คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : [Stop it!!] 16 - ถึงเวลา หมดการรอคอย
วรกรตื่นขึ้นมายามเช้าด้วยความเคยชิน แม้ว่าตัวเองยังคงไม่หายจากพิษไข้ดีนักก็ตาม เจ้าของร่างยันตัวเองลุกขึ้น ก่อนจะเอามือกุมขมับเมื่อรับรู้ได้ถึงแรงบีบของสมอง วรกรตั้งตัวอยู่นาน ก่อนจะรวบรวมแรงที่มีอยู่ทั้งหมดดึงตัวเองขึ้น แล้วรีบลงไปทำธุระของตัวเองดังเช่นทุกวัน แม้จะรู้สึกแปลกๆอยู่บ้างว่าวันนี้สายตาของเขาช่างพร่ามัว มองอะไรก็ไม่ชัดไปเสียหมด แน่นอนว่ามันยิ่งทำให้วรกรลำบากขึ้นไปเป็นสองเท่าตัว ทั้งปวดหัว ทั้งมองไม่ชัด แล้วแบบนี้กว่าจะทำธุระเสร็จคงไม่ทันกันต์ธีร์ตื่นกันพอดี
“เป็นบ้าอะรขึ้นมาอีกเนี่ยกั้ง! เวลาจะป่วยช่วยป่วยที่ละอย่างจะได้ไหม ฮื้ย!!!” วรกรบ่นอย่างรำคาญกับอาการป่วยของตัวเอง
“อย่าพึ่งรีบตายนะกั้ง เราต้องกลับไปหาพี่ก้องก่อนสิ” ในเวลานี้เขาคงได้แต่ให้กำลังใจตนเองสู้ต่อไป เพราะเชื่อว่ายังไงสักวันเขาก็ต้องได้กลับไปหาพี่ชายสุดที่รักอย่างแน่นอน เมื่อจัดการธุระของตัวเองเสร็จวรกรก็รีบกลับมาเก็บของที่ห้อง เพราะคิดว่าในเวลานี้กันต์ธีร์คงตื่นนอนแล้ว หากกลับไปช้าอาจโดนตำหนิได้ ช่วงนี้เขาไม่อยากมีปัญหาหรือขัดใจอะไรคนร่างสูงนัก
“ไปไหนมา” เพียงแค่ก้าวขาเข้ามาในห้อง ร่างบางก็แทบสะดุ้งกับน้ำเสียงนิ่งๆที่แฝงไปด้วยความหงุดหงิดของเจ้าของห้อง
“เราไปอาบน้ำมา”วรกรตอบกลับด้วยเสียงที่ไร้เรี่ยวแรง แล้วเดินมาหยุดที่ตรงหน้าของกันต์ธีร์ “คุณยังไม่อาบน้ำหรอ จะแช่ตัวไหม เดี๋ยวกั้งจะไปเปิดน้ำไว้ให้”
“ไม่ต้อง นายนอนพักเถอะ”ร่างสูงพินิศใบหน้าอันซีดเซียวของคนตรงหน้าอยู่นาน ก่อนจะตัดสินใจพูดออกไปด้วยความเป็นห่วงลึกๆ
“จะนอนได้ไง เราต้องทำงานอยู่นะ”
“แรงจะไม่มีจะยืน ยังจะทำงานอีกหรือไง”
“ก็ ก็ไม่งั้นงานจะไม่เสร็จ แล้วก็ไร่คุณอาจมีปัญหาถ้าไม่ทำงานได้ตามเป้า” กันต์ธีร์ได้แต่แอบอมยิ้มและนึกขำกับความจริงจังของร่างบาง เพราะเอาจริงๆแล้วไม่จำเป็นเลยที่วรกรจะต้องทำงาน ทุกอย่างมันเป็นเพราะเขาแค่อยากแกล้งก็เท่านั้น“นายนี่แปลกคน อยากทำงานทั้งๆที่ป่วย”
“เอาเป็นว่าตามนี้ นอนซะ”เมื่อเห็นว่าวรกรมีท่าทีที่จะเถียงต่อ กันต์ธีร์เลยรีบพูดแทรกตัดบทสนทนาก่อนจะดึงข้อมือของคนตรงหน้าเพื่อให้มานั่งลงระหว่างขาขอตนที่เตียงนอน
“เอ่อ...”วรกรได้แต่นั่งนิ่ง มึนงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น กระทั่งได้สัมผัสที่โอบกอดมาจากข้างหลัง
“นายผอมลงไปเยอะเลยนะ”ร่างสูงเกยคางไว้ที่ไหล่ของวรกรก่อนจะพูดอย่างรู้สึกผิด “นึกถึงวันแรกที่เราเจอกัน โคตรตลก นายพูดมากชะมัด”
“…………..”
