ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Exo] ราชินีบัลลังก์ทอง (KrisLay,HunHan)

    ลำดับตอนที่ #2 : ELISABETH 00 : พบเจอ (รีไรท์)

    • อัปเดตล่าสุด 10 เม.ย. 56















    ติ๊งต่อง ...      

     

              “จดหมายครับ” ใบหน้าขาวใสของหญิงสาวยิ้มรับพร้อมกับเอ่ยขอบคุณบุรุษไปรษณีย์ใจดี พลิกจดหมายในมือไปมาสักครู่ จ่าหน้าซองบอกชัดว่าถึงครอบครัวจางไม่ได้ระบุชื่อมาว่าให้ใคร

     

              “ข้าก็หนึ่งในครอบครัวจาง เปิดดูได้หละมั้ง” หญิงสาวเอ่ยอย่างเข้าข้างตัวเองก่อนจะแกะซองชมพูสีสวยนั่นออก

     

              การ์ดเทียบเชิญดูตัวเจ้าชายอู๋อี้ฟาน  เจ้าชายมงกุฎราชกุมารแห่งเวโรนาวิลล์

     

                “หวา ... ของสำคัญซะด้วยสิ ท่านพ่อท่านแม่ท่านพี่ได้เห็นคงดีใจกันจนเนื้อเต้นแน่ๆ” ไล่อ่านรายละเอียดภายในจดหมายนั่นอยู่สักพักก็คิดได้ว่าต้องเอาไปให้พ่อกับแม่ ร่างบางจึงรีบเก็บการ์ดเชิญแล้ววิ่งเข้าไปในบ้านทันที


     

             



     

              “รีอิน นารา! ... ตายแล้ว! เห็นชื่อพวกเจ้าหรือไม่ พวกเจ้ามีสิทธิ์ได้เข้างานดูตัวนะลูก” เสียงดีใจจากซีเหมยผู้เป็นแม่ทำให้ลูกสาวคนโตและคนรองของบ้านรีบวิ่งมาดูให้เห็นกับตา

     

              “จริงๆด้วยท่านแม่!

     

              “ฮิ ... นี่ไงเล่าความสวยของลูกแม่ทั้งสองคงจะถูกตาต้องใจคนในวังอย่างเป็นแน่ พวกเขาถึงได้เลือกลูกของแม่ไป” ยิ่งดีใจมากก็ยิ่งพูดเยินยอลูกสาวของตัวเองมาก คนเป็นพ่อที่ยืนอยู่ไม่ห่างก็อดจะยิ้มตามแม่และลูกทั้งสามด้วยไม่ได้

     

              เว้นเสียแต่ลูกสาวคนเล็กที่ไม่ได้มีชื่อติดไปในการ์ดเชิญนั่น ใช่ว่าจะสวยน้อยกว่าพี่เสียเมื่อไหร่ แต่เพราะเหตุใดที่ไม่มีชื่อเข้าไป คนในเมืองเวโรน่าวิลล์คงรู้ดีแก่ใจ

     

              “พวกเขาเลือกจากความสวยจริงๆหนะหรือท่านแม่ ... ไม่ได้เลือกเพราะว่ากิจการบ้านเรามั่งคั่งหรอกหรือ?”

     

              “จางอี้ชิง!” เอ่ยขัดความสุขของทุกคนในบ้านไปได้เสียทุกเรื่อง

     

              “อ้าว ... ข้าพูดเรื่องจริงนี่ หากเลือกจากความสวยข้าว่าข้าต้องติดหนึ่งในนั้นมากกว่าท่านพี่”

     

              “นี่เจ้า!

     

              “นี่ถ้าไม่ติดว่าคนทั่วไปคิดว่าข้าสติไม่ดีหละก็ ... ท่านทั้งสองคงไม่มีสิทธิ์กระมัง” เป็นรีอินพี่สาวคนโตที่ทนไม่ได้ตวาดเสียดังใส่อี้ชิง

     

              “อี้ชิง! นี่เจ้าอิจฉาข้าสองคนหรืออย่างไร ถึงได้พูดจาแขวะกันแบบนี้!” อี้ชิงเองก็ใช่ว่าจะกลัว ยิ้มร่าตอบรับคำพี่สาวอย่างไม่สะทกสะท้าน

     

              “โอ๊ยๆๆๆ ทำไมข้าต้องอิจฉาท่านพี่ทั้งสองด้วยเล่า ข้าไม่ได้อยากได้เจ้าชายอะไรนั่นสักหน่อย”

     

              “ข้าไม่เชื่อ!

