คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : [Stop it!!] 15 - ปลายทางที่หมดหวัง
วรกรค่อยๆตะเกียกตะกายลงมาจากบันไดด้วยความยากลำบาก ก่อนจะมานั่งอยู่ในห้องรับประทานอาหารเพื่อควบคุมสติและอารมณ์ของตัวเองที่ไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ว่ามันเป็นความรู้สึกอะไร เพราะตั้งแต่เกิดมาเขาไม่เคยแม้แต่จะนึกโกรธใคร แต่นี้เป็นครั้งแรกที่วรกรเผลอพูดในสิ่งที่ไม่ค่อยจะดีนักออกไป หากเป็นคนอื่นอาจบอกว่ามันก็เป็นคำพูดธรรมดา ที่ใครก็สามารถพูดได้ แต่สำหรับเขามันกลับยิ่งทำให้นึกกังวลใจและรู้สึกผิดหวังในตัวเองอย่างมาก เพราะคำพูดที่ได้พูด ‘เหน็บ’ ไปนั้นมันดูรุนแรงสำหรับเขาเหลือเกิน กังวลใจเพราะห่วงความรู้สึกของคนบางคน................
“ฮื้ย! ไม่น่าพูดบ้าๆแบบนั้นไปเลย เขาต้องโกรธเราแน่เลย” วรกรนั่งกุมขมับ นึกหงุดหงิดตัวในสิ่งที่ทำลงไป แม้หัวสมองจะนึกกังวลใจ แต่ร่างกายก็ดูเหมือนจะเรียกร้องอะไรบางอย่างจากตัวเขาเช่นเดียวกัน....ใช่ เขาหิว เสียงท้องร้องดังออกมาอย่างไม่ขาดสาย มันอาจจะดูทรมานกับการปวดท้อง แต่วรกรกลับนึกตลก เพราะทั้งชีวิต เขาไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน วรกรหันซ้าย หันขวารอบๆห้องครัวเพื่อหาอะไรกิน แต่ก็ไม่พบอาหารที่เหลือไว้เลย จึงตัดสินใจหยิบบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปมาต้มแทน
“ก็ดีเหมือนกัน ไม่ได้กินมาตั้งนาน”วรกรพูดกับตัวเองอย่างมีความสุข เพราะถ้าหากว่าตอนนี้เขาอยู่ที่บ้าน คงไม่มีโอกาสได้กินอาหารแบบนี้หรอก เพราะวรธรมักห้ามเขาเสมอว่าอย่าไปกิน เพราะมันไม่มีประโยชน์ กินไปมากๆก็ไม่ดี เขาเลยได้แต่แอบกินเวลาที่วรธรไม่อยู่บ้าน เมื่อนึกไปก็ยิ่งทำให้คิดถึงพี่ชายเข้าไปกันใหญ่ ‘ป่านี้พี่ก้อง กับที่บ้านจะเป็นยังไงบ้างนะ ทุกคนกำลังคิดถึงกั้งเหมือนที่กั้งคิดถึงทุกคนอยู่ใช่ไหมครับ’
“แหงะ อืดหมดแล้ว”วรกรเบะปากกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า มะหมี่กึ่งสำเร็จรูปที่ต้มไว้ ลอยอึดขึ้นมาเต็มถ้วยจนดูไม่น่ากินนัก แม้จะนึกบ่นในใจ แต่ความหิวมันก็ชนะทุกอย่างเขาใช้เวลาในการกินไม่นานนัก ก่อนจะหยิบถ้วยไปล้างให้เรียบร้อย แล้วเดินกลับขึ้นห้องอย่างไม่คิดอะไร
