ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ใบไม้สีฟ้า กับ ทุ่งหญ้าแห่งความฝัน

    ลำดับตอนที่ #2 : กลิ่นฝนที่ยังไม่จางหาย...

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ค. 51


    ตอนที่2 กลิ่นไอฝนที่ยังไม่จางหาย...
    ย่างเข้าเดือนพฤษภาคม...อากาศเริ่มขึ้น ฝนตกโปรยปรายลงสู่พื้นดิน ทุ่งหญ้าที่เขียวขจี่ เอนตามแรงฝนที่ซัดกระหน่ำ แต่เมื่อความฉุ่มฉ่ำที่ผ่านมาจางหายไป ทั่วทั้งบริเวณเต็มไปด้วยความสดใส...ใบไม้สีเขียวสดเต็มไปด้วยเม็ดฝนหยดเล็กๆที่เกาะอยู่บนปลายยอดอ่อนๆ...ลูกกบลูกเขียดตัวเล็กๆกระโดดโลดเต้นทั่วทุกบริเวณผืนนา...
    แปลงผักที่แห้งแล้งเต็มไปด้วยความชุ่มชื่นจากฝนที่ตกลงมาตลอดระยะเวลา 3 วัน...เสียงดังเป็นจังหวะของหยาดฝนที่ตกลงมากระทบสังกะสี มะนาวรู้สึกเพลิน เพราะเป็นจังหวะบวกกับเสียงสัตว์น้อยใหญ่ตามไร่นา...
     ก่อนหน้าที่ฝนจะหยุดตก..เสียงพื้นไม้ดังออดแอดที่เกิดจากการเดินไปเดินมาของตา ทำให้ยายเริ่มรำคาญ เพราะถ้าหากวันไหนยายไม่ได้ไปวัด ยายมักจะขลุกอยู่ในครัว และวุ่นกับการแกะสลัก หรือไม่ก็ทำอาหารทุกวัน ‘’ แกเดินแล้วฝนจะหยุดตกเหรอ’’ เสียงที่แหบแห้งของหญิงชรา ปนกับเสียงของสายฝนที่โปรยปราย.. ไม่นานนัก ฝนที่ตกลงมาตลอดระยะเวลา 3 วันได้หยุดลง มะนาวและตาดีใจจนกระโดดโลดเต้น... ท้องฟ้าที่มืดมิดที่มีแต่เพียงแสงสลัวได้เคลื่อนตัวหายไป...เปลี่ยนเป็นท้องฟ้าสดใสที่เต็มไปด้วยไออุ่นจากแสงแดดอ่อนๆ.. ตารีบวิ่งลงจากบ้าน และวิ่งไป บนท้องคันนาเฉอะแฉะ..จนใบหน้าของเด็กสาวตัวเล็กๆเกิดความงงว่าตาจะทำอะไร ถึงได้รีบวิ่งไม่คิดถึงอายุแบบนั้น.. ‘’มะนาว! มานี่สิ มาดูอะไร’’เสียงดังกังวานของอดีตกำนันตะโกนดั่งกับเรียกลูกบ้าน แต่นี่เรียกหลานสาว ’’ คะตา มีอะไรเหรอคะ? ‘’ มะนาววิ่งไปดูด้วยความสงสัย ‘’ปู่นี่นา ทำไมปูถึงเป็นสีทองแบบนั้นหละคะคุณตา คุณตารู้จักปูแบบนี้ไหมคะ?’’ มือเล็กๆเกาบนศรีษะเบาๆด้วยความงง จนผมของมะนาว ยุ่ง
