใช่หรอไง” กันต์ธีร์เบะปากอย่างงอนๆ
“ที่พี่เลือกหมั้นกับซีดีเพราะพี่พอใจในตัวซีดี ไม่ใช่เพราะใครสักหน่อย”
“…………….”
“ถ้าให้พี่ทาย ซีดีคงไม่ชอบอะไรที่ดูเป็นทางการเกินไปใช่ไหมครับ ”
“อะ อ่า ครับ”
“ว่าแล้วเชียว งั้นดูวงนี้เป็นไง ชอบหรือเปล่า”วรกรส่งแหวนรูปร่างที่ดูแปลกตามาให้กันต์ธีร์พิจารณาว่าถูกใจหรือเปล่า เด็กน้อยเมื่อเห็นแหวนตรงหน้าก็ยกยิ้มอย่างถูกใจ เพราะแหวนวงนี้มันดูสะดุดตา ดูเท่ ดูแปลก ไม่เหมือนใคร หากจะบอกว่าแหวนนี่เป็นแหวนหมั้นคงไม่มีใครเชื่อเพราะดูๆไปแล้ว มันเหมือนเป็นแหวนแฟชั่นเสียมากกว่า
“เท่จัง ซีดีชอบวงนี้ๆ”
“มา เดี๋ยวพี่ใส่ให้”ว่าแล้ววรกรก็เอื้อมไปจับมือข้องกันต์ธีร์ขึ้นมา แล้วค่อยๆสวมแหวนเข้าไปที่นิ้วนางข้างขวา แต่ก็ต้องผิดหวัง เมื่อแหวนวงดังกล่าวกลับดูหลวมเกินไปสำหรับกันต์ธีร์ วรกรจึงหันไปถามพนักงานว่ามีวงเล็กกว่านี้ไหม แต่โชคก็ดูไม่ไม่เข้าข้างทั้งสอง เมื่อแหวนที่ถูกใจกลับไม่มีไซต์ที่พอดีนิ้วของกันต์ธีร์เลย
“ไม่เป็นไรพี่กั้ง เดี๋ยวใส่นิ้วอื่นก็ได้”กันต์ธีร์ไม่ละความพยายาม จึงถอดแหวนจากนิ้วนาง มาลองใส่ที่นิ้วอื่นๆดู ปรากฏว่ามันมีขนาดที่พอเหมาะกับนิ้วกลางพอดีเป๊ะ
“นี่ไง ใส่ได้พอดีเลย แล้วพี่กั้งละ?”
“พี่ก็ใส่ได้นิ้วกลางครับ” วรกรชูมือขึ้นมาให้กันต์ธีร์ดู แล้วฉีกยิ้มอย่างมีความสุข เมื่อทั้งสองตกลงเลือกซื้อแหวนหมั้นกันเรียบร้อยแล้ว ก็เดินออกมาจากร้าน แล้วเดินเล่นไปทั่วห้างอย่างมีความสุข โลกมันกลมเกินไปหรือเปล่าที่พาให้เขาทั้งสองได้มาเจอกันเป็นครั้งที่สาม ไม่ว่ามันจะเป็นเพียงความบังเอิญหรือฟ้าลิขิตขอเพียงแค่บนเส้นทางสายนี้ มีวรกรและกันต์ธีร์เดินจับมือไปด้วยกัน ไม่ว่าตอนนี้พวกเขาจะอยู่ในสถานะไหนก็ตาม แค่มีกันและกัน แค่นี้ก็เพียงพอแล้ว
“ซีดี”วรกรเอ่ยเรียกชื่อของกันต์ธีร์ขึ้น ทันทีที่ทั้งสองก้าวขาขึ้นรถ
“ห๊ะ?”คนถูกเรียน ขานตอบแล้วหันหน้าไปยิ้มให้วรกร
“เป็นแฟนกันนะ” เงียบ.....ทั้งสองตกอยู่ในความเงียบโดยไม่ได้นัดหมาย ทั้งคู่หันมาสบสายตากัน โดยที่แววตาของวรกรนั้นบ่งบอกถึงความตื่นเต้นและลุ้นคำตอบรับของเด็กน้อยตรงหน้าอย่างเก็บไม่มิด ส่วนแววตาของกันต์ธีร์นั้นก็พยายามมองลึกเข้าไปในดวงตาของวรกรอย่างต้องการคำตอบ เพราะไม่แน่ใจว่าคนตรงหน้าต้องการอะไรจากเขา ถามว่าดีใจไหม มันก็ดีใจ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าในใจลึกๆของเขาก็รู้สึกดีกับ
