คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : มหานครกราเซล(100%)รีไรท์แล้ว
"เรียบร้อยแล้วค่ะ"แม่นมตะโกนเสียงดังมาจากหน้าบ้าน
"ค่ะๆไปเดี๋ยวนี้แหละค่ะ"เสียงใสของเรมีลดร้าตอบรับ
วันนี้เป็นวันที่เธอจะต้องเดินทางไปทดสอบที่บราทีสซึ่งบราทีสก็ไม่ได้อยู่ใกล้เลย บราทีสอยู่ในมหานครกราเซลเรียกได้ว่าเป็นที่ที่อยู่ใจกลางของdarktearsเลยก็ว่าได้ ใครๆก็เรียกมันว่ามหานครแห่งเวทย์มนตร์เป็นที่ที่รวบรวมมหาเวทย์ไว้มากมาย และเป็นนครที่เจริญมากมายในทุกๆด้านและมันก็อยู่ไกล ทำให้เธอต้องออกเดินทางล่วงหน้าถึง3วัน
"ขอให้คุณหนูโชคดีนะคะแล้วนมจะส่งทริคไปหา"แม่นมพูดไปพร้อมน้ำตาคลอ ทริคคือการส่งจดหมายหรือการสื่อสารที่นิยมที่สุดเพราะมันรวดเร็วทริคมีลักษณะคล้ายกล่องแหวน เวลามีข้อความมามันจะร้องเตือนมันทำหน้าที่คล้ายโทรศัพท์เพียงแต่ว่ามันสามารถเห็นหน้าฝ่ายตรงข้ามได้
"ค่ะหนูไปนะคะ"คราวนี้แม่นมน้ำตาไหลเป็นสาย ทำให้เรมีลต้องเดินไปกอดเธอ
เรมีลขึ้นไปนั่งบนเกวียนทองซึ่งเป็นเป็นการเดินที่ไกลที่สุดเท่าที่เธอเคยเดินทางมาเพราะส่วนมากเธอก็ไปแค่งานเลี้ยงใกล้ๆ เกวียนที่บังคับโดยทรอคที่มีลักษณะคล้ายม้า แต่มีขนฟูเหมือนแกะ และที่สำคัญมันมีปีก ทรอคเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับเธอในตอนนี้
(ทรอค เราต้องเดินทางกี่ชั่วโมง)เรมีลเป็นสาวน้อยที่มีสิ่งที่คนอื่นไม่มีอย่างแรกเธอสามารถร่ายเวทย์คุยกับสัตว์ได้
(ประมาณ5ชั่วโมงครับ)ทรอคตอบเสียงสบายๆ ในไม่ช้าความรู้สึกโหวงๆก็เกิดขึ้นกับเรมีลมันทำให้เธอรู้สึกเสียวสันหลัง มันเป็นอย่างงนี้ทุกครั้งที่เกวียนทะยานขึ้นสู้ห้วงนภา
การเดินทางราบรื่น จนมาถึงทางด่านก่อนที่จะเข้ากราเซล ทรอคต้องค่อยๆลดระดับความสูงจนมาจอดที่หน้าด่าน เรมีลค่อยๆก้าวลงจากเกวียนมีพ่อมดท่าทางเหมือนผู้ดูแลยืนคุมประตูอยู่สองนายดูจากการแต่งตัว หมวกทรงสูง เสื้อคลุมตัวยาว บอกได้เลยว่าเป็นพ่อมดที่ต้องเป็นผู้ที่อยู่ในการดูแลของแม่แน่นอน
"สวัสดีครับ คุณหนูเรมีลดร้า"พ่อมดหนึ่งในสองคนนั้นทักทายเธอด้วยใบหน้าที่ขึงขัง แต่มันไม่ได้ทำให้เธอหวั่นเลยสักนิด เธอถูกสอนมาให้เข้ากับสังคมทุกๆประเภท คนทุกๆประเภท แม่สอนเสมอว่า ชาร์ลเทล จะไม่อ่อนแอและอับอายต่อหน้าบุคคลอื่น
"ค่ะ"เรมีลคอยๆย่อกายลงอย่างสง่างามสมกับเป็นคุณหนูของตระกูลที่โด่งดัง
"คุณเรนอลแจ้งกับทางเรามาแล้วว่าคุณหนูจะมาถึงเวลาประมาณนี้"ชายอีกคนตอบกลับ เขามีใบหน้าที่ดูหนุ่มกว่าเล็กน้อยและดูใจดีกว่า
"เอ่อคุณ..."เรมีลกำลังจะถามเรื่องที่อยู่
"อ๋อ กระผมขออภัยที่ลืมบอกชื่อ เสียมารยาทจริงๆ"ชายคนที่หน้าตาอ่อนเยาว์ตำหนิตนเองเล็กน้อย"เรียกกระผมสั้นๆว่า ทอม"
"ส่วนกระผม ทิล"ชายที่หน้าตาแก่กว่าพูด
"อ๋อ ค่ะ"เรมีลตอบพร้อมทั้งยิ้มน้อยๆ