‘เอ๊ะ เอ๊ะ อะ อ๊าซ์ ~’ แค่เพียงก้าวขาเข้ามาในห้อง วรกรก็ได้ยินเสียงที่แสนจะชวนสยิวลอยมาจากมุมซึ่งเป็นที่นอนของเขา คิ้วทั้งสองข้างเริ่มขมวดเป็นปมอย่างนึกสงสัย เสียงของหญิงสาวที่ร้องออกมาด้วยความเจ็บปวดแต่แฝงไปด้วยความสุขสม ใจดวงน้อยเริ่มสั่นราวกับไม่อยากให้สิ่งที่ตัวเองกำลังคิดเป็นความจริง
“อะ อ๊ะ!”วรกรรีบหันหลังยกมือปิดปากอย่างตกใจ เพราะสิ่งที่เห็นตรงหน้าคือภาพของชายหญิงที่กำลังซุกไซร้ส่วนต่างๆของร่างกายกันและกันอย่างสนุกสนาน เรียวมือของกันต์ธีร์บีบนวดที่หน้าอกของหญิงสาวราวกับปลุกเร้าอารมณ์อันร้อนแรง วรกรรับไม่ได้กับภาพตรงหน้า รีบวิ่งออกจากห้องก่อนจะลงบันไดไปยังชั้นล่าง ความเสียใจ ความผิดหวังแทรกแซงในหัวใจจนอยากจะหนีไปให้พ้นๆ วรกรวิ่งไปตามทางที่แสนจะมืด จนแทบจะมองไม่เห็นอะไร เขาไม่คิดอะไรอีกแล้ว แค่นี้คงมากเพียงพอที่เขาจะสามารถทนอยู่ต่อไปได้แล้ว มันเจ็บปวดจนหัวใจแทบจะฉีกออกจากกัน
“ขอบคุณที่ทำให้ผมได้เรียนรู้ความเจ็บปวด และความผิดหวังนะ ลาก่อนซีดี......” วรกรยกมือขึ้นมาปาดน้ำตาที่ไหลรินออกมาอย่างไม่ขาดสาย เขาพยายามพยุงตัวเองให้รีบจ้ำไปตามเส้นทางที่มือมิด เพื่อที่จะได้ออกไปจากที่แห่งนี้เสียที ก่อนที่จะมีใครมาเห็นเข้า
“กั้งจะกลับไปหาพี่ก้องแล้วนะ รอกั้งอีกหน่อยนะครับ” วรกรฉีกยิ้มที่แสนจะอ่อนแรงเพื่อเป็นการให้กำลังใจตัวเอง เพราทุกย่างก้าวของเขา มันแสนจะลำบากเหลือเกิน ความเหนื่อย ความอ่อนเพลีย อีกทั้งอาการปวดเมื่อยตามบริเวณต่างๆในร่างกาย ก็ดูไม่เป็นใจในการหนีของเขาเลยสักนิด วรกรล้มลงบนถนนอย่างเจ็บปวด สายตาแหล่มองที่ปลายทางอย่างหมดหวัง ก่อนสติจะดับหวูบไปในที่สุด
หึ! กันต์ธีร์กระตุกยิ้มอย่างผู้ชนะ เมื่อเห็นว่าวรกรนั้นมีอาการตกใจไม่น้อยที่เห็นตนเองกำลังร่วมกิจกรรมรักยามค่ำคืนกับผู้หญิงคนอื่น จริงๆแล้วเขาก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้นักหรอก แต่เขาแค่ไม่อยากรู้สึกแพ้ ตลอดเวลาที่ได้รู้จักวรกรมา เขาแทบไม่เคยเห็นวรกรคิดจะต่อสู้หรือขัดขืนเขาเลยแม้แต่น้อย ความอ่อนโยน ความน่ารักเหล่านั้นมันทำให้เขาหลงใหลจนแทบไม่อยากให้ใครได้แตะต้องมันนอกจากตัวเขาเอง แต่เมื่อกี้นี้คนที่วรกรกลับแสดงอาการโกรธซึ่งดูเย็นชาเป็นอย่างมาก แล้วยังประชดประชันให้เขาไปมีสัมพันธ์ร่วมกับหญิงขายบริการอีก คำพูดเหล่านั้นมันเหมือนเป็นการหักหน้าคนอย่างกันต์ธีร์เอามากๆ ในเมื่ออยากให้เขาไปมีอะไรกับคนอื่นนัก เขาก็จะทำให้ดู............
