คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : [Stop it!!] 14 - สกปรก
วรกรเดินเข้ามาในบ้านด้วยความอ่อนล้าเต็มทน เนื่องจากวันทั้งวันเขาต้องตากแดด ตากลม ทำไร่อยู่ทั้งวัน อีกทั้งยังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยสักนิด สายตากวาดมองทั่วบริเวณบ้านก็ไม่พบใครเลย จึงตัดสินใจก้าวเท้าขึ้นไปชั้นบน เพื่อที่จะได้ไปชำระล้างร่างกาย ขาเรียวเล็กสั่นเทาด้วยความอ่อนล้า กว่าจะก้าวขึ้นบันไดไปแต่ละขั้น วรกรต้องใช่ความพยายามเป็นอย่างมาก มือบางต้องเกาะราวบันไดไว้แน่น ความทรมานและความแสบร้อนที่ถูกแสงแดดแผดเผามากทั้งวันยิ่งทำให้แผลที่เคยสมานกลับมาพุพองอีกครั้ง
“ทำงานเสร็จแล้วหรอ”หากแต่เมื่อถึงห้อง กลับต้องมาเจอคำทักทายจากเจ้าของห้อง ที่ดูจะไม่เป็นมิตรสักเท่าไร ช่างแตกต่างจากเมื่อตอนเที่ยงจริงๆ
“อื่ม~”
“เสื้อผ้ากับผ้าเช็ดตัวอยู่ตรงนั้น” กันต์ธีร์หันมาชี้นิ้วที่กองเสื้อผ้าที่ถูกเตรียมไว้ให้ ก่อนจะหันกลับไปเล่นโทรศัพท์เช่นเดิม ริมฝีปากฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุข กับสิ่งที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอสมาทโฟนเครื่องหรู โดยไม่ได้สนใจคนที่พึ่งเข้ามาในห้องเลย
“ขอบคุณนะ” ร่างบางเอ่ยคำขอบคุณ ก่อนจะเดินไปหยิบเสื้อผ้าขึ้นมา แล้วหมุนตัวกลับ เพื่อจะเข้าห้องน้ำ
“เดี๋ยว!!” เสียงเรียกของร่างสูงทำเอาวรกรถึงกับสะดุ้ง
“ห๊ะ?”
“จะทำอะไร” ร่างสูงแสดงสีหน้าที่แสดงถึงความไม่พอใจกับการกระทำของวรกรออกมาชัดเจน
“อะ อาบน้ำไง”
“ใครใช้ให้ไปอาบน้ำของฉัน”
“อะ อ่าว แล้วจะให้กั้งไปอาบที่ไหน”
“ธารน้ำท้ายไร่” สิ้นคำพูดของกันต์ธีร์ ร่างบางก็แทบจะน้ำตาตก สมองพยายามจะประมวลผลว่าทำไมร่างสูงถึงต้องทำกับเขาแบบนี้ แค่นี้ยังไม่พออีกหรอ.....แค่นี้เขาก็แทบจะไม่มีแรงอยู่แล้ว แค่นี้ก็ทรมานจะตายอยู่แล้วนะซีดี........................
“ทะ ทำไมล่ะ” ร่างบางพยายามยิ้มสู้
“ไม่อยากให้ความสกปรกมันมาเปื้อนห้องน้ำฉัน”กันต์ธีร์ตอบด้วยสีหน้านิ่งๆ ราวกับกำลังเบื่อหน่ายคนตรงหน้าเต็มทน
“อ อ่า” คำว่า ‘สกปรก’ ของคนร่างสูง ทำเอาวรกรไปต่อไม่ถูก ได้แต่ก้มหน้าปกปิดความเสียใจอยู่อย่างนั้น น้ำตาสีใสที่เริ่มคลอที่ดวงตา ‘กี่ครั้งแล้ว ที่เราต้องเสียน้ำตาให้กับเขา.....’
“แล้วถ้ากลับมา ก็ไม่ต้องมานอนที่เตียงนะ จะนอนตรงไหนก็ได้ แต่ห้ามยุ่งกับเฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นในห้องนี้” ร่างบางได้แต่จิกเสื้อผ้าในอ้อมกอด เสียใจเหลือเกินที่ถูกรังเกียจ เสียใจแต่ก็ไม่สามารถโต้ตอบอะไรกลับไปได้ วรกรตัดสินใจเดินออกจากห้องไปอย่างเงียบๆ ก่อนจะเดินลงบันได ออกจากตัวบ้านไป เพื่อไปอาบน้ำที่ท้ายไร่ ตามคำสั่งของกันต์ธีร์ ทุกย่างก้าวล้วนสร้างความทรมานให้กับร่างกายของวรกรไม่น้อย เพราะลำพังแค่แรงจะเดินก็ยังไม่มี อีกทั้งต้องมาปวดแสบปวดร้อนกับแผลตามร่างกายอีก กว่าจะเดินไปถึงริมธารก็ใช้เวลาไปราวๆครึ่งชั่วโมง ทั้งที่จริงๆริมธารก็ไม่ได้ไกลจากตัวบ้านเท่าไรนัก
เมื่อมาถึง วรกรก็ถอดเสื้อผ้าชั้นนอกออก จึงทำให้เหลือเพียงเสื้อกล้ามกับบ๊อกเซอร์ที่ปกปิดร่างกายอยู่เท่านั้น ร่างบางมองแผลที่เรือนร่างของตัวเองด้วยความเศร้าใจ ‘พี่ก้องจะไม่มีวันปล่อยให้กั้งต้องเจอเรื่องแบบนี้ใช่ไหมครับ ’
เพียงแค่ได้นึกถึงพี่ชาย วรกรก็คลี่ยิ้มออกมาด้วยความคิดถึง “ อีกไม่นาน กั้งจะกลับไปหาพี่ชายที่น่ารักของกั้งนะครับ”
“ถ้าหากกั้งจะเป็นอะไรไป........พี่ก้องต้องรอกั้งนะ”
คฤหาสน์ศิริสรณ์
วรธรหนุ่มนักกิจกรรม เจ้าเสน่ห์ที่ใครๆต่างพากันหลงใหล บัดนี้แทบไม่เหลือคราบของชายหนุ่มรูปงามอีกต่อไปแล้ว นับตั้งแต่วันที่วรกรหายไป เขาก็แทบจะกินไม่ได้นอนไม่หลับ แม้จะจ้างนักสืบสักกี่คน แต่ก็ไม่ได้ข่าวคราวอะไรเลย อีกทั้งตอนนี้น้องสาวอย่างบิวดันมาประสบอุบัติเหตุทำให้สมองกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงตอนนี้ก็ยังไม่ฟื้น ตั้งแต่วรกรหายไป บิวก็เอาแต่โทษตัวเองว่าเป็นคนที่ทำให้วรกรหายไป ค่อยตามหาวรกรจนไม่ได้พักผ่อน ซึ่งก็ไม่ต่างจากเขานักหรอก.....น้องใคร ใครก็รัก หากน้องชายของเขาเป็นอะไรขึ้นมา เขาจะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร
“ก้อง มึงทานข้าวหน่อยเถอะ เอาแต่นั่งเครียดแบบนี้ เดี๋ยวจะไม่มีแรงไปตามหากั้งนะ” ธีรธรถึงกับรับไม่ได้ในสภาพของวรธรที่ซูบผอม หมองคล้ำ ดูไม่ใช่ก้องคนเดิมที่เคยรู้จักเลยสักนิด
“มึงได้ข่าวกั้งบ้างหรือเปล่า กูคิดถึงน้อง กูกลัวจะต้องเสียกั้งไป กู....” แววตาเหม่อลอย ไร้จิตวิญญาณ น้ำเสียงที่แสนจะอ่อนแรง ไร้กำลัง ยิ่งทำให้ธีรธรสงสารวรธรจับใจ ไม่คิดไม่ฝันว่าครั้งนึงในชีวิตจะต้องมาเห็นคนที่แสนจะเพียบพร้อมอย่างวรธรต้องมาตกอยู่ในสภาพแบบนี้ สภาพที่ดูยังไงๆก็เหมือนศพที่ยังมีลมหายใจอยู่
“ก้อง มึงต้องดูแลตัวเองสิวะ กั้งคงเสียใจมากถ้ารู้ว่าทำให้พี่ชายสุดที่รักของตัวเองต้องตกอยู่ในสภาพนี้”
“………….”
