NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีเนื้อหาที่เครียดหรือหดหู่มาก ซึ่งอาจกระทบต่อภาวะทางจิตใจ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    sick doctor หมอป่วยรักษาใจ

    ลำดับตอนที่ #4 : อกหักคืออะไร ?

    • อัปเดตล่าสุด 6 พ.ย. 65


    & เนื้อหาในเรื่องเป็นเรื่องสมมุติ หากมีปัญหาทางด้านจิตใจ แนะนำให้ปรึกษาจิตแพทย์ &

    = ก๊อก ก๊อก =

    “ เข้ามาได้เลยค่ะ ” ฉันพูดพร้อมปิดหนังสือในมือและมอง

     “ ไง ” หมอหมีที่เคยช่วยฉันไว้ นี่เอง เขาทักฉันและยิ้ม

    “ ไง ” ฉันทักแล้วยิ้มกลับ 

    เขาแน่เลยที่ทำให้หมอดาวคิดได้ ตอนแรกคิดว่่าแค่ถามลอย ๆ เหมือนคนอื่น ไม่ใช่แหะ

     “ ขอบคุณนะ ” ฉันพูด ในขณะที่เขามานั่งข้างฉันที่เตียงผู้ป่วย 

     “ เรื่องไหนละ ” รู้ทันแหะ ว่าฉันต้องรู้ 

      “ ทุกเรื่อง ” ฉันพูด  

     “ วันนี้จะมีเข้าห้องปรึกษา เราจะเข้าไปด้วยนะ ” หมอหมีพูด 

    เดี๋ยวนะ ฉันก็เรียกแต่หน้าหล่อ เอาจริงเขาชื่อว่าอะไรเนี่ย มากกว่านั้นแล้ว …

    “ หมอดาวให้ฉันเป็นผู้ป่วยของคุณด้วยหรอ ” จะเป็นไม่เป็นฉันไม่สนใจหรอก ให้ฉันหายก็ดีใจแล้ว แค่อยากรู้ว่าจะมีหมอประจำเพิ่มหรอ ?

     “ เปล่า ผมไม่คิดแย่งคนไข้หมอดาวหรอกนะ แค่อยากเป็นคู่หูกับแก้ว ศึกษาจากแก้วว่าทำไมคนไข้ถึงติดเราเฉย ๆ ” เขาพูดพร้อมบิดขี้เกลียด  

     “ อ๋อ แล้วหมอมีอะไรจะคุยกับฉันอีกไหมค่ะ ” ฉันถาม 

    “ ไม่ต้องเรียกหมอหรอก เราไม่ได้เป็นหมอของแก้วซะหน่อย ” เขาพูด 

    “ จ๊ะ หมีน้อย ” ฉันพูดพร้อมยิ้ม 

    “ ครับผม ” เขาตกใจเล็กน้อยก่อนยิ้มให้

    “ เข้าเรื่องได้แล้ว จะถามว่าต้องทำตัวยังไงใช่ไหม ? ” ฉันพูด  

    หมีน้อยทำหน้าเหมือนเสียดายและพยักหน้า

    “ อันดับแรกอย่าพูดจนกว่าคนที่ปรึกษาจะพูดจบ เพราะบางคนเขามา ไม่ต้องการให้แก้ปัญหาอะไรด้วยซ้ำ เขาแค่ต้องการระบายและหาคนฟัง  ”

     “ สอง ถ้าจะให้ฉันช่วย ฟังได้ แต่อย่าพูดคั่นเรา มันจะแย่ต่อทั้งเราและคนปรึกษา คนปรึกษาจะสับสน ส่วนเราก็เหนื่อยที่ต้องมาปรับความคิดให้เข้าใจอีก ” 