“แต่ก็น่ารักดี.....”กันต์ธีร์กดจมูกลงที่ซอกคอของร่างบางอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเอาหน้าอิงไว้ที่ไหล่ของวรกรเช่นเดิม มันเป็นความรู้สึกดีที่น่าประหลาด ทั้งอบอุ่นและน่าทะนุถนอมในเวลาเดียวกัน
“ระ เราว่าซีดีไปอาบน้ำเถอะนะ เดี๋ยวเราจะไปเอาเสื้อผ้ามาให้”ทันทีที่วรกรดึงสติกลับมาได้ ก็พยายามเบี่ยงประเด็นออก พร้อมทั้งแกะมือที่โอบบรัดออกแล้วลุกขึ้นหนี
“เดินไหวหรือไง”แต่มีหรือที่กันต์ธีร์จะยอมปล่อยไปง่ายๆ เพราะทันทีที่วรกรดันตัวลุกขึ้น เขาก็รีบคว้าตัวกลับมากอดไว้อย่างเดิม “กลัวหรอ?” ร่างสูงกระซิบถามที่ข้างหูวรกรเบาๆก่อนจะจูบลงที่ใบหู ยิ่งเห็นว่าคนในอ้อมกอดกลัว ร่างสูงก็ยิ่งอยากแกล้ง
“อย่าแกล้งนะ!”วรกรหมดหนทางสู้ สุดท้ายก็พยายามพูดเสียงแข็งต่อสู้กลับการกระทำของคนข้างหลังให้นึกกลัว แต่หาได้เป็นเช่นนั้น เพราะคำพูดและท่าทางของวรกรมันยิ่งดูน่ารัก น่าแกล้งขึ้นไปอีกหลายเท่า
“ใครแกล้ง? แกล้งยังไงหรอ อย่างงี้ป่ะๆ” กันต์ธีร์พรมจูบไปทั่วซอกคอของวรกรอย่างสนุกสนาน ก่อนจะหัวเราะชอบใจออกมา เมื่อเห็นว่าคนถูกกระทำมีสีหน้าหงุดหงิดที่ไม่สามารถขัดขืนได้เลย
“ซีดี!”
“ฮ่าๆ โอเคๆ ร้องไห้ทำไม ไม่แกล้งแล้วๆ”เมื่อเห็นว่าวรกรเริ่มไม่สนุกด้วยแล้ว ร่างสูงจึงหยุดการกระทำทุกอย่าง แล้วช้อนตามองกอดปลอบอย่างอ้อนๆ
“……………”
“ขี้มูกไหลแล้วนั้น ฮ่าๆๆ”
“ไม่ต้องเลย!”ร่างบางรีบยกมือขึ้นมาเช็ดทันทีที่ถูกทัก แต่ก็ยิ่งโมโหเข้าไปกันใหญ่เมื่อรู้ว่าถูกหลอกเข้าอีกแล้ว
“ฮ่าๆเลิกร้องได้แล้ว ตาบวมแล้ว”
“เพราะใครละ! ทุเรศที่สุด!”วรกรพ่นคำต่อว่ากันต์ธีร์ออกมาอย่างไม่หยุดยั้ง แต่มันก็ทำให้ร่างสูงยิ่งตลกเข้าไปกันใหญ่ “สาบานว่านี้ด่าแล้ว?”