     

              “ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อ ... จะให้ไปเข้าพิธีดูตัวอะไรนั่นหรือ? หากในนั้นมีชื่อข้า ข้าก็ไม่ไปหรอก”

     

              “อวดดี!

     

              “ข้าไม่ได้อวดดี ข้าจะไม่ไปจริงๆ ... ข้าไม่ยอมทำตัวไร้ค่า วิ่งถลาเข้าไปให้ผู้ชายเขาเลือกหรอก”

     

              “อี้ชิง!!!” เสียงดังนับได้สี่เสียงพร้อมกันพอดี คนเป็นแม่ดูเหมือนลมแทบจะจับ ลูกสาวคนเล็กที่พยายามเลี้ยงดูฟูมฟักมาให้เป็นกุลสตรี(แต่ไม่สำเร็จ)ทำไมพูดจาแบบนี้!

     

              “อ่า พวกท่านเสียงดังกันจังเลย ... ข้าก็แค่พูดไปตามสิ่งที่ข้าคิดเพียงเท่านั้น แต่ไม่เป็นไร พวกท่านคิดไม่เหมือนข้าก็ไม่เป็นไร ... ข้าขออวยพรให้พวกท่านได้เป็นผู้ที่ถูกเลือกแล้วกัน” สายตาแต่ละคนจ้องเขม็งมองมา หากแต่อี้ชิงก็ไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไร ยิ้มแป้นพลางบอกขอตัวไปปลูกต้นไม้รดน้ำพรวนดินต่อเสียอย่างนั้น

     

              “ตายๆๆๆ ... รีอิน นารามาช่วยพยุงแม่ที แม่จะเป็นลม”

     

              “ท่านแม่...”

     

              “ผีบ้าซาตานตนใดมันเข้าสิงลูกสาวคนเล็กของแม่นะ ทำไมถึงได้กลายร่างจากเด็กเรียบร้อย เป็นเด็กหัวดื้อ ปากร้ายเช่นนี้!

     

     

             



              ร่างบางยืนอ้าแขนเงยหน้ารับแสงอาทิตย์อยู่กลางทุ่งดอกไม้ มือบางอ้าออกกว้างเพื่อให้มือได้ละเล่นกับดอกไม้ที่กำลังเบ่งบานได้อย่างเต็มที่ ก่อนจะหมุนไปรอบๆเหมือนกับว่ากำลังล้อเล่นอยู่กับพวกดอกไม้อย่างไรอย่างนั้น

     

              อยู่กับพวกดอกไม้สบายใจกว่าอยู่กับครอบครัวเสียอีก!

     

              จางอี้ชิงวิ่งกระโดดเล่นอยู่ในทุ่งดอกไม้ที่ตัวเองเป็นคนเนรมิตขึ้นพร้อมกับคนสวนในบ้านเมื่อหลายเดือนก่อนอย่างสนุกสนาน รอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่ดังออกมาอย่างธรรมชาติทำให้คนมองอดจะยิ้มตามและรู้สึกสงสารรวมไปทั้งหวาดกลัวไปด้วยไม่ได้

     

              สงสัยอาการจะกำเริบ!

     

              อย่างไรเสีย จางอี้ชิง ก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นหญิงสาวที่สติไม่ค่อยดีคนหนึ่งในเมือง!!

