ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    หมูกระทะป้าน้อย [bts x you] จบแล้ว

    ลำดับตอนที่ #1 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 11 เม.ย. 64


    บทนำ

    สวัสดีจ้ะ นี่เป็นเรื่องราวของสาวมหาลัยคนหนึ่งที่... จู่ๆก็สวยขึ้นมากะทันหันไม่ทันได้เตรียมใจสะปายห้าขวด ฉันมีนามว่า “มิลิน” แต่ชอบโดนเรียกว่า มิชลิน ตลอดดด! เพราะอะไรน่ะหรอ? เฮ้อออ อย่าให้ฉันพูดเลยดีกว่า

    “เฮ้ ยัยมิลิน เย็นนี้ไปกินชาบูร้านไหนดีอะ” เพื่อนสนิทฉัน กุ้งถามฉัน กุ้งเป็นเพื่อนที่แสนดี เธอมักจะชวนฉันกินตลอด

    “เบื่อชาบูแล้วอะ เราไป... หมูกระทะแทนมั้ย? หมูกระทะป้าน้อย” < ฉัน

    “ดูยัยมิชลินกับยัยกุ้งดิ หาเรื่องกินกันอีกแล้ว แต่ทำไมยัยมิชลินถึงตัวบวมอยู่คนเดียวนะ ฮ่าๆๆ” พวกเด็กมหาลัยพูดถึงฉันอยู่ ทีนี้ทุกคนก็คงจะรู้แล้วนะฉันมีรูปร่างเป็นยังไง ฉันมีพุงเป็นชั้นๆเหมือนยางมิชลิน แถมตัวดำอีกต่างหาก TT ตัวดำก็ไม่เห็นเป็นไรเลยนี่นา สมัยนี้เขาไม่สนกันแล้วว่าจะดำหรือขาว เราไม่เหยียดกัน ก็พูดได้นิ ลองออกมาสู่สังคมจริงๆกันมั้ยล่ะ คนยัง body shaming กันเป็นเรื่องปกติอยู่เลย ... เราควรภูมิใจกับสิ่งที่เป็น ทุกคนมีความสวยเป็นของตัวเอง อะจ้าแม่ ... แต่ตราบใดที่สวยพิมพ์นิยมคือขาวสวยหุ่นดี ฉันก็คงเป็นยัยมิชลินยันวันยันค่ำยันฮียันฮำ ส่วนกุ้ง ไม่รู้ชาติที่แล้วเธอทำบุญด้วยอะไรถึงกินเท่าไรก็ไม่อ้วน

    “น่ารำคาญพวกนั้นจริงๆเลย ถึงจะแซวเล่นก็เถอะ แต่คิดว่าพวกเราเล่นด้วยรึไง” กุ้งกรอกตามองบนก่อนกล่าวกับฉันด้วยสายตามุ่งมั่นว่า “ฉันว่ามันถึงเวลาที่แกต้องเปลี่ยนตัวเองแล้วล่ะ”

    “เปลี่ยนตัวเองเหมือนนางเอกในหนังอะหรอ จากยัยอ้วนกลายเป็นนางฟ้า แล้วก็เอาหุ่นสวยๆไปเดินเฟียสๆให้พวกมันอึ้งอ้าปากค้าง”

    “ใช่ ตอนแกเดิน ฉันจะคอยเปิดซาวด์ดนตรีเริ่ดๆให้ เหมือนได้ชีวิตใหม่สวยสะพรึง”

    “ดูหนังมากไปรึเปล่า นี่ชีวิตจริงนะ ถ้าเปลี่ยนเพื่อให้พวกนั้นเลิกเรียกฉันว่ามิชลิน ฉันคงทำไม่ได้ เพราะฉันไม่อยากเปลี่ยนตัวเองเพื่อคนอื่น แต่ถ้าฉันจะเปลี่ยน ฉันจะเปลี่ยนเพื่อตัวฉันเอง”