ร่างสูงเดินลงมาจากบันไดด้วยความรู้สึกถึงชัยชนะ สายตาพยายามกวาดหาร่างของวรกรไปตามบริเวณบ้าน ในใจยังนึกคิดว่าป่านี้วรกรคงไปหลบร้องไห้อยู่ที่ไหนสักที แต่จนแล้วจนรอดก็ยังไม่พบร่างของคนที่ตามหา ใจดวงน้อยเริ่มสั่นคลอน ความรู้สึกที่ไม่สามารถอธิบายได้ว่ามันเกิดขึ้นเพราอะไร แต่ที่รู้ๆคือเขากลัว กลัวว่าวรกรจะหนีไป กลัวว่าจะไม่ได้เจอวรกรอีกแล้ว
กันต์ธีร์รีบวิ่งไปตามทาง สีหน้าแสดงถึงความกังวลและเครียดอย่างชัดเจน แม้ทางออกจากไร่จะมีเพียงทางเดียว แต่กันต์ธีร์ก็ยังไม่พบร่างของวรกร ความเจ็บปวดแล่นเข้าที่หัวใจอย่างไม่รู้สาเหตุ ขณะที่กันต์ธีร์กำลังกุมที่หัวใจ สายตาก็ไปสะดุดการร่างที่แสนคุ้นเคย
“กั้ง!!” ร่างสูงรีบวิ่งเข้าไปหาวรกรที่นอนอยู่ตรงพื้นถนน ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่ง แล้วอุ้มร่างของวรกรเข้ามากอดอย่างโล่งอก แต่ก็ยิ้มดีใจได้ไม่นานนักเพราะเขาเริ่มรู้สึกถึงความผิดปกติในสภาพร่างกายของคนในอ้อมแขน อีกทั้งยังสัมผัสได้ว่าอุณหภูมิของวรกรนั้นสูงปรี๊ดจนน่าตกใจ ไม่รอช้า กันต์ธีร์ก็ยกร่างของวรกรขึ้นแล้วรีบจ้ำอ่าวไปยังที่ที่หนึ่ง.........
“ซีดีขอโทษนะกั้ง อย่าเป็นอะไรนะ” ระหว่างทาง กันต์ธีร์ได้แต่เอ่ยคำขอโทษและโทษด่าตัวเอง เมื่อถึงยังที่หมาย เขาก็รีบว่างร่างของวรกรไว้บนเตียงก่อนจะรีบหาผ้าชุบน้ำมาเช็ดตัวให้ เพื่อดับความร้อนในร่างกาย
“ซีดีขอโทษ ซีดีขอโทษ”
“ขอโทษที่ใจร้ายกับกั้ง ขอโทษที่ชอบทำร้ายจิตใจกั้ง ”
“รอให้ซีแน่ใจก่อนนะ ว่าความรู้สึกที่ซีมีให้บิวมันเปลี่ยนไปแล้ว” กันต์ธีร์เอื้อมไปจับมือของวรกรขึ้นมากุมด้วยความรู้สึกผิดและสับสนกับตัวเอง ตั้งแต่วันที่กลับมาถึงไร่ เขาไม่เคยนึกสงสัยหรือสับสนกับความรู้สึกของตัวเองเลย จนมาเมื่อคืน วินาทีวรกรแสดงถึงความเกรียวโกรธ ภายในใจของเขาก็นึกกลัวในใจ กลัวว่าจะโดนทิ้งไป เขาอยากจะดึงคนตรงหน้ามากอดและเอ่ยคำขอโทษแทบตาย แต่ความทิฐิและความอยากเอาชนะกลับไม่ทำตามใจอยาก เขาเลือกที่จะทำร้ายคนตรงหน้าเพราะอยากเอาชนะ.........เขาชนะ แต่กลับรู้สึกแพ้ เพราะอะไร? ใครก็ได้ช่วยบอกที
ตลอดชั่วค่ำคืนที่ร่างสูงร่วมกิจกรรมรักกับผู้หญิงคนนั้น เขาแทบไม่ได้ความรู้สึกที่อยากจะร่วมสัมพันธ์ด้วยเลยแม้แต่นิด มันไม่เหมือนเวลาที่เขากับวรกรร่วมสวาทรักกันเลยแม้แต่น้อย เพียงแค่รอยจูบที่ริมฝีปากบาง มันก็ช่วยกระตุนความหื่นกระหายของเขาได้ เสียงครางและเสียงอ้อนวอนอันอ่อนหวานที่เขาหลงใหล ยอดอกที่หอมละมุน ทุกสิ่งที่เขาเลยได้รับจากวรกรมันไม่มีเลยในตัวของผู้หญิงคนนั้น ตลอดการร่วมกิจกรรมกับหญิงสาวเขานึกถึงแต่ใบหน้าของวรกร เพราะอะไร? เขาถึงได้แต่โหยหาสัมผัสรักของผู้ชายตรงหน้าเพียงแค่คนเดียว