     

              เมื่อสองปีก่อนหน้านี้ ... จางอี้ชิงบุตรสาวคนเล็กของบ้านตระกูลจางที่ทำธุรกิจค้าขายกับต่างมือจนมีฐานะร่ำรวยและยังเป็นที่หมายปองของคุณชายจากตระกูลมีชื่อหลายตระกูล เกิดอุบัติเหตุพลัดตกลงมาจากชิงช้าสูงขณะกำลังเล่นอยู่กับพี่ๆ ส่งผลให้นอนหลับเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ราวๆ 2 ปี

     

              ก่อนที่จะเกิดอุบัติเหตุ จางอี้ชิงเป็นเด็กสาวมารยาทเรียบร้อย หัวอ่อน เชื่อฟัง และมีวาจาไพเราะหวานเป็นอาวุธ ต่างจากหลังเกิดอุบัติเหตุแล้วฟื้นขึ้นมาอย่างลิบลับ จางอี้ชิงที่เคยมารยาทเรียบร้อยกลายเป็นม้าดีดกะโหลก ดื้อด้านใครว่าใครสอนอะไรก็ไม่ฟัง เปลี่ยนไปราวกับหน้ามือเป็นหลังเท้า จนคนในเมือแถวนั้นต่างก็พูดกันว่า

     

              จางอี้ชิงโดนภูตผีปีศาจเข้าสิงจนกลายเป็นคนละคน!!!

     

              !!!

     

              “ท่านป้า ... มองข้าเช่นนั้นคิดว่าข้าอาการบ้ากำเริบอีกหรือไร” พอหันมาเห็นพวกคนสวนมองตัวเองด้วยสายตาหวาดกลัวเมื่อเข้าใกล้ อี้ชิงก็อดใจที่จะแกล้งคนเหล่านั้นไว้ไม่ได้

      

            “ละ แล้วจริงๆหรือเปล่าหละคะ”

     

              “คงจริงมั้ง ... แฮ่!!!! อยากกินตับคนจังเลย” ร่างบางแกล้งร้องเสียงดังแล้ววิ่งไล่ให้พวกคนสวนที่ยืนเกาะกลุ่มกันอยู่จนแตกกระเจิงไปคนละทาง บ้างก็รีบวิ่งกระโดดหนีลงคูน้ำข้างๆสวน บ้างก็วิ่งหนีแจ่นเข้าบ้านแล้วปิดประตูแถมล็อคเอาไว้ด้วย

     

              “ฮ่าๆๆๆๆๆๆ” ยิ่งอี้ชิงหัวเราะเสียงดังเท่าไหร่คนเหล่านั้นก็ยิ่งรู้สึกกลัว แต่ใครเลยจะรู้ว่าจางอี้ชิงรู้สึกสนุกเป็นบ้า!!!!

     

              “หัวเราะท้องคัดท้องแข็งเช่นนี้ แกล้งคนสวนมาอีกแล้วแน่ๆใช่หรือไม่คะคุณหนู”

     

              “นาบี!

     

              “ค่ะ นาบีเอง ... คุณหนูเลิกแกล้งคนในบ้านได้แล้วนะคะ ยิ่งคุณหนูทำอย่างนี้คนพวกนี้ก็ยิ่งคิดว่าคุณหนูของนาบีหนะเป็นบ้าเข้าจริงๆนะคะ” อดตีเพี๊ยะสั่งสอนนายตัวเองไม่ได้

     

              “แหม .. พี่นาบีก็ แกล้งคนพวกนี้มันสนุกดีนี่หน่า ก็แค่อยากจะเล่นด้วยเฉยๆ” ได้โอกาสก็กอดเอวอ้อนพี่เลี้ยงคนสนิท นาบีเป็นคนเดียวที่เชื่อสนิทใจว่าจางอี้ชิงไม่ได้เป็นบ้าไปจริงๆ

     

              “หมดเวลาเล่นแล้วค่ะ ไปหาชุดใส่ไปงานดูตัววันพรุ่งนี้กับพวกพี่สาวคุณหนูดีกว่า”

     

              “หืม ... หาชุดใส่ไปงานดูตัว เดี๋ยวก่อนพี่นาบี ท่านพ่อกับท่านแม่ไม่ยอมให้ข้าไปหรอก เราไม่ต้องไปหาเสื้อผ้าให้ยาก” อี้ชิงรั้งเอาไว้ จากที่เธอได้ไปแสดงฤทธิ์ไว้เมื่อสักครู่ พ่อกับแม่คงไม่กล้าพาเธอไปงานด้วยเป็นแน่

     

              “ได้อย่างไรหละคะ ... เมื่อสักครู่นายหญิงกับนายท่านเพิ่งจะบอกให้ข้าพาคุณหนูไปหาเสื้อผ้า แล้วบอกด้วยว่าหากคุณหนูไม่ยอมก็ให้ข้าบังคับ และยังบอกด้วยว่าในบัตรเชิญระบุแน่ชัดว่าคนในครอบครัวต้องไปให้ครบ”

     

              “ไปให้ครบ?!