วรกรไม่น้อย
“เป็นแฟนกับพี่นะ”วรกรพูดซ้ำพร้อมกับพุ่งเข้าไปหอมแก้มของกันต์ธีร์เบาๆ เมื่อเห็นว่าเด็กน้อยยังไม่ให้คำตอบแก่ตนเสียที
“อะ ไอ้พี่บะ บ้ า” กันต์ธีร์หน้านิ้วด้วยความโกธรและเขินอายอยู่ไม่น้อย มือเรียวยกมาลูบที่แก้มตัวเองเบาๆอย่างเขินๆ
“เป็นแฟนกับพี่กั้งนะครับซีดี”คำขอครั้งสุดท้ายจากวรกร ยิ่งทำให้กันต์ธีร์รู้สึกใจสั่น ไม่รอให้เด็กน้อยได้ตอบคำถาม วรกรรีบพุ่งเข้าประกบปากทันที เพียงสัมผัสแรกที่ริมฝีปากของทั้งสองประกบเข้าหากัน ความรู้สึกมันเหมือนถูกย้อนไปในวันวาน วันแรกที่พบกัน วันแรกที่เคยได้แลกสัมผัสสวาท หรืออาจเป็นครั้งที่สองที่ทุกอย่างดูจะเป็นใจให้ทั้งสองได้เปิดใจเข้าหากันมายิ่งขึ้น ความอบอุ่น ความเข้าใจ ความโหยหา แต่นั้นก็คงไม่สำคัญเท่ากับความรู้สึกในตอนนี้ แม้อาจจะยังไม่มั่นใจในความรู้สึกของกันและกันว่าต่างคน ต่างคิดเหมือนกันหรือเปล่า หรือมันอาจเป็นแค่ความอ่อนไหวที่ได้อยู่ใกล้กันเท่านั้น เราอาจกำลังเหงาหรือเปล่า พอได้มีใครสักคนเข้ามาคลายความเหงา เราอาจคิดไปกันเองว่านี่คือ ‘ความรัก’
วรกรขยับอ้าปากออก แล้วดูดปากเล็กนั้นด้วยความหลงใหล มันอาจเป็นเพียงจูบที่แสนธรรมดา แต่จะรู้อะไรไหมว่าเขาตั้งใจถ่ายทอดความรู้สึกทุกอย่างให้คนตรงหน้าได้รับรู้ ได้รู้ว่าทุกอย่างที่เกิดขึ้น รับรู้ว่าทุกอย่างที่เขาได้ทำลงไป มันเกิดมาจากความรู้ของเขาจริงๆ ไม่ใช่เพียงความอ่อนไหวหรือการเอาชนะ และตอนนี้เขากำลังรอคำตอบของเด็กน้อยตรงหน้า ขอเพียงว่าให้คนตรงหน้ายินดีรับความรู้สึกที่เขามีให้ และตอบสนองเขากลับมาด้วยความรู้สึกเดียวกันก็พอ...... ไม่นานกันตีร์ก็ค่อยๆขยับปากโต้ตอบกลับมาเบาๆอย่างเคลิ้มๆ อันเป็นภาษากายที่เสมือนตอบคำถามของวรกรได้หมดทุกอย่างว่า ‘ผมตกลง’
จบ
ตอน
อุต๊ะ ภาษากายของชายคือดูดีเนอะ 555555
อีซีถึงขั้นปฏิเสธไม่ลง
เเต่เเหม่ ตอนต้นอีซีอ่อยกั้ง ตอนท้ายกั้งอ่อยซี
สรุปคือจะไม่ยอมกันใช่มั้ย 5555555
ติชมได้จ้าวว
ความคิดเห็น