    ’’ปูแบบนี้ตาไม่เคยเห็นเหมือนกัน แปลกมากที่สีมันเป็นแบบนี้ อาจจะเป็นเพราะว่ามันกลายพันธุ์ก็ได้ สีจึงเป็นแบบนี้ แต่ตาคงไม่สามารถบอกเรื่องนี้กลับใครได้ เกรงว่าจะกลายเป็นเรื่องแปลกไป และมีคนจากหมู่บ้านข้างๆ และหมู่บ้านเราส่วนหนึ่ง มาขอหวย’’ มะนาวหัวเราะแหะๆ เพราะคิดเหมือนกับตา ตาจับปูสีทองตัวนี้เดินกลับไปที่บ้าน พร้อมกับใส่กะละมังใบเล็กๆไว้  เพราะฝนตกแรงทุกวัน มันอาจจะตายได้ถ้าอยู่แต่ในน้ำ... นิ้วเล็กๆของมะนาวแหย่ปูเล่นด้วยความสงสัย ตาและยายบอกกับมะนาวว่า ‘’เล่นอยู่ที่บ้านคนเดียวไปก่อนนะมะนาว เย็นๆจะกลับ ให้เอาปูไปปล่อยตากับยายจะไปวัดด้วยกัน’’ ค่ะ ‘’มะนาวตอบรับ’’ มะนาวเป็นเด็กที่รักสัตว์จึงจับปูตัวน้อย อยู่ในฝ่ามือเล็กๆ เพื่อจะไปปล่อยในนา...บริเวณทุ่งนาที่มะนาวคุ้นเคยทุกวันเปลี่ยนแปลงไป ท้องฟ้าสีฟ้าสดใสเป็นสีชมพูอ่อนๆ ทุ่งข้าวที่เขียวขจี่เปลี่ยนเป็นทุ่งดอกไม้ที่เหี่ยวเฉา มะนาวเริ่มสงสัยกับภาพทิ่อยู่เบื้องหน้า เธอตกใจไปทั่วขณะ ขณะที่กำลังงงกับสิ่งที่เกิดขึ้น ภาพต่างๆกลับมาเป็นเหมือนเดิม ‘’ภาพที่เราเห็นคืออะไรกันนะ สงสัยเราคงคิดไปเอง’’ มะนาวพูดกับตัวเองในใจ ‘’ อ้าว เจ้าปู เจ้าปูน้อย หายไปไหนแล้ว ‘’เมื่อได้สติมะนาวมองดูที่มือของเธอ เจ้าปูสีทองตัวนั้นหายไป... เธอสงสัยอีกครั้งเพราะยังไม่ได้ปล่อย จึงเริ่มเดินหา หาเท่าไหร่ก็หาไม่เจอ ‘’สงสัยว่าตอนที่เราเผลอ มันอาจเดินแล้วตกลงไปจากมือเราก็ได้ ‘’ มะนาวพูดเองคิดเองอยู่หลายครั้ง และเดินกลับบ้านด้วยความสงสัยที่ยังไม่หายไป... เธอเดินกลับบ้านและไปนั่งเล่นอยู่ที่ท่าน้ำ..เท้าน้อยๆตีกับน้ำเบาๆ อากาศเย็นสบาย มะนาวนั่งโยกศรีษะไปมา...แต่สายตาเธอไปสะดุดกับบนผิวน้ำ ภาพเบื้องหน้า เป็นเหมือนมีเงาคนสีดำๆ จากอาการงง ใบหน้าเล็กๆซีดดั่งกับไม่มีเลือดไปหล่อเลี้ยง และไม่นานภาพนั้นก็หายไป มะนาวหันซ้ายหันขวามองว่ามีใครอยู่บริเวณนั้นหรือไม่ แต่ไม่มีแม้แต่วี่แววของผู้คนผ่านไปผ่านมา มีเพียงมะนาวคนเดียวที่อยู่บริเวณริมคลองในขณะนั้น มะนาวทั้งกลัวและสงสัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในวันนี้ จิตใจของมะนาวเริ่มไม่อยู่กับร่องกับรอย มะนาวขึ้นไปบนบ้านและปิดประตูหน้าต่างมิดชิด เก็บกุญแจที่ตาฝากไว้ให้เพราะกลับตอนค่ำ ขี่จักรยานออกไปที่ห้องสมุดประชาชนภายในหมู่บ้าน..