     

              “ใช่ค่ะ เพราะอย่างนั้นคุณหนูอย่าดื้อเลยนะคะ ไปเถอะค่ะ ถือว่าเห็นแก่ข้าแล้วกัน”
     

     

     
     

              จนแล้วจนรอดอี้ชิงก็ถูกครอบครัวลากมาที่พระราชวังในวันถัดไปด้วยจนได้ วันนี้อี้ชิงรู้สึกว่าภายในวังจะอากาศรุ่มร้อนป็นพิเศษ บรรดาลูกคุณหนูคุณนายต่างแต่งตัวแต่งหน้ามาประชันโฉมกันเต็มที่ ... แม้แต่จางอี้ชิงบุคคลที่ไม่ได้รับเชิญมาก็ถูกครอบครัวจับแต่งมาอย่างเต็มที่เหมือนกัน

     

              “อี้ชิง ... แม่พูดอย่างไม่เข้าข้างเจ้าเลยนะ เจ้าสวยกว่าทุกคนที่มาในครั้งนี้เสียอีก แม้แต่พี่ๆเจ้ายังสู้ไม่ได้” ซีเหมยแอบกระซิบให้ได้ยินกันเพียงแค่สองแม่ลูก อี้ชิงยิ้มรับคำชม

     

              “ต่อให้ท่านแม่ไม่ชมข้าก็พอรู้ตัว ... ข้าสวยกว่าใครๆอยู่แล้วข้ารู้ดี” คำพูดน่าหมั่นไส้ส่งผลให้อี้ชิงถูกคนเป็นแม่กอดรัดและหอมแก้มอย่างหมั่นเขี้ยวเข้าไปที ร่างบางหัวเราะคิกคักเสียเสียงดังจนแม่ต้องรีบตะครุบปากไม่ให้เสียงดังน่าเกลียดไปมากกว่านี้

     

              “ท่านแม่ข้าร้อน ... แล้วอีกเมื่อไหร่จะถึงคราวของครอบครัวเราเสียที” คนขี้เบื่ออย่างจางอี้ชิงอดบ่นขึ้นมาไม่ได้

     

              “แม่ก็ไม่รู้เช่นกัน”

     

              “ถ้าเช่นนั้นข้าขอไปเดินเล่น!

     

              “ไม่ได้! แม่จะปล่อยให้เจ้าคลาดสายตาไม่ได้ หากเจ้าทำเรื่องวุ่นวายขึ้น ครอบครัวเราจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนอีก”

     

              “ข้าไม่ทำหรอกท่านแม่เชื่อข้าสิ ให้ข้าได้ผ่อนคลายบ้างให้นั่งรออยู่แบบนี้ข้าอึดอัดจะแย่แล้วนะ!” จนแล้วจนรอดอี้ชิงก็ยังไม่สามารถขออนุญาตแม่ออกไปเดินเล่นข้างนอกได้ ร่างบางนั่งรอต่อไปด้วยใบหน้าบอกบุญไม่รับ

     

              “ครอบครัวจาง” ในจังหวะที่อี้ชิงกำลังจะเอนตัวลงนอน มหาดเล็กของวังก็ประกาศชื่อขึ้น ทั้งครอบครัวรีบลุกขึ้นจัดเนื้อจัดตัวให้พี่สาวเป็นอย่างดี

     

              “ข้าไม่เข้าไปนะท่านแม่”

     

              “ได้อย่างไร? เจ้าต้องเข้าไปอี้ชิง อย่าดื้อ!

