คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : [Stop it!!] 17 - ชีวิตบนเส้นด้าย
ในวันใดที่คนรักมีเรื่องที่ต้องทุกข์ใจ เขาอยากจะเป็นคนแรกและคนเดียวที่หญิงสาวจะนึกถึง แม้อาจไม่ได้เป็นคนที่อยู่ในสายตา แค่เพียงได้มองและดูและอยู่ห่างๆอย่างนี้ก็เพียงพอแล้ว.....กันต์ธีร์เปิดเปลือกตาขึ้นมาในยามเช้า ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรักและความหลงใหล กันต์ธีร์เฝ้ามองหญิงสาวอยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจลุกขึ้นเพื่อไปจัดการธุระส่วนตัวของตนเองที่ห้อง ชายหนุ่มเดินเข้ามาในห้องที่แสนจะคุ้นเคยอย่างไม่รีบเร่ง ทั้งที่ตั้งใจจะรีบทำธุระส่วนตัวให้เสร็จแล้วจะได้รีบกลับไปดูแลชนัญญา แต่หัวใจก็ต้องตกลงไปอยู่ที่ตาตุ่มเพราะภายในห้องนั่นว่างเปล่า ไม่มีร่างของชายหนุ่มที่เขาเคยกอดอยู่ทุกวันวาน กันต์ธีร์วิ่งหาวรกรไปทั่วทุกมุมห้อง แต่กลับต้องผิดหวัง ในใจยังคงปลอบตัวเองว่าคนร่างเล็กคงจะเดินลงไปข้างล่างหรือไปอาบน้ำที่ริมธารดังเช่นทุกวัน คิดได้ดังนั้นก็รีบก้าวฝีเท้าลงไปตามขั้นบันไดด้วยความรู้สึกหวั่นๆที่ใจ
“ซีดี!” เสียงของธีรธรเอ่ยทักขึ้น
“ห๊ะ”
“มึงรีบไปไหนแต่เช้า ท่าทางรีบร้อน”
“ป ปะ ไป..”ยังไม่ทันที่กันต์ธีร์จะพูดจบประโยคก็มีเสียงเข้มของใครบางคนพูดแทรกขึ้นมา จนทำให้สองพี่น้องต้องหันไปตามเสียงนั้น
“ไอ้วาย ไหนบอกจะพาไปหาน้องบิวไง”วรธรเดินเข้ามาทักเพื่อนหนุ่มด้วยน้ำเสียงที่แสนจะหงุดหงิด ก่อนจะเปรยตามองคู่สนทนาของเพื่อนสนิทแล้วยิ้มทักทายให้ตามมารยาท
“เดี๋ยวดิ มึงจะรีบไปไหน พึ่งมาถึงเองเนี่ย”ธีรธรได้แต่บ่นเพื่อนอย่างหน่ายใจ “ไอ้ซี นี่ไอ้ก้องเพื่อนกูเอง ส่วนนี้ซีดีแฝดกู”ธีรธรชี้นิ้วแนะนำให้ทั้งสองรู้จักกัน
“เออ....”เขาได้แต่ยืนอึ้งกับชายหนุ่มตรงหน้า ทั้งรูปร่าง น่าตา บุคลิกช่างเหมือนกับวรกรเหลือเกิน แม้จะดูมีมาด และดูนิ่งครึ้มมากกว่าก็ตาม หรือนี่จะเป็นพี่ชายของคนที่เขากำลังตามหา......