     ในห้องสมุดมีหนังสือทุกประเภท มะนาวรีบเดินเข้าไปที่หมวดสังคมศึกษา และหยิบหนังสือเล่มหนึ่งขึ้นมา
    เป็นหนังสือรวมเหตุการณ์เด่นๆและสำคัญๆทางการเมือง เริ่มอ่านได้หลายชั่วโมง เธอเอาหนังสือเล่มนั้นไปเกเปลี่ยนเป็นวิทยาศาสตร์ และหลักการทางฟิสิกส์...มะนาวเริ่มจำสูตรต่างๆไม่ได้เพราะเรียนผ่านมาแล้วหลายปี มือน้อยๆเปลี่ยนหนังสือทีละหน้าๆ จนไปสะดุดหัวข้อของบทความบทความหนึ่ง ‘’ข้ามมิติผกผัน..ทะยานความฝันสู่นวัตกรรมแห่งอนาคต’’ ในบทความเขียนเกี่ยวกับแนวคิดของนักวิทยาศาสตร์ เกี่ยวกับเครื่องมือล้ำยุคต่างๆ มะนาวอ่านไปได้ซักพักเริ่มนึกถึงภาพยนตร์เรื่องต่างๆ... หลายชั่วโมงในการอยู่ในห้องสมุด มะนาวตัดสินใจกลับบ้าน..เพราะคิดว่าคุณตาคุณยายน่าจะกลับจากวัดแล้ว...เมื่อถึงบ้าน มะนาวจูงจักรยานไปเก็บในโรงรถ และกำลังจะเดินขึ้นไปเปิดประตูบ้าน เสียงทั่วบริเวณบ้านเงียบสงัด ใกล้ 6 โมงเย็นแล้วแต่ไม่มีใครอยู่บ้าน มะนาวเริ่มสงสัย และเริ่มเป็นห่วงตาและยายที่ไม่เคยกลับบ้านเย็นแบบนี้...แต่ในใจส่วนหนึ่งก็คิดว่า อาจจะมีธุระที่ไหนซักแห่ง อาจจะกลับมืดค่ำ มะนาวจึงตัดสินใจขึ้นบ้าน..และเปิดประตู...เบื้องหน้ามีแต่ความมืด ไม่มีแม้แต่แสงไฟ มะนาวคิดว่าตัวเองคนฝันไป พยายามวิ่ง เดิน และทำทุกวิถีทางเพื่อหาทางออกให้ได้ แต่ก็ไม่เป็นผล ไม่นานมะนาวได้ยินเสียงเรียก ‘’มะนาวๆ มะนาว เป็นอะไรไปลูก ‘’เสียงที่มะนาวคุ้นเคยผ่านมากระทบ ‘’คุณตา ..คุณยาย’’ มะนาวร้องไห้และกอดตาและยายไว้แน่น ใบหน้าที่เคยสดใสกับเต็มไปด้วยหยดน้ำตาที่ไหลริน สองตายายเริ่มสงสาร และคิดว่าที่มะนาวร้องไห้คงเป็นเพราะอยู่บ้านเพียงคนเดียว...ยายเอากับข้าวจากที่วัดใส่จาน ให้มะนาว ‘’มะนาว กินข้าว อาบน้ำนอนนะ อากาศไม่ค่อยดี ‘’ มะนาวพยักหน้า... หลังจากนั้นมะนาวเข้านอนแต่หัวค่ำ ไหว้พระสวดมนต์ และอธิฐานขออย่าให้มะนาวเจอกับเหตุการณ์ที่มะนาวเห็นในวันนี้อีกเลย เพราะภาพต่างๆที่มะนาวเห็น มีแต่ความน่ากลัวและความโศกเศร้า...
     หลังจากหลับสนิท ความรู้สึกของมะนาวเหมือนกับลอยอยู่บนอากาศ ระยะไม่ห่างจากพื้นมากเท่าไหร่ ไอหนาวเย็นผ่านมากระทบผิวของมะนาวจนความรู้สึกเย็นยะเยือกแผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย เสียงกระทบเบาๆของหยดน้ำหยดเล็กๆดังกังวาน เงียบสงัดไร้เสียงลมหายใจของสิ่งมีชีวิต เมื่อมะนาวรู้สึกตัว เธอลืมตาขึ้นพร้อมกับตั้งสติ เพื่อให้รู้ว่าสถานที่ที่เธออยู่นั้นคือที่ไหน เบื้องหน้า เต็มไปด้วยโพรงถ้ำ หิมะขาวโพลนเกาะหน้าแน่น รอยแตกบริเวณผนังหินมีไอเย็นๆออกมาเป็นระยะๆ มะนาวคิดในใจแล้วว่าสิ่งที่เธอเห็นในขณะนี้ต้องเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทั้ง 3 เหตุการณ์ที่เธอพบเจอมาอย่างแน่นอน เธอเดินพาร่างกายที่เหนื่อยล้าไปตามทางพื้นน้ำแข็งที่ลื่นและเย็น...