“อะ อื๊มม~” เสียงครางเล็กจากคนที่นอนบนเตียง เรียกสติให้กันต์ธีร์ต้องก้มลงมามอง
“คุณ!” ทันทีที่เปลือกตาของวรกรเปิดขึ้น เจ้าของร่างก็ดูตกใจไม่น้อยเมื่อเห็นร่างสูง วรกรก้มดูที่เรือนร่างของตัวเองก็ไม่พบเสื้อผ้าสักชิ้น นอกจากบ๊อกเซอร์ตัวเดียว
“กั้ง นอนก่อนเถอะ นายไม่สบายอยู่นะ”กันต์ธีร์พูดด้วยความเป็นห่วง ก่อนจะใช้มือดันไหล่ของวรกรให้กลับไปนอนลงเหมือนเดิม
“ไม่! ปล่อยผมนะ!” วรกรผลักร่างของกันต์ธีร์จนล้ม ก่อนจะรีบพยุงตัวเองให้ลุกขึ้นหนี แต่ก็ช้ากว่ากันต์ธีร์ที่คว้าตัวของวรกรเข้ามากอดจากข้างหลัง แต่เจ้าตัวจะพยายามดิ้นให้หลุดจากอ้อมกอดเพียงใด แต่ก็ไม่เป็นผลเลยสักนิด
“ป่วยจะตายอยู่แล้ว ยังจะมาดื้ออีก”ร่างสูงตะโกนเสียงดังๆเพื่อให้คนในอ้อมกอดกลัว
“ให้ผมไปตายข้างหน้า ก็ยังดีกว่าต้องมาตายทั้งเป็นอยู่กับคุณ” ร่างบางแสดงแววตาเห็นความเจ็บปวดออกมา แต่กันต์ธีร์คงไม่ทันสังเกตเห็น
“หรอ! อยู่กับฉันมันทรมานขนาดนั้นเลยหรอ”ร่างสูงกระชับกอดให้แน่นกว่าเดิม
“คุณไม่รู้สึกอย่างผมจะไปรู้อะไร ปล่อยได้แล้ว!!”
“แล้วนายกำลังรู้สึกอะไรอยู่ บอกฉันมาสิเด็กน้อย ฉันจะได้ตอบนายได้ ว่ารู้สึกแบบเดียวกับนายหรือเปล่า” กันต์ธีร์พลิกร่างของวรกเข้าหา ก่อนจะดันเข้าชิดกำแพงห้อง แล้วให้มือยันกำแพงไว้ เพื่อไม่ให้วรกรหนีไปได้
“ก ก็ ร รั ผมเกลียดคุณไง!” วรกรเกือบยั้งคำพูดไม่ทัน ก่อนจะตีสีหน้าปกปิดความรู้สึกและความกลัว คำพูดของวรกรทำให้กันต์ธีร์รู้สึกเจ็บปวดในใจอย่างบอกไม่ถูก สิ้นคำตอบของวรกร ร่างสูงก็พรมจูบเข้าไปที่ริมฝีปากของคนตรงหน้าเข้าไปหลายๆครั้ง เพื่อแสดงถึงความน้อยใจและความเจ็บปวด วรกรหยุดนิ่งหลับตาแล้วปล่อยให้ร่างสูงพรมจูบต่อไปเรื่อยๆอย่างไม่ขัดขืน ยิ่งได้สัมผัส ทั้งสองก็เหมือนจะยิ่งหยุดคิดกับรสสัมผัสของกันและกัน กันต์ธีร์และวรกรต่างสับสนกับความรู้สึกระหว่างกันและกัน นานเข้าๆร่างสูงค่อยๆลดระดับความเร็วในการจูบให้ช้าลง ก่อนจะหยุดค้างที่ริมฝีปากของวรกรนิ่ง แล้วดูดเนื้อปากล่างของคนที่ตกอยู่ภายใต้ความควบคุ้มเบาๆ ทั้งสองต่างเคลิบเคลิ้มกับสัมผัสที่ได้รับ หยาดน้ำตาใสล่วงหลนออกมาพร้อมกัน กันต์ธีร์และวรกรปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามความรู้สึกของตัวเอง ความสับสน ความกังวล ความกลัว ความรู้สึกผิด ถูกถ่ายทอดออกมาซึ่งกันและกัน จนอยากจะหยุดเวลานี้ไปนานๆ อยากอยู่ไปนานๆเพียงแค่มีเขาสองคน แค่คนตรงหน้า ก็เพียงพอแล้ว
ยังไม่จบตอนน้าา
อุต๊ะ เพียงชั่วข้ามคืน อีซีก็เปลี่ยนไปอีกครั้ง
รักชายเ้ขาเเล้วอะดิ ไม่ใช่สิ ต้องพูดว่ารุ้ตัวว่ารักชายเเล้วสินะ ถึงจะถูก
ติชมได้จ้าววว
ความคิดเห็น