“หวัดดี ยินดีที่ได้รู้จักนะซีดี”
“อื้ม ยินดีที่ได้รู้จัก”
“เออ เดี๋ยวกูว่าจะไปซื้อของในเมือง พวกมึงจะเอาไรมั้ย”ธีรธรเอ่ยถามเพื่อนและพี่ชายของตัวเอง
“มึงพึ่งออกไปรับกูเข้ามา จะออกไปอีกแล้วหรอ”
“ที่บ่นเนี่ย กลัวทนคิดถึงกูไม่ได้ใช่ป่ะ เวลาไม่มีกูอยู่ใกล้ๆ ฮ่าๆๆ”
“งั้นเชิญคุณมึงรีบๆไปเลย กูคงสบายหูขึ้นเยอะ”
“ฮ่าๆๆ มึงแม่งหลอกตัวเองวะ เออไอ้ซีเป็นไรเปล่า วันนี้เงียบไปแปลกๆนะ”เมื่อธีรธรโต้ตอบกับเพื่อนสนิทเสร็จก็หันมาถามผู้เป็นพี่ชายอย่างเป็นห่วง อาจด้วยสีหน้าและแววตาของกันต์ธีร์ที่ดูมีความกังวลใจแปลกๆ
“เปล่า... มึงออกไปข้างนอกก็ขับรถดีๆล่ะ”พูดจบเขาก็หันหลังเพื่อจะเดินกลับไปยังห้องของชนัญญาอีกครั้ง “เราจะไปหาบิว จะไปพร้อมกันเลยไหมกั้..ก้อง”
“อ่อ เออ ไปสิ”
กันต์ธีร์เดินนำทางวรธรมาที่ห้องของชนัญญาด้วยสีหน้ากังวลใจ ทั้งอึดอัดทั้งรู้สึกผิดจนไม่กล้าแม้แต่จะสบสายตาเลยด้วยซ้ำ เขาได้แต่เฝ้ามองเพื่อนสนิทของแฝดน้องอยู่ห่างๆ ยิ่งมองก็ยิ่งทำให้เขานึกถึงวรกร สิ่งที่เขาสามารถสัมผัสได้จากตัววรธรคือความอ่อนโยน และความอบอุ่น ไม่แปลกใจเลยหากตอนที่วรกรยังอยู่กับเขา ไม่ว่าจะมีเรื่องทุกข์ใจอะไรก็แล้วแต่ผู้ชายคนนี้จะเป็นคนแรกที่วรกรจะนึกถึง
“ยัยไก่ ตื่นมาได้แล้ว ฉันไม่อยากเสียแกไปอีกคนนะ”เสียงของวรธรดังขึ้นจนทำให้เขาหลุดออกจากภวังค์ความคิด
“กั้งคงรู้สึกแย่มากนะ ถ้าทำให้แกต้องเป็นแบบนี้ ตื่นมาได้แล้ว เราจะไปตามหากั้งด้วยกันนะบิว......”ยิ่งได้ยินก็ยิ่งรู้สึกผิด จริงๆแล้วที่ทุกอย่างเป็นแบบนี้มันคงเป็นเพราะตัวเขาเอง กี่คนแล้วที่ต้องมาเสียใจเพราะการกระทำบ้าๆ ความคิดบ้าๆของเขา วรกรแม้ภายนอกจะดูอ่อนแอ แต่จิตใจกลับแข็งเกร่งกว่าที่คิด ส่วนวรธรแม้ภายนอกจะดูเข้มแข็ง เป็นผู้นำคนอื่นได้ แต่กลับปิดซ้อนความอ่อนแอเอาไว้ แต่สิ่งที่เขาคิดว่าทั้งสองมีเหมือนกันคือการเอาใจใส่กับคนรอบข้างละมั้ง แม้ตัวเองก็มีสิ่งทุกข์ใจและความอ่อนแอ แต่ก็ค่อยเทคแคร์ความรู้สึกของคนอื่นก่อนเสมอ และมันก็ยิ่งทำให้เขาละอายใจกับการกระทำของตัวเอง กันต์ธีร์เดินออกมาจากห้องอย่างเงียบๆก่อนจะปลีกตัวหลบมาอยู่ในห้องตัวเองคนเดียว
ห้อง...ที่เคยมีใครอีกคนอยู่ด้วย
ห้อง...ที่เขาเคนทำร้ายจิตใจคนบางคน
ห้อง...ที่ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง
แต่กลับไม่มีๆคนๆนั้นอยู่แล้ว เหลือก็แต่กลิ่นกายจางๆเท่านั้น