    จนมาถึงบ่อน้ำแห่งหนึ่งที่อากาศหนาวเย็นมากขนาดนี้แต่น้ำในบ่อยังไหลและดูราวกับแก้ว มะนาวหิวน้ำจึงใช้มือ
    ตักน้ำ อุณภูมิของน้ำสูงจนมะนาวรู้สึกอุ่นๆที่ฝ่ามือ..และดื่มอย่างกระหาย ความรู้สึกไร้เรี่ยวแรงที่มีหายไปเป็นปลิดทิ้ง สาวน้อยตัวเล็กๆรวบรวมพลัง และพยายามเดินหาทางออกไปจากที่นี่  แต่...ไม่มีแม้แสงสว่างที่ส่องเข้ามาจากภายนอก มะนาวเริ่มสงสัย สายตากวาดไปทั่วบริเวณ ทั้งเพดาน พื้น ผนังถ้ำ เธอเริ่มสังเกตบางสิ่งบางอย่าง ไอน้ำเย็นๆที่ออกมาจากร่องหินแตก หันไปในทิศทางเดียวกัน บริเวณนั้นมีก้อนหินขนาดใหญ่...อยู่สูงจากพื้นไม่มากนัก แต่มะนาวพยายามที่จะเข้าไปสังเกตจึงค่อยๆปีนขึ้นไป แต่ด้วยความเย็นของน้ำแข็งจึงทำให้มะนาวตกลงมาหลายครั้ง เข่าเล็กๆแตก เลือดค่อยๆซิบออกมาจากแผลเหล่านั้น มะนาวเจ็บอย่างที่บอกไม่ถูก ความคิดชั่วขณะเกิดขึ้นเธอจึงตัดสินใจไปที่บ่อน้ำอีกครั้ง และตักน้ำราดแผล แผลที่มีหายไปอย่างไร้ร่องรอย มะนาวตัดสินใจที่จะสำรวจก้อนหินก้อนนั้นให้ได้ พยายามแล้วพยายามเล่าจนในที่สุดสามารถปีนขึ้นไปได้ ทางที่ราดชัดทำให้มะนาวต้องระวังเป็นพิเศษ ถ้าหากตกลงไปมะนาวอาจจะบาดเจ็บจนรักษาไม่ได้...ก้อนหินก้อนใหญ่มีลายสลักรูปพระอาทิตย์สีแดงอยู่เต็มก้อน..มะนาวสนใจลายต่างๆที่เกิดขึ้น เกรงว่าอาจเป็นหลักฐานสำคัญบางอย่างจึงได้แต่มอง สังเกตอยู่นานเกิดเหตุที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น หิมะถล่มลงมาบริเวณนั้น มะนาวเสียหลักจึงล้มลงทับหินก้อนใหญ่...
    หลังจากนั้นมะนาวมีความรู้สึกเหมือนกับถูกดูดเข้าไป...ไม่นาน ภาพเบื้องหน้าที่มะนาวเห็นคือ ทุ่งหญ้าเหี่ยวเฉาและท้องฟ้าสีชมพูเจิดจ้า...เป็นภาพเดียวกับตอนที่มะนาวเห็นบริเวณบ้านของคุณตา...ความรู้สึกเข้ามาในใจของมะนาว เธอมีความรู้สึกว่า มีหลายสิ่งหลายอย่าง ที่เป็นความจริง และเธอ ต้องปฏิบัติให้สำเร็จ...