    “ แค่นี้แหละ ” ฉันพูดพร้อมมองหน้าเขา หน้าตาก็หล่อแล้วนะ แต่พอคนหล่อทำหน้าตั้งใจฟัง แบบนี้ยิ่งน่ารักเข้าไปใหญ่ สาวส่วนใหญ่ต้องกรี๊ดแน่นอน เสียแต่ว่าฉันเซ็งกับชีวิตเกินกว่าที่จะมาชื่นชมสิ่งสวยงาม 

    “ โอเค แล้วเราละ มีอะไรจะถามเพิ่มเติมไหม เพื่อใช้พูดคุยกับคนไข้ เอ๊ย ไม่ใช่คนที่มาปรึกษาเรา ” หมีน้อยพูด

     “ ความรักแบบคู่รักคืออะไร แล้วอกหักคืออะไร ทำไมมันถึงดูเจ็บปวดจัง ไม่ได้คิดจะดูถูกนะ แต่นี้ไม่เคยมี ถ้าเข้าใจมากขึ้นก็อาจจะให้คำปรึกษาได้มากขึ้นมั่ง  ” ฉันพูด

     “ นี่ก็ไม่ค่อยเข้าใจด้วยสิ แต่คิดว่าความรักก็คือความรัก ไม่มีแยกหรอก ว่ารักแบบไหนเจ็บกว่ากัน  ” หมีพูดพร้อมทำหน้าจริงจัง  

    พอฟังที่หมีน้อยพูด ฉันก็นิ่งคิด ความรักเจ็บเหมือนกันหมดหรอ งั้นก็ไม่น่ามีปัญหาในการปลอบใจ สำคัญที่สุดคือต้องรักตัวเองให้มากพอ 

    “ ฮัลโหล มีคนอยู่ไหม ” หมีน้อยพูดพร้อมเอาหน้าเข้ามาใกล้ฉัน

     “ อยู่ ” ฉันพูด 

    “ โอเค ” เขาพูดพร้อมนั่งมองเรื่อยเปื่อยไม่พูดอะไร 

    ฉันทำหน้าจริงจังและมองหน้าเขา 

     “ พูด ! ” ฉันพูด 

    อยากรู้อะไร รู้สึกอะไรให้พูด เราไม่มีเวทมนตร์จะรู้ได้หรอกนะ  ” ฉันพูดด้วยความรู้สึกหงุดหงิด รู้สึกเหมือนเห็นตัวเองในกระจกยังไงไม่รู้ 

    “ แน่ใจนะ ” หมีน้อยมองหน้าเรา 

    “ ไม่แน่ใจ แต่ถ้าหมีน้อยมัวแต่เก็บไว้ไม่บอกใครหัวไม่ระเบิดหรอ ” ฉันพูดด้วยความโมโหนิด ๆ 

    “ อย่ามา ตัวเองก็ช่วยคนอื่น ทั้ง ๆ ที่ตัวเองป่วย เป็นคนดีจังเลยนะ ” เขาพูดย้อนกลับและทำหน้าสะดุ้งที่เผลอพูดตรงที่ใจคิดออกมา

    รู้ไหม ว่าฉันเกลียดคำนี้มาก ฉันเกลียดการเป็นคนดีที่สุดเลย ” ฉันพูด 

    “ แต่ดีใจนะ ที่หมีน้อยระเบิดอารมณ์ออกมา ” ฉันพูดออกมาด้วยความสะใจที่ทำให้คนเก็บอารมณ์ระเบิดอารมณ์ออกมาได้

    หมีน้อยอ้าปากเหมือนจะพูด 

    “ หยุด ! บ่ายแล้วไปกันดีกว่า วันนี้คนที่ฉันจะคุยด้วยคือต้นที่นายเห็นเขาตอนโมโหอะ น่าจะอ่านประวัติแล้วเนาะ ” ฉันพูดพร้อมรีบเดินออกนอกห้อง  