    “ว้าวว สุดยอดไปเลย”

    “และตัวฉันในตอนนี้มีความสุขกับการกินมาก อิอิ ปล่อยแม่ง body shaming ต่อไปเถอะ ฉันขี้เกียจสนใจและ เสียเวลากิน”

    “โถ่ ยัยมิลินเอ้ย”

    “ฉันอยากกินนี่นา ฉันชอบกินนนน”

    และแล้วพวกเราก็ไปร้านหมูกระทะป้าน้อย ฉันอิ่มหนำสำราญมากจนป้าน้อยเจ้าของร้านเหงื่อแตกพลั่กๆคงเพราะไม่เคยเจอลูกค้าที่แดกไม่บันยะบันยังแบบฉัน แต่ฉันก็มาแดกเป็นประจำเลยนะ อิอิ ขากลับฉันขี่ไปส่งกุ้งที่บ้าน เพราะบ้านกุ้งใกล้กับมหาลัย ส่วนฉันขี่รถมอเตอร์ไซค์กลับเอง โชคไม่ดีที่ถนนแถวหอฉันชำรุด เป็นเหตุให้ฉัน.......

    ตี๊ดดดดดดด.... ยัง! ยังไม่ตายโว้ยยยย เพิ่งจะเริ่มเรื่อง!

    เป็นเหตุให้ฉัน...เกือบไม่รอดจ้า แต่ก็รอดกรุบกริบสะบะดิเห้


    ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นมาเห็นเพดานขาวและมีเสียงติ๊ด ติ๊ด ติ๊ดข้างหูจึงหันไปมองเห็นเครื่อง...เครื่องอะไรฟะที่มันวัดชีพจรอ้ะ วัดหัวใจอะไรนี่แหละ ที่แบบมันจะขึ้นเป็นเส้นๆ อีเวรเอ้ยจะบรรยายให้มันดีๆสักหน่อยกลายเป็นโชว์ง่าวเลย นี่ไงรู้เลยว่าไม่ตั้งใจเรียน แงๆ ฉันจึงเบิกตาโพลงด้วยความตกใจเพราะฉันอาการหนักมากเลยหรอถึงได้มานอนอยู่บนเตียงคนไข้!

    “ท...ที่นี่ที่ไหน!?!?!” ฉันอุทานไปตามบริบทของเรื่อง ซึ่งต้องตกใจและถามแบบนี้

    “ดิสนีย์แลนด์มั้งอีดอก” แต่ดันมีคนตอบโดยไม่ดูบริบทเลย เขาควรจะตอบว่า โรงพยาบาล!

    ฉันหันควับไปมองคนที่ตอบ ป้าชุดเดรสสีดำหน้าไม่คุ้นเลย ฉันจึงเอ่ยถามไปว่า

    “ป...ป้าเป็นใคร”

    “แล้วหนูอะเป็นใคร”

    “น...หนูชื่อมิลิน”

    “ใครวะไม่เห็นรู้จัก”

    “เอ้าป้า! แล้วป้าเข้ามาได้ไง!

    “ฉันก็เข้ามาตอบคำถามไง”


    “คำถาม?

    “ก็หนูถามว่าที่นี่ที่ไหน”

    “...”

    “ดิสนีย์แลนด์มั้งอีดอก”

    “โอ้ยป้า!

    แอ๊ดดดด ประตูถูกเปิดจากคนด้านนอก แพทย์หญิงสามคนเดินเข้ามาหาฉันแล้วก็ทำหน้าตกใจสุดขีด พวกเขาตกใจอะไรกัน!