“กลับไปเป็นก้องที่เข้มแข็งคนเดิมเถอะนะ”
“วันพรุ่งนี้ กูจะพาบิวไปที่ไร่ อยู่กับธรรมชาติ อะไรๆอาจจะดีขึ้น มึงจะไปกับกูไหม”
วรกรเดินกลับบ้านด้วยความอ่อนเพลียเต็มทน สภาพร่างกายตอนนี้ดูเหมือนไม่ใช่ ‘กั้ง’เลยแม้แต่น้อย ทั้งซูบผอม ทั้งหมองคล้ำ รอยยิ้มสดใสบนใบหน้าแทบจะหาไม่ได้ ทั้งๆที่โดยปกติแล้ววรกรจะเป็นคนยิ้มง่าย คิดบวก ไม่ว่าจะเจอกับปัญหาอะไรเขาก็มักจะมีรอยยิ้มเป็นสิ่งประดับบนใบหน้าเสมอ แต่วันนี้......ตั้งแต่วันที่เขาถูกทิ้งอยู่กลางป่า สิ่งเหล่านั้นกลับหายไป รอยยิ้มและความสุขถูกผลากจากวรกรไป พร้อมๆกับความบริสุทธิ์ที่เขามี แต่สิ่งหนึ่งที่วรกรได้สัมผัสกับความรู้สึกพิเศษอย่างนึง คือเขาได้รู้จักกับ ‘ความรัก’ รักที่ดูเหมือนจะไม่มีวันเป็นจริง เพราะเขาเป็นคนที่แอบรัก แต่ไม่ได้ถูกรัก หากแม้แต่คนๆนั้นก็คงยังไม่รู้ว่าวรกรมีความรู้สึกดีๆให้ ทุกๆอย่างที่ต้องสูญเสียไป วรกรแทบไม่เคยแสดงถึงความน้อยเนื้อต่ำใจหรือความเสียใจให้ใครเห็น แต่ใครจะรู้ล่ะ ว่าข้างในหัวใจของวรกรนั้น แทบจะแหลกสลายทุกครั้งที่ ‘คนๆนั้น’ มองเขาเป็นใครอีกคน คนๆนั้นมอบความสัมพันธ์รักเพียงเพราเห็นเขาเป็นแค่ตัวแทนก็เท่านั้น หากวันนึงเขาเป็นฝ่ายยอมแพ้แล้วเดินจากไป อะไรๆมันอาจจะดีขึ้นก็ได้เนอะ......คุณคิดเหมือนผมไหม?
“ไปอาบน้ำท้ายไร่ หรือไปเอากับใครมา ใช่เวลาตั้งเกือบสามชั่วโมง” กันต์ธีร์ตวัดหางตามามองขณะที่วรกรเปิดประตูเข้ามาในห้องอย่างเงียบๆ
“อ เออ พอดีว่ามันมืดแล้วกั้งมองไม่ค่อยเห็น เลยงงๆกับทางนะ” วรกรอ้ำอึงอยู่นาน ก่อนจะเลือกตอบคำถามไปอย่างไม่เป็นความจริงนัก จริงๆแล้วเรื่องทางมืดมันก็เป็นหนึ่งในอุปสรรคของวรกร แต่ที่ทำให้เขากลับมาช้าขนาดนี้เพราะหลายๆครั้ง ในระหว่างการเดินทางเขาก็มักจะล้มลงด้วยความอ่อนเพลียและไม่มีแรง อาการแสบคันบนผิวกายก็ยิ่งสร้างความทรมานให้กับตัวเขาไม่น้อย อาการวินเวียนศีรษะที่แลดูเหมือนคนที่กำลังจับไข้ยิ่งทำให้ทุกย่างก้าวลำบากมากขึ้นไปอีกเท่าตัว
“หึ! ก็ดี งั้นจำไว้ว่าฉันไม่ชอบใช้ของร่วมกับใคร อย่าคิดจะไปสำส่อนกับใครนะ ”
“อืม!~” วกรตอบรับคำอย่างเจ็บปวดใจ ก่อนจะเดินเลี่ยงมายังมุมห้อง ที่ถูกแบ่งโซนไว้ ก่อนจะทิ้งตัวลงนั่งพิงกับขอบกำแพงอย่างอ่อนล้า แม้นัยน์ตาจะถูกปิดลงแต่วรกรกลับไม่สามารถข่มใจหลับได้เลย อาจเป็นเพราความหิวที่ถูกสะสมมาเป็นเวลานาน อีกทั้งคำพูดที่แสนจะทิ่มแทงใจของกันต์ธีร์มันเลยยิ่งทำให้ในหัวของวรกรคิดฟุ้งซ่านไปกันใหญ่ ขณะที่วรกรกำลังนั่งคิดอยู่เพลินๆ ก็ถูกจับจองสัมผัสที่ริมฝีปาก สร้างความตกใจให้วรกรไม่น้อย แม้จะรู้ดีอยู่แล้วก็ตามว่าคนที่ทำต้องเป็นกันต์ธีร์แน่ๆ