    “ ฝากไว้ก่อนเถอะ ! ” ได้ยินเสียงหมีน้อยตามหลังมา  

    & ห้องให้คำปรึกษา &

    “ สวัสดีต้น  ” ฉันพูดหลังจากที่นั่งลง

     “ สวัสดีต้น เราหมอหมีนะ ” หมีน้อยที่เดินตามนั่งลงข้างฉัน

     “ สวัสดีแก้ว สวัสดีหมอหมี ” ต้นพูดพร้อมทำหน้ากังวลเล็กน้อย 

    “ ต้น หมีน้อยเขาเป็นเพื่อนของเรา ไม่ต้องกังวลนะ ” ฉันพูดพร้อมมองหน้าต้นและยิ้มเพื่อแสดงความจริงใจ

     “ เขาเคยช่วยเราด้วยนะ พอดีเราเดินไม่ดูทางเกือบเดินชนป้าย เขาก็มาช่วยเราไว้ไม่ให้ชน ” ฉันพูด

     “ มาเล่นเกมกันดีกว่า นี่บล็อกไม้ เกมเดิมที่ต้นชอบ ” ฉันพูด พยายามปัดความสนใจที่ต้นมีต่อหมอหมี

     “ ต้นเริ่มก่อน เราและหมีน้อยคนสุดท้ายนะ ” ฉันพูด

    พอเริ่มเกมไปสักพักและเห็นว่าต้นเริ่มผ่อนคลาย

     “ ต้น วันนี้มีอะไรมาเล่าให้เราฟังไหม ” ฉันพูด

     “ เรา… เรารู้ว่า ต้องรักตัวเองแต่รักตัวเองนี้ต้องทำอย่างไรหรอ ” ต้นพูดด้วยเสียงที่คลอและน้ำตาเริ่มไหล

    “ ถ้าให้สรุปสั้น ๆ ทำเหมือนกับที่เราทำให้คนที่เรารัก ” ฉันพูด

     “ สังเกตว่าเราชอบอะไร ต้องการอะไร ต้องการที่เราหมายถึงคือความต้องการของตัวเองจริง ๆ  ” ฉันพูด

     “ ถามตัวเองว่าอยากทำอะไร เวลาว่างอยากดูหนังไหม ? อยากออกกำลังกายรึเปล่า ? งานอดิเรกที่เราชอบคืออะไร ? เอาเวลาที่เราเคยให้คนอื่น ให้กับตัวเอง แค่นี้เลย ” ฉันพูด

     “ การบ้านวันนี้ เขียนลงสมุดว่าเราได้ทำอะไร เพื่อตัวเองบ้าง เอาไว้อาทิตย์หน้าที่เจอกันมาเล่าให้เราฟัง แต่ก่อนกลับ เราอยากให้ต้นเขียนรายการสิ่งที่อยากจะทำก่อน เพื่อพอออกไปต้นจะได้ทำได้เลย ” ฉันพูดพร้อมยื่นสมุดให้   

     “ ต้นมีอะไรจะถามเราอีกไหม ? ”ฉันถามขึ้นหลังจากที่ต้นเขียนเสร็จ

    “ ไม่มี ” ต้นบอก

    “ เราล่ะ หมอหมีมีอะไรจะเสริมไหม ? ” ฉันพูด  

    “ ไม่มีครับ ” เขาพูดพร้อมยิ้ม

     “ งั้น วันนี้เราพอแค่นี้นะ ต้นไปหาหมอดาวต่อได้เลย ” ฉันพูด

     “ ขอบคุณ ไว้เจอกันอาทิตย์หน้านะแก้ว … หมอหมี ” ต้นยิ้มให้ฉันและหันไปหาหมอหมีแล้วเดินออกไป

     “ ก็รู้นะว่าฟัง เป็นสิ่งสำคัญ แต่พอเห็นวันนี้ก็พึ่งเข้าใจว่าการฟังเป็นสิ่งสำคัญจริง ๆ ” หมีน้อยพูด