    “อะเจ้ยลูกเขยดอยคำมะแปร๊ด! คนไข้มิลินฟื้นแล้ว!!!” แพทย์หญิงอุทานพร้อมกัน

    “ใช่ค่าฟื้นแล้ว” ฉันตอบด้วยสีหน้าสดใส แต่พวกเขากลับวิ่งกรูเข้ามาเช็คสภาพร่างกายฉันแทบทุกจุดจนงงไปหมด

    “ป...ปาฏิหารย์มีจริงตะมิงตะมวง!” แพทย์หญิงพูดด้วยแววตาเหลือเชื่อ ถามจริงไรท์ต้องแต่งให้พวกแพทย์หญิงตกใจอลังการงานสร้างขนาดนั้นเลยหรอกับการที่ฉันฟื้นขึ้นมาเนี่ย

    “คุณหมอคะ มือถือของหนูอยู่ไหนอะ จะติดต่อเพื่อน”

    “นี่ค่ะๆ”

    ฉันรับโทรศัพท์มือถือมา แต่แบตหมดเปิดไม่ได้ซะงั้น เอ...ฉันจำได้ว่าชาร์จแบตมาจากที่ร้านหมูกระทะป้าน้อยแล้วนะ โทรศัพท์ฉันเจ๊งบ๊งกระดองเต่าแล้วหรอ

    “ขอสายชาร์จหน่อยได้มั้ยคะ น่าจะอยู่ในกระเป๋าหนู”

    “นี่จ้ะหนู” ป้าชุดดำยื่นสายชาร์จให้ฉัน

    “ป...ป้าเป็นใครคะ” แพทย์หญิงถาม ก่อนป้าจะชะงักไปแล้วเอ่ยว่า

    “เอ่อ...ป้าก็ไม่รู้เหมือนกันว่าป้าเป็นใคร”

    “เอ้า” < ฉัน

    “อ๋อ ป้าคนนี้นี่เอง ป้ามาผิดห้องแล้ว” แพทย์หญิงเอ่ยก่อนหันมาพูดกับฉันเบาๆว่า “แกเป็นผู้ป่วยอัลไซเมอร์น่ะ”

    “อ่อ งี้นี่เอง”

    “ผิดห้องงั้นรึ อ้อ ป้าต้องไปรับยาชั้นล่างนี่นา ป้าจำได้ละ ถ้างั้น ลาก่อนนะจ๊ะ”

    - - ลาก่อนค่ะ”

    ป้าเดินออกจากห้องไป ส่วนฉันก็เสียบสายชาร์จโทรศัพท์ ไม่นานนักโทรศัพท์ก็เปิดได้ ค่อยโล่งอกตะหมกตะหมุย โทรศัพท์ยังใช้งานได้ ทว่า

    “ทำไมมันไม่แสกนหน้าล่ะเนี่ย” ฉันพยายามหันหน้าหลายๆมุมแต่มันก็ไม่แสกนปลดล็อก จึงกดรหัสเอาแทน พอโทรศัพท์ปลดล็อกแล้ว แจ้งเตือนจากแอพลิเคชั่นต่างๆก็เด้งรัวๆๆๆสะมัวพรู๊ดพร๊าดมาจนเครื่องเกือบค้างเลย ปัดโถ่เอ้ยสะแม๋แต๋กุ่ย ใจหายวาบไม่มีเงินซื้อเครื่องใหม่นะ ค่อยๆเปิดเข้าไปทีละแอพ แน่นอนว่าแอพแรกต้องเป็นแชทเฟส เพราะฉันจะติดต่อกุ้ง

    ดวงตาตี่เบิกโตยิ่ง (ตาฉันเอง) เพราะกุ้งแชทมาหาฉันรัวมากกก!