“อื๊อ~ อย่านะ กั้งไม่มีแรง” วรกรลืมตาขึ้น ก่อนจะใช้มือดันหน้าอกของกันต์ธีร์ให้ถอยห่าง
“อย่าขัดใจได้ไหม!”กันตีร์ตะโดกนใส่หน้าอย่างรำคาญกับท่าทางอ่อนแอของวรกร ซึ้งการกระทำของกันต์ธีร์ก็สร้างความหวาดกลัวให้วรกรไม่น้อย น้ำตาสีใสเริ่มคลอรอบดวงตา แต่ก็ยังดีที่มีความมืดช่วยปกปิดมันได้อยู่
“ถอดเสื้อผ้า!”กันต์ธีร์สั่งไปอย่างมีอำนาจ ทั้งสีหน้า แววตาของกันต์ธีร์มันทำให้วรกรไม่สามารถขัดคำสั่งได้เพราะ ‘กลัว’ วรกรค่อยปลดกระดุมออกจนเผยให้เห็นยอมอกทรงสวย กันต์ธีร์ไม่รอให้วรกรได้ปลดกระดุมออกหมดก็รีบพุ่งเข้าไปจูบที่ยอดอกที่แสนคุ้นเคยทันที
“อย่าทำกับกั้งแบบนี้นะ” วรกรร้องเสียงสะอึกอย่างน่าสงสารและอ่อนแรงเต็มทน เขาแทยไม่มีแรงที่จะขยับปากพูดด้วยซ้ำแล้วจะเอาเรี่ยวแรงที่ไหนไปต่อสู้กับคนอย่างกันต์ธีร์ได้
“นายผอมไปแล้วนะ ไม่เห็นเหมือนวันที่เรามีอะไรกันกลางป่าเลย” กันต์ธีร์พูดจาเยือกเย็น ไม่มีแม้แต่ความเห็นใจ แถมยังพูดหวนไปถึงเรื่องราวในคืนวันนั้น ยิ่งทำให้วรกรช้ำใจขึ้นไปอีก
“นายไม่ต้องกลัวหรอก ถ้าฉันเบื่อนายเมื่อไร ฉันปล่อยนายไปแน่ เพราะนายมัน ‘ง่าย’ ฉันไม่ชอบ”
“ง่ายหรอ?”วรกรได้แต่เอ่ยขึ้นมาเบาๆกับตัวเอง ในใจก็คิดตามไปว่าเขาคงไร้ค่าจริงๆ เพราะเขาก็คงง่ายอย่างที่คนตรงหน้าพูด แต่ก็นึกโกรธกันต์ธีร์ไม่น้อยที่มาพูดจาแบบนี้ใส่ จึงตัดสินใจให้แรงทั้งหมดที่มี ผลักร่างของกันต์ธีร์ออก ก่อนจะพยุงตัวลุกขึ้นหนี
“จะไปไหน?!”กันต์ธีร์ฉุดร่างของวรกรด้วยความโมโห
“ผมเหนื่อย อยากอยู่คนเดียว”วรกรพูดเสียงต่ำ พยายามข่มอารมณ์ไม่ให้แสดงกิริยาไม่ดีต่อกันต์ธีร์
“หน้าที่นายคือบำเรอความสุขให้ฉัน”
“ขอโทษนะซีดี ผมไม่ได้ทำงานหากินแบบนั้น ถ้าคุณ ‘อยาก’มากขนาดนั้น ก็ไปใช้บริการกับผู้หญิงอย่างว่าน่าจะดีกว่านะ”
“เดี๋ยวนี้กล้าต่อปากกับฉันหรอ!!” แม้จะตกใจไม่น้อยที่วรกรมีท่าทีที่เปลี่ยนไป อีกทั้งสรรพนามที่ใช่เรียกก็เปลี่ยนไป ทำเอาช่วงขณะนึงกันต์ธีร์ก็เผลอหลุดกลัวเล็กน้อย
“ผมไม่ได้อยากต่อปากต่อคำกับคุณนะ แต่ผมไม่ได้ทำงานอย่างว่า ผมไม่ได้เต็มใจที่จะต้องมีอะไรกับคุณ!! ”
“………………”
“แล้วที่คุณมาหาว่าผมสำส่อน แต่การที่คุณมามีอะไรกับผมทุกวัน....... ‘ใครกันแน่ที่สำส่อน ขาดการมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้’”
อุต๊ะ ชายเปลี่ยนไปปป
ตอนเเรกไม่ได้จะต่อเเบบนี้ เเต่อารมณ์พาไป เป็นกำลังใจให้ชายด้วยน้าาาา
สมน้ำหน้าอีซี โดนตอกกลับซะบ้าง 5555
ติชมได้จ้าววว
ความคิดเห็น