“หัวเราะอะไร สนุกหรอ ชอบแกล้งเนี่ย”
“ก็นายมันน่าแกล้งนิหว่า ควรจะโทษตัวเองดิ”
“ไปอาบน้ำเลย เบื่อจะเถียงด้วยละ” วรกรรีบตัดบทอย่างรำคาญที่จะต่อปากด้วย แล้วผลักร่างของกันต์ธีร์ออก ก่อนจะแอ่นตัวนอนลงที่เตียง
“หน้างอเป็นตูดลิงเชียว”
“L”
“ฮ่าๆ นายก็นอนพักได้แล้ว อาบน้ำเสร็จเดี๋ยวฉันจะเอาอาหารกับยามาให้แล้วกัน” ร่างสูงลูบหัววรกรด้วยความเอ็นดูแล้วเดินไปหยิบเสื้อผ้าก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไป วรกรยกมือขึ้นมากุมที่หัวด้วยความเจ็บปวดทันทีที่เห็นว่ากันต์ธีร์ปิดประตูเข้าห้องน้ำไป ใบหน้าเริ่มบิดเบี้ยวอีกทั้งดิ้นไปมาด้วยความทรมานที่อดกลั้นมานาน สายตาพร่ามัวจนไม่สามารถมองสิ่งรอบกายได้ อาการที่เขากำลังเผชิญมันทั้งทรมานและเจ็บปวดอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน อวัยวะภายในเริ่มแปรปรวนจนเจ้าตัวรู้สึกได้ ร่างกายเริ่มสั่นราวกับคนกำลังช็อก และนั้นก็เป็นความรู้สึกสุดท้ายที่เขารับรู้ได้...........
หนัก.... นี้คือความรู้สึกแรกที่วรกรสัมผัสได้หลังจากที่ตื่นขึ้นมา มันเป็นความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูกเพราะเขาไม่สามารถขยับร่างกายใดๆได้เลย ร่างกายไร้เรี่ยวแรง เปลือกตาที่เปิดออกก็ล่องลอยไร้ความรู้สึก เขาพยายามออกเสียงเพื่อเรียกหาใครสักคน แต่ดูจะเป็นได้แค่ความพยายาม เพราะเพียงแค่จะอ้างปากมันก็เหมือนมีด้ายมาตรึกที่ริมฝีปากเอาไว้ และเมื่อยิ่งพยายามมากเท่าไรมันก็ยิ่งทำให้แรงที่มีน้อยลงเข้าไปขึ้นเท่าไร วรกรโกยอากาศเข้าปอดด้วยความเหนื่อย หัวใจเต้นแรงผิดจังหวะจนเจ้าตัวเริ่มกลัวขึ้นมา
“คุณกั้ง ฟื้นแล้วหรอคะ”ป้าน้อย หัวหน้าแม่บ้านร้องทักขึ้น ขณะกำลังเอาอาหารและยามาให้วรกรตามคำสั่งของกันต์ธีร์
“อึ๊บ!!”ร่างบางพยายามเค้นเสียงตอบรับออกมา สายตากรอกตามองป้าน้อยอย่างต้องการความช่วยเลือก
“คุณกั้งรีบกินข้าวกินยานะคะ คุณหลับไปตั้งหลายชั่วโมง นี่ก็ค่ำแล้ว”
“อ้า อ้อย อึ๊บ!”วรกรใช้แรงที่มีเรียกผู้เป็นแม่บ้านอีกครั้ง เรียวนิ้มยาวจิกลงที่เตียงอัตโนมัติ ลิ้นเริ่มพันกันจนไม่สามารถพูดออกเป็นคำได้
“คุณกั้ง! เป็นอะไรไปคะ ”แต่แล้วความพยายามของวรกรก็สำเร็จ เมื่อป้าน้อยจับความผิดปกติของเขาได้ วรกรโกยอาการหายใจเข้าอีกครั้งด้วยความเหนื่อย
“คุณซีดีๆ ป้าตะไปตามคุณซีดีแล้วเรียกรถพยาบาลนะคะ คุณกั้งอย่าพึ่งเป็นอะไรนะ” ป้าน้อยกระวนกระวายกับทอาการของวรกรอยู่นาน กว่าจะตั้งสติได้
“อย่า....” ร่างบางยกมือรั้งข้อมือของป้าน้อยไว้ “อย่าบอกเขา...ไม่...ซีดี....”