     

              “ก็ข้าไม่ชอบ! ... อ๊ะ ท่านแม่ระวัง พี่รี่อินกำลังจะสะดุด” อี้ชิงร้องอย่างตกใจ รี่อินกำลังจะเดินสะดุดกิ่งไม้ใหญ่ที่ร่วงหล่นตามทางจริงๆ เจียหมิงรีบเข้าไปเตือนก่อนจะหันมาหาลูกสาวคนเล็กที่ข้างกายแต่ก็ปรากฏว่า

     

              จางอี้ชิงไม่อยู่ตรงนั้นเสียแล้ว...

     

              ให้ตายเถอะลูกคนนี้ วิ่งไวเสียจนจับไม่ได้ไล่ไม่ทันจริงๆ!

     

              มองเห็นหลังจางอี้ชิงวิ่งหนีไปอยู่ไวๆ หากแต่ตอนนี้ไม่มีเวลาแล้วที่จะมาเล่นไล่จับกันเสียแล้วเพราะงานตรงหน้าสำคัญมากกว่า เจียหมิงเลยได้แต่ตะโกนบอกลูกสาวไปว่า ให้รอเจอกันที่ลำธารหน้าวัง และได้ยินเสียงจางอิ้ชิงตอบกลับมาไกลๆว่า ได้เลย

     

              !!!!

     

              เสียงหอบแฮ่กจากอี้ชิงดังขึ้นหลังจากที่เจ้าตัวหยุดวิ่งแล้วพาตัวเองเดินเล่นไปตามลำธาร จำได้ลางๆว่าลำธารนี้ไหลผ่านจากหน้าวังไปจนถึงหลังวัง แต่ว่าแต่ว่าตรงไหนมันคือหน้าวัง และตรงไหนมันคือหลังวังกันหละ อี้ชิงไม่เข้าใจ?

     

              “ว๊าววววว สวนดอกไม้!!!” ร่างบางเอ่ยร้องอย่างดีใจก่อนจะวิ่งเข้าไปใกล้หากแต่ก็โดนทหารที่เฝ้าหน้าสวนดอกไม้เอาปืนยาวที่พกกั้นกากบาทห้ามเอาไว้

     

              “เขตพระราชฐาน สามัญชนห้ามเข้า!” อี้ชิงทำหน้าไม่สบอารมณ์ก่อนจะเดินถอดห่างออกมาแล้วยืนมองอยู่ด้านนอก

     

              ร่างบางค่อยๆเดินไปเรื่อยๆเพราะรู้สึกเหนื่อยอยู่บ้าง บรรยากาศร่มรื่นในวังอี้ชิงช่างชอบเสียนี่กระไร แผ่นหลังบางเอนพักอยู่ที่ต้นโอ๊คใหญ่อย่างเหนื่อยอ่อน เมื่อเช้าถูกปลุกขึ้นมาแต่งหน้าแต่งตัวทำผมแต่เช้าก็รู้สึกเพลียอยู่บ้าง

     

              ดังนั้นพอหาที่ร่ม ลมพัดเย็นสบายได้ อี้ชิงก็หลับตาลงขอพักผ่อนสักหน่อยก็ดี กว่าพี่สาวจะออกมาเธอก็คงตื่นพอดี!

     

              !!!!

     

              “เจอแล้ว! คุณหนูนอนหลับอยู่ อุ้มไปเลยดีหรือไม่!

     

              “จะดีหรือ? ... คุณหนูเป็นหญิงเราเป็นชาย แตะเนื้อต้องตัวกันไม่ใช่ประเพณี”

     

              “แล้วเราจะทำอย่างไร?”

     

              เสียงทุ้มดังอยู่เหนือหัวไม่ใกล้ไม่ไกลทำให้อี้ชิงค่อยๆปรือตาขึ้นมาดูว่าเสียงที่มารบกวนการนอนหลับของเธอนั่นเป็นใคร

     

              “พะ พวก พวกท่านเป็นใคร!!” พอลืมตามาเห็นว่าเป็นชายสองคนที่กำลังยืนมองตนหลับอยู่อี้ชิงก็ลุกขึ้นพรวดอย่างตกใจแทบจะในทันที

     

              “เดี๋ยวก่อนอย่างเพิ่งไป!” เสียงร้องห้ามจากชายทั้งสองคนไม่สามารถรั้งขาสั้นๆของจางอี้ชิงไว้ได้อีกต่อไป ร่างบางก้มหน้าก้มตาหนีสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าทหารวังอย่างสุดชีวิต!