    เสียงแกรบๆกระทบกันของหญ้าแห้งดังเบาๆด้วยแรงการเคลื่อนที่จากเท้าเล็กๆ..ทางเบื้องหน้าไม่มีแม้แต่หมู่บ้านผู้คน...มะนาวเดินต่อไปอย่างมุ่งมั่น จนในที่สุดพบบ้านหลังหนึ่ง บ้านที่มะนาวเห็นอยู่ตอนนี้ คือบ้าน ที่มะนาวอาศัยอยู่ทุกวัน มะนาวตัดสินใจเดินขึ้นไปบนบ้าน และเปิดประตูอย่างไม่รอช้า... มะนาวกลับมาสู่โลกแห่งความจริง ที่มีคุณตาและคุณยาย ฝนยังตกอยู่เหมือนเดิม...เสียงทั่วบริเวณนั้นยังคงกังวาลไปด้วยเสียงสัตว์น้อยใหญ่ ที่เคยได้ยินจนชินหู แต่ที่ไม่เหมือนเดิมคือ...ในบ้าน ไม่มีแม้แต่เสียงลมหายใจแรงๆของชาย และหญิงชรา ความเงียบสงัดเกิดขึ้นทั้งในใจและการได้ยินของมะนาว เธอเดินลงไปข้างล่างของบ้าน และขี่จักรยานสำรวจทั่วทั้งบริเวณหมู่บ้านจนเหนื่อยหอบ ไม่มีแม้แต่เสียงเด็กตัวเล็กตัวน้อยวิ่งเล่น หรือเสียงกระดิ่งของวัวที่คนในหมู่บ้านเลี้ยงไว้ ไม่นาน...มะนาวได้หยุดรถ ณ . ที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ทุกคน มารวมกันอยู่ที่นี่ บนเวทีเล็กๆมีผู้ใหญ่บ้าน และ ชายฉกรรจ์อีก 2 คน บอกบางสิ่งบางอย่างแก่ชาวบ้านทุกคน...
     ‘’พี่น้องทุกท่านครับ ตอนนี้หมู่บ้านของเราประสบปัญหาน้ำท่วมขัง ผลผลิตทางการเกษตรต่างๆไม่สามารถเจริญเติบโตและเก็บเกี่ยวได้ตามปกติ ทำให้รายได้ของทุกท่านลดต่ำลงไป ส่งผลให้การดำรงชีวิตเป็นไปอย่างยากลำบาก ดังนั้น ผมจึงอาสาเข้ามาทำหน้าที่รับใช้พ่อแม่พี่น้องทุกท่านและจะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดครับ และนี่ครับ คือน้ำใจเล็กๆน้อยๆจากผม’’ ชายฉกรรจ์คนหนึ่งที่พูดอยู่กับไมค์ควักแบ๊งค์ 100 บาทออกมาจากกระเป๋าใบใหญ่ ทำให้ชาวบ้านหลายคนไม่พอใจเป็นอย่างมาก ‘’ ขี้โกง! แบบนี้พวกเราไม่ต้องการ ถึงพวกเราจะประกอบอาชีพตอนนี้ไม่ได้ ไม่ได้ส่งผลกระทบต่อชีวิตของพวกเรา โดยเฉพาะจิตใจ พวกเราไม่มีทางส่งเสริมคนอย่างพวกคุณเด็ดขาด ลุงคนหนึ่งตระโกนตอบโต้ด้วยความจริงจังและสีหน้าเคร่งเครียด ‘’ใช่ๆๆๆๆๆๆ....’’ ชาวบ้านอีกหลายคนประสานเสียงกันด้วยความพร้อมเพียง ‘’ก็ได้ครับ ในเมื่อพวกท่านไม่ต้องการรับสิ่งที่ผมเสนอ...แต่ต่อจากนี้ไป ถึงพวกท่านจะทำนา เก็บผลผลิตได้ แต่ ไม่ว่าคนกลางที่มารับซื้อของจากท่าน พวกของผมทั้งนั้นครับ หากพวกท่าน มีพาหนะ นำไปขายที่อื่นได้มากพอ ผมก็ยินดีครับผมไม่ว่าอะไร’’ สีหน้าผิดหวังเล็กๆเกิดขึ้นบนหน้าชายคนดังกล่าว ก่อนที่จะเดินขึ้นรถกลับไป...
     ‘’พ่อแม่พี่น้องทุกท่าน ฟังนะครับ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น พวกเราต้องเข้มแข็ง และอดทน...พวกเราอยู่กันที่นี่มาตั้งแต่รุ่นปู่รุ่นย่าของเรา เราทำอาชีพนี้กันมานานไม่ว่าจะเกิดปัญหาหนักหนาแค่ไหน สามารถผ่านไปได้ทุกสถานการณ์ ดังนั้นเหตุการณ์ในวันนี้ พวกเราต้องมั่นคงกับสิ่งที่พวกเราเป็นครับ พวกเราเห็นด้วยไหมครับ...’’