"ตามกระผมทางนี้ เดี๋ยวกระผมจะพาไปตรวจสอบก่อนเข้านคร"ทิลผายมือเป็นเชิงเชิญให้เธอเดิน
เรมีลเดินตรงไปที่กระโจมที่เป็นสีทองมีทหารหน้าตาหน้ากลัวยืนอยู่สองฝั่งของกระโจม เมื่อเธอเดินมาทางหน้าประตูก็มีบาเรียใสขึ้นโอบรอบกายจากบาเรียใสก็กลับดำมืดแล้วร่างทั้งร่างก็เหมือนหมุนเคว้งอยู่กลางอากาศไม่นานเธอก็กลับมาอยู่ในท่าปกติเหมือนเดิม บาเรียก็หายไป ประตูทองก็ค่อยๆแง้มเปิดอออกด้านในมีหญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่
"สวัสดีค่ะ"หญิงคนนั้นทักทายด้วยใบหน้าเรียบเฉย
"เอ่อ..ค่ะ สวัสดีค่ะ"สีหน้าของหญิงคนนั้นมันทำให้เธอรู้สึกประหม่า
"เชิญเดินตรงไปทางขวานะคะ"หญิงสาวชี้มือไปทางด้านขวาของเรมีลดร้า
เรมีลทำตามโดยการก้าวเท้าไปทางด้านขวาและเหมือนมีบางอย่างมาฉุดเธอไว้ ทำให้ร่างทั้งร่างร่วงลงไปทางด้านล่างซึ่งเป็นโพรงมืดสนิท
"กรี๊ด"เรมีลร้องออกมาด้วยความตกใจ
ไม่นานร่างของเธอก็หยุดอยู่กับที่ และเหมือนมีบางอย่างมาครอบหัวของเธอ พร้อมทั้งเสียงตี๊ดเบาๆ และเหมือนทุกอย่างเป็นเพียงแค่ฝันเธอกลับมายืนอยู่ทางด้านหน้ากระโจมเรียบร้อยแล้ว
"เรียบร้อยแล้วครับ"ทิลพูด
"เอ๋"เรมีลทำท่าทางสงสัย
"ก็การตรวจและประทับตราเรียบร้อยแล้วไงครับ"ทิลบอก
"เรายังรู้สึกเหมือนไม่ได้ทำไรเลยนะ"เรมีลพูด ยังคงงงงวย
"ก็นี่แหละครับเวทย์มนตร์ รีบหน่อยเถอะครับเราต้องไปถึงคฤหาสน์ตรงเวลานะครับ"คราวนี้ทิลท่าทางจริงจังขึ้นทำให้เรมีลต้องทำตามแต่โดยดี
เมื่อเกวียนทะยานขึ้นสู้ห้วงนภาที่ตอนนี้พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า น่าจะเป็นเวลาใกล้สองทุ่มแล้ว นี่เรียกได้ว่าครั้งเป็นครั้งแรกเลยก็ว่าได้ที่เธอมาที่กราเซลทำให้เรมีลไม่สามารถเก็บงำความตื่นเต้นได้ เธอค่อยๆยื่นหน้าออกไปทางนอกหน้าต่างเกวียน
"โอโห อะไรจะงามขนาดนี้"เรมีลตาโตกับความงามเบื้องล่าง ทุกๆอย่างดูสวยงามไปหมดทั้งแสงไฟหลากสีที่บ่งบอกถึงความเจริญ
ยิ่งมันทอประกายยามค่ำคืนยิ่งทำให้ทุกๆอย่างสวยงาม น่ามอง
"คุณหนูครับ ไม่ควรยื่นหน้ามาอย่างนั้นนะครับมันอันตรายเกิดเกวียนอื่นสวนมา อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้นะครับ"ทิลที่นั่งอยู่ทางด้านหน้าเกวียนปรามคุณหนูที่ตอนนี้ทำตัวไม่สมกับเป็นคุณหนูของชาร์ลเทล
เรมีลเมื่อโดนปรามเช่นนั้นจึงรีบหดหัวเข้ามาภายในเกวียน ทำให้เธอเริ่มนึกได้ พอคุณแม่ไม่อยู่คอยว่าเรื่องมารยาทเธอก็อยากจะทำอะไรที่คนอื่นเขาทำกันบ้างนี่น่า
เมื่อเกวียนมาจอดหน้าคฤหาสน์หลังงามมันเป็นที่ที่ใหญ่โตมากๆ จนทำให้เธออยากรู้ว่าในเมื่อคุณพ่อมีคฤหาสน์ใหญโตขนาดนี้อยู่ในมหานครที่เจริญขนาดนี้แล้วทำไมพวกท่านถึงไม่ย้ายมาอยู่ที่นี่
"เชิญครับ"ทิลเปิดประตูแล้วผายมือเป็นเชิงให้เรมีลลงมาทางด้านล่างได้แล้ว