“แต่คุณกำลัง....”
“ว วะ ไหว! กั้งไม่เป็นอะไรครับ”วรกรเริ่มควบคุมตัวเองได้มากขึ้นก็พยายามตอบกลับไปให้ดูปกติที่สุด เพราะเขาไม่อยากให้กันต์ธีร์รับรู้กับสิ่งที่เขากำลังเป็น
“ไม่ได้หรอกค่ะ คุณเป็นขนาดนี้ ถ้าป้าไม่บอกคุณซีดี ป้าอยู่ไม่สุขแน่ๆ”
“ผมไหวจริงๆครับ กินยาคงหาย”
“แต่...เออ...”ป้าน้อยเริ่มลังเลกับอาการของวรกร
“ซีดีคงยุ่งๆ อย่าไปกวนเขาเลยครับ ให้เขาทำงานไปเถอะ”ร่างบางฉีกยิ้มเพื่อให้ป้าน้อยคลายความกังวล อีกทั้งเขาเองก็ไม่อยากให้กันต์ธีร์มามัวเป็นห่วงเขาจนไม่ได้ทำงานอีก
“คุณซีดีไม่ได้ทำงานอยู่หรอกค่ะ”
“อ่อ”
“คุณซีดีนั่งเฝ้าเพื่อนที่ห้องรับรองแขกข้างๆคุณตั้งแต่สายๆแล้วค่ะ ยังไม่ออกมาเลย ข้าวปลาก็ไม่ยอมทาน แต่คุณหนูเป็นห่วงคุณกั้งมากนะคะ กำชับให้ป้าคอยมาดูแลคุณตลอด”
“เฝ้า? หมายความว่าไงครับ?”
“อ่อ ก็เพื่อนของคุณซีดี หนูบิวนะค่ะประสบอุบัติเหตุเห็นว่ายังไม่ฟื้นเลย คุณวายซีเลยอยากให้มาพักในที่ที่เป็นธรรมชาติ เลยพามาที่นี้นะคะ ” สิ้นคำบอกเล่าของป้าน้อย วรกรก็แทบช็อก เมื่อรู้ว่าน้องสาวของเขา ผู้ซึ่งเป็นคนที่กันต์ธีร์หลงรักมานานมาอยู่ที่นี่ แถมธีรธรก็กลับมาอยู่ที่นี่ด้วย เขากลัว...ถ้าธีรธรรู้เรื่องของเขาแล้วไปบอกพี่ก้อง.....พี่ก้องคงไม่ปล่อยซีดีไว้แน่ๆ
“ช่วงนี้คุณหนูไม่อยากให้คุณกั้งออกไปเดินข้างนอกนะคะ เห็นว่าคุณกำลังป่วยอยากให้คุณพักผ่อนเยอะๆ” วรกรได้แต่นึกสมเพชตัวเองในใจ ใช่ว่าเขาจะไม่รู้ว่าความจริงแล้วที่กันต์ธีร์ไม่อยากให้เขาออกไปข้างนอกเพราะอะไร เพราะถ้ามีใครเห็นเขา คงเป็นเรื่องใหญ่แน่ๆ
“ครับ ป้าไม่ต้องห่วงนะครับ เดี๋ยวกั้งกินข้าวกินยาก็จะนอนแล้วครับ สบายใจได้”
“คุณกั้งพักผ่อนเยอะๆนะคะ”
“ครับ ผมขอบคุณป้ามากๆนะครับที่คอยดูแลกั้งอย่างดีเลย”วรกรยกมือไหว้ขอบคุณด้วยความจริงใจ ก่อนที่ป้าน้อยจะขอตัวกลับไปพักผ่อน ร่างบางหยุดคิดกับความรู้สึกของตัวเอง ที่สับสนและกังวลใจกับทุกอย่างที่มันเกิดขึ้น ถามว่าเป็นห่วงน้องไหมก็ห่วง ถ้าเลือกได้เขาก็อยากจะวิ่งไปกอดน้องเอาไว้ตอนนี้เลยด้วยซ้ำ หรือไม่ก็อยากนอนหลับไปนิ่งๆแบบนั้นแทน มันคงดีกว่านี้ถ้าเขาเป็นคนที่นอนอยู่ตรงนั้น แต่ถามว่าน้อยใจกันต์ธีร์บ้างไหม ที่เอาแต่ดูแล สนใจแต่ชนัญญาก็ต้องยอมรับว่าน้อยใจ แต่จะทำไงได้เพราะเขารู้อยู่เต็มอกอยู่แล้วว่ากันต์ธีร์นั้นรักน้องสาวของตัวเองมากแค่ไหน มันคงไม่แปลกที่ในเวลานี้กันต์ธีร์จะนั่งอยู่ตรงนั้น....ข้างๆตียงที่ชนัญญานอนอยู่
วรกรปล่อยในตัวเองตกอยู่ในห้วงความคิดอยู่นาน จนเวลาล่วงเลยมาตี1กว่าๆแล้ว อาหารและยาที่ตกปากรับคำป้าน้อยว่าจะทานก็ไม่ได้ทาน ในที่สุดวรกรก็ตัดสินใจยันตัวขึ้น ใช้แรงทั้งหมดที่มีพาตัวเองเดินไปตามทาง แม้จะมองไม่ค่อยเห็นทางมากนัก ก็พยายามลูบๆคลำๆตามกำแพงไป เพื่อไปยังห้องข้างๆที่ชนัญญานอนอยู่ เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องเขาก็ตัดสินใจอยู่นานก่อนจะค่อยๆเปิดประตูออก เพียงแค่ช่องเล็กๆวรกรก็รู้ได้ทันทีว่าคนที่ยังนั่งดูแลชนัญญาอย่างไม่ละสายตาคือกันต์ธีร์.....ใช่ เขามองอะไรไม่เห็นหรอก แม้จะเป็นภาพล่างๆแต่ก็พอเดาออกได้ว่าใครเป็นใคร ทั้งที่ตั้งใจยากจะเข้ามาหาน้องแท้ๆ อยาก...จะจับมือน้องไว้ เขาเป็นคนฝาฝืนคำสั่งของกันต์ธีร์เอง คงได้แต่ยอมรับความเป็นจริงว่าในขณะนี้ มีคนที่สามารถดูแลและยืนเคียงข้างชนัญญาได้ดีกว่าตน มันคงเป็นความรู้สึกที่ตลกมากทั้งอยากเป็นคนที่ดูแลน้องสาว และอยากเป็นคนที่ถูกกันต์ธีร์ดูแลบ้าง
.
“กลับไปที่ที่เราควรอยู่เถอะนะกั้ง.....อย่าน้อยมันอาจจะเจ็บน้อยกว่านี้ ที่อยากจะคว้าอะไรไว้ก็ทำไมได้สักอย่าง” ว่าแล้ววรกรก็ปิดประตูลงอย่างเบามือ “มันคงถึงเวลาจริงๆแล้วสินะ.....วรกร”
หายไปนานมากกกกกกกกกกก เพราะไรต์ม.6เเล้ว สอบเยอะมากกกก
อาจเขียนไม่ค่อยดีมากนัก เเต่คิดถึงเลยอยากกลับมาเขียน
พล๊อตเรื่องมีเปลี่ยนไปเล็กๆน้อยๆ
ปล.จะบอกว่าต่อไปนี้มันจะมีการสูญเสียอะไรบ้างอย่าง
ไม่สิ่ง อาจเป็นหลายๆอย่างเลยด้วยซ้ำ ซึ่งไม่สามารถเรียกกลับมาได้ ตัวละครทุกตัวจะเสียใจกับการสูญเสียครั้งนี้ด้วย
ความคิดเห็น