“นายคงกำลังออกไปทำงานใช่ไหมกั้ง.....เพราะนายเป็นคนรับผิดชอบต่องาน แล้วก็เป็นห่วงไร่ของฉันเสมอ....เดี๋ยวตอนเย็นนายก็จะกลับขึ้นมานอนกับฉันเหมือนเดิม”กันต์ธีร์ทิ้งตัวลงนอน แล้วเอามือลูบไปตามเตียงนอน เรียวปากเผยยิ้มออกมาจางๆ แต่หัวใจกลับสั่นไหว หยาดน้ำตาร่วงโรยออกมาโดยไม่รู้ตัว เขาหลับตาลงเพราะอยากจะหยุดคิดเรื่องทุกอย่าง แต่ภาพของวรกรกลับฉายเข้ามาในหัวซ้ำไปซ้ำมา
หลังจากที่วรกรตัดสินใจทิ้งทุกอย่างแล้วเดินออกมาจากบ้านหลังนั้น เขาทิ้งความรู้สึกต่างๆ ทิ้งภาพความทรงจำ และทิ้งน้องสาวเอาไว้ เจ็บแทบตาย....แต่เขาก็ต้องเลือกเดินออกมา เพราะเขารู้ตัวดีว่าตนเองไม่ได้สำคัญอะไรที่จะต้องอยู่ หากนี้เป็นเกมที่กันต์ธีร์เลือกมาให้เขาเป็นหมากไว้เล่น เขาก็คงต้องขอถอนตัวออกมา เพื่อทุกอย่างจะได้จบ วรกรเดินออกมาตามเส้นทางโดยมีเสื้อแขนยาว และผ้าโพกหัว ยิ่งเวลาเดินไปมากเท่าไร ความร้อนจากแสงแดดก็ยิ่งแรงขึ้นเท่านั้น มันยิ่งทำให้ร่างกายของเขาเริ่มอ่อนแรงเข้าไปทุกที ทุกย่างก้าวของวรกรก็แสนจะยากลำบาก ด้วยพิษไข้จากเดิม และทั้งแสงแดดที่คอยแผดเผาผิวกายจนแสบร้อนไปทั่วเรือนร่าง แต่นั้นก็ไม่ทำให้
วรกรล้มเลิกความตั้งใจที่จะเดินไปยังปลายทาง.......
“โอ๊ย!อึ๊บ!” วรกรล้มลงกับพื้นอย่างหมดแรง ลมหายใจโรยรินก็รีบสูดหายใจเข้าเต็มปอด ใบหน้าที่เคยใสสะอาดแนบลงพื้นดินก่อนสายตาจะเหลือบมองไปยังทางข้างหน้า
“ลุกขึ้นให้ได้สิกั้ง เราต้องเดินไปข้างหน้า พี่ก้องรอเราอยู่นะ” วรกรยันร่างของตัวเองให้ลุกขึ้นยืนอย่างยากลำบาก แม้ต้องใช้ความพยายามอยู่หลายครั้งก็ตาม เจ้าของร่างเดินไปตามทางด้วยความหวัง หวังว่านี้จะเป็นเส้นทางที่เขาเลือกถูก หวังว่ามันจะไม่เกิดเรื่องร้ายๆอย่างที่เคยเจอ หวังว่าเขา.....จะกลับไปหาวรธรได้สำเร็จ
“ฮื้ย~” นิ้วเรียวเกร็งขึ้นจนวรกรไม่สามารถควบคุมได้ ขายาวโซเซก่อนจะล้มลงกับพื้นอีกครั้ง ร่างกายโค้ดงอ ริมฝีปากบิดเบี้ยวไปตามแรงเกร็งของร่างกาย วรกรใช้นิ้วจิกลงกับพื้นเพื่อบรรเทาความเจ็บปวด เมื่อรู้ว่าไม่สามารถลุกขึ้นได้ เขาจริงตัดสินใจค่อยๆคลานไปตามทาง แม้แสงแดดจะแผดเผาจนเนื้อกายค่อยๆปริออกจนมีเลือดไหลออกมาซึมๆมาแล้วก็ตาม
“อ๊าก! อ๊ากกกกกกกก”วรกรร้องออกมาด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะดิ้นทุรนทุรายอีกครั้ง นั้นเป็นเพราะเหงื่อที่ออกมาตามรูขุมขน ไหลไปโดนปากแผลที่มีเลือกซึมอยู่ ความแสบคันและความร้อนของร่างกายเหมือนไฟที่กำลังเผาร่าง ‘ไม่ไหวแล้ว’เขาได้แต่คิดในใจ โสนประสาทต่างๆที่ควบคุมร่างกายก็รวนเพื่อปรับระบบต่างๆให้กลับมาปกติ แต่ก็ดูเหมือนว่าอวัยวะต่างๆภายในจะทำงานหนักเกินไปจนวรกรนั้นช็อก
“คุณ คุณ คุณครับ”เสียงและแรงเขย่าจากใครบางคน ช่วยเรียกสติอันเลือนรางของเขา “คุณได้ยินผมไหม คุ. ณ..เ ฮ้ย! กั้ง!!”