    เห็นด้วย....................... เสียงชาวบ้านส่วนใหญ่ตอบอย่างพร้อมเพียง ไม่เห็นด้วย! มีเสียงแทรกขึ้นมาจากหญิงวัยกลางคนคนหนึ่ง  ‘’ฉันไม่เห็นด้วย ตอนนี้จะอดตายกันอยู่แล้ว ใครไม่เอาเงิน ฉันเอา’’ ใช่ๆๆ มีเสียงผู้สนับสนุนหลายคน แต่ไม่มากนัก ‘’ครับ แล้วแต่ทุกท่านจะพิจารณาครับ ผมเป็นผู้ใหญ่บ้าน ทำหน้าที่ช่วยเหลือทุกท่านในสิ่งที่หน้าที่ของผมต้องทำ เป็นสิทธิของท่านในการเลือกคนเข้าไปทำหน้าที่แทนท่านครับ แต่สำหรับผม ไม่มีอะไรยั่งยืนไปกว่าการยืนด้วย 2 เท้าของตัวเองครับ ผมขอปิดการประชุมในวันนี้ครับ สวัสดีครับ’’ ผู้ใหญ่บ้านตอบด้วยเสียงจริงจังและลงจากเวทีไป... มะนาวเข้าใจในสิ่งที่เกิดขึ้นทั้งหมด จึงถอนหายใจด้วยความรู้สึกสังหรณ์ใจกับเหตุการณ์ในวันนี้ ทุกคนแยกย้ายกันกลับบ้านรวมถึงตาและยาย
    ‘’อ้าว มะนาว มาที่นี่ตั้งแต่เมื่อไหร่เหรอลูก’’ ตาถามมะนาว ‘’ไม่นานนี้เองค่ะตา กลับบ้านกันเถอะค่ะ’’มะนาวตอบด้วยเสียงเหนื่อยๆ เมื่อถึงบ้าน ตาและยาย ชวนมะนาวสนทนากับสิ่งที่เกิดขึ้น มะนาวเอง เห็นด้วยกับตา ที่เคยบอกมะนาวเรื่องการดำรงชีวิต ยายเอง ก็อยากเห็นหมู่บ้านแห่งนี้เป็นเหมือนเดิม ‘’ฉันว่าแกควรจะบอกบางสิ่งบางอย่างกับหลานได้แล้วหละ’’ ยายบอกตาด้วยน้ำเสียงที่แข็ง และจริงจัง ’’อืม ถึงเวลาแล้วสินะ’’ ตาจับแขนเสื้อของตัวเอง และเปิดไหล่ให้มะนาวสังเกตุ.... รอยถูกยิง! มะนาวตกใจกับสิ่งที่เหตุ แขนของตามีแผลเป็น ที่เกิดจากกระสุนปืน ‘’คุณตา...มะนาวส่งเสียงไม่ค่อยดีออกมา คุณตาไม่ต้องเล่าแล้วค่ะว่าเกิดอะไรขึ้น มะนาวเข้าใจแล้ว มะนาวไม่อยากให้คุณตาต้องเจ็บปวดไปมากกว่านี้...’’ ตางงกับคำพูดของมะนาว แต่พยักหน้าเพราะเข้าใจมะนาว...อย่างไรวันนี้แยกย้ายกันอาบน้ำนอนเถอะนะ รู้สึกเหนื่อยๆตั้งแต่เช้า....
     มะนาวนอนคิดถึงหลายๆเหตุการณ์ที่เจอ แล้วรู้แล้วว่าภาพเงาผู้ชายที่เห็นบนผิวน้ำในวันนั้นต้องมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในวันนี้ เพราะที่ผ่านมาหมู่บ้านนี้คนทุจริตไม่สามารถล่วงล้ำเข้ามาได้ไม่ว่าจะลักษณะใดๆก็ตาม มะนาวตัดสินใจที่จะนอน และรู้แล้วว่า สิ่งที่มะนาวเห็นในถ้ำน้ำแข็ง คือความจริงแต่เป็นอีกโลกหนึ่งที่มะนาวไปพบ ไม่นานฝนที่ตกติดต่อกันมาหลายวันก็หยุดตก แต่มะนาวยังรู้สึกว่า อุปสรรคต่างๆที่หมู่บ้านแห่งนี้และอีกหลายๆคนพบเจอ ยังไม่จางหายไปกับสายฝน แต่ เพิ่งเริ่มต้นเท่านั้น.........
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×