เมื่อเรมีลก้าวลงก็มีคนรับใช้นับสิบยืนคอยต้อนรับเธออยู่แล้ว ทุกๆคนใส่เครื่องแบบเหมือนกับคฤหาสน์ที่เธอเพิ่งจากมา และตอนนี้ทุกคนกำลังก้มหัวให้เธออยู่
"ไม่ต้องก้มหัวให้เราหรอกนะ"เรมีลพูดอย่างอ่อนโยน พร้อมส่งยิ้มน้อยๆให้ทุกๆคน
เมือทุกคนเงยหน้าขึ้นมาสบตากับเรมีลดร้า ทายาทเพียงคนเดียวของตระกูลชาร์ลเทล ทำให้ทุกคนยิ้มรับอย่างจริงใจ เมื่อพวกเธอเห็นรอยยิ้มน้อยๆที่สดใสประดับบนใบหน้างามมันอ่อนโยน มีอำนาจ และเด็ดเดี่ยว
"ยินดีต้อนรับสู่คฤหาสน์มาร์ลเดอร์"เหล่าแม่บ้านประสานเสียงกัน
"ขอบคุณทุกคนมากนะ"คราวนี้จากรอยยิ้มนอยๆกับเป็นรอยยิ้มกว้าง
แม่บ้านคนหนึ่งที่เธอแนะนำตัวว่าชื่อ เบลล่า เดินนำเรมีลไปชมคฤหาสน์ที่บอกได้คำเดียวว่าวิจิตรงดงามนัก ทุกๆย่างก้าวมันทำให้เธอดูราวกับเจ้าหญิง ซึ่งเหล่าแม้บ้านก็เห็นด้วยอย่างยิ่ง
"คุณหนูจะมาอยู่ที่นี่นานไหมคะ"เบลล่าเอ่ยคำถามระหว่างที่พวกเธอกำลังจะเดินไปห้องสมุด
"ไม่ทราบสิคะ ถ้าหนูทดสอบที่บราทีสไม่ผ่านก็คงกลับไปอยู่กับแม่แหล่ะค่ะ"เรมีลเริ่มเปลี่ยนสรรพนามในการเรียกตนเองเพราะเริ่มคุ้นกับแม่บ้านคนนี้มากขึ้น
"อ่ะค่ะ นี่ถึงห้องสมุดแล้วค่ะ"ประตุห้องสมุดที่เรียกได้ว่าใหญ่พอๆกับประตูด้านหน้าบ้าน ค่อยๆแง้มเปิดขึ้นเพราะเรมีลพึมพำคถาง่ายๆบทหนึ่ง ส่วนมากเธอมักจะใช้เวทย์มนตร์ทำเกือบทุกๆอย่างที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องอาศัยคทา เพราะมันยังไม่ถึงวัยที่เธอต้องอาศัยมัน
"โห ทำไมมันใหญ่จังคะเนี่ย"เรมีลอุทานอย่างทึ่งๆกับความมโหฬารของห้องสมุด
"เป็นที่รวบรวมหนังสือทุกๆสำนักพิมพ์เลยไงคะ"แม่บ้านอธิบาย
เรมีลค่อยๆเดินสำรวจรอบๆคฤหาสน์มันมีสองสามห้องที่เรียกได้ว่าถูกใจเธออย่างมาก ห้องหนึ่งคงต้องเป็นห้องดนตรี ต่อมาก็ห้องครัว เพราะการทำอาหารเป็นสิ่งที่ทำให้รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าของเธอเสมอและห้องสุดท้ายคงเป็นห้องที่รวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ต่างๆ และเมื่อพละกำลังหมดลงเธอจึงต้องไปนั่งทานอาหาร
"คุณเบลขา ทำไมในเมื่อคฤหาสน์ไม่มีคนอยู่แล้วทำไมต้องมีแม่บ้านมาอยู่ดูแลกันเยอะแยะขนาดนี้คะ"เรมีลเริ่มบทสนทนาเมื่ออาหารทั่งหมดถูกกักเก็บไว้ในกระเพาะเรียบร้อยแล้ว
"เอ่อ คือเรื่องนั้นดิฉันก็ไม่ทราบเหมือนกันแหละค่ะ"เบลล่าตอบตามความจริงเพราะเธอก็ไม่เคยรู้เหตุผลเรื่องนี้เช่นกัน
"แล้วพอจะรู้ไหมคะว่าที่บราทีสเขาทดสอบกันยากขนาดไหน"เรนีลเริ่มเข้าประเด็นที่เธอสงสัยที่สุด
"เท่าที่รู้ เห็นเขาบอกกันว่า จะมีการสอบข้อเขียนแล้วก็การที่ต้องออกไปแสดงอะไรซักอย่างมั้งคะ"คราวนี้มันทำให้เรมีลถึงกับสำลัก
ข้อเขียนเธอมั่นในว่าพอทำได้แต่ไอ้การแสดงนี่สิเธอจะไปแสดงอะไรดี คือปัญหา
ความคิดเห็น