    แกอย่าเป็นอะไรนะ ฉันกำลังรีบไปหา

    มิลิน ฉันจะซื้อของกินที่แกชอบไปให้ แต่ถ้าแกไม่ลืมตาขึ้นมา แกจะอดกินนะ

    วันนี้ก็เป็นอีกวันที่แกปล่อยให้ฉันคุยคนเดียวข้างเตียงแก

    ฉันซื้อดอกกุหลาบสีเหลืองมาให้ ความหมายของมันก็คือ การให้กำลังใจ ฉันจะรอวันที่แกฟื้นขึ้นมานะ ถึงแม้ว่าหมอจะบอกว่าโอกาสมีน้อย แต่ฉันก็ไม่เชื่อหมอหรอก! แกน่ะเก่งอยู่แล้ว

    เป็นอีกวันที่ฉันนั่งกินหมูกระทะป้าน้อยคนเดียวหงอยๆ แต่ไม่ต้องห่วงนะ ฉันกินเผื่อแกแล้ว

    มิลิน ฉันคิดถึงแก

    แกอย่าทำกับฉันแบบนี้เลยนะ ฉันไม่อยากเชื่อคำพูดของหมอ แกต้องพิสูจน์ให้ฉันเห็นนะ ฟื้นขึ้นมาสิมิลิน!

    หลังจากนี้ไป ฉันอาจจะไม่ได้มาหาแกแล้วนะมิลิน ฉันได้รับเลือกเป็นเด็กทุนได้ไปเรียนต่อต่างประเทศที่ฉันเคยสมัครไว้เมื่อเดือนที่แล้ว ฉันอยากให้แกดีใจกับฉันจัง แต่ในขณะเดียวกัน ฉันก็เสียใจที่ฉันคงไม่ได้เป็นคนแรกที่แกเห็นตอนลืมตาฟื้นขึ้นมา

    ฟื้นยังมิลินนน

    เฮ้อออ ฉันนี่มันบ้าที่สุดเลย ทำเหมือนกับว่าแกแค่หลับไป แต่ก็ไม่เป็นไรหรอกนะถ้าเกิดฉันไม่ใช่คนแรกที่แกลืมตามาเห็น จะเป็นใครก็ได้ ขอแค่แกฟื้นขึ้นมาก็พอ

    คิดถึงแกเสมอนะมิลิน ตอนนี้ฉันถึงที่พักของโครงการเด็กทุนแล้ว หวังว่าพอฉันเรียนจบคอร์สที่นี่ เราจะได้นั่งกินหมูกระทะป้าน้อยด้วยกันนะ

    “น...นี่มันอะไรกันเนี่ย ยัยกุ้งกำลังจะทำฉันร้องไห้” ฉันน้ำตาคลอเบ้า เตรียมจะตอบแชท แต่ดันขึ้นแจ้งเตือนเฟสบุคเพราะฉันติดดาวกุ้งเอาไว้ เธออัพสเตตัส

    วันนี้เป็นวันคริสมาสต์ หวังว่าจะมีปาฏิหารย์เกิดขึ้นนะ

    “คริสมาสต์บ้าอะไร นั่นอีกตั้งสามเดือน เอ้ะ แต่เดี๋ยวก่อน!

    สายตาของฉันเหลือบไปมองวันเดือนปีที่ปรากฏบนโพสต์ มันคือเดือนธันวาคม!

    “คนไข้มิลินสลบไปสามเดือนค่ะ” แพทย์หญิงกล่าว ทำฉันอ้าปากค้างช็อกตาโตโมโส้โมเส้รีบลุกขึ้นจากเตียงแล้ววิ่งไปที่ห้องน้ำอย่างรวดเร็ว เฮ้ยปานาติปาตาผึ่มพรึ่ม! ตัวฉันพลิ้วไหวราวกับสายลม! ก่อนจะหยุดกรี๊ดดดดดดดดดดดเสียงแหลมกังวานไปทั่วโรงพยาบาลหน้ากระจกอ่างล้างมือ

    “กรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด!!!!!!!!!!

    พวกแพทย์หญิงรีบเข้ามาหาฉันในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว ตัวฉันแข็งทื่อเหมือนโดนสาปให้กลายเป็นหินเพราะผู้หญิงที่อยู่ในกระจก เธอผอมหุ่นดี เอวเอส ผิวขาว และที่น่าประหลาดใจคือเธอขยับร่างกายตามฉันได้หมดเลย อย่าบอกนะว่าผู้หญิงในกระจกคนนี้คือ!!!