‘ขอบคุณสวรรค์ ที่เมตตา ส่งคนฉุดผมขึ้นมาจากความตายอีกครั้ง~’
ธีรธรนั่งรออยู่หน้าห้อง ICU นับหลายชั่วโมงก็ยังไม่มีท่าทีที่แพทย์จะออกมาแจ้งอาการของวรกรเลย ทุกวินาทีที่เขารอ ก็มีคำถามมากมายเข้ามาในสมองไม่หยุด ภาพของวรกรยังคงติดตาเขาอยู่ เรือนร่างที่เคยใสสะอาดถูกแทนที่ด้วยแผลอันแหวะหวะ ทุกอณูของรูขุมขนเต็มไปด้วยคราบเหงื่อ คาบเลือด ใบหน้าที่เคยสดใส งดงามกลับหมองคล้ำ ร่างกายก็ซูบผอม ขนาดเขาเคยเจอวรกรไม่กี่ครั้ง ภาพที่เห็นยังทำให้เขาสะเทือนใจได้ขนาดนี้ แล้วถ้าเป็นวรธรล่ะ?...........คนที่เฝ้าทะนุทนอมวรกรมาตั้งแต่เด็กๆจะรู้สึกเสียใจมากแค่ไหน ที่เห็นน้องชายของตัวเองตกอยู่ในสภาพแบบนี้ ‘จะบอกเรื่องนี้กับก้องยังไงดี?’
“คุณเป็นญาติของคุณวรกรใช่ไหมครับ” ชายมีภูมิฐานเอ่ยทัก
“ครับ”
“ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วนะครับ แต่ก็ยังไม่พ้นขีดอันตราย คลื่นหัวใจของคนไข้เต้นไม่ตรงจังหวะ หมอเลยต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเอาไว้ ส่วน......” นายแพทย์หนุ่มหยุดพูดด้วยความหนักใจ“เรื่องบาดแผลตามร่างกาย หมอไม่ทราบว่าผู้ป่วยมีโรคประจำตัวหรือเปล่าครับ”
“มีครับ เพื่อนผมเป็นโรคแพ้แดด เขาหายออกไปจากบ้านนะครับ แล้วผมก็มาเจอเขาในสภาพนั้น” ธีรธรตอบกลับด้วยความกังวลใจ
“หมอพูดตรงๆนะครับ ตอนนี้ผิวหนังของคนไข้เสียไป30% แต่เราก็ยังพอมีทางรักษาให้ดีขึ้นได้นะครับ แต่คงต้องใช้เวลา......”
“แต่เรื่องที่หมอเป็นห่วง คงจะเป็นเรื่องระบบประสาทกับการช้ำในหลายๆจุดของอวัยวะภายใน........ตอนนี้หมอคงได้แต่เฝ้าดูอาการของคนไข้ ถ้าหาร่างกายมีการตอบสนองได้ดีและกลับมาทำงานเป็นปกติ ก็คงไม่ยากที่จะฟื้นฟูสภาพร่างกายและจิตใจ แต่ถ้าไม่เป็นอย่านั้น......หมอก็อยากให้ญาติทำใจเผื่อไว้บางนะครับ
มาเเบบดราม่าทั้งตอน ตอนนี้ได้เห็นความเศร้า ความรู้สึกผิดของทุกคนเนอะ
กั้งหนีซีได้แล้ว แต่จะรอดไหม TT นางเป็นหนักมาก มาจากการสะสมอันยาวนานนน ตั้งเเต่มาอยู่กับซี
บางคนอาจสงสัย กั้งเป็นหนักขนาดนี้เลยหรอ? เว่อร์ไปป่ะ?
แต่อยากให้เข้าใจชายเนอะ ว่านางไม่ปกติ นางเป็นโรค จริงๆควรจะเเสดงอาการมาตั้งเเต่อยู่กับซีละ
เเต่นางก็อดทนไง ไม่ได้กินยาไรงี้อีก เลยเป็นหนัก เพราะซีชอบรุนเเรงด้วย ไม่ค่อยสนเวลากั้งป่วย
พอเดาออกได้ไหมว่าอะไรที่จะทำให้ทุกตัวละครเสียใจ? เเล้วคนที่เสียใจที่สุดก็จะเป็นก้องเเน่ๆ
ส่วนซีดี ตัดทิ้งไป เพราะนางจะเป็นคนที่ได้รู้เรื่องนี้คนสุดท้าย
ปล.สปอยเยอะเนอะ 555555555555
ปล1. ติชมได้จ้า เม้นๆด้วยเนอะ อยากได้กำลังใจ +ความคิดเห็นว่าเรื่องมันโอไหม คือไม่ได้เขียนนานฝีมือตก
ปล2.ฝากเเชร์ด้วยจ้าาา
ความคิดเห็น