     

              ให้ตายเถอะจางอี้ชิงเผลอหลับในวังจนมืดค่ำ จะโดนโทษอะไรบ้างหรือเปล่าก็ไม่รู้ ... คงไม่ถึงกับสั่งตัดหัวหรอกนะ!!!

     

              ร่างบางวิ่งหนีไปเรื่อยๆอย่างไม่มีจุดหมาย นึกโทษส้นสูงและกระโปรงฟูฟ่องที่ใส่ที่ทำให้วิ่งหนีได้ไม่เร็วอย่างใจ ... แต่ไม่เป็นไรอย่างน้อยพวกมันก็ไม่ได้ถ่วงมากจนทำให้อี้ชิงมาถึงที่ที่คิดว่าปลอดภัยไม่ได้แล้วกัน!!

     

              “หวา ... ในนี้น่าจะปลอดภัยแล้วนะ” พูดปลอบใจตัวเองทั้งๆที่ก็ไม่รู้ว่าปลอดภัยจริงหรือไม่จริง

     

              เมื่อสักครู่ที่วิ่งมาเธอเห็นว่าบ้านเล็กๆหลังนี้ที่ดูเหมือนจะเป็นที่พักอาศัย หรือที่เก็บอะไรสักอย่าง สภาพดูค่อนข้างโทรมอยู่เล็กน้อยทำให้อี้ชิงคิดว่าน่าจะเป็นที่ที่ปลอดภัย

     

              ร่างบางแนบหูฟังที่กำแพงเพื่อให้ได้ยินเสียงด้านนอก เสียงผีเท้าของพวกทหารยังคงดังอยู่ใกล้ๆ ได้ยินแว่วเสียงว่า หายไปไหน ต้องจับให้ได้ ต้องตามให้ได้ ต้องบอกพระราชา ...

     

              หงิก หงิก~

     

              แค่ได้ยินคำว่าต้องบอกพระราชาเพียงเท่านั้นคนที่ไม่เคยกลัวอะไรเลยอย่างจางอี้ชิงก็ดันตัวสั่นขึ้นมาเสียได้ ถ้าบอกพระราชาไม่ต้องโดนประหารหรือโดนขังคุกเลยหรือ!!!!

     

              เสียงจอแจของทหารดังอยู่ไม่นานก็ค่อยๆมลายจางหายไป อี้ชิงพอจะคลายความเครียดไปได้บ้าง ตอนนี้เธอรอดพ้นเงื้อมมือทหารแล้วต่อไปก็เหลือแค่คิดว่าจะออกจากวังไปอย่างไร!

     

              ร่างบางคิดได้อย่างนั้นก็หันหลังพิงกำแพงที่ใช้แอบฟังเพื่อพักเหนื่อยอย่างเหนื่อยอ่อน ต่อไปจะเป็นอย่างไรค่อยไปคิดเอาดาบหน้า!

     

              พรึ่บ!

     

              อี้ชิงสะดุ้งตกใจเมื่ออยู่ดีๆไฟก็สว่างขึ้นมา!

     

              “เจ้าเป็นใครกัน!!! เข้ามาในห้องพักผ่อนของข้าได้อย่างไร!!!” เสียงทุ้มตะคอกถามด้วยความดังอี้ชิงค่อยหยัดตัวเองให้ลุกขึ้นเพื่อมองเห็นหน้าคนตรงหน้าดีๆ

     

              การแต่งตัวไม่เหมือนทหารที่ได้เจอเมื่อสักครู่เลยสักนิด รองเท้าบูธหนายาวจนถึงเข่า กางเกงสีดำแนบตัว อีกทั้งเสื้อสีขาวที่ติดยศและตราตำแหน่งของพระราชวงศ์ไว้อย่างชัดเจน!!!

     

              ถ้าอี้ชิงจะกัดลิ้นแกล้งตายตอนนี้จะทันไหม?

     

              หรือแกล้งเป็นลมไปตอนนี้เลยดี?

     

              “จะ เจ้าชาย อู๋อี้ฟาน”

     

              !!!!



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×