    “คุณมิลิน ทำใจเย็นๆก่อนนะคะ น้ำหนักคุณลดไปเยอะมากเพราะคุณประสบอุบัติเหตุสลบไป 3 เดือนเต็ม”

    “ล...แล้วผิวขาวๆนี่ก็คงเป็นเพราะไม่ได้ออกแดดงั้นสิ!?” ฉันตาถลนมองกระจกพลางจับใบหน้าตัวเองทุกส่วนสัด “ก็ต้องใช่ล่ะเพราะว่าสลบไป 3 เดือนเต็ม จะออกไปไหนได้ล่ะ”

    หลังจากที่เหล่าแพทย์หญิงตรวจฉันอย่างละเอียดแล้วก็พบว่าฉันแข็งแรงดีกลับมาเป็นปกติแล้วซึ่งเป็นเรื่องแปลกประหลาดมากกกกก แต่ก็ดี ฉันจะได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ฉันออกจากห้องไอซียูมายืนอยู่หน้าโรงพยาบาลเตรียมจะกลับไปมหาลัย ขณะที่มองหาวินมอไซค์นั้น จู่ๆป้าชุดดำที่เป็นโรคอัลไซเมอร์ก็เดินเข้ามาหาฉัน

    “คิดว่าจะได้ใช้ชีวิตตามปกติเหมือนเดิมงั้นเรอะ เฮอะ ฝันไปเถอะ เรื่องนี้มันเพิ่งเริ่ม!

    “ป้า ป้ามาอีกแล้ว!

    “ป้ามาตลอดแหละ และจะมาตลอดไป รับนี่ไปสิ” ป้ายื่นกระดาษใบเล็กให้ฉัน

    “อะไรอะป้า”

    “อ่านสิจ๊ะ มีตาก็แหกตาอ่านเข้าไป”

    บัตรกำนัล หมูกระทะป้าน้อย ฟรีตลอดชีพ

    ไม่มีวันหมดอายุ แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด

    “กรี๊ดดดดดดดดด” ฉันดีใจกระโดดโลดเต้น หันไปถามป้าด้วยแววตาเป็นประกาย “หมูกระทะป้าน้อย ฟรีตลอดชีพ จริงๆหรอคะป้า!!

    “ใช่จ้า” ป้าชุดดำยิ้มก่อนกล่าวต่อไปว่า “อ้อ พลิกด้านหลังอ่านเงื่อนไขก่อนสิจ๊ะ”

    “ได้ค่ะป้า”

    เงื่อนไข

    สำหรับสาวโสดสนิทเท่านั้น

    “กรี๊ดดดดด พอดีเลย หนูไม่มีแฟนนนน >[]< เย้ๆๆๆ นี่มันยิ่งกว่าถูกหวยซะอีกกกก ดวงอะไรหนอ ฟ้าถึงได้ส่งป้าเอาบัตรหมูกระทะป้าน้อยมาให้หนู ขอบคุณพระเจ้า”

    “อย่าเพิ่งดีใจไปจ้า เงื่อนไขคือโสดเฉยๆไม่ได้นะจ๊ะ ต้องโสดสนิทด้วย”

    “เงื่อนไขเบๆมากป้า หนูทำได้อยู่แล้ว เพราะหนูเนี่ย โสดสนิทมาตั้งแต่เกิด! จีบใครก็ไม่ติด แถมคนมาจีบก็ไม่มี ฮ่าๆๆๆ ไม่มีอะไรเหมาะเหม็งไปกว่านี้แล้ว หนูคือคนที่คู่ควรกับบัตรกำนัลใบนี้ที่สวดดดด”