     “การฟังเหมือนเป็นเรื่องง่าย แต่ที่จริงมันเป็นเรื่องที่ยากมาก การฟังหมายถึงการที่เราได้รับข้อมูลอย่างเดียว โดยที่เราจะแสดงความคิดของเราไม่ได้จนกว่าเราจะได้ฟังข้อมูลนั้นจนจบ ซึ่งกว่าจะถึงตอนนั้นการรับข้อมูลอย่างเดียว มันก็เหมือนน้ำในแก้ว ถ้ารับอย่างเดียวน้ำก็เต็มแก้วจนล้นออกมา ” ฉันพูด

     “ เพราะงั้น มีอะไรก็พูดออกมาบ้างนะหมีน้อย  ” ฉันพูดพร้อมยิ้ม

    “ ทำไมถึงรู้” หมีน้อยพูดด้วยความตกใจ 

    มันคงเป็นข้อดีของโรคที่ฉันเป็นต่อคนอื่นอะนะ ” ฉันพูดพร้อมยิ้ม

     “ สังเกต ฉันใส่ใจคนอื่นเป็นพิเศษ เริ่มแรกก็แคร์มาก แคร์ทุกคน เห็นใครทำอะไรอยู่ ไม่ได้ต้องเขาไปช่วย เพราะกลัวไม่มีเพื่อน ตอนนี้ดีขึ้นแล้วเพราะได้รับการบำบัด แต่การสังเกตว่าใครรู้สึกยังไงก็ยังอยู่ ” ฉันพูด

    “หมีน้อยก็คล้ายกัน ตั้งแต่เห็นหมีไม่เคยพูดก่อน เราไม่ได้บำบัด เราพูดคุยกัน ไม่พอใจ คิดอะไร ก็ขัดได้เลย เขาถึงเรียกว่าพูดคุย ครั้งแรกที่เราเจอกันหมีช่วยปัดแจกันจนตัวเองเจ็บ เอาจริงหมีมีอีกหลายวิธีนะที่ช่วยเราได้ อย่างดึงเราออกจากทิศที่แจกัน ไม่ก็เข้าไปคุยกับต้นไม่ให้ปาของ ไม่ก็ … " ฉันพูด  

    ปล่อย  ฉันจะเจ็บแต่มันก็อาจทำให้เราจำ มันไม่ตายหมีน้อย โลกนี้มีกี่ล้านล้านคนเราตามดูแลทุกคนไม่ได้หรอกนะ แม้แค่คนเดียวยังไม่ได้เลย เพราะเราอยู่กับคนคนหนึ่งตลอดเวลาไม่ได้ ” ฉันพูด

     “ อึ้ง ตกใจไปเลยสิท่า นี้ละ ที่ทำให้ฉันต้องอยู่ในนี้ หวังว่าหมีน้อยนะแยกแยะได้ และไม่ต้องมาเป็นคนไข้เหมือนฉันนะ ” ฉันพูดพร้อมยิ้มและเดินออกมาเพื่อกลับไปห้องผู้ป่วยของตัวเอง

     “ เรามีแผนจะทำอะไรต่อ ? ” หมีน้อยพูดและเดินตามฉันไปด้วย

     “ ดูซีรีส์ ” ฉันพูดแค่คิดก็สนุกแล้ว เมื่อก่อน 5 วันเข้าห้องปรึกษา 2 วันทำกิจกรรมกลุ่ม พอได้มีเวลาว่างมากขึ้น ทำให้มีเวลาทำอย่างอื่นเยอะเลย 

    “ ดูด้วยสิ ” หมีน้อยพูดพร้อมยิ้ม

     “ แน่ใจ ? ” ฉันหยุดเดินและถาม

      “ ได้หมด เอาที่แก้วอยากดูเลย สัญญาว่าจะไม่รบกวน อยู่เงียบ ๆ เลย ” หมีน้อยพูด

      “  แล้วแต่ ” ฉันพูด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×