    “ถ้างั้นป้าก็ขอให้มีความสุขนะจ๊ะ ฮ่าๆๆ ดีใจจังเหมือนได้ทำทานให้กับคนยากไร้”


    “ขอบคุณค่ะป้า กลับดีๆนะคะ” ฉันโบกมือลา ป้าเดินจากไป ก่อนฉันจะชะเง้อมองหาวินมอไซค์ แต่แล้วจู่ๆก็มีรถยนต์มาจอดข้างหน้าฉัน คนขับลดกระจกลงแล้วมองหน้าฉัน ไม่สิ เขาเอาตัวท่อนบนออกมาจากกระจกเลย


    “โฉมเอย.. โฉมงามมม อร่ามแท้ แลตะลึง~~” ชายหนุ่มร้องเพลงพลางมองหน้าฉันไปด้วย นั่นเขาพูดกับฉันรึเปล่านะ เอ้ะไม่สิ เขาอาจจะร้องเพลงไปเรื่อยก็ได้

    เอี๊ยดดดด!!! แล้วจู่ๆก็มีรถยนต์อีกคนขับมาต่อท้ายของรถผู้ชายที่เอาตัวออกมาจากกระจก รถคันที่เพิ่งมาใหม่ลดกระจกประตูหลังลง ผู้ชายที่นั่งอยู่เบาะหลังมองหน้าฉันแล้วขยิบตาให้


    “ถ้าอยากสบายให้นั่งปอร์เช่ แต่ถ้าไม่อยากโดนเท มานั่งรถพี่สิ”

    ข...เขาพูดกับฉันรึเปล่านะ - -‘ คงไม่หรอก ฉันไม่รู้จักเขาสักหน่อย

    “คุณหนูแทฮยองครับ อย่าเอามือออกไปข้างนอกรถครับ กรุณาเก็บมือเข้ามาในรถด้วยครับ”

    “ฮึ่ยยย รู้แล้วน่า”

    เอี๊ยดดดด! รถอีกคันขับมาจอดอีกแล้ว! แต่คันนี้เป็นรถมอเตอร์ไซค์ เอ้ะ แต่ดูเหมือนจะไม่ใช่มอเตอร์ไซค์ธรรมดา มันเรียกว่าอะไรก็ไม่รู้อะ ใครรู้ช่วยบอกที


    “อะแฮ่มๆ ถึงพี่จะรักสองล้อ แต่พี่ไม่มีหรอกสองรัก”

    บรื๊นนนนๆ! เขาเร่งเครื่องก่อนจะยกยิ้มมุมปากอย่างมั่นใจเอ่ยอีกครั้งว่า

    “โทษที รถพี่มันแรง ก็เหมือนเหล้าเบียร์ รู้ว่าไม่มีประโยชน์ แต่มันได้อารมณ์”

    ทันใดนั้นรถอีกคันก็มาจอด เป็นรถตู้คันสีดำ มีบอดี้การ์ดมาเปิดประตูรถให้แล้วผู้ชายวัยทำงานก็ค่อยๆออกมาจากรถ


    “เชิญครับท่านประธาน” เสียงบอดี้การ์ดเอ่ย เขากางร่มให้กับชายหนุ่มหน้าหล่อที่ออกมาจากประตูรถ


    “ที่หน้าโรงพยาบาลนี้เองหรอกเหรอ เป็นที่ที่ฉันจะได้เจอเนื้อย่าง เอ้ย! เนื้อคู่”

    “ใช่ครับ เนื้อย่างหรือจะสู้เนื้อคู่ เนื้ออะไรก็ไม่สู้ ดูดเนื้อหรอกครับท่านประธาน”

    “เก่งมาก ขอบใจ”

    บอดี้การ์ดพูดกับเอียร์มอนิเตอร์หูฟังสำหรับสื่อสาร “ส่งโดรนกลับได้ ท่านประธานถึงที่หมายแล้ว”



    (100%)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×